ทารกร้องไห้มีน้ำตาตอนกี่เดือน

ทารกร้องไห้มีน้ำตาตอนกี่เดือน

ทารกร้องไห้มีน้ำตาตอนกี่เดือน เป็นคำถามที่แม่ๆ หายคนสงสัย เพราะสังเกตเห็นว่าลูกวัยทารกแรกเกิด ร้องไห้นะ แต่ทำไมไม่มีน้ำตาออกมาสักหยด เอ้…แบบนี้เป็นเพราะอะไร ทีมงาน Amarin Baby & Kids หาคำตอบมาให้เพื่อคลายความสงสัยให้กับทุกครอบครัวกันค่ะ

 

ทารกร้องไห้มีน้ำตาตอนกี่เดือน

คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะว่าในเด็ก ทารกร้องไห้มีน้ำตาตอนกี่เดือน ที่ถามแบบนี้อย่าเพิ่งงงกันค่ะ เพราะนี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเด็กทารกทุกคน ถ้าไม่เชื่อบ้านไหนเพิ่งคลอดลูก และลูกอายุยังไม่ถึง 4-5 เดือนขึ้นไป เวลาที่ลูกร้องไห้ไม่ว่าจะหิวนม ง่วงนอน ไม่สบายตัว ฯลฯ ร้องจริงจังแค่ไหนน้ำตาก็ไม่มีให้เห็น

ในช่วงแรกเกิดที่เห็นว่าลูกร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา นั่นเป็นเพราะต่อมน้ำตาของลูกยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ น้ำตาที่ถูกผลิตขึ้นมาในช่วงนี้มีเพียงจำนวนเล็กน้อย และมีไว้ทำหน้าที่เพื่อหล่อลื่น และป้องกันอันตรายจากฝุ่นผง แต่พอลูกอายุได้ 4-5 เดือนไปแล้ว ต่อมน้ำตาจะเริ่มผลิตน้ำตามากขึ้น เวลาที่ลูกร้องไห้ก็จะมีน้ำตาไหลอาบสองข้างแก้มให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้ามากอดปลอบลูกให้เงียบสงบลงนั่นเองค่ะ

 

บทความแนะนำ คลิก >> ปล่อยให้ลูกร้องไห้นานๆ ทำลายสมองจริงหรือ?

การร้องไห้ของลูกบางทีก็ดูเหมือนจะเป็นการร้องที่ปกติ แต่ก็ไม่ใช่กับเด็กทุกคนนะคะ เพราะบางครั้งการร้องไห้ของลูกก็คล้ายๆ ว่าจะเป็นการร้องกลั้นขึ้นมาได้ ว่าแต่ถ้าลูกร้องไห้กลั้นนี่จะเป็นอันตรายอะไรหรือเปล่านะ…

อ่านต่อ ทำไมลูกถึงร้องไห้กลั้น หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

    (ข่าวฝากประชาสัมพันธ์) ครอบครัวสกิดใจ สุดแฮปปี้ ตามล่ามินเนี่ยนก๊วนแสบสุดป่วน

    ป๋อ ณัฐวุฒิ และ เอ๋ พรทิพย์ จูงมือลูกน้อยน้องภู และน้องเภา เข้าร้านแมคโดนัลด์เมื่อศุกร์ที่แล้วแต่เช้าตรู่ เพื่อตามล่าหามินเนี่ยนก๊วนแสบสุดป่วนที่เป็นตัวการ์ตูนแอนิเมชั่นสุดโปรดของคุณลูก

    ตามล่ามินเนี่ยนก๊วนแสบสุดป่วน

    พร้อมฟินกับเมนูใหม่สุดครีเอท และ มินเนี่ยน โปเตโต้ ที่มีขายในร้านแมคโดนัลด์เพียงไม่กี่ประเทศทั่วโลก แถมได้ของเล่นมินเนี่ยนในชุดแฮปปี้มีลกลับบ้าน งานนี้แฮปปี้กันถ้วนหน้าทั้งครอบครัว ขานรับกระแสมินเนี่ยนฟีเวอร์สุดๆ หลังจากที่เคยจัดเบิร์ธเดย์ปาร์ตี้ให้ลูกรักในธีมมินเนี่ยนมาแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

    ตามล่ามินเนี่ยนก๊วนแสบสุดป่วน

      ทำหมัน

      ทำหมัน แต่อยากมีลูกอีกคน …ทำอย่างไรดี?

      ทำหมัน แต่อยากมีลูกอีกคน เป็นเรื่องที่แม่ๆ หลายคนถามกันเข้ามากเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ว่า ทำหมันไปแล้วแต่อยากจะกลับมามีลูกอีกครั้งจะได้หรือเปล่า จริงๆ แล้วไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายทำหมันแล้วสามารถแก้หมันกลับมามีลูกได้อีกนะคะ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลในเรื่องนี้มาให้ได้ทราบกันค่ะ

       

      ทำหมัน แต่อยากมีลูกอีกคน …ทำอย่างไรดี?

