บ้านกางใจ

บ้านกางใจ พื้นที่สำหรับเด็กๆ เล่น เรียนรู้ ตามวัย เติบโตไปอย่างมีความสุข

event
บ้านกางใจ
บ้านกางใจ

ใครกำลังมองหา ที่เรียนของเจ้าตัวเล็ก อายุไม่เกิน 2-4 ขวบ ย่านบางคอแหลม วันนี้แม่เลม่อน ทีมแม่ ABK มี บ้านกางใจ Co Learning Space ดีๆ มาแนะนำกันค่า

บ้านกางใจ Co Learning Space for kids and families
เล่น เรียนรู้ ตามวัย เติบโตไปอย่างมีความสุข

บ้านกางใจเป็นบ้านเก่า 2 ชั้น ที่ถูกนำมาปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นพื้นที่เพื่อการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเด็กๆและครอบครัว แม้ขนาดจะไม่ใหญ่มากแต่บ้านหลังนี้ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ปลอดภัย และเป็นมิตรกับเด็กๆ แบบที่แม่ๆหลายคนต้องการ

จุดเริ่มต้นของโรงเรียน บ้านกางใจ

ครูไนซ์ กวิตา พุฒแดง ผู้ก่อตั้งบ้านกางใจ เล่าให้ฟังว่า ตนเองรู้สึกตั้งคำถามกับการศึกษามาตั้งแต่เล็ก ตอนเด็กๆมักจะถูกครูกดดันและดุอยู่เสมอ ว่าเรียนไม่เก่ง,ขี้เกียจ ลายมือก็ไม่สวย กลายเป็นความทรงจำไม่ดีในวัยเด็ก ที่ฝังอยู่ในหัวใจเสมอมา

จนเวลาผ่านไป 20 เพิ่งรู้ว่าสาเหตุที่เด็กเขียนหนังสือไม่สวย เพราะกล้ามเนื้อมัดเล็กยังไม่แข็งแรง และการศึกษาไทยไม่มีช่องว่างให้เราได้เล่นได้ฝึกกล้ามเนื้อเลย จริงๆแล้วกระบวนการการเรียนรู้ต่างหากที่ไม่ได้สนับสนุนให้เด็กเกิดการเติบโตที่ดี นี่เป็นเหตุผลที่ผลักดันให้เราหาความรู้ด้านนี้ต่อ ครูไนซ์สนใจเรื่องจิตวิทยาและพัฒนาการเด็กมาตลอด เริ่มสะสมนิทาน และเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้าน Learning Science and Education (วิทยาศาสตร์และการเรียนรู้) ซึ่งเป็นการเรียนเกี่ยวกับการออกแบบการเรียนรู้สำหรับคนที่หลากหลาย หลังเรียนจบก็ทำงานค่อนข้างหลากหลาย รวมไปถึงเป็นครูอนุบาลตามสถาบันดังๆ ด้วย  ทำงานอนุบาลอยู่ 4-5 ปี ก็เริ่มอิ่มตัว และรู้สึกว่าโรงเรียนแต่ละที่ก็ยังมีระบบที่ชัดเจน รู้สึกไม่เหมาะกับตนเองและคิดว่าในประเทศไทยยังมีพื้นที่ที่ให้เด็กเป็นอิสระน้อย เลยเลือกจะมาทำพื้นที่ของตัวเอง ให้เด็กๆอิสระและเติบโตอย่างสวยงาม

โรงเรียนบ้านกางใจ
เด็กๆเล่นและเรียนรู้อย่างอิสระ กับของเล่นที่เรียบง่ายแต่เสริมจินตนาการ

จุดเริ่มต้นของบ้านกางใจคือ อยากให้เด็กๆ ได้สนุกกับการเป็นตัวเอง โดยใช้นิทานเป็นตัวจัดกระบวนการ เด็กไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ผ่านกระดาน แต่เรียนรู้ผ่านเพลงผ่านกิจกรรมที่จะซึมซับเข้าไปในตัวเด็กเอง ให้พ่อแม่กลับมาทำงานเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ใช่ว่าพ่อต้องแก้นะ แม่ต้องแก้ หรือลูกต้องแก้ แต่แก้ไขไปพร้อมๆกันทั้งครอบครัว ให้ความสำคัญกับการทำงานเรื่องจิตวิทยาและพัฒนาการ โดยได้แรงบันดาลใจหลักมาจาก “วอลดอร์ฟ” ในขณะเดียวกันก็ชื่นชอบของเล่นสไตล์ “มอนเตสซอรี่” ด้วย จึงเอามาผสมผสานกัน ส่วนคีย์หลักจริงๆ ของโรงเรียน คือ อยากให้เด็กมี Self Esteem ( ความภูมิใจในตัวเอง) ที่แข็งแรงพอจนเกิด Critical Thinking แล้วอย่างอื่นจะตามมาเอง ทั้ง  EQ, IQ ,EF ต่างๆ

บ้านกางใจ
เด็กๆที่นี่นั่งอ่านนิทานภาพเองได้ด้วยตนเอง

เทคนิคการทำงานร่วมกับพ่อแม่

โรงเรียนส่วนใหญ่ทำงานมิติเดียวคือกับเด็กเท่านั้น แต่จริงๆแล้วเราควรทำงานร่วมกับผู้ปกครองด้วย ต้องช่วยกางใจคุณพ่อคุณแม่เพื่อให้เห็นแสงในตัวเด็ก การเริ่มต้นแก้ปัญหาเรามักจะเริ่มต้นแก้ที่ตัวเด็ก เรามองไปที่ตัวเด็ก 100 % แต่เราไม่เคยมองมาที่ตัวเอง หรือสิ่งแวดล้อมเลย ว่าเราเองหรือเปล่าที่มีส่วนสร้างปัญหานี้ จากประสบการณ์ 4-5 ปีที่ผ่านมาเราทำงานกับเด็กในชั่วโมงเรียนและเราทำงานร่วมกับพ่อแม่ทำให้เห็นว่าพัฒนาการของเด็กดีขึ้นแบบก้าวกระโดด พ่อแม่จะมีวิธีการคิดและการแก้ปัญหาที่เปลี่ยนไปกับจริงๆแล้วพ่อแม่ต้องทำงานเป็นหลักก่อนแล้วก็ช่วยคุณครูซับพอร์ต

บ้านกางใจ

บ้านกางใจ

บ้านกางใจ
เมื่อเล่นและอ่านนิทานเสร็จแล้ว เด็กๆจะเข้าสู่กิจกรรม บ๊ายบายของเล่น เป็นกิจกรรมที่ให้เด็กๆ ช่วยกันเก็บนิทานและของเล่น ตามจุดต่างๆด้วยตนเอง

บ้านกางใจ

บ้านกางใจ
กิจกรรมวงกลม ร้องเพลงประกอบท่าทางต่างๆ ฝึกประสาทการพูดและฟัง

การเริ่มต้นสำคัญที่สุด

บ้านกางใจ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป และให้เวลาเด็กๆ ปรับตัว ที่นี่ให้ความสำคัญกับช่วงเวลาก่อนเริ่มเรียนมาก ที่นี่จะสังเกตพัฒนาการเด็กเป็นเวลา 2 อาทิตย์ก่อนที่จะเริ่มเข้าเรียน ระหว่างทางก็จะพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ว่าอยากให้โรงเรียนช่วยเสริมพัฒนาการด้านไหนหรือปรับเรื่องอะไรบ้าง เราจะช่วยสร้างแรงจูงใจและปรับตัวเด็กทีละนิดเพื่อให้คุ้นกับการมาเรียนมากที่สุด เด็กที่เริ่มใหม่อาจจะอยู่โรงเรียนแค่1-2 ชั่วโมง เมื่อเด็กปรับตัวได้เด็กจะอยู่ได้จนครบเวลา  ตามธรรมชาติ บ้านในกังวลเรื่องการปรับตัวของลูกข้อนี้ค่อนข้างตอบโจทย์เลยทีเดียว

ทีมที่ดี

บ้านกางใจ ให้ความสำคัญกับบุคลากรที่จะเข้ามาทำงาน ครูทุกคนจะมีคาแรคเตอร์แบบเดียวกัน มีทัศนคติที่ดี เพื่อให้เด็กมองไปในทิศทางเดียวกันได้ง่าย รวมไปถึงแม่บ้านที่ช่วยดูแลเด็ก ก็จะถูกฝึกให้เป็นทีมเดียวกันด้วย เราจะป้อนความรู้ให้ทุกคน เราใส่ใจแม้กระทั่งบทสนทนากับเด็กๆว่าควรจะเป็นอย่างไรและแบบไหนที่จะไม่สร้างแผลหรือทำร้ายจิตใจเด็ก ใส่ใจในทุกรายละเอียดขนาดนี้ เราให้10 เต็ม 10 เลย

จังหวะชีวิตสม่ำเสมอ พอดิบพอดี

บ้านกางใจให้ความสำคัญกับการค่อยๆเป็นค่อยๆในแต่ละกิจกรรม ไม่เปลี่ยนกะทันหัน ใช้เพลงมาช่วยเปลี่ยนโดยที่เด็กจะเริ่มเห็นและสังเกตสัญลักษณ์ เช่น การปิดไฟ ร้องเพลง ปิดแอร์ เล่านิทาน ล้างมือ และจะเข้าจะกระบวนการเปลี่ยนกิจกรรมได้ด้วยตนเอง โดยไม่งอแง เป็นเทคนิคง่ายๆที่แม่ๆเก็บไว้ใช้กับลูก

บ้านกางใจ
บรรยากาศห้องเรียน โทนสีอบอุ่นสบายตา จัดวางของแบบเรียบง่าย ไม่ฉูดฉาด ให้เด็กๆมีความสุขอยู่กับความเรียบง่ายไม่หวือหวา

5 สิ่งพิเศษที่ทำให้เด็กอยากมาโรงเรียน บ้านกางใจ ทุกวัน 

1.มีความสุขแบบง่ายๆและเป็นตัวเองมากที่สุด

มีเพลงนำกิจกรรมทุกอย่าง เพื่อให้เด็กไม่ต้องฝืน เพื่อเปลี่ยนกิจกรรม เด็กจะมีความสุขแบบง่ายๆไม่สนุกสุดโต่ง อยู่กับความธรรมดาเป็น เด็กถือน้ำไม่หก เก็บของเล่นถูกจุด แค่นี้ก็เกิดสมาธิแล้ว ส่วนของเล่นที่นี่เป็นของเล่นราคาไม่แพงแต่เสริมสร้างจินตนาการ ไม่มีถูกไม่มีผิด เด็กผู้หญิงอยากเล่นแบบเด็กผู้ชายก็ได้ เด็กผู้ชายก็สามารถเล่นแบบเด็กผู้หญิงได้เช่นกัน หรืออยากเล่นตุ๊กตาก็ได้ แบบนี้ลูกมีความสุขแน่นอน

2.เน้นเล่นและเรียนรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆ

เด็กไม่เครียด ไม่กดดัน บ้านกางใจเน้นให้เด็กๆทำทุกกิจกรรมด้วยตนเอง ไม่แทรกแซงการเล่นของเด็ก ให้เด็กๆได้เรียนรู้ทุกอย่างผ่านการเล่น ทั้งวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องขึ้นบนกระดาน ไม่มีอะไรถูกผิด ให้เด็กยืดหยุ่น ไม่ยึดติด มีหัวใจที่แข็งแรงรับมือกับอนาคตของตนเองได้ กิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการ เช่น การทำอาหารที่สอดคล้องกับนิทาน เด็กๆจะได้สวมบทบาท เป็นเชฟตัวน้อย สร้างสรรค์เมนูง่ายๆ เรียนรู้เรื่องวัตถุดิบต่างๆ เด็กๆสามารถออกแบบการเล่นได้อย่างอิสระ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีสมาธิ เผชิญปัญหาและแก้ไขปัญหาตามศักยภาพของตนเอง  นอกจากนี้เด็กๆจะได้แต่งแต้มจินตนาการผ่านศิลปะ ได้รู้จักตนเองและผู้อื่นมากยิ่งขึ้นผ่านการฟังนิทานรูปแบบต่างๆ เช่น นิทานภาพ นิทานเพลง นิทานเคลื่อนไหว จากนั้นจะได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดออกมา เป็นผลงานศิลปะ เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆกล้าคิด กล้าแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

บ้านกางใจ
มุมนิทานเล็กๆ ตกแต่งเพดานด้วยผ้าโปร่ง สร้างบรรยากาศให้มุมนี้น่ารักสดใสมากยิ่งขึ้น

3.ออกแบบและจัดสถานที่ ให้อบอุ่นเหมือนบ้านของเด็กๆ

การออกแบบและจัดสถานที่ผสมผสานระหว่าง สไตล์วอลดอร์ฟและมอนเตสซอรี่  เข้ามาด้านในผนังจุดแรกเพนท์สีเหลืองสดใส เทคนิค ‘ลาซัวร์เพนติ้ง’ (lazure painting) (ซึ่งเป็นการระบายสีเชิงแนวคิดปรัชญา ด้วยการเพนท์สีซ้อนเป็นชั้นๆให้เคลื่อนไหวเป็นจังหวะ ดูมีชีวิต)  เหมือนสีพระอาทิตย์ขึ้น แล้วค่อยๆไล่เฉดลงมายังมาผนังที่สองเป็นช่วงกลางวัน โซนห้องทานอาหารจะเป็นสีตอนพระอาทิตย์คล้อยแล้ว มุมนี้ติดกับสวนมีกระจกบานใหญ่ทำให้แสงธรรมชาติส่องถึง ดูสบายตาและยังใช้มุมนี้เป็นมุมวาดรูปและระบายสีของเด็กๆด้วย  ส่วนของเล่นต่างจะถูกจัดวางตามชั้นเตี้ยๆเพื่อให้เด็กๆหยิบเล่นและเก็บเองตามจุดต่างๆตามสไตล์มอนเตสซอรี่ ส่วนมุมนิทานเล็กๆก็จะจัดเรียงนิทานนานาชาติให้เด็กเลือกหยิบอ่านได้ตามใจชอบ ด้านนอกบ้านจะมีบ่อทรายขนาดใหญ่ไว้รองรับเด็กๆส่วนหลังบ้านจะเป็นมุมสวน ซึ่งเด็กๆก็จะมีกิจกรรมปลูกผักและรดน้ำต้นไม้ด้วยตัวเอง บรรยากาศน่ารักอบอุ่นเหมือนบ้านแบบนี้ทำให้เด็กปรับตัวได้ง่ายมากขึ้น

บ้านกางใจ

บ้านกางใจ
เด็กๆนั่งฟังครูไนซ์เล่านิทาน

4.การเรียนแบบชั้นคละ

ที่บ้านกางใจบางครั้งก็จะมีเด็กโตอายุ 5 -6 ขวบ มาเรียนด้วยช่วงซัมเมอร์ หรือช่วงเทศกาลต่างๆ เช่นวัน ฮาโลวีน หรือ คริสต์มาส เราคิดว่าเด็กที่อายุต่างกันก็เล่นด้วยกันได้ การศึกษาไทยติดกับและมีกรอบค่อนข้างเยอะ พ่อแม่บางคนจะคิดว่าลูกโตแล้วมาเล่นกับเด็กเล็กไม่ได้ “ชั้นคละ” เป็นห้องเรียนที่มีความหมาย เพราะเมื่อเราโตขึ้น ไม่มีใครทำงานกับคนที่อายุเท่ากันหรือวัยเดียวกันทั้งหมด คนแต่ละช่วงอายุมีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน การเรียนแบบนี้เป็นส่วนผสมพิเศษที่ทำให้พี่ๆใจเย็นลง อ่อนโยน ส่วนน้องๆก็อยากโตและอยากทำได้เหมือนพี่ เด็กๆจะได้เล่นและเรียนรู้กับเพื่อนๆที่หลากหลายวัย ทำให้รู้สึกสนุกและอยากเรียนรู้มากขึ้น

5.เรียนรู้ผ่านนิทานภาพ

ที่บ้านกางใจ เด็กๆจะได้เรียนรู้ผ่านนิทาน นิทานภาพที่ดีคือนิทานที่ภาพเล่าเรื่องด้วยตัวมันเอง เราไม่จำเป็นต้องอ่านนิทานให้เด็กฟัง 100% บางครั้งเราจะให้เด็กอ่านเอง เด็กๆจะอ่านด้วยภาพ การอ่านด้วยเสียงตลอดเวลาจะทำให้เด็กได้ข้อมูลจำกัดอยู่ที่เสียงของเรา นิทานหนึ่งเล่ม มีวิธีการเล่าที่หลากหลาย จะใส่เพลงเพิ่มก็ได้ ถ้าทักษะการอ่านภาพแข็งแรง เด็กก็จะเริ่มมีสายตาที่กว้างขึ้น และเชื่อมโยงสิ่งแวดล้อม เข้ากับตัวเองได้ นี่เป็นจุดแข็งของบ้านกางใจ

บ้านกางใจ

บ้านกางใจ
มุมรับประทานอาหารและทำงานศิลปะ
บ้านกางใจ
บริเวณอ่างล้างมือจะมีผ้าเช็ดมือส่วนตัวของเด็กแต่ละคน ติดรูปเพื่อให้เด็กๆจดจำผ้าของตนเองได้ง่าย แถมยังทำให้เด็กๆรู้ด้วยว่าวันนี้เพื่อนคนไหนที่ไม่ได้มา เพราะวันนั้นจะไม่มีผ้าเช็ดมือห้อยอยู่
บ้านกางใจ
บ่อทรายขนาดใหญ่หน้าบ้าน ที่เด็กสามารถเล่นได้อย่างอิสระ

Mommy’s Love This! ถูกใจแม่

สิ่งที่ชอบที่สุดของบ้านกางใจ คือ ทัศนคติของคุณครู เรารู้สึกและสัมผัสได้ถึงความเป็น “แม่” ของคุณครู ทั้งคำพูด สายตาที่ดูจริงใจ มีความละเอียดอ่อนและมีจิตวิทยาในการสอนเด็กๆ ทำให้รู้สึกมั่นใจได้ว่า ถ้าพาลูกมาเรียนที่นี่ เขาจะเติบโตเป็นเด็กที่ดีและมีความสุขในแบบที่เขาเป็นแน่นอน

บ้านกางใจ
เด็กๆช่วยกันรดน้ำผักที่ปลูกไว้ในสวนหลังบ้าน

เกณฑ์การรับสมัคร โรงเรียนบ้านกางใจ

🌈 เด็กอายุ 2 -4 ปี ( รับแค่ห้องเดียวรวมจำนวน 16 คน )

กลุ่ม 1 : เด็กอายุ 2-2.6 ปี เวลา 8.30 – 11.30 น.

กลุ่ม 2 : เด็กเริ่มใหม่ ( ยังไม่เคยเข้าโรงเรียน ) อายุ 2.6 ปีหรือมากกว่า เวลา 8.30 -11.30 น.(เมื่อเด็กปรับตัวได้แล้ว จะปรับเวลาตามความเหมาะสม)

กลุ่ม 3 : อายุ 2.6 ปีขึ้นไป เวลา 8.30 -13.30 น.

🌈 อัตราค่าเล่าเรียน

ค่าแรกเข้า 15,000 บาท ( รวมอาหารว่างและอาหารกลางวัน )

🌈 ค่าธรรมเนียมการศึกษา

-ค่าเรียนแบบรายวัน 22,500 บาท / 15 วัน

(ใช้สิทธิ์ภายใน 6 เดือนนับจากวันที่เริ่มเรียน )

-ค่าเรียนแบบรายเดือน 18,500 บาท / 1 เดือน

( เหมาจ่ายรายเดือน นับจากวันที่เริ่มไปจนครบ 1 เดือน )

_ ค่าเรียนรายเทอม (3 เดือน ) 56,000 บาท

เวลาเรียน เด็กอายุ 2-2.6 ปี เวลา 8.30 – 12.00 น.  เด็กอายุ 2.6 ปีขึ้นไป เวลา 8.30 -13.30 น.

ที่อยู่

บ้านกางใจ หมู่บ้านยูนิวิลล่า 1 ซอย 9 บ้านเลขที่ 98  โทร.082-442-5292

เว็บไซต์ : http://www.baankangjai.com

FB : https://www.facebook.com/baankangjai

Editor : แม่เลม่อน
ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม


อ่านต่อบทความน่าสนใจ

รู้จัก 5 ธุรกิจระดับ SME กับเบื้องหลังความสำเร็จที่มาจากแนวคิดอันทรงพลัง

event

เรียกว่าเป็นเทรนด์ที่ไม่มีตกอยู่เรื่อยๆ สำหรับคนรุ่นใหม่กับเป้าหมายในชีวิตที่อยากเป็น “เจ้าของธุรกิจ” ที่ประสบความสำเร็จ แต่รู้หรือไม่ เบื้องหน้าของความสำเร็จเหล่านั้น จะมีเบื้องหลังและที่มาของการเริ่มต้นอย่างไร รวมถึงเรื่องราวระหว่างทางของผู้ประกอบการที่ต้องพบเจอ มาฟัง 5 เรื่องราว จาก 5 ธุรกิจ ของ 5 ผู้ประกอบการ ใน 5 มุมมองที่จะให้คุณได้ไอเดียในการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองไปพร้อมๆ กัน

 

“ข้าวใหม่ปลามัน” หัวใจธุรกิจที่เกิดจากชุมชน และทุกความสำเร็จคือรอยยิ้มของชาวบ้าน

เป็นอีกหนึ่งโมเดลการทำธุรกิจที่น่าสนใจ สำหรับร้านอาหารข้าวใหม่ปลามัน ที่จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเกิดจากการต่อยอดสิ่งที่ครอบครัวมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงปลาสลิด เลี้ยงปู เลี้ยงกุ้ง รวมถึงการมองเห็นจุดแข็งของชุมชนที่เต็มไปด้วยแหล่งวัตถุดิบชั้นเยี่ยมที่มีครบทั้งข้าวและอาหารคาวหวาน ทำให้เกิดเป็นร้านอาหารที่มาพร้อมแนวคิด “สนับสนุนชุมชน” ทั้งในเรื่องของการสั่งซื้อวัตถุดิบ และการจ้างงานทั้งงานบริการ งานก่อสร้างตกแต่งร้าน เพื่อให้คนในชุมชนมีรายได้ต่อเนื่อง ในส่วนของร้านอาหารเองก็มีความมั่นใจว่าได้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ มีแรงงานที่ไว้ใจได้ เข้าถึงคนในพื้นที่ จนกลายเป็นจุดแข็งของร้านที่แตกต่างจากที่อื่นๆ และเมื่อธุรกิจเติบโตได้ดี ชาวบ้านก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามไปด้วย 

คุณสุทธิลักษณ์ โตกทอง กรรมการผู้จัดการ ร้านอาหารข้าวใหม่ ปลามัน อัมพวา
“คนเราไม่ได้เก่งทุกเรื่อง มีอีกหลายอย่างที่ต้องพยายามทำความเข้าใจ
ทำให้เราต้องเรียนรู้ที่เปิดใจกว้าง รับสิ่งใหม่ๆ เสมอ
โดยเฉพาะการก้าวออกจาก Safe Zone ของตัวเอง
เพื่อตามโลกให้ทันจนไปเจอความสำเร็จใหม่ๆ ที่เราคิดไม่ถึง”

…………………………..

