วิธีล้างขวดนม ที่ถูกต้อง พร้อมวิธีฆ่าเชื้อโรค เพื่อสุขอนามัยของลูกรัก
การดูแลความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของลูกน้อยเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำความสะอาดขวดนม ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกต้องใช้ดื่ม ต้องสัมผัสตลอดเวลา จึงต้องรักษาความสะอาดเป็นพิเศษ วันนี้ทีมแม่ ABK มี วิธีล้างขวดนม มาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคน รวมไปถึงวิธีการฆ่าเชื้อโรคอย่างถูกต้อง เพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกรัก
วิธีล้างขวดนม พร้อมวิธีฆ่าเชื้อโรค ปลอดภัย มั่นใจได้เรื่องความสะอาด
เชื้อโรคที่แฝงมากับคราบนม อันตรายหากล้างไม่สะอาด
![]()
มีการศึกษาจาก Ohio State University Center for Clinical and Translational Science เผยว่า ช้อน ส้อม และภาชนะบรรจุอาหารทั้งแบบสเตนเลส หรือพลาสติก มักจะเหลือคราบอาหารตกค้างอย่างพวกครีมหรือคราบจากนม ซึ่งคราบตกค้างเหล่านี้เต็มไปด้วยเชื้อ Norovirus ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสอันเป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน
ดังนั้น อาการท้องเสียอย่างเฉียบพลันในเด็กเล็ก จึงอาจมีสาเหตุมาจากเชื้อโนโรไวรัส ที่มาจากคราบนมที่ตกค้างอยู่กับภาชนะ เช่น ขวดนม จุกนม ที่ไม่สะอาดก็ได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่งในการทำความสะอาดแต่ละครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายที่แฝงมากับของใช้ของลูกรัก
อ่านเพิ่มเติม >> เด็กท้องเสีย อาเจียน เพราะโนโรไวรัสระบาด
เห็นอันตรายจากเชื้อโรคที่แฝงมากับคราบนมที่ติดอยู่ในขวดนมลูกแล้ว ต่อไปคุณแม่จะทำความสะอาดขวดนมลูกโดยการล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดอย่างเดียวคงไม่พอ การล้างขวดนมนั้นต้องให้แน่ใจว่าล้างสะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อหลายขั้นตอน คุณแม่ต้องใช้น้ำยาล้างขวดนมแบบไม่มีสารเคมีตกค้างที่ปลอดภัย และอ่อนโยนสำหรับลูกน้อย แล้วตามด้วยการต้ม หรือนึ่งด้วยความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรค
วิธีล้างขวดนม จุกนม ให้สะอาด ปราศจากคราบ
![]()
อุปกรณ์สำหรับล้างขวดนม จุกนม ที่คุณแม่ต้องเตรียม ได้แก่ น้ำยาล้างขวดนม แปรงหรือฟองน้ำสำหรับล้างขวดนม และมีวิธีการล้างขวดนมดังนี้
1. ถอดชิ้นส่วนของขวดนมออก จากนั้นล้างขวดนม จุกนมด้วยน้ำเปล่าเพื่อให้น้ำนมที่หลงเหลือในขวดนมออกมาให้หมด
2. ผสมน้ำยาล้างขวดนม (เลือกที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ) กับน้ำสะอาด จากนั้นใช้ฟองน้ำ แปรงล้าง ขวดนม จุก นมทั้งด้านใน และด้านนอกให้สะอาด
3. ล้างขวดนม จุกนมในน้ำสะอาดประมาณ 2 – 3 รอบ
4. ใช้ความร้อนฆ่าเชื้อโรค ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
วิธีล้างขวดนม โดยการใช้ความร้อนฆ่าเชื้อโรค
หลังจากทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างขวดนมแล้ว แนะนำให้คุณแม่นำขวดนม และจุกนมลูกมาต้ม หรือนึ่งด้วยความร้อน ซึ่งอุปกรณ์ของใช้ที่ต้องเข้าปากลูกทุกชิ้น หลังล้างทำความสะอาดแล้ว ก็สามารถนำมาต้ม หรือนึ่งได้เช่นกันค่ะ
สำหรับการใช้ความร้อนฆ่าเชื้อโรคให้ภาชนะสะอาดปลอดเชื้อโรค สามารถเลือกใช้ได้ตามแต่คุณแม่แต่ละท่านมีอุปกรณ์ และความสะดวก ซึ่งสามารถเลือกได้จาก 2 วิธีตามนี้
1. การฆ่าเชื้อด้วยการวิธีต้ม
![]()
- เติมน้ำสะอาดลงในกระทะ หรือหม้อใบใหญ่(ที่ไม่เคยใช้ปรุงอาหารมาก่อน)
- จุ่มอุปกรณ์ทั้งหมดรวมทั้งคีมจับจุกนมลงในน้ำ ระวังอย่าให้มีฟองอากาศขังอยู่
- ปิดหม้อและต้มอย่างน้อย 10 นาที ระวังอย่าต้มจนน้ำแห้ง อุปกรณ์ทั้งหมดจะต้องจมอยู่ในน้ำเดือด
- ปล่อยให้อุปกรณ์คลายความร้อนทีละน้อย และให้ปิดฝาหม้อไว้ดังเดิม
- ใช้คีมจับจุกนมประกอบขวดนมเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ที่ฆ่าเชื้อแล้วปนเปื้อนเชื้อโรค
- อุปกรณ์ที่แช่อยู่ในน้ำโดยปิดฝาไว้จะอยู่ในสภาพปลอดเชื้อได้ราว 3 ชั่วโมง
2. เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อไอน้ำ
- เติมน้ำตามปริมาณที่คู่มือได้บอกไว้
- นำอุปกรณ์รวมทั้งคีมจับจุกนมใส่เครื่องนึ่ง ระมัดระวังอย่าให้อุปกรณ์อยู่ในแนวตั้งและอุปกรณ์ทั้งหมดจะต้องแช่อยู่ในน้ำ
- ปิดฝาและเปิดเครื่อง
- ห้ามเปิดฝาเครื่องนึ่ง ปล่อยให้อุปกรณ์คลายความร้อนลงเล็กน้อยก่อนเปิดฝา
- ใช้คีมจับจุกนมประกอบขวดนมเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ที่ฆ่าเชื้อแล้วปนเปื้อนเชื้อโรค
![]()
- อุปกรณ์จะอยู่ในสภาพปลอดเชื้อตราบเท่าที่ยังปิดฝาอยู่
- และควรล้างคราบตกค้างในเครื่องนึ่งให้สะอาดหลังการใช้งาน
อ่านเพิ่มเติม >> 7 น้ำยาล้างขวดนม ยี่ห้อไหนดี ล้างสะอาด ไม่ทิ้งคราบ ปลอดภัยกับลูกน้อย
อ่านเพิ่มเติม >> WHO เผย! ขั้นตอนและ วิธีการชงนม ล้าง ฆ่าเชื้อ ที่ถูกต้อง
สิ่งที่ควรทำก่อน – หลัง นำภาชนะไปฆ่าเชื้อ
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อขวดนม ก็คือการรักษาความสะอาดของคุณพ่อคุณแม่เอง เช่น การล้างมือให้สะอาดเสมอ การทำความสะอาดอุปกรณ์ รวมไปถึงวิธีการเก็บภาชนะภายหลังการฆ่าเชื้อ ดังนี้
สิ่งที่ควรทำก่อนภาชนะไปฆ่าเชื้อ
- คุณแม่คววรล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำยาล้างมือ
- ใช้แปรงขัดขวดนมทั้งด้านในและด้านนอก
- ใช้แปรงขัดจุกนมและบีบน้ำออกจากหัวจุกนมเพื่อชะล้างคราบนมที่ตกค้าง
- ล้างอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
สิ่งที่ควรทำหลังนำภาชนะไปฆ่าเชื้อ
- ล้างมือก่อนหยิบจับอุปกรณ์
- นำอุปกรณ์ทั้งหมดมาเก็บในภาชนะบรรจุ
- หากยังไม่ได้นำมาใช้ทันทีให้ประกอบขวดนมกับจุกนมและปิดฝาให้สนิท
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิง
health.kapook.com, thainannyclub.com
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม
เช็กก่อนซื้อ! “สัญลักษณ์ที่ก้นขวดนมลูก” หากไร้มาตรฐาน..เสี่ยงลูกป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง