ทางสายกลาง

การเลี้ยงลูก จะให้ดี ควรเลี้ยงลูก ด้วย “ทางสายกลาง”

จิตแพทย์แนะ การเลี้ยงลูก จะให้ดีมีความสุขทุกฝ่าย ควรเลี้ยงด้วย “ทางสายกลาง”

 

 

ทางสายกลาง คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนให้เรารู้จักวิธีการดำรงชีวิต ไม่ยึดติดสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป เพื่อชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริง และสิ่งนี้นี คือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนควรนำมาใช้กับลูก เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริง

 “เลี้ยงลูกอย่างไรดี” เป็นประเด็นที่พ่อแม่หลายคนในยุคสมัยนี้ค่อนข้างเป็นกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยุคที่มีสื่อและเทคโนโลยีต่าง ๆ มาล่อตาล่อใจลูก!

บางครอบครัวไม่อนุญาตให้ลูกเล่นหรือสัมผัสกับสิ่งของเหล่านี้เลย แต่กลับบางครอบครัวก็กลับให้เล่นมากเกินไปจนทำให้สูญเสียความสัมพันธ์ในครอบครัวไปบ้างก็มี

และแน่นอนค่ะว่าการห้ามหรือปล่อยลูกมากเกินไปนั้นไม่ใช่วิธีการเลี้ยงลูกที่ถูกต้องแน่นอน และวิธีไหนละ ที่จะนำพาพวกเราทุกคนให้มีความสุขได้?

อ่านต่อเนื้อหาเพิ่มเติม คลิก>> 

    หมอแนะ การเลี้ยงลูกที่ดี ทำได้ด้วย 3 สูตรสำเร็จนี้!

    สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ หากคุณกำลังมองหาแนวทาง การเลี้ยงลูกที่ดี ที่สุดอยู่แล้วล่ะก็ ลองอ่านบทความต่อไปนี้ รับรับว่าคุณจะได้สูตรสำเร็จในการเลี้ยงลูก ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รับมือกับลูกได้ทุกกรณีอย่างแน่นอน

    Continue reading “หมอแนะ การเลี้ยงลูกที่ดี ทำได้ด้วย 3 สูตรสำเร็จนี้!”

      ประกันสุขภาพลูกน้อย

      รีวิว ประกันสุขภาพลูกน้อย แบบไหนดี คุ้ม เหมาะกับลูกที่สุด!

      เพราะชีวิตลูกสำคัญที่สุด!! และสำหรับลูกน้อยแล้วอาจเจ็บป่วยได้ง่าย การทำ ประกันสุขภาพลูกน้อย จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยเซฟเงินให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ในยามที่ลูกน้อยป่วยหนัก จนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล

      Continue reading “รีวิว ประกันสุขภาพลูกน้อย แบบไหนดี คุ้ม เหมาะกับลูกที่สุด!”

        มะเร็งรังไข่

        มะเร็งรังไข่ ภัยร้ายเงียบ ทำผู้หญิงเสียชีวิตมากกว่ารอด

        มะเร็งรังไข่ เป็นมะเร็งอีกชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นได้กับอวัยวะสืบพันธุ์ในผู้หญิง และที่น่าตกใจคือเป็นมะเร็งในผู้หญิงอันดับ 3 ที่พบว่าเกิดขึ้นได้บ่อย และก็เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่สูงมากด้วยเช่นกัน ทีมงาน Amarin Baby & Kids จะพาคุณแม่  รวมถึงสาวๆ ทุกคนไปรู้จักกับมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์ชนิดนี้กันค่ะ

         

        มะเร็งรังไข่ สาเหตุ และปัจจัยที่เสี่ยง ?

        เมื่อพูดถึงมะเร็งเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนไม่อยากป่วยด้วยโรคร้ายนี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะ มะเร็งรังไข่ ที่ถือเป็นหนึ่งใน โรคมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์ที่กลัวกันมาก เพราะในปัจจุบันพบว่าอัตราการรอดชีวิต 5 ปี ของผู้ป่วยมะเร็งชนิดนี้เฉลี่ยแล้วเพียง ร้อยละ 25-30 สรุปง่ายๆ คือ หากคุณแม่หรือสาวๆ ที่เป็นมะเร็งในรังไข่ จะมีโอกาสการรอดชีวิตภายใน 5 ปี เพียง 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 4 ของจำนวนผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ทั้งหมด  เห็นไหมคะว่าน่ากลัวมากแค่ไหน!!

        ส่วนสาเหตุ และปัจจัยที่ผู้หญิงเสี่ยงต่อการป่วยจากมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์ชนิดนี้ มาได้จากหลายสาเหตุ นั่นคือ…

        1. คนในครอบครัวโดยเฉพาะมารดา พี่สาว/น้องสาว หรือลูกสาวมีประวัติสุขภาพเคยเป็นมะเร็งรังไข่
        2. ผู้หญิงที่อายุมากกว่า 63 ปีขึ้นไป พบว่าป่วยเป็นมะเร็งรังไข่ได้มากถึงร้อยละ 50
        3. ผู้หญิงที่มีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี
        4. ผู้หญิงที่ยังไม่เคยแต่งงานหรือไม่มีลูก
        5. ผู้หญิงที่คลอดบุตรคนแรกหลังจากอายุ 30 ปีแล้ว
        6. ผู้หญิงที่หมดประจำเดือนช้ากว่าอายุ 55 ปี
        7. ผู้หญิงที่เคยมีประวัติสุขภาพเคยเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งลำไส้
        8. ผู้หญิงที่มีลูกแล้วไม่ได้ให้ลูกกินนมแม่ ซึ่งการให้นมลูกจะทำให้รังไข่หยุดทำงาน ส่งผลให้โอกาสป่วยมะเร็งรังไข่น้อยลง
        บทความแนะนำ คลิก>> วิธีสังเกตลักษณะต้องสงสัย “มะเร็งไฝ”