 

“มูร่าห์เฮ้าส์” จากฟาร์มถึงมือ ธุรกิจที่เข้าถึงปัญหา มองเห็น Pain Point จนโดนใจผู้บริโภค

หากจะพูดว่า มูร่าห์เฮ้าส์ คือผู้บุกเบิกการสร้างสินค้า “นมควาย” เจ้าแรกๆ ของประเทศไทยก็คงไม่ผิดนัก ด้วยจุดเริ่มต้นที่มาจากการทำฟาร์มเลี้ยงควายนมพันธุ์มูร่าห์แห่งแรกในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 ของคุณรัญจวน เฮงตระกูลสิน ที่เกิดจากมุมมองที่อยากหาผลิตภัณฑ์นมเพื่อตอบโจทย์คนที่มีปัญหาแพ้นมวัว รวมถึงเด็กๆ ที่ต้องการสารอาหาร เนื่องจากนมควายมีสารอาหารมากกว่านมวัวถึง 2 เท่า แต่ด้วยความที่เป็นตลาดแบบ Niche Market หรือตลาดเฉพาะกลุ่มมากๆ นอกจากการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพแล้ว การตลาดก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้แบรนด์สามารถสื่อสารไปให้ถึงผู้บริโภคในวงกว้างได้อย่างที่ตั้งใจ ซึ่งตรงนี้เองที่ SME D Bank ได้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น คอยให้ความช่วยเหลือ ทั้งเรื่องเงินทุน และโครงการต่างๆ มีการอบรมที่ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการ หรือถ้ามีตลาดที่ไหนก็ชักชวนให้เอาสินค้าไปขาย ทำให้คนเริ่มรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ มูร่าห์เฮ้าส์ ได้เป็นมากกว่าผู้ผลิตนมควาย โดยเปิดพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางด้านการเกษตร มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทุกคนสามารถลงมือทำจริงได้เลย

คุณชาริณี ชัยยศลาภ
เจ้าของธุรกิจ “มูร์ร่าห์ ฟาร์ม” ฟาร์มควายนมแห่งแรกของไทย
“พวกเราเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีประสบการณ์ ต้องเรียนรู้อะไรเยอะมาก
ลองผิดลองถูกไปเรื่อย แต่ด้วยความพยายาม ไม่ท้อ และหาข้อมูลเรื่อยๆ
ทำให้เราได้มุมมองในการทำธุรกิจในหลายๆ เรื่อง
มีปัญหาตรงไหนก็ค่อยๆ แก้ไขไปทีละจุด ไม่เคยท้อเลย”

…………………………..

 

ตั้งใจ พัฒนา ต่อยอด แนวคิดหลักของแบรนด์ “ชาโมกข์” ที่ไม่เคยหยุดนิ่งกับความเปลี่ยนแปลง

จริงอย่างคำกล่าวที่ว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข” เพราะเจ้าของแบรนด์ชาโมกข์อย่างคุณปราณี ศิริบูรณ์พิพัฒนา ได้ไอเดียเริ่มธุรกิจในช่วงอายุเข้าเลข 6 จากประสบการณ์ที่สะสมมาอย่างยาวนานในเรื่องของการเกษตร ประกอบกับความสนใจศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม จนได้ค้นพบคุณสมบัติของสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ช่วยเรื่องการลดอาการผมร่วงได้ จากนั้นก็ได้ต่อยอดออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ จนเกิดกระแสบอกต่อแบบปากต่อปากไปเรื่อยๆ ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ก่อนจะมองหาช่องทางในการขยายตลาดด้วยการเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และการนำสินค้าออกสู่ต่างประเทศ โดยมีผู้ช่วยเบื้องหลังอย่าง SME D Bank ในเรื่องของเงินทุน และการ Re-Brand เปลี่ยน Package เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ และตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งตลอดการทำงานที่ผ่านมา เรียนรู้ว่าการเปิดใจเป็นสิ่งสำคัญ พอๆ กับการอดทนที่ไม่ย่อท้อต่อปัญหาที่เข้ามา โดยต้องไม่ลืมที่จะพัฒนาตนเอง และสินค้าให้ทันโลกอยู่เสมอด้วยเช่นกัน

คุณปราณี ศิริบูรณ์พิพัฒนา
ประธานกรรมการ บริษัท ชาโมกข์ จำกัด
“จงเปิดใจยอมรับคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ มีความคิดทันสมัย มีแนวคิดที่ดี
ซึ่งเราสามารถมาปรับใช้ได้ การเปิดใจตรงนี้จะทำให้เราได้ขยายกลุ่มเป้าหมาย
ได้ขยายฐานลูกค้า และได้เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้มากมาย”

…………………………..

“A-Tong” ผลิตภัณฑ์สารบำรุงพืชใบ แบรนด์น้องใหม่มาแรง โดดเด่นด้วยสินค้าคุณภาพดี จากความรู้ที่สั่งสมมานานของเจ้าของแบรนด์

แม้จะเป็นน้องใหม่ในวงการ SME ได้ไม่นาน แต่ A-Tong ก็เดินหน้าอย่างมั่นคงด้วยจุดแข็งในเรื่องของคุณภาพสินค้า ที่ได้รับการพิสูจน์ทั้งจากห้องแล็บและผู้ใช้งานว่ามีคุณภาพ เหมาะสมกับราคาที่จับต้องได้ โดยจุดเริ่มต้นของการสร้างธุรกิจก็มาจากการนำความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวกับการเกษตรมาต่อยอดเป็นสินค้าที่ไม่ได้เจาะกลุ่มคนทำเกษตรเท่านั้น แต่วางกลุ่มเป้าหมายในระดับประเทศ ทั้งใช้ในอุตสาหกรรมการเกษตร อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงครัวเรือน โดยปัจจุบันเน้นทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่ต้องการผลักดันสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากทางฝ่ายพัฒนาของ SME D Bank ที่เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์ จนทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้นในระยะเวลาไม่นาน

คุณนวลจันทร์ เทศภักดี
เจ้าของผลิตภัณฑ์ A-TONG
“การทำธุรกิจต้องไม่ย่อท้อ ถ้าเรามั่นใจในสินค้าก็ต้องพยายามทำให้คนรู้จัก
แม้ว่าความพยายามจะยาก ก็ต้องอดทน และถ้าโอกาสมาถึง ก็ต้องไม่ปล่อยไป
หากสินค้าเราดีจริง ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้”


…………………………..


“ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน กะลาทิพย์” ธุรกิจระดับ SME ที่ยกระดับความอร่อยแบบบ้านๆ สู่ความสำเร็จในระดับชุมชน 

จากจุดเริ่มต้นที่เพียงผู้จำหน่ายไอศกรีมในระยะเวลา 6 เดือน สู่การเรียนรู้ที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเอง ของคุณธันยพัฒน์ หิรัญวงศ์ จึงเริ่มที่จะศึกษาหาความรู้เรื่องขั้นตอนการทำไอศกรีม ซึ่งระหว่างทำก็ได้พยายามพัฒนาให้เกิดจุดแข็งเพื่อสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นให้กับตัวเองในท้องตลาด ทำให้ค้นพบวัตถุดิบหลักชั้นเยี่ยมของ อ.อัมพวา อย่าง “น้ำหวานดอกมะพร้าว” ที่มีคุณสมบัติให้แคลอรี่ต่ำกว่าน้ำตาลทั่วไป รวมถึงมีโพแทสเซียมและแร่ธาตุอื่นๆ จึงนำมาเป็นส่วนผสมหลักในการผลิตไอศกรีมมะพร้าวอ่อน กะลาทิพย์ ที่นอกจากความอร่อยแล้ว วิธีการนำเสนอโดยเสิร์ฟไอศกรีมในกะลามะพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นที่ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ จนกลายเป็นของดีของเด็ดที่ใครมาเที่ยวอัมพวาก็ต้องลิ้มลองสักครั้งในชีวิต

นายธันยพัฒน์ หิรัญวงศ์
เจ้าของธุรกิจ ไอศครีมมะพร้าวอ่อนกะลาทิพย์
“ด้วยที่เราอยากให้ลูกค้าได้ทานของดี จึงมุ่งมั่นพัฒนา
ไอศครีมมะพร้าวอ่อนกะลาทิพย์
โดยใช้กะทิคั้นสด  ผสมน้ำมะพร้าวน้ำหอมแท้จากอัมพวา 
หอม หวาน อร่อย”



 

คอกกั้นเด็ก HOYO คอกกั้นเด็กแบรนด์แรกของไทยที่คว้ารางวัลชนะเลิศสาขา World of Kids furniture จาก Kind + Jugend ASEAN Innovation Award 2023

event

คอกกั้นเด็ก HOYO (HOYO Premium Playpen) โดย “คุณก้อย ญาภัทร สรรพวัฒน์” สินค้าที่ถูกสร้างจากความรักของแม่สู่ลูก เป็นคอกกั้นเด็กแบรนด์แรกในไทยที่คว้ารางวัลระดับ Global มาได้ จากงาน Kind + Jugend ASEAN 2023

งาน Kind + Jugend เป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติชั้นนำในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับทารกและเด็ก ซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี โดยปีนี้มาจัดที่ประเทศไทย เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน

“วันนี้เราดีใจและก็ภูมิใจมากๆ สินค้าที่เราคิด แล้วก็ออกแบบผลิตขึ้นมา ตั้งใจทำเพื่อลูก แล้วได้รับรางวัลนี้” คุณก้อยกล่าวหลังจากขึ้นรับรางวัล ซึ่งการเข้าชิงรางวัลครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการแข่งขันภายในประเทศ แต่ยังมีผู้เข้าร่วมแข่งขันจากต่างชาติ โดยมีหลักเกณฑ์การตัดสิน 6 ข้อ ดังนี้ ความคิดสร้างสรรค์, ความปลอดภัย, คุณประโยชน์ต่อลูกค้า, การออกแบบผลิตภัณฑ์, คุณภาพของการผลิต และความยั่งยืน ซึ่งคอกกั้นเด็ก HOYO สามารถชนะใจกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 7 ท่านในทุกหัวเกณฑ์การตัดสิน ทำให้ได้มาซึ่งรางวัลอันทรงเกียรตินี้

คอกกั้นเด็ก HOYO ไม่เพียงแต่ยึดมั่นในการพัฒนาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ยังคงใส่ใจในคุณภาพในทุกกระบวนการผลิต และการคัดเลือกวัสดุ ทำให้ HOYO Premium Playpen เป็นขั้นกว่าของคอกกั้นเด็ก ผ้าหนังของ HOYO มีการพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าเป็นหนึ่งเดียวในไทยที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli และ Staphylococcus ซึ่งเป็นสาเหตุหลักโรคอาหารเป็นพิษ โรคท้องเสียได้ถึง 99.9% และยังผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่น JIS Z-2801 ว่าสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ตายสนิท

นอกจากนั้นวัตถุดิบทุกชิ้นส่วนของคอกกั้นเด็ก HOYO ผลิตจากวัสดุเกรดพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นผ้าหนังที่นำเข้าจากเกาหลี สัมผัสนุ่ม ลื่น เย็นสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ หรือโฟม Japan Technology ลิขสิทธิ์เฉพาะของ HOYO ที่นุ่ม แน่น เฟิร์ม รองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี จนไข่ไก่สดตกยังไม่แตก เรื่องฟังก์ชั่นก็ยังโดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะเป็นคอกกั้นที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กทุกช่วงวัย

ด้วยการพัฒนาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและรางวัลที่การรันตีคุณภาพ ทำให้เมื่อพูดถึงคอกกั้นเด็ก ใครๆ ต่างก็ต้องนึกถึงคอกกั้นเด็ก HOYO เป็นอันดับแรก เพราะเป็นคอกกั้นเด็กที่ได้รับความไว้วางใจจากดารา เซเลป และคุณพ่อคุณแม่กว่าหมื่นครอบครัวทั้งในไทยและต่างประเทศ

หมอมีคำตอบ! ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ ของลูกน้อย Atopic Dermatitis ปัญหากวนใจของพ่อแม่ รักษาอย่างไรดี?

event

ปัญหา ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ Atopic Dermatitis ปัญหาของเด็กๆ ที่ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงกังวลไม่มากก็น้อย ที่ลูกน้อยของเรา เดี่ยวก็คัน เดี่ยวก็เป็นผด เดี่ยวก็ผื่นขึ้นเกา คัน เป็นๆหายๆ จนเป็นแผล ผิวแห้งลอก  มีรอยดำ ถึงผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบเหล่านี้ จะไม่ได้เป็นอันตราย เพราะไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ หรือเป็นเรื่องร้ายแรงใดๆ แต่ก็สร้างความรำคาญให้ลูกน้อยเป็นอย่างมาก และส่งผลระยะยาวได้ เช่น แผลเป็น รอยด่างดำ ผิวหนังแห้งด้าน และอาจส่งผลต่อบุคลิกในการเข้าสังคม และสมาธิในการเรียนของลูกน้อยได้ด้วย

วันนี้ Amarin Baby & Kids มีนัดคุยกับคุณหมอ 2 ท่าน ทั้งคุณหมอผิวหนัง และคุณหมอเด็ก ถึงปัญหาผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบในเด็กๆ เพื่อแก้ปัญหา ไขข้อข้องใจ ให้คุณพ่อ คุณแม่กันค่ะว่า ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบในเด็ก เกิดจากอะไร จะทราบได้อย่างไรว่าเราแพ้อะไรและมีวิธีการรักษาอย่างไร  ทำอย่างไรถึงช่วยไม่ให้ลูกกลับมาเป็นผื่นซ้ำอีก และอีกหลากหลายคำถามที่คุณพ่อ คุณแม่อยากรู้ เรามีคำตอบให้คะ

Amarin Baby & Kids ได้รับเกียรติจาก พญ.ธวลิดา เวชชวณิชย์ (คุณหมอยูมิ) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและผิวหนังเด็ก อาจารย์แพทย์หน่วยตรวจสุภาพ และเวชศาสตร์ป้องกัน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ พญ.ภัทรา ตันติเจริญวิวัฒน์ (คุณหมอใหม่) กุมารแพทย์ โรคภูมิแพ้ และพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลสมิตเวช และ BNH มาร่วมพูดคุยและแนะนำคุณพ่อคุณแม่ ถึงวิธี รับมือกับปัญหาผื่นแพ้ ของลูกน้อยกันคะ

อาการ ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ เกิดจากอะไร

ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ เกิดจาก โครงสร้างผิวหนังเสียสมดุล ทำให้เกิดการระเหยของน้ำออกจากผิวมาก เมื่อน้ำระเหยออกจากผิวหนังมาก ทำให้ผิวแห้ง แดง คัน และเกิดการอักเสบตามมา ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจาก ปัจจัยภายในโครงสร้างผิวหนังเสียสมดุลเอง หรือ ปัจจัยกระตุ้นจากสารก่อภูมิแพ้ภายนอกก็ได้

จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกแพ้สารอะไร

ปัจจุบันมีการเทส ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพ้หลายวิธี เช่น ทำ skin test , ตรวจหา specific Ig E จากเลือด ซึ่งขั้นตอนง่ายไม่ยุ่งยาก เหมือนเจาะเลือดตรวจสุขภาพทั่วไป สามารถทดสอบสารก่อภูมิแพ้ ทั้งอาหารและสิ่งแวดล้อมได้

สาเหตุของการแพ้เกิดจากสารก่อภูมิแพ้อะไรบ้าง

ส่วนใหญ่ถ้าเป็นอาหาร อาจเกิดจาก นม ไข่ ถั่ว แป้งสาลี ก็เป็นได้ ถ้าเป็นสิ่งแวดล้อมส่วนใหญ่ก็อาจจะเป็นไรฝุ่นบนที่นอน แมลง ละอองเกสรดอกไม้ น้ำหอม สารเคมีก่อภูมิแพ้ต่างๆ

อาการของโรคผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบมีอะไรบ้าง

อาการของโรคผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ มักมาด้วย อาการผิวแห้ง แดง คัน เป็นตุ่มหรือเป็นผดนูน ซึ่ง ส่วนใหญ่ ในเด็กเล็กจะเป็นตาม แก้ม ซอกคอ ข้อพับแขน ข้อพับขา เด็กๆก็จะคันมาก และจะเกา จนถ้าเป็นนานๆอาจมีแผลเลือดออก และเป็นแผลเป็นอาจเกิดรอยดำ

ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ

วิธีการรักษาโรคผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ

วิธีการรักษาโรคผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ จะมี 3 ขั้นตอน ที่จะต้องทำการรักษาควบคู่กัน

– หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง  ลดการอาบน้ำที่อุณหภูมิที่ร้อนไป หรือเย็นจนเกินไป หลีกเลี่ยง อาหารที่สงสัยว่าแพ้ หลีกเลี่ยงน้ำหอม สารเคมีต่างๆ ซัก ทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ผ้าห่มให้สะอาด

-ในช่วงที่ผื่นกำเริบ ทำให้มี อาการคันมาก อาจต้องพบแพทย์ เพื่อรับยาทาลดการอักเสบ จำพวก steroid และ antihistamine เพื่อลดการคัน การอักเสบ แต่การใช้ยาจำพวกนี้ ต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์

– ครีมกลุ่มลดการอักเสบ ที่ไม่ใช่ steroid ปัจจุบัน มียา ครีมใหม่ๆที่ช่วยลดการอักเสบ และบำรุงผิว ลดการเสียสมดุลของผิวหนัง  ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ซึ่งสามารถใช้นานได้อย่างปลอดภัย เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของ 2%  Allantoin + Cytyl PG Palmitamide ซึ่งเป็น Pseudoceramide และ Fatty acid ช่วยลดการอักเสบ และป้องกันการระเหยของน้ำออกจากผิว สามารถใช้ลดการอักเสบและบำรุงผิวได้นาน อย่างปลอดภัย  ไม่มีสเตียรอยด์

–    หลังจากอาการคันและอาการผื่นดีขึ้นแล้ว สามารถใช้ ยากลุ่มลดการอักเสบ ที่ไม่ใช่ steroid ที่เป็น moisture เข้มข้น ทาทุกวันหลังอาบน้ำ หรือทาบำรุงผิว เพื่อป้องกันการผิวแห้ง หรือป้องกันการเกิดผดผื่นซึ่งครีมกลุ่มนี้สามารถใช้นานได้ ไม่เป็นอันตราย และควรใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เก็บกักน้ำให้ผิว เพื่อลดการอักเสบ ลดผดผื่นคัน ให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพื่อลดการเสียสมดุลของเซลล์ผิว ครีมที่ไม่มี สเตียรอยด์ สามารถใช้นานได้อย่างปลอดภัย แต่ทางที่ดีสำหรับเด็กควรใช้ครีมที่ ไม่มีน้ำหอม และไม่มีสารกันเสียด้วย

โรคผื่นแพ้ในเด็ก หายเองได้ไหม

ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ โดยปกติ เมื่อลูกน้อยโตขึ้น อาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นเอง มากกว่า 80 % แต่การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ก็ยังจำเป็นอยู่

พ่อแม่สามารถป้องกันไม่ให้ลูกน้อยเป็นโรคนี้ได้หรือไม่

มีงานวิจัยในปัจจุบันพบว่า แม้แต่ในทารกกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรค หากได้รับการดูแลผิว ด้วยการทาmoisturer ที่มี ceramide , มี fatty acid อย่างน้อยวันละครั้งอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่อายุ 2 เดือนแรก ของชีวิต สามารถลดการเกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้ ดังนั้น ถึงแม้ลูกน้อยของเรายังไม่ได้เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เราก็เริ่มดูแลผิวลูกน้อยได้เลยค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ ได้คุยกับคุณหมอทั้ง 2 ท่านไปแล้ว ช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่ คลายกังวลไปได้เยอะเลยไหมคะ  โรคผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบไม่ได้น่ากลัวเลยใช่ไหมคะ เพราะเป็นโรคที่ไม่อันตราย แต่ถ้าเป็นบ่อยๆนานๆ จะทำให้คุณภาพชีวิตของลูกน้อยไม่มีความสุข คอยคัน คอยเกา อยู่ตลอดเวลา เสียบุคคลด้วย ทางที่ดี เพียงคุณพ่อ คุณแม่สังเกต เอาใจใส่ลูกน้อย หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆออกไป และใช้ยา ปรึกษาคุณหมอให้ถูกต้อง และใช้ครีมบำรุงผิวที่ปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ คุณภาพชีวิตของลูกน้อยก็จะดีขึ้น สุขภาพผิวดีขึ้น สุขภาพกาย สุขภาพใจ ก็จะดีขึ้นตาม ไม่เกา ไม่คัน อีกต่อไปแล้วคะ


ขอขอบคุณ บทความ :

  • พญ.ธวลิดา เวชชวณิชย์ (คุณหมอยูมิ) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและผิวหนังเด็ก อาจารย์แพทย์หน่วยตรวจสุภาพ และเวชศาสตร์ป้องกัน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • พญ.ภัทรา ตันติเจริญวิวัฒน์ (คุณหมอใหม่) กุมารแพทย์ โรคภูมิแพ้ และพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลสมิตเวช และ BNH

ครีม DermProtect ครีมรักษาผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ ผดผื่น ผิวแห้งคัน เห็นผล ปลอดภัย ใช้นานได้ ไม่มี steroid เก็บกักน้ำ เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวมากกว่า 500 เท่า www.hadatokyo.com

Hada Tokyo ครีมบำรุงผิวเวชสำอาง อันดับ 1 ที่แพทย์ผิวหนังญี่ปุ่นไว้วางใจ

อย่ามองข้าม! คาร์ซีทแม่ท้อง ช่วยปกป้องถึง 2 ชีวิต

event

ไม่ใช่แค่คาร์ซีทสำหรับเด็กที่จำเป็น แต่ ” คาร์ซีทแม่ท้อง ” ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะช่วยป้องกันได้ถึง 2 ชีวิต !  ซึ่งคาร์ซีทสำหรับแม่ท้องจะมีความสำคัญอย่างไร ทำไมแม่ท้องต้องใช้ ทีมแม่ ABK มีคำตอบค่ะ

ด้วยสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนนในเมืองไทย ทำคนเสียชีวิตได้เฉลี่ยถึง 2 คน ต่อชั่วโมง ไม่เว้นทั้งเด็กและผู้ใหญ่  แต่ก็น่าดีใจที่ในช่วงหลัง 2-3 ปีมานี้ บ้านเราให้ความสำคัญและตื่นตัวกับการให้เด็กนั่งคาร์ซีท  เพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับเจ้าตัวน้อย และชวนกันเลิกพฤติกรรมเดิมๆ ที่อุ้มลูกนั่งตักขณะอยู่ในรถยนต์  

แต่เชื่อไหมคะว่าไม่ใช่แค่เด็กเล็กที่ต้องนั่งคาร์ซีท คนท้องก็จำเป็นต้องนั่งคาร์ซีทเช่นกัน เพราะหากต้องเบรกกะทันหัน หรือเกิดอุบัติเหตุถูกรถพุ่งชน รถเสียหลักมีการกระแทกแม้คุณแม่อาจจะบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ใครจะรู้ว่าการกระทบกระเทือนนั้นส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์ร้ายแรงได้  

คาร์ซีทแม่ท้อง
Tummy Shield

 

อุบัติเหตุกับผลร้ายที่ไม่คาดคิด 

4 ใน 5 ของอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตได้ หากคนท้องได้รับอันตรายที่กระทบกระเทือนท้อง  และในเมืองไทยเคยมีข่าวแม่ท้องเกิดอุบัติเหตุหลายราย เช่น กรณีคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ 5 เดือน นั่งข้างคุณพ่อซึ่งเป็นคนขับ ถูกรถอีกคันพุ่งชนโดยไม่รู้ตัว จนคุณแม่กระเด็นออกนอกรถเสียชีวิต เพราะไม่ได้คาดเข็ดขัดนิรภัย ด้วยความอึดอัดและสายคาดเบลท์ก็ถูกออกแบบมาให้รัดตรงท้องพอดี เรื่องนี้คุณแม่หลายๆ ท่านเข้าใจดี เพราะยิ่งท้องใหญ่ยิ่งรัดลำบากจนทนอึดอัดไม่ไหว ทำให้เกิดเหตุสลดได้ แต่อีกกรณีที่น่าห่วงและหลายๆ คนอาจไม่คาดคิดคือ 

