คำสอนโบราณเรื่องการเลี้ยงลูก เชื่อได้จริงหรือ!

สำหรับคุณพ่อคุณแม่หลายคน เรื่องการเลี้ยงลูกมักเป็นความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากทั้งผู้มีประสบการณ์หรือประสบมาด้วยตัวเอง ความเชื่อความเข้าใจในการดูแลทารกหลายอย่างที่ได้รับการถ่ายทอดมานั้น ก็มีทั้งเป็นเรื่องที่ดี และเข้าใจผิดกันได้ ดังนั้นมาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าความจริงแล้วความเชื่อเรื่องการเลี้ยงลูกในสมัยโบราณสามารถนำมาใช้เลี้ยงลูกในปัจจุบันได้หรือไม่ อย่างไร

1.การโกนผมไฟ

เชื่อว่า การโกนผมไฟหรือการทำขวัญเดือน จะทำขึ้นเมื่อเด็กอายุครบ 1 เดือน กับ 1 วัน ซึ่งจัดให้มีการทำขวัญ โกนผม ตั้งชื่อ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เด็ก ซึ่งหากโกนผมไฟช้าเชื่อกันว่าจะทำให้เด็กดื้อและเลี้ยงยาก

คุณหมอบอก สมัยก่อนนั้นเราเชื่อว่าผมของเด็กที่ติดมาตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ไม่สะอาดนัก และเป็นผมที่บอบบางหลุดร่วงง่าย จึงโกนทิ้ง ซึ่งในสมัยก่อนไม่มีแชมพูสระทำความสะอาดผม หรือน้ำอุ่นอาบน้ำลูก การโกนผมทิ้งจึงมุ่งประโยชน์ไปที่เรื่องของความสะอาดเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันหลายครอบครัวก็ยังนิยมทำ เพราะคิดว่าจะทำให้เส้นผมที่ขึ้นใหม่ดกดำขึ้น ซึ่งไม่มีผลเสียแต่อย่างใด

ข้อควรระวัง การโกนผมไฟเด็กจะต้องระมัดระวังอย่างมาก ควรให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญโกนผมให้

2.ดอกอัญชัน กานพลู น้ำนมแม่ หรือขี้เทาของเด็กทาผมทาคิ้วให้ดกดำ

เชื่อว่า นำดอกอัญชันมาบดแล้วทาผมทาคิ้วให้เด็กแรกเกิดหรือกานพลูมาจุ่มขี้เทา หรือใช้น้ำนมแม่ทาจะทำให้คิ้วดกดำเรียงตัวสวย

คุณหมอบอก มีเฉพาะดอกอัญชันที่มีสารกลุ่มแอนโธไซยานินที่มีคำกล่าวอ้างว่าหากนำมาหมักผมจะช่วยกระตุ้นหนักศีรษะทำให้ผมดกดำขึ้น ส่วนกานพลู น้ำนมแม่หรือขี้เทาของเด็กยังไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าช่วยได้แต่อย่างใด

ข้อควรระวัง อาจก่อให้เกิดอาการผื่นแพ้กับผิวที่บอบบางของลูกน้อย

3.ดัดขาลูกหลังอาบน้ำ

เชื่อว่า ดัดขาให้ลูกหลังจากอาบน้ำ ขาจะสวยตรงเมื่อโตขึ้น

คุณหมอบอก การดัดหรือยืดขาของลูกเบา ๆ จะช่วยให้ลูกได้ยืดเส้นยืดสายบ้างเท่านั้น ไม่ใช่การดัดเพื่อเปลี่ยนรูปกระดูก เพราะการดัดประเดี๋ยวประด๋าวนั้น ไม่อาจช่วยให้รูปกระดูกเปลี่ยนแปลงได้

ข้อควรระวัง อาจจะเกิดการบาดเจ็บและเกิดการโค้งงอหรือการผิดรูปของกระดูกได้หากทำรุนแรง

4.นอนคว่ำจะหัวทุย

เชื่อว่า ให้เด็กทารกนอนคว่ำจะนอนสบายและหัวทุยกว่านอนหงาย

คุณหมอบอก เด็กแต่ละคนมีท่านอนที่ชอบไม่เหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่มีหน้าที่สังเกตลูกว่าการนอนในท่าไหนที่ลูกหลับสนิทและหลับได้นานส่วนการนอนคว่ำให้หัวทุยนั้น แนะนำว่าขณะที่ลูกน้อยนอนหงายเวลาหลับคุณพ่อคุณแม่อาจต้องคอยช่วยจับศีรษะลูก สลับด้านที่นอนกดทับพลิกไปมาเป็นระยะๆ สลับกันไป และต้องคอยจับลูกนอนคว่ำหน้าในขณะตื่นจะปลอดภัยว่า

ข้อควรระวัง การที่นอนคว่ำเสี่ยงต่อการหน้าจม ถ้าไม่มีคนอยู่เฝ้าเด็กไม่แนะนำเรื่องการนอนคว่ำ

5.ผ้าอ้อมเปียกฉี่กวาดลิ้น

เชื่อว่า ใช้ผ้าอ้อมรองรับน้ำปัสสาวะของลูก แล้วนำไปกวาดลิ้นลูกกันลิ้นเป็นฝ้า

คุณหมอบอก เป็นเรื่องของการดูแลความสะอาดในช่องปากของเด็ก สมัยก่อนน้ำปัสสาวะเป็นของสะอาดที่สามารถหาได้ง่าย ปัสสาวะของเด็กไม่มีเชื้อโรคจึงไม่มีอันตรายต่อร่างกาย แต่ในปัจจุบันเรามีน้ำสะอาด คือน้ำต้มสุก จึงควรใช้น้ำต้มสุกที่เย็นแล้วมากกว่า

ข้อควรระวัง หากปัสสาวะติดเชื้อ จะเป็นการนำเอาเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายลูกน้อย

อ่าน >> คำสอนโบราณเรื่องการเลี้ยงลูก 6-10 คลิกเลย

    ลูกกระดูกเปราะ

    ลูกกระดูกเปราะ แต่กำเนิด เพราะแม่ท้องกินอาหารที่มีแต่ผงชูรส จริงหรือ?

    จริงหรือไม่? สาเหตุที่ ลูกกระดูกเปราะ แต่กำเนิด เพราะแม่ท้องกินอาหารที่มีแต่ผงชูรส! Amarin baby & kids ขอนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ เพื่อหาข้อเท็จจริง การที่แม่ท้องชอบทานอาหารที่มีผงชูรสเป็นประจำ จะทำให้ลูกเป็นโรคกระดูกเปราะจริงหรือไม่ มาฟังข้อเท็จจริงจากคุณหมอกันค่ะ

    Continue reading “ลูกกระดูกเปราะ แต่กำเนิด เพราะแม่ท้องกินอาหารที่มีแต่ผงชูรส จริงหรือ?”

      ลบรอยเปื้อนตามผนัง จากฝีมือลูกน้อยวัยซน

      อาการมือบอน คืออาการของมือที่อยู่ไม่สุขของลูกๆ ที่ชอบดึงทึ้งข้าวของ เด็ดดอกไม้ใบไม้ หรือขีดเขียนตามกำแพงทำให้สกปรกเลอะเทอะ ถึงแม้ว่าลูกๆ จะเล่นซนจนเปรอะผนังไปหมด แต่เราก็ยังมีวิธีรับมือโดยการลบคราบสกปรกเหล่านั้นออกไปจากผนังโดยการ ลบรอยเปื้อนตามผนัง ง่ายๆ

      Continue reading “ลบรอยเปื้อนตามผนัง จากฝีมือลูกน้อยวัยซน”

        autism

        Autism วิจัยชี้ยาโรคซึมเศร้าเพิ่มความเสี่ยงให้ลูกเป็นออติสซึ่ม

        คุณแม่ตั้งครรภ์ควรระวัง งานวิจัยค้นพบยาต้านอาการซึมเศร้า เพิ่มความเสี่ยงให้ลูกน้อยในครรภ์เป็น Autism เพิ่มขึ้น 87% โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยมอนทรีออลระบุว่า ยาต้านอาการซึมเศร้าของคุณแม่ตั้งครรภ์ ส่งผลให้ลูกน้อยในครรภ์มีความเสี่ยงสูงที่จะมีความบกพร่อง โดยวิเคราะห์จากคุณแม่ตั้งครรภ์ 145,000 คน

        Continue reading “Autism วิจัยชี้ยาโรคซึมเศร้าเพิ่มความเสี่ยงให้ลูกเป็นออติสซึ่ม”

          daddy

          Daddy จากใจคุณพ่อ เมื่อคุณแม่ฝากลูกให้เลี้ยง 1 วัน

          คุณพ่อท่านหนึ่งมีลูกสาววัยซน กำลังฝึกเดิน และชอบรื้อข้าวของ คุณพ่อเล่าว่าไม่สามารถอยู่กับลูกสาวแค่ 2 คนได้ไม่กี่นาที เพราะคุณพ่อดูแลลูกจอมซนไม่อยู่จริงๆ จึงต้องตะโกนเรียกคุณแม่ให้รีบอาบน้ำ แล้วนี่คุณแม่ก็ฝากลูกสาวให้คุณพ่อเลี้ยง 1 วันเต็มๆ แล้ว Daddy จะทำได้หรือไม่?

          Continue reading “Daddy จากใจคุณพ่อ เมื่อคุณแม่ฝากลูกให้เลี้ยง 1 วัน”

            วิธีระงับความโกรธ ก่อนระเบิดอารมณ์ใส่ลูก

            คุณพ่อคุณแม่เกือบทุกคนน่าจะเคยผ่านภาวะของอารมณ์ที่พลุ่งพล่านและพร้อมที่จะระเบิดใส่ลูกตลอดเวลามาบ้างแล้ว…ซึ่งการควบคุมอารมณ์ที่เกิดจากการกระทำของลูกเป็นศิลปะที่ยากมาก ก่อน ระเบิดอารมณ์ใส่ลูก Continue reading “วิธีระงับความโกรธ ก่อนระเบิดอารมณ์ใส่ลูก”

              รวมนิทาน เรื่องสั้น รูปแบบ MP3 สำหรับเด็ก

              ว้าว.. พ่อแม่ทุกท่านที่กำลังหาไฟล์นิทานดีๆ มาเล่าให้ลูกฟัง  ลองดาวน์โหลดไฟล์เสียงเหล่านี้มาเป็นไอเดียสำหรับเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟังในคืนต่อไป  หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน  ซึ่งเราต้องขอขอบคุณผู้จัดทำมา ณ ที่นี้ด้วย

              ดาวน์โหลดได้ที่ >> คลิก <<


              ขอบคุณที่มาจากเว็บไซต์ รักครู

                20 คำถามชวนลูกคุยก่อนนอน แม่ลูกผูกพันธ์และรู้จักลูกมากขึ้น

                อะไรคือสิ่งที่ควรจะถามลูกๆ เมื่อเขากำลังจะเข้านอน นี่คือ 20 คำถามที่จะทำให้คุณพ่อ คุณแม่รู้จักลูกๆ ของคุณมากขึ้น หลังจากที่ลูกๆ ทำกิจกรรมต่างๆ มาทั้งวัน คุณพ่อ คุณแม่สามารถเปิดโอกาสให้ลูกๆ ได้แสดงความคิดเห็นจากคำพูดของลูกกับ question ง่ายๆ เพียง 20 ข้อ

                Continue reading “20 คำถามชวนลูกคุยก่อนนอน แม่ลูกผูกพันธ์และรู้จักลูกมากขึ้น”

                  ทารกหยุดหายใจ

                  ชมคลิป นาทีชีวิต! พยาบาลเร่งช่วยทารกเพิ่งคลอดหยุดหายใจ

                  ทารกหยุดหายใจ …เป็นภาวะปัญหาสำคัญในทารกแรกเกิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทารกที่คลอดก่อนกำหนด ทั้งนี้ทารกที่คลอดก่อนกำหนดน้อยจะคลอดเมื่อ 35 หรือ 36 สัปดาห์ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ทารกที่จะมีปัญหามาก ๆ หลังคลอดคือ คือ มีน้ำหนักตัวน้อยมาก หรืออาจทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขึ้นได้ เนื่องจากปอดยังทำงานได้ไม่เต็มที่นั้นเอง Continue reading “ชมคลิป นาทีชีวิต! พยาบาลเร่งช่วยทารกเพิ่งคลอดหยุดหายใจ”

                    แม่ล้างมือไม่สะอาด

                    ลูกติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะแม่ล้างมือไม่สะอาด

                    เรื่องของความสะอาด เป็นเรื่องใกล้ตัวที่คุณพ่อ คุณแม่ต้องใส่ใจเพราะลูกอาจ “ติดเชื้อในกระแสเลือด” เพราะความสะอาดที่ไม่เพียงพอในการดูแลลูกน้อยก็เป็นได้