      การทำหมันหญิง (Female Sterilization) คือ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เป็นวิธีที่ปลอดภัย และมีการกลับมาตั้งครรภ์แบบธรรมชาติน้อยมาก การทำหมันจึงเป็นวิธีที่พ่อแม่ส่วนใหญ่เลือกใช้กันมากแทนการทานยาคุม ฉีดยาคุม และการสวมถุงยางอนามัย เป็นต้น แต่เมื่อคนที่เลือกการทำหมันไปแล้ว และอยากกลับมามีลูกอีกครั้ง ก็สามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้ ซึ่ง นพ. พูลศักดิ์ ไวความดี  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ มีวิธีมาแนะนำเพื่อให้คุณแม่ที่อยากกลับมาตั้งครรภ์ด้วย 2 ทางเลือกที่ปลอดภัยหลังจากทำหมันไปแล้ว นั่นคือ…

      1. การแก้หมัน

      สำหรับคุณแม่ที่ทำหมันแบบผูก สามารถแก้หมันเพื่อมีลูกน้อยได้  โดยแพทย์จะนำไหมที่ผูกบริเวณท่อน้ำไข่ออก  แต่การแก้หมันส่วนใหญ่ เมื่อแก้หมันแล้วท่อนำไข่ซึ่งเคยถูกผูกไว้เป็นเวลานาน อาจจะยังตันอยู่เนื่องจากมีพังผืดอยู่มาก  จึงทำให้ต้องใช้วิธีการตัดต่อท่อนำไข่ร่วมด้วย  ปกติท่อนำไข่จะมีความยาวประมาณ 8-12 เซนติเมตร แพทย์จะตัดในส่วนที่ตันออกไปประมาณ 1-2 เซนติเมตรและนำปลายท่อกับปลายอีกด้านมาเชื่อมต่อกัน  เมื่อท่อนำไข่เชื่อมต่อกันได้เรียบร้อย ก็จะทำให้สเปิร์มและไข่เดินทางมาผสมกันได้นั่นเอง การตัดต่อท่อนำไข่นี้ไม่มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์และสุขภาพของคุณแม่แต่อย่างใดค่ะ

      แก้หมันแล้ว…นานแค่ไหนจะตั้งครรภ์  คุณหมอแนะนำว่า ระยะเวลาของการตั้งครรภ์หลังจากแก้หมันแล้ว จะขึ้นอยู่กับอายุของผู้ที่ตั้งครรภ์ หากคุณแม่อยู่ในวัยเจริญพันธ์คืออายุไม่เกิน 35 ปี  มีโอกาสมีลูกได้เร็วกว่าคุณแม่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีค่ะ

       

      บทความแนะนำ คลิก >> ค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ ตั้งแต่ฝากครรภ์จนถึงตอนคลอด ต้องจ่ายเท่าไร?

      ข้อควรระวัง!…ในการแก้หมัน

      * คุณแม่ที่ทำหมันมานานแล้วอาจมีพังผืดมาก ทำให้ท่อนำไข่ตันได้ การแก้หมันจึงมักยุ่งยากกว่าคนที่ทำหมันมาไม่นาน

      * การต่อหมันอาจได้ผลประมาณ 70% อีก 30% อาจมีสาเหตุจากการมีพังผืด ทำให้ท่อนำไข่ตันได้

      * การตัดต่อท่อนำไข่อาจเชื่อมต่อกันไม่ได้100% หรือเชื่อมกันไม่เรียบสนิทเหมือนเดิม เนื่องจากบางกรณีอาจมีรูเปิดภายในท่อนำไข่ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดครรภ์นอกมดลูก

      อ่านต่อ การใช้เทคโนโลยีช่วยให้ตั้งครรภ์หลังทำหมัน หน้า 2

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

        เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด

        อัพเดท! รัฐชี้แจงแล้ว สาเหตุ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดไม่เข้า

        เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดเป็นโครงการที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเพื่อให้เงินอุดหนุนแก่คุณแม่ที่มีรายได้น้อย ซึ่งคลอดบุตรระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2558 จนถึง 30 กันยายน 2560 โดยจะได้รับเงินอุดหนุนบุตรทุกเดือนตามเงื่อนไข จนเด็กอายุครบ 3 ขวบ แต่ปรากฏว่า ตั้งแต่เดือนพ.ค. เดือนมิ.ย. เรื่อยมาจนถึงเดือน ก.ค. ก็ยังไม่มีเงินเข้าบัญชี คุณแม่ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินพากันสงสัยกันว่า เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดไม่เข้า เพราะอะไร? หลายคนโทรไปถามเจ้าหน้าที่แจ้งว่า “งบหมด”

        เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดไม่เข้า เพราะ “งบหมด” จริงหรือ? 

        ปกติเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดจะถูกโอนเข้าบัญชีคุณแม่ทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่เมื่อถึงกำหนดแล้ว เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดไม่เข้า จึงมีคุณแม่โพสต์ถามกันในโซเชียล ทั้งในเว็บไซต์พันทิปและเฟซบุ๊ค ว่ามีใครยังได้เงินอุดหนุนเด็กอยู่บ้าง

        เงินอุดหนุนบุตรไม่เข้า

        “ดิฉันมีบุตรเกิด ในเดือนกันยายนปี 59 พอดีค่ะ ได้รับเงินอุดหนุน 600 บาทมา 4 เดือน แต่ตั้งแต่เมษายน มาไม่เข้าอีกเลย โทรสอบถามเขาก็ว่า งบประมานหมด แบบนี้จะไม่ได้อีกแล้วใช้ไหมค่ะ หรือยังมีท่านอื่นยังได้รับอยู่ไหม? อยากรู้คำตอบค่ะ”

        ซึ่งก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ตนก็ยังไม่ได้รับเงินเช่นกัน

        เงินอุดหนุนบุตร ไม่เข้า

         

        ทางด้านเฟซบุ๊คกลุ่มแม่ท้อง ก็มีคุณแม่เข้ามาโพสต์แจ้งข่าว จากที่คุณแม่ได้แชทถามไปยังเจ้าหน้าที่จังหวัดของคุณแม่ ก็ได้รับคำตอบว่า “งบหมดแล้ว ทุกจังหวัด กำลังรองบประมาณใหม่”

        แม่แจ้งข่าว เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ไม่เข้า

        เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด งบหมด

        เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดไม่เข้า

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

         

        อ่านต่อ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด จะได้เมื่อไหร่ คลิกหน้า 2

          แม่ใจสลาย หมออัลตร้าซาวด์ ตั้งครรภ์แฝด แต่พอคลอดกลับได้ลูกคนเดียว (มีคลิป)

          พ่อแม่ร้องทุกข์ หมอบอก ตั้งครรภ์แฝด แต่พอไปคลอดลูก กลับได้มาคนเดียว แถมเพศไม่ตรงตามที่แจ้ง ถามหาลูกอีกคน หมอไม่มีคำตอบให้ Continue reading “แม่ใจสลาย หมออัลตร้าซาวด์ ตั้งครรภ์แฝด แต่พอคลอดกลับได้ลูกคนเดียว (มีคลิป)”

            อมมืออมเท้า

            ลูกลำไส้ติดเชื้อ เพราะอมมือ อมเท้า

            ลูกลำไส้ติดเชื้อ เพราะอมมือ อมเท้า อาจเกิดขึ้นได้ในเด็กเล็กๆ วัยทารกที่ชอบยกมือ ยกเท้าเอาเข้าปากตามพัฒนาการปกติ แต่ใครจะรู้ว่าพัฒนาการไร้เดียงสาที่น่ารักนี้ก็สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกได้เหมือนกันค่ะ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีประสบการณ์จริงจากคุณแม่ที่ลูกมีอาการติดเชื้อในลำไส้ เพราะลูกอมมือ อมเท้าเล่น มาเตือนให้ระวังกันค่ะ

             

            ลูกลำไส้ติดเชื้อ เพราะอมมือ อมเท้า

            คุณแม่น้องต้นกล้าเจ้าของเรื่อง ลูกลำไส้ติดเชื้อ เพราะอมมือ อมเท้า ได้แชร์ประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับลูกน้อย เพราะมีอาการติดเชื้อในลำไส้

            #แชร์ประสบการณ์แม่ๆ ช่วงนี้แม่ๆ ลงรูป #น้องอมมือ #อมเท้า เยอะมาก ถ้าแม่รักหนู แม่เอาออกนะคะ อย่าดูน้องทำ อย่าให้น้องทำแล้วถ่ายวิดีโอ ต้นกล้าเป็นลำไส้ติดเชื้อ เข้าโรงพยาบาลเพิ่งออก อยู่โรงพยาบาล 5 วัน โดนเจาะเลือด เสียบเข็มให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อทางน้ำเกลือ เด็กตัวเล็กๆ เจาะเลือดและเสียบน้ำเกลือ คนเป็นแม่ใจจะขาด หาเส้นไม่เจอก็ต้องเสียบที่ใหม่ ทั้งมือ และเท้า พรุนไปหมดค่ะ น้องดินสายน้ำเกลือหลุดก็ต้องเสียบใหม่ อึเยอะจนก้นแดงไปหมด สงสารลูกจับใจ ส่วนตัวเห็นก็จะเอาออกค่ะถ้าน้องอม บางทีก็จับออกไม่ทัน อาการเริ่มแรกคือ ถ่ายบ่อย สักพักจะมีมูกปน และก็จะมีมูกเลือดปนในที่สุด รู้ว่าห้ามยากที่น้องทำ แต่แม่บ้านนี้เป็นห่วงเด็กๆ ค่ะ เด็กตัวเล็กๆ ป่วยน่าสงสารมาก

            ลูกลำไส้ติดเชื้อ

            บทความแนะนำ คลิก >>  ลูกท้องเสียถ่ายเหลว ไม่ใช่ยืดตัว แต่เพราะติดเชื้อในกระแสเลือด

            จากเรื่องที่คุณแม่แชร์ประสบการณ์มาถือเป็นการเตือนให้อีกหลายๆ ครอบครัวที่มีลูกเล็กวัยทารกได้ระวังกันมากขึ้น ที่ถึงแม้ว่าการเอามือ เอาเท้าเข้าปากแล้วอมของลูก จะเป็นหนึ่งในพัฒนาการปกติที่เกิดขึ้นได้ก็ตาม แต่การไม่ได้ดูแลรักษาความสะอาดร่างกายผิวพรรณ รวมทั้งอุปกรณ์สิ่งของใช้รอบข้างที่ลูกสามารถสัมผัสได้ทั้งตัว หากไม่สะอาดแล้วลูกไปสัมผัสถูก แน่นอนว่าสิ่งสกปรก เชื้อโรคย่อมติดตามกับร่างกาย มือ เท้าของลูกได้ และเมื่อเชื้อโรคพวกนี้เข้าสู่ร่างกายลูก ก็สามารถทำให้เกิดการเจ็บป่วยขึ้นได้ง่าย เพราะเด็กเล็กๆ ร่างกายยังมีภูมิคุ้มกันโรคที่ไม่แข็งแรงมากพอที่จะต่อสู่กับเชื้อโรคนั่นเองค่ะ

