ยาที่กินแล้วน้ำนมไม่หด

ยาแก้หวัด แก้ไข้ ที่แม่ให้นมกินแล้ว นมไม่หด ไม่ส่งถึงลูก

แม้ว่ายาจำนวนไม่น้อยสามารถละลายน้ำแล้วขับออกทางน้ำนม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทารกที่ดื่มนมแม่อยู่ได้ แต่ไม่ใช่ยาทุกตัวที่จะส่งผลต่อลูกน้อย ดังนั้น คุณแม่จึงควรทราบว่า เมื่อคุณแม่ไม่สบาย เป็นหวัด หรือเป็นไข้ ยาที่แม่ให้นมกินได้มีอะไรบ้าง ยาที่ไม่มีผลต่อน้ำนม ยาที่กินแล้วน้ำนมไม่หด ไม่ส่งถึงลูก และยาอะไรบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง Continue reading “ยาแก้หวัด แก้ไข้ ที่แม่ให้นมกินแล้ว นมไม่หด ไม่ส่งถึงลูก”

    “กองทราย” ของเล่นยอดฮิตของเด็กน้อย ราคาถูก หาง่าย ประโยชน์มหาศาล

    เล่นกระบะทราย พัฒนาสมองลูก เด็กที่อยู่ในช่วงวัย 2-3 ขวบขึ้นไป หากพ่อแม่มีการส่งเสริมให้ลูกได้เล่นในรูปแบบที่ช่วยกระตุ้นทักษะต่างๆ ของร่างกายได้มีการทำงานสอดประสานไปพร้อมกัน จะยิ่งช่วยให้สมองเกิดการพัฒนาต่อยอดทางความคิดมากขึ้น ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีของเล่นสนุกๆ จากธรรมชาติ อย่างการเล่นกระบะทราย ที่สามารถช่วยพัฒนาสมองของเด็กๆ ได้อย่างดีเยี่ยม มาแนะนำให้ทราบกันค่ะ

     

    เล่นกระบะทราย  พัฒนาสมองลูก :  ทำไมต้องเล่นทราย ?

    คุณพ่อคุณแม่ยิ่งถ้าเป็นคนในเมืองมักจะไม่ค่อยชอบให้ลูกได้ออกไปเล่นนอกบ้านให้เสื้อผ้า เนื้อตัวเลอะเปรอะเปื้อนเท่าไหร่ อาจเพราะกลัวลูกได้รับเชื้อโรค แบคทีเรีย แล้วจะทำให้เจ็บป่วย  แต่รู้ไหมคะว่า ถ้าเป็นเด็กๆ ที่อยู่ต่างจังหวัดส่วนมากแล้วจะเป็น ย่า ยาย พี่ ป้า น้า อา เป็นคนช่วยเลี้ยงด้วยอีกแรง ซึ่งเด็กต่างจังหวัดส่วนมากมักจะได้รับการส่งเสริมให้ได้เล่นอยู่กับธรรมชาติสายลม แสงแดด  มือได้จับทราย เท้าได้เดินสัมผัสดิน ซึ่งการเล่นอยู่กับธรรมชาติ จะช่วยให้เด็กได้รับภูมิคุ้มกันจากธรรมชาติ ซึ่งการเล่นกับธรรมชาติจะช่วยให้ทุกทักษะพัฒนาการของเด็กได้รับการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

     

    การเล่นกับธรรมชาติ ที่ได้ประโยชน์มากๆ คือ การให้ลูกเล่นดิน เล่นทราย ซึ่งผิวสัมผัสของดิน ทรายจะเป็นเนื้อหยาบๆ เวลาที่ลูกหยิบ จับ ขยำเล่น จะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสของกล้ามเนื้อมัดเล็กได้ใช้นิ้ว และฝ่ามือทั้งสองข้างได้ดีมากขึ้น  ยิ่งโดยเฉพาะการเล่นทราย ที่แนะนำว่าพ่อแม่ควรหากระบะทราย ที่มีขนาดใหญ่พอให้ลูกสามารถลงไปนั่งเล่นได้ทั้งตัว แต่หากกังวลถึงความสะอาดของทราย สามารถหาซื้อทรายธรรมชาติที่เป็นทรายเนื้อละเอียดเล็กสะอาดๆ ได้ตามร้านขายอุปกรณ์ปลูกสร้าง หรือจะเลือกเป็นทรายวิทยาศาสตร์ที่มีขายตามร้านของเล่นเด็กในห้างสรรพสินค้าทั่วไปก็ได้เช่นกันค่ะ สำหรับดินเหนียวหากไม่มีดินเหนียวธรรมชาติ ก็ให้ซื้อเป็นแป้งโดว์ให้ลูกเล่นก็ได้ประโยชน์มากเหมือนกันค่ะ

     

    Good to know… “กล้ามเนื้อมัดเล็ก หมายถึง การใช้มือ การหยิบจับ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการที่เด็กจะพัฒนาการ การเขียน การทำงานในชีวิตประจำวัน และการช่วยเหลือตัวเอง1

    อ่านต่อ >> “ลูกเรียนรู้ด้วยการเล่นอย่างไร?” คลิกหน้า 2

     

     

    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

      7 สารอาหารต้องรู้ “ดูแลสมอง สร้างไอคิว” ให้ลูกรัก

      อาหารบำรุงสมองสมองดีเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องการ ทำอย่างไรจึงจะป้องกันไม่ให้สมองเสื่อมก่อนวัย และทำอย่างไรจึงจะทำให้สมองยังคงดีอยู่กับเราตลอดชีวิต การเลือกรับประทานอาหารที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยดูแลสมอง เริ่มต้นดูแลสมองของคุณด้วยอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสมองและความจำจะได้อยู่กับเราไปนานๆ

