เทคนิดเลือก โรงเรียน เด็กวัย เตรียมอนุบาล

เทคนิคการเลือกโรงเรียนให้ลูกน้อยวัย เตรียมอนุบาล

Alternative Textaccount_circle
event
เทคนิดเลือก โรงเรียน เด็กวัย เตรียมอนุบาล
เทคนิดเลือก โรงเรียน เด็กวัย เตรียมอนุบาล

เตรียมอนุบาล วัยที่ต้องการการดูแลจากพ่อแม่อย่างใกล้ชิด แต่บ้านไหนจำเป็นที่ต้องส่งลูกเข้า เนอสเซอรี่ หยุดกังวลด้วยเทคนิคการเลือกรร.ดีๆ มาฝาก

เทคนิคการเลือกโรงเรียนให้ลูกน้อยวัย เตรียมอนุบาล !!

วัยเตรียมอนุบาล วัยเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 3 ปี เป็นวัยก่อนวัยเรียนอนุบาล ที่ในปัจจุบันบางคนเรียก โรงเรียนเตรียมอนุบาลว่า ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ หรือสถาบันพัฒนาเด็กเล็ก หรือเนิร์สเซอรี่ แต่ไม่ว่าจะเรียกกันว่าอย่างไร นั่นก็หมายถึงการที่พ่อแม่ต้องการพาลูกเล็ก เข้าไปสู่ความดูแลของผู้อื่น ไม่ว่าด้วยเหตุจำเป็นทางด้านใดก็ตาม จึงทำให้เกิดคำถามมากมายถึงความเหมาะสม ความพร้อมของเด็ก ว่าเป็นวัยที่ควรให้เข้าโรงเรียนหรือไม่อย่างไร

ความจำเป็นที่ลูกต้องเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียน จำเป็นจริงหรือ??

เด็กจำเป็นต้องได้รับการเตรียมตัวก่อนเข้าโรงเรียน ดังนั้นต่อข้อคำถามที่ว่าลูกจำเป็นต้องได้รับการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนนั้น จึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่คำถามสำคัญที่จะตามมามากกว่าที่เป็นประเด็นสำคัญว่า

” ใครจะเป็นคนดูแล สอนการเตรียมความพร้อมให้กับลูก และอย่างไร?”

ในเรื่องประเด็นดังกล่าว เราขออนุญาตหยิบยก บทความของคุณหมอ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ ที่กรุณาได้ให้คำแนะนำไว้ในเพจ FB : สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ ดังนี้

ถ้าพ่อแม่ดูแลลูกเอง..ไม่จำเป็นต้องส่งเข้าโรงเรียนเร็วเลยค่ะ..พ่อแม่ดูแลเองดีที่สุด ..การส่งลูกเข้าเรียนเร็วกว่าวัยอนุบาล ไม่ได้ทำให้เด็กเรียนเก่งหรือพัฒนาการดีกว่าแต่อย่างใด

แต่ถ้าเป็นครอบครัวที่พ่อแม่ทำงานนอกบ้านทั้งคู่ ช่วงเวลาที่พ่อแม่ไม่อยู่ด้วย ..ใครเป็นผู้ดูแลลูก ..ไว้ใจได้หรือไม่ เพราะมีกรณีที่พี่เลี้ยงอยู่กับเด็กตามลำพัง แล้วทำร้ายเด็กหรือเกิดอุบัติเหตุทำเด็กหล่นแล้วไม่ยอมบอกพ่อแม่ ..ผู้ดูแลมีความเข้าใจในธรรมชาติของเด็กวัยนี้เป็นอย่างดีหรือไม่ มีการกระตุ้นพัฒนาการหรือเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่สมวัยหรือไม่ ..ถ้ามีผู้ดูแลที่ดีมีคุณภาพอยู่แล้ว และลูกก็ดูมีความสุขดี ให้ลูกอยู่บ้านดีที่สุด รอเข้าเรียนตอนอนุบาลทีเดียวเลย ที่อายุประมาณ 3 ขวบ เพราะโอกาสติดเชื้อโรคจะน้อยกว่าหรือถึงติดเชื้ออาการก็มักรุนแรงน้อยกว่าเด็กเล็กมากๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องวิชาการจะสู้เพื่อนไม่ได้ เพราะถึงเข้าเรียนช้ากว่า แต่ถ้าวัยพร้อม เดี๋ยวเดียวก็เรียนทันกันค่ะ

