Page 4 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

Philips Avent Natural Response ให้ลูกน้อยกินนมได้ในจังหวะธรรมชาติ เสมือนดูดจากเต้าแม่จริง

เมื่อพูดถึงแบรนด์ที่คุณแม่ทั่วโลกไว้วางใจในเรื่องการเลี้ยงลูก Philips Avent คือหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 40 ปีในผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก แบรนด์นี้ถูกพัฒนามาเพื่อสนับสนุนธรรมชาติของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่

ผลิตภัณฑ์ของ Philips Avent ผ่านการทดสอบทั้งในแง่ของความปลอดภัยและการใช้งานจริง จึงไม่น่าแปลกใจที่คุณแม่หลายคนเลือกไว้ใจ ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด “Inspired by Nature” และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของทั้งคุณแม่และลูกน้อย โดยเฉพาะรุ่นล่าสุดที่จะมาพูดถึงคือ Philips Avent Natural Response ขวดนมและจุกนมที่ตอบรับธรรมชาติของการกินนมของลูก ด้วยการออกแบบที่เข้าใจจังหวะการดูดนมของลูกน้อยได้ดีที่สุด

Philips Avent Natural Response มาพร้อมกับดีไซน์จุกนมแบบ ไม่ดูด-ไม่ไหล (No-Drip Design) ขวดนมรุ่นนี้ออกแบบให้ทำงานเสมือนเต้านมแม่ ให้ลูกสามารถดูดนมได้ในจังหวะของตัวเอง โดยน้ำนมจะไหลเฉพาะเวลาที่ลูกออกแรงดูดเท่านั้น และด้วยรูปทรงกว้างของจุกนม ที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงการดูดนมจากเต้าจริงๆ ทำจากซิลิโคนที่นุ่มและยืดหยุ่นได้ดี ช่วยให้ลูกดูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ รู้สึกผ่อนคลาย ทำให้การเข้าเต้ากับขวดนมได้อย่างง่ายดาย ทำให้ลูกน้อยไม่สับสน ถือว่าออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดสำหรับแม่ยุคใหม่ที่ต้องทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วยได้เป็นอย่างดีค่ะ

สิ่งสำคัญที่ทำให้จุกนมของ Philips Avent Natural Response มีความพิเศษคือ จุกนมแบบ ไม่ดูด-ไม่ไหล มีความเป็นธรรมชาติ ลูกสามารถดูด กลืน หายใจได้ในจังหวะที่เหมาะสม ช่วยให้คุณแม่มั่นใจได้เลยว่า ลูกจะไม่สำลักน้ำนม

ป้องกันน้ำนมหกเลอะเทอะ ใช้งานสะดวก

จุดเด่นอีกอย่างของดีไซน์จุกนมแบบไม่ดูดไม่ไหล คือทำให้หมดปัญหาเวลาต้องพกออกไปใช้นอกบ้าน คุณแม่ไม่ต้องกังวล เพราะนมจะไม่หกเลอะเทอะ แถมยังช่วยให้ป้อนนมได้สะดวกในทุกสถานการณ์

ลดปัญหาโคลิค อันเนื่องมาจากความไม่สบายตัว

สำหรับคุณแม่ที่กังวลเรื่องอาการโคลิค ขวดนมรุ่นนี้ก็มาพร้อมกับ วาล์วป้องกันโคลิค ออกแบบมาเพื่อลดการดูดเอาอากาศเข้าไป ป้องกันอาการท้องอืดและลดความเสี่ยงของความไม่สบายตัวหลังป้อนนม คุณแม่ก็ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าลูกจะร้องหรือไม่สบายตัว

คุณสมบัติทนความร้อน

ขวดนมฟิลิปส์เอเวนท์สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องนึ่งและอุ่นขวดนมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขวดนม Philips Avent Natural Response รุ่น PPSU ที่เป็นวัสดุเกรดพรีเมียมนำเข้าจากยุโรป สามารถทนความร้อนได้มากขึ้น ถึง 180 องศา สะดวกต่อการใช้งานของคุณแม่

ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อชีวิตที่ลงตัว

Philips Avent Natural Response ออกแบบขวดให้มีคอขนาดกว้างเพื่อช่วยในการบรรจุนมและล้างทำความสะอาดได้ง่ายทุกซอกมุม นอกจากนี้ยังถอดประกอบได้อย่างรวดเร็ว ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Philips Avent รุ่นอื่นๆ ได้สบาย และที่สำคัญ ผลิตด้วยวัสดุปลอดสาร BPA* มั่นใจว่าปลอดภัยสำหรับลูกน้อย

จากทั้งหมดที่กล่าวมา ขวดนม Philips Avent Natural Response ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณแม่ทุกคนมั่นใจได้ว่า ในทุกๆ ครั้งที่ให้นมจะเป็นขวดนมและจุกนมที่เข้าใจความเป็นธรรมชาติของลูกอย่างแท้จริง และยังสะดวกในทุกการใช้งานไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือนอกบ้าน ให้ชีวิตของคนเป็นแม่ง่ายขึ้น แล้วมีความสุขมากขึ้น

และด้วยคุณสมบัติที่ครบครันนี้กองบรรณาธิการจึงให้ Philips Avent Natural Response ได้รับรางวัล Editor’s Choice สาขา BEST BABY BOTTLE & NIPPLE PRODUCT จาก Amarin Baby & Kids Awards 2024 ไปครองเลยค่ะ

สอบถามรายละเอียด หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Facebook – https://www.facebook.com/Philips.AVENT.Thailand

    ตอกย้ำคุณภาพ Saker แบรนด์ชั้นนำ เครื่องอบยูวี ฆ่าเชื้อขวดนม ครองรางวัล 4 ปีซ้อน

    หมดห่วงเรื่องความสะอาด ปลอดภัยของขวดนม ของใช้ และของเล่น เมื่อคุณแม่เลือกใช้ เครื่องอบยูวี มาเป็นตัวช่วยให้การฆ่าเชื้อโรค และกำจัดกลิ่นนมตกค้างก่อนจะนำไปใช้กับลูกน้อย ซึ่ง Saker คือหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากคุณแม่ทั่วประเทศ และได้รับรางวัลจาก Amarin baby & Kids Award มาต่อเนื่องถึง 4 ปีนอกจากคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อได้ลึกถึงระดับโมเลกุลแล้ว Saker ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้งให้ตอบโจทย์การใช้งานของคุณแม่ยุคใหม่แบบ 360 องศาด้วยเครื่องฆ่าเชื้อขวดนม UVC Saker 7 in 1 XXL Plasma Ion ที่เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น ใส่ขวดนม ของใช้ต่างๆได้จุใจกว่าเดิมพร้อมกันนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นด้วยการผสานพลัง UVC LED และ Nano Plasma เข้าด้วยกัน จึงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส รวมถึงเชื้อโควิด-19 ที่อาจตกค้างบนของใช้ และภาชนะต่างๆ ได้มากถึง 99.999 % และกำจัดกลิ่นคราบน้ำนมได้ดีเยี่ยม

    สิ่งที่ทีมแม่ ABK ประทับใจสุด ๆเลยคือขนาดของเครื่องที่ใหญ่ถึง 23 ลิตร จึงใส่ของได้เยอะขึ้น หากเป็นขวดนมอย่างเดียวสามารถใส่ได้มากถึง 32 ขวดเลยทีเดียว ผนังใน เครื่องอบยูวี ได้รับการออกแบบไดมอนด์คล้ายหน้าตัดของเพชร จึงสะท้อนยูวีและนาโนพลาสม่าได้ทั่วทั้งตู้ จึงเข้าถึงชิ้นส่วนหรือร่องรอยเล็ก ๆ ทั้งหมดอย่างง่ายดาย

    Amarin Baby & Kids Awards 2024 ยกให้ เครื่องอบยูวี จากแบรนด์ Saker ได้รับรางวัล Editor’s Choice สาขา Best Baby Bottle Sterillizer

    UVC Saker 7 in 1 XXL Plasma Ion เครื่องนี้ยังมีเซอร์ไพร์สให้ที่คุณแม่อาจคาดไม่ถึง ด้วย 7 โหมดทำงานอัจฉริยะ และนวัตกรรมล้ำสมัย ที่จะเปลี่ยนชีวิตให้ปลอดภัยขึ้นเพียงปลายนิ้วสัมผัส

    7 โหมดทำงานอัจฉริยะ มากกว่าแค่ฆ่าเชื้อขวดนม

    ความตั้งใจของแบรนด์ Saker ที่ต้องการให้เครื่อง UVC Saker 7 in 1 XXL Plasma เป็นตัวช่วยอัจฉริยะที่ช่วยให้การใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัวง่ายขึ้น จึงเพิ่มฟังก์ชั่นให้ใช้งานครอบคลุมมากขึ้น ด้วย 7 โหมดการทำงาน ดังต่อไปนี้

    • โหมดออโต้ ทำงานอัตโนมัติ ฆ่าเชื้อและอบแห้ง
    • โหมดการฆ่าเชื้อด้วย UVC และ ION สำหรับภาชนะ ของเล่น ของใช้ของทุกคนในครอบครัว
    • โหมดอบแห้ง (Dry Function) ซึ่งเป็นระบบอบแห้งที่ดีที่สุด ทำให้สิ่งของแห้งเร็วขึ้น 50 % ใช้ความร้อนต่ำ จึงไม่ทำลายสิ่งของ ยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น
    • โหมดการทำโยเกิร์ต (Yogurt Function) ด้วยการกำหนดอุณหภูมิเริ่มต้นที่ 45 องศาเซลเซียส
    • โหมดอบแห้งผลไม้ เลือกการทำงานได้ถึง 7 ระดับ
    • โหมดเก็บรักษา
    • โหมดล็อคหน้าจอ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยจากการกดของเด็ก ๆ

    ฆ่าเชื้อ 2 ระบบที่แรกในไทย!

    • แบรนด์เดียวที่ฆ่าเชื้อพร้อมกำจัดกลิ่นระดับโมเลกุล
    • โรงพยาบาลชั้นนำเลือกใช้
    • เจ้าเดียวในไทยที่ใช้ UVC แบบ LED ที่ดีที่สุด ที่ฆ่าเชื้อโรคได้จริง เป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีใบรับรองยืนยัน
    • Airflow 360 องศา ลมร้อนแบบอ่อนโยน ถนอมสิ่งของ
    • การันตีด้วยยอดขายกว่า 30,000 เครื่องจากคุณแม่ทั่วไทย

    ผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานชั้นนำ ทั้ง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), ROHS, TÜV Rheinland และมาตราฐาน CE ปลอดสารก่อมะเร็ง (BPA Free) ไร้สารพิเศษและสารอันตรายทุกชนิด และใช้วัสดุเกรดสัมผัสอาหารได้

    ตัวเครื่องออกแบบให้กะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ใช้งาน ดีไซน์สวยหรู มีให้เลือกทั้งสีขาวและสีดำ หน้าจอแบบทัชสกรีนใช้งานง่าย เรียบหรู นอกจากนี้ยังเพิ่มความมั่นใจ

    ด้วยการรับประกันศูนย์ไทย 3 ปีเต็ม ดูแลหลังงานขายตลอดอายุการใช้งาน พร้อมบริการหลังการขายตลอด 24 ชั่วโมง

    ด้วยคุณสมบัติและคุณภาพของ UVC Saker 7 in 1 XXL Plasma Ion Amarin Baby & Kids จึงคัดเลือกให้ เครื่องอบยูวี Saker ได้รับรางวัล BEST BABY BOTTLE STERILIZER สาขา Editor’s Choice จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2024”

    สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม และโปรโมชั่นดีๆ ของผลิตภัณฑ์ Saker สามารถติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/sakermall

    ช่องทางการติดต่อร้าน Pumpnom :

    🌐pumpnom: https://shorturl.asia/fOLdD

    ✅Line: https://page.line.me/kow0648r?openQrModal=true

    🧡Shopee: https://shorturl.asia/aK6ti

    💙Lazada : https://shorturl.asia/OUNMs

    💜Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSrvcTU1v/

    ❤️Youtube : https://www.youtube.com/@PUMPNOM

    #Säker #เครื่องอบ #เครื่องอบUV #UVC #7in1UVCNanoPlasmaXXL #UVCXXL #ฆ่าเชื้อ2ระบบรายแรกในไทย #NanoPlasma #เครื่องฆ่าเชื้อโควิด #โควิด19 #เครื่องฆ่าเชื้อ #ฆ่าเชื้อ99.999% #ปลอดสารพิษ #แม่และเด็ก #สินค้าแม่และเด็ก #ร้านแม่และเด็กอันดับ1 #Pumpnom #ร้านปั๊มนม #ปั๊มนม

      Masterrabbit Khingkhing Ginger Herb Gel เจลสมุนไพรตัวช่วยแม่

      ไม่ว่าจะแม่มือใหม่ หรือมือเก๋า โมเม้นต์ที่ทุกบ้านที่มีลูกเล็กต้องพบเจอ คือ อุ้มเจ้าตัวน้อยเดินพาดบ่า อุ้มเรอวนไป และของใช้จำเป็นที่ทุกบ้านขาดไม่ได้ นั่นคือ เจลสมุนไพรที่เป็นตัวช่วยสำหรับเด็กๆยามท้องอืด และมีคุณสมบัติที่เหมาะกับความเป็นผู้ช่วยแม่ มีดีอย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ

      Masterrabbit Khingkhing Ginger Herb Gel (มาสเตอร์แรบบิท ขิงขิงจิงเจอร์เฮิร์บเจล) เจลทาบำรุงผิวสำหรับเด็กสูตรอ่อนโยน ที่มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ หรือสมุนไพรออร์แกนิกหลากหลายชนิด ทั้งมหาหิงค์ ขิง ว่านหางจระเข้ เปปเปอร์มิ้นต์ ฯลฯ เรียกได้ว่าเป็นการรวมตัวของส่วนผสม ที่ช่วยสร้างความรู้สึกสบายตัว สบายใจให้ลูกน้อย

      ส่วนผสมและสารสกัดจากธรรมชาติ

      คุณสมบัติของตัวช่วยที่ดี นอกจากที่จะช่วยให้เด็กๆสบายท้อง สบายพุงแล้ว ยังทำให้แม่ๆสบายใจ สบายจมูกไปด้วย เพราะเจลสมุนไพรให้ความรู้สึกสดชื่น ไม่เหนียวเหนอะหนะและสบายผิว นั่นก็เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากส้มและตะไคร้ ที่ช่วยทำให้รู้สึกผิวของลูกน้อยสดชื่นผ่อนคลาย สามารถทาได้บ่อยครั้ง หรือทาหลังจากลูกรับประทานนมเสร็จแล้ว ก่อนจะจับพาดบ่าเพื่อเรอ จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการให้เด็กๆขับลมในท้อง รวมถึงให้พวกเขาหลับสบายหากทาก่อนนอน ด้วยความหอมของสมุนไพรที่อัดแน่น จะให้จมูกของพวกเขาโล่ง หลับสบายอีกด้วย

      และมั่นใจได้เพราะเจลสมุนไพร Masterrabbit Khingkhing Ginger Herb Gel มีส่วนประกอบที่ทำมาจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่ใส่สีเติมแต่ง ปลอดพาราเบน และไม่มีน้ำหอม ดังนั้นกลิ่นที่ได้จึงมาจากสมุนไพรแท้ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยมหาหิงค์ (Ferula Asafoetida Root) น้ำมันสกัดจากขิง (Ginger oil) ดอกคาโมมายล์ออร์แกนิก (Chamomile organic) ตะไคร้ (Lemongrass) ดอกดาวเรืองออร์แกนิก (Calendula organic) ส้ม (Orange) เปปเปอร์มินต์ (Peppermint oil) และว่านหางจระเข้ออร์แกนิก (Aloe Vera organic) ส่วนประกอบธรรมชาติแบบนี้ จึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการบรรเทาอาการท้องอืด ช่วยย่อยอาหาร ช่วยให้พุงน้อยๆเย็นสบาย และเด็กๆก็สบายตัว

      ใช้งานง่าย ใช้ได้บ่อย

      วิธีใช้ที่ปรับให้เข้ากับการใช้งานได้ดี เพราะออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบขวดพร้อมลูกกลิ้ง จึงใช้ได้ง่าย กลิ่นไม่ฉุน เจลใสไม่ต้องกังวลเรื่องติดเสื้อผ้า ด้วยวิธีทาลงบนผิวลูกน้อยแบบบางๆหลังอาบน้ำ เรียกได้ว่าสบายตัว ทั้งกลิ่นหอมจากสมุนไพร กับความสบายบนพุง เด็กน้อยหลับปุ๋ยแน่นอน ด้วยความเป็นเจลสมุนไพรธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี จึงสามารถใช้ได้บ่อยครั้งแบบไม่ต้องกังวลใจ

      **หมายเหตุ: หากใช้แล้วเกิดการระคายเคือง หรือมีอาการแพ้ ให้หยุดใช้ทันที หากยังมีอาการแนะนำให้พบแพทย์

      สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

      Website : https://masterrabbitthailand.com

      Shopee : https://shope.ee/7zoA6xPzQW

      Lazada : https://www.lazada.co.th/shop/master-rabbit Facebook : MasterRabbit thailand

      Instagram : masterrabbit_th

      Youtube : Master Rabbit

        บอกลาผมขาดหลุดร่วงหลังคลอด บำรุงผมลงลึกถึงโครงสร้างด้วยสเปรย์ บำรุงเส้น Jessie Hair Tonic

        ปัญหาผมร่วงหลังคลอด เป็นปัญหาน่าหนักใจที่คุณแม่ส่วนใหญ่ต้องเคยเจอกับตัวเอง เพราะจากการวิจัยพบว่า คุณแม่ประมาณร้อยละ 47.6 มีปัญหาผมร่วงหลังคลอด จนทำให้คุณแม่หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจ และอาจก่อให้เกิดปัญหาทางสภาพจิตใจตามมาในภายหลังได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นสาวๆ คนไหนก็อยากสวยและดูดีอยู่เสมอด้วยกันทั้งนั้น วันนี้ทีมแม่ ABK จึงคัดเลือกผลิตภัณฑ์สเปรย์บำรุงเส้นผม Jessie Hair Tonic มาบำรุงเส้นผมของคุณแม่กันค่ะ

        Amarin Baby & Kids ยกให้ “Jessie Hair Tonic” เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมสำหรับคุณแม่ ที่ได้รับรางวัล Editor’s Choice BEST HAIR CARE FOR MOM จาก Amarin Baby & Kids Awards 2024

        ผมร่วงหลังคลอด เกิดจากการที่ผู้หญิงหลังคลอดมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงจนส่งผลต่อการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง และทำให้หนังศีรษะสร้างไขมันลดลง หนังศีรษะจึงแห้ง และส่งผลให้เส้นผมหยุดการเจริญเติบโตและหลุดร่วงในที่สุด การแก้ปัญหาผมร่วงหลังคลอดจึงต้องเป็นการแก้ปัญที่ต้นเหตุ จึงจะสามารถชะลอและยับยั้งปัญหานี้ได้

        สเปรย์บำรุงเส้นผม Jessie Hair Tonic มาในรูปแบบของขวดสเปรย์ปริมาณ 50 มิลลิลิตร ซึ่งเป็นขนาดที่กำลังดี พกพาสะดวก หัวสเปรย์นุ่มมือ ใช้งานง่าย ให้ละอองที่กระจายกำลังดี ไม่จับตัวเป็นก้อน เนื้อผลิตภัณฑ์ใส ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ไม่เพิ่มความมันบนเส้นผมและหนังศีรษะ ซึมง่าย ซึมเร็ว ไม่ทำให้ผมลีบแบน เหมาะสำหรับทุกสภาพเส้นผม คุณแม่ทุกคนจึงสามารถเลือกใช้ได้อย่างสบายใจ

        อุดมไปด้วย 7 ส่วนประกอบจากธรรมชาติ ประกอบด้วย

        1. สารสกัดจากใบโลควอท ที่มีคุณสมบัติในการลดปัญหาผมร่วง ผมบาง เพิ่มความหนาและความแข็งแรงให้เส้นผม เพิ่มการไหลเวียนของเส้นเลือด ช่วยให้เลือดเลี้ยงหนังศีรษะหรือรูขุมขนมากขึ้น
        2. สารสกัดจากญี่ปุ่นที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น วิตามิน B2 B6 B12 ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาเซลล์ในร่างกาย เพิ่มการเผาผลาญสารอาหารประเภทไขมันเปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อป้องกันเส้นผมขาด
        3. สารสกัดจากพืชตระกูลสน ช่วยกระตุ้นเซลล์ต้นกำเนิดของรากผม เพิ่มจำนวนการงอกของเส้นผม ทำให้ผมดูหนาขึ้น
        4. บิวทิลลีน ไกลคอล เพิ่มความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะ จึงช่วยลดปัญหาคัน มีรังแค หนังศีรษะอักเสบเนื่องจากหนังศีรษะแห้ง
        5. ซิงค์ ที่มีส่วนช่วยในการสร้างโปรตีนและคอลลาเจน จึงช่วยเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมและเล็บ ช่วยซ่อมแซมผมและเล็บให้แข็งแรง
        6. สารสกัดจากหอมแดง ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต มีสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการดูดซึมของวิตามินเอ ลดแบคทีเรีย บำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง
        7. สารสกัดจากชาเขียว ลดการเกิดออกซิเดชันบริเวณรากผมและรูขุมขน จึงช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย

        รวมไปถึงมีไบโอติน ที่ช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม จึงป้องกันไม่ให้หนังศีรษะล้าน บำรุงโครงสร้างเส้นผมให้แข็งแรง และชะลอผมหงอกก่อนวัยอีกด้วยค่ะ

        ด้วยสารสกัดที่มีประโยชน์เหล่านี้จึงทำให้สเปรย์บำรุงเส้นผม Jessie Hair Tonic มีคุณสมบัติในการบำรุงหนังศีรษะ ช่วยให้รากผมแข็งแรง ลดการขาด หลุดร่วงของเส้นผม ผมร่วงผมบาง กระตุ้นให้มีผมงอกใหม่เกิดขึ้นค่ะ

        ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทีมบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids จึงคัดเลือกให้ Jessie Hair Tonic ได้รับรางวัล Editor’s Choice สาขา BEST HAIR CARE FOR MOM จาก Amarin Baby & Kids Awards 2024

          Infolife Fiber ตัวช่วยแก้ปัญหา ลูกท้องผูก เพิ่มความสุขให้ทุกมื้ออาหารของลูก

          สำหรับคุณพ่อคุณแม่ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรงสดใส พร้อมเรียนรู้และเล่นซนได้เต็มที่ แต่ปัญหาหนึ่งที่สร้างความกังวลใจไม่น้อยคือ ภาวะท้องผูกในเด็ก ซึ่งส่งผลกระทบมากกว่าที่คุณพ่อคุณแม่คิด ทีมแม่ ABK ขอแนะนำ Infolife Fiber ไฟเบอร์จากธรรมชาติที่ถูกคิดค้นมาเพื่อแก้ไขปัญหา ลูกท้องผูก โดยเฉพาะค่ะ

          ภาวะท้องผูกในเด็ก ผลกระทบที่มากกว่าการถ่ายยาก

          ภาวะท้องผูกในเด็ก (Constipation in Children) ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อย่างที่หลายคนอาจเข้าใจ งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าเด็ก 3 ใน 10 คนมีปัญหาท้องผูกตั้งแต่ช่วงวัยทารกจนถึง 5 ขวบ โดยหนึ่งในสาเหตุนั้นเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการกิน เช่น การไม่ชอบกินผัก หรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ รวมถึงการขาดใยอาหาร *

          ผลกระทบจากท้องผูกเรื้อรังที่อาจเกิดขึ้น

          • ส่งผลต่ออารมณ์: เมื่อเด็กถ่ายไม่คล่อง มักเกิดความรู้สึกอึดอัด แน่นท้อง ไม่สบายตัว ทำให้เด็กมีอารมณ์หงุดหงิดง่าย และลดประสิทธิภาพในการเรียนรู้
          • สร้างพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการขับถ่าย: หากการถ่ายเจ็บหรือใช้เวลานาน เด็กอาจพัฒนาพฤติกรรมการกลั้นอุจจาระ ซึ่งจะทำให้ขับถ่ายยากยิ่งขึ้นในอนาคต
          • ปัญหาระบบทางเดินอาหาร: อุจจาระตกค้างในลำไส้ อาจทำให้เกิดแก๊ส แน่นท้อง หรือการอักเสบของลำไส้ ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
          • ด้อยประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหาร: การมีอุจจาระค้างในลำไส้อาจลดประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหาร ซึ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็กงานวิจัยจาก American Academy of Pediatrics ยังชี้ว่า การเสริมใยอาหารให้เพียงพอ ในอาหารประจำวัน คือวิธีป้องกันและแก้ปัญหาท้องผูกในเด็กที่ได้ผลโดยไม่ต้องพึ่งพายาระบาย

          ด้วยความเชี่ยวชาญทางโภชนาการและนวัตกรรมที่ล้ำหน้าของ Infolife Fiber ได้ถูกออกแบบมาเพื่อลูกน้อยที่กำลังเผชิญกับปัญหาท้องผูก หรือไม่ยอมกินผักผลไม้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของปัญหาการขับถ่าย ระบบไฟเบอร์นี้ทำงานด้วย พรีไบโอติกส์ (Prebiotic) และ โพสไบโอติกส์ (Postbiotic) ที่ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ดีในลำไส้ พร้อมปรับสมดุลการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้ลูกขับถ่ายได้สบายโดยไม่ปวดมวนหรือบิดเหมือนการใช้ยาระบาย