      อาหารบำรุงสมอง” ปัจจัยหลักเพื่อการพัฒนาสมอง

      ปัจจัยหลักที่ส่งผลทั้งในด้านส่งเสริมและควบคุมพัฒนาการของสมองสามารถแบ่งออกได้ 3 ปัจจัยใหญ่ๆ คือ พันธุกรรม สิ่งแวดล้อมและอาหาร โดย 2 ปัจจัยแรกนั้นเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่อาหารเป็นปัจจัยเดียวที่เราสามารถควบคุมได้มากที่สุด ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ความรู้ทางโภชนาการของเรากว้างขวางขึ้น ทำให้ทราบว่าสำหรับเจ้าตัวเล็กแล้วอาหารมีบทบาท ในการกระตุ้นพัฒนาการของสมองและยังมีอิทธิพลต่อพฤติกรรม สติปัญญา และความเฉลียวฉลาดของเด็กเป็นอย่างมาก เราลองมาดูกันค่ะว่า ถ้าเราต้องการให้สมองของเจ้าตัวเล็กพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพเจ้าตัวเล็กต้องได้รับสารอาหารอะไรบ้าง

      อาหารบำรุงสมอง

      ♣ หลักในการเลือกรับประทานอาหารเพื่อการดูแลสมอง

      • รับประทานอาหารประเภทต้านอนุมูลอิสระ เพื่อลดปัญหาอนุมูลอิสระทำลายสมอง
      • รับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่สมอง
      • รับประทานอาหารที่ไม่ปนเปื้อนสารโลหะหนักหรือสารเคมีต่างๆ
      Must read13 สารอาหารสำคัญ เพื่อลูกรักฉลาด ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
      Must readเทคนิคกระตุ้นสมองลูกให้ฉลาดอย่างถูกวิธี
      Must read : เลี้ยงลูกแบบเทวดา ทำให้ลูกไอคิวต่ำ

      ทั้งนี้ยังมีทฤษฎี 7 กลุ่มอาหาร ที่จะช่วยสร้างพลังสมอง และสร้างไอคิวสูงให้กับลูกน้อย ได้ เหมาะสำหรับยุคสมัย ซึ่งมั่นใจว่าได้สารอาหารครบถ้วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมอง สติปัญญา และร่างกายเหมาะสำหรับยุคสมัย มั่นใจว่าได้สารอาหารครบถ้วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมอง สติปัญญา และร่างกายเพื่อลูกน้อยเติบโตแข็งแรงสมวัยอย่างเต็มศักยภาพ

      ทั้งนี้ความแตกต่างของระดับสติปัญญาของคนเราขึ้นอยู่กับสมองของใครมีเยื่อไมอีลิน หรือเปลือกหุ้มเส้นใยประสาทที่เติบโตเต็มที่มากกว่ากัน เพราะเยื่อไมอีลินเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มการสื่อสารระหว่างเซลล์สมอง ที่ส่งผลต่อความฉลาดและสติปัญญา ช่วยในการส่งสัญญาณประสาทได้เร็วและแม่นยำขึ้น ฉะนั้น การกระตุ้นให้เยื่อไมอีลินเติบโตอย่างเต็มที่จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการ สร้างเสริมพลังสมองในเด็ก โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างเยื่อไมอีลินของลูกให้เพิ่มขึ้นได้จากอาหารที่ดี มีคุณภาพ และการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่ๆ โดยทฤษฎี 7 กลุ่มอาหารที่จะแนะนำ เป็นหลักการที่ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองและร่างกายทั้งหมด มีบทบาทสำคัญในการสร้างความฉลาดให้สมองได้เป็นอย่างดี …โดยตามหลักการของทฤษฎี 7 กลุ่มอาหาร ที่ร่างกายต้องการชนิดอาหารในแต่ละวัน ดังนี้

      อ่านต่อ >> ทฤษฎี 7 กลุ่มอาหาร ที่จะช่วยสร้างพลังสมองให้ลูกน้อย” คลิกหน้า 2

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

        Tags

        12 เรื่องจริง! เกี่ยวกับ “ทารกและการตั้งครรภ์” ที่คุณแม่ท้องเองก็อาจไม่เคยรู้มาก่อน!!

        ทารกอยู่ในท้องทำอะไรบ้าง หากคุณได้ทราบ เรื่องของทารกในครรภ์ ทั้ง 12 ข้อที่จะกล่าวต่อไปนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกแต่ก็เป็นเรื่องจริง ที่มันเกิดขึ้นกับลูกของเราในครรภ์ได้

         

        คุณเคยรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องของการตั้งครรภ์ ซึ่งก็แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ต่างก็รู้วิธีการทำให้ตั้งครรภ์ว่าต้องทำอย่างไร..ทั้งนี้ การตั้งครรภ์ นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีโอกาสได้สัมผัส เพราะคงไม่มีประสบการณ์ใดจะเทียบได้กับการมีอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ ค่อยๆ เจริญเติบโตในครรภ์ของเราเอง แต่ก็ยังมีความจริงสุดแปลกเกี่ยวกับเรื่องราวของทารกในครรภ์ ที่แม้แต่คนเป็นแม่คนก็อาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลย จะมีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ

        รวม 12 เรื่องของทารกในครรภ์ แปลกแต่จริง!
        ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!!

        #1. ทารกสามารถร้องไห้ได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

        เรื่องของทารกในครรภ์

        ◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊

        #2. ทารก 1 ใน 2,000 คนจะเกิดมาพร้อมกับฟัน

        รื่องของทารกในครรภ์

        Must readดูแลฟันลูกน้อย ตั้งแต่ซี่แรก และวิธีทำความสะอาดฟัน

        ◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊

        #3. ในการตั้งครรภ์มดลูกจะขยายขนาด จากขนาดเท่าลูกพีชไปจนมีขนาดเท่าผลแตงโม

        รื่องของทารกในครรภ์

        Must readขนาดของทารกในครรภ์แต่ละสัปดาห์

        ◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊

        #4. ทารกในครรภ์สามารถรับรู้ความรู้สึกในการสัมผัส การมองเห็นและการได้ยิน ดังนั้นแม่ทุกคนจึงควรลูบท้องและพูดคุยกับลูกที่อยู่ในครรภ์บ่อยๆ

        รื่องของทารกในครรภ์

        >> Must readเคล็ดลับดี๊ดีกับวิธีทำให้ลูกในท้องดิ้น
        
        >> Must readสร้างอัจฉริยะให้ลูก ด้วยการคุยกับลูกในครรภ์
        
        >> Must readวิธีสร้างลูกฉลาด เด็กอัจฉริยะสร้างได้ตั้งแต่ในท้อง

        อ่านต่อ >> “รวมเรื่องแปลกแต่จริง! กับ “ทารกและการตั้งครรภ์”
        ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน” คลิกหน้า
        2

