เบาะนอนในรถยนต์ อันตราย คาร์ซีท

Kid Safety รักลูก..อย่าให้ลูกนอนเบาะนอนสำหรับเด็กในรถยนต์

“ราคาพิเศษสุด เบาะนอนสำหรับเด็กในรถยนต์ ให้คนที่คุณรักได้พักผ่อนอย่างเต็มที่…ปูปิดช่องวางเท้าหลังรถ กันลูกตกลงไปที่พื้นรถ หลับอย่างสบายตลอดการเดินทาง”

เป็นที่ฮือฮาในระยะที่ผ่านมาทั้งความเห็นชอบและเห็นต่าง กับข้อความและคลิปโฆษณา เบาะปูนอนหลังรถ (ทั้งแบบปั๊มลม และแบบธรรมดา) ที่ใช้เด็กตัวน้อยเป็นพรีเซ็นเตอร์  ที่ดูๆ ไปแล้วเกิดเคลิ้มเหมือนกันว่า ช่างเป็นสินค้าที่เข้าท่า ชวนให้เชื่อว่า ถ้าซื้อไว้ใช้ลูกคงนอนสบายเต็มพื้นที่เหมือนนอนบนเตียงที่บ้าน ไม่ต้องทรมานทั้งยามรถติด หรือยามพาลูกเดินทางท่องเที่ยวทางไกล

แต่ความเห็นต่างโดยมากเป็นไปในทางทักท้วงเรื่องความปลอดภัย หากเกิดอุบัติเหตุเช่นรถชน รถเบรกอย่างฉับพลันเด็กจะอยู่ในสภาพเช่นใด

1) หากพิจารณาถึงสินค้าในลักษณะดังกล่าวแล้วก็คงต้องยอมรับความจริงว่า…เบาะปูนอนแบบนี้มีเอาไว้สำหรับนั่งเล่นนอนเล่นเท่านั้น แต่จะต้องไม่เอามาวางไว้ให้ลูกนอนเล่นในรถอย่างเด็ดขาด  เพราะความเสี่ยงของมันเป็นอันตรายถึงชีวิต!

หลายท่านอาจคาดไม่ถึงว่าพลังของการชน หรือการเบรกอย่างกะทันหันนั้นรุนแรงมากเพียงใด (ซึ่งเจ้า “แผ่นยึดตรงกลาง กันเด็กไถลไปส่วนของด้านหน้ารถยนต์” ตามที่โฆษณาย่อมจะช่วยไม่ได้อย่างแน่นอน)

banner300x250

หากไม่มีที่ยึดเหนี่ยวใดๆ ที่ถูกต้องเหมาะสม เมื่อรถยนต์เบรกอย่างกะทันหัน หักเลี้ยวอย่างฉับพลัน หรือชนอย่างรุนแรง สิ่งที่เกิดขึ้นในทันทีก็คือ ร่างของเด็กๆจะหลุดลอยจากที่นั่งไปอัดกับแผงคอนโซลหน้ารถ ปะทะกับกระจกหน้ารถ แล้วทะลุลอยละลิ่วออกนอกรถ หรือประตูรถเปิดออก แล้วเด็กกระเด็นออกไปนอกรถ ด้วยรูปร่างเล็กบอบบางของเด็กๆ จึงทำให้ กะโหลกศีรษะ กระดูกซี่โครง แขนขา แตกหัก ปอด หัวใจ รวมทั้งอวัยวะภายในช่องท้องต้องชอกช้ำหรือฉีกขาดโดยเฉพาะศีรษะของเด็กๆ ที่กระแทกอย่างรุนแรง ทำให้มีเลือดออกในสมอง เป็นเหตุแห่งความพิการหรือเสียชีวิต

…ดังนั้นเจ้าเบาะปูนอนแสนฮือฮานี้จึงเป็นเพียงเพื่อให้ลูกนอนเล่นเมื่อรถจอดนิ่ง แต่หากรถเคลื่อนตัวเมื่อใด ย่อมไม่รับประกันความปลอดภัยใดๆ ทั้งสิ้น

06_June_V6

2) อย่าว่าแต่เบาะที่กล่าวนี่เลยครับ แม้แต่ความคิดที่ว่า เมื่อพาลูกขึ้นรถแล้วนั่งข้างคนขับ ให้กอดลูกแน่นๆ หรืออุ้มลูกนั่งตักเท่านั้นก็ปลอดภัยสบายใจได้แล้ว นั่นคือความเชื่อผิดๆ ที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะความจริงก็คือ…แม้ผู้ใหญ่จะรัดเข็มขัดนิรภัยอย่างแน่นหนาเพียงใด แต่แรงปะทะของจากการชน หรือแรงจากการเบรกกะทันหันนั้นมันมหาศาลเกินกำลังแขนพ่อแม่จะยึดลูกอยู่

อ่านต่อ “สาเหตุที่ไม่ควรใช้เบาะนอนสำหรับเด็กในรถยนต์” คลิกหน้า 2

    โรคยอดนิยม ส่งผลต่อพัฒนาการเด็กไทย

    รพ.เด็ก เตือน! “4 โรคยอดนิยมที่ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กไทย”

    สถาบันสุขภาพเด็กฯส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อลงพื้นที่ตรวจรักษาสุขภาพเยาวชนไทยทั่วประเทศ พร้อมเผย 4 โรคยอดนิยมที่ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กไทย ล่าสุดได้นำทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ลงพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ณ ชุมชนบ้านโปร่งนกเหนือ จังหวัดเชียงราย

    รองศาสตราจารย์คลินิก แพทย์หญิงศิราภรณ์ สวัสดิวร ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กล่าวว่า “ปัจจุบัน สถาบันฯ ได้ดำเนินการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เพื่อให้บริการตรวจและรักษาเบื้องต้นให้แก่เด็กและประชาชนนอกสถานที่ราชการ โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556  ถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 14 พื้นที่  6 จังหวัด รวมเยาวชนและประชาชนที่ได้รับการตรวจรักษากว่า 3,600 คน

    banner300x250

    โดยล่าสุดได้รับการสนับสนุนการเดินทางลงพื้นที่จากโครงการบริจาคไมล์ ‘Miles Give Kids A Smile’ ของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นำทีมแพทย์เคลื่อนที่เพื่อตรวจรักษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแก่เยาวชนและครอบครัว ณ ชุมชนบ้านโปร่งนก หมู่ 6 และบ้านโปร่งนกเหนือ หมู่ 13 ตำบลสันสลี อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย”

    QSNICH - Mobile Medical Unit at Chiangrai (4)1

    อ่านต่อ “4 โรคยอดนิยมส่งผลพัฒนาการเด็กไทย” คลิกหน้า 2

      ตื่นกลางดึก ลูกไม่ยอมนอน ลูกตื่นบ่อย

      ทำไมลูกเล็กชอบ “ตื่นกลางดึก”?

