ฝึกวินัยลูก

แชร์เทคนิค ฝึกวินัยลูก แบบแม่มะเดื่อ ลูกเลี้ยงง่าย แม่ไม่เหนื่อย

Alternative Textaccount_circle
event
ฝึกวินัยลูก
ฝึกวินัยลูก

ฝึกวินัยลูก เรื่องการกิน

ตอนมะเดื่อยังเป็นเด็กทารก ตื่นประมาณ 6-7 โมงเช้าก็เข้าเต้ากินนมก่อนเลย ลูกกินนมทุก 3 ชั่วโมง

หลักๆ แม่ยึด เวลากลางวัน คือ 6 โมงเช้า / 9 โมงเช้า /เที่ยงวัน/บ่ายสาม และ 6 โมงเย็น

เวลากลางคืนก็ สามทุ่ม เที่ยงคืน ตีสาม จนกลับมาที่ 6 โมงเช้าอีก

เป็นแบบนี้มาเรื่อย จนลูกเริ่มนอนยาวไม่กินนมมื้อดึก แม่ก็ต้องปั๊มนมเก็บไว้ แม่ก็ยังใช้หลักปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมงเหมือนเวลาที่ลูกเข้าเต้ากินนมคือ รอบ 3 ทุ่ม รอบเที่ยงคืน และรอบตี 3 ส่วน 6 โมงเช้าไม่ปั๊มนมแล้ว รอลูกตื่นมากินนม ทำแบบนี้มาจนลูกอายุ 11 เดือน ก็เลิกปั๊มนม เพราะนมที่ปั๊มมา ก็แทบไม่ค่อยจะได้ใช้เลย เพราะเราเลี้ยงลูกเองอยู่บ้านกับลูกทุกวัน ลูกกินนมแม่ นมที่ปั๊มในช่วงกลางคืนตอนลูกหลับ ก็เก็บแช่ช่องแข็ง เอาไปทำสบู่นมแม่ ตั้งเป้าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่อายุหนึ่งขวบปี จนตอนนี้เลี้ยงลูกไปๆ มาๆ จนให้นมแม่ล้วนแก่ลูกจนจะสามขวบปีแล้

อาหารเสริมของลูก แม่มะเดื่อเริ่มที่ อายุ 6 เดือน โดยยึดหลักข้อมูลของ NHS ประเทศอังกฤษ ประเทศที่ลูกเกิด (ข้อมูล :https://www.nhs.uk/conditions/pregnancy-and-baby/solid-foods-weaning/)

ซึ่งก็ตรงกับข้อมูลขององค์การอนามัยโลก

(ข้อมูล :http://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/infant-and-young-child-feeding) โดยอาหารเริ่มแรกควรจะเป็นอะไร ก็ยึดหลักตามข้อมูลของที่นี้ทั้งหมด

ตอนลูกอายุก่อน 1 ขวบ แม่มะเดื่อไม่ปรุงแต่งรสชาติอาหารเลย ไม่ใส่เกลือ ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ซีอิ๊ว เพราะนอกจากไม่จำเป็นแล้ว ยังไม่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย

มะเดื่อเป็นเด็กกินเก่งมาตลอด กินได้ทุกสิ่ง น้ำหนักส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ สลัดผักสด ต้นหอม ผักชี ขิง กินได้หมด เห็นอาหารอะไรใหม่ๆ ก็อยากลอง กินอะไรก็อร่อยทุกเมนู ปัจจุบันกินอาหารทั้งหมด 5 มื้อ อาหารหลัก 3 มื้อ อาหารว่าง 2 มื้อ ไม่มีขนมกรอบ ไม่มีลูกกวาด ไม่มีน้ำผลไม้กล่องที่มีน้ำตาลมาก หากพ่อแม่ลองอ่านฉลากส่วนผสมข้างกล่องดูว่าหากลูกกินไปแล้วจะได้รับน้ำตาลมากแค่ไหน ไม่มีช็อกโกแลต ลูกไม่ชอบเองด้วย ถ้าให้เลือกระหว่างช๊อคโกแลตกับแอปเปิ้ล ลูกเลือกกินแอปเปิ้ล มะเดื่อเพิ่งรู้จักช๊อกโกแลตตอนอายุ 2 ขวบนี้เอง รู้จักจากคนอื่นแนะนำชวนให้กิน

