ล่วงละเมิด ลวนลาม ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

อย่ารอให้เกิดก่อน! เทคนิคสอนลูกไม่ให้ถูก ล่วงละเมิด

Alternative Textaccount_circle
event
ล่วงละเมิด ลวนลาม ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
ล่วงละเมิด ลวนลาม ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

สอนเด็กให้รู้จักภัยใกล้ตัว หากถูกล่วงละเมิด!!

วิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงต่อปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก คือ การสอนให้เด็กรู้ว่าอะไรคือการลวนลาม สิ่งใดคือสิทธิที่เด็กควรหวงแหน เพราะจำนวนมากของเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้น มักพบว่าเด็กไม่เข้าใจ และไม่ทราบว่าตนเองกำลังถูกล่วงละเมิด หรือไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรดี จึงเกิดปัญหาให้คนร้ายกระทำผิดซ้ำได้

นิทานสอนเด็ก : สื่อที่เข้าถึงให้เด็กเข้าใจเรื่องยาก ๆ ได้ดี

นิทานเป็นตัวช่วยที่ดีในการสอนให้เด็กได้เข้าใจได้ง่าย โดยเฉพาะเรื่องที่มีความยากลำบากในการสอนให้เขาเข้าใจ เช่น เรื่องเพศ และการถูกล่วงละเมิด การสอนด้วยปากเปล่า หรือคำพูดอาจทำให้สื่อสารไปไม่ถึงตัวเด็ก ให้เขาสามารถทำความเข้าใจได้ ดังนั้น เราจึงพบเห็นนิทานสอนเด็กในเรื่องเพศ และเรื่องสิทธิการป้องกันตัว การหวงแหนร่างกาย แต่ยังน่าเสียดายที่นิทานเหล่านี้ยังคงมีน้อยในประเทศไทย

วันที่ 6 ธันวาคม 2563 ข่าวสด รายงานว่า บนโลกโซเชียลมีเดีย มีการแชร์ภาพบางส่วนของหนังสือนิทานเด็กเล่มหนึ่ง ชื่อว่า “ปิงปิงไม่ยอม” โดยหนังสือนิทานเล่มดังกล่าว มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสอนให้เด็กรู้จักป้องกันตัวจากการถูกล่วงละเมิด หนังสือนิทานเล่มนี้ยังสอนให้เด็กรู้ว่าการล่วงละเมิดมีลักษณะเป็นอย่างไร และ หากตกเป็นเหยื่อ หรือหากเจอกับสถานการณ์ล่วงละเมิด ควรปฏิเสธ หรือ รับมืออย่างไร ทั้งยังมีเนื้อหาที่สอนให้เด็กช่วยกันสอดส่องว่ามีเพื่อนคนไหนเจอแบบปิงปิงหรือไม่ และ สอนให้เด็กเคารพสิทธิ์ในร่างกายของผู้อื่น โดยหนังสือนิทานเล่มนี้ มีทั้งเวอร์ชั่น เด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ซึ่งมีเนื้อหาที่คล้ายกัน

เด็กผู้ชาย ก็มีโอกาสถูก ล่วงละเมิด ได้
เด็กผู้ชาย ก็มีโอกาสถูก ล่วงละเมิด ได้

การสอนเรื่องเพศกับเด็ก เริ่มได้ตั้งแต่เด็กเล็ก!!

คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจเริ่มกังวลว่า หนังสือนิทานเหมาะสำหรับเด็กเล็ก แล้วการสอนเรื่องเพศ การป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศนั้น เราสามารถสอนลูกตั้งแต่อายุยังน้อยได้เลยเชียวหรือ จะเหมาะสมหรือไม่ เรื่องนี้ขอตอบด้วย บทความของคุณหมอ เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา กันดีกว่า

#ทำไมเราต้องสอนให้เด็กรู้จักเรื่องจู๋และจิ๋ม
หมอรู้สึกดีใจที่เห็นเพจดราม่าแอดดิคโพสต์ให้ความรู้ เรื่องมีคนไปโพสต์ในเชิงตำหนินิทานเรื่อง “ป๋องแป๋งอยากรู้” (เป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่มีความสนใจว่าอวัยวะเพศคืออะไร) คนที่โพสต์นั้นพูดประมาณว่าเป็นนิทานที่ไม่ดี หมอได้ไปอ่านในโพสต์ต้นเหตุ หมอเป็นห่วงมาก เพราะคนส่วนใหญ่พร้อมใจกันเข้ามาวิจารณ์นิทานเรื่องนี้ ในเชิงตำหนิ ด้วยความไม่รู้ ไม่เข้าใจ หมอขออนุญาตขยายความเรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น
หมออยากจะบอกว่า จริงๆแล้ว นิทานเรื่องนี้มีประโยชน์มาก และ การสอนให้เด็กรู้จักเรื่องจู๋และจิ๋ม มีความจำเป็นมากค่ะ ที่สำคัญก็คือ เพราะจะช่วยป้องกันในเรื่องการถูกล่วงละเมิดทางเพศได้ และการสอนผ่านนิทาน ก็ทำให้เด็กเข้าใจได้ง่ายขึ้น
โดยหลักแล้ว เราจะเริ่มสอนเรื่องนี้เพื่อป้องกันการถูกล่วงละเมิด โดยเริ่มตั้งแต่เด็กยังเล็กๆด้วยค่ะ
1. สอนให้เด็กเรียนรู้เรื่องอวัยวะเพศ เริ่มสอนช่วงที่เด็กเรียกอวัยวะได้ อย่างตอนอาบน้ำก็สอนเรียกอวัยวะเพศ ใช้ชื่อที่เด็กเข้าใจ ไม่ต้องเป็นชื่อทางการ โดยอาจจะเรียกของผู้ชายว่า จู๋ เจี๊ยว ของผู้หญิง ก็ ปิ๊ หรือจิ๋ม
2. บอกเด็กว่าส่วนไหนบนร่างกายที่พ่อแม่เท่านั้นที่เห็นได้ ถ้าอยู่กับคนอื่นๆต้องใส่เสื้อผ้าไม่ให้ใครเห็น แต่ในบางกรณี เช่น ถ้าไปหาหมอก็อาจจะทำได้เพราะพ่อแม่อยู่กับหนูด้วย หมอตรวจร่างกายหนู
3. บอกเด็กว่าส่วนไหนบนร่างกายที่พ่อแม่เท่านั้นที่สัมผัสได้ สอนให้เด็กรู้จักปฏิเสธ ถ้ามีคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่มาสัมผัส เช่น หน้าอก อวัยวะเพศ อาจารย์ของหมอท่านหนึ่งสอนลูกสาวว่า ห้ามให้ใครมาจับแก้ม หอมแก้ม จุ๊บปากถ้าไม่ใช่พ่อแม่ ถ้าใครทำหรือมาขอจับ(ส่วนใหญ่คนที่ทำร้ายเด็กมักจะมาพูดแบบขอร้อง เช่นขอเล่นด้วยกับจุ๋มจิ๋มหนู) ให้บอกเค้าไปว่า พ่อไม่ให้ทำ และให้มาบอกพ่อ หมอเคยสงสัยว่ามันดูจะเกินไปหรือเปล่า บางทีผู้ใหญ่อาจจะทำเพราะเอ็นดู แต่อาจารย์บอกว่า มีวิธีแสดงความเอ็นดูหลายอย่าง มาคิดๆดูจริงๆแล้วก็ดูจะป้องกันได้ดี แถมยังไม่ติดโรคอื่นๆด้วย เช่น หวัด เป็นต้น
4. ถ้ามีใครก็ตามที่มาจับหรือดูในส่วนของร่างกายที่พ่อแม่บอกว่าห้ามใครเห็นหรือจับ เด็กจะต้องรีบบอกพ่อแม่ทันที แม้ว่าคนที่ทำจะขอร้อง แต่สำคัญมากที่ต้องมาบอกพ่อแม่ ตรงนี้ก็ต้องเน้น เพราะบางทีเด็กอาจจะถูกขอหรือขู่ ต้องบอกว่าถ้าเด็กมาบอกพ่อแม่ ยังไงพ่อแม่จะช่วยไม่ให้ใครมาทำอะไรเขาได้
5. สอนให้เด็กรู้ว่าถ้าใครก็ตามที่มาขอดูหรือจับส่วนนั้น ต้องพูดไปเลยว่า ไม่ได้ และอาจจะวิ่งหนีออกมา ไม่ต้องเกรงใจแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนที่เด็กเคารพก็ตาม
อย่านิ่งนอนใจว่าลูกของคุณอยู่ในที่ๆปลอดภัย เพราะเหตุการณ์การถูกล่วงละเมิดครึ่งหนึ่งเกิดที่บ้านหรือสถานที่ที่ไม่ห่างจะบ้านเท่าไหร่ สถานที่อื่นๆเช่น โรงเรียน บ้านเพื่อน บ้านญาติ เป็นต้น มันไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะจากข้อมูลทางสถิตินั้น “หนึ่งในสี่ของเหยื่อทั้งหมดที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ คนที่กระทำไม่ใช่คนแปลกหน้า”
เด็กๆหลายคนเมื่อถูกทำร้ายก็ไม่กล้าที่จะบอกใคร ปล่อยให้เวลาผ่านมาเนิ่นนาน บางคนไม่รู้ว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำคืออะไร บางคนก็ถูกขู่ว่าห้ามบอกใคร
พ่อแม่จึงควรเป็นคนที่สร้างเกราะคุ้มกันให้ลูก สอนลูกตั้งแต่เล็กๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจากการถูกล่วงละเมิด
น่าเศร้าที่ในโลกใบนี้มีเด็กๆมากมาย ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ใช่แต่เฉพาะเด็กหญิง เด็กชายก็มี ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ อาจจะไม่ถึงกับมีการสอดใส่ แต่อาจจะเป็นการสัมผัส การบังคับให้สำเร็จความใคร่ ที่เศร้ากว่านั้นคือ ส่วนใหญ่คนที่ทำร้ายเด็กมักเป็นคนใกล้ชิดที่เด็กไว้ใจ เช่น ญาติ ครู คนแถวบ้าน ที่มาเล่นกับเด็กบ่อยๆ ทำให้เด็กที่ถูกทำร้ายยิ่งรู้สึกแย่เพราะคนที่ทำร้ายเค้าเป็นคนที่เค้าไว้ใจ รักและเคารพ
#หมอมินบานเย็น
สอนลูกระวังคนแปลกหน้า
สอนลูกระวังคนแปลกหน้า

ผลกระทบของการทารุณกรรมทางเพศต่อเด็ก

การทารุณกรรมทางเพศมีผลต่อเด็กทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะถ้าเกิดจากบุคคลใกล้ชิด เช่น บิดา

ผลกระทบต่อพฤติกรรมทางเพศ

เด็กที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศและถูกกระตุ้นทางเพศก่อนวัยอันควร จะส่งผลกระทบทำให้เด็กมีพฤติกรรมที่ยั่วยวนทางเพศ เด็กเล็กอาจแสดงออกมาโดยการสำเร็จความใคร่บ่อยๆ ในเด็กวัยรุ่น อาจมีความสำส่อนทางเพศ

ผลกระทบ ทางอารมณ์

  • รู้สึกว่าตนเองไม่มีค่า เสียหาย
  • รู้สึกผิด รู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมในการทำให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศ เพราะตัวเองน่าจะปฏิเสธหรือต่อต้าน รู้สึกว่าตัวเองต้องรับผิดชอบในการเปิดเผยความลับและทำให้ครอบครัวแตกแยก (ความรู้สึกผิด เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เด็กไม่กล้าบอกเล่าเรื่องที่ตนถูกล่วงละเมิดทางเพศให้ผู้ปกครองฟัง)
  • ความกลัว ซึ่งอาจแสดงออกมาโดยอาการนอนไม่หลับ หวาดผวา ฝันร้าย
  • ซึมเศร้า ถดถอย จากการสูญเสียครอบครัว
  • เสียความภูมิใจในตนเอง
  • ขาดความไว้วางใจผู้อื่น
  • ขาดทักษะสังคม เนื่องจากไม่สามารถสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่น รวมทั้งเด็กที่มีผลกระทบจากการทารุณกรรมทางเพศ มักมีความก้าวร้าว มีการแสดงออกทางเพศที่ไม่เหมาะสมทำให้ขาดเพื่อน

หากบุตรหลานตกเป็นเหยื่อของผู้ที่เป็นโรคใคร่เด็ก หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ พ่อแม่สามารถแจ้งไปได้ที่

  • มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก 0-2412-1196 (ในเวลาราชการ)
  • ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
เยียวยาใจลูกอย่างไร เมื่อเกิดเหตุแล้ว
เยียวยาใจลูกอย่างไร เมื่อเกิดเหตุแล้ว

หากลูกตกเป็นเหยื่อแล้วควรทำอย่างไร??

แน่นอนว่าเหตุการณ์ร้ายย่อมไม่มีใครอยากให้เกิดกับลูกหลานของตน แต่หากโชคร้ายได้เกิดขึ้นกับลูกแล้ว พ่อแม่ควรเยียวยาจิตใจของลูกก่อนเป็นอันดับแรก โปรดคำนึง และปฎิบัติให้เขารู้ ดังนี้

  • ขอความช่วยเหลือจากจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยา เพราะเป็นบาดแผลทางใจที่ต้องการการเยียวยาวระยะยาว และจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้ลูกต้องมีปมในใจติดไปจนโต
  • อยู่เคียงข้างลูก จนกว่าเขาจะสามารถกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นหนทางที่ไม่ง่ายเลยสำหรับผู้ถูกกระทำ และผู้คนรอบข้างเขา แต่ขอให้เข้มแข็งเพื่อรอวันที่จะผ่านพ้นไปให้ได้
  • แสดงให้ลูกได้รับลูกว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขายังคงมีค่าต่อพ่อแม่เสมอ

อย่ารอให้เกิดก่อน กับปัญหาการ ล่วงละเมิด ทางเพศเด็ก ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือเป็นเพียงคนพบเห็น การลวมลามเด็ก ที่แม้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่หากเราช่วยกันสอดส่องดูแลไม่นิ่งเฉย ปัญหาใหญ่ที่เกินจะรับไหวของเด็กคนหนึ่งอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก https://health.kapook.com/https://www.thaichildrights.org/https://justicechannel.org/https://www.prachachat.net

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

คนหาย เด็กหาย AMBER Alert ฟีเจอร์ช่วยหาก่อนเกิดเหตุร้าย

ตอบคำถามเรื่อง “เพศ” อย่างไรดี

อาม่าคุกเข่าอ้อนวอน! แก๊งวัยรุ่นหยุด บุลลี่ หลานชาย

ผู้เชี่ยวชาญกังวล!!ภาวะ “TikTok Brain” ทำ เด็กสมาธิสั้น

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up