เลือกโรงเรียนลูก วัย เตรียมอนุบาล
เลือกโรงเรียนลูก วัย เตรียมอนุบาล

สรุป สิ่งที่ควรคำนึงก่อนตัดสินใจพาลูกวัย เตรียมอนุบาล เข้าโรงเรียน

  1. ยอมรับการเจ็บป่วยของลูกได้ ต้องยอมรับว่าเมื่อนำเด็กเล็กไปรวมกลุ่มหมู่มาก โอกาสที่เขาจะติดเชื้อ เผชิญกับโรคติดต่อต่าง ๆ ย่อมมีมากกว่า เป็นธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นโรคหวัด โรคมือเท้าปาก โรคอีสุกอีใส เป็นต้น ดังนั้นหากมีความจำเป็นจริง ๆ และตัดสินใจแล้วว่าต้องส่งลูกเข้าเนิร์สเซอรี่ ควรเตรียมความพร้อมเรื่องวัคซีน หรือ ควรทำประกันสุขภาพเด็กให้กับลูกเสียก่อน เพื่อรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
  2. สอบถามความคิดเห็นกับคนในครอบครัว เพื่อหาทางออกร่วมกัน หากสรุปแล้วจำเป็นต้องพาลูกเข้าเนิร์สเซอรี่ จะเป็นแบบไหน รูปแบบอย่างไร ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และช่วยกันสอดส่องดูแล
  3. หาเวลาทดแทนให้กับลูก เนื่องจากในการพาลูกเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมอนุบาลซึ่งในความเป็นจริงเด็กควรได้อยู่กับพ่อแม่ให้มากที่สุด แต่ด้วยเหตุจำเป็น ดังนั้นพ่อแม่ต้องหาเวลาคุณภาพมามอบคืนให้แก่เขา หลังจากที่เขากลับมาบ้าน เราควรสนใจ ให้เวลากับลูก กอดหอมให้ความรักอย่างเต็มที่เพื่อทดแทนเวลาที่หายไป เพราะแม้ว่าเราจะไม่สามารถเลี้ยงเขาได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่หากลูกรับรู้ได้ว่าความรักของเรายังมีให้เขาเต็มที่ก็สามารถชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไปได้
  4. ค่าใช้จ่าย โรงเรียนเตรียมอนุบาลก็มีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่เป็นมาตรฐาน หลักสูตรภาษาต่างประเทศเพิ่มเติม หรือแบบบ้าน ๆ รับเลี้ยงเด็กทั่วไป ดังนั้น พ่อแม่ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่าย และคุณภาพที่จะได้รับตามมา ว่าเหมาะสมกับสถานภาพของครอบครัวเราแค่ไหน เพราะอย่าลืมว่าการเรียนของลูกไม่ได้หยุดแค่โรงเรียนเตรียมอนุบาล นี่เป็นเพียงเริ่มต้นเท่านั้น

เทคนิคการเลือกโรงเรียนให้ลูกวัย เตรียมอนุบาล !!

เมื่อพิจารณาถึงความเหมาะสม และความจำเป็นกันแล้ว ครอบครัวตัดสินใจว่าจำเป็นต้องส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมอนุบาล หรือเนิร์สเซอรี่กันแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลกันไป เพราะความจำเป็นของแต่ละบ้านมีไม่เหมือนกัน การส่งลูกเข้าเรียนก่อนวัยอนุบาลก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวมากนัก หากเรามีวิธี เทคนิคในการเลือกสถานที่ โรงเรียนที่ดี ปลอดภัย เหมาะสม ให้แก่ลูกน้อย ย่อมดีกว่าปล่อยเขาไว้โดยไม่ได้รับการเตรียมความพร้อมใด ๆ เลย