            อ่านต่อ ปัจจัยที่ทำให้ลูกเสี่ยงเป็นลำไส้ติดเชื้อ หน้า 2

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

              อุทาหรณ์ ลูกนิ้วเข้าไปติดคารู แฮนด์ สปินเนอร์ ของเล่นฝึกสมาธิสุดฮิต…แต่แฝงอันตรายเพียบ (มีคลิป)

              Hand Spinner หรือ แฮนด์ สปินเนอร์ ของเล่นที่กำลังฮิตในกลุ่มเด็กอเมริกา จนกระแสแรงมาถึงเด็กไทยเรา แต่หารู้ไม่ว่า เจ้าของเล่นหมุนๆ นี้ที่ผู้ผลิตบอกว่าช่วยฝึกสมาธิเด็กๆได้นั้น แฝงไปด้วยอันตรายเป็นอย่างมาก

              Continue reading “อุทาหรณ์ ลูกนิ้วเข้าไปติดคารู แฮนด์ สปินเนอร์ ของเล่นฝึกสมาธิสุดฮิต…แต่แฝงอันตรายเพียบ (มีคลิป)”

                อุทาหรณ์เตือนใจทุกครอบครัว! ทารกวัย 7 เดือนเสียชีวิต หลังพ่อแม่หวังดีให้ดื่มนมชนิดนี้แทน ‘นมแม่’

                (ใช้ภาพนี้เป็นเพียงเพื่อประกอบบทความเท่านั้น ไม่ใช่ภาพเหตุการณ์จริง)

                เรื่องเศร้าสุดสลด ทารกเสียชีวิต ในวัยแค่ 7 เดือน เพียงเพราะพ่อแม่หวังดีให้ดื่มนมชนิดนี้…!? กับลูกน้อยแทนการให้ดื่มนมแม่ นานถึง 4 เดือน ด้วยคิดว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์

                Continue reading “อุทาหรณ์เตือนใจทุกครอบครัว! ทารกวัย 7 เดือนเสียชีวิต หลังพ่อแม่หวังดีให้ดื่มนมชนิดนี้แทน ‘นมแม่’”

                  ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน

                  แม่ไอเดียเก๋! เขียนโน้ตน่ารัก…มอบหมายงานบ้านให้ลูกๆ หลังกลับจากโรงเรียน

                  การ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน  เป็นหนึ่งในหน้าที่ของลูกที่ดีที่ควรทำ ซึ่งคุณแม่ท่านนี้จึงมีไอเดียชวนลูกทำงานบ้าน ด้วยการเขียนกระดาษโน้ต แบบน่ารักๆ อ่านเข้าใจง่าย เพื่อให้ลูกทำตามได้

                  Continue reading “แม่ไอเดียเก๋! เขียนโน้ตน่ารัก…มอบหมายงานบ้านให้ลูกๆ หลังกลับจากโรงเรียน”

                    สายสะดือ

                    สายสะดือ สายใยระหว่างแม่และลูกน้อยในครรภ์

                    คุณแม่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า สายสะดือ มีความสำคัญต่อการตั้งครรภ์มาก หากไม่มีสายสะดือแล้ว ทารกน้อยในครรภ์คงไม่สามารถเติบโตได้ เรามาทำความรู้จักกันค่ะว่า สายสะดือคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และหน้าที่ของสายสะดือมีอะไรบ้าง

                    สายสะดือ คืออะไร

                    สายสะดือ คือ สายที่เชื่อมต่อระหว่างทารกในครรภ์และรกที่ติดกับผนังมดลูก สายสะดือนี้จะลำเลียงสารอาหารและเลือดดีจากรกไปสู่ทารกในครรภ์ และจะรับเลือดเสีย และของเสียต่างๆ จากทารกไปสู่รก ระหว่างที่อยู่ในครรภ์ทารกจะหายใจผ่านสายสะดือ เมื่อลูกน้อยของคุณแม่ลืมตาออกมาสู่โลกภายนอก สายสะดือก็จะถูกตัดออกไปและหมดหน้าที่ลง ลูกน้อยของคุณแม่จะเริ่มหายใจเอง ไม่หายใจผ่านสายสะดืออีกต่อไปค่ะ