      Q: ลูกสาวเวลานอนตอนกลางคืนจะตื่นบ่อยมาก ตื่นมากินนมบ้าง บางครั้งก็ร้องไห้งอแง ไม่ยอมกินนม แม่ก็จะต้องคอยดูค่ะว่าลูกไม่สบายตัวหรือเปล่า บางทีต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมระหว่างคืน อยากขอปรึกษาค่ะ ว่าทำอย่างไร ที่จะให้ลูกนอนหลับสบายได้ตลอดคืน ไม่ตื่นมากลางดึก

      คาดว่าคุณแม่คงจะกังวลว่าถ้าเจ้าตัวเล็กตื่นกลางดึกบ่อยๆ จะพักผ่อนไม่เพียงพอใช่ไหมคะ ก่อนอื่นเรามีข้อมูลเรื่องการนอนของลูกน้อยมาให้คุณแม่ได้ทำความเข้าใจกันก่อน ซึ่งเป็นเกณฑ์เฉลี่ยจำนวนชั่วโมงการนอนสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 1 ขวบค่ะ

      ชั่วโมงการนอนสำหรับลูกน้อย

      แรกเกิด : 16 ชั่วโมง (+-) 4 ชั่วโมง ตอนนี้ทารกจะยังไม่มีรูปแบบการนอนที่แน่นอน ยังนอนกลางวันพอๆ กับกลางคืน

      3 เดือน : 13 ชั่วโมง (+-) 3-4 ชั่วโมง นอนกลางคืน 8 ชั่วโมง กลางวัน 4 ชั่วโมง

      6 เดือน : 12 ชั่วโมง (+-) 3 ชั่วโมง นอนกลางคืน 9 ชั่วโมง กลางวัน 3 ชั่วโมง

      1 ขวบ :  11 ชั่วโมง (+-) 2 ชั่วโมง นอนกลางคืน 9 ชั่วโมง กลางวัน 2 ชั่วโมง

      ถ้าเจ้าตัวเล็กของคุณนอนหลับอยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลใจค่ะ ยืนยันด้วยคำพูดของ ดร.จูดี้ มินเดล รองผู้อำนวยการศูนย์คุณภาพการนอนหลับ โรงพยาบาลเด็กฟิลาเดลเฟีย และผู้เขียนหนังสือ Sleeping Through the Night ที่กล่าวว่า “แม้ว่าเบบี๋นอนเป็นช่วงสั้น ๆ แต่ถ้าเขาตื่นมาอารมณ์ดี ร่าเริงแสดงว่าเขาพักผ่อนเต็มที่แล้ว”

      แต่สำหรับเด็กที่ตื่นกลางดึกบ่อยๆ ดร.จูดี้อธิบายไว้ว่า “ส่วนใหญ่เด็กในกลุ่มนี้จะหลับยาวช่วงเช้าและมางีบอีกทีตอนบ่าย จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมตอนกลางคืนเขาถึงได้ตื่นอยู่บ่อยๆ” ถ้าในกรณีที่ตื่นขึ้นมาแล้วร้องไห้หรืองอแง คุณแม่ต้องหาสาเหตุเพื่อแก้ปัญหาให้ถูกทางค่ะ เช่น ก่อนนอนลูกถูกกระตุ้นด้วยกิจกรรมอะไรที่ทำให้เหนื่อยเกินไปหรือเปล่า ลูกหิวเพราะกินนมน้อย  รู้สึกไม่สบายตัว หรืออื่นๆ  เราจึงมีคำแนะนำในการช่วยลูกได้มาฝากคุณแม่ดังนี้ค่ะ

      อ่านต่อ “สาเหตุที่ทำให้ลูกตื่นกลางดึก” คลิกหน้า 2

        โรค มือเท้าปากระบาด

        สถานการณ์ มือเท้าปากระบาด 2565เตือนพ่อแม่โรงเรียนเฝ้าระวัง

        มือเท้าปากระบาด ช่วงเปิดเทอมนี้ กรมควบคุมโรค แนะพ่อแม่ สถานศึกษาให้สังเกตอาการ และคัดกรองอย่างเคร่งครัด พบรีบแยกเด็กปกติออกจากกัน แจ้งพ่อแม่ให้รีบพาไปหาหมอ

        สถานการณ์ มือเท้าปากระบาด 2565เตือนพ่อแม่โรงเรียนเฝ้าระวัง

        สถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2565 มีรายงานพบผู้ป่วย 258 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบป่วยมากที่สุด 3 อันดับ คือ อายุ 2 ปี (ร้อยละ 24.81) อายุ 1 ปี (ร้อยละ 24.03) และ อายุ 3 ปี (ร้อยละ 12.40) ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ เชียงราย พะเยา น่าน จันทบุรี และอ่างทอง ตามลำดับ

        นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ใชช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง อากาศเย็นลงและมีความชื้น เนื่องจากมีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ ซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปาก ประกอบกับสถานศึกษาเปิดเรียนเป็นปกติ เด็กอาจมีการทำกิจกรรมรวมกลุ่ม ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อ ซึ่งโรคดังกล่าวมีแนวโน้มพบอัตราป่วยมากที่สุดในกลุ่มเด็กเล็ก และเด็กวัยเรียน ดังนั้น สถานศึกษาต้องมีมาตรการคัดกรองและสังเกตอาการของเด็กก่อนเข้าเรียนทุกเช้า เพื่อเฝ้าระวังการป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก

        สถานการณ์ มือเท้าปากระบาด ในช่วงเปิดเทอม
        สถานการณ์ มือเท้าปากระบาด ในช่วงเปิดเทอม

        นายแพทย์อัษฏางค์ รวยอาจิน รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ถึงแม้จะยังไม่เข้าสู่ฤดูฝน แต่ในช่วงนี้สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย อาจทำให้เด็กเล็กป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปาก ที่ผู้ปกครอง และครูควรสังเกตอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากโรคนี้มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก และเด็กช่วงวัยเรียน โดยกลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ เด็กแรกเกิด – 4 ปี (83.63%) รองลงมา อายุ 5 – 6 ปี (5.24%) และ อายุ 7 – 9 ปี (4.50%)

        โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่พบมากในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ และสามารถติดต่อจากการได้รับเชื้อไวรัสเข้าทางปากโดยตรง โดยเชื้อไวรัสจะติดมากับมือ หรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพอง หรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการไอ จาม รดกัน

        ทำความรู้จักโรคมือเท้าปาก

        โรคมือเท้าปากเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสชื่อ Enterovirus เด็กที่ป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก ส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากอาการไข้ ซึ่งอาจจะไข้ต่ำหรือไข้สูงก็ได้  และจะมีแผลในปาก มีผื่นที่มือที่เท้า

        ส่วนใหญ่แผลในปากเราพบได้หลายตำแหน่ง ตั้งแต่บริเวณของเพดานแข็งเพดานอ่อนหรือบางคนก็พบที่กระพุ้งแก้มหรือที่ลิ้นได้ บางคนเป็นเยอะก็จะลามออกมาที่ริมฝีปากหรือรอบ ๆ ริมฝีปากเลยก็มี ส่วนผื่นที่มือที่เท้า ส่วนใหญ่จะเป็นตุ่มแดง ๆ หรือบางครั้งก็เป็นตุ่มน้ำใสได้ บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ง่ามนิ้วมือนิ้วเท้า เป็นต้น

        บางคนเป็นแผลเยอะ และทำให้เจ็บปากมาก รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ จนอาจพบว่ามีอาการเพลียมาก ต้องมาโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือเข้าทางเส้นเลือด ช่วยประคับประคองไป จนกว่าอาการจะดีขึ้น รับประทานได้ดีขึ้นก็กลับบ้านได้

        เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อ จะมีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย ต่อมา 1 – 2 วัน จะมีอาการเจ็บปาก ร่วมกับมีตุ่มพองเล็ก ๆ บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ตุ่มแผลในปากที่เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้น ต่อมาจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้น ๆ

        เมื่อโรค มือเท้าปากระบาด ต้องทำยังไง
        เมื่อโรค มือเท้าปากระบาด ต้องทำยังไง

        6 อาการที่ต้องเฝ้าระวัง!!

        โรคมือเท้าปาก ส่วนใหญ่มักจะหายได้เอง ภายใน 5-7 วัน แต่จะมีสิ่งที่พ่อแม่ต้องคอยเฝ้าระวัง หากพบอาการเหล่านี้ต้องรีบพากลับไปพบแพทย์ เนื่องจากอาการเหล่านั้น เป็นตัวบ่งชี้ว่าอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่มีโอกาสเสียชีวิตสูง อันที่แรงที่สุด คือ ก้านสมองอักเสบ ซึ่งพบได้น้อยมาก ๆ 1-5 รายต่อปี แต่ถึงอย่างไรพ่อแม่จึงควรสังเกตอาการลูกให้ดีว่า มีอาการที่น่ากังวล 6 อาการเหล่านี้หรือไม่ หากพบควรต้องรีบพากลับมาพบแพทย์

        1. มีอาการซึมลง
        2. หายใจหอบ หายใจเร็ว
        3. มีอาการชัก เกร็ง
        4. หมดสติ
        5. มือสั่น ขาสั่น
        6. เดินเซ

        การแพร่เชื้อ

        ระยะแพร่เชื้อเริ่มได้ตั้งแต่เด็กมีอาการ เชื้อจะออกมาทางน้ำลาย แล้วก็อุจจาระ นอกจากนั้นยังสามารถที่จะแพร่ไปได้ จนกระทั่งถึงแม้ว่าโรคจะหายดีแล้วก็ตาม  เช่น ประมาณสัปดาห์หนึ่งหลังจากหายจากโรคแล้ว เรายังสามารถตรวจพบเชื้อในอุจจาระได้อีกเป็นระยะเวลาหนึ่ง

        ช่วงระยะที่แพร่เชื้อได้มาก ๆ ก็คือช่วงที่มีอาการ (ประมาณภายใน 7 วันแรก หลังจากเริ่มมีอาการ)

        โรค มือเท้าปากระบาด อาการเป็นอย่างไร
        โรค มือเท้าปากระบาด อาการเป็นอย่างไร

        กรมควบคุมโรค แนะวิธีปฎิบัติป้องกัน มือเท้าปากระบาด

        1. คัดกรองเด็กก่อนเข้าเรียนทุกเช้าอย่างเคร่งครัด
        2. ให้เด็กสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เพื่อลดการสัมผัส ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น
        3. หมั่นทำความสะอาดของใช้ ของเล่นและพื้นที่ที่เด็กใช้ร่วมกันเป็นประจำ
        4. สอนให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ และหลังเล่นของเล่น
        5. จัดให้มีพื้นที่ในการเข้าแถวทำกิจกรรมหรือเล่นเป็นกลุ่มย่อย จำนวน 5-6 คน มีการเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร
        6. หากเด็กไม่สบายหรือมีไข้ก่อนมาเรียน ผู้ปกครองควรพาไปพบแพทย์ และให้พักอยู่บ้าน ส่วนสถานศึกษาหากพบเด็กป่วยให้แยกออกจากเด็กปกติและแจ้งให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน เพื่อพาไปพบแพทย์โดยเร็ว พร้อมทั้งให้เด็กหยุดเรียนจนกว่าจะหาย
        7. แยกของใช้ส่วนตัวของเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับเด็กคนอื่น งดไปในที่ชุมชนหรือสถานที่แออัด