          คุณสมบัติรอบด้าน คิดค้นมาเพื่อสุขภาพลำไส้ที่ดีของลูกน้อย

          • เพิ่มกากใยในระบบลำไส้ เพื่อให้อุจจาระนุ่มฟู ถ่ายง่าย ไม่เจ็บก้น
          • ช่วยขับถ่ายได้เป็นจังหวะด้วยความนุ่มนวล ไม่มีอาการปวดบิดหรือมวนท้อง
          • ละลายง่าย ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีรสชาติ ผสมได้ทั้งในนมหรืออาหารเมนูโปรดของลูก
          • เทียบเท่ากับการทานผักปริมาณมาก ช่วยเพิ่มใยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
          • ปลอดภัยต่อสุขภาพเด็ก ผ่านการตรวจมาตรฐานระดับสากล และได้รับการรับรอง TOP 8
          • นอกจากส่วนผสมระดับพรีเมียมแล้ว Infolife Fiber ยังใช้ Totripo Postbiotic นวัตกรรมล้ำหน้าที่ได้จากการหมักจุลินทรีย์ 4 สายพันธุ์ ซึ่งไม่เพียงเสริมจุลินทรีย์ดีในลำไส้ แต่ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างสมดุล
          • ผสมในอาหารร้อนหรือเย็นได้ โดยจุลินทรีย์ดีไม่ถูกทำลาย

          ดื่มง่ายเพียงวันละ 1 ซอง

          เพียงแค่ 1 ซอง (5 กรัม) ผสมกับนมหรืออาหาร ไม่ว่าจะเมนูร้อนหรือเย็น Infolife Fiber จะช่วยเสริมใยอาหารและบำรุงลำไส้ของลูกน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลูกจึงขับถ่ายได้ง่ายและสบายตัวโดยไม่ต้องกลัวหรือรู้สึกเจ็บ

          สุขภาพดีของลูก เท่ากับความสบายใจของคุณพ่อคุณแม่ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Infolife Fiber ได้รับรางวัล Editor’s Choice สาขา BEST KIDS FIBER DIETARY SUPPLEMENT จาก Amarin Baby And Kids เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพ และความใส่ใจผลิตภัณฑ์ที่ถูกคิดค้นมาเพื่อสุขภาพของลูกน้อย และทุกคนในครอบครัวค่ะ

          ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.infolifefiber.com

          ข้อมูลอ้างอิง

          • สมาคมแพทย์กุมารเวชศาสตร์แห่งประเทศไทย (www.thaipediatrics.org)
          • Mayo Clinic (https://www.mayoclinic.org)

            OPENSCHOOL FOR CREATIVES & DESIGNโรงเรียนนานาชาติ ด้านศิลปะ สร้างสรรค์อาร์ทติสให้เป็นนักคิดมืออาชีพ

            วันนี้ ABK ขอพาทุก ๆ คน ไปเปิดโลกแห่งความสร้างสรรค์กับโรงเรียนในฝันของเด็กสายศิลป์ที่OPENSCHOOL FOR CREATIVES & DESIGN โรงเรียนนานาชาติด้านศิลปะแห่งแรกในประเทศไทย ในเครือ Newton Group กับ Mission ยิ่งใหญ่ สร้างนัก Creative รุ่นใหม่ให้ไปไกลระดับโลก! ที่ ๆ นักเรียนจะได้ฝึกฝน ลงมือทำและสร้างงานฝีมือ อย่างสม่ำเสมอ สอนโดยครูและผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงและคร่ำหวอดในแต่ละวงการมาร่วมสอนและถ่ายทอดประสบการณ์ และที่สำคัญที่สุดเด็ก ๆ จะได้เติบโตอย่างดี มีระเบียบ มีน้ำใจ เป็นผู้ให้ และเป็นที่รักของทุกคน

            Creative Drama Workshop ละครเวทียิ่งใหญ่ประจำปีของนักเรียน บูรณาการทุกสาขาเลยค่ะ
            Competency-based learning หรือ learning by doing
            Studio ต่าง ๆ ในโรงเรียน
            The Band
            ได้ฝึกฝนและลงมือทำ

            Road of Artists

            ที่นี่สอนโดยครูผู้เชี่ยวชาญ และสถานที่ถูกใช้สอยอย่างคุ้มค่าทุกตารางนิ้ว เด็ก ๆ จะได้เห็นและอยู่กับศิลปะในทุกๆวัน ได้ ทำชิ้นงานทุกวัน จนกลายเป็นตัวตนในที่สุด

            • เด็ก ๆ มี Skill ความรู้ มีทักษะงานฝีมือ Craftsmanship และได้สร้าง Portfolio ในเวลา อย่างเต็มรูปแบบ โดยเรียนวิชาพื้นฐานควบคู่กันไปด้วย
            • Feedback ทำให้เด็ก ๆ เรียนรู้การฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รู้จักคิดเพื่อต่อยอดหรือเพื่อปรับปรุง ให้งานสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เจนสนาม และมีชั่วโมงบินในสายงานมากขึ้นไปอีก
            • นักเรียนได้รับการ Feedback จากงานอย่างสม่ำเสมอ จากผู้มีประสบการณ์ทั้งนอกและใน OpenSchool คนในวงการจริง ตามสภาพจริง (คอมเม้นต์จริง เจ็บจริง แต่ก็เพื่อการปรับปรุงนะคะ)
            • เด็ก ๆ มีโอกาสฝึกฝนและส่งงานประกวด เหมือนได้ฝึกงานไปในตัว นอกจากที่นักเรียนจะได้ลองสนามแล้ว ยังเพิ่มความหลงใหลและแรงจูงใจยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกด้วยค่ะ
            • นักเรียนที่เรียน Fashion Design จะได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศส (ในความร่วมมือกับ RICE) Kadokawa Manga ครบวงจร ( Kadokawa Academy เป็น Partner กับ OpenSchool)
            • Portfolio ของเด็ก ๆ ได้เปรียบในด้านเนื้องาน ที่ได้รับคอมเมนต์ต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญมาแล้ว รวมไปถึงวิธีคิด เพราะเป็นการคิดอย่างมีวัตถุประสงค์

            มีเวลา ได้ใช้เวลา

            นักเรียนที่นี่ค้นพบตัวเองได้ไว ทั้งด้านความสามารถ / ชอบในสิ่งที่เลือก / ถนัดในสิ่งที่ทำ ยิ่งเร็วก็ 1. สามารถศึกษาลงลึกได้ก่อน จนเกิดความชำนาญ

            • วิชาบังคับ ( Academic Subjects ) ที่เพียงพอ – เหมาะสม เอื้อให้เด็ก ๆ มีเวลาฝึกฝนทักษะงานฝีมือได้อย่างเต็มที่
            • โลเคชั่นโรงเรียน – เดินทางสะดวก และล้อมรอบด้วยความหลากหลายทาง Visual + Culture + Activity ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ในทุก ๆ วัน
            นักเรียนมีความสุข ที่ได้มาเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ

            Academic ระดับ Worldclass

            OpenSchool ที่หลาย ๆ คนเข้าใจและเรียกติดปากว่าเป็นโรงเรียน “ม.ปลายสายศิลป์” เป็นความเข้าใจถูกเพียงครึ่งเดียวค่ะ ที่จริงแล้วที่นี่เป็น “โรงเรียนนานาชาติ” ใช้ระบบ British Curriculum ภายใต้หลักสูตร Business and Technology Education Council ( หรือ BTEC ) ซึ่ง BTEC เป็นหลักสูตรสายอาชีพที่สามารถเรียนได้ตั้งแต่ระดับก่อน GCSE จนไปถึงระดับมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว นักเรียนสามารถเลือกเรียนตามความเชี่ยวชาญ และ ได้รับวุฒิ Higher National ของ สหราชอาณาจักร ทางด้าน Creatives , Design, Arts UK Higher National Certificate (HNC UK Level 4) | UK Higher National Diploma ( HND UK Level 5) รวมถึงวุฒิจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของประเทศไทยด้วยค่ะ ดังนั้นเมื่อจบ Year 13 เด็ก ๆ จะมีวุฒิเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยได้ทั้งที่ไทยและอังกฤษ มี Portfolio และเกรดครบ จบที่ OpenSchool โดยมี Academic Subjects หรือ วิชาบังคับ ได้แก่

            • English for IELTS
            • Math
            • Sport Opportunities
            • Portfolio and Creative Process (สำคัญต่อการเข้ามหาวิทยาลัยมาก)
            • Creative Drama Workshop (ละครใหญ่ประจำปี – บูรณาการทุกสาขา / ศาสตร์ everybody gets involved!)
            • Portfolio for Communication Arts

            Fun Fact – ที่นี่ไม่ได้ดีเด่นด้าน ART + CREATIVE อย่างเดียว ความสามารถทางวิชาการก็แน่นปึ้กด้วยเช่นกัน เด็ก ๆ ประสบความสำเร็จจริงเห็นได้จาก IELTS SCORE และ SAT ที่สูงมาก

            เรื่องวิชาการก็เข้มข้นไม่เบานะ
            การแสดงความคิดเห็น การรับฟังความคิดเห็น feedback มีส่วนสำคัญในการพัฒนา
            ฝีมือดีแล้ว ก็ต้องขายผลงานได้ด้วยนะ เด็กๆได้ฝึกซ้อม (การขายผลงาน) กันเป็นประจำเลยค่ะ

            OpenSchool มี 4 หลักสูตรหลัก ได้แก่

            1. Art & Design – สายอาชีพ Architect & Designer
            2. Creative Media – สายอาชีพ Media Creator & Influencer
            3. Performing Arts – สายอาชีพ Actor & Idol
            4. Music – สายอาชีพ Singer & Music Entrepreneur

            Mommy Love This! ถูกใจแม่

            1. ที่นี่เป็นโรงเรียนนานาชาติใช้หลักสูตรระดับเวิลด์คลาส (BTEC) ในขณะที่ค่าเล่าเรียนอยู่ในระดับที่หลายครอบครัวสามารถซัพพอร์ตได้ หากนักเรียนจบการศึกษาได้ตามเกณฑ์ – นอกจากจะได้วุฒิ ม. 6 ก็ยังพ่วงวุฒิ Higher National ของ สหราชอาณาจักร อีกด้วยค่ะ
            2. เด็กๆ ไม่จำเป็นต้องมาจากโรงเรียนนานาชาติ และการพิจารณารับนักเรียนเข้าก็ไม่ได้ประเมินจากผลงานหรือผลการเรียน แต่ประเมินจาก commitment ที่เด็ก ๆ มีต่อ “ผู้ปกครองของตัวเอง” ค่ะ มี Trial class ทดลองเรียน 1 วัน / 7 วัน (แล้วแต่นักเรียน และ คุณครูประเมิน) เพื่อดูว่า “ใช่ หรือ ไม่ใช่”
            3. นอกเหนือจากความสามารถทางด้านศิลปะ Character หรือลักษณะนิสัยที่ดี – ที่น่ารัก เป็นอีกสิ่งที่โรงเรียนเน้นย้ำเหมือนกันค่ะ
            4. นักเรียนที่นี่มีความชัดเจนในเส้นทางของตัวเองตั้งแต่ต้น ได้ใช้เวลาเต็มที่ มีครูที่ดี โอกาสที่พร้อม ก็เหมือนเป็นการจุดไฟสร้างสรรค์ในทุกๆวัน การตื่นนอนเพื่อเตรียมตัวมาโรงเรียนจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ

            ค่าเล่าเรียน

            ต่อภาคเรียนประมาณ 250,000 บาท (1 ปีการศึกษา มี 2 ภาคเรียน) กรุณาสอบถามโรงเรียนโดยตรง

            ข้อมูลอัพเดท ณ เดือนพฤษภาคม ปีการศึกษา 2568

            OpenSchool for Creatives and DesignSiam

            Square Soi 6410/7-8, Pathum Wan, Pathum Wan District, Bangkok 10330

            Hours Monday – Saturday 09.00 – 18.00 น.

            Contact โทรศัพท์ 065-9986484 -5

            Line @OpenSchool

            www.OpenSchool.ac.th

              “Hand-Eye Coordination : เล่น เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ” ในธีม “Songkran and Thai Traditional”

              🎊 เติมเต็มความสนุกให้กับน้อง ๆ ด้วยกิจกรรมเวิร์กชอป ที่ Little Gaia 🎨
              “Hand-Eye Coordination : เล่น เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ” ในธีม “Songkran and Thai Traditional” 💦
              📆 วันที่ 19 เมษายน 2568 กิจกรรม *Little Craft Maker* Flowers Lantern Decoration
              🕯️ ประดิษฐ์โคมไฟด้วยดอกไม้และผีเสื้อ แบบ D.I.Y. Decoupage ที่น้อง ๆ จะได้เลือกตกแต่งโคมไฟในแบบของตัวเอง เติมสีสันให้กับบ้านในช่วงหน้าร้อน เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
              📆 วันที่ 20 เมษายน 2568 2568 กิจกรรม *Little Craft Maker* Punch Needle Kit
              🧵 มาสนุกกับการปักลวดลายลงบนผ้าด้วยศิลปะการปักพรม สร้างงานศิลปะจากด้ายสีสันต่าง ๆ ที่ช่วยพัฒนาทักษะการใช้มือและฝึกสมาธิในการทำงานศิลปะที่มีความละเอียดให้กับเด็ก ๆ
              📆 วันที่ 23 เมษายน 2568 กิจกรรม * Little Chef * Thai Dessert Workshop : Bua Loy
              🍡 เรียนรู้วิธีการทำขนมไทยแบบดั้งเดิมอย่างขนม “บัวลอย” ที่ทั้งอร่อยและมีสีสันสวยงาม พร้อมทั้งนำขนมไปเสียบไม้ให้สนุกและน่ารักยิ่งขึ้น สนุกกับการสร้างสรรค์ขนมแสนอร่อยด้วยตัวเอง
              🕑 เวลา 14.00 – 15.30 น.
              ค่าเข้าร่วมกิจกรรมเพียง 4️⃣9️⃣0️⃣ บาท (รวมค่าเข้าผู้ปกครองไม่เกิน 2 ท่าน)
              ✅ ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://www.ticketgo.biz/little-gaia/home
              *รับจำนวนจำกัด เพียง 20 ท่าน เท่านั้น!

