โรงเรียนวรรณสว่างจิต

โรงเรียนวรรณสว่างจิต  กับการเรียนรู้แบบบูรณาการที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ลงมือทำอย่างแท้จริง

event
โรงเรียนวรรณสว่างจิต
โรงเรียนวรรณสว่างจิต

โรงเรียนวรรณสว่างจิต “สังคมแห่งการเรียนรู้อย่างมีความสุข” คือประโยคแนวคิดหลักที่สะท้อนอยู่ทุกตารางเมตรในโรงเรียนแห่งนี้

โรงเรียนวรรณสว่างจิต คือโรงเรียนทางเลือกอันดับต้นๆ ที่ School Visit อยากพามาทำความรู้จัก ด้วยประวัติการเริ่มต้นยาวนานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 รวมถึงหลักสูตรผสมผสานที่เลือกใช้แก่นดีๆ จากหลายๆ แนวทาง และการเรียนรู้แบบบูรณาการผ่านโครงการ (Project Approach) ที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ลงมือทำด้วยตัวเองทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ

โรงเรียนวรรณสว่างจิต เริ่มก่อตั้งโดย คุณยายเฉลิม จิตกล้า ในช่วงแรกมีเฉพาะแผนกอนุบาล และใช้การเรียนการสอนแบบเตรียมความพร้อมผ่านกิจกรรม ไม่เร่งเขียนอ่านมาตั้งแต่ตอนนั้น ปัจจุบันเปิดทั้งหมด 3 ระดับชั้น คือ บ้านเด็กเล็ก เรือนอนุบาล และลานประถม บนพื้นที่กว้างขวางกว่า 10 ไร่ ริมถนนพระราม 2

บรรยากาศโรงเรียน

หลักสูตรผสมผสาน เพื่อพัฒนาการรอบด้านของลูกรัก

เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่เปิดมาเป็นเวลายาวนาน ผ่านทุกกระแสการเปลี่ยนผ่านของการศึกษาในไทย ทั้งยุคของการปฎิรูปการศึกษา กระแสของ Montessori, Waldorf, Whole Language, Project Approach ฯลฯ และทีมผู้บริหารที่เป็นนักการศึกษาอย่างแท้จริง ทำให้ที่นี่เปิดรับทุกแนวทางที่ดีมาทดลองใช้ และเลือกผสมผสานหลากหลายแนวทางให้เหมาะสมกับเด็กๆ จนกลายเป็นหลักสูตรเฉพาะของโรงเรียนวรรณสว่างจิต ที่โรงเรียนจะยึดหลักของวอลดอร์ฟ (Waldorf) ในการดูแลบ้านเด็กเล็ก (2-3 ปี) การปรับใช้ Whole Language และ Project Approach ในระดับชั้นอนุบาล และ การใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านการเรียนรู้แบบบูรณาการแบบโครงการ (Project Approach) ในระดับชั้นประถม แต่ยังคงได้กลิ่นอายของ วอลดอร์ฟ (Waldorf) ในกิจกรรมต่างๆ ของเด็กๆ

บรรยากาศห้องของบ้านเด็กเล็ก เด็กๆ จะได้รับการช่วยเหลือให้ทานอาหารด้วยตัวเอง

บรรยากาศห้องของเรือนอนุบาล ที่ไม่มีโต๊ะ และให้เด็กได้เรียนรู้อย่างอิสระ

ห้องเรียนอากาศธรรมชาติในชั้นประถม

การเรียนรู้แบบบูรณาการผ่านโครงการ (Project Approach) แบบฉบับ โรงเรียนวรรณสว่างจิต