        ซึ่งวิธีดังกล่าวสามารถป้องกันได้ทั้งโรคมือ เท้า ปาก โรคโควิด 19 และโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

        มือเท้าปากระบาด

        ภาพข่าวจากไทยรัฐ

        ปัจจุบันเรายังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปากโดยเฉพาะ แต่ว่าการป้องกันทำได้หลายอย่าง ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลให้ลูกห่างไกลจากการที่ มือเท้าปากระบาด การหยุดการแพร่กระจายของเชื้อนั้นด้วยสุขอนามัยที่ดี จึงเป็นสิ่งจำเป็น

        โรคเฮอร์แปงไจน่า vs โรคมือเท้าปาก

        สำหรับแผลตุ่มพองที่ขึ้นเมื่อเป็นโรคมือเท้าปากนั้น สำหรับบางคนยังคงสับสนว่า ตุ่มพองแบบไหนที่เป็นตุ่มพองลักษณะของโรคมือเท้าปาก เนื่องจากว่ายังมีโรคระบาดที่ติดต่ออีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะอาการคล้าย ๆ กับโรคมือเท้าปาก นั่นคือ โรคเฮอร์แปงไจน่า

        เฮอร์แปงไจน่า เป็นโรคที่ติดเชื้อจากไวรัสชนิดเดียวกันกับมือ เท้า ปาก ซึ่งเป็นกลุ่มของ เอนเตอโรไวรัส (Enterovirus)  แต่มีอาการที่แตกต่างกันคือจะมีแผลเฉพาะที่ปากเท่านั้น ขณะที่มือ เท้า ปาก นอกจากจะมีแผลที่ปากแล้วจะมีผื่นขึ้นที่ฝ่ามือและฝ่าเท้าด้วย สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางน้ำมูก ไอ จาม ลักษณะอาการจะมีไข้สูงประมาณ 39.5-40 องศาเซลเซียส และมีแผลในช่องปากบริเวณเพดานอ่อน ลิ้นไก่ ต่อมทอนซิล และในโพรงคอหอยด้านหลัง แต่ถ้าเป็นมือ เท้า ปาก ไข้จะไม่สูง และมีแผลกระจายอยู่ทั่วปาก รวมทั้งมีผื่นขึ้นที่ฝ่ามือ และฝ่าเท้าด้วย

        ข้อมูลอ้างอิงจาก กรมควบคุมโรค /www.rama.mahidol.ac.th/

        อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

        วิธีสังเกต อาการมือเท้าปาก และ วิธีดูแลรักษาลูกโดยไม่ต้องแอดมิด

        ลูกกล้ามเนื้อกระตุกไม่มีเหตุผล ระวังเป็น ลมชักในเด็ก

        ระวัง! โรคมือเท้าปาก EV71 สายพันธุ์รุนแรง

        ทำไมเด็ก ๆ ถึงชอบเป็น โรคมือเท้าปาก

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          ขนาดทารกในครรภ์

          ขนาดของทารกในครรภ์ แต่ละสัปดาห์

          คุณแม่ตั้งครรภ์เกือบทุกคนคงอยากรู้ความเป็นไปข้างในท้องที่ลูกอาศัยอยู่แน่นอน ว่าลูกนอนอยู่ท่าไหน? ตัวใหญ่แค่ไหนแล้ว? หรือมีลักษณะอย่างไร? Amarin Baby & Kids จึงขอนำเสนอข้อมูลตั้งแต่อายุครรภ์ 4 สัปดาห์จนถึง 40 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สามารถวัด ขนาดของทารกในครรภ์ ได้หลังจากที่ปฏิสนธิ และมีพัฒนาการมาถึง 1 เดือนหรือ 4 สัปดาห์ ซึ่งผลการตั้งครรภ์ชัดเจนมากกว่าช่วงแรก…แล้วลูกในท้องของเราจะมีขนาดเท่าไหร่บ้างไปดูกันเลย >> ขอให้คุณแม่สนุกไปกับการเปลี่ยนแปลงของลูกน้อยนะคะ

          4

          ขนาดของทารกในครรภ์ 1-4 สัปดาห์

          หลังจากการปฏิสนธิ ช่วงสัปดาห์แรก- สัปดาห์ที่ 4 หากคุณแม่รู้ตัวว่าประจำเดือนขาด อาจจะพบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ จาก BFP (Big Fat Positive ชุดทดสอบการตั้งครรภ์มีผลการตรวจออกมาเป็นบวก) ดังนั้นสิ่งที่จะเป็นขนาดของลูกน้อยเมื่อเทียบกับผลไม้ในสัปดาห์นี้ คือ มีขนาดเท่า “เมล็ดป๊อปปี้”

          5

          ขนาดของทารกในครรภ์ 5 สัปดาห์

          ส่วนมากในสัปดาห์นี้ คือเวลาที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เมื่อพบว่ากำลังตั้งครรภ์ ลูกน้อยกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะมีขนาดตัวเล็กและบอบบางมาก ขนาดของลูกน้อยในสัปดาห์นี้ คือ เมล็ดงา เป็นเมล็ดงาที่มีลักษณะเหมือนลูกอ๊อดอีกด้วย

          6

          ขนาดของทารกในครรภ์ 6 สัปดาห์

          เจ้าตัวน้อยกำลังมีพัฒนาการเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างจมูก ปาก หูก็เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างคร่าวๆ และหากคุณแม่ไปอัลตร้าซาวนด์ในสัปดาห์นี้และค้นพบการเต้นของหัวใจ สัญญาณแรกของชีวิต! และขนาดของลูกน้อยในสัปดาห์นี้ คือ ถั่ว (เป็นถั่วที่มีหัวใจด้วยนะ)