              หมายเหตุ :
              – กิจกรรมเหมาะสำหรับน้อง ๆ อายุ 6-10 ปี
              – กรุณามาถึงก่อนเวลาเริ่มกิจกรรม 30 นาที เพื่อตรวจสอบรายชื่อและลงทะเบียนที่หน้างาน
              – กรุณานำถุงเท้ากันลื่นมาด้วย หรือซื้อที่จุดจำหน่ายหน้างานคู่ละ 60 บาท
              .
              Little Gaia พื้นที่ส่งเสริมพัฒนาการและการเติบโตสำหรับเด็ก ๆ ออกแบบด้วยความเข้าใจและเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีชีวิตชีวา ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ เล่น และสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างเป็นประโยชน์
              📍 พบกันที่ ชั้น 4 โซน Parade, ONE BANGKOK
              🚀 เปิดบริการ 10:00 – 20:00 น.

                Tags

                กิจกรรม Little Gaia Workshop 🎨 “Hand-Eye Coordination : เล่น เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ” ในธีม Little Explorers

                🔍 เปิดโลกการเรียนรู้ สนุกแบบไร้ขีดจำกัด กับกิจกรรม Little Gaia Workshop 🎨
                “Hand-Eye Coordination : เล่น เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ” ในธีม Little Explorers 🌍
                📆 วันที่ 15 มีนาคม 2568 กิจกรรม * Little Storyteller * Nature Crafts Nature Art : Terrarium Workshop 🌳
                เรียนรู้พรรณไม้ต่าง ๆ พร้อมวิธีการดูแลรักษา และจำลองระบบนิเวศเล็ก ๆ ไว้ในขวดแก้วด้วยการสร้างสวนขวดจิ๋ว
                📆 วันที่ 16 มีนาคม 2568 กิจกรรม Nature Crafts Nature Art : Clay Cloud Wall Hanging ☁️
                สายลมร้อนเริ่มพัดมา เจ้าก้อนเมฆ ก็จะลอยไปตามลม~~ มาตกแต่งโมบายก้อนเมฆของเรากันดีกว่า!
                🕑 เวลา 14.00 – 15.30 น.
                ค่าเข้าร่วมกิจกรรมเพียง 4️⃣9️⃣0️⃣ บาท (รวมค่าเข้าผู้ปกครองไม่เกิน 2 ท่าน)
                ✅ ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://www.ticketgo.biz/little-gaia/home
                *รับจำนวนจำกัด เพียง 20 ท่าน เท่านั้น!

                หมายเหตุ :
                – กิจกรรมเหมาะสำหรับน้อง ๆ อายุ 6-10 ปี
                – กรุณามาถึงก่อนเวลาเริ่มกิจกรรม 30 นาที เพื่อตรวจสอบรายชื่อและลงทะเบียนที่หน้างาน
                – กรุณานำถุงเท้ากันลื่นมาด้วย หรือซื้อที่จุดจำหน่ายหน้างานคู่ละ 60 บาท
                .
                Little Gaia พื้นที่ส่งเสริมพัฒนาการและการเติบโตสำหรับเด็ก ๆ ออกแบบด้วยความเข้าใจและเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีชีวิตชีวา ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ เล่น และสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างเป็นประโยชน์
                📍 พบกันที่ ชั้น 4 โซน Parade, ONE BANGKOK
                🚀 เปิดบริการ 10:00 – 20:00 น.

                  Tags

                  กิจกรรม “Hand-Eye Coordination : เล่น เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ” ในธีม “Songkran and Thai Traditional”

                  💦 สงกรานต์นี้ คุณพ่อคุณแม่ พาน้อง ๆ มาสาดความสนุกกับกิจกรรมเวิร์กชอป ที่ Little Gaia กันเถอะ! 🎨
                  กิจกรรม “Hand-Eye Coordination : เล่น เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ” ในธีม “Songkran and Thai Traditional” 🌟
                  📆 วันที่ 11 เมษายน 2568 กิจกรรม *Little Craft Maker* Traditional Thai Kites
                  🪁 มาสัมผัสประสบการณ์ และเรียนรู้การละเล่นแบบไทย ๆ ที่น้อง ๆ จะได้ออกแบบและตกแต่งว่าวในแบบของตัวเอง พร้อมสนุกอย่างเต็มที่
                  📆 วันที่ 12 เมษายน 2568 กิจกรรม *Little Chef* Thai Dessert Workshop : Luk Choop
                  🍬 เรียนรู้วิธีการทำลูกชุบ ขนมไทยสุดน่ารักที่เด็ก ๆ จะได้สร้างสรรค์ลูกชุบเป็นรูปต่าง ๆ สนุกกับการประดิดประดอย แล้วยังได้สัมผัสรสชาติของขนมไทยที่มีทั้งความหอมหวานและสีสันสดใสอีกด้วย
                  📆 วันที่ 13 เมษายน 2568 กิจกรรม Magic Sand and Soft Clay
                  🏖️ สัมผัสบรรยากาศของการก่อกองทรายในวันสงกรานต์ตามประเพณีดั้งเดิม ฝึกทักษะกล้ามเนื้อเล็กและมัดใหญ่ผ่านการปั้นดินเบา พร้อมฝึกทักษะความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้และสนุกกับการเล่นในสไตล์ไทยแบบดั้งเดิม
                  🕑 เวลา 14.00 – 15.30 น.
                  ค่าเข้าร่วมกิจกรรมเพียง 4️⃣9️⃣0️⃣ บาท (รวมค่าเข้าผู้ปกครองไม่เกิน 2 ท่าน)
                  ✅ ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://www.ticketgo.biz/little-gaia/home
                  *รับจำนวนจำกัด เพียง 20 ท่าน เท่านั้น!

                  หมายเหตุ :
                  – กิจกรรมเหมาะสำหรับน้อง ๆ อายุ 6-10 ปี
                  – กรุณามาถึงก่อนเวลาเริ่มกิจกรรม 30 นาที เพื่อตรวจสอบรายชื่อและลงทะเบียนที่หน้างาน
                  – กรุณานำถุงเท้ากันลื่นมาด้วย หรือซื้อที่จุดจำหน่ายหน้างานคู่ละ 60 บาท
                  .
                  Little Gaia พื้นที่ส่งเสริมพัฒนาการและการเติบโตสำหรับเด็ก ๆ ออกแบบด้วยความเข้าใจและเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีชีวิตชีวา ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ เล่น และสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างเป็นประโยชน์
                  📍 พบกันที่ ชั้น 4 โซน Parade, ONE BANGKOK
                  🚀 เปิดบริการ 10:00 – 20:00 น.

                    Tags

                    Raintree International School

                    Raintree International School มุ่งเน้นสร้างความสุข ความอบอุ่น ส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และรักการเรียนรู้

                    หากเด็กหนึ่งคนเปรียบเหมือนต้นไม้ การเติบโตอย่างมีคุณภาพต้องเริ่มจากการมีรากฐานที่แข็งแรง ดังเช่นจุดเริ่มต้นของ โรงเรียนนานาชาติเรนทรี แห่งนี้ค่ะ ครั้งนี้เรารู้สึกโชคดีมาก ๆ ที่มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณทิพ วรจรรย์ จิราธิวัฒน์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งและผู้บริหารโรงเรียน คุณทิพเล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นนั้นมาจากการทำหนังสือพัฒนาการเด็ก ที่ชื่อว่า Tiny Tree ที่เห็นถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือและสื่อสารกับพ่อแม่ ว่าเราสามารถอ่านหนังสือกับลูกได้ตั้งแต่ยังเด็กไม่ต้องรอให้โต และปลูกฝังนิสัยที่ดีกับลูกได้ตั้งแต่เล็กผ่านหนังสือต่าง ๆ ที่ทำขึ้น เช่น หน้าที่ต่อตนเอง หน้าที่ต่อสังคม แต่หลังจากทำหนังสือก็พบว่าหนังสือนั้นยังคงมีข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้สิ่งที่อยากสื่อสารนั้นไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่มาทำโรงเรียน ด้วยความตั้งใจว่าจะได้นำสิ่งที่ต้องการนั้นมาสื่อสารผ่านการเรียนการสอนในโรงเรียนของตนเอง

                    คุณทิพ-วรจรรย์ จิราธิวัฒน์ และ คุณใหม่ -พรรณรจน์ ชลิตอาภรณ์ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารโรงเรียน
                    คุณทิพ และเด็ก ๆ ที่เล่นปีนป่าย กิจกรรมที่ดีสำหรับการพัฒนากล้ามเนื้อ

                    Raintree International School โรงเรียนนานาชาติเรนทรี เป็นโรงเรียนอนุบาลชั้นนำที่อยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียว ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 สาขาแรกย่านสาทร และสาขาที่ 2 ที่เราพามาชมในครั้งนี้ ที่เพิ่งเปิดในปี 2024 ที่สุขุมวิท โรงเรียนนานาชาติเรนทรีให้การศึกษาระดับปฐมวัย สำหรับเด็กอายุ 1-6 ปี โดยโรงเรียนใช้หลักสูตร British Curriculum (EYFS) ผสมผสานกับแนวคิดการสอนที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Reggio Emilia ให้การศึกษาที่เน้นการเรียนรู้ที่เด็กเป็นศูนย์กลาง อีกทั้งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น เพื่อพัฒนาทั้งด้านสติปัญญา อารมณ์ สังคม และร่างกายอย่างสมดุล นำไปสู่การมีนิสัยรักการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต

                    ลู่จักรยาน กระตุ้นการทำงานประสานกันและการทรงตัว
                    พื้นที่สีเขียวใต้ต้นไม้ใหญ่
                    เด็ก ๆ กำลังสนุกสนานไปกับชิงช้า
                    บ่อทรายขนาดใหญ่ กระตุ้นประสาทสัมผัสและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์

                    โรงเรียนที่ถูกออกแบบด้วยความตั้งใจ ให้เป็นสถานที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเด็กเล็ก เพื่อให้เขาอยู่ในบรรยากาศที่ดี แวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียว และห้องเรียนที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ เมื่อเด็ก ๆ ได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นผ่านการเล่นอย่างสนุกและมีจุดมุ่งหมาย (purposeful play) ทำให้เขาได้ค้นพบศักยภาพของตนเองแบบ holistic development คุณทิพเล่าต่อว่า ที่นี่จะส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้ลองผิดลองถูก ฝึกการคิดวิเคราะห์ และอยู่ร่วมกับผู้อื่น โรงเรียนที่ไม่เคยมองความผิดพลาดเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ว่าเด็ก ๆ จะยังทำบางสิ่งบางอย่างไม่ได้ คุณครูจะคอยแนะหรือสอนวิธีคิดให้เขาไม่กลัวความผิดพลาด แต่กลับส่งเสริมให้เขากล้าคิด กล้าลอง เพื่อให้สิ่งนั้นบรรลุตามที่ตนต้องการ นั่นจึงเป็นการสร้างเด็กให้รักในการเรียนรู้ ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่ทางโรงเรียนต้องการปลูกฝังนักเรียนที่นี่

                    การออกแบบอาคารที่ใส่ใจตั้งแต่ทิศทางลมและแสง ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องเรียนและพื้นที่ลานกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ช่วยทำให้เด็ก ๆสามารถเล่นและสนุกได้เต็มที่ มีพื้นสีเขียวขนาดใหญ่ที่เชื่อมกับอาคารเรียน ยิ่งทำให้บรรยากาศดูโล่ง โปร่ง แต่ยังคงใกล้ชิดธรรมชาติ รวมถึงครูผู้สอนที่มีคุณภาพ เป็นอีกสิ่งที่ทางโรงเรียนให้ความสำคัญ คุณครูของที่นี่เป็นครูเจ้าของภาษาที่จบปฐมวัยและพัฒนาการสำหรับเด็กโดยตรง เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ยิ่งทำให้การเรียนการสอนของที่นี่มีคุณภาพและเหมาะสม