                    โดยคุณแม่ท่านหนึ่งได้เล่าประสบการณ์ผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองให้ฟังว่า

                    มีประสบการณ์มาเล่าให้ฟังนะคะ เราคลอดลูกได้ 2 เดือน อยู่ดีๆ น้องก็มีอาการไข้ขึ้น 39.8 เรานั่งเช็ดตัวให้ลูกประมาณ 3-4 ชั่วโมง ไข้ก็ไม่ยอมลด”

                    ติดเชื้อในกระแสเลือด

                    เราเลยพาลูกไปโรงพยาบาล หมอให้แอดมิท ไปถึงกว่าจะรอพยาบาลสอบถามประวัติน้องประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วลูกเราไม่ร้องนะ เงียบนอนซึมแต่ตัวร้อนจี๋เลย ระหว่างเรากำลังซักประวัติอยู่ ก็มีเด็กประมาณ 2 ขวบป่วยมาโรงพยาบาล แต่เค้าร้องเสียงดังร้องทรมานมาก พยาบาลที่กำลังซักประวัติลูกเราอยู่ ก็บอกว่าเดี๋ยวขอให้น้องคนนั้นก่อนนะคะ เดี๋ยวทางนี้รอก่อนนะ เราก็อ้าว กว่าจะรอพยาบาลมาแล้วตั้ง 2 ชั่วโมง ก็รู้ว่าน้องไข้ 39.8 ยังแซงคิวเราอีก เราก็รอจนถึงคิวเราต่อ เรารอประมาณ 1 ชั่วโมง เราจะร้องไห้อยู่แล้ว พอเสร็จลูกเราก็เจาะเลือดเป็นการด่วน เพราะอายุน้อยแต่ไข้สูง หมอบอกต้องเจาะไขสันหลังพร้อมกับการเอ็กซเรย์ ตอนนั้นสงสารลูกมาก และพอผ่านไป 5 ชั่วโมง หมอวินิจฉัยว่าติดเชื้อในกระแสเลือด รอเพาะเชื้ออีก 3 วัน

                    หลังจากนอนโรงบาล 3 วัน เชื้อที่เป็นคือ เชื้อบิกิร่า (ไม่รู้เราพิมพ์ชื่อถูกไหม หมอเค้าเรียกแบบนี้) อาจจะเกิดจากการที่เราชงนมแล้วล้างมือไม่สะอาดหรือเต้านมแม่ไม่สะอาด แต่เราก็ว่าเราทำสะอาดทุกอย่างนะ แต่ก็ต้องโทษที่ตัวเรานี่แหละ เพราะตอนนั้นเราเลี้ยงลูกคนเดียว ลูกเรานอนโรงพยาบาลทั้งหมด 24 วัน แต่ตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ น้องแข็งแรงขึ้นมากแล้ว”

                    Must readแนะนำพ่อแม่มือใหม่! ขั้นตอนการเตรียมนมและวิธีชงนมที่ถูกต้องเพื่อไม่ไห้เกิดฟอง (มีคลิป)
                    
                    Must read : ขวดนมลูก หมดอายุหรือยัง พ่อแม่รีบเช็คด่วน!
                    Must read : วิธีล้างมือที่ถูกต้อง

                    อย่างไรก็ตาม เพราะทารกเป็นวัยที่ติดเชื้อโรคได้ง่าย เพราะร่างกายกำลังอยู่ในช่วงที่สร้างภูมิคุ้มกัน ดังนั้น คุณพ่อ คุณแม่ต้องใส่ใจ และไม่ละเลยกับเรื่องความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะทำอันตรายกับลูกน้อยได้ ควรล้างมือ หรือทำความสะอาดร่างกายของตัวเองทุกครั้งก่อนที่จะแตะต้องลูกน้อย เพราะลูกอาจติดเชื้อในกระแสเลือดได้

                    อ่านต่อ “สาเหตุที่ทำให้ทารกติดเชื้อในกระแสเลือด พร้อมวิธีป้องกันและการรักษา” คลิกหน้า 2

                    เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                     

                      วิธีการชงนมที่ถูกต้อง

                      แนะนำพ่อแม่มือใหม่! ขั้นตอนการเตรียมนมและวิธีชงนมที่ถูกต้องเพื่อไม่ไห้เกิดฟอง (มีคลิป)

                      แนะพ่อแม่มือใหม่! วิธีการชงนมที่ถูกต้อง ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมนมและ เทคนิคการชงนมที่ถูกต้องเพื่อไม่ไห้เกิดฟอง มีคลิปสอนให้เห็นภาพ จะเป็นอย่างไร ตามมาดูกันเลย

                       

                      พ่อแม่มือใหม่ต้องเรียนรู้ วิธีการชงนมที่ถูกต้อง ไว้ด้วย …แม้ว่าการให้นมแม่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะนมแม่มีความปลอดภัยและเหมาะสมกับวัยทารกมากที่สุด แต่บางครั้งคุณแม่บางคนอาจมีความจำเป็นที่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ เพราะไม่ค่อยมีน้ำนม หรือเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพบางอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อแม่และเด็ก หรือคุณแม่กินยาบางอย่างที่สามารถผ่านมาทางน้ำนมได้ จึงจำเป็นต้องใช้นมผงดัดแปลงสำหรับทารกแทน 

                      สิ่งที่ควรทราบก่อนการใช้นมผสม

                      1. เลือกชนิดของนมให้ถูกต้องตามอายุของเด็ก และต้องชงให้ถูกส่วนโดยดูตามคำแนะนำข้างกล่อง
                      2. การชงนมทุกครั้งห้ามชงทิ้งไว้ ควรกะปริมาณให้พอดี…ถ้าลูกทานเหลือสามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องเวลาไม่เกิน 3 ช.ม. (ห้ามวางตากแดด) และคุณแม่ควรชิมก่อนนำมาให้ลูกน้อยทานทุกครั้ง
                      3. ทารกชอบนมที่ไม่เย็นหรือร้อนเกินไป หากเราชงนมและนำเข้าตู้เย็นไว้ ก่อนจะนำมาให้กิน ควรนำไปอุ่นโดยวางลงในชาม หรือหม้อที่ใส่น้ำร้อนไว้ ทิ้งแช่ไว้สักครู่ การอุ่นนมในไมโครเวฟนั้นไม่แนะนำให้กระทำ เพราะนมจะร้อนไม่สม่ำเสมอ บางส่วนที่ร้อนมาก อาจลวกปากเด็กได้
                      4. เมื่อเรานำขวดนมออกจากตู้เย็นและอุ่นให้ร้อนแล้ว ห้ามนำกลับเข้าตู้เย็นอีกเด็ดขาด แม้เด็กจะหลับไปก่อนที่จะได้ดื่มนมขวดนั้นก็ตาม ทั้งนี้เพราะความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนจากเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมินั้นสูงมาก
                      5. เวลาให้นมลูกควรอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขนทุกครั้ง จับขวดนมให้แน่นและเอียงให้พอเหมาะ เพื่อให้มีน้ำนมในจุกขวดตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าท้องลูก ระหว่างให้นมควรหยุดพักสัก 1-2 ครั้ง เพื่อไล่ลมให้ลูกเป็นระยะ