          7

          ขนาดของลูกน้อยในครรภ์ 7 สัปดาห์

          ทารกในครรภ์ตอนนี้กำลังมีปากและลิ้นที่เริ่มสร้างตัวขึ้น เช่นเดียวกับแขนและขา นอกจากนี้ ไตก็เตรียมพร้อมที่จะพัฒนาขึ้นมาเช่นกัน ซึ่งลูกน้อยในท้องเริ่มเคลื่อนไหวที่ละน้อย ๆ ส่วนของสมองก็พัฒนาไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว โดยสัปดาห์นี้จะมีขนาดเท่า ถั่วเขียว (เป็นถั่วเขียวที่กระโดดได้แต่คุณแม่จะยังไม่รู้สึก)

          8

          ขนาดของลูกน้อยในครรภ์ 8 สัปดาห์

          ตอนนี้เป็นระยะ 2 เดือนเต็มๆแล้ว นิ้วมือและนิ้วเท้าเล็กๆเริ่มโผล่ออกมาจากแขนและขาบ้างแล้ว ใบหน้าเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น หู ปากส่วนบนและปลายจมูกก็เป็นรูปร่างอย่างชัดเจน มีการสร้างเปลือกตาเป็นครั้งแรก และเริ่มเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ แต่เพราะมีขนาดเล็กเกินไปคุณแม่จึงไม่รู้สึก ซึ่งในสัปดาห์นี้ลูกน้อยมีขนาดเท่า ถั่วแดงขนาดใหญ่

          9

          ขนาดของลูกน้อยในครรภ์ 9 สัปดาห์

          กล้ามเนื้อเล็ก ๆ กำลังเริ่มสร้างตัวเพื่อเตรียมจะขยับแขนและขา อวัยวะเพศ ตับอ่อน และถุงน้ำดีก็กำลังพัฒนาขึ้นมาเช่นกัน พัฒนาการอีกอย่างหนึ่งก็คือหัวใจ ซึ่งตอนนี้หัวใจแบ่งออกเป็นสี่ห้องแล้ว และมีขนาดเท่ากับ ลูกองุ่นแดง

          10

          ขนาดของลูกน้อยในครรภ์ 10 สัปดาห์

          มือและเท้าที่มีลักษณะเป็นพังพืดเริ่มแยกตัวออกมาเป็นนิ้ว เท้าและกระดูกเริ่มมีความแข็งมากขึ้น ไตสามารถผลิตปัสสาวะได้แล้ว ตับและลำไส้ก็เริ่มทำงานด้วยตนเองเช่นกัน สมองสามารถสร้างเซลประสาทเกือบ 250,000 เซลล์ต่อนาที และสัปดาห์นี้ลูกน้อยของคุณขนาดใหญ่เท่า “ลูกมะกอกเขียว” และมีน้ำหนักประมาณ 4 กรัม

          อ่านต่อ >> ขนาดของลูกน้อยในครรภ์ week ที่ 11-20 คลิกหน้า 2

            เจ เจตริน

            ส่องลูกๆ บ้านทีม J #Jjetrin ในอ้อมกอดพ่อเจ – เจตริน วรรธนะสิน

            วันนี้เราพามาอัพเดทเรื่องราวของครอบครัว “วรรธนะสิน” อีกหนึ่งครอบครัวที่เป็นไอดอลของหลายๆ บ้าน  ทั้งความอุ่นน่ารัก จนสาวๆ ทั่วประเทศรวมตัวกันมาเป็น  สะใภ้มโน   ล่าสุดยอดแฟนเพจอยู่ที่ 891,295 ไลค์  และคาดว่าจะทะลุล้านในเร็วๆ นี้

            พ่อเจ – เจตริน วรรธนะสิน เป็นที่รู้จักในฐานะนักร้องและนักแสดง  และได้สมรสกับแม่ปิ่น เก็จมณี  ลูกชายทั้ง 3 คน  น้องเจ้านาย เจ้าขุน และเจ้าสมุทร กำลังอยู่ในวัยเรียน และน้องเจด้า (ลูกสาวที่เกิดกับคุณจีน่า) ก็เพิ่งจะเข้ามหาวิทยาลัย  สวยเตะตาหนุ่มๆ เช่นกัน จนคุณพ่อบอกต้องไว้หนวดแล้ว!

            ต้องไว้หนวด ละกรู jjetrin
            ต้องไว้หนวด ละกรู jjetrin
            วันเกิดน้องเจ้าขุน
            วันเกิดน้องเจ้าขุน
            วันเกิดน้องเจ้านาย
            วันเกิดน้องเจ้านาย
            โปรดทราบๆ jjaosmutt เจ้าสมุทรเริ่มเป็นหนุ่มแล้วครับ
            โปรดทราบๆ jjaosmutt เจ้าสมุทรเริ่มเป็นหนุ่มแล้วครับ

             

            ล่าสุดส่งเจ้านายกับเจ้าขุนไปเรียนที่อังกฤษ  แต่ก็มีอีเว้นท์ที่กลับมาเมืองไทยบ้าง  ทั้งงานโฆษณา  งานถ่ายแบบ งานเปิดตัวสินค้า เรายังได้พบเห็นลูกๆ ครบทีมตามงานต่างๆ มาก

             

            แต่ที่น่าอิจฉาที่สุดคือความหวานของคู่รักสุดสวีทของพ่อเจและแม่ปิ่น  ที่ปล่อยภาพมาให้แฟนๆ จิกหมอนกันเรื่อยๆ ใครอยากตามไปเป็นสะใภ้มโน หรืออยากรู้ว่าพ่อเจแม่ปิ่นมีเทคนิคเลี้ยงลูกอย่างไร  ติดตามได้ที่เพจ >> https://www.facebook.com/jjetrin/

            บินไปสเปน ไปตามหา แมลงวันสเปน แปปนึงนะ ไปเชียร์ รอสซี่
            บินไปสเปน ไปตามหา แมลงวันสเปน แปปนึงนะ ไปเชียร์ รอสซี่

            04

              ให้นมลูก

              ท่าให้นมลูกที่ถูกต้อง ช่วยให้ลูกน้อยได้รับน้ำนมอย่างเต็มที่

              คุณแม่รู้หรือไม่? ท่าให้นมลูกที่ถูกต้อง ส่งผลต่อพัฒนาการของลูกน้อย และยังทำให้ลูกน้อยแข็งแรง เนื่องจากลูกน้อยสามารถดูดนมได้มากเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายที่ใช้ในการเจริญเติบโต ส่งเสริมพัฒนาการ สร้างภูมิคุ้มกันด้านสุขภาพ และป้องกันโรคภัยไม่ให้ลูกเสียชีวิต