                    ลักษณะและหน้าที่ของสายสะดือ

                    สายสะดือ จะเริ่มสร้างขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 5 ของการตั้งครรภ์และเมื่อครบกำหนดคลอดจะยาวขึ้นเรื่อยๆ อาจจะถึง 20 นิ้ว สายสะดือนั้นมีลักษณะเหนียวแข็งแรง มีอยู่ด้วยกัน 2 ชั้น ชั้นภายนอกจะเป็นกล้ามเนื้อเรียบ และชั้นภายในจะมีของเหลวลักษณะคล้ายวุ้น ที่เรียกว่า Wharton’s jelly ในสายสะดือ จะมีเส้นเลือดอยู่ด้วยกัน 3 เส้น คือ เส้นเลือดดำ 1 เส้น และเส้นเลือดแดง 2 เส้น เส้นเลือดดำมีหน้าที่ลำเลียงเลือดที่อุดมไปด้วยสารอาหารและออกซิเจนจากรกไปสู่ทารกในครรภ์ ในขณะที่เส้นเลือดแดงจะลำเลียงของเสียออกจากตัวทารกน้อย

                    ช่วงสุดท้ายของการตั้งครรภ์ รกจะส่งผ่านสารแอนติบอดี้ของคุณแม่สู่ลูกน้อยผ่านสายสะดือด้วย ซึ่งเจ้าสารนี้จะสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยของคุณแม่ห่างไกลจากการติดเชื้อในช่วง 3 เดือนแรกเกิดค่ะ

                    คุณหมอจัดการกับสายสะดือหลังคลอดอย่างไร

                    เมื่อลูกน้อยคลอดออกมาแล้ว คุณหมอจะหนีบสายสะดือ 2 ที่ คือบริเวณที่ห่างกับสะดือ 3-4 ซม. และบริเวณปลายสายสะดือที่ใกล้กับรก จากนั้นคุณหมอตัดสายสะดือที่อยู่ระหว่างที่หนีบ 2 ที่นี้ และจะเหลือตอสั้นๆ ไว้ ซึ่งระหว่างที่ตัดสายสะดือ ทารกน้อยจะไม่รู้สึกเจ็บปวด เนื่องจากที่สายสะดือไม่มีเส้นประสาทอยู่ค่ะ

                    บทความแนะนำ 6 ข้อ ห้ามทำกับสะดือทารกแรกเกิด
                    
                    บทความแนะนำ วิธีดูแลและทำความสะอาดสะดือลูกน้อย

                    หลังลูกน้อยของคุณแม่เกิดประมาณ 5-15 วัน ตอสายสะดือนี้จะค่อยๆ แห้ง เปลี่ยนเป็นสีดำและหลุดออกมาในที่สุด และอาจจะต้องใช้เวลาอีก 7-10 วัน แผลที่สะดือจึงหายสนิทค่ะ ระหว่างที่รอให้สายสะดือหลุดและแผลแห้งสนิท คุณแม่ต้องรักษาความสะอาดบริเวณสะดือของลูกน้อยและอย่าปล่อยให้ชื้นนะคะ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดการติดเชื้อได้ หากคุณแม่สังเกตเห็นว่ามีเลือดออกหรือกลิ่นเหม็นบริเวณสะดือของทารกน้อย ควรรีบพาลูกไปพบคุณหมอทันที

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                     

                    อ่านต่อ ปัญหาสายสะดือที่พบบ่อยระหว่างตั้งครรภ์ คลิกหน้า 2

                      ขวัญบนหัว บอกนิสัยของลูกน้อยได้!

                      ขวัญบนหัว …เชื่อได้เลยว่าพ่อแม่หลายคน คงต้องเคยสังเกตศีรษะของลูกว่ามีกี่ขวัญ  ซึ่งเรื่องของขวัญเป็นความเชื่อทำนายต่อๆ กันว่า ถ้าลูกชายมี 2 ขวัญ จะขยันหาเมีย โดยปริศนาความเชื่อเรื่องขวัญเหล่านี้ เป็นความเชื่อของคนโบราณที่เชื่อต่างกันออกไป ซึ่งมีทั้งเรื่องเจ้าชู้ ความฉลาด หรือลงลึกไปถึงตัวจิต วิญญาณที่ไม่มีตัวตน ตลอดจนการกลับชาติมาเกิด

                      Continue reading “ขวัญบนหัว บอกนิสัยของลูกน้อยได้!”

                        ลูกไม่อยากไปโรงเรียน

                        ลูกไม่อยากไปโรงเรียน คุณแม่จึงจัดหลักสูตรเร่งรัดแบบนี้ให้…? แป๊บเดียวเห็นผล!

                        เมื่อ ลูกไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากเรียนหนังสือเลยบอกลูกว่า “ไม่เป็นไร” ไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน พ่อแม่หาเงินส่งลูกเรียน แต่ลูกเลือกที่จะไม่เรียน ลูกก็ต้องออกมาใช้ชีวิตแบบคนอื่น และนี่คือการสอนในแบบของพ่อกับแม่…

                        Continue reading “ลูกไม่อยากไปโรงเรียน คุณแม่จึงจัดหลักสูตรเร่งรัดแบบนี้ให้…? แป๊บเดียวเห็นผล!”

