GEN ME กับ การ หลงตัวเอง

GEN ME!!Genที่ หลงตัวเอง คุณกำลังเลี้ยงลูกให้เป็นอยู่หรือเปล่า

Alternative Textaccount_circle
event
GEN ME กับ การ หลงตัวเอง
GEN ME กับ การ หลงตัวเอง

หลงตัวเอง เมื่อเด็ก GEN ME ถูกนิยามตัวตนไว้เช่นนี้ อะไรทำให้เด็กเป็น ส่งผลกระทบอย่างไรต่อชีวิตของลูก แล้วคุณกำลังเลี้ยงให้เขาหลงตัวเองอยู่ไหม

GEN ME!!Genที่ หลงตัวเอง คุณกำลังเลี้ยงลูกให้เป็นอยู่หรือเปล่า

ว่าด้วยเรื่องการแบ่งกลุ่มคนออกเป็น Generation ตามช่วงเวลาที่เกิดนั้น เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 นี้เอง จากงานของ Kar Mannheim นักสังคมศาสตร์ชาวฮังกาเรียนตีพิมพ์งานชื่อ The Problem of Generations ในปี 1923 ที่ศึกษาว่า ผู้คนในสังคมที่ได้รับอิทธิพลจากบริบททางสังคม และประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ใหญ่ ๆ บางอย่างร่วมกันก็จะมีลักษณะความคิดอ่าน หลักการใช้ชีวิตที่คล้ายคลึงกัน และลักษณะนั้น ๆ ก็จะมากำหนดอนาคตของคนในรุ่นต่อ ๆ ไป จึงทำให้เกิดการจัดกลุ่มแบ่งลักษณะของผู้คนจากช่วงเวลาที่เกิด ดังนี้

  • Baby Boomer (พ.ศ. 2489-2507) เป็น Gen ที่ให้ความสำคัญงานเป็นหลัก ครอบครัวเป็นรอง มีความอดทนสูงมาก ทุ่มเทกับการทำงาน จงรักภักดีต่อองค์กร และไม่ชอบพัฒนาตนเอง
  • คนGeneration X (พ.ศ.2508-2522) เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความสมดุลของการทำงาน และการใช้ชีวิต มีความอดทน เชื่อมั่นในตนเองสูง กล้าคิด กล้าทำ ปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ยาก
  • Generation Y (พ.ศ.2523-2540) ต้องการความมั่นคงในงานมาก รักตัวเอง และชอบอิสระ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความกระตือรือร้น ชอบทำงานเป็นทีม ไม่มีความอดทน เปลี่ยนงานบ่อย
  • คนGeneration Z (พ.ศ.2540 ขึ้นไป) เป็นคนที่เติบโตมากับสิ่งอำนวยความสำดวก และเทคโนโลยีต่าง ๆ ทำให้มีความเชี่ยวชาญ พัฒนาและเรียนรู้ได้เร็ว มองโลกในแง่ดี ขี้เกียจ เบื่อหน่ายง่าย
  • Generation C (แบ่งกลุ่มตามพฤติกรรมการใช้โซเซียลเน็ตเวิร์ค) ให้ความสำคัญ และสนใจกับการใช้เทคโนโลยี โซเซียล มี internet เป็นเพื่อนคู่ใจ ฉลาด มีความรู้รอบตัว ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้เร็ว ชอบปฎิสัมพันธ์กับผู้คน ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ ไม่มีสมาธิ

    คุณเป็นคน GEN ไหน
    คุณเป็นคน GEN ไหน

สำหรับแนวคิดเรื่องเจนเนอเรชั่นนี้ก็ใช่ว่าจะอธิบายถึงบุคลิกลักษณะของคนแต่ละช่วงเวลาได้อย่างสมบูรณ์ เพราะถึงแม้คนในวัยเดียวกันจะเผชิญเหตุการณ์เดียวกัน แต่ประสบการณ์ของคนแต่ละคนก็ยังแตกต่างกันไปอย่างหลากหลาย เช่น พื้นเพภูมิลำเนา ชนชั้น วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ดังนั้นท่าทีหรือทัศนคติของคนนั้นถึงจะเจอเหตุการณ์เดียวกัน แต่สุดท้ายก็มีความจำเพาะเจาะจงอยู่ดี

Generation ME อยู่ไหนในช่วงเวลานะ!!

Generation ME หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Gen Me เป็นคำที่นักจิตวิทยาของอเมริกาหลายคน ใช้เรียกเด็กยุคมิลเลนเนียล คือเด็กที่เกิดหลังปี 2000 พบว่าเด็กยุคนี้จะเติบโตมาแบบที่รู้สึกว่า ตัวเองเป็นศูนย์กลาง โซเชียลมีเดียจะทำให้เด็กคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ มักไขว่คว้าหายอดไลก์ เด็กมองว่าการมียอดไลก์มันเสริมสร้างความรู้สึกดีกับตัวเอง ยิ่งจำนวนยอดไลก์มากเท่าไหร่เด็กยิ่งจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ชื่นชมชื่นชอบมากเท่านั้น แล้วก็มักจะยอมรับคำตำหนิไม่ค่อยได้ ใช้เรียกคนที่เข้าข่ายหลงตัวเอง จากข้อมูลที่ศึกษาคนรุ่นใหม่ชาวอเมริกันของ The National Institutes of Health โดย Joel Stein พบว่าคนที่เกิดที่เกิดระหว่างปี ค.ศ. 1980 – 2000 นั้นหลงตัวเองเป็นสามเท่าของคนรุ่นพ่อแม่  สนใจเรื่องจริยธรรมและศาสนาน้อยลง มีสัดส่วนว่าจะไม่นับถือศาสนากันมากขึ้น

เมื่อดูทั้งลักษณะ และช่วงวัยของคนที่จะอยู่ในช่วง GEN ME นี้ ก็อยู่ในช่วงประมาณคน GEN Y ทั้งหมดมาจนช่วงต้น GEN Z

ว่ากันว่า… GEN ME เจนที่หลงตัวเองที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ จริงหรือ!!

เดือนพฤษภาคม 2013 ที่ผ่านมามีข่าวที่ฮือฮามากในนิตยสาร “TIME” ที่ทำสกู๊ปหน้าปกเรื่อง “ME ME ME Generation” พร้อมภาพเด็กหญิงวัยสาวกำลังนอนราบกับพื้น และยกกล้องจากโทรศัพท์มือถือขึ้นโน้มลงมาถ่ายรูปหน้าตัวเอง เนื้อหาเกี่ยวข้องกับคนรุ่นใหม่ ที่อ้างข้อมูลของโจเอล สไตน์ จาก “The National Institutes of Health” (สถาบันสุขภาพแห่งชาติอเมริกา) พบว่า คนรุ่นใหม่กว่า 80 ล้านคนในอเมริกาที่เกิดระหว่างปี ค.ศ. 1980-2000 นั้นหลงตัวเองเป็นสามเท่าของคนรุ่นพ่อแม่ และกว่า 80% ของคนรุ่นนี้ที่มีอายุต่ำกว่า 23 ปี ต้องการได้งานที่มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ คนรุ่นใหม่นั้นได้รับการปลูกฝังเลี้ยงดูภายใต้วัฒนธรรม “แค่เข้าร่วมก็ได้ประกาศนียบัตร” โดยไม่สนใจถึงประสิทธิผลหรือวิธีการหรือความสำคัญของการเข้าร่วม ซึ่งทำให้พวกเขามักคิดว่า หากทำงาน พวกเขาควรได้รับการโปรโมตเลื่อนขั้นทุกๆ สองปีโดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาที่ผลงานหรือประสิทธิภาพ และจากข้อมูลดังกล่าว เขาเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Generation ME หรือกลุ่มที่มองตัวเองสำคัญที่สุด มองว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งอย่าง หรืออีกคำที่เขาเรียกว่าเป็นกลุ่มหลงตัวเอง
ที่มา : ดร. สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
GEN ME เจนที่หลงตัวเองที่สุด
GEN ME เจนที่หลงตัวเองที่สุด