              Continue reading “ท่าให้นมลูกที่ถูกต้อง ช่วยให้ลูกน้อยได้รับน้ำนมอย่างเต็มที่”

                วิธีกำจัดยุง โดยไม่ใช้สารเคมี

                วิธีกำจัดยุง โดยไม่ใช้สารเคมี ลูกน้อยปลอดภัยจากยุงร้าย

                ยุงเป็นพาหะนำโรคได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้เลือดออก โรคมาลาเรีย เป็นพาหะของไวรัสซิก้า ที่มาพร้อมกับยุงลาย และยุงก้นปล่อง เป็นอันตรายอย่างมากโดยเฉพาะเด็กๆ ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าผู้ใหญ่ Amarin Baby & Kids มี วิธีกำจัดยุง โดยไม่ใช้สารเคมี มาฝากกันค่ะ

                Continue reading “วิธีกำจัดยุง โดยไม่ใช้สารเคมี ลูกน้อยปลอดภัยจากยุงร้าย”

                  คลิปสุดน่ารัก ^^ เมื่อคุณพ่อสอนลูกน้อยทำความสะอาดบ้าน

                  จะเป็นอย่างไร? … เมื่อคุณพ่อสอนลูกน้อยวัย 2 ขวบ ทำความสะอาดบ้าน >> ไม่ว่าจะเป็น ล้างจาก ดูดฝุ่น กวาดใบไม้ หรือตากผ้า และอื่นๆ อีกมากมาย >> สงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่าเด็กน้อยวัยเพียง 2 ขวบ จะทำงานบ้านเหล่านี้ได้อย่างไร … ขอบอกว่านางทำได้ค่ะ แถมน่ารักและฮามากอีกด้วย จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย

                  ทำความสะอาดบ้าน

                  ทำความสะอาดบ้าน


                  ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : How to Dad

                    เลี้ยงลูกให้คิดเป็น

                    เลี้ยงลูกให้คิดเป็น ด้วยหลักการเรียนรู้ 6 ระดับ

                    ถ้าคุณพ่อ คุณแม่ที่หา วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด อยากให้ลูกคิดเป็น แก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง Amarin Baby & Kids มีวิธี เลี้ยงลูกให้คิดเป็น ด้วยการตั้งคำถามแทนการให้คำตอบ โดยเล่านิทาน หรือเรื่องราวให้ลูกฟังสัก 1 เรื่อง แล้วตั้งคำถามให้ลูกน้อยตอบในตอนจบ นั่นคือ 1 ในหลักการเรียนรู้

                    Continue reading “เลี้ยงลูกให้คิดเป็น ด้วยหลักการเรียนรู้ 6 ระดับ”

                      กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก เพื่ออนาคตที่ดีของลูกน้อย

                      กล้ามเนื้อมัดเล็ก หมายถึง การใช้มือ การหยิบจับ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการที่เด็กจะพัฒนาการ การเขียน การทำงานในชีวิตประจำวัน และการช่วยเหลือตัวเอง สำหรับการช่วยเด็กๆพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก ต้องเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามารถในการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อมือและตาให้ทำงานอย่างประสานสัมพันธ์ที่ดี Continue reading “กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก เพื่ออนาคตที่ดีของลูกน้อย”

                        พ่อแม่ทำร้ายลูก เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นในสังคม

                        เมื่อวันที่ 5 กรกฏคมที่ผ่านมาทางสิงคโปร์มีการรายงานข่าวว่า พ่อเลี้ยง และแม่ที่แท้จริงทารุณกรรมลูกชายวัย 2 ขวบครึ่งของตัวเอง โดยอ้างว่าเป็นการลงโทษไม่ให้รับประทานอาหารมื้อเช้าเป็นเวลา 1 เดือน เนื่องจากลูกไม่เชื่อฟังคำสั่งของพ่อแม่ พ่อแม่ทำร้ายลูก จนกระทั่งลูกเสียชีวิต

                        Continue reading “พ่อแม่ทำร้ายลูก เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นในสังคม”

                          ลูกเอาแต่ใจตัวเอง

                          ลูกเอาแต่ใจตัวเอง รับมืออย่างไรดี?

                          คุณพ่อ คุณแม่คงเคยพบกับปัญหาที่ลูกน้อยงอแง ดื้อ และไม่ยอมทำตามคำสั่ง อยากได้นู่น อยากได้นี่ นั่นแสดงว่า ลูกเอาแต่ใจตัวเอง สาเหตุหลักๆ ของการเอาแต่ใจตัวเองของลูก มาจาก 2 ส่วนคือ มีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์ และการอบรมเลี้ยงดูที่ส่งผลถึงลูกโดยที่พ่อแม่ไม่รู้ตัว

                          Continue reading “ลูกเอาแต่ใจตัวเอง รับมืออย่างไรดี?”

                            อาชีพเสริมของเด็ก! น้องภูริ เด็กชาย 8 ขวบ ปลูกต้นอ่อน..หารายได้พิเศษ!!