เคยมีคุณแม่ตั้งครรภ์ 7 เดือนชาวออสเตรเลีย เดินทางกับสามีที่กำลังขับรถ แล้วเกิดอุบัติเหตุจากการหักเลี้ยวรถอย่างแรงจนรถยนต์ไปชนขอบถนน  คุณแม่ท้องมีแค่รอยฟกช้ำบาดเจ็บเล็กน้อยที่ท้อง จากเข็มขัดนิรภัยกดทับบริเวณหน้าท้องอย่างรุนแรง   แม้คุณแม่และลูกในครรภ์จะไม่ได้มีอันตรายร้ายแรงใด และคลอดครบกำหนด  แต่ทั้งคุณแม่และคุณพ่อก็พบว่า หลังคลอดลูกสาวตัวน้อยมีปัญหาพัฒนาการไม่ปกติ พัฒนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจช้ากว่าเด็กทั่วๆ ไปในวัยเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้มั่นใจว่าเกิดจากอุบัติเหตุในครั้งนั้นนั่นเอง 

คาร์ซีทแม่ท้อง Tummy Shield ปกป้อง 2 ชีวิต  

จากกรณีในออสเตรเลียเป็นหนึ่งเรื่องราวอุทาหรณ์และแรงบันดาลใจ ให้เห็นถึงความสำคัญของคาร์ซีทสำหรับแม่ท้องโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคุณแม่ที่ต้องเดินทางให้สะดวก สบาย ไม่อึดอัด ที่สำคัญคือความปลอดภัยของทั้งคุณแม่ท้องและลูกในครรภ์ จึงได้ผลิตคิดค้น Tummy Shield คาร์ซีทแม่ท้อง เพื่อปกป้องคนท้องและลูกในครรภ์ขณะเดินทางด้วยรถยนต์ให้ปลอดภัย ผ่านการทดสอบว่าสามารถป้องกันเหตุร้ายจากอุบัติเหตุได้จริง  

  • ช่วยไม่ให้เข็มขัดนิรภัยคาดรัดหน้าท้อง  โดยเปลี่ยนเป็นการพาดผ่านหน้าขาแทน จึงช่วยลดแรงกระชากของเข็มขัดนิรภัย ที่บริเวณหน้าท้อง จากเหตุไม่คาดคิดบนท้องถนนได้ 
  • สร้างความมั่นใจให้คนท้อง ด้วยความแข็งแรงปลอดภัย ด้วยวัสดุภายในที่หล่อเป็นเหล็กชิ้นเดียวกัน รองรับแรงกระชากได้มากถึง 2 ตัน  
  • นั่งสบายด้วยแผ่นรองที่ทำจาก Memory Foam ลดแรงกดทับได้ดี  ไม่ทำให้รู้สึกเมื่อยหรือปวดบริเวณก้นกบ 
  • ลดการลื่นไถลลงมาใต้ส่วนคาดของเข็มขัดนิรภัย จนเกิดการอาการบาดเจ็บที่ช่องท้องและกระดูกเชิงกราน ด้วยผ้าหุ้มเบาะที่ทำจากกำมะหยี่ 
  • ปกป้องคนท้องและลูกน้อยในครรภ์ให้ปลอดภัย ลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนดสาเหตุของการแท้ง   
  • ลดความกังวลใจเวลาที่เข็มขัดนิรภัยโดนท้อง ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดเวลาที่คาดเข็มขัดนิรภัย  
  • ติดตั้งง่ายไม่ยุ่งยาก  รองรับการติดตั้งบนรถยนต์ทุกประเภท  

 

คาร์ซีทแม่ท้อง มั่นใจปลอดภัยยิ่งกว่าเบาะนิรภัยสำหรับคนท้องทั่วไป  

  • คาร์ซีทแม่ท้อง Tummy Shield เป็นผลิตภัณฑ์เดียวที่ใช้เหล็กหล่อทนแรงกระชากได้สูง  ในขณะที่เบาะนิรภัยทั่วไปใช้เป็นตัวล็อคที่พลาสติกหรือ  Velcro (ตีนตุ๊กแก) ทำให้แค่รัดเข็มขัดนิรภัยบริเวณหน้าท้องให้ต่ำลดความอึดอัดเพียงอย่างเดียว อาจไม่แข็งแรงพอที่จะรองรับแรงกระชากจากการทำงานของเข็มขัดนิรภัย เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน  

 

มาตรฐานระดับสากล  

ผ่านการทดสอบโดยใช้หุ่นจำลองจากสถาบันระดับโลก ADRs และ Crashlab ( Dynamic sled testing of the ‘Tummy Shield’ cushion)  NSWCentre for Road Safety 

  • ผ่านการทดสอบทั้งเบาะนั่ง เข็มขัด สายรัด การเสียรูปของจุดที่ยึดและเบาะนั่ง 
  • ผ่านการทดสอบการชน กระแทก แรงดึง การยึดเกาะของหัวเข็มขัด และสายรัด 
  • ผ่านการทดสอบความคงทนของสายรัด  และระบบการล็อค 
  • ผ่านการทดสอบประเมินเกณฑ์การบาดเจ็บ 

ผ่านการทดสอบ ADRs และ Crashlab
ผ่านการทดสอบ ADRs และ Crashlab

ADRs – มาตรฐานทางเทคนิคและการออกแบบตามกฎระดับชาติของออสเตรเลีย สำหรับความปลอดภัยของยานพาหนะ  ที่เป็นไปตามและสอดคล้องกับกฎระเบียบ “ECE” ที่ประกาศใช้ 
Crashlab – การทดสอบด้านมาตรฐานความปลอดภัย และการป้องกันผู้โดยสารในยานพาหนะของออสเตรเลีย ที่ครอบคลุมทั้งการออกแบบเข็มขัดนิรภัย คาร์ซีทสำหรับเด็ก  หมวกกันน็อค เบาะนั่งในรถบัส  เบาะนั่งรถเข็น

 

เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นหากคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีชีวิตน้อยๆ อยู่ในร่างกาย สามารถป้องกันเหตุร้ายไว้ก่อนล่วงหน้าได้ ก็เชื่อว่าครอบครัวจะหมดกังวลใจ อุ่นใจ แถมยังมั่นใจว่าตลอด 9 เดือนขณะตั้งครรภ์ เราจะปกป้องลูกน้อยให้แข็งแรงปลอดภัยได้จนหลังคลอด  

Tummy Shield


ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก https://www.thairsc.com/,https://www.thaipbs.or.th/news/content/313982, https://shop.babygiftretail.com  

 

 

ห้องสมุดเต่าทอง

ห้องสมุดเต่าทอง ห้องสมุดกลางสวน แหล่งเรียนรู้ในกรุงเทพ ที่เด็กๆ ต้องห้ามพลาด!

event
ห้องสมุดเต่าทอง
ห้องสมุดเต่าทอง

วันหยุดนี้ถ้ายังไม่รู้จะพาลูกไปไหน ลองพามาเที่ยว “สวนลุม” กันไหมคะ เอ๊ะ!! มาสวนลุม จะให้มาทำอะไร แค่มาเดินเล่นชมนกชมไม้ หรือถีบเรือเป็ดหรือเปล่า หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า สวนลุมพินี มีห้องสมุดหน้าตาน่ารัก ดีไซน์เก๋ ที่มีชื่อว่า
ห้องสมุดเต่าทอง หรือ ห้องสมุดและเยาวชน HSBC สวนลุมพินี

ห้องสมุดเต่าทอง
ห้องสมุดกลางสวน สำหรับครอบครัว 

ซึ่งห้องสมุดนี้เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 แล้วนะ แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อปี พ.ศ.2561 ให้ทันสมัยและเหมาะกับเด็กมากๆ ตัวอาคารภายนอกสวยเด่นสะดุดตา ด้วยโทนสีแดงแต้มจุดดำเหมือนสีของเต่าทอง ตัดกับสีเขียวของต้นไม้และต้นหญ้าที่อยู่รายล้อม ภายนอกสวยขนาดนี้ ภายในจะสวยขนาดไหน ตามไปชมกันค่ะ

จุดต้อนรับสุดประทับใจ ของ ห้องสมุดเต่าทอง

เปิดประตูเข้าไป ก็เจอ สไลเดอร์น้อยคอยตอนรับเด็กๆทันที รู้เลยว่าสถาปนิกผู้ออกแบบเข้าใจและรู้ใจเด็กมากขนาดไหน

ดีไซน์สวยเหมาะสำหรับเป็นห้องสมุดเด็ก

ภายในโปร่งและสบายตามากๆเพราะมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายใน ไฮไลท์อยู่ที่อัฒจรรย์กลางห้องที่ทำเพื่อให้เด็กๆได้ออกแรงปีนป่ายขึ้นตามหาหนังสือที่ตัวเองชอบ และนั่งอ่านตามขั้นบันไดกันแบบสบายๆพร้อมครอบครัว ชั้นวางหนังสือทำจากไม้สีอ่อนดูอบอุ่นสบายตา ตัดกับกราฟฟิกวงกลมสีแดงที่แต่งแต้มได้อย่างลงตัว

ไฮไลท์ อุโมงค์เต่าทอง

ใต้อัฒจรรย์มีอุโมงค์ทาสีแดงตัดกันกับลายวงกลมสีดำเหมือนลวดลายของเต่าทอง สร้างบรรยากาศให้มุมนี้เหมือนสนามเด็กเล่น

แสงสว่างและกราฟฟิกภายใน

ผนังด้านข้างออกแบบให้เป็นกระจกใส ทำให้มีแสงสว่างจากด้านบนส่องเข้ามาภายในอาคารค่อนข้างมาก นอกจากนี้ยังมีกราฟฟิกลายการ์ตูนน่ารักๆช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องสมุดนี้ดูสดใสมากยิ่งขึ้น

มุมอ่านนิทานขนาดพอเหมาะ

บริเวณผนังกระจกมีม้านั่งยาวเพื่อให้เด็กๆได้นั่งอ่านหนังสือแบบสบายๆ

 

มุมเด็ดที่เด็ๆต้องมาจอง

ส่วนผนังอีกด้านทำที่นั่งไม้ดัดโค้ง รองรับสรีระตัวเด็กๆได้เป็นอย่างดี มุมนี้เด็กๆแย่งกันนั่งแน่นอน

เชื่อมต่อชั้นล่างสู่ชั้นบน

ทางขึ้นชั้น 2 ดีไซน์สอดคล้องกันกับตัวอาคาร สีแดงสดใสผสมลายวงกลมสีดำ น่ารักสะดุดตาจนอยากทำให้เราขึ้นไปดูด้านบน

สูดอากาศดีพร้อมอ่านนิทานแสนสนุก

ชั้นบน บางวันที่อากาศดีๆ จะมีที่นั่งสำหรับนั่งอ่านหนังสือในช่วงเย็น หรือใครจะขึ้นมาชมวิวสวนลุม มุมนี้ก็ถือว่าเด็ด ( หากมีเด็กเล็กมาจำเป็นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนขึ้นมานะคะ เพื่อความปลอดภัย)

นิทานก็เยอะ กิจกรรมก็แน่น

นอกจากอ่านนิทานแล้ว ที่ห้องสมุดเต่าทองยังมีกิจกรรมสำหรับเด็กๆทุกวันด้วยนะ เช่นวาดรูป ระบายสี หรือประดิษฐ์ของต่างๆ แถมฟรีอีกด้วย

หนังสือหลากหลายเหมาะกับเด็กทุกวัย

ห้องสมุดมีหนังสือกว่า 10,000 เล่ม เหมาะสำหรับเด็กทุกวัย ทั้งเด็กเล็ก เด็กโต ตั้งแต่นิทาน การ์ตูนและวรรณกรรมเด็ก มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้เลือก

ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ

ห้องสมุดเต่าทอง ตั้งอยู่ด้านหลังอาคารห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้สวนลุมพินี ต้องเข้าจากด้านหน้าอาคารที่เป็นห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ สวนลุมพินี อยู่บริเวณสวนลุมพินี ด้านหลังพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ถนนราชดำริ

เดินทางโดย MRT สถานี สีลม ทางออก 1

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/2UkjFkhE3V1JAeLq8?g_st=ic

 

ABK TIP’S

  • แนะนำให้พาเจ้าตัวเล็กมาช่วงเช้า คนจะน้อยกว่าช่วงเย็น เสร็จจากการอ่านนิทานและหนังสือแล้วสามารถพาลูกไปเล่นสนามเด็กเล่นที่อยู่ใกล้ๆกันได้ด้วย
  • มารถสาธารณะจะสะดวกที่สุด เดินทางโดย MRT สถานี สีลม ทางออก 1 แต่หากนำรถส่วนตัวมาแนะนำให้จอดรถบริเวณประตู 1 ถนนวิทยุ (ไม่เสียค่าที่จอด) รถค่อนข้างเยอะ และหาที่จอดยาก จอดรถแล้วเดินเข้ามาภายในสวนลุม เดินลัดสนามโซนสนามเด็กเล่น มาก็จะเจอห้องสมุดค่ะ ( เดินไกลพอสมควร แม่ๆควรนำจักรยาน รถเข็นเด็ก หรือ สกูตเตอร์ สำหรับเด็กๆมาด้วยนะคะ )
  • ห้องสมุดเข้าฟรี แต่หากอยากยืมหนังสือ สามารถสมัครสมาชิกได้ ซึ่งราคาถูกมาก ประมาณ 5 -10 บาทเท่านั้น ขึ้นอยู่กับอายุ ใครสนใจก็สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ห้องสมุดค่ะ
เวลาทำการ
อังคาร – เสาร์ 08.30 – 19.30 น.
อาทิตย์  09:00 – 17:00 น.
ปิดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

***ใครอยากบริจาคหนังสือสำหรับเด็กหรือนิทาน สามารถนำไปให้ที่ห้องสมุดได้เลยนะคะ หรือส่งไปรษณีย์ไปตามที่อยู่นี้ค่ะ

⇒ ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ สวนลุมพินี ตั้งอยู่บริเวณสวนลุมพินี ด้านหลังพระบรมรูปอนุสาวรีย์ รัชกาลที่6 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.10330 โทร.02-163-4675

EXPLORER: แม่เลม่อน
AUTHOR: #ทีมแม่ABK #แม่เลม่อน
PHOTOGRAPHER: แม่เลม่อน
#เที่ยวกับลูก
#AmarinBabyAndKids
#ABKExplorersClub

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ

ตารางวัคซีน 2566

อัปเดต! ตารางวัคซีน 2566 เด็กไทยตั้งแต่แรกเกิด 12 ปี ต้องฉีดอะไรบ้าง

event
ตารางวัคซีน 2566
ตารางวัคซีน 2566

เซฟเก็บไว้ดูเลย ตารางวัคซีน 2566 จาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย เด็กไทยทุกคนตั้งแต่แรกเกิด จนถึงอายุ 12 ปี จะต้องฉีด หรือ ได้รับวัคซีนอะไรบ้าง ทีมแม่ABK อัปเดตให้แล้วในปี 2566 มาดูกัน

อัปเดต ตารางวัคซีน 2566 จาก สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด – 12
ปี ต้องฉีดอะไรบ้าง

การฉีดวัคซีน ถือเป็นการสร้างเกราะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ให้กับลูกน้อย เพราะวัคซีนจะทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทาน และปกป้องลูกน้อยจากการเจ็บป่วยได้ เด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด โดยคุณแม่สามารถทราบจากคุณหมอว่าลูกควรรับวัคซีนพื้นฐานหรือวัคซีนจำเป็นเมื่อใด ชนิดใดบ้าง และประกอบกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันที่ก้าวหน้าขึ้น ทำให้มีวัคซีนสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดมากขึ้นตามไปด้วย

ในส่วนของวัคซีนขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นวัคซีนจำเป็นที่เด็กไทยทุกคนควรได้รับ จากคำแนะนำของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กไทยในแต่ละช่วงวัย ได้มีการสรุปปรับเปลี่ยนตารางการให้วัคซีนในเด็กไทย ปี พ.ศ. 2566  โดยความร่วมมือของคณาจารย์ และผู้ทรงคุณวุฒิของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ซึ่งทบทวนข้อมูลวิชาการ และปรับแนวทางการให้วัคซีนในเด็กไทย โดยมีประเด็นต่าง ๆ ที่ปรับเปลี่ยน ดังนี้

1. เพิ่มรายละเอียดการให้วัคซีนโปลิโอแบบ sequential regimen ดังนี้

    • ในกรณีที่ได้รับ IPV 2 ครั้ง ที่อายุ 2 เดือน และ 4 เดือน (sequential regimen) ไม่ต้องให้ OPV ที่ 2 เดือน และ 4 เดือน
    • จากนั้นให้ OPV ที่ 6 เดือน 18 เดือน และ 4 – 6 ปี

2. เพิ่มวัคซีนรวม คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน ชนิดทั้งเซลล์-ตับอักเสบบี-โปลิโอชนิดฉีด-ฮิบ (DTwP-HB-IPV-Hib, SHAN6TM) เป็นหนึ่งในวัคซีนทางเลือก โดยสามารถฉีดได้ที่อายุ 2, 4, 6 เดือน

3. เพิ่มรายละเอียดชนิดของวัคซีนเอชพีวี ดังนี้

    • ชนิด 2 สายพันธุ์ (16, 18; CervarixTM, CecolinTM)
    • ชนิด 4 สายพันธุ์ (6, 11, 16, 18; GradasilTM)
    • และชนิด 9 สายพันธุ์ (6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52, 58; Gradasil 9TM)

4. เพิ่มรายละเอียดชนิดขององค์การอนามัยโลก ปี พ.ศ. 2565 วัคซีนเอชพีวี สามารถฉีด 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน ในผู้ที่มีอายุ 9 ปีขึ้นไป และอาจพิจารณาฉีด 1 เข็มเป็นทางเลือกในผู้ที่มีอายุ 9 – 20 ปี ทั้งหญิงและชาย สำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องควรฉีดอย่างน้อย 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 6 เดือน และหากเป็นไปได้ควรฉีด 3 เข็ม

ตารางวัคซีน 2566

5. เพิ่มชนิดของวัคซีนนิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต ดังนี้

    • วัคซีนนิวโมคอคคัสชนิดคอนจูเกต 13 สายพันธุ์ (WeuphoriaTM) อายุที่รับรองให้ใช้ คือ 6 สัปดาห์ – < 6 ปี
    • และ 15 สายพันธุ์ (PCV15) คือ VaxneuvanceTM โดยอายุที่รับรองให้ใช้ได้ คือ ตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไป และสามารถใช้ PCV10/13/15 เพื่อฉีดให้ครบตาม ตารางวัคซีน 2566

6. เพิ่มวัคซีนอีวี 71 (inactivated vaccine; EntroVacTM) สามารถป้องกันได้เฉพาะกลุ่มโรคมือเท้าปาก จากเชื้อ EV71 โดยอายุที่รับรองให้ใช้ได้ คือ 6 เดือน – น้อยกว่า 6 ปี โดยฉีดเข้ากล้าม 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน

7. เพิ่มรายละเอียดชนิดของวัคซีนอีสุกอีใส ดังนี้ วัคซีนอีสุกอีใสมี 2 ชนิด คือ สายพันธุ์ OKA (VarilrixTM, VarivaxTM, SKYvaricellaTM) และ MAV06 (Varicella GCCTM)

8. เพิ่มชนิดของวัคซีนไข้เลือดออก ดังนี้ วัคซีน live-attenuated recombinant dengue2-dengue (QdengaTM) ฉีดได้ในผู้ที่มีอายุ 4 – 60 ปี ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน สามารถฉีดได้ทั้งผู้ที่เคย และไม่เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อน โดยไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกันก่อนการฉีดวัคซีน

ตารางวัคซีน 2566

ตารางวัคซีน 2566
ภาพ : ตารางการให้วัคซีนในเด็กไทย แนะนำโดย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย 2566

ดาวน์โหลด ตารางวัคซีน 2566 pdf คลิก!

การปฏิบัติตัวสำหรับการรับวัคซีน

  • คุณแม่ควรนำสมุดบันทึกวัคซีนของลูกมาด้วยทุกครั้ง
  • ไม่ควรพาลูกน้อยไปรับวัคซีนขณะที่มีไข้สูง หรือเจ็บป่วยเฉียบพลัน ยกเว้น หากลูกเป็นหวัด ท้องเสียโดยไม่มีไข้สามารถรับวัคซีนตาม ตารางวัคซีน 2566 ได้
  • หลังรับวัคซีน ตาม ตารางวัคซีน 2566 ควรอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อย 30 นาทีเพื่อดูปฏิกิริยาแพ้ยา
  • หากเคยฉีดยาแล้วมีอาการแพ้ยา แพ้อาหาร เช่น มีอาการแพ้ไข่แบบรุนแรง กรุณาแจ้งกุมารแพทย์หรือพยาบาล

อ่านต่อบทความอื่นสนใจ คลิก ⇓


ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.pidst.or.th/A1291.html

นมผง สูตร 3

รีวิว นมผง 3 แบรนด์ดัง ที่แม่ผ่าคลอดแนะนำ !