การเรียนรู้ที่เด็กๆ จะได้เป็นผู้เริ่มต้นการตั้งคำถามตามความสนใจ และร่วมค้นคว้าหาคำตอบ ทดลอง และดูผลไปด้วยกันกับเพื่อนๆ และคุณครู ยกตัวอย่างเช่น การเรียนรู้เรื่องข้าว เด็กๆ ในระดับอนุบาลของที่นี่จะได้เรียนรู้ตั้งแต่การแช่เมล็ดข้าว หว่านข้าว เฝ้ารอการเติบโต เกี่ยวข้าว จนกลายมาเป็นอาหาร สอดแทรกเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การใส่รองเท้าบูท การเล่นโคลน เมล็ดพืช การเติบโตของต้นไม้ คุณค่าทางอาหาร

ในระดับประถม นอกจากกระบวนการพื้นฐาน เด็กโตจะได้ตั้งคำถามเพิ่มตามความสนใจ จนกลายเป็นโครงการวิจัยย่อมๆ เช่น การเปรียบเทียบผลผลิตระหว่างนาดำกับนาหว่าน การเชื่อมโยงกับสำนวนภาษาไทยที่เกี่ยวกับการทำนา การจัดการพื้นที่แบบเศรษฐกิจพอเพียง ไปจนถึงอาชีพชาวนาเชื่อมโยงกับข่าวสารปัจจุบัน

ที่โรงเรียนวรรณสว่างจิต เด็กๆ จึงได้ ทั้งทำนา ปลูกผัก เลี้ยงไก่ รีดผ้า ซักผัก จุดเตาไฟทำอาหาร ฯลฯ การเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เชื่อมโยงมาสู่ชีวิตประจำวันจนกลายเป็นทักษะการใช้ชีวิตที่จะติดตัวเขาไปจนโต

เด็กๆ ชั้นอนุบาลเรียนรู้เรื่องต้นไม้-ดอกไม้ ด้วยสภาพแวดล้อมธรรมชาติของโรงเรียน

ชิ้นงานของพี่ๆ ชั้นประถมในโรงเรียน

ร่มรื่นน่าอยู่และเงียบสงบ

เราอยากให้เด็กเติบโตไปเป็นคนเช่นไร เราต้องเลี้ยงดูเขาภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนั้น คือหลักการที่เหล่าคุณพ่อคุณแม่ทราบดี เราจึงมักเลือกโรงเรียนอย่างละเอียดรอบคอบให้กับลูกๆ ของเรา ที่โรงเรียนวรรณสว่างจิตเป็นโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ที่นอกจากจะร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายพันธุ์ที่แค่ได้เดินสำรวจก็เรียนรู้ได้มากมายแล้ว ห้องเรียนที่นี่ยังเปิดกว้างรับอากาศธรรมชาติ

ความเรียบง่าย ดูสมถะของบรรยากาศในโรงเรียน ล้วนสอดแทรกความเอาใจใส่ในทุกๆ ตารางเมตร ทั้งหลังคาใบจากตามทางเดินคือวัสดุธรรมชาติที่ต้องได้รับการดูแลปรับปรุงอยู่เสมอ ถึงจะบังแดดบังฝนได้ดี ป้ายบอกทาง-ป้ายให้ข้อมูลต่างๆ ที่เขียนด้วยมือ สะท้อนถึงการลงมือทำด้วยตัวเองตั้งแต่ระดับบุคลากร ความสะอาดของโรงเรียนที่เกิดจากความร่วมมือของทุกคน ล้วนปลูกฝังให้เด็กมีความรับผิดชอบ ดูแลรักษาพื้นที่ส่วนรวม และเห็นใจผู้อื่น

ภายในบริเวณโรงเรียนสะอาดมาก มีการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ และสอนให้เด็กๆ แยกขยะทุกจุด

 โถงทางเดินเข้าโรงเรียนทำจากหลังคาใบจาก ตกแต่งด้านข้างด้วยกิจกรรมนักเรียนตลอดทาง ให้ความรู้สึกเป็นมิตรและอบบอุ่นตั้งแต่ก้าวเข้าโรงเรียน

 

การโอบอุ้มจิตใจในบ้านเด็กเล็ก (2-3ปี)