                            “แม่! บ้านเรามีศัตรูพืช” น้องภูริเด็กชายวัย 8 ขวบตะโกนลั่น  เมื่อพบว่าแมลงตัวร้ายมากัดกินต้นอ่อนผักบุ้งที่ปลูกไว้ข้างบ้าน  “ตัดตูปื้ดดด”  วาริน้องสาวคนเล็กวัยขวบกว่าเอ่ยตามพี่ชาย

                            เด็กปลูกผัก

                            เด็กปลูกผัก เป็นเพจที่แม่แอนและน้องภูริร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อให้ภูริได้มีรายได้พิเศษ และเป็นกิจกรรมภายในครอบครัวที่แม่แอนพยายามปลูกฝังให้ลูกๆ ได้รักธรรมชาติและสุขภาพของตัวเองด้วยการกินผักปลอดสารพิษ ซึ่งผักที่ปลูกได้แก่  ถั่วลันเตา  ผักบุ้ง  และ ทานตะวัน  เป็นพืชผักที่ปลูกง่าย แค่ 7 วันก็ตัดส่งให้กับลูกค้าได้แล้ว

                            อ่านเรื่องของน้องภูริต่อได้ที่หน้า 2

                              Purisa Glitzy

                              อัจฉริยะมาเกิด! น้องมินนี่ เด็กหญิง 8 ขวบสร้างแบรนด์เสื้อผ้า “Purisa Glitzy”

                              ไม่ใช่แค่คุณพ่อคุณแม่เท่านั้นนะที่หารายได้เสริม เด็กๆเองก็หารายได้ให้ตัวเองด้วยเหมือนกัน ซึ่งเด็กสองคนนี้เริ่มต้นจากสิ่งที่เขารัก สิ่งที่เขาชอบ แล้วลงมือทำอย่างจริงจัง ว่าแล้วลองสังเกตลูกๆเราดูสิว่าเขาชอบทำอะไรบ้าง เผื่อจะต่อยอดเหมือนกับเขาเพิ่มเงินในกระเป๋าให้เจ้าตัวเล็กได้บ้าง แถมกิจกรรมเหล่านี้ยังช่วยฝึกฝนให้เขามีความรับผิดชอบ และสอนให้เขาเรียนรู้วิธีการทำงานด้วย

                              เด็กๆอย่างหนู ก็มีรายได้ของตัวเองนะ

                              สไตล์หนู ต้องแต่งเต็ม และเยอะ
                              “น้องมินนี่เป็นเด็กที่ชอบแต่งตัวมากกกกค่ะ  แต่งชนิดที่ไม่ว่า เดินไปที่ไหนต้องมีคนมอง มีเหมือนกันนะคะบางคนเข้ามาทักว่าจะแต่งเยอะไปไหน  แต่เขาก็เฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเคยถามแล้ว เขาก็ตอบว่า หนูอยากใส่แบบนี้ หนูมั่นใจ ซึ่งน้าของเขาเจ้าของแบรนด์ รสนิยม เอ่ยปากชมตลอดถึงความมั่นใจอันนี้ของหลานสาว ทุกๆวันเธอจะเลือกเสื้อผ้าใส่เอง คุณแม่เลิกเตรียมเสื้อผ้าให้เขามานานหลายปีแล้ว บอกตรงๆตอนแรกแม่ก็แคร์สายตาคนอื่นเหมือนกันนะ  แต่เมื่อเขามีความสุขเราก็เลยโอเค  ความเยอะของมินนี่ เริ่มตั้งแต่ 4 – 5 ขวบ  ชุดที่กล่าวขานกันมาก คือ ชุดซูซีไทเฮาในวันตรุษจีน มาเต็มมากหมวก ชุด ครบหมด  จากความรักในการแต่งตัว ก็เริ่มหันมาชอบอ่านนิตยสารแฟชั่น  อ่านหนังสือเกี่ยวกับเสื้อผ้า ชีวประวัติของดีไซเนอร์ชื่อดัง อย่าง กาเบรียล ชาแนล เมื่อไปเดินห้างพอเห็นใครใส่เสื้อผ้า หรือ ถือกระเป๋าที่มีโลโก้ชาแนล มินนี่ก็จะบอกว่า “หนูอยากมีแบรนด์ของตัวเองเหมือนกาเบรียล ชาแนล บ้าง”
                              สู่ความเป็นแบรนด์ Purisa Glitzy
                              ด้วยความที่บ้านของเราอยู่ในย่านธุรกิจค้าขายผ้า  ที่บ้านก็ทำเกี่ยวกับเสื้อผ้า  น้าของเขาก็ทำแบรนด์เสื้อผ้าวินเทจ ชื่อ รสนิยม เขาเลยชอบเก็บเศษผ้าต่างๆ ที่เหลือใช้ใส่ไว้เป็นลัง แล้วด้วยความที่เขาชอบวาดรูปเสื้อผ้าฟุ้งฟริ้ง ออกแนววินเทจ โดยเขาได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือที่มีภาพของราชินีและราชวงศ์อังกฤษ ขณะสวมชุดกระโปรงยาว มีลูกไม้ มีระบาย สักอายุ 7 ขวบเขาเริ่มพูดแล้วว่าอยากมีแบรนด์ของตัวเอง ทีนี้พอคุยระหว่างพ่อ แม่ ลูก มินนี่ให้คำตอบว่าอยากทำจริงๆ เลยมาประชุมกันเพื่อคิดชื่อแบรนด์ และ ออกแบบโลโก้ ซึ่ง วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 เป็นวันที่แบรนด์ Purisa Glitzy ถือกำเนิดขึ้น

                              แบรนด์ Purisa Glitzy
                              (ขวา) มินนี่ – ภูริศา เฮงตระกูลสิน อายุ 8 ขวบ โรงเรียนราชินี คุณแม่ทิสา เฮงตระกูลสิน

                              ช่วงที่ทำคอลเล็กชั่นแรก คุณแม่และน้องก็ไปหาช่าง และซื้อผ้าด้วยกัน  จากนั้นช่างกับเราก็ช่วยกันปรับจนออกมาเป็นสไตล์ Purisa Glitzy ซึ่งคอลเลคชั่นแรกใช้ชื่อเดียวกับชื่อแบรนด์  และเป็นลิมิเต็ด อิดิชั่น จะตัดได้กี่ชุดก็ขึ้นอยู่กับผ้า
                              และเมื่อผลงานที่มินนี่ดีไซน์ไว้ออกมาเป็นชุด เป็นคอลเลคชั่น และมีการถ่ายแบบชุดจริงๆ เห็นได้ชัดเลยว่า ลูกเราเห็นตัวเล็กๆแบบนี้ ดูจริงจัง และตั้งใจทำงานมากนะ  ทุกวันนี้กิจกรรมดังกล่าวได้กลายเป็นอุตสาหกรรมย่อมๆภายในครอบครัวเราไปแล้วค่ะ

                              “ การที่เขาเริ่มคิดทำธุรกิจของตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ มันก็จะเป็นรากฐานที่ดีติดตัวเขาไปจนโต แม้อนาคตเขาอาจจะชอบด้านอื่น ก็ไม่เป็นไร  อย่างน้อยเขาจะได้รู้จักกระบวนการคิด-ทำ สิ่งนี้เหมือนฝึกเขาไปในตัวด้วย “

                              ขายใคร? ขายอย่างไร?