ฝึกวินัยการกิน
เทคนิค ฝึกวินัยลูก เรื่องการกิน ให้ลูกกินเองได้ ไม่ต้องตามป้อน

แม่มะเดื่อเชื่อว่า เป็นเพราะวินัยการกินอาหารของเราตั้งแต่ในท้อง จนคลอด ที่เรากินอาหารสุขภาพ ลูกเราก็เช่นกัน แม่มะเดื่อเคยอ่านบทความหนึ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมการกินของแม่ตอนตั้งครรภ์ จะส่งผลมาที่พฤติกรรมการกินของลูกด้วย ถ้าเทียบกับประสบการณ์ของตัวเองแม่มะเดื่อก็เชื่อตรงนี้

แม่เลือกกินอาหารที่มีโภชนาการดีตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง ให้นมลูก จนถึงวัยที่ลูกเริ่มกิอาหารเสริม ลูกกินแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ก็ทำให้เค้าสุขภาพแข็งแรงด้วย เค้าไม่อ้วน เพราะระบบเผาผลาญดี วิ่งเล่นตลอด และไม่ได้กินขนม ของหวานที่มีน้ำตาลสูงด้วย

ลูกแข็งแรงมาก ถ้าป่วย จะป่วยไม่เกิน 3 วัน ไม่เคยอาเจียน หรือท้องเสีย และไม่เคยป่วยจนไม่ยอมกินอาหาร แม้กระทั่งป่วยลูกก็ยังกินอาหารทุกมื้อ ปริมาณอาจจะกินน้อยกว่าปกติแต่ก็ยังกิน ตรงนั้นแม่ก็ช่วยปั่นทำซุปสารพัดคุณค่าอาหารให้กินง่ายขึ้น สารอาหารที่ดีก็ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้หายป่วยเร็วขึ้น ตรงนี้แม่มะเดื่อก็แอบไปเรียนโภชนาการอาหารเด็กด้วย ก็ทำให้เรายิ่งมั่นใจว่าเราดูแลเรื่องอาหารการกินของลูกเราได้เป็นอย่างดี และสามารถแชร์ความรู้ให้กับคนอื่นได้ด้วย

อุปสรรคในการ ฝึกวินัยลูก เรื่องการกิน

อุปสรรคก็มี คือสิ่งเร้าอื่น ลูกห่วงเล่น หรือใครเปิดทีวี ก็จะหันไปดูไปสนใจ คราวนี้ก็จะอมข้าวละ ซึ่งแม่มะเดื่อหงุดหงิดมากตรงนี้

เรื่องห่วงเล่น แม่มะเดื่อแก้ปัญหาโดย ต้องข่มใจตัวเอง ไม่ตามป้อน ให้กินข้าวเอง ภายในเวลา 30 นาที หมดเวลาคือเก็บ ลูกก็จะเรียนรู้วินัยการกินอาหาร ปัจจุบันก็นั่งกินอาหารป้อนข้าวตัวเอง

รวมถึงวินัยการกินอาหารให้ตรงต่อเวลา เวลากิน ไม่ใช่เวลาเล่น เราก็ ฝึกวินัยลูก มาตั้งแต่ตอนให้นม จนตอนนี้ลูกทานอาหารป้อนตัวเอง ทุกครั้งที่แม่ทำอาหารเสร็จ ลูกที่กำลังเล่นอยู่จะหยุดเล่นแล้วจะรีบเดินรับวิ่งมานั่งที่โต๊ะอาหารเองทันที โดยที่แม่ไม่ต้องเรียก เพราะถึงเวลาที่ลูกหิวข้าว และมีความตื่นเต้นอยากกินอาหารตรงหน้า เราสร้างรูทีนลูกมาดี