                          พ่อหนุ่มเผย!“น้องมายู” ดื้อจนรับมือไม่ไหว ต้องพาพบจิตแพทย์ (มีคลิป)

                          คุณพ่อหนุ่ม กรรชัย ถึงกับเครียด หลังน้อง มายู ดื้อ เอาแต่ใจ ไม่พอใจอะไรก็จะลงไปร้องกรี๊ด จนต้องพาไปพบจิตแพทย์เด็ก พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่ได้เลี้ยงลูกแบบตามใจ Continue reading “พ่อหนุ่มเผย!“น้องมายู” ดื้อจนรับมือไม่ไหว ต้องพาพบจิตแพทย์ (มีคลิป)”

                            เชื้อโนโรไวรัส

                            ลูกกินนมเก่ง อย่าหลงดีใจ สุดท้ายต้องแอดมิทเพราะ กินนมมากเกินไป

                            ลูกกินนมเก่ง กินนมได้เยอะ ผู้ใหญ่ก็มักจะดีใจ และคิดว่าลูกน้อยตัวจ้ำม่ำจะต้องเป็นเด็กที่แข็งแรงแน่ๆ เลย แต่คุณแม่มือใหม่อาจไม่ทราบว่าขนาดกระเพาะของเด็กทารกนั้นเล็กนิดเดียว หากลูกกินนมมากเกินไปก็เป็นโทษได้ ไม่ว่าจะนมผงหรือนมแม่ก็ตาม Amarin Baby and Kids จึงขอนำประสบการณ์ของคุณแม่มือใหม่ท่านหนึ่ง มาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจคุณแม่มือใหม่ทุกท่านในการให้นมลูกน้อยวัยทารกค่ะ

                            ลูกกินนมเก่ง อย่าหลงดีใจ สุดท้ายต้องแอดมิทเพราะ กินนมมากเกินไป

                            คุณแม่ Sawitree Ying ได้เล่าว่า ตัวคุณแม่เองอายุ 17 ปี เลี้ยงลูกเองตั้งแต่คลอด ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ให้คำปรึกษา เพราะทุกคนต้องทำงาน น้องอายุ 17 วัน เป็นเด็กเลี้ยงง่ายมาก ไม่งอแง คืออาบน้ำ กินนมเสร็จก็นอนได้เลย แต่น้องกินนมเยอะ ถ้าใส่ขวดให้ก็กินครั้งละ 4 ออนซ์ แรกๆ ก็ไม่เป็นอะไรจนเมื่อวานอยู่ๆ ไข้ขึ้นสูงมาก ต้องคอยเช็ดตัวตลอด แต่ก็ไม่ดีขึ้น จนตอนเช้าพามาหาหมอ หมอสั่งแอดมิททันที จากเด็กที่ไม่งอแงก็อ้อนมาก เพราะเป็นไข้ ต้องอุ้มแนบอกเพื่อให้เค้าอุ่นใจ

                            สุดท้ายได้คำตอบจากหมอถึงสาเหตุที่เป็นแบบนี้ เพราะน้องกินนมมากไป แม่ควรแบ่งช่วงเวลาการกินนมให้ลูก ไม่ใช่ตามใจปากให้เค้ากินจนอิ่มจัด คือเราเครียดมาก งานนี้ไม่โทษใคร โทษตัวเองทั้งนั้น เห็นลูกกินนมได้เยอะ เห็นน้ำนมตัวเองเยอะ ก็หลงดีใจคิดว่าลูกแข็งแรง ผู้ใหญ่ก็ชมว่าเด็กคนนี้มันกินเก่ง วันนี้ได้คำแนะนำจากหมอเยอะมาก หมอบอกอีกว่าเราไม่ใช่แม่มือใหม่รายแรกที่เจอแบบนี้ ต่อไปนี้ต้องปรับเวลาการกินนมลูกใหม่ สำหรับคนที่รู้ก็ไม่เป็นไรนะคะ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ต้องระวังมากจริงๆ ไม่งั้นอาจเจอเหตุการณ์แบบเราได้

                             

                            จากเหตุการณ์นี้ คุณแม่ไม่ได้โทษว่าเป็นเพราะนมแม่นะคะ แต่เพราะคุณแม่ยังมือใหม่ ไม่รู้ว่า ขนาดกระเพาะทารกแรกเกิดยังไม่สามารถรับน้ำนมต่อครั้งได้ในปริมาณมาก ซึ่งครั้งละ 4 ออนซ์ถือว่ามากเกินไป จึงให้ลูกกินนมจนอิ่มจัด ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า overfeeding หรือการกินนมเยอะเกินไปนั่นเอง ซึ่งก็ทำให้น้องปวดท้อง ท้องอืด ไม่สบายตัว โดยคุณแม่เพิ่งสังเกตเห็นว่าน้องไม่โอเค คือตอนมีไข้ค่ะ คุณแม่จึงอยากเตือน คุณแม่มือใหม่ที่อาจยังไม่รู้เรื่องนี้ ให้ระวังให้มากๆ ค่ะ

                            สำหรับคุณแม่มือใหม่ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนค่ะว่า ความจุกระเพาะของทารกแรกเกิดนั้น สามารถรับปริมาณน้ำนมได้มากแค่ไหน

                            ความจุกระเพาะทารก หลังคลอดถึง 1 เดือน

                            คุณหมอสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ  ได้อธิบายถึง ความจุกระเพาะทารกไว้ดังนี้