                    หัวใจหลักของ Raintree International School

                    Creativity

                    ด้วยแนวคิดที่เชื่อว่าการศึกษานั้นไม่ควรเป็นแค่การท่องจำหรือเรียนรู้จากข้อเท็จจริงเท่านั้น แต่ควรเน้นที่การฝึกทักษะการคิด วิเคราะห์ และการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เด็ก ๆ ที่ได้เรียนรู้จากการทดลองและความผิดพลาดจะไม่กลัวที่จะทำผิด เพราะเข้าใจว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นจากการแก้ไขและพัฒนาไปทีละขั้น การมีโอกาสสำรวจและคิดอย่างอิสระช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และพัฒนาทักษะในการตัดสินใจ ซึ่งสำคัญในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยข้อมูลมากมาย นอกจากนี้ยังช่วยให้เด็ก ๆ เติบโตเป็นบุคคลที่มีความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและสังคม สามารถปรับตัวและแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดีในทุกสถานการณ์

                    ทางโรงเรียนเล่าให้เราฟังว่า ภายในห้องเรียนนั้น ไม่ได้จำกัดว่าเด็ก ๆ ต้องเรียนรู้เหมือนกันไปทุกครั้ง ในหนึ่งการเรียน เขาสามารถเลือกเล่นหรือทำกิจกรรมที่เขาชอบและสนใจได้ หัวข้อการเรียนเดียวกันแต่ให้ผลลัพธ์การเรียนรู้ที่หลากหลาย เมื่อเขาทำในสิ่งที่ชอบได้สำเร็จ ก็จะเกิดความสุข มีความมั่นใจในตัวเองและมีความรักที่อยากจะเรียนรู้ต่อไป ซึ่งเป็นเป้าประสงค์หลักที่โรงเรียนให้ความสำคัญ

                    ตัวต่อที่ผ่านการคิดและเล่นอย่างอิสระ
                    ผลงานศิลปะที่เน้นส่งเสริมกระบวนการสร้างสรรค์(process artwork)
                    ผลงานที่เด็กๆภูมิใจ  
                    หนูน้อยนักเรียนรู้มีสมาธิกับการเก็บและสำรวจใบไม้

                    Collaboration

                    โรงเรียนนานาชาติเรนทรีนั้นตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกันตั้งแต่ยังเล็ก ในช่วงวัยอนุบาลนั้นเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่พัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็กสามารถเรียนรู้และเติบโต สภาพแวดล้อมที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันนั้นจะยิ่งช่วยส่งเสริมให้เด็ก ๆ รู้จักการแบ่งปัน แก้ปัญหาร่วมกัน ยินดีและชื่นชมความสำเร็จของตนเองและผู้อื่น ที่นี่เข้าใจว่าเด็กแต่ละคนมีความชอบ ความถนัดที่ทั้งเฉพาะตัวและแตกต่างกัน ทางโรงเรียนจึงให้ความสำคัญกับการเติบโตของแต่ละบุคคล ควบคู่ไปกับการปลูกฝังแนวคิดในการทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมาย อีกทั้งยังปลูกฝังการเคารพซื่งกันและกัน สามารถทำงานเป็นทีมและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างดีเยี่ยม นั่นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เด็ก ๆ สามารถปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ที่เจอในอนาคต การศึกษาของที่นี่จึงเป็นการช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียนรู้ตลอดทุกช่วงของการเติบโต

                    รอยยิ้มของนักเรียนรู้คนเก่ง
                    เล่นสนุกลางแจ้ง
                    บรรยากาศบริเวณลานกิจกรรมกลางแจ้ง
                    เล่นอิสระ ใกล้ชิดธรรมชาติ

                    Community of Life Long Learners

                    Raintree มุ่งเน้นให้เด็กเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่ถูกออกแบบมาอย่างใส่ใจ การอยู่ร่วมกันธรรมชาติ อาคารเรียน พื่นที่ทั้งในร่วมและกลางแจ้งที่เชื่อมโยงถึงกัน ทำให้เด็ก ๆ สามารถเล่นสนุก ใกล้ชิดธรรมชาติ และเรียนรู้ได้ตลอดทั้งวัน ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่กลางโรงเรียนนั้น เป็นร่มเงาให้หนูน้อยนักคิดได้เล่นอย่างอิสระ เด็ก ๆ สามารถเรียนได้ตามธรรมชาติ ตามเป้าหมายของโรงเรียนที่อยากให้สร้างสภาพแวดล้อมที่มีความสุขและอบอุ่น เพื่อส่งเสริมให้เกิดนักคิดสร้างสรรค์และนักสื่อสารที่มั่นใจ และรักการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต

                    บรรยากาศภายในห้องเรียน  โล่ง โปร่ง ผ่อนคลาย
                    เด็กๆตั้งใจฟังคุณครูเล่านิทาน
                    สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ
                    ห้อง Gym ภายในอาคารเรียน

                    เมื่อก้าวเข้ามาในโรงเรียนนั้น สิ่งที่สัมผัสได้เลยคือบรรยากาศที่โล่ง โปร่ง สบาย การให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กเล็ก ห้องเรียนของที่นี่น่าเรียนมาก ๆ ค่ะ การออกแบบที่กว้าง มีแสดงจากธรรมชาติส่องอย่างทั่วถึง รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ผ่อนคลาย รวมถึงช่วยให้เกิดสมาธิอีกด้วย เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในห้องเรียนได้รับการคัดสรรมาอย่างดีและเหมาะสมกับวัยของนักเรียน เน้นการใช้งานที่สะดวกและปลอดภัย รวมถึงอุปกรณ์และสื่อการเรียนรู้ที่แบ่งโซนได้อย่างดี มุมศิลปะ มุมอ่านหนังสือ โซนกิจกรรม อีกทั้งยังมีสนามด้านข้างห้องเรียน ที่ออกแบบมาอย่างตั้งใจเพื่อให้เด็ก ๆ ได้เลือกเล่น สำรวจและเรียนรู้ตตามความสนใจของตน สนามเด็กเล่นและลานกิจกรรมกลางแจ้ง ออกแบบมาให้เด็กเล่นอย่างอิสระ ไปพร้อมๆกับการพัฒนาทั้งร่างกายและประสาทสัมผัสทุกด้าน โซนปีนป่าย บ่อทราย ลู่จักรยาน พื้นที่กลางแจ้ง ช่วยให้เด็ก ๆ ฝึกการทำงานประสานกันของกล้ามเนื้อและประสาทสัมผัสต่าง ๆ ได้ทั้งความแข็งแรง ความสนุกและปลอดภัย

                    ช่วงเวลาของความสนุก
                    บ่อทราย 1 กองมีประโยชน์มากมาย
                    เด็กๆรับประทานอาหาร ฝึกช่วยเหลือตัวเอง
                    เด็กๆรับประทานอาหาร ฝึกช่วยเหลือตัวเอง

                    Mommy’s Love This

                    โรงเรียนนานาชาติเรนทรี เป็นอีกหนึ่งในโรงเรียนที่กุ๊กประทับใจมากค่ะ ตั้งแต่ก้าวเข้ารั้วโรงเรียน สัมผัสได้ถึงบรรยากาศ และสภาพแวดล้อมที่น่าเรียนมาก ๆ แม้เด็ก ๆ จะเล่นอยู่ในบริเวณพื้นที่กลางแจ้ง กลับมีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ที่ช่วยบังแดดให้ และมีลมพัดตลอดเวลา อาคารเรียนที่เชื่อมโซนห้องต่าง ๆ ไว้ด้วย ทำให้เราสามารถมองเห็นเด็กๆได้ทุกมุมด้วยค่ะ รวมถึงการได้พูดคุยกับคุณทิพนั้น ยิ่งสัมผัสได้ถึงความรักและความตั้งใจของผู้ก่อตั้งที่อยากให้ที่นี่เป็นเหมือนบ้าน เป็นจุดเริ่มต้น เป็นสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมให้เด็กเล็กของเราได้มีรากฐานที่แข็งแรง พร้อมเติบโตขึ้นไปเป็นเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่กลางโรงเรียนแห่งนี้

                    การเป็นโรงเรียนขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้การดูแลนั้นทั่วถึง คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้เลยว่า ลูกๆของเราจะได้รับการดู การใส่ใจ คุณครูเจ้าของภาษาที่มีความชำนาญพัฒนาการเด็กเล็ก ยิ่งช่วยส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้รับการกระตุ้นให้เกิดศักยภาพในแบบของตัวเอง มีความพร้อมสำหรับการเรียนรู้ต่อไปในอนาคตหากคุณพ่อแม่กำลังมองหาโรงเรียนอนุบาลนานาชาติที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและมีมาตรฐานการดูแลที่ดี มีความพร้อมในทุกด้าน มั่นใจได้เลยว่าที่นี่จะเป็นบ้านหลังที่สองที่ทำให้ลูก ๆ เป็นหนูน้อยนักคิด นักเรียนรู้ ที่พร้อมเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่และมีรากฐานที่แข็งแรง จากการบ่มเพาะและดูแลจากที่นี่ Raintree International School Sukhumvit

                    ค่าเทอมรายปี
                    ค่าเทอม Nursery 460,000 – 480,000 บาท
                    ค่าเทอม Kindergarten 555,000 บาท
                    ค่าเทอม Y1 570,000 บาท
                    ค่าอาหารกลางวัน 11,500 ต่อเทอม

                    ที่อยู่ Raintree International School Sukhumvit
                    54 ซอยอรรถกวี 1 สุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพ 10110
                    [email protected]
                    +(66) 085-333-5558 (For Prospective Parents)
                    +(66) 02-258-4599 (School Office)

                      โลชั่นกันยุงสูตรอ่อนโยนจากธรรมชาติ Bluemoon Organic Mosquito Repellent Lotion บำรุงผิวและปกป้องได้ในหนึ่งเดียว

                      เมื่อพูดถึงการปกป้องลูกน้อยจากยุงตัวร้าย เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนต้องการผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่กันยุงได้ดี แต่ยังอ่อนโยนและปลอดภัยกับผิวของลูก โดยเฉพาะในยุคนี้ที่แม่อย่างเราช่างเลือก! เพราะอยากให้ลูกน้อยได้สัมผัสแต่สิ่งที่ดีที่สุด Bluemoon Organic Mosquito Repellent Lotion จึงกลายเป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และสารสกัดจากธรรมชาติที่มั่นใจได้

                      ปลอดภัยและอ่อนโยน ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด

                      สำหรับแม่ๆ ที่กังวลว่าผลิตภัณฑ์กันยุงจะมีสารเคมีที่อาจระคายเคืองต่อผิวลูก โลชั่นกันยุงตัวนี้แตกต่างแน่นอนค่ะ เพราะ Bluemoon Organic Mosquito Repellent Lotion ปราศจากสารเคมีอันตราย 100% ไม่มี DEET หรือสารระเหยที่อาจเสี่ยงต่อร่างกาย และยังผ่านการทดสอบแล้วว่าสามารถใช้ได้กับเด็กผิวบอบบาง รวมถึงเด็กที่มีภาวะ G6PD โดยไม่ทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง

                      ที่สำคัญ สูตรของ Bluemoon เน้นความปลอดภัยในระดับสูงสุดจนเหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด (0 M+) แม่จึงสามารถใช้ได้อย่างไร้กังวล ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน หรือก่อนลูกเข้านอน

                      กันยุงได้นานถึง 7 ชั่วโมง กลิ่นหอมธรรมชาติ ไม่ฉุน

                      Bluemoon Organic Mosquito Repellent Lotion ได้รับการยืนยันจากผลการทดสอบของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าสามารถป้องกันยุงได้ยาวนานถึง 7 ชั่วโมง ช่วยลดความกังวลเวลาให้ลูกออกไปเล่นนอกบ้าน สนุกกับธรรมชาติ หรือแม้แต่เมื่ออยู่บ้านที่มีมุมอับยุงเยอะๆ โลชั่นตัวนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดี นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมละมุนจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ เช่น ลาเวนเดอร์ กานพลู ยูคาลิปตัส ดอกเจอราเนียม และอบเชย กลิ่นเหล่านี้ไม่ได้แค่หอมผ่อนคลาย แต่ยังมีคุณสมบัติทำให้ยุงไม่อยากเข้าใกล้

                      ซึ่งตอนทาแรกๆ จะเป็นกลิ่นที่กล่าวมาข้างต้น แต่พอทาไปสักพักเนื้อครีมเริ่มซึมซับสู่ผิวจะเปลี่ยนเป็นกลิ่นหอมละมุน เหมือนแป้งเด็ก ไม่ฉุน

                      สำหรับแม่หลายคน หรือแม้แต่เด็กๆ ที่ไม่ชอบกลิ่นฉุนของผลิตภัณฑ์กันยุงทั่วไป โลชั่นตัวนี้คือคำตอบ เพราะให้กลิ่นหอมแบบธรรมชาติที่สบายๆ ไม่ทำให้เวียนหัว และเป็นมิตรกับทุกคนในครอบครัว

                      กันยุงพร้อมบำรุงผิวไปด้วยกัน

                      นอกจากจะป้องกันยุง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Bluemoon Organic Lotion ยังเป็นตัวช่วยบำรุงผิวที่อ่อนโยน มีส่วนผสมที่คัดสรรอย่างดี เช่น