                       

                      วิธีการชงนมที่ถูกต้อง

                       

                      วิธีการชงนมที่ถูกต้อง

                      วิธีการชงนมที่ถูกต้อง

                      ขั้นตอนการเตรียมนมผสมที่ถูกต้อง

                      1. ต้มขวดนมและจุกนมในน้ำเดือดประมาณ 10 นาที (แนะนำให้ใช้ขวดนมแบบ BPA free และขวดแแบบป้องกันโคลิค … อ่านต่อ >> การเลือกซื้อขวดนมให้ลูกน้อยและวิธีเช็ควันหมดอายุของขวดนม)
                      2. การชงนมให้ใช้น้ำต้มสุก (สามารถชงด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำในอุณหภูมิปกติก็ได้) เท่านั้นในการผสมนม ส่วนน้ำดื่มบรรจุขวดไม่ใช่ว่าจะสะอาดปราศจากเชื้อโรคไปทั้งหมด เพราะฉะนั้นการต้มน้ำให้เดือดก่อนผสมกับนมผงคือสิ่งที่ควรทำ โดยจะต้องต้มให้เดือดจนเห็นฟองอากาศผุดออกมา ให้เย็นลงก่อน จึงนำไปป้อนทารกได้ … ส่วนน้ำที่ใช้ต้มหาก เป็นน้ำประปา อาจจะเปิดใส่ภาชนะไว้ก่อนเพื่อให้ตะกอนที่อาจมีตกตะกอน แล้วจึงนำมาต้ม

                      3. น้ำที่ใช้ชงนมควรจะมีการปนเปื้อนเชื้อโรคน้อย ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง สารตะกั่ว หรือสารปนเปื้อนอื่น หากจะใช้น้ำแร่ที่บรรจุขวดควรตรวจสอบปริมาณโซเดียมที่เป็นส่วนผสม ถ้ามากกว่า 20 มิลลิกรัมต่อลิตรจะสูงเกินไปสำหรับทารก และไม่ควรนำน้ำที่แก้ความกระด้างมาใช้ชงนมทารก

                        วิธีการชงนมที่ถูกต้อง

                      4.  อย่าใช้น้ำร้อนจัดในการชงนม” พราะจะไปทำลายโปรตีนและวิตามินบางส่วน  เช่น วิตามิน C ซึ่งจะไม่ทนความร้อนและนมทารกสูตรผสมจุลินทรีย์ที่มีชีวิตแนะนำว่าถ้าต้องการให้ลูกกินนมอุ่น ให้ใช้น้ำอุ่นประมาณ 60 °C ชงนม เพราะถ้าร้อนถึง 70 °C เชื้อจุลินทรีย์ที่ผสมไว้จะตาย  ทำให้ลูกจะไม่ได้ประโยชน์จากจุลินทรีย์สุขภาพและได้รับวิตามินบางชนิดลดลงจนน้อยกว่าที่ควร และการใช้น้ำร้อนจะทำให้ไขมันอาจจับตัวเป็นก้อนทำให้นมไม่ละลาย 
                      5. ใส่น้ำอุ่นประมาณ 1 ใน 3 ของขวดนม ตวงนมผงตามมาตราส่วนข้างกระป๋องด้วยช้อนตวงที่บรรจุมากับกระป๋อง และปาดให้เรียบด้วยมีดที่สะอาด
                      6. เติมน้ำอุ่นเพิ่มตามอัตราส่วนที่เหลือ  เขย่าขวดให้นมละลายให้หมด เทคนิคการเขย่าให้เกิดฟองน้อยที่สุด คือ การจับขวดแล้วหมุนมือเป็นวงกลมเหมือนเอาขวดนมแกว่งน้ำ  ซึ่งจะเกิดฟองน้อยกว่าการเขย่าขวดขึ้นลง เพราะฟองที่เกิดขึ้นขณะเขย่านมอาจทำให้เด็กท้องอืดได้
                      7. ก่อนให้นมลูก ทดลองหยดน้ำนมลงบนหลังมือเพื่อทดสอบว่าอุ่นพอเหมาะ ไม่ร้อนจัดจะได้ไม่ลวกปาก
                      8. นมที่เหลือจากการดูดควรปิดฝาครอบให้สนิททุกครั้งค่ะ และไม่ควรทิ้งนมชงที่เหลือจากการเลี้ยงทารกไว้ในอุณหภูมิห้องนานเกิน 2 ชั่วโมง ถ้านานกว่านี้ควรทิ้งนมในขวดไปเลย เพราะมันจะเริ่มบูด แล้วถ้าเด็กดื่มเข้าไปจะเป็นอันตรายได้

                      และเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่เห็นภาพวิธีการชงนมไม่ให้เกิดฟองที่ชัดเจน
                      เรามีคลิปวีดีโอชงนมไม่ให้เป็นฟอง มาแนะนำค่ะ

                      นอกจาก วิธีการชงนมที่ถูกต้อง ที่สำคัญหลังดื่มนมทุกครั้ง คุณพ่อ คุณแม่ อย่าลืมจับอุ้มเรอให้ลูกน้อยด้วยนะคะ …. โดยมีวิธีไล่ลม คืออุ้มลูกนั่งตัก ให้นั่งตัวตรงเอามือรองใต้คางลูกไว้ อีกมือลูบเบาๆที่หน้าท้องบริเวณกระเพาะ หรืออุ้มลูกพาดไหล่ ให้คางลูกเกยบนไหล่ของคุณแม่พอดี เวลาลูกอยู่ในท่านี้ลมจะลอยขึ้นมา คุณแม่เพียงตบหลังเบาๆ ลูกก็จะเรอออกมาโดยง่าย เพื่อลดปัญหาลูกแหวะนม และท้องอืดได้ ลูกน้อยจะได้หลับสบาย ไม่โยเยค่ะ