        และไม่ว่าคุณจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจป่วยเป็นมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์หรือไม่ก็ตาม การตรวจเช็กร่างกายอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างมาก เพราะถึงจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ป่วยเป็นมะเร็ง อันนี้รวมถึงมะเร็งทุกชนิดในผู้หญิงเลยค่ะ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงควรต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ทานอาหารที่มีประโยชน์(บุหรี่ เหล้า ควรเลิกอย่างเด็ดขาด) ออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด เป็นต้น

        อ่านต่อ เช็ก 11 สัญญาณเตือนอาจป่วยมะเร็งในรังไข่ หน้า 2

         

        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

          สอนลูกวาดรูป

          สอนลูกวาดรูป สัตว์ ไม่ใช่เรื่องยาก!

          สอนลูกวาดรูป ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แค่คุณพ่อคุณแม่ให้ลูกวาดตามขั้นตอนนี้เท่านั้น!

           

           

          ขึ้นชื่อว่า ศิลปะและการวาดภาพ คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะกำลังคิดว่า ฉันไม่สามารถสอนลูกได้หรอก ก็ฉันวาดรูปอะไรไม่เก่ง แค่รูปรถซักคันยังทำไม่ได้เลย วาดเป็นอย่างเดียวรูปพระอาทิตย์กับพระจันทร์ แล้วจะให้เอาความสามารถที่ไหนมาสอนลูกได้!

          จุ๊ ๆ อย่าเพิ่งกังวลใจไปนะคะ เพราะแท้จริงแล้ว ศิลปะและการวาดภาพนั้นง่ายนิดเดียว! หากคุณพ่อคุณแม่บอกว่า วาดไม่ได้วาดไม่เป็น แล้วทำไมไม่ลองวาดไปพร้อม ๆ กันกับลูกเลยเสียเลยละคะ เพราะนอกจากจะได้วาดภาพได้แล้ว ยังเป็นการสร้างกระชับความสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมนี้ได้อีกด้วย

           

          ว่าแต่เอ … ศิลปะช่วยให้สมองของลูกทำงานได้อย่างไร

          หาคำตอบได้ที่หน้าถัดไปเลยค่ะ >>

            พาลูกขึ้นเครื่องบิน

            พาลูกขึ้นเครื่องบิน กับวิธีแก้ปัญหาเสียงร้องไห้ของลูกบนเครื่องบิน

            พาลูกขึ้นเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกหรือเคยพาขึ้นมาหลายครั้งแล้ว เรื่องหนึ่งที่พ่อแม่ต้องเจอคือ ลูกร้องไห้บนเครื่องบิน ซึ่งยากที่จะควบคุมสถานการณ์ได้ และเพื่อให้การขึ้นเครื่องบินของเด็กๆ ไม่เป็นประสบการณ์ที่แย่ของพ่อแม่และลูก ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีวิธีแก้ปัญหามาบอกให้ทราบกันค่ะ

             

            พาลูกขึ้นเครื่องบิน แล้วทำไมถึงร้องไห้กันนะ!

            หลายๆ ครอบครัวอาจไม่สนุกกับการ พาลูกขึ้นเครื่องบิน เอาซะเลย เพราะพาขึ้นทีไรเป็นต้องร้องไห้ทุกที หรืออย่างพ่อแม่บางคนก็เป็นครั้งแรกที่ต้องพาลูกเล็กโดยสารเครื่องบิน ก็ช่างไม่เป็นใจเพราะลูกร้องไห้ดังจนเกรงใจคนนั่งข้างๆ เลย แต่จะไปว่าเด็กเล็กๆ เขาก็ไม่ได้ค่ะ เพราะมีหลายสาเหตุที่ทำให้พวกเขาร้องไห้  มาดูกันว่าปัจจัยใดบ้างที่ทำให้เด็กร้องไห้บนเครื่องบิน

            • ความกดอากาศภายในเครื่องบินที่ทำให้เด็กมีอาการปวด หรือเจ็บภายในหูขึ้นมา โดยเฉพาะช่วงเครื่องบินๆ ขึ้น (Take-off) และช่วงเครื่องบินเตรียมลดระดับลงจอด (Landing)
            • กลัวเสียงเครื่องยนต์ และความสั่นของเครื่องบินในบางช่วงเวลาของการเดินทาง
            • รู้สึกกลัวคนแปลกหน้าที่นั่งข้างๆ และการเดินพลุกพล่านของแอร์ สจ๊วต และผู้โดยสาร
            • รู้สึกไม่ชินกันการนั่งในที่แคบนานๆ หรือมีความกลัวที่แคบ
            • รู้สึกเบื่อที่ต้องอยู่บนเครื่องบินนานหลายชั่วโมง
            • โดยสารเครื่องบินขณะป่วย โดยเฉพาะถ้าเป็นหวัดอยู่ด้วย ก็ยิ่งทำให้เด็กไม่สบายตัว ปวดหูได้ง่ายกว่าปกติ
            • อื่นๆ

            ดูจากสาเหตุแล้วก็น่าเห็นใจเด็กๆ อยู่นะคะ และก็รวมถึงพ่อแม่ด้วย ฉะนั้นถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เผอิญต้องนั่งติดแถวเดียวกับที่มีเด็กเล็กๆ ด้วย ซึ่งถ้าเด็กร้องไห้ไม่หยุดง่ายๆ คุณอาจขอเปลี่ยนที่นั่งได้โดยแจ้งพนักงานบนเครื่องบิน ถ้าเที่ยวบินนั้นมีที่นั่งว่างค่ะ

            อ่านต่อ คนญี่ปุ่นแก้ปัญหาลูกร้องไห้บนเครื่องบินด้วยวิธี หน้า 2

             

            เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

              ลูกชอบถาม

              จิตแพทย์เผย! ลูกชอบถาม คำถามซ้ำ เป็นเรื่องปกติ

              พ่อจ๋า แม่จ๋า อย่ารำคาญ “ลูกชอบถาม” มากเท่าไร ยิ่งเสริมพัฒนาการลูกมากเท่านั้น!

              คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนบ้างคะ ที่กำลังปวดหัวกับร้อยแปดคำถามของลูกกันอยู่ หรือพูดง่าย ๆ ว่าต่อให้ถามคำถามเดียวก็เหอะ แต่คุณลูกก็จะถามวนอยู่อย่างนั้นเป็นสิบ ๆ รอบได้

              ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่กำลังเผชิญกับเหตุการณ์นี้อยู่แล้วกำลังมองหาวิธีแก้ วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids ได้นำบทความดี ๆ ของแพทย์หญิง ปริชวัน จันทร์ศิริ จิตแพทย์เด็ก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มาฝากไว้เป็นแนวทางให้กับทุกบ้านที่มีลูกอยู่ในวัยชอบถามและขี้สงสัยมาฝากกันค่ะ

              คุณหมอได้อธิบายว่า ส่วนใหญ่จะเกิดกับเด็กวัยอนุบาล เนื่องจากเด็กวัยนี้ เป็นวัยกำลังเรียน และช่างพูดเจรจา เรียกได้ว่า พ่อแม่ต้องเตรียมหูไว้เลย เพราะบางครั้ง เมื่อเด็กได้เข้าสังคม เรียนหนังสือ และต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่ต่างไปจากบ้าน ซึ่งถือเป็นโลกใบใหม่ที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน อาจเป็นตัวตั้งคำถามให้ลูกได้ไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น ทำไมท้องฟ้าถึงเป็นสีฟ้า คุณแม่มีน้องได้อย่างไรค่ะ ซึ่งแต่ละคำถามของเด็ก เป็นคำถามที่แม้แต่คุณพ่อคุณแม่เองก็ไม่รู้จะตอบคำถามลูกได้อย่างไร

              ก่อนที่จะไปดูว่าลูกถามบ่อย ๆ แบบนี้ผิดปกติหรือมไม่นั้น คุณหมอกล่าวว่า เราจะต้องมาทำความเข้าใจกับธรรมชาติของเด็ก ๆ กันก่อนค่ะ สำหรับเด็กนั้น พวกเขาไม่ได้ต้องการคำอธิบายอะไรลึกซึ้งมากมายเลยค่ะ ด้วยความอยากรู้คำถามของลูกส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคำถามง่าย ๆ ยกตัวอย่างเช่น หนูเกิดมาได้อย่างไร คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถตอบคำถามลูกได้ไม่ยากเลยค่ะ ก็อาจจะตอบว่า เพราะความรักอย่างไรละจ้ะ หรือบางครั้งลูกอาจจะถามว่า แม่มีน้องได้อย่างไร คุณแม่ก็ตอบคำถามลูกด้วยการอธิบายง่าย ๆ ไปเลยค่ะว่า มีน้องก็เหมือนกับแม่มีหนูไงจ้ะ และหนูก็จะได้มีเพื่อนเล่นด้วย ดีไหม? เป็นต้น

              เทคนิครับมือลูกน้อยขี้สงสัย คลิกหน้า 2

               

              เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                หยุดก่อนสาย! ลูกติดเกม ส่งผลเสียกับเซลล์สมอง

                แยกให้ออกระหว่าง ลูกติดเกม กับลูกเล่มเกม … รู้ทันก่อนสาย เล่มเกมมากส่งผลเสียกับเซลล์สมอง!

                 

                 

                เกม คือสิ่งที่เล่นแล้วสนุกหรือเล่นแล้วติด … แยกไม่ออกเลยใช่ไหมละคะ เพราะอาการของทั้งสองอย่างนั้นไม่มีอะไรแตกต่างเลยแม้แต่นิดเดียว คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะปฏิเสธว่า ลูกฉันไม่ได้ติดเกม ก็แค่เล่นเกมสนุกคลายเครียดเท่านั้น และฉันก็ไม่ได้ให้ลูกเล่นนานด้วย!

                ดีใจด้วยค่ะ! คุณพ่อคุณแม่กำลังทำสิ่งที่ถูกแล้ว การจำกัดเวลาให้ลูกเล่นเกมได้อย่างสนุกบ้างนั้น เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหาก เหนือการควบคุมและเริ่มแสดงอาการดังต่อไปนี้ละคะ ยกตัวอย่างเช่น ลูกเล่นไม่เลิก เล่นทั้งวันทั้งคืน เล่นจนไม่ออกไปพบปะผู้คน เก็บตัว ฉุนเฉียวง่าย เหม่อลอย หรือก้าวร้าว เป็นต้น ถ้าหากลูกกำลังแสดงอาการเหล่านี้ละก็ ลูกของคุณพ่อคุณแม่กำลังติดเกม แล้วละค่ะ

                น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต บอกว่า ปัญหาเด็กติดเกมเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะเด็กทุกคนที่เล่นเกมมีความเสี่ยง “เสพติดเกม” ซึ่งเป็นปัญหาพฤติกรรมเสพติดทางสมอง เช่นเดียวกับ “ติดสารเสพติด”

                “จากการเก็บข้อมูลที่ผู้ปกครองโทรศัพท์เข้ามาปรึกษาปัญหาเรื่องลูกติดเกม พบว่า สิ่งที่ตามมาหลังการติดเกม ก็คือ เด็กมีปัญหาด้านสุขภาพจิต ทั้งเรื่องของความเครียด อารมณ์แปรปรวน มีปัญหาการเรียนตกต่ำ ผลการเรียนแย่ลงอย่างชัดเจน พัฒนาการไม่สมวัย มีพฤติกรรมก้าวร้าวใช้ความรุนแรงเลียนแบบเกม ยังไม่รวมความเสี่ยงของการเกิดโรคร่วมทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล รุนแรงถึงขั้นโรคจิตเวช และฆ่าตัวตาย

                อ่านต่อ >> ลูกติดเกม มีผลกับสมองจริงหรือไม่?!