Alternative Textaccount_circle
event
นมผง สูตร 3
นมผง สูตร 3

คุณแม่อาจยังไม่รู้ว่า ในเด็กผ่าคลอดมีความเสี่ยงต่อการมีพัฒนาการระบบภูมิคุ้มกันตั้งต้นที่ช้ากว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ ทำให้มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ และเจ็บป่วยได้บ่อยมาก รวมถึงมีความเสี่ยงด้านพัฒนาการทางสมองที่ช้าอีกด้วย

แนะนำว่าเด็กผ่าคลอดควรได้รับประทานนมแม่ตั้งแต่แรกคลอด ในน้ำนมแม่จะมีสารอาหารที่หลากหลายครบถ้วนมากกว่า 200 ชนิด ที่สำคัญน้ำนมแม่จะมีสารอาหารที่เรียกว่าสฟิงโกไมอีลิน ช่วยเรื่องสมองไว และจุลินทรีย์สุขภาพบีแล็กทิส ช่วยให้มีภูมิคุ้มกันแข็งแรง

นอกจากน้ำนมแม่ที่มีประโยชน์แล้ว ในเด็กที่ผ่าคลอดวัย 1 ขวบ ยังคงต้องได้ดื่มนมทุกวันต่อเนื่องจากนมแม่ ฉะนั้นแม่ผ่าคลอดต้องมีตัวช่วยเสริมในการเลี้ยงลูก กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids จะมารีวิวนมผงสำหรับเด็ก สูตรที่ดีสำหรับเด็กผ่าคลอด

จากที่ไปสำรวจซูเปอร์มาร์เก็ตก็ได้ นม 3 แบรนด์นี้มาค่ะ  S-26 GOLD PRO-C3 , HI-Q Super Gold Plus C และ Enfagrow A+ MIND PRO ทั้งหมดนี้เป็นนมผงสำหรับเด็กสูตร 3 นะคะ สำหรับเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป

เช็กสารอาหารสำคัญในกล่องนมผงเด็กสูตร 3

นมผง สูตร 3

นมผงสูตร 3 จากทั้ง 3 แบรนด์ ในหนึ่งกล่องอัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการสมอง และพัฒนาการการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ ได้ดีเลยค่ะ

นมผง

นมผงสูตร 3 S-26 GOLD PRO C ขนาด 550 กรัม 1 กล่อง ราคา  499  บาท

 

นมผงสูตร 3 HI-Q Super Gold Plus C

นมผงสูตร 3 HI-Q Super Gold Plus C ขนาด 600 กรัม ราคา 398 บาท

 

นมผงสูตร 3 Enfagrow A+ MIND PRO

นมผงสูตร 3 Enfagrow A+ MIND PRO ขนาด 500 กรัม ราคา 282 บาท

 

เด็กผ่าคลอดจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย สมองและระบบภูมิคุ้มกันอย่างเต็มที่และเร็วที่สุด ซึ่งนมผงสูตร 3 จากทั้ง 3 แบรนด์ก็มีไว้ให้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา คุณพ่อคุณแม่ลองพิจารณาดูสารอาหารกันดูนะคะ และสามารถหาซื้อได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศค่ะ

D-nee Organic Sweet Dream Baby Lotion โลชั่นบำรุงผิวลูกน้อย ให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น พร้อมกลิ่นหอมผ่อนคลาย การันตีด้วยรางวัล ปี 2023

account_circle
event

ลูกน้อยนอนหลับสบาย นอนหลับนาน แม่ต้องมีตัวช่วยค่ะ ขอแนะนำไอเทมถนอมผิวลูกที่ไม่ใช่แค่บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้นมีสุขภาพผิวดีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกนอนหลับได้ง่าย มีช่วงเวลาการนอนกลางวัน และกลางคืนที่หลับสนิท นอนได้ยาวนานขึ้น และนี่ก็คือเบบี้ โลชั่นบำรุงผิวลูกน้อย ที่ได้รับการันตีด้วยรางวัลการันตีสินค้าแม่ลูก ปี 2023 ให้คุณแม่ได้มีตัวช่วยพาลูกน้อยนอนหลับอย่างมีคุณภาพ จะได้ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น มีพัฒนาการการเรียนรู้ที่ไม่สะดุดไปกับทุกกิจกรรมสนุกค่ะ

การนอนหลับส่งผลต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของลูกน้อยอย่างมากค่ะ ช่วงเวลาที่ลูกนอนหลับร่างกายและสมองจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้กลับมาสมบูรณ์ ร่างกายจะมีการสร้างภูมิต้านทานโรคให้ร่างกายแข็งแรง และขณะที่นอนหลับสนิทโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็ก จะผลิตออกมาจากต่อมใต้สมองได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเมื่อลูกน้อยได้นอนหลับสนิทอย่างเต็มอิ่ม ตื่นขึ้นมาจะรู้สึกสดชื่นแจ่มใส มีอารมณ์ดี คิดอ่านเรียนรู้ได้อย่างหลักแหลม จดจำสิ่งต่าง ๆ ที่เรียนรู้ไปได้อย่างแม่นยำค่ะ

ผลเสียจากการนอนหลับได้ไม่ดี นอนไม่พอ นอนไม่อิ่ม

  • เซื่องซึม ไม่กระปรี้กระเปร่า เรียนรู้ได้ไม่ค่อยดี
  • พัฒนาการการเจริญเติบโตของร่างกายไม่สมวัย
  • ภูมิต้านทานอ่อนแอ เจ็บป่วยง่าย ไม่สบายบ่อย
  • หงุดหงิดง่าย มีอารมณ์ที่ไม่ค่อยดี ไม่รู้สึกกับสนุกกับทุกกิจกรรม

การส่งเสริมให้ลูกน้อยได้มีการนอนหลับที่ดี มีคุณภาพทั้งช่วงเวลาวัน และกลางคืน นอกจากจะต้องดูแลให้มีบรรยากาศในการนอนที่ดี ไม่มีอะไรมารบกวน ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไปแล้วนั้น ยังมีอีกหนึ่งเคล็ดลับที่อย่างแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ นั่นก็คือการช่วยทำให้ลูกน้อยสบายผิวก่อนนอนค่ะ ด้วยการอาบน้ำและบำรุงผิวลูกด้วยการเบบี้ โลชั่นทุกครั้งค่ะ

เบบี้ โลชั่นสำหรับเด็กที่คุณแม่เลือกใช้ ควรมีเนื้อโลชั่นที่เบาสบายไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาแล้วซึมซาบเข้าผิวได้อย่างรวดเร็วให้ความรู้สึกสบายผิว ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งกร้าน ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มสุขภาพดี และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ที่สำคัญต้องปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวลูกน้อยด้วยนะคะ

โลชั่นบำรุงผิวลูก

Amarin Baby & Kids ยกให้ ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่นบำรุงผิวลูก เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับเด็ก ที่ได้รับรางวัล EDITOR’S CHOICE สาขา BEST NATURAL & ORGANIC SKINCARE จาก Amarin Baby & Kids Awards 2023

ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่น ไอเทมบำรุงผิวใหม่ ที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่จบความว้าวุ่นของการนอนไม่หลับให้กับลูกน้อยได้อย่างอยู่หมัด

ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่นตัวนี้ เป็นผลิตภัณฑ์ โลชั่นบำรุงผิวเด็ก ใน Smile Booster Series ซีรีส์ใหม่ล่าสุดจากดีนี่ ที่มาพร้อม Sweet Dream Tech เทคโนโลยีน้ำหอมเฉพาะจากดีนี่ ที่มีกลิ่นหอมผ่อนคลาย ช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับสบายและยาวนานขึ้นค่ะ  พร้อมกับความเก๋ของคอลเลคชั่น Smile Booster คือได้มีการออกแบบให้มีความละมุน ชวนให้น่าหลงใหล ใช้แล้วนอนหลับฝันดี ด้วยการเพิ่มความสนุกให้คุณพ่อคุณแม่ได้สะสม ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่น กันถึง 4 ลายสวยของขวดผลิตภัณฑ์ด้วยค่ะ

ส่วนเรื่องคุณภาพหมดห่วงเลยค่ะ เพราะดีนี่จัดเต็มให้ตั้งแต่ส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติถึง 7 ชนิด พร้อมดอกลาเวนเดอร์ บำรุงผิวนุ่มชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อม ผสาน 3X ทริปเปิล เซราไมด์ มาเป็นเกราะป้องกันผิวจากความแห้งกร้าน ช่วยล็อคผิวให้ชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน ผิวแลดูเนียนนุ่ม ผ่านการทดสอบ Hypoallergenic Tested อ่อนโยนปลอดภัย ไม่ทำให้แพ้และระคายเคือง ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวลูกน้อย เพราะปราศจากสารพาราเบน กูลเตน และสีสังเคราะห์

โลชั่นบำรุงผิวลูก

5 ความพิเศษสุดว้าวของ ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่น Smile Booster Series

  • 100% ออร์แกนิค คาโมมายล์ ออยล์
  • กลิ่นหอมผ่อนคลายด้วย Sweet Dream Tech
  • 3X ทริปเปิล เซราไมด์ ล็อคผิวชุ่มชื้น ยาวนาน
  • ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญ อ่อนโยน ไม่แพ้
  • เนื้อโลชั่น ซึมไว ไม่เหนอะหนะ

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ของผลิตภัณฑ์จาก ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่น ทาง Amarin Baby & Kids “เครือข่ายแม่ลูกใหญ่ที่สุด” ผู้นำด้านคอนเทนต์คุณภาพ เข้าใจครอบครัวไทย และตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงคัดเลือกให้  D-nee Organic Sweet Dream Baby Lotion ได้รับรางวัล Editor’s Choice สาขา BEST NATURAL & ORGANIC SKINCARE จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2023”

หากคุณพ่อคุณแม่สนใจ ดีนี่ ออร์แกนิค สวีทดรีม เบบี้ โลชั่น Smile Booster Series สามารถสอบถามและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

D-nee Facebook: www.facebook.com/DneeThailand

D-nee Line Official Account: @Dneethailand https://bzbs.co/dnee-register

 

อ่านบทความน่าสนใจอื่นๆ 

https://www.amarinbabyandkids.com/awards-2023/baby-toiletries-2023/

บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก

แม่ท้อง ดื่มนมอะไรได้บ้าง นม แบบไหนดื่มแล้วดีต่อสุขภาพ

event
บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก
บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก

ถูกใจคนรักสุขภาพที่สุด เพราะเดี๋ยวนี้มีนมเพื่อสุขภาพออกมาให้เลือกดื่มหลากหลายมากขึ้น แต่ “นม” ที่ดื่มได้ทั้งครอบครัว เด็กดื่มได้ แม่ท้องดื่มดี กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids แนะนำว่าต้องกล่องนี้ค่ะ >> บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก เป็นไอเทมเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ อยากให้ทุกคนได้ดื่มกันทุกวันค่ะ

กินดี ร่างกายก็แข็งแรง…

สุขภาพที่ดีต้องแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก การจะทำให้ระบบเซลล์ ระบบเลือด ระบบอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายมีสมดุลที่ดี มีความแข็งแรง จนส่งผลออกมาภายนอก ช่วยทำให้ผม ผิวพรรณ หน้าตาสดใส กระดูกไม่พรุน มีสายตาดี เป็นต้น ล้วนมาจากโภชนาการสารอาหารที่รับประทานเข้าไปส่วนหนึ่ง บวกกับการได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ อาหารที่รับประทานในแต่ละวัน แต่ละมื้อ ควรต้องเป็นอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่จากวัตถุดิบที่สะอาด ปลอดภัย และก็ต้องครบคุณค่าสารอาหาร 5 หมู่ด้วยนะคะ

และนอกจากอาหารมื้อหลักแล้ว คุณแม่ยังสามารถเพิ่มเติมระหว่างวัน หรือระหว่างมื้ออาหาร ด้วยเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นั่นก็คือ บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก จากใจเลยค่ะ เป็นเครื่องดื่มที่ดีกับสุขภาพคุณแม่ท้องมาก ๆ อันนี้คอนเฟิร์ม เพราะตัวเองก็กำลังตั้งครรภ์อยู่เหมือนกันค่ะ แล้วก็ดื่มบาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิกทุกวัน อะไรที่ดีมีประโยชน์ กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids แนะนำเลยค่ะ

จากประสบการณ์ของตัวเอง และจากเพื่อน ๆ ที่เป็นคุณแม่ท้อง มีความเห็นว่า คนท้องจะต้องการแคลเซียมมากกว่าคนทั่วไป และมักจะรู้สึกโหยช่วงบ่าย ๆ ถ้าไม่อยากกินอะไรหนักท้องมากเกินไป เพราะเดี๋ยวก็ต้องทานมื้อเย็นกันแล้ว ช่วงบ่ายของแม่ท้อง ดื่มบาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก สัก 1 กล่อง พร้อมผลไม้ 4-5 ชิ้น อิ่มเบา ๆ ได้แคลเซียมและใยอาหาร ที่สำคัญสบายท้องที่สุดเลยล่ะค่ะ

บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก ประโยชน์ที่ดีกับสุขภาพแม่ท้อง

ใครที่เคยสอบถามเข้ามาว่าช่วยแนะนำ นมคนท้อง ให้หน่อย ที่ไม่เสี่ยงทำให้ให้ลูกในท้องแพ้ จากการดื่มนมของแม่ตอนท้อง ก็ต้องกล่องนี้เลยค่ะ

บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก มีให้เลือกอร่อยถึง 3 รสชาติ

บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก
น้ำนมข้าวไรซ์เบอร์รี่ออร์แกนิก

 

น้ำนมข้าวกล้องออร์แกนิก รสวานิลลา
น้ำนมข้าวกล้องออร์แกนิก รสวานิลลา

 

น้ำนมข้าวกล้องออร์แกนิก รสธรรมชาติไม่เติมน้ำตาล
น้ำนมข้าวกล้องออร์แกนิก รสธรรมชาติไม่เติมน้ำตาล

ความหอม อร่อยกลมกล่อมของ บาลานซ์ น้ำนมข้ามออร์แกนิก ว่าถูกใจแล้ว พอมาดูข้อมูลผลิตภัณฑ์แล้ว แม่ให้ 10 10 10 เลยค่ะคุ๊ณ!! ดื่มแล้วไม่ทำร้ายสุขภาพแม่ สุขภาพลูกในท้อง ดื่มแล้วสามารถป้องกันการแพ้นมวัวของลูกน้อยอีกด้วย เพราะไม่มีส่วนผสมของนมวัว  ไม่มีแลคโตส  ไม่มีกลูเตน  ไม่มีถั่วเหลือง ที่สำคัญไม่มีสารก่อภูมิแพ้ยอดฮิต 8 ชนิด ได้แก่
1. ไข่
2. นมวัว
3. ข้าวสาลี
4. ถั่วลิสง
5. ถั่วเปลือกแข็ง
6. ปลา
7. ถั่วเหลือง
8.สัตว์น้ำที่มีเปลือก เช่น กุ้ง ปู หอย

คุ้มค่า อร่อยได้ประโยชน์เต็มกล่องแบบนี้ ไม่อยากให้พลาดซื้อมาดื่มกันนะคะ อ่อ!! แล้วก็ไม่ได้ดื่มแค่เฉพาะแม่ท้องเท่านั้นนะคะ เพราะไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุในบ้าน ก็ดื่มน้ำนมข้าวออร์แกนิก บาลานซ์กล่องนี้ได้เหมือนกัน เขาคิดค้นมาเพื่อทุกคน รวมถึงคนท้องดื่มแล้วดีต่อสุขภาพค่ะ

บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก หอมอร่อย ดื่มง่าย แคลอรี่ต่ำ น้ำตาลน้อย มีแคลเซียมสูงจากสาหร่ายธรรมชาติ ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าแคลเซียมทั่วไปถึง  2 เท่า ปลอดภัยไร้สารเคมี คัดสรรวัตถุดิบออร์แกนิกแท้ ๆ เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ที่ได้รับรองมาตรฐานออร์แกนิก USDA ของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ว้าว!! สุดยอดมาก ๆ เลยค่ะ

ขออธิบายเพิ่มถึงความดีงามของสาหร่ายที่เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของบาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก ไม่ใช่สาหร่ายธรรมดาทั่วไปนะคะ แต่เป็นสาหร่ายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอัญมณีใต้สมุทร สาหร่ายชนิดนี้คือ สาหร่ายลิโธธามเนียน (Lithothamnion) ที่อุดมด้วยแคลเซียมสูง เป็นแคลเซียมธรรมชาติที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบำรุงเสริมกระดูกให้แข็งแรง และอีกหนึ่งส่วนประกอบก็คือ น้ำนมข้าวกล้อง ที่คัดสรรมาจากข้าวกล้องออร์แกนิก ปลูกและผลิตโดยไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ค่ะ ข้าวกล้องประกอบไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายชนิดอื่น ๆ เช่น แมงกานีส ซิลิเนียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส กรดโฟเลต ไทอามีน ไนอาซิน วิตามินบี 6 เหล็ก และสังกะสี ข้าวกล้องมีประโยชน์ต่อร่างกายในการช่วยนำพลังงานจากอาหารมาใช้ในร่างกายและช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง รวมถึงไฟเบอร์ ซึ่งช่วยทำให้อิ่มท้อง กระตุ้นการทำงานของลำไส้ ส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย และช่วยแก้ปัญหาท้องผูก

คนท้องไม่ใช่คนป่วย แต่ถ้ากินไม่ดีตอนท้องก็อาจทำให้เสี่ยงเจ็บป่วยได้ ฉะนั้นอยากให้คุณแม่ท้องใส่ใจอาหารการกิน ที่ต้องแน่ใจได้จริง ๆ ว่า เครื่องดื่ม หรืออาหารที่รับประทานเข้าสู่ร่างกายนั้น จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของแม่และทารกน้อยในครรภ์ !!

บาลานซ์ น้ำนมข้าวออร์แกนิก

ชี้เป้าไปช้อป  Balance Organic Rice Drink มาดื่มเพื่อการสุขภาพที่ดีกันทั้งครอบครัว ได้ที่นี่ค่ะ
Lotus’s / BigC / ใบเมี่ยง ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้าสุขภาพ

หรือร้านค้าทางการของแบรนด์ ทาง Shopee/Lazada ค้นหาว่า 4 Care Store

เว็บไซต์ : https://4care.co.th

Facebook :  BALANCEby4CARE

IG : BALANCE_by4CARE

Tiktok : 4.care.official

ช้อปปี้

ช้อปปี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค การันตีด้วยเหล่ารางวัลอันทรงพลัง พร้อมเดินหน้าเติมเต็มอีโคซิสเต็มอย่างยั่งยืน

event
ช้อปปี้
ช้อปปี้

จากที่ ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวันเคียงข้างผู้ใช้งานมาตลอดระยะเวลากว่า 7 ปี ผ่านความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ สนับสนุน และผลักดันให้เกิดความสำเร็จในทุกแง่มุมให้แก่ผู้ใช้งาน ผู้ขาย แบรนด์ และพันธมิตรคนสำคัญมากมาย รวมไปถึงพนักงานขององค์กร เพื่อเดินทางไปสู่จุดหมายซึ่งเป็นพันธกิจของช้อปปี้ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนมาโดยตลอด ทำให้ช้อปปี้ของเราได้รับการกล่าวขานผ่านรางวัลทรงคุณภาพต่างๆมากมาย ในหลากหลายสาขา ทั้งฝั่งแบรนด์ดิ้งและฝั่งทรัพยากรบุคคล

สุชญา ปาลีวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และเหล่าแบรนด์พันธมิตร สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของช้อปปี้ในการเสริมสร้างแบรนด์และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงเท่านี้ สำหรับช้อปปี้เองก็ยังคงให้ความสำคัญกับทรัพยากรบุคคล เพราะพนักงานเป็นกำลังสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ช้อปปี้และแวดวงอีคอมเมิร์ซไทย เราขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เล็งเห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของเราผ่านรางวัลอันทรงเกียรติในแขนงต่างๆ ท้ายนี้ เราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มและส่งเสริมบุคลากรของเราให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตอย่างดีที่สุด”

 

ถ่ายทอดความสำเร็จผ่าน 4 รางวัลอันทรงพลัง

 

รางวัลด้านความเป็นเลิศทางด้านทรัพยากรบุคคล

ช้อปปี้ ถือเป็นองค์กรที่เหล่าคนทำงานรุ่นใหม่ให้ความสนใจ  จากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ท้าทายในวัฒนธรรมที่สนุกสนาน เพื่อนร่วมงานที่เชี่ยวชาญจากหลากหลายประสบการณ์มาทำงานร่วมกัน  และที่สำคัญ ปีนี้ช้อปปี้เน้นเรื่อง Internal Career Opportunity ให้พนักงานได้เติบโตทางการงานในมุมที่หลากหลายยิ่งขึ้น เรียกว่าทุกคนสามารถเติบโตไปพร้อมๆกับองค์กรได้เลย

  • 1 ใน 50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด ปี 2566 โดย WorkVenture ในปีนี้ช้อปปี้ยังคงมุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้นำตลาดและเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยให้พนักงาน ผู้บริโภคและธุรกิจเติบโตในระบบนิเวศดิจิทัลที่ครอบคลุมและยั่งยืน พร้อมทั้งยังแบ่งปันเรื่องราวการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์หลายประเภทธุรกิจในการพัฒนานวัตกรรมตาม ภารกิจของเราเพื่อที่จะพัฒนาและสร้างความแตกต่างให้กับผู้ขายและผู้ใช้ทุกท่าน

 

  • ‘QMAC Thailand Most Attractive Companies 2566’ เปิดผลสำรวจพร้อมประกาศรางวัลครั้งยิ่งใหญ่ 55 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วย โดยช้อปปี้ติดอันดับ 5 ในฐานะที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วย อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ติด 1 ใน 5 สำหรับปีนี้อีกด้วย

 

สร้างความเชื่อมั่น สรรค์สร้างความครีเอทีฟด้วยรางวัลแบรนด์ดิ้งคุณภาพ 

หากเราพูดถึง “ความครีเอทีฟ ความคิดสร้างสรรค์” ช้อปปี้ก็คงเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ผู้ใช้งานนึกถึง  ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เราได้รับฟังความต้องการของผู้บริโภคและเสิร์ฟคอนเท้นต์ดีๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้ ช้อปปี้ได้รับรางวัลความโดดเด่นด้านแบรนด์ดิ้งอย่างเสมอมา และด้วยความพยายามและตั้งใจของช้อปปี้ ทำให้เราได้รับเหล่ารางวัลที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ทีมงานของช้อปปี้

  • Thailand Social Awards: ช้อปปี้ ยังคงเป็นผู้นำในเรื่องของการทำคอนเท้นต์ ด้วยการสรรค์สร้างผลงานอันโดดเด่นผ่านสื่อโซเชียลมีเดียในทุกแง่มุม ทำให้ช้อปปี้ได้รับรางวัลชนะเลิศ 5 ปีซ้อนในสาขา Best Brand Performance On Social Media จาก Thailand Social Awards งานประกาศรางวัลโซเชียลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาคอนเท้นต์ดีๆให้ตรงใจและถูกใจผู้ใช้งานมากขึ้น พร้อมทั้งจะรับฟังข้อคิดเห็นเพื่อพัฒนาและต่อยอดเพื่อให้ทุกคนได้รับประสบการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดควบคู่กับความบันเทิงจากหลากหลายคอนเท้นต์บนช้อปปี้
  • แบรนด์ที่มีพลังบันดาลใจให้กับคนไทยปี 2566 โดย Wunderman Thompson: ช้อปปี้ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยในปี 2566 และรั้งอันดับ 1 ในหมวดอีคอมเมิร์ซจากรายงาน “Inspiring Growth” ของ Wunderman Thompson Thailand แบรนด์ที่มีพลังบันดาลใจ คือแบรนด์ที่ประกอบด้วยกัน 3 ประการ ได้แก่การยกระดับชีวิตและจิตใจ มีพลังดึงดูด และสร้างแรงกระตุ้น ซึ่งถือเป็นพลังบันดาลใจสามารถขับเคลื่อนความเติบโตของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

 

พร้อมเดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนผู้ซื้อ ผู้ขายให้เติบโตอย่างมีนัยยะ

ช้อปปี้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานชาวไทยอย่างดีที่สุด ทั้งในแง่ของผู้ซื้อและผู้ขาย  พร้อมเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างความยั่งยืนและความยืดหยุ่นทางดิจิทัล ยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดในทุกแขนง

  • มอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้นักช้อป: นักช้อปยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดให้กับนักช้อปชาวไทย ผ่านแคมเปญต่างๆ ในทุกเดือนผ่านโปรโมชั่นและดีลมากมาย และครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่สินค้า มามอบให้อย่างจัดเต็ม พร้อมทั้งยังมอบประสบการณ์ทางความบันเทิงผ่านกิจกรรมทางการตลาดต่างๆมากมายตลอดทั้งปี
  • ส่งเสริมและสร้างการเติบโตให้เกิดแก่ผู้ประกอบการ: ในปัจจุบัน มีร้านค้าและแบรนด์ชั้นนำเข้ามาเปิดร้านบนช้อปปี้เป็นจำนวนมาก ช้อปปี้ ในฐานะแพลตฟอร์มที่เป็นผู้สร้างโลกแห่งอีคอมเมิร์ซให้เป็นพื้นที่ของทุกคนและยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตด้านการซื้อขายบนอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย พร้อมทั้งยังคงเดินหน้าที่จะสนับสนุนแบรนด์พันธมิตรและส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยสามารถ พัฒนาองค์ความรู้ในด้านการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซให้เติบโตไปพร้อมกันผ่านโครงการและการเทรนนิ่งจากเครื่องมือทางการตลาด อาทิ Shopee University, Certified Shopee Expert Program (CSEP) , Shopee International Platform

 

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันช้อปปี้ได้ฟรีจาก App Store, Google Play Store และ App Gallery

 

##############################

 

เกี่ยวกับ Shopee (ช้อปปี้)
Shopee เป็นผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อระหว่าง ผู้บริโภค แบรนด์ และผู้ขายในทั่วภูมิภาคเอเชียและในตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็ว เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนสามารถซื้อ-ขายได้อย่างสะดวกสบายทุกที่ทุกเวลา
Shopee ส่งมอบความสะดวกสบาย ปลอดภัย และสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้ใช้งานหลายล้านคนให้มีความเพลิดเพลินกับการเข้าใช้งานบนแพลตฟอร์มของเราในทุกๆวัน ด้วยการนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย พร้อมด้วยระบบการชำระเงินและการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ รวมถึงการสร้างความบันเทิงผ่านหลากหลายฟีเจอร์ที่คัดสรรมาเพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้งานในแต่ละตลาดโดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน Shopee เข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลระดับภูมิภาค ด้วยมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและแบรนด์สินค้าต่างๆ สามารถบรรลุเป้าหมายและประสบผลสำเร็จได้ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
Shopee อยู่ในกลุ่มของ บริษัท Sea (NYSE:SE) ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเพื่อผู้ใช้งานในระดับโลก นอกเหนือจาก Shopee แล้ว Sea ยังมีธุรกิจหลักครอบคลุมทั้งในส่วนดิจิทัล เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ภายใต้ชื่อ การีนา และ บริการด้านการเงินแบบดิจิทัลภายใต้ชื่อ ซีมันนี่ Sea มีพันธกิจที่จะมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค และผู้ประกอบการรายย่อยให้ดียิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีอันล้ำหน้า

แดดแรงขนาดนี้แม่ต้องสู้ มาชวนคุยเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับรังสี UV พร้อมสู้แดดไทยพุ่ง 43 องศา แบบตัวมารดา!