-บ้านเด็กเล็กของที่นี่ใช้หลัก Waldorf เป็นหลัก

-คุณครูได้รับการอบรมการศึกษาแบบ Waldorf อย่างเข้มข้น มีการดูงานจากหลายประเทศ แล้วจึงนำหลักการมาใช้กับเด็กเล็ก ซึ่งพบว่าเหมาะมาก

-ใช้เพลงในการบอกกิจวัตรต่างๆ โดยไม่มีการใช้คำสั่ง

-คุณครูใจดี น้ำเสียงอบอุ่น จนเด็กๆ รู้สึกถึงความมั่นคงทางจิตใจ

-ใช้ตุ๊กตาผ้าไร้หน้าแทนจินตนาการ ฝึกเด็กๆ ให้สำรวจอารมณ์ของตัวเอง เพราะอารมณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สีหน้าดีใจของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

-ของเล่นทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ผ้า งานไม้

-มีสนามเด็กเล่นเป็นโซนของตัวเองแยกจากพี่ๆ เพื่อให้เด็กเล็กเล่นเต็มที่ได้อย่างปลอดภัย มีแม้กระทั่งแปลงนา-แปลงผักก็แยกเป็นโซนของตัวเอง

-สร้างจังหวะชีวิตที่สม่ำเสมอให้กับเด็ก ผ่านกิจวัตรประจำวัน และฤดูกาล

พื้นที่ในโซนบ้านเด็กเล็ก มีรั้วล้อมรอบปลอดภัย สามารถปล่อยให้เด็กๆ สำรวจสิ่งต่างๆได้อย่างอิสระ

 ของเล่นจากวัสดุธรรมชาติ

 

เรือนอนุบาลพัฒนาการสมวัย

-ปรับใช้ Whole Language และ Project Approach เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้

-เรียนรู้ที่มาที่ไปของสิ่งต่างๆ สามารถเชื่อมโยงได้ ไม่เร่งเขียนอ่าน

-เรียนรู้ผ่านนิทาน ทำให้เด็กๆ รักการอ่าน มีคลังศัพท์มาก และมีจินตนาการ

-ของเล่นจากวัสดุธรรมชาติ เน้นการประดิษฐ์สร้างชิ้นงาน และลงมือทำด้วยตัวเอง

-เริ่มเรียนรู้จากสิ่งรอบตัวไปสู่เรื่องไกลตัว คุณครูส่งเนื้อหาหน่วยการเรียนรู้ประจำเทอมให้ผู้ปกครองล่วงหน้า ผู้ปกครองสามารถส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องเดียวกันจากที่บ้านได้ด้วย

-เสริมสร้างทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา

-ปลูกฝังการสังเกต และการตั้งคำถาม

-มีละครหุ่นทุกวันจันทร์ เด็กๆ จะได้ฟังเรื่องราวก่อนแล้วสรุปความเป็นชื่อเรื่องด้วยกัน

ในเรือนอนุบาล เด็กๆ จะได้เรียนรู้การช่วยเหลือตัวเอง ในบรรยากาศสบายๆ ไม่เคร่งเครียด ภายในห้องเรียนก็เต็มไปด้วยชิ้นงานที่เขาลงมือทำด้วยตัวเอง

 

ทักษะการใช้ชีวิตในลานประถม

-ในระดับชั้นประถม ที่นี่จะรวมรายวิชาที่มีความเกี่ยวข้องกันแล้วใช้การเรียนการสอนแบบบูรณาการคือ หมวดวิทยาศาสตร์-สุขศึกษา และหมวดสังคมศาสตร์-ประวัติศาสตร์-พุทธศาสนา-การงานอาชีพ

-ถึงจะเป็นชั้นประถมแต่ถือว่าเป็นพี่ใหญ่ของโรงเรียน เด็กๆ จะได้เรียนรู้การทำหน้าที่ มีความรับผิดชอบ ดูแลน้องๆ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ประจำปี เช่น ทำนา กิจกรรมสานพลัง (กีฬาสี)