                            • วันแรกหลังคลอด กระเพาะทารกมีขนาดเท่ากับลูกแก้ว หรือผลเชอรี ปริมาณนมที่รับได้อยู่ที่ประมาณ 5 – 7 ซีซี หรือ 1 – 1.4 ช้อนชา
                            • 3 วันหลังคลอด กระเพาะทารกมีขนาดเท่ากับลูกวอลนัท ปริมาณนมที่รับได้อยู่ที่ประมาณ 22 – 27 ซีซี หรือ 0.75 – 1 ออนซ์
                            • 7 วันหลังคลอด กระเพาะทารกมีขนาดเท่ากับผลแอปปริคอต ปริมาณนมที่รับได้อยู่ที่ประมาณ 45 – 60  ซีซี หรือ 1.5 – 2 ออนซ์
                            • 30 วันหลังคลอด กระเพาะทารกมีขนาดเท่ากับไข่ไก่ปริมาณนมที่รับได้อยู่ที่ประมาณ 80 -150  ซีซี หรือ 2.5 – 5 ออนซ์

                            เมื่อคุณแม่ทราบถึง ขนาดกระเพาะของลูกน้อยแล้ว จะได้ระวังไม่ป้อนนมเกินปริมาณที่ลูกจะรับได้ เพราะหากคุณแม่เห็นลูกร้องบ่อย คิดว่าลูกหิว ลูกกินนมเก่ง จึงให้ลูกกินนมมากเกินไป อาจทำให้กระเพาะ ลำไส้ดูดซึมนมไม่ทัน และเกิดการ Overfeeding ได้ค่ะ แต่สำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูกจากเต้าอาจเกิดคำถามว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ลูกดูดนมไปมากน้อยแค่ไหน เพียงพอหรือยัง คุณหมอมีคำแนะนำ ดังนี้

                            ให้นมลูก ต้องแบบนี้ ป้องกันการ overfeeding

                            1. ปกติเด็กแรกเกิดจะตื่นขึ้นมากินนมแม่ทุก 2-3 ชั่วโมง หลักการให้นมแม่คือชั่วโมงละ 1 ออนซ์ ถ้าให้ 2 ออนซ์ ลูกจะอิ่มท้องอยู่ไปได้ราว 2 ชั่วโมง
                            2. สังเกตอึลูก ถ้าลูกอึครบ 2 ครั้ง โดยที่แต่ละครั้งมีปริมาณอึกว้างเท่ากับแกนของม้วนกระดาษชำระ คือ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-5 ซม. หรือฉี่ครบ 6 ครั้ง ในหนึ่งวัน (24 ชม.) แสดงว่าได้รับนมเพียงพอ
                            3. ลูกร้องไม่ใช่เพราะหิวเสมอไป คุณแม่ควรเบี่ยงเบนความสนใจของลูก ด้วยการอุ้มพาออกไปเดินเล่น หรือให้ลูกดูดจุกหลอก หรือให้ลูกอยู่ในเปลไกว แทนการให้ลูกกินนมทุกครั้งที่ลูกทำท่าขยับปากหรือร้องไห้
                            4. ในบางครั้งลูกอาจร้องอยากดูดเต้าเพราะต้องการความอุ่นใจ ในกรณีนี้คุณแม่อาจปั๊มนมออกสักนิด ก่อนเอาลูกเข้าเต้า เพื่อป้องกันลูกกินนมมากเกินไปค่ะ

                            วิธีสังเกตอาการ Overfeeding

                            พญ.สุธีรา  เอื้อไพโรจน์กิจ  กุมารแพทย์ทารกแรกเกิด ได้แนะวิธีสังเกตการ Overfeeding ไว้ 5 ข้อดังนี้

                            1. นอนร้องเสียงดัง แอะๆๆๆ เสียงคล้ายแพะและแกะ
                            2. บิดตัวเหยียดแขนเหยียดขา ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด คล้ายประตูไม่หยอดน้ำมัน
                            3. มีเสียงครืดคราดในลำคอ คล้ายมีเสมหะอยู่ในลำคอ เนื่องจากนมล้นขึ้นมาที่คอหอย
                            4. แหวะนม หรืออาเจียนนมออกมา ทั้งทางปาก และทางจมูก
                            5. พุงกางเป็นน้ำเต้าตลอดเวลา

                            นอกจากนี้คุณแม่จะพบว่า น้ำหนักน้องจะขึ้นเกิน 35 กรัมต่อวัน หรือขึ้นมากกว่า 1 กิโลกรัมต่อเดือน จนทำให้อึดอัด ปวดท้อง ร้องไห้โยเย ซึ่งโดยปกติแล้วเด็กทารกควรจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นดังนี้

                            • อายุ 0 – 3 เดือน ควรมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 600 – 900 กรัม ต่อเดือน
                            • อายุ 4 – 6 เดือน ควรมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 450 – 600 กรัม ต่อเดือน
                            • อายุ 7 – 12 เดือน ควรมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 300 กรัม ต่อเดือน

                            หากลูกมีอาการ Overfeeding ตามที่กล่าวมาเป็นสัญญาณว่าคุณแม่ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการให้นมลูกตามคำแนะนำของคุณหมอ เพื่อให้ลูกน้อยได้รับน้ำนมในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย และมีสุขภาพที่แข็งแรงจากคุณประโยชน์อันมากมายจากนมแม่ ที่ถือว่าเป็นอาหารที่ดีที่สุดของลูกน้อยวัยทารกค่ะ

                            อ่านต่อ บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

                            น้ำนมน้อย นมแม่ไม่พอ ? และเคล็ดลับขับน้ำนมด้วยวิธีธรรมชาติ

                            เลือดปนในน้ำนมแม่ ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยหรือไม่ ?