                              ครั้งแรกที่ขายได้ ขายให้กับคนไทยที่อยู่ในอังกฤษ โดยขายผ่านทางเฟสบุ๊ค Purisa Glitzy เขาเหมาหมดทั้งคอลเลคชั่น  นอกจากนี้ก็มีเพื่อนที่โรงเรียนสั่งซื้อ บ้าง ในตอนแรกไม่มีใครรู้เลยว่ามินนี่ทำแบรนด์ของตัวเอง  จนหนังสือพิมพ์ m2f นำไปลง คุณครูเอามาดูที่ห้อง  เพื่อนๆ เลยสนใจสั่งซื้อแต่ไม่เยอะมาก ประมาณ 3-4 คน ส่วนใหญ่ซื้อไปใส่ออกงาน สำหรับไซส์เสื้อผ้ามี 4-5 ขวบ และ 7-8 ขวบ

                              purisa glitzy

                              purisa glitzy

                              เริ่มต้นลงทุนอย่างไร

                              เขาเอาเงินแต๊ะเอียมาใช้ โดยเขาจะแบ่งใช้ แบ่งเก็บ และแบ่งลงทุน ถ้าเหลือจากใช้เมื่อไหร่ก็จะเอาเข้าธนาคารทั้งหมด เป็นชื่อบัญชีของเขาเอง ตอนที่เราสอนเขาตรงนี้ ไม่ได้คิดว่าต้องรอให้เขาโตก่อน สอนเขาเข้าใจเราก็โอเค สอนต่อไปเรื่อยๆ ให้เขารู้จักเรียนรู้ คือถ้าสอนด้วยคำพูดอาจไม่เข้าใจแต่ถ้าเขาได้ทำได้เห็นเขาก็จะเข้าใจรู้เรื่องเลย ที่บ้านจะให้เขาลงมือปฏิบัติทำทุกอย่างเองจริงๆ อย่างล่าสุดเขามาดูวิดีโอในยูทูป แล้วถามว่า คลิปพวกนี้เขาทำกันยังไงคะ แม่ทำไม่เป็น แต่ถ้าหนูอยากทำ แม่ให้ลงมือทำเลย  แม่ก็ติดต่อสตูดิโอให้เรียบร้อย ทีนี้เขาก็รู้แล้วว่าขั้นตอนในการทำมีอะไรบ้าง

                              purisa glitzy

                              คอลเลคชั่นต่อไปจะเป็นแบบไหนคะ

                              มินนี่อยากทำลูกไม้สีดำ แต่คุณพ่อกลัวว่าจะขายได้ยาก แต่มีอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่เขาอยากทำ ได้มาจากชุดของข้าราชบริพารในวังช่วงยุคสมัย ร. 5 ค่ะ (Click ดูภาพเคลื่อนไหวได้จากภาพด้านล่าง)

                              purisa glitzy

                               

                               

                              Purisa Glitzy แบรนด์เสื้อผ้าจากสาวน้อยมหัศจรรย์
                              มินนี่ – ภูริศา  เฮงตระกูลสิน อายุ  8 ขวบ โรงเรียนราชินี
                              คุณแม่ทิสา เฮงตระกูลสิน
                              มีจำหน่ายที่  Purisa Glitzy

                                เทคนิคการฝึกสอนลูกวัยอนุบาลหัดเขียนชื่อตัวเอง

                                สิ่งหนึ่งของการเริ่มต้นในการให้เด็กเรียนรู้การเขียนชื่อของตัวเอง ก็คือต้องบอกว่า “เขาคือใคร” ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้องลองให้เด็กได้พูดถึงตัวเองว่าเขานั้นเป็นใคร มีตัวอักษรใดบ้างในชื่อของเขา…เพราะชื่อตัวเองนั้น(ทั้งชื่อจริงและชื่อเล่น) จะเป็นคำๆ ที่เขานั้นจะต้องได้ยินไปตลอดชีวิต Continue reading “เทคนิคการฝึกสอนลูกวัยอนุบาลหัดเขียนชื่อตัวเอง”

                                  วิธีสอนลูกเข้มแข็ง

                                  วิธีสอนลูกเข้มแข็ง ด้วยวัคซีนใจ 8 เข็ม

                                  สังคมในปัจจุบันเปราะบางมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปัญหาทางสังคม และครอบครัวอ่อนแอ ส่งผลต่อสภาพจิตใจที่นับวันจะยิ่งเปราะบางขึ้นทุกๆ วัน ทุกคนในสังคมมีปัญหาเรื่องความเครียด ความกดดัน ภาวะซึมเศร้า ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เราจะมี วิธีสอนลูกเข้มแข็ง ได้อย่างไร

                                  Continue reading “วิธีสอนลูกเข้มแข็ง ด้วยวัคซีนใจ 8 เข็ม”

                                    โต๊ะเขียนหนังสือสำหรับเด็ก อันตรายกว่าที่คิด

                                    คุณพ่อ คุณแม่คงอาจจะยังไม่รู้ว่าเฟอร์นิเจอร์อย่าง โต๊ะเขียนหนังสือสำหรับเด็ก เป็นจุดเสี่ยงที่มีค่าสารตะกั่วสูงเกินมาตรฐาน มักส่งผลและทำร้ายสุขภาพของลูกน้อยได้ โดยเฉพาะสารตะกั่วที่อยู่ในโรงเรียน หรือที่บ้าน เพราะมีรูปพยัญชนะ และตัวเลขต่างๆ ให้เด็กๆ ได้จดจำ และเรียนรู้

                                    Continue reading “โต๊ะเขียนหนังสือสำหรับเด็ก อันตรายกว่าที่คิด”