อ้ตลักษณ์ของคน GEN ME

  • คนที่มักจะปฏิเสธประเพณี ตั้งแต่การชอบใส่เสื้อผ้าที่ไม่เป็นทางการ การทำงาน รสนิยมทางเพศ Generation Me ไม่สนใจว่าสิ่งที่ทำในอดีตเป็นอย่างไร และสนใจต่อเมื่อสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการ และคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
  • Generation Me เชื่อมั่นในตัวเองมากเกินพอดี และเชื่อในศักยภาพของตนเองที่จะทำให้เขาได้รับความมั่งคั่ง และชื่อเสียง พวกเขารู้สึกว่าสมควรได้รับมัน
  • ให้ความสำคัญกับการศึกษา
  • สนใจแต่เรื่องของตัวเอง พวกเขามักจะบอกคุณอย่างชัดเจนว่าเขาหรือเธอคิดอย่างไรกับคุณ และมีแนวโน้มที่จะแบ่งปันทุกรายละเอียดในชีวิตของเขากับคุณ ไม่ว่าคุณจะสนใจหรือไม่ก็ตาม
  • ไม่ชอบทำงานหนักบวกกับทัศนคติที่ว่า “ฉันคู่ควรกับงานที่ยอดเยี่ยมและเงินเดือนที่ดี แต่ฉันจะไม่สละชีวิตส่วนตัวเพื่อทำสิ่งนั้น และฉันจะไม่ยอมจำนนต่อเจ้านายของฉันด้วย”
  • ชอบแสดงตัวให้เด่นกว่าคนอื่น ๆ  เช่น ทำการสักและเจาะร่างกาย สวมเสื้อผ้าหรือทรงผมที่แปลกตา หรือแสวงหาความบันเทิงรูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ สมาชิก Gen Me ได้ทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการสร้างความโดดเด่นจากฝูงชน
  • มีปฎิกิริยาต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ในทางไม่ดี ไม่ชอบ ไม่รับฟัง
แน่นอนว่าคนที่เกิดในช่วงเวลาปี ค.ศ. 1980 – 2000 ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคน Generation ME นั้น ไม่ใช่ทุกคนจะมีอัตลักษณ์ดังที่กล่าวมาทั้งหมด แม้ว่างานวิจัยบางชิ้นได้แสดงให้เห็นว่าคุณลักษณะดังกล่าวมีความถูกต้อง แต่งานวิจัยอื่นๆ กลับขัดแย้งกับทัศนะของ Generation Me ว่ามีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าคนรุ่นใหม่คนอื่นๆ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าแต่ละรุ่นตลอดศตวรรษที่ 20 ถูกมองว่าโง่เขลา และไม่ชอบการทำงานหนักของคนรุ่นก่อน ขยายความได้ว่า คนรุ่นถัดจากคนรุ่นก่อนทุกยุคมักจะมีแนวความคิดที่รู้สึกว่าคนรุ่นตนเองดีกว่ารุ่นก่อน และไม่ต้องทำงานหนักเช่นเดียวกับคนรุ่นก่อนตนเอง ไม่จำเพาะว่าจะเป็นคนยุค GEN ME เท่านั้นที่คิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่น นอกจากนี้ ผลการศึกษาอื่น ๆ เปิดเผยว่า Generation Me มีแนวโน้มที่จะทำงานการกุศลมากกว่าคนรุ่นก่อนหรือมีเป้าหมายระยะยาวนอกเหนือจากความเจริญรุ่งเรืองทางวัตถุอีกด้วย
เด็ก GEN ME เป็นอย่างไร
เด็ก GEN ME เป็นอย่างไร

ในโลกปัจจุบันที่เทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ ไม่ว่าคุณพ่อ คุณย่า หรือคุณยาย เราต่างก็มีลักษณะการใช้ชีวิตที่ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและทัศคติใหม่ๆ ไม่ต่างกัน ดังนั้นการแบ่งคุณลักษณะของคนด้วยปีที่เกิด อาจจะไม่สำคัญเท่าการแบ่งโดยภูมิศาสตร์ โดยการเข้าถึงเทคโนโลยี ไปจนถึงพฤติกรรมและทัศนคติส่วนบุคคลมากกว่า

อ่านต่อ >>ทำไมเด็ก GEN ME ถึงหลงตัวเอง และทำความรู้จักโรคหลงตัวเอง คลิกหน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up