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

         

          ไม่บังคับลูกแปรงฟัน

          พ่อแม่ไม่บังคับลูกแปรงฟัน สุดท้ายต้องถอนฟัน

          คุณพ่อ คุณแม่หลายคนเชื่อว่า การ บังคับลูกแปรงฟัน จะทำให้ลูกน้อยเกลียด และกลัวการแปรงฟัน ทำอย่างไรถึงจะแก้ไขทัศนคตินี้ออกไปได้ เวลาที่มีภาพ หรือคลิปวิดีโอที่คุณพ่อ หรือคุณแม่แปรงฟันให้ลูกเล็กๆ วัย 1 – 2 ขวบ โดยลูกนอนบนตัก และถูกขาหนีบเอาไว้  หลายคนรู้สึกไม่ดี

          Continue reading “พ่อแม่ไม่บังคับลูกแปรงฟัน สุดท้ายต้องถอนฟัน”

            สูตรน้ำฟักทอง

            สูตรน้ำฟักทอง บำรุงร่างกาย “เรียกน้ำนมแม่” !!

            สูตรน้ำฟักทอง บำรุงร่างกาย  เรียกน้ำนมแม่  ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของคนเป็นแม่ คือการได้ทำหน้าที่แม่ในการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตนเอง “น้ำนมแม่” เป็นสุดยอดอาหารที่วิเศษสำหรับร่างกายลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด  ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอแนะนำ สูตรน้ำฟักทอง ที่จะช่วยบำรุงร่างกาย และช่วยเรียกน้ำนมแม่ ให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับใช้เลี้ยงลูกน้อยกันค่ะ

             

            สูตรน้ำฟักทอง บำรุงร่างกาย  เรียกน้ำนมแม่ 

            การที่จะช่วยส่งเสริมร่างกายของแม่ให้มีการผลิตน้ำนมคุณภาพออกมามีปริมาณเพียงพอ เพื่อให้ลูกกินได้นานที่สุด ปัจจัยสำคัญต้องมาจากอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ที่แม่ต้องรู้จักนำเอาผัก ผลไม้ พืชสมุนไพร มาทำเป็นเมนูอาหารบำรุงร่างกาย ซึ่งอาหารและสมุนไพร กระตุ้นน้ำนมแม่ ที่มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรบำรุงสุขภาพร่างกาย และดีต่อแม่ที่ให้นมลูก ก็เช่น  ใบกะเพรา กุยช่าย กานพลู ขิง ใบแมงลัก พริกไทย หัวปลี มะลกอ มะรุม ตำลึง เมล็ดขนุน พุทรา มะขาม  อิทผาลัม ฟักทอง เป็นต้น

             

            การจะมีน้ำนมแม่ออกมาอย่างสม่ำเสมอ และมีปริมาณมากเพียงพอสำหรับให้ลูกได้กินนั้น ต้องอาศัยการกระตุ้นเต้านมเป็นสำคัญ ซึ่งการกระตุ้นเต้านมเพื่อให้กระบวนการผลิตน้ำนมแม่ทำงานอย่างต่อเนื่อง ก็คือการให้ลูกดูดกระตุ้นนมแม่ตั้งแต่ชั่วโมงแรกหลังคลอด และดูดกระตุ้นทุก 2-3 ชั่วโมง ซึ่งกลไกการผลิตน้ำนมแม่จะเป็นไปตามธรรมชาติที่น้ำนมแม่หลังจากถูกดูดออกไปแล้ว ก็จะผลิตน้ำนมชุดใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องทุก 1-2 ชั่วโมง ที่ช่วงแรกๆ หากลูกกินไม่ทัน แม่จะรู้สึกคัดตึงเต้านม ซึ่งคุณแม่สามารถปั้มน้ำนมออกมาเก็บไว้ให้ลูกกินได้ค่ะ

             

            สูตรน้ำฟักทอง เรียกน้ำนมแม่

            ส่วนใหญ่เวลาแม่หลังคลอดลูก เรามักจะถูกแนะนำจากญาตผู้ใหญ่ให้หาหัวปลีมาทานกันใช่ไหมคะ และอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า จริงๆ แล้วยังมีอาหาร พืชผักสมุนไพรอีกหลากหลายชนิด ที่มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรช่วยเรียกกระตุ้นน้ำนมแม่ได้อย่างดีเยี่ยม อย่าง “ฟักทอง” ที่ก็ถือว่าเป็นอาหารสมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นขับน้ำนมแม่ได้ดีมาก

            สำหรับ ฟักทอง นั้นเป็นผักพันธุ์หัวสีเหลือง ที่นอกจากจะช่วยขับน้ำนมแม่แล้ว ก็ยังช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณสดใส ฟักทองสามารถนำมาทำเป็นเมนูอาหารอร่อยๆ ได้หลากหลายเมนู ทั้งอาหารคาวและหวาน ไม่ว่าจะเป็น ต้ม ผัด นึ่ง หรือจะทำเป็นขนมหวานอย่างบวชฟักทอง พุดดิ้งฟักทอง ฟักทองสังขยา ฯลฯ แต่สำหรับครั้งนี้ เราจะมาทำ “น้ำฟักทอง” ที่ดีทั้งบำรุงสุขภาพร่างกาย และช่วยเรียกน้ำนมแม่ด้วยค่ะ

            Must Read >> อุ้มลูกดูดนม ด้วย 6 เคล็ดลับ ท่าอุ้มกระตุ้นน้ำนม

            Good to know… “คุณแม่ที่ให้นมลูกควรกินอาหารหรือสมุนไพรที่มีรสร้อน เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงการหลั่งของน้ำนมเพิ่มขึ้น และยังช่วยให้ผู้หญิงที่คลอดลูกมาใหม่ๆ ที่ร่างกายจะมีภาวะเย็นนั้นเกิดภาวะสมดุลตามทฤษฎีการแพทย์ตะวันออก การใส่สมุนไพรที่มีรสร้อนลงไปในเมนูอาหารสำหรับคุณแม่หลังคลอดช่วงให้นมลูก ยังจะช่วยให้ร่างกายของแม่ย่อยและดูดซึมอาหารได้มากขึ้น และส่งผลต่อการเพิ่มของปริมาณน้ำนมแม่ได้”

             

            อ่านต่อ >> “คุณค่าสารอาหารที่ได้จากฟักทอง” คลิกหน้า 2 

             

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

              29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า

              29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า ทุกครอบครัวไปเที่ยวได้ แบบสบายใจ

              29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า ทุกครอบครัวไปเที่ยวได้  ช่วงเทศกาลงานหยุดยาวมีมาให้เตรียมแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวพักผ่อนเติมพลังกาย พลังใจกันอีกแล้วค่ะ ทั้งช่วงหยุดวันปีใหม่  และช่วงหยุดวันสงกรานต์  ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถไปท่องเที่ยวด้วยกันได้แบบพร้อมหน้าพร้อมตาเลยละค่ะ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูล  29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า ที่ทุกครอบครัวสามารถไปท่องเที่ยวได้แบบสบายใจ มาให้ทราบกันค่ะ

               

              29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า ทุกครอบครัวไปเที่ยวได้ แบบสบายใจ

              กรมการกงสุลได้อัพเดทรายชื่อ 29 ประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทย สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า แต่ละประเทศอนุญาตให้อยู่ได้จำนวนวันแตกต่างกัน ซึ่งรายชื่อได้อัพเดทล่าสุดจากกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ที่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทย (พาสปอร์ตไทย) สามารถเดินทางไปประเทศนั้น ๆ ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วการจะเดินทางไปประเทศไหน หาก 2 ประเทศไม่ได้ทำข้อตกลงในการยกเว้นร่วมกัน ประชาชนของประเทศทั้ง 2 จะต้องยื่นขอ “วีซ่า” ก่อนที่จะเข้าไปยังประเทศนั้นๆ ได้อย่างถูกกฎหมาย

               

              และถึงแม้ว่าจะไม่ต้องขอวีซ่า คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเตรียมหนังสือเดินทาง(Passport) ให้พร้อมทั้งของตัวเอง และของทุกคนในครอบครัวด้วยนะคะ ไปดูกันดีกว่าค่ะว่า 29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า นั้นมีประเทศอะไรบ้าง

              อ่านต่อ >> “29 ประเทศไม่ต้องขอวีซ่า ทุกครอบครัวไปเที่ยวได้” คลิกหน้า 2 

               

               

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

               

                เทคนิคเลี้ยงลูก ให้สุขภาพจิตแข็งแรง

                เทคนิคเลี้ยงลูก ให้สุขภาพจิตแข็งแรง เด็กจะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงทั้งร่างกาย และจิตใจ ต้องมาจากครอบครัวที่มีความรัก ความอบอุ่นเป็นรากฐานที่มั่นคง ทีมงาน Amarin Baby & Kids เทคนิคเลี้ยงลูก ให้สุขภาพจิตแข็งแรง จาก พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต มาฝากคุณพ่อคุณแม่ให้ได้นำไปปรับใช้ในการเลี้ยงลูกๆ ที่บ้านกันค่ะ

                 

                เทคนิคเลี้ยงลูก ให้สุขภาพจิตแข็งแรง คืออะไร ?

                การจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้ดีได้ใช้เทคนิค 2 ข้อเท่านั้น  คือ  สร้างความสัมพันธ์ในบ้านที่ดีและสร้างกฎระเบียบที่ดี  ฟังดูจะว่าง่ายก็ง่าย  เพราะมีอยู่แค่ 2 ข้อเท่านั้น  แต่จะมองว่ายากก็ยากอยู่  เพราะทุกวันนี้ยังทะเลาะกับลูกทุกวันอยู่เลยใช่ไหมคะ  แล้วแบบนี้จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้อย่างไร  แล้วกฎระเบียบก็มีให้ลูกอยู่แล้ว  แต่ลูกก็ไม่เคยทำตามเสียที  ก่อนจะกลุ้มใจไปมากกว่านี้  ขอให้คุณพ่อคุณแม่ลองอ่านรายละเอียดแล้วลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ  หมอรับรองว่าหากคุณพ่อคุณแม่ทำได้  จะช่วยให้ลูกสุขภาพจิตแข็งแรงมากขึ้นแน่นอน

                อ่านต่อ >> “2 เทคนิคเลี้ยงลูก ให้สุขภาพจิตแข็งแรง” คลิกหน้า 2 

                 

                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                 

                  เลือกหนังสือให้ลูก

                  เทคนิค เลือกหนังสือให้ลูก อย่างฉลาด เหมาะกับวัย

                  เลือกหนังสือให้ลูก …เพราะการอ่านถือเป็นพื้นฐานของการพูด และการเขียน มีคนตั้งหลายคนเคยประสบความสำเร็จในชีวิตได้ด้วยการอ่านหนังสือ  ยิ่งอ่านมากยิ่งได้เปิดโลกทัศน์มาก และยิ่งอ่านมากเราจะยิ่งมีคลังคำศัพท์มากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เด็กที่ได้ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เด็ก  เขาจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่รักการอ่านด้วย Continue reading “เทคนิค เลือกหนังสือให้ลูก อย่างฉลาด เหมาะกับวัย”

                    ภาวะซีดในทารก

                    รู้ทัน ภาวะซีดในทารก ก่อนลูกขาดธาตุเหล็กรุนแรง

                    ภาวะซีดในทารก อายุ 6 เดือนขึ้นไป เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ การให้ลูกกินยาเสริมธาตุเหล็กเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่หายขาดและมีโอกาสกลับมาซีดใหม่ได้อีก ดังนั้นจึงต้องแก้ที่สาเหตุ และควบคู่ไปกับการมีความรู้เรื่องอาหารเสริมที่ถูกต้องสำหรับลูกน้อยค่ะ Continue reading “รู้ทัน ภาวะซีดในทารก ก่อนลูกขาดธาตุเหล็กรุนแรง”