                      • น้ำมันมะพร้าวออร์แกนิก และ รากโอ๊ค (Oak Root) ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
                      • Shea Butter ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม
                      • Ceramide ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ และลดการอักเสบจากมลภาวะ
                      • Alpha-Glucan Oligosaccharide ที่เป็นพรีไบโอติก เสริมสมดุลของผิว

                      ทุกครั้งที่ใช้ คุณแม่จะสัมผัสได้เลยว่าผิวของลูกน้อยไม่เพียงแต่ปลอดภัยจากยุง แต่ยังดูสุขภาพดีและชุ่มชื้นขึ้นด้วย นอกจากนี้เนื้อครีมยังบางเบา ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว ทาแล้วซึมเร็ว ทำให้ไม่เกาะเป็นคราบบนผ้า และยังเหมาะสำหรับทุกบริเวณของร่างกาย

                      สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน สามารถทาได้ทุกที่ยกเว้นบริเวณใบหน้า เนื่องจากเจ้าตัวเล็กอาจเผลอเอามือจับหน้าแล้วขยี้ตาได้ ทั้งนี้สามารถบริเวณที่เสี่ยงถูกยุงกัดง่าย เช่น แขน ขา หรือคอ

                      ส่วนสำหรับเด็กที่โตแล้วสามารถทาได้เต็มรูปแบบเพื่อป้องกันยุงแบบจัดเต็มได้เลยค่ะ

                      เพราะความตอบโจทย์สำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสุขภาพของลูกน้อย

                      ทำให้ Bluemoon Organic Mosquito Repellent Lotion ได้รับรางวัล Rising Star สาขา BEST MOSQUITO REPELLENT FOR KIDS จาก Amarin Baby And Kids Awards 2024 ไปครองเลยค่ะ

                      สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจ สามารถติดตามข้อมูลได้ที่

                      Facebook : Bluemoon Official

                        ครอบครัว “ตูน Bodyslam” “ก้อย-รัชวิน” ชวนผจญภัยในงาน “THE MALL LIFESTORE JUNGLE WALK 2025”

                        ตอน ท่องโลกมหัศจรรย์ แดนสัตว์แปลกพิศวง EPISODE 2
                        วันที่ 11 – 20 เมษายน 2568 ที่ MCC HALL ชั้น 3 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ

                        เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ร่วมกับ กรมป่าไม้ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมผู้นิยมสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ จัดงาน “THE MALL LIFESTORE JUNGLE WALK 2025” ตอน ท่องโลกมหัศจรรย์ แดนสัตว์แปลกพิศวง EPISODE 2  โดยมีครอบครัว “ตูน Bodyslam” “ก้อย-รัชวิน”นำทีมร่วมผจญภัยในดินแดนของสัตว์แปลกกว่า 300 ชนิด ยกป่าจำลองพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม.ใจกลางห้างฯ  ครั้งแรกกับการส่องสัตว์บน ‘บ้านต้นไม้’ ใกล้ชิดกับ “น้องบ็อบบี้ น้องเบ้บ” คาปิบาราที่โด่งดังบนโซเชียล พร้อมสนุกกับกิจกรรมขี่รถ ATVผจญภัยในถ้ำส่องสัตว์ , Exotic Camp Café และอีกมากมาย งานจัดตั้งแต่วันที่ 11 – 20 เม.ย. 2568 ที่ MCC HALL ชั้น 3 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ

                        เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ชุ่มฉ่ำกับป่าใจกลางห้างฯ บนพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม. พิเศษ! พบกับครอบครัวแอดเวนเจอร์ “ตูน Bodyslam” และ “ก้อย-รัชวิน” พร้อมน้องทะเล น้องเวลา นำทีมลุยโลกของเหล่าสัตว์แปลกหาชมยากในงานวันที่ 11 เม.ย. 68 เวลา 17.00-18.00 น.  ครั้งแรก! ตื่นตากับกิจกรรมส่องสัตว์บน ‘บ้านต้นไม้’ อาทิ กวางเลชเวแดง, แมวป่าคารัลคัล และนกโทโคทูนแคน  พลาดไม่ได้ กับOpen Zoo คาปิบาร่า ใกล้ชิดเซเลบ “คาปิบารา” ที่โด่งดังบนโซเชียล “น้องบ็อบบี้-น้องเบ้บ” และผองเพื่อน สนุกกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดท้าทาย อาทิ ขี่รถ ATV ผจญภัยในถ้ำส่องสัตว์นักล่า ทั้งเหยี่ยวแฮริส ,นกฮูกไซบีเรีย, นกฮูกไวท์เฟส ฯลฯ, กิจกรรมปีนหน้าผาจำลองบนความสูงกว่า 5 เมตร  รวมทั้งใกล้ชิดกับสัตว์แปลกในExotic Camp Café อาทิ งูบอลไพธอน กิ้งก่าทะเลทราย เบี๊ยดดราก้อน ตุ๊กแกหางอ้วน และBest Cat Village Café สัมผัสความน่ารักของแมวหาชมยากหลากสายพันธุ์ทั้งสฟิ้งซ์, แบมปีโน่,เจเนตตาและคินคาโล

                        เพลิดเพลินกับกิจกรรมในงานมากมาย อาทิ เปิดโลกการเรียนรู้กับกิจกรรมพิเศษ Young Wild Explorers ไกด์นำทีมพาเด็กๆ เดินชมพร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆในงาน , กิจกรรมขุดซากฟอสซิลไดโนเสาร์ , กิจกรรมขี่ม้า , กิจกรรมป้อนอาหารสัตว์ต่างๆ เช่น ให้อาหารนกแก้ว, เต่าซูคาต้า, กระต่าย, หนูแฮมสเตอร์, แพะ, แกะ, ม้า , กิจกรรมแจกกล้าไม้ ฟรี! จากกรมป่าไม้ พร้อมบริการตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงฟรี! จากโรงพยาบาล Pawsville   นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับ สมาชิก M Junior Club เฉพาะงานนี้เท่านั้น  รับส่วนลดค่าเข้า 50% , แลก 59 M Point รับสิทธิ์ Exclusive เข้าโซน Capybara Open Zoo ฟรี! และแลก 99 M Point รับสิทธิ์ ถ่ายรูปใกล้ชิดกับ “บ็อบบี้-เบ๊บ” (สิทธิ์จำนวนจำกัด)

                        ผจญภัยส่องสัตว์แปลกหาชมยาก พร้อมสนุกกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์มากมายในงาน THE MALL LIFESTORE JUNGLE WALK 2025 ตอน ท่องโลกมหัศจรรย์ แดนสัตว์แปลกพิศวง EPISODE 2  ได้ตั้งแต่วันที่ 11 – 20 เม.ย. 2568 ที่ MCC HALL ชั้น 3 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ โดยมีค่าเข้าชมงานท่านละ 50 บาท (เด็กที่มีส่วนสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าฟรี) พิเศษ! เฉพาะวันที่ 13 เม.ย. วันผู้สูงอายุแห่งชาติ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าชมงานฟรี! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook MCC HALL

                        #TheMallLifestoreJungleWalk2025 #TheMallLifestoreJungleWalk #JungleWalk #TheMallLifestoreBangkapi #TheMallGroup

                          Little Lot นวัตกรรมเพื่อสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ มาสร้างเกมสุดพิเศษ 1 เดียวในโลกกัน 

                          คุณพ่อคุณแม่หลายคน อาจจะไม่อยากให้ลูก ๆ เล่นมือถือหรือเข้าถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ เพราะกังวลถึงผลเสียที่จะตามมาใช่ไหมคะ แต่ถ้ามีเทคโนโลยีที่จะขยายความคิดให้เด็ก ๆ ช่วยให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์และปลดปล่อยจินตนาการได้เต็มที่ ก็ดูน่าสนใจใช่ไหมคะ School Visit วันนี้เราอยากจะชวนเด็ก ๆ มาเรียนรู้เทคโนโลยีแบบง่าย ๆ ด้วยการออกแบบเกมของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร ให้กลายเป็นเกมสุดพิเศษ 1 เดียวในโลกกันค่ะ

                          Little by little, a little makes a lot.

                          LittleLot เป็นบริษัทงานออกแบบเพื่อเด็ก ที่เปิดทำการมาแล้วกว่า 7 ปี   โดยชื่อบริษัทย่อมาจากสโลแกนที่ว่า ‘Little by little, a little makes a lot.”  ก่อตั้งโดยคุณ แตงกวา-นัชชา จิระคุณ และ ป๊อปปี้-ภาณุ จิระคุณ ผลงานของบริษัทมีมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ สื่อออนไลน์สำหรับเด็กและของเล่นสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้และพัฒนาการเด็ก หลังจากเปิดบริษัทมาสักพักก็อยากนำความรู้ที่เรียนมาผนวกกับประสบการณ์ในการทำงานออกแบบ ต่อยอดเป็น Workshop ให้กับเด็ก ๆ โดยใช้เทคโนโลยีมาเป็นสื่อกลางในการเล่นและเรียนรู้ ด้วยวิธีที่เหมาะสม สร้างความเชื่อใหม่ ๆ ว่าเทคโนโลยีไม่ได้น่ากลัวสำหรับเด็กเสมอไป หากออกแบบให้ถูกทาง สร้างเพลตฟอร์มหรือสร้างเครื่องมือที่เหมาะสม ก็จะทำให้เด็กมีจินตนาการไปไกลมากกว่าที่เราเห็น เมื่อเด็กเข้ามาเรียนที่นี่ เด็กจะรู้สึกอยากที่จะวาด อยากอ่าน อยากคิด อยากออกแบบและสนุกไปกับมันสุดท้ายคือความภูมิใจในตนเองเมื่อผลงานเสร็จ

                          บรรยากาศหน้าสตูดิโอ ดึงดูดเด็ก ๆ ด้วยลวดลายกราฟฟิกน่ารัก ๆ
                          เด็ก ๆ มีสมาธิและตั้งใจทำกันมาก ๆ

                          เกมสไตล์ Arcade

                          คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะว่า การเล่นเกมได้อะไรมากกว่าที่คิด ถ้าเด็ก ๆ เล่นเกมที่เหมาะสมกับวัย มีกำหนดระยะเวลาการเล่นที่เหมาะสม เกมจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยเสริมพัฒนาการและทักษะมากมาย ที่LittleLot จึงอยากชวนเด็ก ๆ มาสร้างเกมแบบง่าย ๆ ด้วยเกมสไตล์ Arcade ที่ไม่เคยตกยุค หากใครนึกไม่ออก ให้ลองนึกถึงเกมส์ Super Mario , Pac Man, Arcade Galaxy ต่าง ๆ เชื่อเหลือเกินว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องเคยผ่านตาและเล่นเกมเหล่านี้มาบ้างแล้ว พื้นฐานเกมง่ายๆ แบบนี้แหล่ะค่ะ ที่เด็ก ๆ จะได้ทดลองทำกัน ไปดูขั้นตอนการทำเกมกันดีกว่า

                          • Game Template

                          เด็ก ๆ จะได้เลือกก่อนว่าอยากทำเกมแนวไหน โดยมี Game Template ให้เลือก 8 แบบ คือ Runner, Jumper, Platformer, Mazer Swimmer, Invader ,Popper, Racer  เมื่อเลือกได้แล้วทีมงานก็จะมีคู่มือหรือ Game Guide สำหรับสร้างเกมส์นี้ให้ค่ะ ว่าเด็ก ๆ จะต้องสร้างอะไรบ้าง ซึ่งแต่ละเกมก็แตกต่างกันออกไป

                          เชคลิสต์ว่าถึงขั้นตอนไหนกันแล้ว

                          • Concept Planning

                          เมื่อเลือกเกมส์ที่อยากทำได้แล้ว เด็ก ๆ ก็จะเริ่มคิด Story หรือเรื่องราวของเกมส์กันค่ะ ขั้นตอนนี้สนุกมาก เราจะได้เห็นจิตนาการของเด็กมากมาย เด็ก ๆ จะได้ตั้งชื่อเกมส์ ได้ออกแบบ Player หรือตัวละคร  สร้าง Background  ออกแบบสิ่งกีดขวาง และ Object ต่าง ๆ ของเกมส์ ค่อย ๆ วาดที่ละส่วน ค่อย ๆ เติมรายละเอียด และใช้ Game Scanner สแกน Object เหล่านี้เข้าในโปรแกรมเกม

                          • Choose  SFX, Power

                          เมื่อวาดส่วนประกอบของเกมส์เสร็จแล้ว เด็ก ๆ จะมาทำเกมให้สมบูรณ์ด้วยการอัด Sound effect กันค่ะ เช่น เสียงตอน Player กระโดด เสียงตอนปล่อยอาวุธ เสียงตอนได้เหรียญรางวัล ที่นี่มีเสียงให้เด็ก ๆ เลือกมากมาย และยังสามารถอัดเสียงตัวเองใส่ไปในเกมได้ด้วยนะ หลังจากเลือกเสียงเสร็จก็จะมาเลือก พลังพิเศษกันต่อ  เช่น เก็บดอกไม้ดอกนี้ตัว Player จะใหญ่ขึ้น หรือวิ่งได้เร็วขึ้น ทุกขั้นตอนจะได้ใช้จินตนาการและความคิดมาก ๆ เลยค่ะ

                          อัดเสียงด้วยตนเองก็สนุกไปอีกแบบ
                          • Playtime

                          ถึงเวลาเล่มเกมแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเด็ก ๆ จะตื่นเต้นและสนุกแค่ไหน ที่ได้เห็นเกมของตนเองออกมาเป็นรูปเป็นร่างและจับต้องได้ และยังสามารถเข้ามาเล่นเกมของตนเองและเพื่อน ๆ ได้ด้วยนะคะที่ www.littlelot.studio/gameroom

                          Everyone Can Design

                          เพราะเด็กทุกคนมีความถนัดที่ต่างกัน เด็กบางคนอาจไม่ชอบวาดรูป ไม่ชอบระบายสี แต่มีความคิดสร้างสรรค์และอยากออกแบบเกมในรูปแบบของตัวเอง ที่ Little Lot เข้าใจความต่างของเด็ก ๆ เป็นอย่างดี  และมีตัวช่วยมากมายให้เด็ก ๆเทมเพลตตัวการ์ตูน ทั้งปั้นดินน้ำมัน สติกเกอร์ ทำขนม ชอบอะไรทำได้หมด เลยค่ะ

                          เทมเพลตมากมายให้เลือกใช้
                          คุณป๊อปปี้-ภาณุ จิระคุณ กำลังช่วยสอนเด็ก ๆ
                           

                          Mommy Love This ถูกใจแม่ !