Alternative Textaccount_circle
event

  “ประเทศไทยร้อนมาก!” ถือเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์ให้เหนื่อย ยิ่งโดยเฉพาะการพาลูกออกไปเล่นกิจกรรมนอกบ้าน แม่จะหยุดสวยไม่ได้

แต่นอกจากอากาศที่ร้อนและแสงแดด แผดเผาที่เราสัมผัสได้ด้วยตัวเองแล้ว ค่า UV Index ประเทศไทยของเรายังสูงไม่แพ้ใครอีกด้วย ค่า UV Index นั้นคือการแผ่รังสีอัลตราไวโอเลตลงมายังพื้นผิวโลก มีตั้งแต่ระดับ 1 ไปจนถึง 12 โดยปกติแดดเมืองไทยมีค่าเฉลี่ย UV Index สูงอยู่แล้ว แต่ถ้าเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม จะอยู่ที่ระดับความรุนแรงสูงสุดตามที่องค์การอนามัยโลกระบุ ที่ 11 – 12 เลยทีเดียว เรียกว่าแดดเมืองไทยไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาแบบเล่นใหญ่ไม่แพ้ชาติได้ในโลก จนหลายประเทศต้องเตือนนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวประเทศไทยให้หาทางป้องกันแดดให้ดีเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งผิวหนัง

ในเมื่อแดดเมืองไทยเขาพีคไม่เกรงใจขนาดนี้ ถ้าต้องการปกป้องผิวจากแสงแดดตัวจี๊ดให้อยู่หมัดก็ต้องปกป้องแบบตัวมัม สู้ด้วยความรู้ความเข้าใจแบบยืนหนึ่ง วันฝุ่นมาพายุฤดูร้อนเข้าแปลว่าไม่มีรังสี UV จริงหรือเปล่า? อยู่ในร่มไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดก็ได้จริงไหม? สวยแบบผิวแทนสายฝอก็ไม่ต้องใช้กันแดดจริงดิ? วันนี้ MISTINE จะชวนทุกคนมาแก้ความเข้าใจผิดๆ แล้วรีบเข้าใจใหม่เพื่อให้ฤดูร้อนนี้หาทางป้องกันแดดและรังสี UV อย่างถูกวิธีแบบตัวมารดาสุดปังไปพร้อมกัน เริ่มเลอ!

เรื่องเข้าใจผิดที่ต้องรีบเข้าใจใหม่ในหน้าร้อนนี้ ถ้าคิดจะรับมือกับ UV ตัวจี๊ดในไทย

วันฝุ่นเยอะ วันมีเมฆ สวยเชิดได้แม้ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดจริงหรือ? หลายคนเข้าใจว่าวันที่ท้องฟ้ามีเมฆมากหรือวันที่ PM2.5 บุกจนส่งผลให้อากาศขมุกขมัว แดดส่องลงมาไม่ถึงพื้นดินก็แปลว่าสบายใจได้ ไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์
กันแดดแล้ว แต่จริง ๆ แล้วแม้เป็นวันที่ดูไม่มีแสงแดดแผดเผา แต่รังสี UV ยังมีอยู่! โดยเมฆบางชนิดอาจกั้นรังสี UV ไว้ได้บ้าง แต่รังสี UV ก็ยังทำร้ายผิวได้อยู่ นอกจากนี้ ผิวยังอาจเกิดอาการแสบไหม้จากแสงอาทิตย์ได้ง่ายขึ้นเพราะขาดสัญญาณเตือนจากความร้อนที่เกิดจากรังสีอินฟราเรด ซึ่งถูกไอน้ำในเมฆดูดซึมไปเกือบทั้งหมด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นวันฝุ่นมา ฟ้าหม่น วันฝนตกพายุฤดูร้อนเข้าก็ไม่ควรวางใจ ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อปกป้องผิวในทุกวันชัวร์กว่า

 อยู่แต่ในร่ม แปลว่ารอดเพราะแสงแดดส่องมาไม่ถึง จริงไหม? เพราะฤดูร้อนหมายถึงการไม่อยากออกไป
ฝ่าแดดที่ไหนทำให้คนส่วนใหญ่เลือกเปิดเครื่องปรับอากาศใช้ชีวิตสบายใจในที่ร่ม จนเผลอคิดว่าที่ก็ร่ม แอร์ก็เย็น ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดก็ได้ แม้แสงแดดโดยตรงและรังสี UVB อาจเข้ามาไม่ถึงในที่ร่ม แต่รังสี UVA อาจเล็ดลอดเข้ามาได้! และรังสี UVA นี่เองที่เป็นสาเหตุสำคัญในการทำร้ายผิวหนังของเรา ไม่เพียงเท่านั้น ในอาคารยังมีแสงไฟและแสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย เพราะฉะนั้นต่อให้อยู่ในที่ร่มทั้งวัน ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อป้องกันดีกว่ามาตามแก้ให้เสียใจทีหลังแน่นอน 

         อยากสวยแบบสายฝอ ขอมีผิวสีแทนฉ่ำ ผลิตภัณฑ์กันแดดจึงไม่จำเป็น จริงหรือเปล่า? ต้องเข้าใจก่อนว่าการมีผิวเข้มสุขภาพดีตามต้องการนั้น แตกต่างจากการถูกแดดทำร้ายจนผิวไหม้คล้ำเสีย ดังนั้นใครที่เข้าใจว่าอยากมี
ผิวแทนสวยแบบสายฝอก็ไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดนั้นผิดถนัด! ยิ่งต้องการผิวเข้มฉ่ำ สุขภาพดีและทำให้อาบแดดได้นานขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นสิ่งสำคัญและอย่าลืมทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง ที่สำคัญถ้าคิดจะอาบแดดฤดูร้อนในประเทศไทยควรอาบก่อนเก้าโมงเช้าและหลังสี่โมงเย็นไปแล้ว ไม่เช่นนั้นรังสี UV อาจนำพาความแห้งกร้านและริ้วรอยก่อนวัยมาเป็นของแถม หรือร้ายแรงถึงขั้นเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังเลยทีเดียว

กันแดดหน้าร้อนต้อง #กันแดดหมวกเหลือง MISTINE Aqua Base Ultra Protection Matte & Light Facial Sunscreen Pro SPF50+ PA++++ กันแดดหน้าไม่เทา! เพราะบางเบาไม่เหนอะหนะ

MISTINE Aqua Base Ultra Protection Matte & Light Facial Sunscreen Pro SPF50+ PA++++ หรือ #กันแดดหมวกเหลือง ถือเป็นโลชั่นกันแดดที่ตอบโจทย์กันแดดหน้าร้อนสำหรับคนไทยได้ครอบคลุม ด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบา
ไม่เหนอะหนะ ทาแล้วหน้าไม่เทา ด้วยเทคโนโลยีพิเศษ Aquamatte Technology ที่คิดมาเพื่อฤดูร้อนแบบไทยๆ ทำให้ทาแล้วเบาสบายไปกับผิวเหมือนไม่ได้ทาเพราะซึมง่ายกว่าสูตรเดิม ที่สำคัญมาพร้อม UV Protectors ที่ช่วยปกป้องผิวจาก
ทั้งรังสี UVA และ UVB ปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าฤดูร้อนนี้จะอยู่ในที่ร่มหรือกลางแจ้งก็มั่นใจได้แน่นอน ถือเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีคุณภาพแน่นแต่เนื้อบางเบาเหมาะสำหรับทุกวัน ใช้ทุกวันอยู่บ้านก็สบายผิว หรือหน้าร้อนนี้ใครจะออกทริปลงทะเลดำน้ำฉ่ำใจก็ยิ่งไม่ต้องกังวลเพราะ กันแดดหมวกเหลือง ไม่มีส่วนประกอบสารเคมี 4 ชนิด ที่เป็นอันตรายหรือทำร้ายปะการัง รักษาผิวแบบตัวแม่ และแคร์สิ่งแวดล้อมได้พร้อมกัน ยิ่งไปกว่านั้น กันแดดหมวกเหลืองตัวนี้ ยังได้รับการรับรองจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช. ว่าปลอดภัยจริง ๆ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลแน่นอน

เรื่องนี้แม่ต้องรู้ กับ “New SofTouch” นวัตกรรมจุกนมเจเนอเรชั่นใหม่จาก Pigeon ตัวช่วยการให้นมแม่เป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

Alternative Textaccount_circle
event

เพราะน้ำนมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก และเด็กเล็ก ดังนั้น การเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่จึงได้มีการส่งเสริม สนับสนุนให้คุณแม่มีความรู้ ความเข้าใจในการให้นมแม่มากขึ้น

นอกจากนี้การให้น้ำนมแม่ยังมีผลดีต่อสุขภาพและสร้างความผูกพันระหว่างแม่และลูกน้อย บทบาทของแม่ในการเลี้ยงดูลูกจึงมีความสำคัญ และท้าทายมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากวิถีชีวิตและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คุณแม่ยุคใหม่ต้องทำงานและเลี้ยงดูลูกไปพร้อมกัน ซึ่งทำให้แม่ต้องจัดการเวลาให้สมดุลระหว่างการทำงานและการดูแลลูกให้ดีที่สุด เพื่อให้ลูกได้รับการเลี้ยงดูที่เหมาะสม มีสุขภาพดี และสุขอนามัยที่ถูกสุขลักษณะ

พีเจ้น (Pigeon) แบรนด์อันดับหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากกลุ่มผลิตภัณฑ์แม่และเด็กทั่วโลก รวมถึงครองตำแหน่งผู้นำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน มีปณิธานในการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ด้วยการคิดค้นและวิจัยผลิตภัณฑ์ที่สามารถสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นแบรนด์แรก และแบรนด์เดียวที่ได้พัฒนานวัตกรรมจุกนมเสมือนนมมารดา จนได้รับการยอมรับจากคุณแม่ทั่วโลก และพีเจ้นยังคงวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ดียิ่งขึ้น จึงได้พัฒนาจุกนมนวัตกรรมรุ่นใหม่ “New SofTouch จุกเสมือนนมมารดาที่ดีที่สุดจากพีเจ้น” ที่ออกแบบมาเพื่อให้เสมือนกับการดูดนมของทารกจากอกแม่ ด้วยคุณสมบัติของจุกนมที่ออกแบบให้มีเส้นกำหนดตำแหน่งริมฝีปากที่เหมาะสม มีความนุ่มมากเป็นพิเศษ ยึดหยุ่นได้ดี และมีระบบป้องกันอาการโคลิก จึงช่วยทำให้ลูกน้อยสามารถดูดนมได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีความรู้สึกใกล้เคียงกับการดูดนมจากอกแม่มากที่สุด และยังช่วยให้การให้นมสลับกับการให้นมจากอกแม่ได้อย่างราบรื่น ไม่สับสน และมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น

นางสาวสุวรรณา โชคดีอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ พีเจ้น แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า “น้ำนมแม่มีปริมาณและส่วนประกอบที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก เพราะในน้ำนมแม่ประกอบไปด้วยโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และวิตามินต่างๆ ที่ช่วยให้ร่างกายของเด็กได้รับภูมิคุ้มกัน สารอาหารที่สำคัญและเพียงพอต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ จึงทำให้พีเจ้นให้ความสำคัญ และใส่ใจเป็นอย่างมากต่อการวิจัย และพัฒนาทุกผลิตภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่มาอย่างต่อเนื่อง ยาวนานกว่า 60 ปี พีเจ้นเข้าใจถึงความสำคัญของการดูแลทารกและเด็กเล็ก พร้อมให้ความช่วยเหลือคุณแม่ในการดูแลลูกในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของเส้นทางการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เราจึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์จุกนมนวัตกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด SofTouch ขึ้น โดยคิดค้นวิจัยจากพฤติกรรมการดูดนมของลูกน้อย เพื่อให้ผลิตภัณฑ์จุกนมพีเจ้น ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้แม่ยุคใหม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างราบรื่นตลอดระยะเวลาการให้นมแม่ เพราะน้ำนมแม่เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับลูกน้อย ที่เราควรสนับสนุนส่งเสริมให้คุณแม่ได้รับความสะดวกมากขึ้นในการให้นมแม่ในวิถีการใช้ชีวิตยุคปัจจุบัน

 

นายซาโตชิ โคยามะ นักออกแบบผลิตภัณฑ์อาวุโส สายงานวิจัยและพัฒนา พีเจ้น คอร์ปอเรชั่น เผยผลการวิจัยของ    พีเจ้น ประเทศญี่ปุ่น ที่ระบุว่าทารกที่กินนมแม่จะมีพฤติกรรมตามธรรมชาติที่จะใช้ริมฝีปากครอบบริเวณจุกนมจนถึงลานนม และสามารถดูดนมแม่เข้าไปในปากได้ลึกในตำแหน่งที่เหมาะสม และแนบกับเต้านมของแม่ ป้องกันการรั่วไหลของน้ำนม นอกจากนี้ยังพบว่าหัวนมของแม่สามารถยืดออกได้มากกว่าความยาวปกติในจังหวะการดูดนมของของทารก ดังนั้น พีเจ้น จึงได้ทำการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมจุกเสมือนนมมารดา  SofTouch รุ่นใหม่ เจนเนอเรชันที่ 3 เพื่อเลียนแบบการเคลื่อนไหวการดูดนมตามธรรมชาติของทารก ตั้งแต่การอม รีด และกลืน เมื่อดูดนมจากอกแม่ โดยออกแบบให้มี “Latch-on Line” หรือ เส้นกำหนดตำแหน่งริมฝีปาก เพื่อบ่งบอกระดับความลึกที่ทารกควรดูดนมโดยประมาณ มาพร้อมโครงสร้างของจุกนม ที่ช่วยให้ทารกสามารถดูดน้ำนมได้ง่ายขึ้น ซึ่งจุกนม SofTouch รุ่นใหม่ จะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดียวกับการให้นมจากอกแม่ เพื่อเพิ่มการดูดนมที่ดีและมีประสิทธิภาพไม่ว่าทารกจะมีขนาดปากที่แตกต่างกัน

นอกจากนี้จุกเสมือนนมมารดา SofTouch รุ่นใหม่ยังใช้ซิลิโคนที่นุ่มขึ้น เพื่อช่วยให้ลิ้นของทารกเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น และนุ่มนวล อีกทั้งจุกนมจะเปลี่ยนรูปตามจังหวะการดูด เพื่อไม่ให้ขัดขวางและช่วยการเคลื่อนไหวของลิ้นตามธรรมชาติของทารก โดยได้รับการออกแบบอย่างตั้งใจให้ใกล้เคียงกับความนุ่มของเต้านมแม่มากที่สุด ช่วยให้การสลับระหว่างการให้นมจากอกแม่และการให้นมผ่านขวดนมของพีเจ้น เป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น และสามารถใช้ร่วมกับกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กอื่นๆ ของพีเจ้น ได้อย่างครบวงจร เช่น อุปกรณ์ปั๊มนม ถุงเก็บน้ำนม และผลิตภัณฑ์สำหรับล้างและทำความสะอาดขวดนม เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดจากพีเจ้น”

นอกเหนือจากนวัตกรรมจุกนมรุ่นใหม่ พีเจ้น ยังคงเดินหน้าแผนการตลาด และสร้างสรรค์กิจกรรม เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ยุคใหม่ ด้วยการเปิดตัว Howapipi (โฮวาปีปี้) แมสคอตของแบรนด์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยคาแรคเตอร์ที่อ่อนโยน อบอุ่น แสนน่ารักในโทนสีขาว-เทา ซึ่งจะปรากฏบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของพีเจ้น เช่น ขวดนมสีชา วัสดุ PPSU ที่มีคุณภาพสูง ได้รับความนิยม และไว้วางใจสูงสุดในกลุ่มแม่ยุคใหม่ เพื่อเพิ่มความสดใส และความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยจุกเสมือนนมมารดา SofTouch ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้วในเดือนมีนาคม และขวดนม PPSU ลาย Howapipi จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงเดือนเมษายนทั่วประเทศ

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าผ่าน Pigeon Little Moments Club ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มการใช้งานทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อเข้าถึง และเข้าใจคุณแม่ยุคใหม่ พร้อมช่วยตอบสนองความต้องการของคุณแม่ตลอดเส้นทางการดูแลลูกน้อยในทุกวันๆ

คุณแม่ยุคใหม่ที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ของพีเจ้น ติดตามความเคลื่อนไหว หรือปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ผู้เชี่ยวชาญพีเจ้น 02-020-8989 หรือ www.pigeonlittlemomentsclub.com หรือทาง FB/ Line: pigeonlittlemomentsclub และสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของพีเจ้นได้แล้ววันนี้ ในซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ร้านขายสินค้าแม่และเด็กชั้นนำทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Pigeon Official store บนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee หรือ Line Shopping : Moongshop และ www.Moongshop.com

รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

Alternative Textaccount_circle
event
รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์
รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

อ่านการ์ตูนออนไลน์ เป็นความบันเทิงบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเนื้อเรื่องสนุกน่าอ่านชวนติดตาม ภาพและลายเส้นสวยงามคมชัด สามารถอ่านจากที่ไหนก็ได้ มีทั้งการ์ตูนอ่านฟรีและการ์ตูนที่ต้องเสียเงินซื้อในราคาที่ไม่แพงให้เลือกอ่าน เนื้อเรื่องมีหลากหลายแนวเลือกได้ตามความชื่นชอบ ทดลองอ่านเรื่องที่สนใจได้ กดอ่านและติดตามการ์ตูนได้หลาย ๆ เรื่องในเวลาเดียวกัน รวมถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเองมีการแจ้ง update กระตุ้นให้คอยติดตามความสนุกอย่างต่อเนื่อง

รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

ข้อควรรู้ก่อนอ่านการ์ตูนออนไลน์

การ์ตูนออนไลน์มีเนื้อหาที่หลากหลายแบบ มีความแตกต่างจากการ์ตูนที่เป็นเล่มหนังสือ รวมถึงการ์ตูนออนไลน์ในเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยมักมาจากหลาย ๆ ประเทศ จึงมีข้อควรรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนติดตามอ่านหรือเข้าไป comment ในกลุ่มนักอ่านการ์ตูน ดังนี้

  • การ์ตูนญี่ปุ่น หรือ มังงะ (Manga) เป็นคำเรียกหนังสือการ์ตูนของญี่ปุ่น ได้รับความนิยมจากผู้อ่านชาวไทยมายาวนาน บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันออนไลน์ ในกลุ่มนักอ่านจะใช้คำว่า “มังงะ” เรียกการ์ตูนที่ตัวเรื่องต้นฉบับมาจากประเทศญี่ปุ่น
  • การ์ตูนเกาหลี หรือ มันฮวา (Manhwa) โดดเด่นด้วยลายเส้นทันสมัย สวยงาม เนื้อเรื่องผูกเค้าโครงซ่อนปมและนำไปสร้างเป็นซีรีส์ด้วย บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันออนไลน์ ในกลุ่มนักอ่านจะใช้คำว่า “มันฮวา” เรียกการ์ตูนที่ตัวเรื่องต้นฉบับมาจากประเทศเกาหลีใต้
  • การ์ตูนจีน หรือ มันฮัว (Manhua) เอกลักษณ์คือมีลายเส้นสวยละมุน ให้ความรู้สึกสวยงามตระการตาแบบจีนโบราณ บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันออนไลน์ ในกลุ่มนักอ่านจะใช้คำว่า “มันฮัว” เรียกการ์ตูนที่ตัวเรื่องต้นฉบับมาจากประเทศจีน
  • การ์ตูนจากประเทศตะวันตก หรือ คอมิกส์ (Comics) เป็นคำเรียกหนังสือการ์ตูนของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ เนื้อเรื่องดำเนินเร็ว ไม่ซับซ้อน
  • อ่านจากบนลงล่าง (Scroll Down) โดยบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันส่วนใหญ่จะให้อ่านการ์ตูนจากบนลงล่าง มีบ้างที่บางเว็บไซต์ให้อ่านจากขวาไปซ้าย (อ่านตามต้นฉบับการ์ตูนญี่ปุ่น update ใหม่ ๆ) หรือจากซ้ายไปขวาในการ์ตูนเก่า ๆ (ทำตามต้นฉบับเดิมที่แปลไว้ โดยให้เหมาะกับคนไทยที่อ่านหนังสือจากซ้ายไปขวา ซึ่งปัจจุบันสำนักพิมพ์ไม่ทำแล้ว)
  • สปอยล์ (Spoil) นักอ่านการ์ตูนจะเอามาใช้ในความหมายว่า “เอาเรื่องมาเล่าให้ฟัง” เป็นการบอกจุดสำคัญ จุดหักเห ของการ์ตูนเรื่องนั้น ๆ ทำให้คนที่ยังไม่ได้อ่านเรื่องราวล่วงหน้าเมื่อเจอสิ่งที่เล่าไป อาจส่งผลให้ความตื่นเต้นในการอ่านการ์ตูนลดลง ถ้าไม่มีผลกระทบต่อเนื้อเรื่องก็ไม่ถือว่าสปอยล์ โดยส่วนที่สำคัญและพบมากคือ การ comment โดยมีเนื้อหาการพูดคุยที่มีการเปิดเผยส่วนสำคัญของเรื่องนั้น ๆ ดังนั้นจึงต้องมีการแจ้งว่า “สปอยล์ (Spoil)” ก่อนที่จะ comment ใด ๆ ที่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ ถือว่าเป็นมารยาทในการ comment และอ่านการ์ตูน
  • เรท (Rate) การจัดประเภทเนื้อหาตามอายุ จุดประสงค์เพื่อกำหนดความเหมาะสมของการอ่านและรับชมสำหรับเด็กและเยาวชน เช่น