                  ท่าร่วมรัก

                  7 ท่วงท่าร่วมรักสำคัญ ที่คู่รักทุกคน ต้องรู้!

                  ท่าร่วมรัก ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรทั้ง เซ็กซ์ กามารมณ์ ร่วมเพศ ทำรัก ฯลฯ หรืออาจมีมากกว่าคำที่กล่าวมาก็ตาม กิจกรรมแห่งความรักและความพิศวาสที่เกิดจากธรรมชาติเรียกร้องนั้น คำที่เหมาะสมที่สุดน่าจะเป็นคำว่า…ร่วมรัก

                  Continue reading “7 ท่วงท่าร่วมรักสำคัญ ที่คู่รักทุกคน ต้องรู้!”

                    ลักพาตัวเด็ก

                    คลิปวินาที! คนร้ายพยายาม ลักพาตัวเด็ก ไปจากหน้าบ้าน!

                    แม่โพสต์เตือนภัย! หลังคนร้ายจอดรถตู้ที่หน้าบ้าน และพยายาม ลักพาตัวเด็ก ด้วยการเอาโดนัทมาเป็นเครื่องมือล่อ

                     

                     

                    กลายเป็นกระแสเตือนภัยให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนเฝ้าระวังบุตรหลานเอาไว้ให้ดี อย่าคิดว่าอยู่ที่บ้านแล้วจะปลอดภัย เพราะแม้แต่หน้าบ้านของเราเอง ก็อาจกลายเป็นสถานที่ ๆ คนร้ายพยายาม ลักพาตัวลูกหรือทำมิดีมิร้ายก็เป็นได้!

                    ดังเช่นเรื่องราวที่เราจะนำเสนอกันในวันนี้ เป็นเรื่องราวของ เรเชล เฮชช์ คุณแม่ลูก 3 ได้โพสต์เตือนภัยให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนระวัง ภายหลังจากที่มีคนแปลกหน้าขับรถตู้สีขาวมาจอดหน้าบ้านของเธอ!

                    เรเชล เล่าว่า เธอมีลูกสาวทั้งหมดสามคน โดยลูกแท้ ๆ ของเธอเองนั้นมีสองคนคือ เซดด์วัย 8 ปี และอเมย่าวัย 2 ปี ส่วน ร็อกซี่วัย 6 ปีนั้นเป็นลูกเลี้ยง แต่เธอก็รักเหมือนลูกแท้ ๆ ของเธอเอง ในวันเกิดเหตุนั้น ลูกสาวทั้งสามคนกำลังเล่นแทรมโพลีนกันบริเวณสวนหน้าบ้าน!

                    อ่านต่อเหตุการณ์นี้ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ

                      ให้ลูกกำข้าวสาร

                      ไขข้อสงสัย! ความเชื่อโบราณ ให้ลูกกำข้าวสาร ใบ้หวยได้จริงหรือ?

                      ให้ลูกกำข้าวสาร ใบ้หวย คนโบราณบอกแบบนี้จะเชื่อได้จริงหรือไม่ ก็มิอาจรู้ได้แต่ที่แน่ๆ ก็มีคุณพ่อคุณแม่หลายบ้านเคยทำดูแล้ว และก็มีคนที่เคยถูกหวยเพราะให้เด็กน้อยกำข้าวสารกันมาแล้วนะคะ

                      Continue reading “ไขข้อสงสัย! ความเชื่อโบราณ ให้ลูกกำข้าวสาร ใบ้หวยได้จริงหรือ?”

                        ไข้หวัดใหญ่ อาการ

                        ระวัง! ลูกเป็นไข้หวัดใหญ่ ระบาดช่วงปลายฝนต้นหนาว

                        ช่วงอากาศเริ่มเย็นลงและมีฝนตกอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน กรมคุมโรคได้ออกมาเตือนประชาชนและคุณพ่อคุณแม่ให้ระวัง ลูกเป็นไข้หวัดใหญ่ ที่มักระบาดในช่วงปลายฝนต้นหนาว โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน

                        โดยสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 มกราคม – 12 ตุลาคม 2563 พบผู้ป่วยแล้ว 112,283 ราย เสียชีวิต 3 ราย พบป่วยมากสุดในเด็กแรกเกิด – 4 ปี รองลงมาคืออายุ 10-14 ปี และอายุ 7-9 ปี ตามลำดับ ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ พะเยา เชียงใหม่ หนองคาย ระยอง และกรุงเทพมหานคร ตามลำดับ

                        แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่น้อยลง เนื่องมาจากมาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง แยกของใช้ และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด

                        อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีฝนตกในหลายพื้นที่ อาจทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ ระวังการเข้าไปในพื้นที่คนหนาแน่น อาจเกิดไอจามรดกัน ทำให้ติดเชื้อกันได้ง่าย หรือจากการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโรค เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู เป็นต้น

                        ระวัง! ลูกเป็นไข้หวัดใหญ่
                        ระบาด ช่วงปลายฝนต้นหนาว

                        ลูกเป็นไข้หวัดใหญ่

                         

                        Good you know “การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพ” เป็นหนึ่งมาตรการในการทำงานของกรมควบคุมโรค เพื่อการคุ้มครองสุขภาพประชาชนในลักษณะของการคาดการณ์ หรือการทำนายล่วงหน้าเกี่ยวกับโรคและภัยสุขภาพต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในรอบปี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน เกิดความตระหนัก เกิดความรู้ ความเข้าใจถึงสาเหตุ การป้องกัน การดูแลสุขภาพ และการรับมือกับสถานการณ์เมื่อเกิดโรค

                        อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!