                      สร้าง Self Esteem ให้ลูก ด้วยการเรียนว่ายน้ำ

                      กระแสการพาเบบี๋และเด็กเล็กๆไป เรียนว่ายน้ำ นั้นมาแรงที่สุดในยุคนี้ก็ว่าได้  จนหลายคนคิดไปเองว่าเป็นแฟชั่น  ที่อันที่จริงแล้ว เราพาลูกไปเรียนว่ายน้ำเพื่ออะไร?  และเพื่อใคร?  คำตอบอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว  เราทุกคนต่างทราบดีว่าการว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด  ไม่ใช่สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น  แต่สำหรับเด็กก็เช่นกัน  ว่ายน้ำเป็นหนึ่งในกีฬาเพียงไม่กี่ชนิดที่จะช่วยให้ลูกของเราเอาชีวิตรอดได้  หรือที่เรียกว่า Survival Skill

                      เรียนว่ายน้ำ

                      ในต่างประเทศเช่น ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกานั้น การเริ่มเรียนว่ายน้ำของทารก แทบจะเป็นสิ่งจำเป็นของทุกครอบครัว  และมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องมาหลายทศวรรษแล้ว  เพราะการจมน้ำเป็นสาเหตุอันดับที่ 2 ของการเสียชีวิต รองจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในออสเตรเลีย  การจมน้ำในอีกหลายกรณียังทิ้งความเสียหายทางสมองไว้อีกด้วย  สำหรับประเทศไทยนั้น ในกลุ่มเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี การจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในทุกสาเหตุทั้งโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ (ข้อมูลจากสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค เรื่อง “สถานการณ์การจมน้ำของเด็กไทย ปีพศ.2557”)

                      เรียนว่ายน้ำ เรียนว่ายน้ำ

                      แน่นอนที่สุด คำตอบคือ เราพาลูกไปเรียนว่ายน้ำเพื่อเป็นทักษะการเอาชีวิตรอดแก่ตัวลูกเอง  เป็นของขวัญที่เราสามารถให้ติดตัวกับลูกเช่นเดียวการพาลูกไปเรียนหนังสือเพื่อเสริมสร้างทักษะทางปัญญา  แต่สิ่งที่ได้มานั้นกลับทวีค่ามากมาย เพราะการว่ายน้ำยังเสริมสร้างความแข็งแรงทางร่างกาย  การประสานกันของการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อแขนขา  พัฒนาการด้านอารมณ์  และเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว   และสร้าง Self Esteem ขึ้นในตัวเด็กว่า เค้าก็สามารถทำได้  “I am a Hero” ผ่านการเรียนอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องอย่างสนุกสนานไปตามวัยของเด็กๆ

                      เรียนว่ายน้ำ เรียนว่ายน้ำ

                      ถึงเวลาแล้วที่จะสร้าง “จุดเปลี่ยน” ทัศนคติของพ่อแม่ให้เปิดรับการว่ายน้ำของทารกและเด็กเล็กมากขึ้น ว่าไม่เป็นอันตราย เพียงแต่ต้องอยู่ในการฝึกสอนจากโรงเรียนสอนว่ายน้ำที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ  โดยมีครูที่มีความชำนาญและมีความรู้และประกาศนียบัตรเฉพาะทางด้านการสอนทารกและเด็กเล็กโดยเฉพาะ  และควรเป็นสระน้ำอุ่น โดยอุณหภูมิที่เหมาะกับการว่ายน้ำของทารกมากที่สุดคือ 30-330C  รวมทั้งมีมารฐานการดูแลรักษาคุณภาพน้ำที่ดีเยี่ยมเพื่อความสะอาดและปลอดภัยของสระน้ำและบริเวณโดยรอบ

                      คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจลองแวะมาดูที่ BABY POOL ได้ทั้ง 8 สาขา คือ สาขาสุขุมวิท 38  เลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา  บางนา  รังสิต  ราชพฤกษ์ และต่างจังหวัดที่สาขาศรีราชา  เชียงใหม่  และล่าสุดคือสาขาปัญญาอินทรา

                      www.babypoolthailand.com

                      www.facebook.com/babypoolthailand

                      Call Center: 081-933-7030

                      เรียนว่ายน้ำ

                        คำพูดที่ลูกอยากได้ยิน จากพ่อแม่มากที่สุด

                        10 คำพูดดีๆ ลูกอยากได้ยิน จากพ่อแม่

                        คำพูดดีๆ ลูกอยากได้ยิน จากพ่อแม่ เวลาที่ได้ยินคนรอบข้าง หรือคนอื่นที่ไม่เคยรู้กันมาก่อน ที่มาพูดคุยด้วยน้ำเสียง วาจาที่สุภาพอ่อนโยน พอได้ยินได้ฟังก็รู้สึกรื่นหู สบายใจที่จะพูดคุยตอบกลับไปด้วย  เด็กๆ ก็ไม่ต่างจากผู้ใหญ่ พวกเขาก็ต้องการได้ยินคำพูดดีๆ จากพ่อแม่และคนรอบข้างเช่นกัน ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี 10 คำพูดๆ ลูกอยากได้ยิน จากพ่อแม่ มาบอกต่อให้ได้ทราบกันค่ะ

                         

                        คำพูดดีๆ ลูกอยากได้ยิน จากพ่อแม่ หมายความว่าอย่างไร ?