ส่วนอุปสรรคคือสมาชิกคนอื่นในบ้านในการเลี้ยงดูลูกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดทีวีในระหว่างที่กำลังกินอาหารทำให้เบี่ยงเบนความสนใจต่ออาหารตรงหน้า หรือป้อนอาหาร ป้อนขนม ก่อนมื้ออาหารซึ่งทำให้อิ่ม กินอาหารที่ครบโภชนาการที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของร่างกายไม่ได้ หากทัศนคติไม่ตรงกัน ไม่ให้ความร่วมมือก็จะเป็นปัญหาและอุปสรรคมาก สมัยนี้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกเข้าถึงได้ง่าย ปู่ย่าตายายก็ต้องเปิดใจในข้อมูลใหม่ รวมถึงให้เกียรติเราในฐานะแม่ด้วย แต่ฝรั่งไม่ค่อยเจอปัญหานี้มั้ง ถ้าจากประสบการณ์ตัวเองปู่ย่ามะเดื่อจะไม่เคยก้าวก่ายเรื่องการเลี้ยงลูกเลย จะเอาอะไรให้หลานกินเค้าขออนุญาตก่อนทุกครั้ง ซึ่งมันก็เป็นความสบายใจหนึ่งที่คนเป็นแม่วางใจและสบายใจตรงนี้ได้

การเล่นการเที่ยวการเรียนรู้

จักรยานบันไดถีบ
จักรยานบันไดถีบ แค่ถอดล้อด้านข้างก็กลายเป็นจักรยานสองล้อได้ทันที

นอกจากของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยของลูกแล้ว แม่มะเดื่อเล่น พูดคุย และหากิจกรรมทำร่วมกันกับลูกตลอด เพราะแม่มะเดื่อเชื่อว่าของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับลูกคือพ่อแม่ และมะเดื่อก็มีสังคมเพื่อนวัยเดียวกับเค้าด้วย โชคดีที่บ้านเราติดสนามเด็กเล่น เค้าจะมีเพื่อนที่มาเล่นที่นี้ประจำ

เป็นแก๊งค์เลยล่ะ แม่มะเดื่อเรียกว่าแก๊งค์จักรยาน เพราะขี่จักรยานบันไดถีบกันทุกเย็น มะเดื่อก็ขี่ตามเพื่อน เลยทำให้ขี่จักรยานบันไดถีบได้ตั้งแต่ อายุเพียงแค่ 2 ขวบ 3 เดือน

เราไม่ได้ส่งลูกเข้าเนอสเซอรี่ เป็นข้อตกลงของพ่อกับแม่มะเดื่อ ที่ใน 3 ขวบปีแรก แม่จะเป็นแม่ Full time เลี้ยงลูกเอง และให้ลูกใช้เวลาในช่วงอายุนี้กับคนในครอบครัวทั้งไทยและอิตาลี รวมถึงเที่ยวให้เยอะๆ

เวลามะเดื่ออยู่บ้านกับแม่สองคน ตอนพ่อไปทำงาน แม่มะเดื่อก็พาลูกออกไปเที่ยวตลอด ออกเที่ยวตั้งแต่เกิด อายุ 9 วัน เราอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ณ ตอนนั้น อากาศที่นั้นดี เราก็พาลูกใส่รถเข็นไปรับอากาศบริสุทธิ์ตลอด

ช่วง 2 เดือนแรกที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีเราก็เดินเล่นอยู่ตามสวนสาธารณะแถวบ้าน ไม่พาลูกไปที่คนพลุกพล่านหรือใช้บริการรถบัส รถไฟสาธารณะเลย เรากลัวเชื้อโรคในอากาศ