                          1. บางทีเด็ก ๆ วาดรูปแล้วก็จบ แต่พอมีจุดประสงค์ว่าวาดไปเพื่อทำอะไร มีผลลัพท์ที่จับต้องได้ ได้เห็นผลงาน ทำให้เด็กเกิดความภูมิใจมาก ๆ เลยค่ะ
                          2. ออกแบบเสร็จแล้ว ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่าแน่นอน เด็ก ๆ จะได้ทั้งโปสเตอร์ การ์ด สติกเกอร์ และของสุด Customized ที่ทุกคนออกแบบกลับไปด้วยค่ะ
                          3. ช่วง Summer โรงเรียนจะ Collab กับพี่ ๆ และสถาบันที่มีองค์ความรู้ต่าง ๆ เช่น เรียนรู้เรื่องวาฬ เรื่องผังเมืองเรียนรู้เสร็จมาสร้างเกมกันต่อ ใครสนใจติดตามเพจ LittleLot  ได้เลยค่ะ
                          4. ผู้ใหญ่ก็เรียนได้นะคะ เรียนพร้อมกับลูก สนุกทั้งครอบครัว

                          Gametory Workshop

                          • รับเด็กอายุ 6 ปี ขึ้นไป

                          (รอบละ 2 ชม.)

                          • ทุกวันอังคาร – อาทิตย์

                          10:00-12:00

                          13:00-15:00

                          15:30-17:30

                          • ค่าเรียน    ( รับคลาสละไม่เกิน 6 คน )

                          รอบละ 1,250 บาท / คน

                          มาเรียนเป็นกรุ๊ป 2-3 คน  ราคา 1,150 บาท/ คน

                          มาเรียน 4 คนขึ้นไป 1,050 บาท / คน

                          ที่อยู่

                          • สาขาสุขุมวิท 49 The Racquet Club, Building 4, 5th Floor, (จะกลับมาเปิดให้บริการในเดือน พฤษภาคม 2568)
                          • สาขา Centralworld โซน Little Wonder ชั้น 6  ( เปิดให้บริการแล้ว )
                          • โทร.084 -165- 6145
                          • Line : @Littlelot
                          • FB : LittleLot

                            โรงเรียนเลิศคิด มอนเตสซอรี่ พื้นที่แห่งการเรียนรู้สไตล์ Montessori ครบเครื่องเรื่อง วินัย – ความสามารถ – สุข – อิสระ

                            ว้าวสุด ๆ ไปเลย! ความประทับใจแรกเมื่อทีมแม่ ABK มาถึงหน้าโรงเรียนเลิศคิดมอนเตสซอรี่ (Lertkid Montessori School) อำเภอท่าอิฐ จังหวัดนนทบุรี  โรงเรียนน่ารักฟีลคาเฟ่ชิค ๆ กลิ่นอาย Minimalist มาเต็ม ๆ แต่ที่เยี่ยมกว่าก็คือที่นี่เค้าใช้แนวทางมอนเตสซอรี่จัดการเรียนรู้คู่กับสาระการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางค่ะพูดได้เลยว่าทักษะทางวิชาการนี้แน่นและหลากหลายตามแบบแผนของชาติ เด็ก ๆ เติบโตอย่างฉลาดและมีความสุขแน่นอน

                            หลังจาก roof part เด็กๆ จะมาทำกิจกรรม School Farm ต่อ เอ.. เด็กๆ เห็นตัวอะไรในถังคะเนี่ย
                            การเลือกนั่งเสื่อ หรือนั่งบนโต๊ะ = พื้นที่ส่วนตัว พื้นที่ของเพื่อน คือการเคารพสิทธิ์
                            มอนเตสซอรี่ เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลก จึงเป็นการเรียนอย่างสันติภาพ การแบ่งปัน เน้นการแบ่งปันความรู้
                            เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน

                            Well-rounded education : Montessori

                            จริง ๆ แล้ว มอนเตสซอรี่ คือการเรียนวิชาการผ่านการใช้ประสาทสัมผัส ( รับรู้ ) ให้ครบทุกมิติ ( ด้าน ) เช่น การได้ยิน การมองเห็น การลิ้มรส การจับ – ขยับ – สัมผัส เป็นต้น การเรียนการสอนส่งเสริมการเรียนรู้เป็นรายบุคคล คุณครูจะนำเสนอกิจกรรม ( หรือวิธีการใช้อุปกรณ์ ) เป็นขั้นเป็นตอนอย่างละเอียด แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนนะคะว่า ของเล่นทั่วไป เราไม่จัดว่าเป็นอุปกรณ์แบบมอนเตสซอรี่! Montessori tools ที่แท้จริงต้องผ่านการออกแบบและกำหนดวิธีการเล่นเพื่อการเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ เป็นการเล่นที่มีจุดมุ่งหมาย และนักเรียนต้องได้รับการนำเสนองาน ( How to ) ก่อนเล่นเสมอ ซึ่ง Montessori tools จะสร้างนิสัยนักสำรวจในตัวเด็ก ๆ ผสมผสานเข้ากับวิชาการ อย่างแนบเนียน โดย 1 อุปกรณ์ สามารถใช้งานหรือเล่นได้หลายแบบ แบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ และจะ Challenge ( ยาก + ซับซ้อน ) ขึ้นเรื่อยๆ การเล่นแต่ละแบบมีจุดมุ่งหมายในการเรียนรู้ที่แตกต่างกันค่ะ ไม่มีการใช้อุปกรณ์ข้ามขั้นตอน มอนเตสซอรี่ จึงคือการฝึกฝนกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ

                            การเล่นนี้ มอนเตสซอรี่เรียกว่า “งาน ” นักเรียนจะทราบว่า งานไหนที่ตัวเองทำได้และได้รับการนำเสนองานแล้ว เป็นผู้เลือกทำงานเอง การเลือกทำงานของเด็ก ๆ เป็นนัยยะสำคัญที่บอกบ่งชี้ “ความชอบ” หรือ “ความถนัด” สำหรับงานที่เด็ก ๆ ยังไม่เลือกทำนั้น คุณครูจะคอยแจ้ง กระตุ้นชวนให้เด็ก ๆ ทำ ทำให้ทราบว่านักเรียนชอบหรือไม่ชอบ หรือยังไม่เข้าใจวิธีการใช้งานค่ะ                    

                            มอนเตสซอรี่ก็ส่งเสริมการเรียนเป็นกลุ่มเช่นกัน เป็นรูปแบบกิจกรรมหรือเกมส์ ที่เลิศคิด กิจกรรมแบ่งการเรียนรู้ออกเป็น 4 หมวดหลักตามหลักสูตรมอนเตสซอรี่ ร่วมกับ สาระการเรียนรู้หน่วยต่าง ๆ ที่ตามหลักสูตรแกนกลาง (กระทรวงศึกษาธิการ) เป็นธีมเปลี่ยนไปทุกสัปดาห์

                            • หมวด Practical Life  ชีวิตประจำวันเหมือนที่บ้านเพื่อการพึ่งพาตนเอง
                            • หมวด Sensorial  ประสาทรับรู้ 5 ประเภท ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น สัมผัส เป็นหมวดงานที่เป็นพื้นฐาน ของสติปัญญา ที่จริงเป็นนามธรรมแต่ทำเป็นรูปธรรม  ให้เด็ก ๆ สัมผัสได้ (เรียนรู้ได้) เป็นหมวดงานที่เป็นระบบระเบียบ ว่าด้วยเรื่องของลำดับและขั้นตอน ดังนั้นการจัดวางอุปกรณ์สำคัญนะคะ ต้องลำดับ บน – ลง – ล่าง และ ง่าย – ไป – ยาก
                            • หมวดภาษา (Language) ประกอบด้วย 3 หมวดงานคือ ภาษาพูด ภาษาเขียน ภาษาอ่าน โดยเด็กสามารถจำสัญลักษณ์และเสียงได้  โดยมีเทคนิค 3 ขั้นตอน  คือ ขั้นแนะนำ ฝึกหัดปฏิบัติ  ให้เด็กพูด
                            • หมวดคณิตศาสตร์ สัญลักษณ์ 0-9 และปริมาณ 1-10  การนับต่อเนื่อง 1-1000 รู้ปริมาณและคุณภาพ  การนับรูปร่างรูปทรง  การนับตู้โซ่  การจำขึ้นใจ โดยจำผลขององค์ประกอบตัวเลขที่สำคัญของผลบวก  ผลลบ  ผลคูณ  ผลหาร หนทางสู่นามธรรม
                            เคารพเด็ก ๆ เป็นหลัก หากยังไม่พร้อมร่วมกิจกรรมก็มาสังเกตการณ์กันก่อนได้ค่ะ
                            การมีส่วนร่วม เด็กๆ ช่วยกันเก็บของ
                            ใช้เพลงเป็นสัญญาณในการเปลี่ยนกิจกรรม
                            ใครจะยกมือทำท่านี้นะคะ
                            เชื่อมโยง theme ไข่ theme ประจำสัปดาห์ค่ะ แล้วตอนนี้กำลังดูตัวอ่อนของลูกเจี๊ยบที่อยู่ในไข่แน่ ๆ เลย
                             

                            Joy Join ช่วงเช้า

                            เด็ก ๆ ชั้น IC และ CASA ทุกคนจะทำกิจกรรมร่วมกันทุกเช้า ส่วนนี้ช่วยสร้างพัฒนาการทางสังคมให้เด็ก ๆ เรียนรู้ผ่านการเล่นร่วมกับเด็กหลากหลายวัย ตั้งแต่น้องจิ๋ว ถึงพี่โต ( ไม่เกิน 6 ปี )

                            • ช่วงที่ 1 สนุกไปกับ Roof Part ( 8.30 – 9.00 ) ขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่มาส่งเด็ก ๆ ให้ทันช่วงนี้นะคะ เพราะจะเป็นการเล่นอิสระ Outdoor กับอุปกรณ์ที่เคลื่อนย้าย ต่อเติม และทำลายได้! นั่นคือการเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ หนทางสร้าง “นวัตกร” นั่นเอง
                            • ช่วงที่ 2  School Farm ( ทุกวัน ) จำลองการทำฟาร์มเพื่อ 1. เพิ่มทักษะต่าง ๆ  2. ใช้ชีวิตในพื้นที่สีเขียว 3. เรียนรู้การควบคุมอารมณ์ กิจกรรมนี้จะล้อไปกับธีมประจำสัปดาห์ จัดว่าเป็นการเรียนรู้แบบองค์รวมที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ
                            • DISMISS เสร็จจาก School Farm เด็ก ๆ จะแยกย้ายเข้าชั้นตามช่วงวัย

                            IC HOUSE: โรงเรือนบ่มเพาะเด็กๆ ( เตรียมอนุบาล )

                            • น้องเล็กจะมีหมวดกิจกรรม 5 หมวด ได้แก่ 1. ภาษา 2. Practical Life 3. Art | Music | Movement 4. สหสัมพันธ์ ตา – มือ (eye – hand coordination) 5. Caring Environment (ดูแลสิ่งแวดล้อม)
                            • กิจกรรมเน้นการเตรียมความพร้อมของกล้ามเนื้อมัดต่างๆ เปิดประสาทสัมผัส ฝึกการเคลื่อนไหวให้แข็งแรงคล่องแคล่ว สร้างสมาธิให้สามารถ focus กับกิจกรรม กลุ่มงานของเด็กๆส่วนใหญ่มักจะอยู่ในหมวด Practical Life และ ดูแลสิ่งแวดล้อมค่ะ
                            • เด็กๆ จะเรียนรู้วิธีการทำงานเป็นขั้นเป็นตอนเช่นเดียวกับพี่ๆ ห้อง Casa แตกต่างกันตรงที่ 1. งานจะมีชิ้นใหญ่กว่า 2. ของมีจำนวนน้อยชิ้นกว่า 3. process ในการทำงานน้อยกว่า
                            ของว่าง จัดสรรเวลาเอง ทำได้ 1 ครั้ง แล้วก็หม่ำๆ เลย
                            รูป + วัตถุ (รูปธรรม – เชื่อมโยง – นามธรรม)
                            ชั้นวางของของห้อง IC จะเตี้ยกว่าห้อง Casa ตามความสูงของเด็ก 1. ของจะชิ้นใหญ่กว่า 2. น้อยชิ้นกว่า 3. ขั้นตอนกาiทำงานก็น้อยกว่า ตามพัฒนาการจ้า