12+ แปลว่า แอปพลิเคชันในประเภทนี้อาจมีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมอยู่บ้างในบางครั้ง อาจมีเนื้อหาที่แสดงถึงความรุนแรงในรูปแบบที่เป็นการ์ตูน แฟนตาซี หรือเรื่องจริงบ่อยครั้ง และอาจมีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ การชี้นำทางเพศ การจำลองสถานการณ์การเล่นพนันอยู่บ้างบางกรณี ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวอาจไม่เหมาะสมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

17+ แปลว่า ต้องมีอายุอย่างน้อย 17 ปี จึงจะสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนี้ได้ โดยแอปในประเภทนี้อาจมีการใช้ภาษาที่แสดงถึงความรุนแรงและหยาบคายบ่อยครั้ง อาจมีเนื้อหาที่แสดงถึงความรุนแรงในรูปแบบที่เป็นการ์ตูน แฟนตาซี หรือเรื่องจริง เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ สยองขวัญ และการชี้นำทางเพศบ่อยครั้ง ซึ่งรวมถึงเนื้อหาที่สื่อถึงเรื่องทางเพศ ภาพเปลือย แอลกอฮอล์ บุหรี่ และยาเสพติด ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวอาจไม่เหมาะสมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี

ดังนั้นนักอ่านสามารถเลือกอ่านการ์ตูนที่ชอบ เนื้อเรื่องที่ใช่ อ่านได้ง่าย ๆ จากเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งนี้นักอ่านแต่ละคนต่างมีความคิดเห็น แนวคิด หรือเรื่องที่สนใจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความชอบและความพึงพอใจ โดยสิ่งสำคัญที่ได้รับจากการอ่านการ์ตูนคือ อ่านเพื่อความบันเทิง ผ่อนคลาย อ่านแล้วสนุก ได้แรงบันดาลใจที่ดีจากการ์ตูนเรื่องนั้น ๆ

 

รวมเว็บไซต์และแอปอ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

  1. LINE WEBTOON

แอปพลิเคชันยอดฮิตสำหรับอ่านการ์ตูนออนไลน์และที่สำคัญคือฟรี ควรค่าแก่การติดตั้งไว้ในมือถือเป็นอย่างยิ่ง มีการ์ตูนสนุก ๆ ให้อ่านฟรีมากมาย ลงอัพเดทให้อ่านทุกวันแบบไม่ซ้ำ ซึ่งปกติแล้วการ์ตูนทุกเรื่องบนแอปนี้จะเปิดให้อ่านฟรีและจะมีอัพเดทตอนใหม่ตามตารางประจำวันทุกสัปดาห์ ถ้าหากว่าใจร้อนไม่อยากให้อารมณ์ขาดตอนก็สามารถจ่ายเงินแลกเหรียญเพื่ออ่านก่อนได้โดยไม่ต้องรอ

ภาษา: ภาษาไทย อ่านจากบนลงล่าง (Scroll down) ทั้งมือถือและ Desktop

ช่องทางการอ่าน: สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบนมือถือทั้งระบบ iOS และ Android เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วเข้าไป Log in โดยใช้บัญชี Email, Facebook, Twitter หรือ Line หรือสามารถอ่านบนเว็บไซต์จาก Desktop ได้

เรื่องเด่นแนะนำ: อยู่ ๆ ฉันก็กลายเป็นเจ้าหญิง, ชาตินี้ก็ฝากด้วยนะ, การแต่งงานครั้งใหม่ของจักรพรรดินี, เสือดำขย้ำหัวใจ, แด่รักแรกของฉัน, สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ  

เว็บไซต์อ้างอิง 1: https://www.webtoons.com/th/

เว็บไซต์อ้างอิง 2: https://www.facebook.com/LINEWEBTOONTH/

รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

อ้างอิงรูปภาพ: https://apps.apple.com/th/app/webtoon-comics/id894546091?l=th

 

  1. KAKAO WEBTOON

แอปพลิเคชันอ่านการ์ตูนมันฮวาหรือการ์ตูนเกาหลี ที่มี original story เป็นของตัวเอง และถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์มากมาย ใช้งานสะดวก ให้บริการแบบ “รออ่านฟรี” รวมถึงมี ”ตั๋วของขวัญ” แจกฟรีในเมนู “กล่องของขวัญ” ทำให้สามารถเข้าไปอ่านได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ แต่ละเรื่องจะมีการแจกตั๋วอ่านฟรีจำนวนแตกต่างกัน เช่น บางเรื่องแจก 1 ตั๋ว ทุก ๆ 2 ชั่วโมง บางเรื่องแจก 1 ตั๋ว ทุก ๆ 3 วัน บางเรื่องแจก 2 ตั๋ว ทุก ๆ 7 วัน ตามแต่ที่แอปกำหนด การใช้ตั๋วอ่านฟรีเข้ามาเช่าอ่าน จะมีระยะเวลาจำกัดให้อ่านได้ 3 วัน หลังจากนั้นถ้าอยากอ่านอีกต้องหาตั๋วฟรีมาเช่าอีกครั้ง ส่วนรูปแบบการ์ตูนจะแบ่งออกมาเป็นตอน ๆ  โดยมีลำดับในการปล่อยให้อ่านที่ชัดเจนว่าจะปล่อยออกมาทุกกี่ชั่วโมง กี่วัน จะได้ติดตามอ่านต่อ ถ้าต้องการความสนุกแบบต่อเนื่องอยากรู้เรื่องตอนถัดไป สามารถเติม Cash เพื่อแลกตั๋วเช่าอ่านตอนต่อไปได้ในราคาเบา ๆ โดยการ์ตูนในแอปทุกเรื่องจะอ่านฟรีได้ตามกำหนด ยกเว้น 10 ตอนสุดท้ายที่ต้องเติม Cash เพื่อแลกตั๋วเช่า ถึงจะได้อ่านจนจบ โดยตั๋วเช่าจะมีระยะเวลาให้อ่าน 365 วัน หรือประมาณ 1 ปี อยากอ่านตอนไหน กี่ครั้ง ภายในระยะเวลานี้ สามารถทำได้เลย

ภาษา: ภาษาไทย อ่านจากบนลงล่าง (Scroll Down) ทั้งมือถือและ Desktop

ช่องทางการอ่าน: สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบนมือถือทั้งระบบ iOS และ Android เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วเข้าไป Log in โดยใช้บัญชี Email, Facebook, Twitter หรือ Line หรือสามารถอ่านบนเว็บไซต์จาก Desktop ได้

เรื่องเด่นแนะนำ:  Solo Leveling, ท่านพ่อ ลูกไม่อยากแต่งงาน!, รีเทิร์นรัก กับคุณภรรยา, สัตว์ปีกสยองขวัญ, อันธพาลแห่งตระกูลเคานต์, นางร้ายหุ่นเชิด

เว็บไซต์อ้างอิง 1: https://th.kakaowebtoon.com/

เว็บไซต์อ้างอิง 2: https://www.facebook.com/kakaowebtoon.th/

รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์

อ้างอิงรูปภาพ: https://apps.apple.com/th/app/kakao-webtoon/id1567193116

 

  1. Comico

แอปที่เปิดให้อ่านการ์ตูนชั้นนำจากญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน มีการ์ตูนหลากหลายแนว ทั้งแนวต่อสู้ แฟนตาซี แนวโรมานซ์ หลงมิติ คอมเมดี้ แนวดราม่า แนว Boy Love โดยการจะเข้าอ่านการ์ตูนได้ต้องใช้ Pass ในการอ่าน ซึ่งสามารถได้ Pass ง่าย ๆ จากกล่องของขวัญ ถ้าเป็นในแอป ก็สามารถรับของขวัญได้จากการทำกิจกรรม แต่สำหรับใครที่สายเปย์ อ่านแล้วติดใจ อยากอ่านต่อทันที ก็สามารถเช่าหรือซื้อตอนนั้น ๆ โดยเติม Coins ซึ่งต้องซื้อผ่านตัวแอป

ภาษา: ภาษาไทย อ่านจากบนลงล่าง (Scroll Down) ทั้งมือถือและ Desktop

ช่องทางการอ่าน: สามารถโหลดและติดตั้งแอปได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบนมือถือทั้งระบบ iOS และ Android เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วเข้าไป Log in โดยใช้บัญชี Email, Facebook, Twitter หรือ Line หรือสามารถอ่านบนเว็บไซต์จาก Desktop ได้

เรื่องเด่นแนะนำ: Stranger, ข้ามภพสยบแค้น, ADONIS ข้ามลิขิตรักอัศวิน, เอลิเซ่ แพทย์หญิงทะลุมิติ, บัลลังก์แค้นจักรพรรดินี, Sweet Baby

เว็บไซต์อ้างอิง 1: https://www.comico.in.th/

เว็บไซต์อ้างอิง 2: https://www.facebook.com/comicoTH/?locale=th_TH

อ่านการ์ตูน

อ้างอิงรูปภาพ: https://apps.apple.com/th/app/comico

 

  1. WeComics TH

แอปอ่านการ์ตูนแปลไทยลิขสิทธิ์แท้จากจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และไทย สไตล์การ์ตูนมีให้เลือกหลากหลายแนวทั้งแนวต่อสู้ โรแมนติก แฟนตาซี โดยแอปจะ update ตอนเรื่อย ๆ และมีประกาศแจ้ง update แต่ละเรื่องว่า up ตอนใหม่ทุกวันอะไร สำหรับการอ่านตอนแรก ๆ จะให้อ่านฟรีเป็นการทดลองอ่านและดูความชอบ ถ้าติดใจก็สามารถซื้ออ่านโดยใช้เหรียญปลดล็อกหรือใช้ดาวปลดล็อกเพื่อจะได้อ่านตอนต่อไปได้โดยไม่ขาดตอน โดยเหรียญพวกนี้สามารถได้จากการเติมเงินซื้อหรือสามารถรับเป็นดาวสะสมได้ที่หน้ากิจกรรมจากการร่วมกิจกรรมตามที่แอปกำหนด แนะนำว่าถ้าไม่ใช่สายเปย์ การเข้าร่วมกิจกรรมรับดาวก็สนุกสนานดีแถมได้ดาวฟรีไว้อ่านการ์ตูนจากแอปโดยไม่ต้องเสียเงินด้วย

ภาษา: ภาษาไทย อ่านจากบนลงล่าง (Scroll Down) ทั้งมือถือและ Desktop

ช่องทางการอ่าน: สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบนมือถือทั้งระบบ iOS และ Android เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วเข้าไป Log in โดยใช้บัญชี Email, Facebook, Twitter หรือ Line หรือสามารถอ่านบนเว็บไซต์จาก Desktop ได้

เรื่องเด่นแนะนำ: เหมันต์นิรันดร, พระเอกของฉันเป็นท่านดยุค, เจ้าหญิงสัญญาปีศาจ, ขอโทษที พอดีไม่ใช่นางเอก, อลวนรักจักรพรรดินี, เสียงรำพันแห่งอันธการ

เว็บไซต์อ้างอิง 1: https://www.wecomics.in.th/

เว็บไซต์อ้างอิง 2: https://www.facebook.com/WeComicsTH/

อ่านการ์ตูน

อ้างอิงรูปภาพ: https://apps.apple.com/th/app/wecomics-th-webtoon/id979856509

 

  1. Bongkoch – Toon Free

เว็บไซต์ที่มีการ์ตูนเฉพาะจากสำนักพิมพ์บงกชให้อ่านฟรี การ์ตูนส่วนใหญ่จะมาจากญี่ปุ่นและไทย เป็นการ์ตูนแนวโรแมนติกหรือวัยรักวัยรุ่นที่นักอ่านสาว ๆ ชื่นชอบ มีให้อ่านได้ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน โดยแบบฟรีจะแบ่งเป็น แจกฟรี ฟรีจำกัดเวลา และฟรีเฉพาะเล่มแรก ส่วนแบบเสียเงินก็จะมีตัวอย่างให้โหลดมาลองอ่าน ถ้าชอบหรือโดนใจสามารถตามไปซื้อการ์ตูนในรูปแบบอีบุ๊กต่อได้ใน Bongkoch eBook Store ตามที่เว็บไซต์แจ้งไว้ โดยสามารถดาวน์โหลด app “Bongkoch eBook Store” ฟรีผ่าน App store ทั้ง iOS และ Android

ภาษา: ภาษาไทย เฉพาะการ์ตูนเก่าจะอ่านจากซ้ายไปขวา ส่วนการ์ตูนออกใหม่จะอ่านจากขวาไปซ้ายตามต้นฉบับจากญี่ปุ่น

ช่องทางการอ่าน: อ่านบนเว็บไซต์จาก Desktop หรือมือถือได้โดยไม่ต้อง Log in

เรื่องเด่นแนะนำ: เพื่อนร่วมชั้น, BEAUTY บิวตี้, คาเรนอัศวินที่รัก, รักเธอเกินห้ามใจ, สีสันรักฤดูร้อน, จิฮายะ, มัดหัวใจเจ้าชายเย็นชา

เว็บไซต์อ้างอิง 1: https://www.toonfree.bongkoch.com/

เว็บไซต์อ้างอิง 2: https://www.facebook.com/Toonfreefanpage/

อ่านการ์ตูน

อ้างอิงรูปภาพ: www.facebook.com/photo/?fbid=721722522567548&set=a.721722492567551

 

อ่านต่อ.. รวมเว็บไซต์และแอป อ่านการ์ตูนออนไลน์ อ่านสนุก ถูกลิขสิทธิ์ ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

Alternative Textaccount_circle
event
ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง
ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

สงกรานต์เป็นเทศกาลขึ้นปีใหม่ตามประเพณีของไทย เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงเรื่องการเล่นน้ำ สาดน้ำ ที่ทั้งคนไทยและต่างชาติมาร่วมสนุกกัน นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเวลาของแฟชั่นและการถ่ายรูปที่น่าตื่นเต้น ดังนั้นสำหรับบรรดาสาว ๆ เรื่องหนึ่งที่มองข้ามไปไม่ได้นอกเหนือจากเครื่องสำอางกันน้ำ จึงเป็นเรื่องทรงผม ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ เวลาเปียกน้ำต้องไม่ดูมะล่อกมะแล่ก หรือกระเซิงไม่เป็นทรง เพื่อจะได้เสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดี คงความน่าประทับใจ ให้เก็บรูปภาพความทรงจำออกมาสวยและสดใส เพิ่มรอยยิ้มระหว่างงานเทศกาลให้ไม่ขาดไปจากใบหน้า สร้างความมั่นใจแก่ผู้หญิงตลอดงานเทศกาลช่วงวันหยุดยาวนี้

ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

ทรงผมที่เหมาะสมกับการเล่นน้ำสงกรานต์

สไตส์ทรงผมเพื่อความทะมัดทะแมง ให้การเล่นน้ำไม่สะดุด ไม่กลัวโดนทักว่าเปียกลู่จนหน้าตาดูไม่ได้ ในที่นี้ขอนำเสนอไว้ 2 รูปแบบ คือ

  • การถักเปีย ต้องใช้หวีเพื่อแยกผมออกเป็นส่วน ๆ มียางรัดผมเพื่อยึดปลายผมเปีย และอาจต้องใช้กิ๊บติดผมเพื่อยึดผมเปียให้เข้าที่ หรือถ้าต้องการความเก๋ไก๋มากขึ้นก็อาจจะถักเปียที่มีความซับซ้อน  
  • การเกล้าผม ต้องใช้หวี ยางรัดผม ที่หนีบผม หรือกิ๊บติดผม

 

อุปกรณ์การจัดแต่งทรงผมที่ควรมีไว้หรือพกติดตัว

  • หวี: เครื่องมือสำคัญในการจัดแต่งทรงผม เพราะจะช่วยแยกผมออกเป็นส่วน ๆ ใช้จัดการกับปมหรือผมที่ยุ่งเหยิงให้เรียบสวยสลวยได้ และหวีถือว่าจำเป็นอย่างยิ่งในการถักเปีย ทำให้แบ่งผมออกเป็นช่อ ๆ และถักเปียได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
  • ยางรัดผม: เครื่องมือง่าย ๆ แต่อเนกประสงค์ที่สามารถใช้รัดปลายผมเปีย มัดผมหางม้า หรือทำทรงผมเกล้าแบบอื่น ๆ ในช่วงสงกรานต์ ยางรัดผมสามารถช่วยให้ผมอยู่ทรงและป้องกันไม่ให้ผมกระเซิงระหว่างการเล่นน้ำ
  • กิ๊บ: ช่วยเก็บลูกผมหรือเส้นผมที่ไม่สามารถเก็บทรงด้วยยางรัดผมให้เข้าที่ และทำให้ผมที่เกล้าแน่นขึ้นได้ เผื่อระหว่างเล่นน้ำและออกท่าทางต่าง ๆ ผมเกล้าที่จัดทรงไว้แล้วเกิดคลายออกหรือรุ่ยร่ายลงมา
  • ตัวหนีบผม: เพื่อเอาไว้แบ่งทรงผมขณะจัดทรง หรือว่าเอาไว้หนีบเก็บผมหากทรงผมที่ทำไว้คลายตัว กรณีที่มีลวดลายสวยงาม อาจนำมาหนีบกับผมได้ด้วยเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับ
  • สเปรย์: ขวดสเปรย์น้ำ หรือการแบ่งสเปรย์น้ำใส่ขวดเล็ก ๆ พกไว้สามารถนำมาใช้กับผมได้ อาจจะเหมาะสำหรับฉีดหลังเล่นน้ำแล้ว ถ้าต้องไปกินเลี้ยงสังสรรค์ต่อ สามารถนำมาฉีดใส่ผมได้เมื่อผมหมาดขึ้นเพื่อจัดทรงให้อยู่ดี กินเลี้ยงสังสรรค์ปาร์ตี้ได้สุขกายสบายใจว่ารูปถ่ายปังกว่าเพื่อนแน่นอน
  • ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม: บางคนอาจจะสะดวกที่จะใช้แว็กซ์ผม หรือเจลจัดแต่งทรงผมเพิ่มเข้าไปเพื่อเซ็ตให้ผมอยู่ทรง โดยเฉพาะถ้าไม่ได้โดนน้ำสาดแบบถังใหญ่ แค่ปืนฉีดน้ำ การแอบจัดทรงแบบมีตัวช่วยนี้ก็เป็นเทคนิคให้สวยเฉิดฉายกว่าคนอื่น
  • ผ้าขนหนูผืนเล็ก: อาจพกผ้าขนหนูผืนเล็กเท่าผ้าเช็ดหน้าเอาไว้สำหรับเช็ดผมกรณีพักยกการเล่นน้ำ หรือว่าต้องการไปสังสรรค์ต่อที่อื่น นำมาแตะเช็ดผมให้หมาด หากมีพกไว้ทำให้ผมแห้งเร็ว ช่วยลดโอกาสที่จะเป็นหวัด แถมยังเอามาซับน้ำที่เปียกตามตัวได้ด้วย

5 สไตส์ผมเปีย เล่นน้ำสวยเช้ง

  • ผมเปียแบบ Pipe Braid 

ผมเปียแบบสมดุลที่จัดทรงให้ผมดูมีน้ำหนัก เก็บผมทั้งหมดไว้เรียบร้อยนำมาไว้ที่กลางศีรษะด้านหลังเป็นเปียเดี่ยว จะมีทรงเหมือนเป็นท่อนผูกยาวลงมา ดูทะมัดทะแมง เหมาะสำหรับสาวผมยาวเกินช่วงไหล่ 

ขั้นตอนการทำผม:

  1. เริ่มต้นด้วยการแปรงผมเพื่อขจัดความยุ่งเหยิงและปมต่าง ๆ 
  2. จัดผมเป็นช่อตรงกลางคล้ายกับจะผูกหางม้าครึ่งหัว
  3. นำผมส่วนเล็ก ๆ จากด้านหนึ่งมาอ้อมพันผมที่จัดช่อเหมือนหางม้า พันรอบผมหางม้าสองรอบ
  4. นำผมส่วนเล็ก ๆ จากอีกด้านมาเป็นส่วนหนึ่งของการทบสลับไปมาเหมือนกับเปียธรรมดา
  5. สลับไปที่ศีรษะอีกด้าน นำผมอีกปอยมาจากอีกด้านเพื่อมาทบสลับไปมาเหมือนเปียให้เกิดสมดุลจากการใช้ผมทั้งสองข้าง
  6. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 4 และ 5 สลับข้างไปมา เมื่อถักผมด้วยวิธีนี้ไปเรื่อย ๆ จะเห็นว่าผมถูกเก็บมาไว้ที่ตรงกลางของศีรษะด้านหลังยึดกับช่อกลางที่เป็นหางม้า
  7. ถักเปียต่อจนสุดปลายผม แล้วรัดผมเปียด้วยยางรัดผมหรือยางยืดผม
  8. สามารถลองเพิ่มส่วนต่อผมที่มีสีหรือแวววาวขณะที่ถักเปีย จะเพิ่มความเก๋ขึ้นได้เมื่อจัดทรงผมเสร็จ
  9. สามารถจัดทรงด้วยหวีที่ผมส่วนหน้า ดึงให้โป่งขึ้นได้ 

ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

Photo & Youtube Link: https://www.youtube.com/watch?v=097u_1HiUMo

 

  1. ผมเปียแบบ Dutch Braid 

ผมเปียแบบเก็บเข้าข้างศีรษะทั้งสองข้าง เหมาะสำหรับผู้มีผมยาวระดับประบ่า หรือหากผมสั้นก็สามารถทำได้ แต่อาจจะเก็บผมเข้ามาได้ไม่ทั้งหมด ผมทรงนี้ช่วยเปิดเผยวงหน้าให้ชัด และดูน่ารักโดยไม่ต้องไปร้านทำผมจากเปียที่จะเห็นได้ชัดจากทั้งด้านหน้าและด้านข้าง ผมทรง Ductch Braid จะเน้นการเห็นแนวเปียที่ชัดเจน

ขั้นตอนการทำผม:

  1. แบ่งผมเป็นสองฝั่ง นำตัวหนีบผม หนีบผมด้านหนึ่งแยกไว้ก่อน
  2. ผมด้านที่พร้อมจะจัดทรง ให้จับขึ้นมาเป็นช่อ ดูด้วยสายตาแนวเส้นผมที่จัดช่อจะทำมุมสามเหลี่ยมเมื่อเทียบกับเส้นกลางศีรษะที่แบ่งครึ่งผม กรอบใบหน้าด้านหน้า และหากลองดึงช่อผมปัดไปอีกด้านก็จะเห็นว่าทำมุมสามเหลี่ยมกับเส้นผมฝั่งที่กำลังจัดทรงอยู่
  3. แบ่งช่อผมที่จับไว้เป็นสามส่วน ส่วนที่อยู่บนสุดให้พันไขว้ไปด้านใต้ปอยผมที่จับไว้และเป็นปอยผมอันกลาง เน้นเลยว่าต้องนำปอยผมที่จับไว้สลับไขว้ไปด้านใต้ปอยผมอีกอันเสมอ
  4. นำปอยผมที่อยู่ด้านล่างสุด ใกล้กรอบหน้า ไปพันไขว้ด้านใต้ปอยผมที่อยู่ตรงกลาง
  5. เมื่อจับปอยผมด้านบนจะไขว้พันมาทางด้านใต้ของปอยผมตรงกลางอีกครั้ง ให้จับดึงช่อผมด้านในใกล้แนวเส้นแบ่งกลางศีรษะที่ยังไม่ได้รวมเข้ามาจัดทรงมารวมด้วย
  6. เมื่อจับปอยผมด้านล่างจะไขว้พันมาทางด้านใต้ของปอยผมตรงกลางอีกครั้ง ให้จับดึงช่อผมที่ทิ้งตัวด้านนอกใกล้กรอบใบหน้าที่ยังไม่ได้รวมเข้ามาจัดทรงมารวมด้วย
  7. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 5 และ 6 สลับไปมาจนสุดความยาวผมหรือได้ระดับความยาวตามต้องการ
  8. รัดผมเปียด้วยยางรัดผมหรือยางยืดผม จากนั้นทำเหมือนกันกับผมที่แบ่งไว้อีกข้าง

ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง

Photo & Youtube Link: https://www.youtube.com/watch?v=bVk0G-TQPEE

 

  1. ผมเปียพร้อมผมบันดังโงะ (Dutch Braid into Messy Buns)

หากไม่ต้องการจัดทรง Dutch Braid แบบธรรมดา ขอนำเสนอให้เพิ่มเสน่ห์ด้วยการทำก้อนผมดังโงะเล็ก ๆ ไว้ด้านบน ด้วยการทำแบบนี้จะทำให้ได้ทรงผมที่อาจจะเป็นเอกลักษณ์ เพื่อน ๆ สังเกตเห็นง่าย แถมถ่ายรูปออกมายังดูเป็นตัวของตัวเอง เปรี้ยว ทันสมัย เหมาะกับคนผมยาวถึงระดับกลางหลังที่ต้องการเก็บผมให้หมด หากเป็นคนทำไฮไลท์สีผมที่ตรงปลาย เมื่อทำทรงนี้ด้วยแล้วจะทำให้ทรงผมยิ่งเสริมคุณให้ดูเด่นขึ้นอีก

ขั้นตอนการทำผม:

  1. แบ่งผมเป็นสองฝั่ง นำตัวหนีบผม หนีบผมด้านหนึ่งแยกไว้ก่อน ก้มศีรษะลง ปล่อยผมทิ้งตัวลงมาทางด้านหน้า โปรดเข้าใจว่าการทำผมทรงนี้จะคล้ายกับ Dutch Braid แต่จะต้องถักจากด้านหลังศีรษะไล่ไปที่ด้านหน้า
  2. ผมด้านที่พร้อมจะจัดทรง จากทางด้านหลัง ให้จับขึ้นมาเป็นช่อ
  3. แบ่งช่อผมที่จับไว้เป็นสามส่วน ให้พันไขว้ปอยผมด้านนอกไปด้านใต้ปอยผมอันกลางที่แบ่งจับไว้ เน้นเลยว่าต้องนำปอยผมที่จับไว้สลับไขว้ไปด้านใต้ปอยผมอีกอัน ข้างใต้เสมอ! 
  4. นำปอยผมที่อยู่ด้านในสุด ใกล้กับเส้นแบ่งผมกลางศีรษะไขว้สลับไปด้านใต้ปอยผมที่อยู่ตรงกลาง
  5. เมื่อจับปอยผมด้านนอกเพื่อไขว้พันมาทางด้านใต้ของปอยผมตรงกลางอีกครั้ง ให้จับดึงช่อผมด้านนอกที่ยังไม่ได้รวมเข้ามาจัดทรงมารวมด้วย
  6. เมื่อจับปอยผมด้านในเพื่อไขว้พันมาทางด้านใต้ของปอยผมตรงกลางอีกครั้ง ให้จับดึงช่อผมที่ทิ้งตัวด้านในใกล้กับเส้นกลางศีรษะที่ยังไม่ได้รวมเข้ามาจัดทรงมารวมด้วย
  7. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 5 และ 6 สลับไปมาจนรู้สึกว่ามาถึงที่ระดับด้านบนศีรษะ
  8. รัดผมเปียด้วยยางรัดผมหรือยางยืดผม จากนั้นทำกับอีกข้าง
  1. ยืนยืดตัวขึ้น จะพบว่าเมื่อยืนขึ้นปลายผมที่เหลือจะกลายเป็นเหมือนผมแกละที่มีทิศทางเกาะด้านข้างศีรษะ 
  2. ม้วนปลายผมที่เหลือเป็นผมแกละเป็นกลม ๆ ดังโงะบนศีรษะ และใช้กิ๊บติดผมติดรั้งผมที่ม้วนไว้กับเปียให้แน่น จะได้ดังโกะด้านบนศีรษะ มองจากด้านหลังเห็นเปียที่ชัดเจน 

ทรงผมเล่นน้ำ

Photo & Youtube Link: https://www.youtube.com/watch?v=QRX7WOhbjN0

 

  1. ผมเปียแบบ Pull Through Braid

เปียผมแบบสองข้างที่เน้นให้ทรงเปียนูนสูงขึ้นตรงกลาง จะทำให้เห็นกรอบหน้าที่ยาวขึ้นไปด้วย เหมาะสำหรับผมสั้นประบ่าหรือผมยาวกว่านั้น

ขั้นตอนการทำผม:

  1. เริ่มจากผูกจุดที่กลางศีรษะค่อนมาทางด้านบน แล้วหนีบไว้
  2. ดึงช่อผมจากสองด้านมาผูกหางม้า แล้วให้ทบขึ้นด้านบน ใช้ที่หนีบผมหนีบไว้ด้วยกัน
  3. ทำขั้นตอนที่ 2 ซ้ำ คอยใช้ที่หนีบผม หนีบแต่ละชั้นทบไว้ ทำไปจนถึงต้นคอ จะได้ช่อผมที่ผูกเป็นหางม้าหลาย ๆ ชั้น
  4. เมื่อปลดที่หนีบผม แยกจุกแรกในขั้นตอนที่ 1 ออกเป็นสองฝั่ง ดึงช่อผมชั้นถัดมาขึ้นไปทบคั่นอยู่ระหว่างช่อผมของจุกแรกที่แยกออก จากนั้นช่อผมที่แยกออกให้นำลงมา และนำมาผูกด้วยยางมัดผมกับช่อผมที่อยู่ด้านล่างถัดลงไปจากช่อที่เอาขึ้นไปทบ
  5. ดึงช่อผมที่ถูกแยกสองด้านคั่นด้วยช่อผมเหนือยางรัดผม ให้กระจายออก เป็นการแต่งทรงให้เห็นแนวเปียที่ชัดเจน
  6. ช่อผมที่คั่นแทรกและทิ้งตัวลงมา ให้นำมาแยกเป็นสองฝั่ง ดึงช่อผมชั้นถัดมาขึ้นไปทบคั่นอยู่ระหว่างช่อผมที่แยกออก จากนั้นช่อผมที่แยกให้นำลงมา นำมาผูกกับช่อผมที่อยู่ด้านล่างถัดไป นี่เป็นขั้นตอนที่ 4 ให้ทำตามด้วยขั้นตอนที่ 5 และทำซ้ำไปเรื่อย ๆ 
  7. เมื่อสุดความยาวผม หรือที่ระดับต้นคอแล้วจึงหยุด

ทรงผมเล่นน้ำ

Photo & Youtube Link: https://www.youtube.com/watch?v=D8468v4S5Ko

 

  1. ผมเปียแบบ Bubble Braid

ทรงนี้เรียกว่าเปีย แต่หลายคนอาจจะไม่คิดว่าเป็นเปียก็ได้ เป็นเทคนิคการมัดช่อผมทีละน้อย เป็นชั้น ไล่ไปตามแนวศีรษะ และใช้การดึงให้ผมพองฟูในแต่ละช่อทำให้ดูเปรี้ยวรับสงกรานต์ เหมาะสำหรับคนผมยาวประบ่า แต่หากผมสั้นก็สามารถประยุกต์เป็นลูกเล่นให้กับผมได้

  1. แบ่งผมเป็นสองด้าน 
  2. ด้านหนึ่งที่เริ่มทำ จับช่อผมที่ด้านบนศีรษะแล้วใช้ยางรัดผมมัด 
  3. จับช่อผมอีกช่อที่ระดับต่ำลงไปในด้านเดียวกัน รวบผมที่ระดับผมเดียวกันทั้งหมดแล้วใช้ยางรัดผมมัด จากนั้นใช้มือดึงให้ผมกระจายพองตัวออกเป็นกระเปาะ 
  4. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 3 ไปเรื่อย ๆ 
  5. คอยดึงผมให้เป็นทรงกระเปาะ เรียกว่าเป็นการทำให้อยู่ในทรง Bubble คือกลม ๆ พองออก 
  6. ทำขั้นตอนที่ 2 ถึง 5 กับผมอีกข้างของศีรษะ
  7. จัดแต่งกระเปาะผมให้พองออกตามต้องการ 

ทรงผมเล่นน้ำ

Photo & Youtube Link: https://www.youtube.com/watch?v=kHjUdrl-v0w

อ่านต่อ.. ทรงผมเล่นน้ำสงกรานต์ สวยเป๊ะ ไม่กระเซิง ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

Alternative Textaccount_circle
event
ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊
ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

ใกล้สงกรานต์เข้ามาแล้ว ทุกคนเตรียมสนุกสนานกับเทศกาลไทย ๆ ที่ดังระดับโลก ซึ่งกิจกรรมที่ทุกคนต่างรอคอยก็คือ กิจกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์ หรือที่ฝรั่งชอบเรียก “สงครามน้ำ (Water War)” เป็นฤดูร้อนที่มีเทศกาลสงกรานต์ให้ได้เล่นน้ำเย็น ๆ ฉ่ำ ๆ กันหลายวันและเป็นเทศกาลวันหยุดยาว ทุกคนก็จะสดชื่นสดใสสนุกสนานไปตาม ๆ กัน โดยก่อนจะไปเล่นน้ำ สาว ๆ ก็ต้องมาเตรียมตัว เตรียมเสื้อผ้า หน้า ผม ให้พร้อมกับเทศกาลที่จะมาถึง ซึ่งสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การเลือกเตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่หรือ แต่งตัววันสงกรานต์ ตามสไตล์ที่สาว ๆ ชอบ เพื่อไปเล่นน้ำให้สนุก และไม่ต้องกังวลว่าจะโป๊เวลาเปียกน้ำด้วย

ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

ข้อควรรู้แต่งตัววันสงกรานต์

ตั้งใจไปเล่นน้ำฉ่ำ ๆ อย่างสนุกสนาน สาว ๆ ก็ต้องดูแลตัวเองกันหน่อย เทศกาลสงกรานต์ทั้งทีจะเล่นน้ำให้เต็มที่ สาว ๆ ก็ต้องเซฟตัวเองกันด้วย

มีข้อควรรู้สำหรับสาว ๆ ในการแต่งตัววันสงกรานต์ ดังนี้

  • สถานที่ มีส่วนเป็นอย่างมากในการเลือกเสื้อผ้าใส่เล่นน้ำสงกรานต์ ถ้าไปวัดทำบุญแล้วออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ หรือไปในพื้นที่ที่ต้องสำรวม ไปไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ การใส่เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้นก็ต้องงดใส่ไป แต่ถ้าไปที่ที่จัดให้เล่นสงกรานต์โดยเฉพาะ สาว ๆ จะแฟชั่นนิสต้ากันขนาดไหนก็จัดเต็มกันมาได้เลย
  • เสื้อ เดิมคือมักนิยมใส่เสื้อสีเข้มซึ่งไม่โป๊แน่ ๆ แต่ร้อน แต่ในปัจจุบันเสื้อสีอ่อนผ้าหนาขึ้นหรือมีซับในใส่แล้วเปียกได้ไม่ต้องกลัวโป๊ แค่ตอนเลือกให้เลือกเนื้อผ้าที่ไม่บางจนเกินไป หรือจะกันโป๊โดยใส่ชั้นในแบบ Sport Bra ก็ช่วยได้ และดูเท่ด้วย
  • เสื้อชั้นใน ใส่ชั้นในที่กระชับสายไม่หลุดง่าย เปียกแล้วแห้งไว หรือถ้าเป็นแบบเกาะอกคือต้องแน่นพอดีตัวแม้เวลาเปียก สาว ๆ อาจเลือกใส่ซิลิโคนบราหรือตัวแปะจุกเพื่อความมั่นใจ หรือให้มั่นใจมากขึ้นก็จัดเป็น Sport Bra ไปเลยก็ได้
  • กางเกงชั้นในกันโป๊ เลือกแบบกางเกงชั้นในที่คล้ายกางเกงขาสั้นและช่วยกันโป๊ เวลาเดิน ลุก นั่ง เนื้อผ้ากระชับแนบสนิทไปกับผิว เปียกแล้วแห้งเร็ว และยังช่วยป้องกันกระโปรงหรือกางเกงที่ใส่ไม่ให้เข้าวินได้ดี
  • รองเท้า เล่นน้ำเปียกแล้วเท้ามักลื่น รวมถึงสาว ๆ ต้องเดินเยอะเกือบตลอดวัน เลือกรองเท้าที่ใส่สบายและที่สำคัญคือ กันลื่น ไม่หลุดง่าย ไม่หนักหรือหนืดเมื่อเปียกน้ำ เปียกแล้วเดินไม่มีเสียงดังเหมือนรองเท้าเด็กหัดเดิน
  • เสื้อคลุม ถ้ากังวลกลัวโป๊ สาว ๆ ควรมีเสื้อคลุมจะแขนสั้นหรือแขนยาวก็ได้ พกติดตัวไปด้วยอีกชิ้น ซึ่งเสื้อคลุมเดี๋ยวนี้มีขนาดเล็ก ๆ บาง ๆ ให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ พับแล้วเหลือชิ้นนิดเดียว พกได้สบาย ๆ แถมเวลาร้อนแดดก็นำมาใส่กันแดดได้ดีด้วย
  • กระเป๋าใส่ของ ที่สำคัญคือต้องกันน้ำ ไม่ต้องใบใหญ่ ไปเล่นน้ำไม่เน้นพกของเยอะ ไว้ใส่เฉพาะของสำคัญเท่านั้น เช่น กระเป๋าเงิน มือถือ บัตรโดยสาร
  • แว่นกันแดด ขนาดผิวสาว ๆ ยังต้องทากันแดด อย่าปล่อยให้ดวงตาไม่มีอะไรมาปกป้อง เพิ่มแว่นกันแดดเข้าไปอีกชิ้นช่วยปกป้องดวงตา แถมช่วยเสริมให้การแต่งตัวดูเท่มีสไตล์ขึ้นมาทันทีอีกด้วย
  • หมวก เลือกหมวกให้เข้ากับชุด เช่น หมวกแก๊ป หมวกปีกกว้าง ทำให้การแต่งตัวดูเก๋ขึ้นแถมหมวกยังช่วยกันแดดให้ใบหน้าได้ด้วย
  • งดการใส่ของมีค่าที่เสี่ยงสูญหาย เช่น สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ เน้นใส่เครื่องประดับแบบแฟชั่นจะเหมาะกับการเล่นน้ำมากกว่า ส่วนนาฬิกาข้อมือเลือกใส่แบบที่กันน้ำจะได้สบายใจไม่ต้องกังวลว่าจะเสียหายจากการโดนน้ำ

รวมไอเดียแต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

  1. เสื้อเชิ้ตฮาวาย + กระโปรงยีนส์สั้น

เสื้อเชิ้ตฮาวายลายดอกสีสดใสผูกเอว เป็นไอเทมยอดฮิตทุกสงกรานต์ไม่เคยตกยุค ใส่กับกระโปรงยีนส์สั้นทั้งกระโปรงยีนส์สีเข้มหรือกระโปรงยีนส์สีอ่อน ให้ลุคสดใสน่ารักและดูเท่ไปในตัวด้วยแบบสบาย ๆ

ข้อแนะนำ: เสื้อเชิ้ตฮาวายใส่แล้วผูกตรงช่วงเอวโชว์หน้าท้องเล็กน้อยพองาม และสาว ๆ อย่าลืมเลือกความยาวกระโปรงยีนส์ให้เหมาะกับรูปร่างด้วย อย่างสาวไซส์เล็กควรเลือกเป็น Mini Skirt สั้นเหนือเข่า จะช่วงให้ช่วงขาดูเพรียวสวย

เว็บไซต์อ้างอิง: https://us.shein.com/Tropical-Print-Button-Front-Blouse

ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

อ้างอิงรูปภาพ: https://img.ltwebstatic.com/

 

  1. เสื้อครอป + กางเกงขายาวทรงปล่อย

กำลังฮิตและดูปั๊วะ เป๊ะ ปังมากกับเสื้อครอปแมทช์กับการเกงขายาวทรงปล่อย ให้ลุคดูเซ็กซี่ปนเท่อย่างมีสไตล์ แถมยังดูเป็นสาวเฮลตี้สุขภาพดีด้วย

ข้อแนะนำ: เลือกเสื้อครอปเข้ารูปแบบพอดีตัวสบาย ๆ ไม่รัดจนเกินไป เป็นสีพื้นหรือมีลายน่ารัก ๆ เล็กน้อย ใส่แล้วโชว์เอวพอดี ๆ ส่วนกางเกงเป็นเอวสูงทรงปล่อยสีเรียบ ๆ ยิ่งถ้าใส่คู่กับรองเท้าผ้าใบจะยิ่งคล่องตัวและดูดีมาก ๆ

เว็บไซต์อ้างอิง: https://us.shein.com/High-Waist-Heart-Print-Wide-Leg-Jeans

ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊

อ้างอิงรูปภาพ: https://img.ltwebstatic.com/

 

  1. เซตเสื้อสายเดี่ยว + เสื้อคลุม + กางเกงขาสั้น

ให้ลุคสวยเก๋โดยเสื้อตัวบนด้านในเป็นเสื้อสายเดี่ยวสีพื้น จับคู่กับเสื้อคลุมและกางเกงขาสั้นที่เป็นลวดลายสดใสสีเดียวกัน ดูสวยเท่แถมเสื้อคลุมยังช่วยป้องกันแสงแดดและทำให้ไม่โป๊ด้วย

ข้อแนะนำ: ลุคนี้เสื้อสายเดี่ยวด้านในจะเป็นสีขาวหรือสีดำก็ดูดีทั้งคู่ แต่เสื้อคลุมและกางเกงขาสั้นสำคัญมากคือต้องเป็นสีและลายเดียวกันถึงจะใส่แล้วดูดีดูคูลไม่มีเอ้าท์ ใส่แล้วสนุกได้สุดเหวี่ยงแน่นอน

เว็บไซต์อ้างอิง: https://th.shein.com/Paisley-Print-Open-Front-Kimono

แต่งตัวสงกรานต์

อ้างอิงรูปภาพ: https://img.ltwebstatic.com/

 

  1. ชุดเดรสยาวลายดอก

ดูหวาน ๆ เหมือนคุณหนูแต่มีสไตล์เท่เก๋ไปในคราวเดียวกันกับชุดเดรสลายดอกสีสดใส เลือกที่ผ้าดูพลิ้ว ช่วงคอวีใส่แล้วดูไม่ตัน ไม่อึดอัด ไม่ร้อน ช่วงล่างเลือกที่ผ่าข้างหรือแหวกขึ้นมาเหนือเข่าจะทำให้ใส่สบาย เคลื่อนไหวได้สะดวก

ข้อแนะนำ: ชุดเดรสยาวลายดอกไม้ควรเลือกเป็นสี Earth Tone ลายสดใส สาวตัวสูงใส่เดรสยาวเลยเข่าได้ แต่สาวตัวเล็กต้องเลือกที่สูงกว่าเข่าจะได้ดูขายาว ยิ่งจับคู่ใส่กับหมวกปีกกว้างและรองเท้าสานจะให้ลุคที่เก๋ไก๋ แต่งแล้วดูดีไม่ซ้ำใครเลยจริง ๆ

เว็บไซต์อ้างอิง: https://th.shein.com/Floral-Ruffle-Hem-Tie-Side-Wrap-Dress

แต่งตัวสงกรานต์

อ้างอิงรูปภาพ: https://img.ltwebstatic.com/

 

  1. หมวกแก๊ป + เสื้อกล้าม + กางเกงขายาว

แต่งแนวบอย ๆ แต่ให้ลุคเท่และเซ็กซี่ ลุคนี้ความสำคัญคือหมวกแก๊ปและเสื้อกล้ามเข้ารูปเอวลอยที่ขอเป็นสีเจ็บจี๊ดสีเดียวกัน ย้ำ! ต้องสีเดียวกันเท่านั้น เพราะจะโดดเด่นสะดุดตาชวนให้อยากสาดน้ำมากด้วยลุคสุดจี๊ด ใส่คู่กับกางเกงขายาวเอวสูงให้ดูทะมัดทะแมงพร้อมเล่นน้ำให้สนุกทั้งวันกันเลยทีเดียว

ข้อแนะนำ: ลุคนี้เสื้อกล้ามเข้ารูปต้องพอดีตัว ไม่หลวมหรือรัดจนเกินไป สีต้อง Colorful สดใส เช่น ส้ม ชมพู เหลือง หรือสีนีออนสะท้อนสายตาเลยยิ่งดี ที่สำคัญคือหมวกสีต้องแมทช์กับเสื้อด้วยถึงจะดูคูล เสริมลุคขึ้นอีกด้วยแว่นกันแดดแฟชั่น แค่นี้สาว ๆ ก็ดูสวย เท่ เซ็กซี่แล้ว

เว็บไซต์อ้างอิง: https://th.shein.com/Women-Tank-Tops-Camis

แต่งตัวสงกรานต์

อ้างอิงรูปภาพ: https://img.ltwebstatic.com/

 

อ่านต่อ.. ไอเดีย แต่งตัววันสงกรานต์ สวยเท่ได้ ไม่กลัวโป๊ ..ได้ที่หน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เปิดรับสมัครแล้ว MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3 การประกวดเพื่อเฟ้นหาคุณแม่นักรีวิวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย

event

MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3 กลับมาอีกครั้ง! กับการประกวดคุณแม่นักรีวิวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มาเป็นหนึ่งในทีมคุณแม่ Influencer มืออาชีพ กับ Amarin Baby & Kids และชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท

เวทีคุณแม่นักรีวิวต้องลุกเป็นไฟ!!
MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3 เริ่มขึ้นแล้ว!!!

Amarin Baby & Kids ครั้งนี้ จัดกิจกรรม Mom Influencer Contest Season3 กับการแข่งขันสุดยอดคุณแม่นักรีวิวระดับประเทศ ปีที่ 3 ที่มีความหมายและแรงบัลดาลใจมากกว่าเดิม ใน To Be Momber one Inspiration ซึ่งทาง Amarin Baby & Kids พร้อมเปิดรับคุณแม่ทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศไทย คุณแม่ที่ชื่นชอบการรีวิว, ไลฟ์สด, ทำคลิปวิดีโอ ร่วมไปถึงสายเขียนคอนเทนต์ และยังมอบความรู้ Modern Parenting สร้างแรงบัลดาลใจ ทริก ทิป ให้กับ แม่ๆที่เข้ามารับชม ต้องห้ามพลาด!!!