                      วิธีเก็บและดูแลนมผสม

                      1. นมผงควรใช้ให้หมดภายใน 1 ปี ครึ่ง หรือ 18 เดือน
                      2. นมผงที่ชงแล้ว แนะนำให้ลูกกินให้หมดภายใน 1 ชั่วโมง เพื่อรักษารสชาติและคุณภาพของนม แต่สำหรับนมผงที่ชงแล้ว และต้องชงก่อนล่วงหน้าสำหรับเตรียมการเพื่อเดินทาง สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นและอยู่ได้นานถึง 24 ชั่วโมงแต่หลังจากเวลานี้ไป แบคทีเรีย มีโอกาสเติบโตได้
                      3. หากอยากจะเพิ่มอายุการจัดเก็บนม ต้องใส่ซองเก็บไว้ ซองที่เปิดแล้วต้องใช้ให้หมด แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องแกะเทใส่กล่อง ควรให้เป็นกล่องทึบที่ไม่มีแสงส่องถึงได้ นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของอุณหภูมิอีก ซึ่งเคยมีงานวิจัยจาก มหาวิทยาลัย ยูทาร์ จากสหรัฐอเมริกา ในการจัดเก็บนมผง จะได้นานที่สุดเมื่อเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส และสำหรับนมผงที่จัดเก็บในที่อุณหภูมิสูงเช่น 32 องศาเซลเซียส รสชาติจะเปลี่ยน และ จะอยู่ได้แค่ 2 ปี เท่านั้น หากอยู่ใน อุณหภูมิ 21 องศาเซลเซียส อาจทำให้มีรสชาติเปลี่ยนไป และวิตามินในนมผงจะลดลง ในขณะที่โปรตีน คาร์โบไฮเดรท และ แร่ธาตุอื่นๆยังคงที่

                       

                      อ่านเพิ่มเติม บทความน่าสนใจ คลิก


                      ขอบคุณข้อมูลจาก guruobgyn.com , promotions.co.th

                        วิธีป้องกันผดร้อน

                        ผดร้อนในทารก ป้องกันได้สบายผิว

                        อากาศร้อนๆ แบบนี้ เด็กๆ มักจะมีปัญหาเรื่องผดผื่นกันอยู่บ่อยๆ คุณพ่อ คุณแม่หลายคนก็อาจจะเกิดความกังวลไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะถึงแม้ว่าบางครั้งจะพยายามรักษาอย่างเต็มที่แล้วผดก็ยังไม่หาย แม่น้องเล็กมี วิธีป้องกันผดร้อน จากคุณรศ.นพ.สังคม จงพิพัฒน์วณิชย์ มาฝากค่ะ

                        Continue reading “ผดร้อนในทารก ป้องกันได้สบายผิว”

                          ปัจจัยทำให้ลูกฉลาด

                          วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้ว! 10 ปัจจัยนี้ทำให้ลูกฉลาดได้

                          พันธุกรรม เป็นหนึ่งใน ปัจจัยทำให้ลูกฉลาด แล้วถ้าพ่อแม่ไม่ฉลาดล่ะจะทำอย่างไร? ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนก็จะบอกว่า เป็นไปตามบุญ ตามกรรม หรือพรสวรรค์ของคนนั้น แต่ปัจจุบันความฉลาดเป็นเรื่องที่พ่อแม่สามารถเสริมให้ลูกได้มากขึ้น และปัจจัยที่สำคัญที่สุด ก็คือ ตัวของคุณพ่อคุณแม่ ที่จะสามารถส่งเสริมความฉลาดของลูกได้มากน้อยแค่ไหนนั่นเอง

                          Continue reading “วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้ว! 10 ปัจจัยนี้ทำให้ลูกฉลาดได้”

                            สอนลูกให้ทำดีกับพ่อแม่

                            Happy Family สอนลูกให้รู้จักทำดีกับพ่อแม่แล้วชีวิตจะเป็นสุข

                            ลูกๆ บางคนรังเกียจพ่อแม่ที่แก่เฒ่า เพราะดูไม่สวยงาม และเป็นภาระ เมื่อลูกๆ มีลูกหลาน เหตุการณ์แบบนี้ก็จะกลายเป็นกงเกวียนกำเกวียน ซ้ำรอยเดิม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะลืมไปว่าพ่อเป็นผู้ที่ให้หัวใจ และแม่เป็นผู้ที่ให้เลือดเนื้อ เรามาสร้าง Happy Family สอนลูกให้ทำดีกับพ่อแม่ กันเถอะ

                            Continue reading “Happy Family สอนลูกให้รู้จักทำดีกับพ่อแม่แล้วชีวิตจะเป็นสุข”

                              ข้อห้ามโบราณ สำหรับคนท้อง

                              จริงหรือไม่? ข้อห้าม คนท้อง ตามความเชื่อโบราณ !

                              สังคมไทย มีความเชื่อมากมายกับเรื่องต่างๆ จนบางครั้งเราไม่ได้ค้นหาสาเหตุว่าความเชื่อนี้มาจากไหน มีที่มาที่ไปอย่างไร และมีเหตุผลอะไร มารองรับความเชื่อนั้น…แต่เรานำมาปฏิบัติตามกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิต บางความเชื่อไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรง แต่บางความเชื่อขัดแย้งกับความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ จนอาจทำให้เราพลาดสิ่งดีๆ หรือกลายเป็นผลร้ายกับเราก็เป็นได้ โดยเฉพาะความเชื่อ ข้อห้าม คนท้อง ตามความเชื่อโบราณ เรามีความเชื่ออยู่หลายอย่าง วันนี้เราพาคุณแม่มาหาความจริงเกี่ยวกับความเชื่อนั้นๆ เพราะความเชื่อที่ถูกต้องควรตั้งอยู่บนพื้นฐานความรู้ที่ถูกต้องด้วยเช่นกัน

                              จริงหรือไม่? ข้อห้าม คนท้อง ตามความเชื่อโบราณ !