                        คำพูดเปรียบได้ดั่งอาวุธที่สามารถทำให้คนที่ได้ยินได้ฟังรู้สึกเจ็บใจ  เสียความรู้สึก  เสียใจ  หรือโกรธเคืองกันก็ได้  ดังนั้นก่อนที่จะพูดอะไรออกจากปากตัวเราเอง จะต้องคิดทบทวนให้ดีว่าคำพูดของเรานั้นเมื่อพูดออกไปแล้วจะไปทำร้ายใครหรือเปล่า  ยิ่งโดยเฉพาะกับคำพูดของพ่อแม่ บางครั้งอาจพูดอะไรออกไปแบบไม่ทันได้คิด  อาจจะเพราะอารมณ์ชั่ววูบ อารมณ์หงุดหงิด  แต่คำพูดที่ไม่ได้คิด ไม่ได้ตั้งใจนั้นอาจไปทำร้ายจิตใจของลูกได้อย่างมาก

                        ในเด็กเล็กๆ ที่เริ่มกันตั้งแต่ 1- 3 ขวบขึ้นไป เป็นช่วงวัยที่ลูกมีความเข้าใจกับทุกเรื่องได้อย่างดี เด็กๆ สามารถจดจำ คำพูด คำสัญญาจากพ่อแม่ และคนรอบข้างได้อย่างดีว่าจะไปไหน หรือให้อะไรกับพวกเขา  ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูกจะรู้สึกกับคำพูดของพ่อแม่ ที่ถ้าหากพูดดีนำเสียงอ่อนโยน ลูกก็จะรู้สึกสบายใจ อบอุ่น และปลอดภัยเมื่ออยู่กับพ่อแม่ แต่เมื่อใดคำพูดนั้นเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงตะคอก กระแทกกระทัน น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความโกรธเคือง ความเกลียดชั่ง คำพูดเหล่านี้ถือเป็นยาพิษที่คอยทำร้ายใจลูกให้ชอกช้ำเสียใจเป็นอย่างมาก   เพื่อไม่ให้คำพูดของพ่อแม่มาทำร้ายลูกโดยทางอ้อม ควรมีการไตร่ตรอง คิดให้หนักว่าคำพูดใดถ้าพูดออกไปจะมีผลเสียต่อจิตใจของลูกนะคะ

                        อ่านต่อ >> “10 คำพูดดีๆ ลูกอยากได้ยิน จากพ่อแม่” คลิกหน้า 2

                         

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                         

                          ลูกท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง เลือกยาตัวไหนให้ลูกดี?

                          ลูกท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง ท้องอืด มีลมในท้อง …อีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยในทารก ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต สาเหตุที่ทารกมีอาการท้องอืดบ่อยๆ เนื่องจากระบบย่อยอาหารของทารกยังทำงานได้ไม่ดีพอ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรดูแลสุขภาพของลูกน้อยและหมั่นสังเกตอาการของลูก

                          ลูกท้องอืด ท้องเฟ้อ มีอาการดังนี้

                          1. ปวดท้อง เหมือนมีลมอยู่ในท้อง
                          2. ร้องไห้งอแง
                          3. ไม่ยอมนอน เคาะท้องแล้วได้ยินเสียงเหมือนมีลมอยู่
                          4. มือเท้างอ เหมือนอาการปวดท้อง ท้องแข็ง
                          Must readOverfeeding ให้ลูกกินนมมากเกินไป อันตรายหรือไม่?

                          ลูกท้องอืด

                          เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                           

                          ลูกท้องอืด ท้องเฟ้อ เพราะอะไร?

                          1. ระบบย่อยอาหารของลูกยังทำงานไม่สมบูรณ์
                          2. ลูกดูดนมนานจนเกินไป
                          3. มีลมเข้าท้องตอนที่ลูกดูดนมจากขวด
                          4. หลังจากที่ลูกกินนมแล้ว คุณแม่ไม่ได้จับให้ลูกเรอ เพื่อขับลม

                          อย่างไรก็ตาม อาการท้องอืดในเด็กสามารถป้องกันได้ ด้วยการอุ้มทารกขณะให้นม และหลังให้นมแล้วทำให้ทารกเรอหรือถ้าให้ลูกดูดนมจากขวด อย่าหมุนฝาแน่นเกินไป เพราะจะทำให้เกิดลมในขวดนมเวลาลูกดูดได้ค่ะ (อ่านต่อ “เรอ” นั้นสำคัญไฉน) หรือจับลูกนอนคว่ำ เพื่อให้น้ำหนักตัวของลูก กดท้องเพื่อขับลม และอุ้มลูกแนบอก คางเกยไหล่ และลูบหลังลูกเบา(ลูบลง) ซัก 10-20 นาที

                          รวมไปถึงการนวดท้องให้ลูก จับลูกนอนหงายวางมือคุณแม่เพื่อหาจุดกึ่งกลางของช่องท้อง วางฝ่ามือทั้ง 2 ข้างเหนือจุดกึ่งกลางท้อง แล้วหมุนมือวนตามเข็มนาฬิกาประมาณ 2-3 ครั้ง ท่านี้ช่วยให้ระบบหมุนเวียนของลำไส้ดีขึ้นค่ะ

                          Must read : 17 ท่านวดแบบง่ายๆ ช่วยลูกรัก ผ่อนคลาย-สุขภาพดี-พัฒนาการเยี่ยม

                          ทั้งนี้ในเรื่องของการใช้ยาบรรเทาอาการแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อสำหรับทารก คุณแม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ซึ่งจะมีทั้งแบบยาทาอย่างมหาหิงคุ์ ยานี้เป็นยาที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ  เด็กทารกสามารถใช้ได้ กลิ่นของมหาหิงค์จะช่วยให้ลูกเรอ ช่วยขับลมในท้องลูกได้ และยากินแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อสำหรับทารก อย่าง ไกร๊ปวอเตอร์ เบบี้ดอล หรือ แอร์-เอ็กซ์

                          Must read : ตู้ยาสามัญประจำบ้านสำหรับลูกน้อยต้องมีอะไรบ้าง?

                          Amarin Baby & Kids จึงมีตัวยาทั้ง 4 อย่างที่กล่าวมา ให้คุณแม่ได้พิจารณา ดูเปรียบเทียบสรรพคุณและตัวยาสำคัญของยาเหล่านั้น เพื่อเลือกใช้เป็นยาบรรเทาอาการแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อสำหรับเด็ก แล้วแต่ละยี่ห้อ จะมีความแตกต่างกันอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ

                          อ่านต่อ >> “เปรียบเทียบยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อสำหรับเด็ก” คลิกหน้า 2

                          ลูกท้องอืด

                            สร้างสุขให้ลูกรัก

                            6 เคล็ดลับ สร้างความสุขให้ลูกรัก สมองเติบโต

                            สร้างความสุขให้ลูกรัก เด็กที่เติบโตมาในครอบครัว และสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนรอบข้างจิตใจดี นิสัยน่ารัก มีความรักและเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน จะทำให้เด็กเติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุข และเป็นคนดีของสังคม  ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีเคล็ดลับในการ สร้างความสุขให้ลูกรัก ที่ส่งผลต่อพัฒนาการสมองที่เติบโตได้ดี มาฝากกันค่ะ

                             

                            สร้างความสุขให้ลูกรัก ดีอย่างไร ?