                            CASA LIFE : ชั้นเรียนอนุบาลคละอายุ (3-6 ปี)

                            • หลังจากเอ็นจอยกันช่วงเช้าไปแล้ว Casa จะเข้ามา Morning Talk กันค่ะ เป็นกิจกรรมละลายพฤติกรรม แชร์อารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ เป็นการสำรวจตนเองไปในตัว
                            • มีสอนทำสมาธิด้วยนะคะ พร้อมด้วยการร้องเพลง  สุนทรียภาพเพื่อการปรับอารมณ์
                            • คุณครูจะสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก School Farming แล้วนำมาเชื่อมโยงกับกิจกรรมต่อไป
                            • จบการ สรุปก็เข้าสู่ Montessori Working Hour ค่ะ
                            • เด็ก ๆ ชั้น Casa จะยกระดับก้าวไปสู่รูปแบบวิชาการอย่างเต็มตัว แต่ยังคงกิจกรรมไว้ที่ 5 หมวด แต่  1. หมวดภาษา (ไทย Chinese English) 2. หมวดคณิตศาสตร์ 3. หมวด Practical Life 4. วัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ 5. หมวด Sensorial

                            ช่วงบ่ายเด็ก ๆ ทำอะไร?

                            หลังจากนอนหลับพักผ่อน เด็ก ๆ จะไปต่อด้วยกิจกรรมตามสาระการเรียนรู้ดังนี้เลย

                            Monday : วิทยาศาสตร์ (Project Approach)

                            Tuesday : Art  (Project Approach)

                            Wednesday : วิทยาศาสตร์ (Project Approach)

                            Thursday : ภาษาจีน

                            Friday : Physical Education + Music + Movement

                            ช่วง15.30 น. ก็จะจบกิจกรรมใน 1 วัน และเด็ก ๆ อยู่ที่โรงเรียนได้ถึง 16.00 น. ค่ะ

                            ช่วง After school class  (16.30 – 17.30 น.) หากผู้ปกครองอยากให้เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมก่อนกลับบ้าน [ Board games / เกมส์การศึกษา / มีวิชาการบ้างเล็กน้อย ]

                            การเรียนเป็นวิชาในช่วงบ่าย = ถือเป็นการเตรียมสิ่งแวดล้อมให้เด็ก ๆ สามารถไปต่อโรงเรียนประถมศึกษาได้ทุกสาย ไม่ว่าจะเป็นสายวิชาการ หรือ แนวทางเลือก

                            • เพราะเด็กๆ จะควบคุมตัวเองได้  ผ่านการฝึกให้ทำงานและทำกิจกรรม
                            • มีระเบียบวินัยด้วยตนเอง ห้องเรียนมีกฎระเบียบที่ชัดเจน
                            • มีทักษะในการกำกับตนเอง : ทานของว่าง – อาหาร หรือ ใช้สิ่งของเสร็จแล้ว ต้องจัดการเก็บทุกครั้ง เตรียมพร้อมให้คนอื่นใช้พื้นที่Group
                              ต่อได้

                            Mommy Love This! ถูกใจแม่

                            โรงเรียนคุณภาพ

                            1. English Program มีครูต่างชาติในห้อง พื้นฐานวิชาการแน่นสไตล์มอนเตสซอรี่ และครบถ้วนตามกรอบของหลักสูตรแกนกลาง เมื่อเด็กๆถึงเกณฑ์ขึ้น ป.1 ก็สามารถเรียนต่อได้ทุกสถาบันไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนแนววิชาการ หรือโรงเรียนทางเลือก
                            2. ปลูกฝังความเป็นนวัตกร (Innovator) ตั้งแต่เด็ก
                            3. สร้างทักษะทางวิชาการด้วยหลักสูตรมอนเตสซอรี่ (พื้นฐานของการประดิษฐ์ คิดค้น)
                            4. สร้างทักษะชีวิต การทำงาน และการกำกับเวลา
                            5. สร้างทักษะการทำงานเป็นทีม (ชั้นเรียนคละอายุ คือ การจำลองโลก คล้ายกับสภาพสังคมจริง)
                            6. Caring + Education เพราะสำหรับเด็กเล็กแล้ว การดูแลที่ใกล้ชิดและอ่อนโยนต้องมากกว่า Education
                            7. แม้จะไม่มีการสอบเพื่อวัดผล แต่เลิศคิดใช้การประเมินรายบุคคลและพูดคุยเป็นรายครอบครัว
                            8. ประเมินพัฒนาการ “ที่ต้องเป็นไปตามวัย”
                            9. เป็นการประเมินเพื่อช่วยในการพัฒนา ซึ่งการประเมินนี้เข้มข้นมาก

                            คุณครู ครบเครื่อง

                            1. คุณครู Head of classroom ผ่านการอบรมหลักสูตรมอนเตสซอรี่สำหรับนักเรียนอายุ 1.5-3 ปี และ 3-6 ปี เป็นระยะเวลา 2 ปี
                            2. คุณครูผู้ช่วย ผ่านการอบรมหลักสูตรระยะสั้น (มอนเตสซอรี่) + in-house training อย่างต่ำ 2 ครั้งต่อปีค่ะ
                            3. คุณครูทุกคนจะได้รับการเทรนนิ่งเรื่อง “การใช้วินัย + การสื่อสารเชิงบวก” อย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยเช่นกัน

                            ห้องเรียนพ่อแม่

                            จุดประสงค์ : ทำให้ผู้ปกครองเข้าใจแนวทางของมอนเตสซอรี่ + ร่วมเรียนรู้เรื่องการใช้วินัยเชิงบวกมากขึ้น เพราะครอบครัวคือส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็ก ๆ ครอบครัวสามารถสนับสนุนชีวิตและการเรียนรู้ได้อย่างมีระบบเช่นกัน

                            ครูเบิร์ด และ ครูน้อย คุณครูที่รักของเหล่าเด็กๆ และเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนด้วยค่ะ

                            ค่าเล่าเรียนของโรงเรียนเลิศคิด มอนเตสซอรี่
                            ค่าแรกเข้า 10,000 บาท
                            ชั้นเตรียมอนุบาล (IC) เป็นรายเดือน เดือนละ 14,800 บาท
                            ชั้นอนุบาล (Casa) เทอมละ 58,000 บาท (มี 2 เทอม)
                            After school รายเดือน เดือนละ 5,000 บาท
                            มีบริการอาหารเช้า / กลางวัน / เย็น

                            ที่อยู่
                            30/6 หมู่ 1. ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รหัสไปรษณีย์ 1112
                            Email: [email protected]
                            Tel: 02-1004-674

                              เอ็ม ดิสทริค ร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน จัดงาน “ไทยหรรษา มหาสงกรานต์”

                              ปักหมุดแลนมาร์กฉลองสงกรานต์สุดยิ่งใหญ่ใจกลางสุขุมวิท

                              เอ็ม ดิสทริค โดยศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์ จับมือภาครัฐและภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ไทย เนรมิตแลนมาร์กฉลองสงกรานต์ สุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกใจกลางสุขุมวิทกับงาน “เอ็ม ดิสทริค ไทยหรรษา มหาสงกรานต์ 2025” เพลิดเพลินกับหลากหลายกิจกรรมในแบบสไตล์ไทย ทั้งการเล่นน้ำสงกรานต์กลางสวน การแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย เกมส์งานวัดแสนสนุก รวมถึงการแสดงจากหนูน้อยเทพีสงกรานต์ ในวันที่ 12 – 14 เมษายน 2568 ณ อุทยาน เบญจสิริ (BTS พร้อมพงษ์) และ EM YARD ชั้น G เอ็มสเฟียร์

                              • สนุกสนานไปกับความบันเทิง 3 วัน 3 คืน จากศิลปินชั้นนำอย่าง บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, จ๊ะ นงผณี, The Paradise Bangkok Molam ระหว่างวันที่ 12 – 14 เมษายน 2568 ณ อุทยานเบญจสิริ (BTS พร้อมพงษ์)
                              • ชมความตระการตาของ ขบวนรถไทยหรรษา มหาสงกรานต์ ที่รังสรรค์การตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อม Mascot ช้างน้อยสุดน่ารัก, นางสงกรานต์ และขบวนกลองยาว ร่วมสาดความสนุกทั่วกรุงเทพมหานครผ่านถนนและแลนมาร์คสำคัญของกรุงเทพอย่าง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, เสาชิงช้า ระหว่างวันที่ 11-14 เมษายน 2568

                              นอกจากนี้ มาสนุกแบบ NON-STOP ที่งาน “EM DISTRICT SUMMER REPUBLIC 2025” จัดเต็มความมันส์ฉลองซัมเมอร์และเทศกาลสงกรานต์สุดยิ่งใหญ่ ตลอดเดือนเมษายนนี้ ได้แก่

                              • กิจกรรมสาดน้ำสงกรานต์สุดมันส์ใจกลางสุขุมวิทกับกิจกรรม “SUMMER SPLASH” ระหว่างวันที่ 8 – 16 เมษายน 2568 ที่จะทำให้ทุกคนชุ่มฉ่ำดับร้อนกับอุโมงค์น้ำความยาว 50 เมตร พร้อมแสงสีและเสียงดนตรีจากดีเจชั้นนำบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์
                              • ปาร์ตี้ระดับเวิลด์คลาส กับที่สุดของความสนุกและความมันส์ด้วยซิกเนเจอร์อีเวนต์ระดับโลกที่เหล่า LGBTQ ทั่วโลกรอคอย กับงาน “GCIRCUIT GALA 2.0” ระหว่างวันที่ 11 – 14 เมษายน 2568 ณ ชั้น 6 UOB LIVE ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ พร้อมสนุกกับ BEAR & BOY POOL PARTY ณ TRIBE SKY BEACH CLUB ชั้น 5 ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์
                              • ฉลองสงกรานต์แบบ NON-STOP ในงาน “EM WONDER SUMMER SPIRIT” ชวนทุกคนมาระเบิดความมันส์ไปกับศิลปินและดีเจชั้นนำของเมืองไทย พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษตลอดช่วงซัมเมอร์ ในวันที่ 11 – 15 เมษายน 2568 ที่ WONDER SPACE ชั้น 5 ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์
                              • สัมผัสสุดยอดผลิตภัณฑ์ อาหาร จากภูมิปัญญาไทยทั่วทุกภูมิภาค ในงาน “คัดไทย 2025 : ONLY’S THAILAND BEST & BEYOND” ตั้งแต่วันที่ 3 – 16 เมษายน 2568 บริเวณ ควอเทียร์ อเวนิว ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ และวันที่ 3 – 20 เมษายน 2568 ที่ EM MARKET HALL ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์
                              • พบสีสันแห่งซัมเมอร์ที่เนรมิตทั่วทั้ง 3 ศูนย์การค้าให้เป็นแลนด์มาร์กสงกรานต์สุดยิ่งใหญ่ท่ามกลางบรรยากาศ SUMMER VIBE กับกลิ่นไอของความเป็นไทยสไตล์โมเดิร์น ผ่านงานศิลปะรูปแบบต่างๆ ทั้งศิลปหัตถกรรมและศิลปะร่วมสมัย ที่จะอวดสายตาชาวโลก พร้อมด้วยกิจกรรมแห่งความสนุกมากมายแบบจัดเต็ม ระหว่างวันที่ 1 – 31 เมษายน 2568

                              ปิดท้าย เอาใจนักชิมทุกคนกับเมนูพิเศษรับซัมเมอร์ ในงาน “EMDINING SUMMERLICIOUS” ชวนทุกคนมาอิ่มอร่อยกับเมนูคลายร้อนกว่า 100 เมนู หลากหลายสไตล์ ภายในศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์ หรือช้อปไอเทม Wellness & Beauty รับลมร้อนจากแบรนด์ดังกับ “SUMMER GLOW”& “SUMMERCATION” พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับทุกคน รวมถึงแคมเปญ

                              “EMJOY SUMMER SCHOOL BREAK” พบกับกิจกรรม TERRARIUM จัดโหลสวนสาหร่ายมาริโมะสุดสร้างสรรค์, กิจกรรมร้อยสร้อยลูกปัด STAR FISH NECKLACE ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตลอดเดือนเมษายน 2568 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ FACEBOOK : EMPORIUM EMQUARTIER และ EMSPHERE AT EM DISTRICT หรือ LINE @EMDISTRICT