ข้อดีของการส่งลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาล

  1. ช่วยผ่อนแรง และมีคนช่วยสอนการเตรียมความพร้อมให้ลูกอย่างถูกต้อง เพราะหากคุณพ่อคุณแม่ต่างทำงานทั้งคู่ย่อมมีเวลาไม่เต็มที่ให้กับลูก การหาผู้ช่วยมาดูแลในเวลาที่เราทำงานก็ย่อมดีกว่า
  2. ช่วยให้ลูกคุ้นเคย ปรับตัวได้ง่ายเวลาเข้าเรียนอนุบาล การเข้าเตรียมอนุบาลลูกจะต้องมีกิจวัตรประจำวันเป็นตารางประจำ ทำให้เขาได้คุ้นเคยก่อน และปรับตัวได้ในกลุ่มเล็ก ๆ ก่อนที่จะเข้าโรงเรียนจริง
  3. ฝึกทักษะการอยู่ร่วมกับคนอื่น แม้ว่าเด็กวัยนี้จะยังไม่ได้มีพัฒนาการทางสังคมมากนัก แต่การที่เขามีประสบการณ์พบเจอการอยู่ร่วมกับคนอื่นก่อน ก็ย่อมทำให้เขาปรับตัว เพิ่มทักษะได้เร็วกว่าเมื่อเขาพร้อม
  4. ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย จากกิจกรรมที่ต้องทำ เช่น ปีนป่าย ขยับแขนขา ในโรงเรียนที่มีสถานที่กว้างขวาง เครื่องเล่นกระตุ้น ก็จะทำให้ลูกได้ออกกำลังกายพัฒนากล้ามเนื้อได้มากกว่าอยู่แต่ในบ้าน
  5. ได้เรียนรู้บทเรียนในเบื้องต้นก่อนการเข้าเรียนอนุบาล แม้ว่าจะไม่ได้เป็นรูปแบบชัดเจน แต่การพบเห็น เจอะเจออยู่เป็นประจำก็ทำให้เขาจำได้ เรียนรู้ได้เร็วขึ้น

เมื่อคุณพ่อคุณแม่มั่นใจกับการตัดสินใจเลือกให้ลูกเข้าสู่ โรงเรียนเตรียมอนุบาล หรือเนิร์สเซอรี่กันแล้ว เรามาดูเทคนิค หรือข้อที่ควรคำนึงก่อนเลือกโรงเรียนให้ลูกกันดีกว่า

  • ค่าใช้จ่าย

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า รูปแบบของโรงเรียนเตรียมอนุบาลมีมากมาย หลากหลายหลักสูตร ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการเข้าเรียนย่อมแตกต่างกันไป คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าไปสอบถาม และประเมินว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวในระยะยาวนี้เหมาะสมกับสถานภาพของครอบครัวเราหรือไม่ อย่างไร

เด็กวัย เตรียมอนุบาล ควรเตรียมความพร้อมอย่างไร
เด็กวัย เตรียมอนุบาล ควรเตรียมความพร้อมอย่างไร
  • ระยะทางสถานที่

พิจารณาว่าระยะทางระหว่างโรงเรียนกับบ้าน สะดวกรับส่ง ใกล้ไกลจากบ้าน หรือที่ทำงาน ควรเลือกที่เดินทางสะดวก เพื่อไม่ให้เด็ก ๆ รู้สึกเหนื่อยกับการเดินทาง ไม่ใช้เวลามากเกินไป เพราะเขาจะต้องเดินทางนี้ทุกวัน

  • นโยบายของโรงเรียนตรงกับพ่อแม่หรือไม่

เช่น สนับสนุนการให้นมแม่ โดยยินดีป้อนนมลูกแบบจิบดื่มจากถ้วยแทนการให้ดูดจากขวด หากแม่ร้องขอ เนื่องจากกลัวลูกไม่ยอมดูดจากเต้า หากติดใจขวด ไม่ให้ขนมหวานที่ไม่มีประโยชน์ แต่เน้นการให้ผักหรือผลไม้เป็นอาหารว่าง เป็นต้น

  • คุณภาพการจัดการของสถานที่โรงเรียนดีหรือไม่

สถานที่ปลอดภัย มีมาตรการทำความสะอาดที่ดี เพียงพอ ช่วยป้องกันโรคระบาดให้กับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี มีมาตรการดูแลเมื่อเกิดโรคระบาดอย่างไร เป็นเรื่องที่สำคัญมากอันดับต้น ๆ ของการตัดสินใจเลือก เพราะสุขภาพของลูกสำคัญ ความปลอดภัยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องดู เช่น ปลอดภัยมีประตูกั้นที่เด็กจะเดินออกไปเองไม่ได้ ทางหนีไฟ ระบบตรวจจับควันไฟ การติดตั้งของเล่นมั่นคง มีที่จอดรถห่างจากที่เล่นของเด็ก ไม่แออัด มีการระบายถ่ายเทอากาศที่ดี ถ้าเป็นห้องแอร์ควรมีเครื่องฟอกอากาศ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ ควรมีห้องแยกเวลาเด็กป่วย มีของเล่นที่หลากหลายเหมาะกับแต่ละวัยเพื่อช่วยเสริมพัฒนาการและมีจำนวนเพียงพอแก่เด็ก ทางโรงเรียนควรมีกล้องวงจรปิดเพื่อคอยตรวจสอบและย้อนดูเหตุการณ์ได้ ในกรณีที่มีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นแก่ลูก มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีกรณีคนแปลกหน้ามาลักพาเด็ก เป็นต้น