เปิดโอกาสให้คุณแม่มาแสดงความสามารถ พัฒนามาเป็น KOM (Key Opinion Moms) คุณแม่ต้นแบบ ที่มอบประสบการณ์ ความรู้ แรงบัลดาลใจ Trick & Tips ที่ส่งมอบ วิธีการเลี้ยงลูกแบบ Modern Parenting นำเสนอคอนเทนต์สุดสร้างสรรค์ และ สร้างแรงบันดาลใจ ตามรอยรุ่นพี่  Mom Influencer Contest ปีที่ 1 และ 2 โดยผู้เข้ารอบจะมีสิทธิ์ได้เซ็นต์สัญญา ร่วมงานกับ Amarin Baby & Kids ตลอดทั้งปี พร้อมเงินรางวัลและของรางวัลอีกมากมาย 

 

📜📌 เปิดรับสมัครวันที่ 12 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2566 >> ทางช่องทาง Facebook Amarin Baby & Kid 📜📌

 

ระยะเวลาแคมเปญ
12
เมษายน – 29 มิถุนายน 2566 แบ่งออกเป็น 5 ช่วง ดังต่อไปนี้

ประกาศรับสมัคร

  • เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมประกวดระหว่างวันที่ 12 เมษายน –31 พฤษภาคม 2566
  • ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าประกวด 5 มิถุนายน 2566

ประกวดรอบคัดเลือก : Photo Series Review (3 รูป) 

  • ประกวดรอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 12 – 26 มิถุนายน  2566
  • ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบ 1 วันที่ 7 กรกฎาคม 2566

ประกวดรอบที่ 1 : Photo Series Review (5 รูป)

  • ประกวดรอบ 1 ระหว่างวันที่ 19 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2566
  • ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบ 2 และสามารถเข้าร่วม Online Workshop วันที่ 19 สิงหาคม2566

กิจกรรม Online Workshop หัวข้อ เทคนิคสร้างคอนเท้นต์รีวิวอย่างไรโดนใจลูกเพจ มัดใจลูกค้า ฟรี! (ผู้ผ่านเข้ารอบ 2 ทุกคนจะต้องเข้าร่วม)

  • กิจกรรม Online Workshop วันที่ 24 สิงหาคม 2566

ประกวดรอบที่ 2 : VDO Clip Review 1 นาที

  • ประกวดรอบ รอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน 2566
  • ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 5 ตุลาคม 2566

ประกวดรอบชิงชนะเลิศ ณ งาน Amarin Baby & Kids Fair #26 ไบเทค บางนา

  • ประกวดรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 1 ธันวาคม 2566

***หมายเหตุ วันและเวลาของกำหนดการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

 

คุณสมบัติของผู้เข้าประกวด

  • คุณแม่ทั่วประเทศ อายุระหว่าง 22 – 45 ปี ที่มีลูก 6 เดือน ขึ้นไป
  • มีใจรักการรีวิวแนะนำสินค้า สนใจในอาชีพ INFLUENCER และมีความพร้อมในการทำกิจกรรมกับแบรนด์สินค้าและบริการต่างๆได้
  • มีคาแรคเตอร์โดดเด่น น่าสนใจ
  • มีความสามารถในการเขียนรีวิว ถ่ายภาพนิ่ง และคลิปวิดีโอ  มีความคิดสร้างสรรค์
  • มีแอคเค้าท์บนโซเชียลมีเดียอย่างน้อย 1 ช่องทางขึ้นไป  [ Facebook ส่วนตัว หรือ Fanpage,  Instagram,Tiktok ] โดยมียอดผู้ติดตามจากโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มรวมกัน 2,500 คน ขึ้นไป

 

วิธีการสมัคร

สมัครผ่าน Google Form คลิกที่นี่ >> https://bit.ly/MOMINFLUENCERCONTESTSS3 เพื่อกรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2566

พร้อมติดตามประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบและรายละเอียดการประกวดได้ที่ Facebook : Amarin Baby & Kids

 

เงื่อนไขการสมัครเข้าประกวด MOM INFLUENCER CONTEST SS 3

  • ผู้สมัครต้องกรอกข้อมูลจนครบถ้วนใน Google Form และได้รับอีเมลตอบกลับ จึงถือว่าการสมัครเสร็จสมบูรณ์
  • สามารถสมัครเข้าประกวดได้ 1 คนต่อ 1 ครั้งเท่านั้น หากพบว่าผู้สมัครจงใจกรอกข้อมูลเท็จจะถูกตัดสิทธิ์ออกจากระบบทันที
  • การเปิดรับสมัครไม่จำกัดจำนวน และไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
  • ผู้สมัครตกลงให้ความยินยอมแก่ทางบริษัทในการใช้ข้อมูลส่วนตัว ภาพ คลิปรีวิว และข้อมูลอื่นใดของผู้สมัคร เพื่อการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ และใช้ในการโฆษณาและการค้า ของบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต  การสมัคร การกรอกข้อมูล การรีวิวในกิจกรรมนี้ ถือว่าผู้สมัครได้รับทราบและตกลงยอมรับกฎกติกาและเงื่อนไข ในกิจกรรมทุกประการ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครทั้งหมดจะอยู่ในข้อมูลเครือข่ายคุณแม่อินฟลูเอนเซอร์ ของบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต ซึ่งมีโอกาสร่วมงานและสร้างรายได้จากแบรนด์สินค้าแม่ลูก
  • ผู้เข้าสมัครทุกคนต้องผ่านพิจารณาตามเกณฑ์ในการเข้าประกวดจากบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต  โดยจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าประกวดรอบคัดเลือก ในวันที่ 5 มิถุนายน 2566
  • ผ่านช่องทาง Facebook Amarin Baby & Kids
  • ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • วันและเวลาของกำหนดการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
  • การดำเนินงาน และการตัดสินอยู่ในดุลยพินิจจากคณะกรรมการ และการตัดสินจากคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

รูปแบบการประกวด

การประกวดแบ่งออกเป็น 4 รอบ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ประกวดคัดเลือก – รายละเอียดการถ่าย Photo Series

  • ผู้ผ่านเข้ารอบจะได้รับกล่อง “Mommy Box” สำหรับการเขียนรีวิวสินค้าและถ่ายภาพจำนวน 3 ภาพ (จัดส่งถึงบ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย)
  • โพสต์ลงใน Facebook ส่วนตัว หรือ Fanpage ตั้งเป็น “สาธารณะ” พร้อมใส่  #MomInfluencerContestSS3 #AmarinBabyAndKids และ #แบรนด์สินค้า โดยโพสต์ได้ 1 คน ต่อ 1 ครั้งเท่านั้น ภายในวันที่ 12 – 26 มิถุนายน  2566
  • ส่ง Link รีวิว มาที่ Google Form https://bit.ly/SubmitMICSS3 แนบลิ้งค์ส่งประกวดคัดเลือกรอบ
  • ผู้เข้าประกวดสามารถแชร์โพสต์รีวิวสินค้าไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตามความเหมาะสม
  • ประกาศชื่อผู้ผ่านเข้ารอบวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 ผ่านช่องทาง Facebook Amarin Baby & Kids

ประกาศรายชื่อ ผู้มีสิทธิ์ผ่านเข้ารอบ การประกวด MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3 รอบคัดเลือก

เกณฑ์การตัดสิน ประกวดคัดเลือก

พิจารณาคุณภาพของ Content รีวิวตั้งแต่วันที่ 12 – 26 มิถุนายน โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน (100 คะแนน) ดังนี้

  • การเรียบเรียงเนื้อหา  เต็ม 15 คะแนน
  • ความโดดเด่นของสินค้า (ภาพถ่าย) เต็ม 30 คะแนน
  • สื่อสาร Key message ครบถ้วนตามโจทย์ที่กำหนด เต็ม  25 คะแนน
  • สไตล์การเขียนรีวิว และ ความรู้ แรงบัลดาลใจ วิธีการเลี้ยงลูก เต็ม  30 คะแนน

 

♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

ประกวดคัดเลือก รอบที่ 1 – รายละเอียดการถ่าย Photo Series

  • ผู้ผ่านเข้ารอบจะได้รับกล่อง “Mommy Box” สำหรับการเขียนรีวิวสินค้าและถ่ายภาพจำนวน 5 ภาพ(จัดส่งถึงบ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย)
  • โพสต์ลงใน Facebook ส่วนตัว หรือ Fanpage ตั้งเป็น “สาธารณะ” พร้อมใส่ #MomInfluencerContestSS3 #AmarinBabyAndKids และ #แบรนด์สินค้า โดยโพสต์ได้ 1 คน ต่อ 1 ครั้งเท่านั้น ภายในวันที่ 19 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2566
  • ส่ง Link รีวิว มาที่ Google Form https://bit.ly/SubmitMICSS3แนบลิ้งค์ส่งประกวดคัดเลือกรอบ ที่ 1
  • ผู้เข้าประกวดสามารถแชร์โพสต์รีวิวสินค้าไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตามความเหมาะสม
  • ประกาศชื่อผู้ผ่านเข้ารอบวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ผ่านช่องทาง Facebook Amarin Baby & Kids

ประกาศรายชื่อ ผู้ผ่านเข้ารอบ รอบที่ 1 MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3

เกณฑ์การตัดสิน ประกวดคัดเลือก รอบที่ 1

พิจารณาคุณภาพของ Content รีวิวตั้งแต่วันที่ 5 – 11 สิงหาคม 2566 โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน (100 คะแนน) ดังนี้

  • การเรียบเรียงเนื้อหา เต็ม 15 คะแนน
  • ความโดดเด่นของสินค้า (ภาพถ่าย) เต็ม 30 คะแนน
  • สื่อสาร Key message ครบถ้วนตามโจทย์ที่กำหนด เต็ม 25 คะแนน
  • สไตล์การเขียนรีวิว และ ความรู้ แรงบัลดาลใจ วิธีการเลี้ยงลูก เต็ม 30 คะแนน

 

♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

ประกวดคัดเลือก รอบที่ 2 – รายละเอียดการถ่าย Clip VDO ความยาวไม่เกิน 2 นาที

  • ถ่ายทำคลิปเป็นแนวตั้ง โดยจัดแสงให้มีความสว่างเพียงพอ สามารถเห็นใบหน้าได้อย่างชัดเจน
  • ไม่ควรใช้ฉากหลังรก หรือปรับแต่งมากเกิน
  • ผู้ผ่านเข้ารอบจะได้รับกล่อง “Mommy Box 2” สำหรับการถ่ายคลิป Review สินค้า (จัดส่งถึงบ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย)
  • จัดทำคลิปรีวิวนำเสนอเป็นภาษาท้องถิ่นของแต่ละภาคหรือจังหวัด ตามความถนัดของตัวเอง ความยาวไม่เกิน 2 นาที
  • โพสต์ลงใน Facebook ส่วนตัว หรือ Fanpage ตั้งเป็น “สาธารณะ” พร้อมใส่ #MomInfluencerContestSS3 #AmarinBabyAndKids และ #ตามที่แบรนด์สินค้ากำหนด โดยโพสต์ได้ 1 คน ต่อ 1 ครั้งเท่านั้น ภายในวันที่ 16-22 กันยายน 2566
  • ส่ง Link รีวิว มาที่ Google Form https://bit.ly/SubmitMICSS3 แนบลิงค์ส่งประกวดคัดเลือกรอบที่ 2

————————————————————————————–

*SPECIAL SCORE*
  • รับคะแนนพิเศษ 20 คะแนน โดยที่ผู้ประกวดโพสต์คลิปรีวิวสินค้า [ตัวเดียวกับที่โพสต์ใน FB] ลงในช่องทาง Tiktok เฉพาะวันที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 10.00 – 23.00 น. เท่านั้น
หมายเหตุ: สามารถทำได้ทั้งอัดคลิปใหม่ หรือตัดต่อคลิปเพื่อลงใน TIKTOK
  • ตั้งโพสต์เป็นสาธารณะ พร้อมใส่ #MomInfluencerContestSS3 #AmarinBabyAndKids
  • ผู้เข้าประกวดสามารถแชร์โพสต์รีวิวสินค้าไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตามความเหมาะสม

————————————————————————————-

ประกาศชื่อผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ วันที่ 5 ตุลาคม 2566
ผ่านช่องทาง Facebook Amarin Baby & Kids

เกณฑ์การตัดสิน ประกวด รอบที่ 2

พิจารณาคุณภาพของ Content รีวิวตั้งแต่วันที่ 16-22 กันยายน 2566 โดยมีเกณฑ์การให้คะแนน (100 คะแนน) ดังนี้

  • วิธีการนำเสนอ เต็ม 30 คะแนน
  • สื่อสาร Key message ครบถ้วนตามโจทย์ที่กำหนด เต็ม 40 คะแนน
  • ความโดดเด่นของสินค้า ข้อมูลความรู้ แรงบันดาลใจ หรือวิธีการเลี้ยงลูก เต็ม 30 คะแนน
  • คะแนนพิเศษ เฉพาะผู้สมัครที่โพรสต์รีวิวผ่านช่องทางอีก Tiktok 20 คะแนน

♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦

เงื่อนไข การประกวดคัดเลือก

  • ห้ามคัดลอก ลอกเลียน หรือดัดแปลงงานเขียนรีวิวของผู้อื่นเป็นอันขาด หากพบว่ากระทำการดังกล่าวจะถือว่าตัดสิทธิ์ในการแข่งขัน

  • ข้อความรีวิว ภาพถ่ายและคลิปถือเป็นลิขสิทธิ์ของ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต สามารถทำการปรับปรุงแก้ไขได้ตามความเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน นอกจากนี้ สิทธิ์ใดๆ อันเกี่ยวข้อง หรือเกี่ยวเนื่องกับข้อความรีวิว ภาพถ่ายและคลิป

MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3

ประกวดรอบชิงชนะเลิศ

  • รอบคะแนนพิเศษ 25 คะแนน ทำคลิป เชิญชวนมางาน Amarin Baby & Kids Fair #26 ผ่านช่องทาง Tiktok  ตั้งเป็น “สาธารณะ” พร้อมใส่  #MomInfluencerContestSS3 #AmarinBabyAndKids
  • ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศขึ้นเวทีประกวดเพื่อแสดงความสามารถต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อค้นหาผู้ชนะ 5 รางวัล และรางวัล ขวัญใจกรรมการ 1 รางวัล ใน วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ณ ไบเทค บางนา

*หมายเหตุ วันประกวดรอบชิงชนะเลิศจะแจ้งให้ทราบภายหลัง

  • ผู้เข้ารอบต้องทำตามกติกาที่ได้รับครบถ้วน  และขึ้นเวทีประกวดเพื่อแสดงความสามารถ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งถือว่าสละสิทธิ์ ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศสามารถชวนแฟนคลับหรือครอบครัวมาร่วมโหวตเป็นกำลังใจหน้างานได้

วันและเวลาของกำหนดการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ผู้เข้าร่วมประกวดต้องยินยอมปฏิบัติตามกติกาที่บริษัทฯ กำหนดทุกประการ การดำเนินงาน และการตัดสินอยู่ในดุลยพินิจจากคณะกรรมการ และการตัดสินจากคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

 

เกณฑ์การตัดสินรอบชิงชนะเลิศ

คะแนนจากคณะกรรมการ จำนวน 4 ท่าน ท่านละ 100 คะแนน รวม 400 คะแนน

  • คาแรคเตอร์น่าสนใจ วิธีการพูดนำเสนอลีลาท่าทางน้ำเสียง ความรู้ แรงบัลดาลใจ วิธีการเลี้ยงลูก เต็ม 45 คะแนน
  • Key message ของสินค้าตรงตามโจทย์ที่กำหนด  เต็ม 35 คะแนน
  • การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เต็ม 20 คะแนน

รางวัลขวัญใจ กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids

  • คัดเลือกจากคลิปจากรอบคะแนนพิเศษ ทำคลิป เชิญชวนมางาน Amarin Baby & Kids Fair #26 ผ่านช่องทาง Tiktok แนบลิ้งค์มาที่ Google Form https://bit.ly/SubmitMICSS3 ที่โดนใจกองบรรณาธิการ ABK มากที่สุด

รางวัลสำหรับผู้ชนะการประกวด

  • รางวัลชนะเลิศกรุงเทพมหานคร รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศกรุงเทพมหานคร
  • รางวัลชนะเลิศภาคเหนือ รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคเหนือ
  • รางวัลชนะเลิศภาคกลาง รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท  และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคกลาง
  • รางวัลชนะเลิศภาคอีสาน รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคอีสาน
  • รางวัลชนะเลิศภาคใต้ รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคใต้
  • รางวัล ขวัญใจกองบรรณาธิการ Amarin Baby & kids รับเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท และ พร้อมป้ายรางวัล

หมายเหตุ : ผู้รับเงินรางวัลต้องชำระภาษี ณ ที่จ่าย ตามที่กฎหมายกำหนด

สิทธิประโยชน์ของผู้ชนะการประกวด

  • ผู้รับรางวัลชนะเลิศของแต่ละภาค จะได้เซ็นต์สัญญาเป็น “INFLUENCER” ของแบรนด์ Amarin Baby & Kids ภายใต้บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 1 ปี เพื่อก้าวสู่เส้นทางการเป็นคุณแม่ INFLUENCER มืออาชีพ และร่วมงานกับ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต (เงื่อนไขเป็นไปตามสัญญาที่บริษัทกำหนด)
  • ผู้เข้ารอบ 25 คนสุดท้าย มีสิทธิ์ร่วมงานกับแบรนด์ Amarin Baby & Kids ภายใต้บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต ในฐานะ INFLUENCER มืออาชีพ (เงื่อนไขเป็นไปตามสัญญาที่บริษัทกำหนด)

พาลูกเรียนรู้และพักผ่อนไปกับ หาดทราย สายลม และจักรวาล รับหน้าร้อน พร้อมเช็คอินพัทยา

Alternative Textaccount_circle
event

ปิดเทอมทั้งที หาเวลาพาลูกไปรับลมทะเลกันมั๊ยคะ ทริปนี้จะพาไปรับไออุ่นจากทะเลพัทยา ใกล้กรุงเทพนิดเดียว ได้สอนอะไรลูกได้เยอะเลยค่ะ เพราะสิ่งรอบตัวเรา คือธรรมชาติ ที่ลูกจะต้องเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน ทริปนี้ ได้สอนลูกถึงการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง ตั้งแต่พื้นโลกยันจักรวาล เป็นยังไง ต้องตามชมกันเลย

ทริปนี้เราจองที่พักกันที่ รร. ฮอลิเดย์อินท์ พัทยา ค่ะ ที่นี่บอกได้เลยว่ามาเป็นครั้งแรก เด็กๆว้าวกันมาก ตั้งแต่จุดเช็คอิน ที่เราสามารถฝึกให้ลูก จัดการการเข้าพักได้ด้วยตนเอง ได้สอนให้เค้าอ่านเอกสาร การเข้าพัก และ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่ทางโรงแรมมีบริการ ซึ่งแน่นอนว่า เจ้าสองแสบ จำได้อย่างเดียวคือ มีสระว่ายน้ำ 4 สระ และมี Kids Club ด้วย โดยบริเวณล๊อบบี้ มีความโอ่อ่าอลังการมากๆ ซึ่งออกแบบมาให้พื้นที่ดูโปร่งตา อีกทั้งยังมีในส่วนของบาร์ที่บอกได้เลยว่า ขนมหวาน ไอศครีม และ เบเกอรี่อร่อยมากค่ะ

ซึ่งห้องพักที่เราจองมานั้น เป็นแบบ Connecting room ซึ่งจะเป็นโซนห้องเด็กๆ ที่มีเตียงวาฬน้อยมารอต้อนรับ พร้อมตุ๊กตา และ กิ๊ฟท์เซทของที่ระลึกอย่างสมุดระบายสีต่างๆอีกด้วย ( พี่ๆเค้าให้กลับบ้านไปเลยนะคะ ) และที่สำคัญมีเกมเพลย์สเตชั่นให้เล่นในห้องด้วยนะจ๊ะ ความใส่ใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ พื้นในห้องของเด็กๆนั้น ได้รับการปูพรม เพื่อกันหกล้ม และภายในถูกตกแต่งด้วยความปลอดภัยมากๆค่ะ  เป็นอะไรที่เด็กๆปลื้มปริ่มมากๆ และเชื่อมกับห้องของ ผู้ใหญ่อย่างเรา ที่กว้างขวาง วิวทะเลกันเลยทีเดียว มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันมากๆค่ะ

มาถึงภายในห้องน้ำกันบ้าง ภายในห้องพัก ในเมื่อมี 2 ห้องนอนแล้ว ยังมี 2 ห้องน้ำ เพื่อความสะดวกในการใช้งานได้อีกด้วยค่ะ ที่เด็กๆชื่นชอบกันนั่นคือ ในส่วนของห้องน้ำที่อ่างอาบน้ำมองเห็นวิวทะเลนี่แหละ เพราะห้อง แฟมมิลี่ซุดนี้ จะอยู่บริเวณหัวมุมของอาคาร ทำให้เห็นวิวทะเลแบบพาโนรามาเลยค่ะ

นอกจากนี้ ความใส่ใจภายในห้องพักนั้น ที่ขาดไม่ได้คือการนอนค่ะ ซึ่งทางโรงแรมมีหมอนให้เลือกใช้2 แบบ คือ แบบ Soft และ แบบ Firm ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลค่ะ มาพักผ่อนทั้งทีได้หมอนสบายนี่เท่ากับดีตลอดทริป

แล้วเราก็มาถึง Facilities  ที่เด็กๆจำได้ตอนเช็คอินคือ สระว่ายน้ำ 4 สระ ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิด 4 สระที่สำคัญ สระเด็กมีสไลด์เอร์ และอุโมงยักษ์อีกด้วย อีกทั้ง คิดส์คลับที่สนุกสนาน ให้เด็กๆได้พักผ่อน โดยเราามารถฝากเด็กๆไว้ได้ โดยที่ ผู้ปกครอง สามารถไปฟิตเนส หรือไปชิลที่สปาก็ได้เต็มที่เลยค่ะ ( ขอกระซิบว่า 24 ชั่วโมงนะคะ คุณพ่อห้ามพลาด )

และ อีกหนึ่งไฮไลท์สำหรับเด็กๆที่ไม่เหมือนใคร คือ ในส่วนของสปา ที่ไม่ได้แค่มีสปาของผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีสปาของเด็กๆอีกด้วยค่ะ โดยจะมีบริการนวดเท้า และ บริการนวดตัวให้เด็กๆ แบบบำรุงผิว โดยการใช้ coconut oil ที่อ่อนโยนต่อผิว นวดร่างกายในน้องๆ ได้ผ่อนคลายกันอีกด้วย โดยเตียงนั้นทำมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ พร้อมตกแต่งอย่างน่ารัก เด็กๆชื่นชอบมากๆ เพราะเข้าใจถึงความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี มีการ สครับผิวเบาๆ พร้อมบำรุงอย่างเหมาะสมค่ะ

แต่ๆๆๆๆ ไฮไลท์ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ซัมเมอร์ริมหาดทั้งที แน่นอนว่า เราออกไปปิกนิกดูพระอาทิตย์ตกกันค่ะ โดยภายในโรงแรม บริเวณคาเฟ่ เราสามารถสั่งชุดปิกนิกไว้ได้ ทางโรงแรมจะมีอุปกรณ์ครบเซทให้เรายืม พร้อมอาหาร จิบยามพระอาทิตย์ตกได้เลยทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเสื่อ ดอกไม้ ตะกร้า และ แซนวิชแสนอร่อยพร้อมเครื่องดื่มค่ะ และในเมื่อที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเบเกอรี่ แน่นอนว่า Afternoon tea เราต้องไม่พลาดค่ะ และกล้าการันตีเลยค่ะว่าอร่อยสมคำร่ำลือ อย่ารอให้ต่างชาติมาชม เราคนไทยชมด้วยกันเองนี่แหละ เพราะอร่อยจริงๆ

keyboard_arrow_up