                            เขาว่ากันว่าหากอยากให้ลูกเป็นเด็กที่มีความสุข และมีพัฒนาการด้านอารมณ์ดี ต้องเริ่มมาจากพ่อแม่ที่ต้องมีความสุขแบบสุขจริงๆ เป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น เพื่อให้ลูกได้ค่อยๆ ซึมซับไปจากพ่อแม่ มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ชัดว่า เด็กที่มีความสุขและมองโลกในแง่ดี มาจากครอบครัวที่มีความสุขและมองโลกในแง่ดี โดยทั่วไปแล้วความสุขเป็นอารมณ์ที่สามารถเชื่อมโยงและถ่ายทอดกันได้ หากเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ เราเองก็พลอยที่จะรู้สึกเช่นนั้นไปด้วย งานวิจัยทางสมองเองก็ช่วยยืนยันข้อเท็จจริงประการนี้ โดยชี้ว่า ในสมองของมนุษย์มี Mirror Neurons ซึ่งเป็นส่วนในการรับรู้และเลียนแบบ หากพ่อแม่ตระหนักความสำคัญในประการนี้ และรับรู้ได้ว่าตนเองไม่มีความสุขเท่าที่ควร พ่อแม่เองคงต้องหาทางปรับปรุง จัดการ หรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เพื่อให้พ่อแม่มีความสุขซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของความสุขของลูก1

                            Must Read >> วิธีทำให้ลูกมีความสุข 100 ข้อ

                            อ่านต่อ >> “เลี้ยงลูกอย่างไรให้มีความสุข” คลิกหน้า 2

                             

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                              กรรไกรปักตา

                              อุทาหรณ์! ลูกน้อยเล่นซนจนกรรไกรปักคาตา

                              วัยเด็ก เป็นวัยที่มีการเจริญเติบโต และเรียนรู้สิ่งต่างๆ อย่างรวดเร็ว เด็กๆ จะมีความอยากรู้อยากเห็น และสนใจสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ในวัยนี้จะมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวค่อนข้างมาก เด็กๆ จึงไม่อยู่นิ่ง ซุนซน จนบางครั้งทำให้เกิดอุบัติเหตุ กรรไกรปักตา เช่นนี้ได้

                              Continue reading “อุทาหรณ์! ลูกน้อยเล่นซนจนกรรไกรปักคาตา”

                                มะเร็งรังไข่

                                สัญญาณเตือนโรค “มะเร็งรังไข่” ภัยเงียบที่ผู้หญิงควรรู้!

                                รู้ไหมว่า? ปัจจุบันโรคมะเร็งยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ในประเทศไทย ในสตรีนอกจากโรคมะเร็งเต้านม และโรคมะเร็งปากมดลูกแล้ว โรค มะเร็งรังไข่ สาวๆ ก็ควรพึงระวังด้วย

                                มะเร็งรังไข่ เป็น เซลล์เนื้อร้ายที่เกิดขึ้นในรังไข่ของเพศหญิง เป็นมะเร็งที่พบได้มากของมะเร็งระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง ทั้งนี้ยังพบว่าโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ เป็นหนึ่งในโรคที่คุกคามชีวิตและสุขภาพร่างกายของผู้หญิงอย่างร้ายแรง โดยโรคมะเร็งรังไข่จะพบมากเป็นอันดับ 6 ของโรคมะเร็งในสตรี และมีโอกาสเกิดโรคประมาณ 100,000 คนต่อปี โดยจะพบมากในช่วงอายุ 40-60 ปี แต่ในเด็กวัยก่อนหรือหลังวัย 10 ปีก็อาจจะพบได้เช่นกัน

                                มะเร็งรังไข่ ภัยเงียบที่ผู้หญิงต้องระวัง

                                มะเร็งรังไข่

                                รังไข่ คือ อวัยวะเพศอย่างหนึ่งของผู้หญิง มีลักษณะคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ มีขนาดทั่วไปประมาณ 2-3 เซนติเมตร จะอยู่ข้างปีกมดลูกทั้งสองข้าง หน้าที่หลัก ๆ คือ ผลิตไข่สำหรับผสมกับเชื้อของเพศชายจนกลายเป็นตัวอ่อนฝังอยู่ในโพรงมดลูก อีกหน้าที่สำคัญคือผลิตฮอร์โมนเพศหญิง ทั้งนี้สามารถจำแนกชนิดของมะเร็งรังไข่ตามตำแหน่งเริ่มต้นของเซลล์มะเร็งได้ 3 กลุ่ม คือ

                                1. Epithelial Tumors : มะเร็งเยื่อบุผิวรังไข่ จุดเริ่มต้นที่เซลล์เยื่อบุผิวรังไข่และช่องท้อง เป็นกลุ่มที่พบได้บ่อยที่สุดประมาณ 90% ของมะเร็งรังไข่

                                2. Germ Cell Tumors: มะเร็งฟองไข่ จุดเริ่มต้นของก้อนเนื้องอกที่เกิดจากเซลล์สืบพันธุ์ต้นกำเนิด พบได้ร้อยละ 5-10 ของมะเร็งรังไข่ มักพบในผู้หญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี

                                3. Sex Cord-Stromal Tumors: มะเร็งเนื้อรังไข่ จุดเริ่มต้นที่เนื้อเยื่อเกี่ยวกันของรังไข่ ซึ่งผลิตฮอร์โมนเพศหญิง โอกาสพบน้อยมาก

                                ทั้ง 3 กลุ่มข้างต้นยังสามารถแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของร่างกายที่เรียกว่าเป็นมะเร็งรังไข่ระยะแพร่กระจายได้ด้วย

                                Must readพัฒนาการของทารกในครรภ์ ตั้งแต่ปฏิสนธิ จนกระทั่งเกิด (มีคลิป)

                                โรคมะเร็งรังไข่มี 4 ระยะเช่นเดียวกับโรคมะเร็งอื่นๆ และในแต่ละระยะยังแบ่งย่อยได้อีก เพื่อแพทย์โรคมะเร็งใช้เป็นข้อบ่งชี้ทางการรักษาและในการศึกษาวิจัย ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงแต่ 4 ระยะหลักได้แก่

                                • ระยะที่ 1 โรคมะเร็งลุกลามอยู่แต่เฉพาะในรังไข่อาจข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
                                • ระยะที่ 2 โรคมะเร็งลุกลามเข้าอวัยวะอื่นๆ ในท้องน้อยเช่น มดลูกและ/หรือเยื่อบุช่องท้องในส่วนช่องท้องน้อย
                                • ระยะที่ 3 โรคมะเร็งลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ/อวัยวะในช่องท้องเช่น ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง และ/หรือเยื่อบุช่องท้องส่วนเหนือช่องท้องน้อย และ/หรือมีน้ำในช่องท้อง
                                • ระยะที่ 4 มีโรคแพร่กระจายเข้ากระแสโลหิต (เลือด) ไปยังอวัยวะอื่นๆ ซึ่งเมื่อแพร่กระจายมักเข้าสู่ปอด ตับ และสมอง

                                อ่านต่อ >> “สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งรังไข่” คลิกหน้า 2

                                เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                                 

                                  ไอเดียสำหรับพ่อแม่

                                  สุดเจ๋ง! 15 ไอเดียสำหรับพ่อแม่มือใหม่ใช้เลี้ยงลูก

                                  การเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หลายๆ ปัญหาก็ไม่ได้ยากเกินไปกว่าไอเดียสร้างสรรค์ของพ่อแม่ ที่เปลี่ยนความวุ่นวายทั้งหลายให้เป็นความง่ายดายได้อย่างไม่น่าเชื่อด้วย ไอเดียสำหรับพ่อแม่มือใหม่ ที่คุณอาจไม่ทันคาดคิดเหล่านี้ Continue reading “สุดเจ๋ง! 15 ไอเดียสำหรับพ่อแม่มือใหม่ใช้เลี้ยงลูก”

                                    อย่า…สอนลูกให้โง่? เรื่องที่มนุษย์แม่ต้องรีบอ่าน!

                                    สอนลูกให้โง่ …คุณเคยสอนลูกแบบนี้บ้างหรือเปล่า??? เชื่อว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกโง่หรอกค่ะ แต่บางครั้งการสอนในบางเรื่องพ่อแม่อาจเผลอทำไปเพื่อให้ลูกไม่เสียใจ หรือสบายใจได้ในขณะ จนกลายเป็นว่าสอนรู้แบบผิดๆ โดยไม่รู้ตัวไปได้

                                    สอนลูกให้โง่

                                    การอบรมสั่งสอนเด็กนั้นเป็นสิ่งที่ดี จำเป็น และเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของพ่อแม่ แต่ก็มีพ่อแม่บางคน ที่อาจจะทำด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม คุณก็ได้เผลอสอนในสิ่งที่เป็นการทำลายลูกโดยไม่รู้ตัวหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราคำสอนบางอย่างนั้นอาจทำให้เด็กเข้าใจผิดไปได้ เป็นการทำลายสัญชาตญาณ ขัดขวางกระบวนการคิดของเด็ก จนบางครั้งอาจเรียกได้ว่า “สอนแบบนี้ ไม่สอนอะไรเลยอาจจะยังดีเสียกว่า”

                                    อ่าน 15 นาทีทุกวัน

                                    อยากให้ลูกฉลาดต้องสอนให้เป็น … อย่า สอนลูกให้โง่ !

                                    แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ยังนึกไม่ออกว่าคำสอนประเภทไหน ที่อาจทำร้ายลูกทางอ้อมได้ ลองมาดูกัน

                                    ♠ โทษทุกอย่างทั้งที่เป็นความผิดลูกเอง

                                    ลูกเดินชนโต๊ะ แม่ก็ตีโต๊ะ ลูกหกล้ม แม่ก็ตีพื้น …แล้วบอกลูกว่าแม่จัดการกับสิ่งที่ทำให้หนูเจ็บให้แล้วนะ!  ซึ่งปกติแล้วเมื่อเด็กเดินไม่ระวังชนโต๊ะเจ็บตัว สิ่งนี้จะถูกฝังเข้าไปในความจำของเด็ก แล้วครั้งหน้าเมื่อเด็กจะเดินผ่านโต๊ะอีก ความเจ็บตัวจากครั้งที่แล้วจะสอนให้เขาระวังตัวมากขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่การสอนแบบนี้คือการทำลายการเรียนรู้จากความจำหรือประสบการณ์ของเขา

                                    Must readเลี้ยงลูกแบบโอเว่อร์ ระวังลูกด้อยพัฒนา เสียสุขภาพจิต!

                                    คุณพ่อคุณแม่เคยได้ยินประโยคนี้ไหม “คนโง่ไม่เรียนรู้อะไรเลยจากความผิดพลาด คนฉลาดเรียนรู้จากความผิดพลาด คนฉลาดกว่าเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น”

                                    แล้วคุณพ่อคุณแม่คิดว่า การที่สอนแบบโยนความผิดไปให้สิ่งของอื่นๆ นั้นถูกต้องแล้วหรือ ซึ่งแท้จริงแล้ว ก็คือการสอนให้ลูกไม่เรียนรู้อะไรเลยจากความผิดพลาดนั้นเอง และผลที่ได้จะเป็นอย่างไร คุณอ่านในประโยคข้างบนอีกที ก็คงทราบดี นอกจากนั้นแล้วเด็กที่โตมากับการสอนแบบนี้มีแนวโน้มสูงที่โตขึ้นแล้วจะเป็นผู้ใหญ่ที่โทษได้ทุกอย่างนอกจากตัวเอง

                                    อ่านต่อ >> วิธีสอนลูกฉลาดต้องสอนให้เป็น … อย่า สอนลูกให้โง่” คลิกหน้า 2

                                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่