  • จำนวนครู พี่เลี้ยง บุคลากร เพียงพอกับจำนวนเด็กแค่ไหน ดูแลได้ทั่วถึงหรือไม่

คุณภาพของครู และพี่เลี้ยง เป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคติดต่อ ไม่มีประวัติอาชญากรรม ผ่านการอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับเด็ก และการช่วยเหลือชีวิต การปฐมพยาบาลเบื้องต้น มีโปรแกรมในการพัฒนาศักยภาพครูหรือไม่ และที่สำคัญมีบุคลิกภาพรักเด็ก ใจเย็น มีความรู้ความชำนาญในการดูแลเด็กมากแค่ไหน

เคล็ดลับควรสังเกต : ครู พี่เลี้ยงในโรงเรียนนั้น ใช้ทีวีในการดูแลเด็กมากแค่ไหน เพราะผลเสียจากการดูทีวีมีมากมาย หากใช้ทีวีเลี้ยงเด็ก ควบคุมความสงบเรียบร้อยในห้องเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ลูกได้ผลกระทบจากการดูทีวีตั้งแต่เด็ก เช่น เป็นโรคสมาธิสั้น ออทิสติกเทียม เป็นต้น

  • มีเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินของโรงพยาบาล สถานีตำรวจ สถานีดับเพลิง อยู่ในที่เห็นได้ง่าย

ในกรณีที่เด็กมีอาการป่วยเฉียบพลันและจำเป็นต้องได้รับการตรวจรักษาทันที ทางโรงเรียนควรมีระบบการนำส่งให้เด็กได้รับการตรวจได้ทันทีโดยไม่ต้องรอผู้ปกครอง เพราะอาจไม่ทันการณ์

เลือกโรงเรียนที่มีนโยบายตรงกับของคุณพ่อคุณแม่
เลือกโรงเรียนที่มีนโยบายตรงกับของคุณพ่อคุณแม่
  • ตารางการเรียนการสอนเหมาะสมกับลูกเราหรือไม่

ก่อนที่จะสมัครเรียนควรสอบถามคุณครูผู้สอนว่ามีการเรียนการสอนเบื้องต้นอย่างไรบ้าง มีอาจารย์ผู้สอนกี่คนต่อจำนวนนักเรียน และแยกห้องเด็กเล็กกับเด็กโตหรือเปล่าจะได้ไม่เกิดการตีกัน  โดยส่วนใหญ่นักเรียนเนิร์สเซอรี่จะอยู่ในวัย 1 – 3 ขวบ เมื่อเข้าถึงวัย 2 ขวบเด็กจะรู้เรื่องมากขึ้น แต่ถ้าวัย 1 ขวบอาจจะต้องให้คุณครูประกบตัวนักเรียนตัวต่อตัว ต้องป้อนข้าวให้ด้วยเพราะยังจับช้อนเข้าปากเองไม่เป็น อีกอย่างรุ่นพี่อาจจะเล่นรุนแรงกว่ารุ่นน้องจึงจำเป็นต้องแยกกันเพื่อความปลอดภัย

  • ที่จอดรถ

อาจฟังดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าพิจารณา แต่ในทางปฎิบัติ หากเราต้องมาส่งลูกเพียวคนเดียว อีกทั้งลูกเป็นเด็กเล็กต้องคอยดูแล การหาที่จอดรถเพื่อรับส่งที่ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ และหากมีไม่เพียงพอ อาจทำให้เสียเวลาในการรับส่งลูกอีกด้วย

  • อาหารถูกสุขลักษณะ

มีห้องเตรียมอาหารที่ถูกสุขลักษณะ จัดอาหารและของว่างถูกต้องตามหลักโภชนาการและน่ารับประทาน

 

อ่านต่อ >>สัญญาณบ่งบอกอันตราย ลูกถูกทำร้ายจากโรงเรียน คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up