                        ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค

                         

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                         

                        วิธีสังเกตอาการ โรคไข้หวัดใหญ่

                        อาการของโรคจะคล้ายไข้หวัด แต่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะ อ่อนเพลีย แต่สามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน

                        ดังนั้น ถ้ามีอาการไข้สูง ไอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย อาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ให้รีบพบแพทย์ด่วน ซึ่งได้แก่

                        • เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
                        • หญิงตั้งครรภ์
                        • ผู้สูงอายุ
                        • ผู้มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หอบหืด โรคหัวใจ
                        • ผู้ที่มีภาวะอ้วน

                        นอกจากนี้ หากมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อยหอบ อาจเป็นอาการของโรคโควิด 19 เพราะคล้ายกับโรคไข้หวัดใหญ่ ควรรีบพบแพทย์ทันที

                        ส่วนบุคคลทั่วไป ควรทานยาลดไข้ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ …ทั้งนี้กรมควบคุมโรคจะใช้ประโยชน์จากรายงานพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพในการเตือนภัยและวางแผนป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพแก่ประชาชน และเป็นรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปดำเนินงานและเผยแพร่ได้

                        ซึ่งกรมควบคุมโรคมีมาตรการเพื่อปกป้องประชาชนจากโรคและภัยสุขภาพดังกล่าว โดยมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด ทั้งหน่วยงานในส่วนกลาง สำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ดำเนินการเฝ้าระวัง ตรวจจับ คัดกรองโรคและภัยสุขภาพ และเตรียมพร้อมทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรคโทร. 1422

                        อันตรายของไข้หวัดใหญ่

                        ลูกเป็นไข้หวัดใหญ่

                        โรคไข้หวัดใหญ่จะมีการระบาดใหญ่เป็นประจำในช่วงฤดูหนาว เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) ซึ่งเชื้อนี้มี หลายชนิดมาก นอกจากคนแล้วยังก่อให้โรคในสัตว์ได้หลายชนิด เช่น หมู นก ม้า แต่โดยทั่วไปไวรัสของสัตว์ชนิดใดก็จะก่อให้เกิดโรคเฉพาะสัตว์ชนิดนั้น เช่น ไวรัสไข้หวัดนก (H5N1) จะก่อโรคในสัตว์ปีกเป็นหลัก แต่ในช่วงหลังที่ตกเป็น ข่าวดัง ก็เนื่องจากว่าไวรัสนี้มีการเปลี่ยนแปลงทำให้มีการติดต่อมายังมนุษย์ หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้ และมีความรุนแรงสูง ทำให้เสียชีวิตได้ แต่ยังโชคดี ที่การติดต่อมาสู่คนไม่ง่ายนัก ต้องสัมผัสใกล้ชิดมาก และการติดต่อจากคนสู่คน ก็เกิดได้น้อยมาก เราจึงสามารถควบคุมการระบาดได้

                        ส่วนไข้หวัดใหญ่ในคนมี 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้เกิดการ ระบาดทั่วโลก

                        • ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบกันมานานแล้ว แต่เนื่องจากเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ตลอดเวลา ทำให้คนที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ไปแล้วสามารถป่วยได้อีกถ้าเชื้อมีการเปลี่ยน แปลงไป แต่อาการมักจะไม่รุนแรง เนื่องจากเรามีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง
                        • ไข้หวัดใหญ่ที่ทำให้เกิดการระบาดใหญ่ หรือในปัจจุบันเรียกว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หรือสายพันธุ์ 2009 เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ชนิด เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) ที่มีการเปลี่ยนแปลงจากเชื้อไวรัส H1N1 เดิมมาก ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่มีภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดการระบาดหรือ ติดเชื้อเป็นวงกว้าง ดังจะเห้นตามข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หรือตามโทรทัศน์ ซึ่งเชื้อนี้มีระบาดไปในแทบทุกประเทศทั่วโลกในเวลาอันสั้น แต่โชคดีที่ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ มีความรุนแรงต่ำ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายเองได้

                        การแพร่เชื้อที่ทำให้ลูกเป็นไข้หวัดใหญ่

                        เชื้อเข้าสู่ร่างกายทางทางเดินหายใจ ซึ่งเชื้อโรคจะมาจากน้ำมูก น้ำลายหรือเสมหะของผู้ป่วย เมื่อมีการไอ จามทำให้เชื้อแพร่กระจายในอากาศ แล้วเราสูดเข้าไปในทางเดินหายใจและทำให้เกิดโรคภายใน 1-3 วัน นอกจากนั้นอาจติดต่อโดยการที่เราไปจับสิ่งของที่ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได แก้วน้ำ โทรศัพท์ เป็นต้นแล้วเรามาจับบริเวณใบหน้าเรา ทำให้เชื้อเข้าไปในร่างกายทางจมูกได้