แต่พอลูกโตขึ้นก็เริ่มออกไปเที่ยวไกลมากขึ้น ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกตอนอายุ 4 เดือน ซึ่งก็เป็นอายุที่เหมาะสมที่พร้อมจะขึ้นเครื่องบินได้แล้ว

ซึ่งปัจจุบันขึ้นเครื่องบินมาแล้ว 37 เที่ยวบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ แม่มะเดื่อขอยืนยันว่าการพาลูกท่องเที่ยวได้อะไรมากกว่าที่เราคิดเยอะจริงๆ อย่าคิดว่าลูกยังเล็กแล้วจะไม่รู้เรื่อง

นอกนั้นถึงอยู่บ้าน ก็ออกเที่ยวก็ไปทุกที่ละ คาเฟ่ ร้านอาหาร ไปซุปเปอร์มาเก็ตกับแม่ตั้งแต่แบเบาะ เปลี่ยนรถเข็นจากนอนเป็นนั่ง จนพอเดินได้ ก็จูงมือกันเดินไปซื้ออาหาร มะเดื่อเป็นเด็กที่ชอบเดิน ไม่ชอบใช้รถเข็น

หน้าที่ประจำวันของแม่คือช้อปปิ้งซื้ออาหาร มะเดื่อก็ไปกับแม่ เค้าได้ IQ EQ มา เค้ารู้จักชื่อผัก ผลไม้ รู้จักสี รู้จักนับจำนวน เค้าได้ภาษา และเค้ามองท่าทางของแม่หมดเลย เพราะเราเห็นเค้ากลับมาบ้าน เล่นบทบาทสมมุติคนเดียว เราได้ยินเค้าพูดว่า Sacchetto? ภาษาอิตาเลียน ที่พนักงานถามเราว่าเอาถุงพลาสติกไม๊ แล้วจะได้ยินเค้าเล่นตอบไปตอบมาเองว่า No Grazie

บางทีก็พูดภาษาไทย บางทีก็พูดภาษาอังกฤษทำให้แม่มะเดื่อรู้ว่า ลูกมองเราสังเกตเราทุกอย่าง

และทุกครั้งที่เราออกบ้าน แล้วพาลูกไปด้วย ไม่ว่าจะไปทำธุระ หรือไปเที่ยว เราไม่เคยกระทบรูทีนเวลากินเวลานอนลูกเลย

เวลากินเวลานอนของลูกต้องเป๊ะ พ่อแม่มะเดื่อให้ความสำคัญตรงนี้มาตลอด

ตั้งแต่สมัยเล็กๆ ที่ลูกยังนอนกลางวัน 2 ครั้ง คือรอบเช้ากับรอบบ่าย

จนลดมาเหลือนอนรอบเดียว แม่ก็ให้นอนรอบเช้า 10 โมง ตื่น 11โมงบ้าง ตื่นเที่ยงบ้าง ตื่นมากินอาหารกลางวัน แล้วเราก็ออกบ้านไปเที่ยวกันยาวๆได้เลย ชาร์จพลังมาเต็ม เราไม่เคยเห็นลูกเรากินข้าวแล้วหลับคาโต๊ะคาเก้าอี้ หรือไปร้องไห้งอแงเพราะง่วงนอนเลย เพราะเราไม่รบกวนรูทีนลูก

การที่ลูกมีรูทีนมีวินัยที่ดี ทำให้แม่สามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ เวลาไหนลูกหิว เวลาไหนลูกง่วง เราจะรู้หมด เราพร้อม ลูกเราก็เลยไม่เคยได้งอแงตรงนี้เลย

ปัจจุบันก็ไม่นอนกลางวันแล้ว แม่ก็แค่รักษาเวลาอาหารในแต่ละมื้อรวมทั้งมื้ออาหารว่างให้ตรงเวลา

อ่านต่อ เทคนิคฝึกวินัย ในการควบคุมอารมณ์ตัวเอง คลิกหน้า 4

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up