                              1. คนท้อง ห้ามอาบน้ำ กลางคืน  เพราะจะทำให้คนท้องมีน้ำคร่ำเยอะ

                              ความจริง: ในสมัยโบราณห้องน้ำมักจะถูกสร้างออกมาจากตัวบ้าน คนเฒ่าคนแก่จึงกลัวคนท้องจะได้รับอันตรายลื่นล้ม หรือได้รับอันตรายจากสัตว์ร้ายที่มีพิษ

                               

                              1. ข้อห้าม คนท้อง ห้ามเย็บผ้า การเย็บผ้าระหว่างตั้งครรภ์ จะทำให้ลูกในท้องปากแหว่ง เพดานโหว่

                              ความจริง: ปากแหว่งเพดานโหว่ในเด็กแรกเกิด บางส่วนเกิดจากพันธุกรรม หรือการพัฒนาของตัวอ่อนในช่วง 3 เดือนแรกมีความผิดปกติ รวมถึงการที่คุณแม่สูบบุหรี่มีผลทำให้ลูกเพดานโหว่ได้ และสาเหตุเกิดจากคุณแม่เย็บผ้าระหว่างตั้งครรภ์ แต่คำเตือนโบราณก็น่าคิดว่า อาจจะให้คุณแม่ระมัดระวังในการทำงานด้านนี้ เพราะต้องนั่งทำงานนาน ก้มๆ เงยๆ ทำให้หน้ามืดเวียนหัวได้ง่าย หรือการเย็บจักร ก็อาจจะไม่เป็นผลดีต่อคุณแม่ที่สุขภาพไม่ดีนักก็เป็นได้ แต่ถ้าคุณแม่ทำงานด้วยความระมัดระวังรู้จักดูแลตนเอง ก็ไม่น่ามีปัญหา

                               

                              1. คนท้อง ห้ามไปงานศพ มีคำเตือนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ว่า ห้ามไปงานศพ เพราะโบราณเขาถือ บางท่านก็อาจจะเชื่อโดยยังไม่ได้ค้นหาความจริงคำว่า “ถือ” หมายถึงอะไร แต่บางคนก็ได้ยินเรื่องทำนองที่ว่า เดี๋ยวผีเข้า ก็แล้วแต่ว่าใครได้ยินและเชื่ออย่างไร

                              ความจริง: งานศพ เป็นงานเศร้าหมอง ผู้ร่วมงานก็มักจะหดหู่จากการสูญเสียญาติพี่น้อง เพื่อน หรือคนรู้จักมักคุ้น ถ้าคนตั้งครรภ์ไปงานก็อาจจะรู้สึกเศร้าหมอง ร้องไห้ เครียดไปด้วย ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์ควรจะมีจิตใจที่ผ่องใส ผู้ใหญ่จึงไม่อยากให้คนท้องรู้สึกเครียดหรือเศร้าหมองนั่นเอง

                               

                              1. คนท้อง ห้ามนั่งขวางบันได คุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามนั่งขวางบันได ไม่อย่างนั้นจะคลอดยาก คุณแม่ท่านใดได้ฟังก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา เพราะการคลอดลูกยาก หมายถึง การเจ็บท้องยาวนาน และอาจเกิดอันตรายขึ้น โดยเฉพาะสมัยก่อนทางการแพทย์ยังไม่ก้าวหน้า

                              ความจริง: บ้านไทยในสมัยก่อน มักจะเป็นบ้านชั้นเดียวที่ยกใต้ถุนสูงบันไดขึ้นบ้านค่อนข้างชัน ถ้าไปนั่งขวางบันไดก็อาจพลัดตกลงมาเกิดอันตรายได้โดยง่าย โดยเฉพาะแม้ท้องใหญ่ที่การทรงตัวไม่ค่อยดี ยิ่งไม่ควรนั่ง ซึ่งเป็นข้อห้ามที่ควรรับฟัง แต่เหตุผลที่นำมากล่าวอ้างว่าจะทำให้คลอดยากนั้น ไม่เป็นความจริง

                               

                              1. คนท้อง ห้ามเตรียมของใช้เด็กไว้ก่อน ความเชื่อนี้ยังถือปฏิบัติกันอยู่มาก เพราะในความเชื่อนี้ให้เหตุผลว่าจะเป็นลางไม่ดี แม้จะเป็นแม่สมัยใหม่แล้วก็ตาม ก็ยังรู้สึกว่าเชื่อไว้ก่อนก็ดี เพราะไม่อยากให้มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับลูก

                              ความจริง: ถ้าคิดตามหลักเหตุและผล จะเห็นว่าไม่มีความเกี่ยวเนื่องกันในส่วนของการเตรียมของใช้ กับสุขภาพหรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างคลอด แต่ความเชื่อนี้น่าจะมาจากการคลอดสมัยก่อนที่มีความเสี่ยงสูง จึงไม่อยากให้เตรียมของใช้เด็กเอาไว้มากนัก หรือพ่อแม่มักจะเห่อลูกในท้องเตรียมของใช้ไว้มากเกินความจำเป็น บางอย่างเมื่อลูกคลอดแล้ว อาจไม่ได้ใช้ด้วยซ้ำ ดังนั้นเพื่อความสบายใจ ก็ให้พบกันครึ่งทางโดยการเตรียมของใช้จำเป็นจริงๆ ที่เด็กแรกคลอดต้องใช้ เช่น ผ้าอ้อม เสื้อผ้าเด็กอ่อน (พอประมาณเพราะเด็กโตเร็ว) น้ำยาซักผ้าเด็ก เพื่อนำมาซักทำความสะอาดไว้ก่อน ส่วนของอื่นๆ ค่อยว่ากันหลังลูกคลอดก็น่าจะทัน

                               

                              1. ติดเข็มกลัดที่ท้อง ป้องกันเด็กหลุดไม่ให้วิญญาณร้ายเข้ามาทำร้ายลูกเราได้

                              ความจริง: คนท้องติดเข็มกลัดไว้เพื่อให้คุณแม่ท้องระวังตัวเอง เวลาเดินไปไหนมาไหน จะได้ไม่เดินชนสิ่งของให้คนอื่นเห็นชัดเจนว่าตั้งครรภ์อยู่ ไม่ได้อ้วนนะ อย่าเดินเข้ามาชนหรือถือของมาชน

                              ความเชื่อคนท้อง และพวกพิธีการต่างๆ เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการเกิดของคนสมัยก่อนมีพิธีการหลายอย่าง เมื่อได้รับฟังหรือเคยได้ยินตามกันมา คุณพ่อและคุณแม่ควรจะพิจารณาก่อนนำไปปฏิบัติ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับตัวคุณแม่และลูกน้อย เพราะความเชื่อ ข้อห้ามโบราณ สำหรับคนท้อง บางเรื่องบางอย่างที่คนโบราณสอนมา บ้างก็มีประโยชน์มีเหตุมีผลสามารถนำมาปรับใช้ได้ แต่บ้างเรื่องก็เชื่อถือหรือหาข้อพิสูจน์ไม่ได้เลย