                        ลูกเป็นไข้หวัดใหญ่
                        ไข้หวัดใหญ่ระบาดปลายฝนต้นหนาว

                        อาการของโรคไข้ใหญ่

                        โดยส่วนใหญ่โรคนี้ไม่ได้อันตรายร้ายแรงอันใดกับคนทั่วๆไป ซึ่งอาการโรคไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ ไอ น้ำมูก บางคนมีอาการเจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย อาการส่วนใหญ่จะไม่รุนแรง เป็นอยู่ประมาณ 3-5 วัน ซึ่งบางครั้งจะคล้ายโรคไข้หวัดธรรมดา แต่ท้ายที่สุด อาการก็จะหายไปเองได้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่จะมีอาการรุนแรง เช่น ไอมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ซึ่งอาจเกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ทำให้ เกิดการอักเสบของปอด ทำให้ปอดบวม การหายใจล้มเหลว ซึ่งอาการอาจจะ รุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้

                        และจะเป็นอันตรายร้ายแรงในผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น หอบหืด ถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจวาย เบาหวาน โรคไตวาย ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น อาจเกิดปัญหาแทรกซ้อนได้มาก เช่น เกิดปอดอักเสบติดเชื้อทั้งจากไวรัสไข้หวัดใหญ่เองหรือจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนตามมา ในประเทศไทยเองก็มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ปีละ 20,000-50,000 รายทุกปี แต่อัตราการเสียชีวิตไม่ถึง 10 รายต่อปี โดยส่วนใหญ่ผู้ที่เสียชีวิตมักเป็นผู้ป่วยสูงอายุ

                        อ.ดร.นพ.สัณฑ์ ม่วงน้อยเจริญ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำวิธีสังเกต และวิธีการรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่ ไว้ดังนี้

                         

                        อ่านต่อ > > การรักษาและการป้องกันการติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่” คลิกหน้า 2

                        เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                         

                          โรคขาดวิตามินเอ

                          โรคขาดวิตามินเอ เสี่ยงทำลูกตาบอดไม่รู้ตัว

                          โรคขาดวิตามินเอ หรือโรคเกล็ดกระดี่ขึ้นตา คืออะไร ทำไมถึงส่งผลทำให้ลูกตาบอดได้ มาหาคำตอบกันค่ะ

                           

                           

                          คุณพ่อคุณแม่กำลังสงสัยกันอยู่ใช่ไหมละคะว่า แค่ขาดวิตามินถึงขั้นทำให้ลูกตาบอดได้เลยจริง ๆ หรือ คำตอบก็คือ โอกาสที่จะเป็นนั้นเป็นไปได้ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวที่มีฐานะยากจน หรืออยู่ในพื้นที่ชนบทบางแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่กำลังพัฒนาและด้อยพัฒนา มักพบในเด็กวัยแรกเกิดจนถึงอายุ 5 ปี ส่วนในผู้ใหญ่จะพบเป็นโรคนี้ได้น้อย

                          โรคขาดวิตามินเอ คืออะไร?

                          เราสามารถเรียกโรคนี้ได้อีกชื่อหนึ่งว่า เกล็ดกระดี่ขึ้นตา ด้วยภาวะที่ร่างกายขาดวิตามินเอ ทำให้ประสาทตาส่วนที่เรียกว่า จอตา หรือเรตินา นั้นเสื่อมลง ทำให้เยื่อบุตาแห้งและต่อมน้ำตาไม่ทำงาน จึงอาจทำให้เด็กที่เป็นโรคนี้ตาบอดได้

                          นายแพทย์ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงอาการตาบอดกลางคืน ว่า เนื่องจากจอตาของคนเราจะมีเซลล์อยู่สองชนิดคือ Rod cells รับแสงในเวลากลางคืน และ Cone cells รับแสงในเวลากลางวัน ซึ่งหาก Rod cells เสียหายก็จะมีอาการตาบอดกลางคืนได้ ปกติคนเราจะมองเห็นไม่ได้ดีนักในเวลากลางคืนอยู่แล้ว แต่ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีอาการมองเห็นภาพในเวลากลางคืนได้แย่กว่าคนปกติทั่วไป การขาดวิตามินเอก็มีส่วนทำให้มีอาการตาบอดกลางคืนได้ เพราะวิตามินเอมีส่วนสำคัญในการทำงานของ Rod cells นั่นเอง

                          ร่างกายขาดวิตามินเอได้อย่างไร? คลิก >>


                          เครดิต: นายแพทย์ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข

                            พ่อเลี้ยงเดี่ยว

                            พ่อวัยใส หัวใจนักสู้ พาลูกเข้าห้องสอบด้วย

                            เพราะมีกันอยู่แค่สองคน พ่อวัยใส ท่านนี้จึงขออาจารย์พาลูกเข้าห้องสอบด้วยเสียเลย!

                             

                             

                            กลายเป็นกระแสชื่นชมที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้กับ คุณพ่อวัยใส ที่พาลูกเข้าห้องสอบด้วย จนทำให้ใครหลาย ๆ คนต่างพากันเข้าใจว่า คุณพ่อท่านนี้คือคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวไปโดยปริยาย แท้จริงแล้วคุณพ่อท่านนี้ไม่ได้เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวแต่อย่างใด หากแต่ภรรยาต้องไปทำงานอยู่คนละที่ ทำให้ไม่มีใครเลี้ยงดูลูกเท่านั้นเอง

                            ภายหลังจากที่มีสมาชิกเฟซบุ๊คท่านหนึ่งนามว่า “Tiffany Anuzza Pothibanlang” ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพดังกล่าวโดยมีเนื้อหาระบุว่า “#อาจารย์ครับผมขอเอาลูกเข้าสอบด้วยได้ไหมครับลูกผมติดผมไม่มีใครดูแลเลยมีกันสองคนพ่อลูก ไม่เป็นไรเนาะน้องชายพี่ แกเก่งแล้ว ม่ายมีใครย้อนเวลาไปได้ แต่เราแก้ไขในปัจจุบันได้”

                            พ่อเลี้ยงเดี่ยว

                            ชาวเน็ตต่างพากันแห่ชื่นชมคุณพ่อที่ไม่ยอมละทิ้งหน้าที่สำคัญของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ของนักเรียนหรือหน้าที่ของพ่อคน อีกทั้งยังมีลูกสาวที่หน้าตาน่ารัก และนอกเหนือจากการกล่าวชื่นชมคุณพ่อแล้ว ต่างก็พากันขอบคุณและชื่นชมอาจารย์ที่เข้าใจและเห็นใจคุณพ่ออีกด้วย

                            ล่าสุด รายการทุบโต๊ะข่าว! ก็ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์เรื่องราวความเป็นจริงของคุณพ่อวัยใสท่านนี้ว่า!