-เด็กๆ กล้าคิด กล้าทำ รู้จักตั้งคำถามและแก้ปัญหา คิดเป็นกระบวนการและวางแผนงาน

-เน้นกระบวนการคิด การลงมือทำ ปฏิบัติจริง ไม่ใช่ผลลัพธ์

-โรงเรียนมีค่ายลูกเสือของตัวเอง คือ ไร่เรียนรู้วรรณสว่างจิต อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โรงเรียนส่งคุณครูไปอบรมลูกเสือ แล้วจึงออกแบบกิจกรรมให้เด็กๆ เอง ทำให้เป็นค่ายที่ปลอดภัยและได้ฝึกทักษะที่จำเป็น เด็กจะได้ประกอบอาหาร ดูดาว ตั้งแคมป์ด้วยตัวเอง

-มีงานประจำปีคืองานผลิใบที่รวมผลงานการเรียนรู้ และวิพิธทัศนาซึ่งเป็นการแสดงโขน-นาฏศิลป์-ดนตรี เพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่นและถ่ายทอดความสามารถเฉพาะตัวของตัวเอง

บรรยากาศชั้นเรียนพี่ประถม

 

Mommy’s Love This! ถูกใจแม่สุดๆ

โรงเรียนนี้ห้องเรียนไม่มีแอร์ ซึ่งดีต่อสุขภาพมากกว่าการนั่งอยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน มีเครื่องวัดค่า PM 2.5 อยู่ทั่วโรงเรียน มีเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ทุกห้อง โดยปกติจะไม่เกินสีเหลืองเพราะรอบโรงเรียนเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ แต่ในวันที่ฝุ่นเยอะมากจะมีการแจ้งเตือนนักเรียนให้สวมหน้ากากอนามัย

ชุดเรียนหลักคือชุดกิจกรรมที่เป็นผ้ายืดใส่สบาย ใส่สัปดาห์ละ 3 วัน เครื่องแบบนักเรียนหญิงเป็นกางเกง

มีเรียนว่ายน้ำภายในโรงเรียน สระว่ายน้ำ 2 สระ แยกคนละจุดกันระหว่างเด็กเล็ก-อนุบาลกับประถม เปิดโล่งและมีรั้วล้อมรอบปลอดภัย

สนามเด็กเล่นถึง 3 จุด แยกเป็นของเด็กเล็ก อนุบาล และประถม เครื่องเล่นเหมาะสมตามวัย

ความสัมพันธ์ของคุณครูและนักเรียนที่สนิทสนมเป็นมิตรต่อกัน คุณครูที่นี่เข้าใจและยอมรับตัวตนของเด็กทุกคน เมื่อเดินผ่านจะเห็นคุณครูและนักเรียนทักทายพูดคุยกันตลอดทาง

สระว่ายน้ำเด็กเล็กที่ความลึกเพียงระดับหัวเข่าของเด็ก ทำให้สามารถเรียนว่ายน้ำอย่างปลอดภัย มีคุณครูคอยดูแลอยู่ด้านบนอีก 2 ท่าน

อัตราค่าเล่าเรียน (ค่าเทอม มี 3 เทอม)

เด็กเล็ก เทอมละ 30,000 บาท

อนุบาล 1 – 3 เทอมละ 34,000 บาท

ประถม 1 – 3 เทอมละ 38,000 บาท

ประถม 4 – 6 เทอมละ 40,000 บาท

 

โรงเรียนวรรณสว่างจิต

ที่อยู่ : 137 ถนนพระราม2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150

โทร: 0-2415-1411, 091-776-4246

เว็บไซต์ : https://www.wsc.ac.th/th/

Facebook : https://www.facebook.com/Wansawangchit28

 

Editor : แม่น้องอลินดา

ภาพ : นันทิยา บุษบงค์


อ่านต่อบทความน่าสนใจ

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up