                              บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

                              สารพัน ความเชื่อ คนท้อง ที่ควรฟังหูไว้หู

                               

                              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                               

                                ตรวจภายใน

                                ตรวจภายใน เรื่องเขินอายที่คุณแม่ควรรู้!! พร้อมวิธีเตรียมรับมือ

                                การ ตรวจภายใน เป็นหนึ่งวิธีในการตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวของกับอวัยวะระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง โดยตรวจทางช่องคลอด เพื่อหาความผิดปกติ อาทิ การติดเชื้อ เนื้องอก และมะเร็ง  ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะเขินอายเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หรือไม่ก็กลัวไปเลย ยิ่งในรายที่ไม่เคยตรวจภายในมาก่อนไม่ต้องพูดถึง…ทั้งที่ความจริงแล้วการตรวจแต่ละครั้งสูติแพทย์จะปกปิดคนไข้อย่างมิดชิด และเปิดเฉพาะส่วนที่จะตรวจเท่านั้น

                                โดยการตรวจภายในจะอาศัยการดูส่วนที่มองเห็น คือ อวัยวะเพศภายนอก ช่องคลอด และปากมดลูก และอาศัยการคลำในส่วนที่มองไม่เห็น คือ มดลูก ปีกมดลูก รวมทั้งรังไข่

                                การตรวจภายใน
                                การตรวจภายในแต่ละครั้งสูติแพทย์จะปกปิดคนไข้อย่างมิดชิด และเปิดเฉพาะส่วนที่จะตรวจเท่านั้น

                                คุณหมอจะทำอะไรบ้าง

                                • เมื่อไปถึงห้องตรวจก็จะต้องเปลี่ยนใส่ชุดที่ทางพยาบาลเตรียมไว้ให้เพื่อสะดวกในการตรวจ จากนั้นก็ขึ้นนอนบนเตียงที่มีขาหยั่ง เพื่อสูติแพทย์จะดูลักษณะทั่ว ๆ ไป ภายนอกก่อนว่ามีผื่นแผล ติ่งเนื้อ หรือก้อนที่ผิดปกติหรือไม่
                                • จากนั้นจะถึงขั้นตอนตรวจดูในช่องคลอด ซึ่งจำเป็นต้องสอดเครื่องมือเข้าไปในช่องคลอด เพื่อถ่างเปิดให้เห็นลักษณะภายในช่องคลอดและปากมดลูก และตรวจดูว่าตกขาวมีสี กลิ่น และปริมาณผิดปกติหรือไม่ ส่วนอวัยวะที่อยู่ลึกที่สุดเท่าที่จะเห็นได้อย่างปากมดลูกก็จะได้รับการตรวจดูว่า มีแผลอักเสบหรือมีติ่งเนื้อหรือไม่
                                • ปกติสูติแพทย์จะถือโอกาสตรวจมะเร็งปากมดลูกไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งไม่ยุ่งยากและไม่เจ็บ เพราะใช้เครื่องมือป้ายเอาน้ำในช่องคลอด ขูดผิวปากมดลูก และช่องภายในปากมดลูกไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน ก็จะรู้ผล

                                ขั้นตอนการตรวจภายใน

                                • ส่วนการตรวจอีกขั้นตอน คือตรวจโดยคลำผ่านทางช่องคลอด โดยแพทย์จะสอดนิ้วในช่องคลอด ส่วนอีกมือหนึ่งจะกดท้องน้อย เพื่อหาความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ที่เหลือซึ่งอยู่ภายในอุ้งเชิงกราน

                                ขั้นตอนการตรวจภายใน

                                สำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปควรเข้ารับการตรวจหามะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ๆ ที่แต่งงานแล้วควรตรวจหามะเร็งทุกปี แต่ในรายที่พบว่ามีการอักเสบเรื้อรังที่ปากมดลูก หรือสงสัยว่าจะมีเซลล์ผิดปกติเกิดขึ้น และอาจพัฒนาไปสู่เซลล์มะเร็ง สูติแพทย์อาจจะต้องนัดมาตรวจทุก 3-6 เดือน

                                กลุ่มเสี่ยงที่ควรตรวจทุกปี

                                • มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย และมีเคยมีคู่หลายคน
                                • ปัจจุบันมีคู่ขาหลายคน
                                • คู่ขามีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยและมีแฟนหลายคน
                                • เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
                                • ประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งปากมดลูก
                                • เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งหรือเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูก
                                • เป็นโรคหูดหงอนไก่
                                • ติดเชื้อ HIV
                                • เป็นคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนเช่น มะเร็ง

                                อ่าน >> การเตรียมตัวเข้ารับการตรวจภายใน กดหน้า 2

                                  อาหารและยา

                                  อาหารและยา ที่ไม่ควรกินร่วมกัน 10 อย่าง

                                  การรับประทานอาหารบางอย่างร่วมกับยาบางชนิดอาจก่อให้เกิดอันตรายกับคุณพ่อ คุณแม่ และลูกๆ ได้ Dr. Aisling Hillick ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพออกมาเตือนถึงFood and Medicine” อาหารและยา ที่ไม่ควรกินร่วมกัน 10 อย่าง ได้แก่ กล้วย มะนาว แอลกอฮอล์ กาแฟ ผักใบเขียว ชะเอมดำ นม ส้มโอ แซลมอน และช็อคโกแลต

                                  Continue reading “อาหารและยา ที่ไม่ควรกินร่วมกัน 10 อย่าง”

                                    “ถ้าอยากจะช่วยน้อง ฝากแชร์หน่อยค่ะ” คำกล่าวของผู้เป็นแม่ที่ไม่ย่อท้อ แม้จะไม่มีหมอคนใดสามารถบอกอาการน้องที่แท้จริงได้

                                    เพราะความเป็นแม่ทำให้ผู้หญิงคนนี้ต้องสู้และทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาลูกสาวให้หายจากโรคที่ไม่มีหมอคนใดสามารถบอกอาการได้  เรื่องราวนี้ เป็ของคุณแม่ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ @นินจา ดาวกระจาย ซึ่งมีลูกสาววัย 6 เดือนที่นอนป่วยอยู่และต้องการให้ชาวเน็ตช่วยแชร์เรื่องของน้อง เพราะเพียงแค่อยากหาหมอที่รักษาอาการของน้องได้