                            ฟังบทสัมภาษณ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก! 


                            เครดิต: ข่าวสด

                              ลูกเป็นโรคสมาธิสั้น

                              เครื่องดื่ม-ขนมผสมคาเฟอีน ส่งผลให้ ลูกเป็นโรคสมาธิสั้น

                              นักวิชาการเตือนพ่อแม่! ให้ลูกกินขนมหรือเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน อาจส่งผลทำให้ ลูกเป็นโรคสมาธิสั้น ได้!

                               

                               

                              ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปรัญรัชต์ ธนวิยุทธ์ภัคดี นักวิชาการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า “การที่เด็กรับประทานขนมหรือดื่มน้ำอัดลมที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน ทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ดี ส่งผลกับพฤติกรรมขงเด็กเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก คาเฟอีนเป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท หากบริโภคติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลทำให้เด็กมีปัญหาในเรื่องของความจำ กลายเป็นเด็กสมาธิสั้น และมีสติปัญญาที่ถดถอยได้”

                              นอกจากนี้ มาริน่า คุชเนอร์ ผู้ก่อตั้งองค์กร Caffeine Awareness Association ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร อธิบายว่า “เด็ก ๆ ไม่ควรได้รับคาเฟอีนก็เพราะทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์หลายอย่าง เช่น ทำให้เด็กหงุดหงิด ใจร้อน ส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ นอกจากนี้หากได้รับคาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้เด็กเกิดอาการคลื่นไส้ หัวใจเต้นผิดจังหวะ นอนไม่หลับ และมีอาการกระวนกระวายคล้ายสมาธิสั้นได้”

                              ลูกไม่ดื่มชา กาแฟ แล้วจะได้รับคาเฟอีนจากไหน คลิก!


                              เครดิต: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปรัญรัชต์ ธนวิยุทธ์ภัคดี นักวิชาการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล

                                โรคสาวก่อนวัย

                                แม่แชร์! เมื่อลูก 5 ขวบเป็น โรคสาวก่อนวัย

                                เพราะลูกสาวเป็น โรคสาวก่อนวัย ทำให้ตอนนี้กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ทั้งที่มีอายุได้เพียง 5 ปี

                                 

                                 

                                แทม โดเวอร์ คุณแม่เล่าว่า เอมิลี่ โดเวอร์ ลูกสาวนั้นเป็นเด็กร่าเริง แต่ร่างกายของเธอไม่เจริญเติบโตตามวัย โดยเรื่องนี้เริ่มเกิดขึ้นตอนที่ เอมิลี่ มีอายุได้เพียง 4 เดือน แต่ตัวเธอกลับมีขนาดเท่ากับเด็ก 1 ปี ต่อมาพอเธอมีอายุได้เพียง 2 ปี หน้าอกก็เริ่มขึ้น กลิ่นตัวเริ่มมา ไม่ใช่แค่นั้นยังมีสิวขึ้นที่ใบหน้าอีกด้วย!

                                เรื่องราวน่าตกใจยังไม่หมดเท่านี้ พอ เอมิลี่ อายุได้ 4 ปี ประจำเดือนของเธอก็เริ่มมา ไม่นานก็เริ่มมีขนขึ้นบริเวณใต้รักแร้ และอวัยวเพศ และตอนนี้ลูกสาวก็กำลังประสบกับปัญหาใหญ่นั่นคือ เธอกำลังก้าวเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ทั้ง ๆ ที่มีอายุได้เพียง 5 ปีเท่านั้น!

                                “แทนที่ลูกสาวจะได้มีชีวิตสมตามวัย กลับต้องมานั่งเรียนรู้วิธีการใช้ผ้าอนามัยทั้ง ๆ ที่มีอายุแค่ไม่กี่ปี พวกเรารู้ว่าเกิดความผิดปกติขึ้นกับเธอ แม้แต่ตัวของ เอมิลี่ เองไม่เข้าใจว่า ทำไมร่างกายของเธอถึงเป็นเช่นนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้ก็คือ ร่างกายของเธอแตกต่างกับเด็กในวัยเดียวกัน” แทมกล่าว

                                อ่านต่อเรื่องราวของเธอได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>

                                  วิธีทำความสะอาดเขียง

                                  วิธีทำความสะอาดเขียง ให้ลูกห่างไกลจาก “เชื้อรา”

                                  ไม่อยากให้ลูกเป็นโรคเชื้อรา อย่ามองข้าม “เขียง” พบ วิธีทำความสะอาดเขียง ให้สะอาดปลดเปลื้องสิ่งที่มองไม่เห็น

                                   

                                  เพราะ “เชื้อรา” คือบ่อเกิดของโรคนา ๆ ชนิด ที่มีขนาดเล็กจนหลาย ๆ ครั้งเราก็ไม่ได้สังเกต หรืออาจจะมองไม่เห็น จริงอยู่ที่คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจคิดว่า ไม่จริงหรอก ถ้ามันขึ้นที่อาหารอย่างไรแล้วเราก็มองเห็น … แต่ถ้าหากมันไม่ได้ขึ้นที่อาหาร หากแต่เป็น “เขียง” ที่พวกเราใช้ทำอาหารให้ลูกและสมาชิกทุกคนในครอบครัวกินกันทุกวันละคะจะทำอย่างไร?

                                  ด้วยตระหนักถึงสุขภาพของทุก ๆ คน ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะขอนำเสนอ วิธีการทำความสะอาดเขียง ที่ถูกวิธีให้ห่างไกลจากเชื้อรามาฝากกันค่ะ แต่ก่อนที่เราจะไปดูกันนั้น เรามาทำความรู้จักกับเจ้าเชื้อรากันก่อนดีกว่านะคะว่า เชื้อราคืออะไรกันแน่ และถ้าหากเราได้รับการสะสมอยู่ในร่างกายในปริมาณที่มากขึ้น ร่างกายของลูกและของพวกเราทุกคนจะมีผลกระทบอย่างไรกันได้บ้าง พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

                                  วิธีทำความสะอาดเขียง
                                  เครดิตซ Stern Mold

                                  เชื้อรา คืออะไร?

                                  เชื้อราคือสิ่งที่เรามักจะพบในสภาพแวดล้อมที่มืดและชื้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝน ที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราได้มากที่สุด เชื้อรานั้นจะพัฒนาเป็นเส้นใยเล็ก ๆ และแพร่พันธุ์ด้วยการสร้างสปอร์ขนาดเล็กมาก ๆ ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าค่ะ

                                  จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย?

                                  อันตรายของเชื้อรานั้น จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ ‘ชนิดของรา‘ ค่ะ ว่าเป็นชนิดที่ก่อให้เกิดโรคหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว เชื้อราเหล่านี้จะก่อให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้ทั้งทางระบบหายใจหรือผิวหนังเฉพาะกับคนที่แพ้เท่านั้น อาการที่พบโดยทั่วไปนั้น ได้แก่ น้ำมูกไหล หายใจไม่ออก น้ำตาไหล มีผื่น ผิวหนังอักเสบ จมูกอักเสบ เป็นต้น

                                  ส่วนอาการเจ็บป่วยจากเชื้อราก็มีด้วยกันหลากหลายอาการ เช่น

                                  1. อาการปวดหัว ศีรษะวิงเวียน คลื่นไส้ ไม่อยากอาหาร ปวดท้อง และท้องเสีย
                                  2. ช็อค มึนงง รู้สึกชา สมองตื้อ มีปัญหาเรื่องการโฟกัสและความจำ
                                  3. ปัสสาวะบ่อยขึ้น กระหายน้ำตลอดเวลา
                                  4. อ่อนเพลียเมื่อยล้าและหลังออกกำลังกายจะมีอาการป่วยไข้
                                  5. มีกลิ่นโลหะในช่องปาก
                                  6. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว ปวดข้อโดยที่ข้อไม่ได้อักเสบ ปวดเส้นประสาทเป็นประจำและรุนแรงขึ้น
                                  7. น้ำหนักเพิ่มเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่พยายามคุมน้ำหนักอยู่เสมอ
                                  8. ตาแดง และ ตาพร่ามัวเมื่อเจอแสง
                                  9. สั่น เหงื่อออกตอนกลางคืน และปัญหาการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
                                  10. ไอ หายใจช้าลง ปัญหาไซนัส อาการของโรคหอบหืด และหายใจถี่

                                  อ่านต่อวิธีทำความสะอาดเขียง ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>


                                  เครดิต: สุขภาพน่ารู้

                                    เด็กแก่แดด

                                    เลี้ยงลูกอย่างไร ไม่ให้เป็น เด็กแก่แดด เกินวัย!

                                    อะไร คือสาเหตุที่ทำให้สมัยนี้ “เด็กแก่แดด” แพทย์แนะ! วิธีการเลี้ยงลูกที่ถูกต้องพร้อมสาเหตุที่พ่อแม่ควรรู้!

                                     

                                     

                                    วันนี้จู่ ๆ ก็รู้สึกสะดุ้งโหยงขึ้นมาภายหลังจากได้ยินผู้ใหญ่บางคนพูดว่า “เด็กสมัยนี้แก่แดด แก่ลม ไม่รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูกกันอย่างไร ดูลูกกันบ้างหรือเปล่า ถึงปล่อยให้ลูกมาทำอะไรแบบนี้” ทำเอาผู้เขียนถึงกับต้องแอบหันไปดูเบา ๆ ว่า เพราะอะไร คุณป้าท่านนี้ถึงพูดจาแรงขนาดนี้ … พอหันไปดูถึงบางอ้อเลยว่า อ๋อ! ก็หนูน้อยผมสั้นวัยคอซอง กำลังเดินควงแขนเพื่อนหนุ่มแบบไม่เกรงใจสายตาใคร ป้อนขนมป้อนน้ำ ประหนึ่งว่าโลกใบนี้เพียงแค่เราสองคน

                                    มาถึงตรงนี้ ด้วยความที่เป็นพ่อเป็นแม่คนถึงกับต้องมานั่งคิดย้อนดูตัวเองว่า หากเป็นลูกหลานของเราทำเช่นนี้บ้าง จะเป็นอย่างไร … แน่นอนค่ะว่า ไม่มีใครรับได้แน่ ๆ ทำให้ทีมงานถึงกับต้องมานั่งถกประเด็นคุยกันเลยว่า จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรได้บ้าง หากพบว่าลูกหลานของเรานั้นแก่เกินวัยจริง ๆ และนี่คือบทสรุปทั้งหมดที่เรานำมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น ว่าแล้วก็ไปอ่านบทความนี้พร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

                                    อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เด็กสมัยนี้แก่แดดเกินวัย