                            ขอบคุณข้อมูลจาก คุณแม่ Sawitree Ying คุณหมอสุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ

                            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                             

                              คลอดรก

                              คลอดรก เรื่องสำคัญหลังคลอด ที่คุณแม่ควรรู้

                              เมื่อลูกน้อยของคุณแม่ออกมาสู่โลกภายนอก คุณแม่อาจคิดว่ากระบวนการคลอดได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ที่จริงแล้วยังเหลือขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญคือการคลอดรก คุณแม่หลายคนอาจจะสงสัยว่ารกและการ คลอดรก คืออะไร เรามาทำความรู้จักกันจากบทความนี้ค่ะ

                              รก คืออะไร

                              รกเป็นอวัยวะที่สร้างขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ รกนั้นจะเกาะที่ผนังมดลูกและมีสายสะดือเชื่อมรกและทารกไว้ ส่วนใหญ่แล้วรกจะเกาะตัวที่มดลูกด้านบนหรือด้านข้าง รกถือว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญมากเพราะทารกจะได้รับสารอาหารและออกซิเจนจากทางรก และยังขับถ่ายของเสียผ่านรกด้วยค่ะ

                              คลอดรก คืออะไร

                              รกเป็นอวัยวะที่เชื่อมระหว่างคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อลูกน้อยของคุณแม่ออกมาสู่โลกภายนอกแล้ว รกจึงหมดหน้าที่และมดลูกจะทำการบีบตัวเพื่อขับให้รกหลุดจากผนังมดลูกและขับเคลื่อนออกมาทางช่องคลอด  เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้จึงจะถือได้ว่าการคลอดนั้นเสร็จสิ้น เมื่อรกหลุดออกมาจากช่องคลอดแล้ว คุณหมอจะทำการตรวจเช็คว่าการคลอดรกนั้นสมบูรณ์หรือไม่ เพราะหากมีรกค้างอยู่ในมดลูก จะเกิดอันตรายแก่คุณแม่ โดยปกติแล้วการคลอดรกจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ

                              เมื่อคุณหมอทำการ คลอดรก เย็บแผล และตรวจร่างกายของคุณแม่เรียบร้อยแล้ว อีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญคือการใช้เวลาอยู่กับลูกน้อยและให้นมแม่ทันทีหลังคลอด หากเป็นไปได้ คุณแม่ควรขอให้พยาบาลพาลูกน้อยมาดูดนมแม่ทันที เนื่องจากการที่คุณแม่สามารถให้นมลูกได้เร็วเท่าไร ยิ่งทำเป็นการกระตุ้นการสร้างน้ำนมให้เร็วขึ้นเท่านั้นค่ะ

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                               

                              อ่านต่อ ความเสี่ยงที่อาจเกิดระหว่าง คลอดรก คลิกหน้า 2

                                เด็กไทยสวยสร้างชื่อ “น้องแอปเปิล” คว้ามงกุฎ “หนูน้อยจักรวาล 2017” ได้เป็นคนแรกของไทย! (มีคลิป)

                                เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมานี้ ได้มีข่าวดีให้กับคนไทยทั้งประเทศอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีที่สุดสำหรับ น้องแอปเปิล หนูน้อยจักรวาล 2017 คนแรกของไทย สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้อย่างดีเยี่ยมแถมพ่วงอีก 2 รางวัล!!

                                Continue reading “เด็กไทยสวยสร้างชื่อ “น้องแอปเปิล” คว้ามงกุฎ “หนูน้อยจักรวาล 2017” ได้เป็นคนแรกของไทย! (มีคลิป)”

                                  ลูกไม่เชื่อฟัง พ่อแม่ต้องรีบสอน 5 อย่างนี้ สร้างให้ได้ก่อน 8 ขวบ!

                                  ลูกไม่เชื่อฟัง พ่อแม่ พฤติกรรมนี้ จะเริ่มหนักขึ้นอย่างจริงจัง เมื่อลูกเข้าวัย 8-12 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยแห่งการมีอิสระในการตัดสินใจ เพราะเด็กในวัยนี้จะเริ่มมีความคิด และบุคลิกภาพเป็นของตัวเองชัดเจน มองโลกและตัดสินใจแบบของตัวเอง โดยไม่ต้องผ่านการมองจากผู้ใหญ่

                                  Continue reading “ลูกไม่เชื่อฟัง พ่อแม่ต้องรีบสอน 5 อย่างนี้ สร้างให้ได้ก่อน 8 ขวบ!”

                                    ตำแหน่งไฝ บนใบหน้าและร่างกาย ของลูกน้อย บอกถึงอะไร?

                                    คุณพ่อคุณแม่เชื่อหรือไม่คะว่า ตำแหน่งไฝ ตามร่างกายก็สามารถ บอกทำนายถึงดวงชะตาของลูกน้อย (หรือตัวคุณเอง)ได้ มาดูไฝตามร่างกายดีกว่า ว่าแต่ละจุดนั้นมีความหมายว่าอะไรบ้าง

                                    Continue reading “ตำแหน่งไฝ บนใบหน้าและร่างกาย ของลูกน้อย บอกถึงอะไร?”