                                    page

                                    โดยเธอได้กล่าวว่า . . . #นู๋ฝากแชร์ต่อๆกันหน่อยน่ะค้ะ

                                    เด็กผู้หญิงคนนี้คือลูกสาวนู๋เองค่ะ.
                                    ชื่อ ด.ญ. กัญญารัตน์ เหลี่ยมวงษ์ ( พู่กันต์ )
                                    น้องเกิดวัน ศุกร์ ที่ 30 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีแพะ
                                    ตอนนี้น้องอายุจะครบ 6 เดือนแล้วค่ะ.
                                    แต่น้องไม่สมบูรณ์.
                                    เค้าเป้นแบบนี้ตั้งแต่แรกเกิดเลยค่ะ จนทุกวันนี้ไปหาหมอมา 3 รพ. แล้ว
                                    หมอ รพ.ที่1 บอกไม่รุว่าน้องเป้นอะไร
                                    หมอ รพ.ที่2 บอกว่าเค้ากล้ามเนื้ออ่อนแรง
                                    หมอ รพ. ที่3 บอกว่าน้องเป้นกล้ามเนื้อฝ่อและขาดสารอาหาร. (ขอไม่กล่าวถึงชื่อ รพ. น่ะค่ะ )
                                    ซึ่งทุกวันนี้หมอทุก รพ. ไม่สามารถสรุปได้ว่าเค้าเป้นอะไรกันแน่ ไม่สามารถสรุปได้ว่าเค้าจะหายมั๊ย ไม่สามารถสรุปได้ว่า อนาคตเค้าจะเป้นยังไง.
                                    เพราะอาการเค้าตอนนี้.
                                    เค้าต้องกินนมทางสาย ยังไม่สามารถกินข้าวหรืออาหารเหลวได้ เค้าหายใจเองกลืนเองได้ แต่ต้องกินทางสายเท่านั้น ขาเค้าผิดรูป แรงไม่ค่อยเยอะ สมองเค้ามีพัฒนาการค่ะ เค้ารุเรื่องทุกอย่าง เรารุว่าเราพูดด้วย เค้ารุว่าหยอก รุทุกอย่างค่ะ ตอนนี้คอยังไม่ตั้ง ยังทรงตัวเองไม่ได้ แต่ทางด้านร่างกายเค้า ไม่มีใครสรุปได้ว่าเค้าเป้นอะไรกันแน
                                    เพราะตอนนี้เค้าจะ 6 เดือนแล้ว
                                    แต่น้ำหนัก 2.5 โลเอง เกือบเท่าแรกเกิดเลย เพราะตอนแรกเกิดเค้า 2.3 ค่ะ
                                    ทุกวันนี้เค้าต้องเข้าๆออกๆ รพ. เป้นประจำ
                                    ฝากแชร์หน่อยน่ะค่ะ
                                    ‪#‎เผื่อวันนึงจะมีหมอเก่งๆหมอดีๆผ่านมาเห็นโพสนี้ 1 โพสของคุนมีค่ามากกว่าเรื่องไร้สาระบางเรื่องค่ะ 1แชร์ มันมีความหมายและความหวังที่เค้าจะหายดีบ้าง 1 คอมเม้นมีค่าต่อคว่มรุสึกและกำลังใจดีๆค่ะให้น้องเค้าและครอบครัวน่ะค่ะ.
                                    มีหลายคนถามมาบ้างว่าตอนนี้รับของบริจาคอะไรมั๊ย??.
                                    -รับยุน่ะค่ะ รับแค่ข้าวของที่จำเป้นสำหรับเค้า.
                                    เค้ากินนมผง ดูแลคสีส้มสูตร 1 แพมเพิสมามี่สำหรับเด็กแรกเกิด ยี่ห้ออื่นใช้ไม่ได้ เค้าแพ้ค่ะ น้ำยาล้างขวดนม น้ำยาซักผ้า
                                    ตอนนี้ นู๋เอง ( แม่น้องค่ะ )
                                    รับซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นสภาพดี ยุน่ะค่ะ
                                    จะเอามาขายต่อ เพื่อเป้นการเอาตังมาต่อยอดเลี้ยงดูเค้า เพราะแฟนทำงานคนเดียว้งินเดือนแต่ล่ะเดือนไม่พอใช้เลย ต้องหยิบยืนหัวหน้ามาใช้ทุกๆๆเดือน
                                    ‪#‎นู๋ไม่รับเงินบริจาคใดๆๆทั้สิ้นน่ะค้ะ
                                    ถ้าอยากจะช่วยน้อง ฝากแชร์หน่อยค่ะ อยากจะช่วยจิงๆๆ ขอรับเป้นสิ่งของ น่ะค่ะ
                                    ที่ยุ คุน ศิรินภา เอกตาแสง
                                    37/11 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ. ชลบุรี ( ไม่ทราบรหัสไปรษณี น่ะ )
                                    ห้อง 13 ข้างล่าง 0952654441
                                    หรือใครมีลูกหรือพี่น้อง
                                    ที่เกิดมาเป้นเหมือนน้องเค้า อินบล็อคมาแชร์ประสบการกันน่ะค่ะ
                                    เพราะว่านู่กะแฟน อายุ 18 กัน
                                    เลี้ยงลูกเอง แต่มีพี่ข้างๆห้องกะป้าข้างๆห้อง มาค่อยช่วยดูบ้าง เลยไม่รุว่า จะต้องเลี้ยงเค้ายังไง ต้องเลี้ยงแบบไหน
                                    ปู่ย่าตายายน้องเค้ายังมีขีวิตยุค่ะ
                                    แต่ท่านที่มีภาระและหน้าที่ ที่จะต้องดูแล นานๆจะมาเยี่ยมที

                                    *ทาง Amarin baby & kids จึงขอเป็นตัวแทนกระบอกเสียงของคุณแม่อีกหนึ่งเสียงที่ช่วยแชร์เรื่องราวของน้องพู่กันต์ และพร้อมเป็นกำลังใจให้น้องพู่กันต์หายป่วยไวๆ นะคะ

                                    หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดมีความประสงค์ที่ต้องการช่วยเหลือน้องพู่กันต์ก็สามารถติดต่อได้ที่ facebook ของคุณแม่ดาวได้ที่นี่เลยนะคะ นินจา ดาวกระจาย


                                    ภาพและเรื่องราวจาก @นินจา ดาวกระจาย