

โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ (Shrewsbury International School Bangkok) หนึ่งในโรงเรียนนานาชาติชั้นนำของประเทศไทย ประกาศเปิดตัวอาคารเรียนส่วนต่อขยายสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล (Early Years) วัย 2-5 ปี อย่างเป็นทางการ ที่สาขา ซิตี้แคมปัส (City Campus) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท-พระราม 9 ภายใต้ธีม “Early Years Development: Setting Foundation, Shaping Future” เพื่อสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ที่แข็งแรง และปูทางสู่อนาคตอย่างมั่นคง พร้อมยกสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้เป็นเสมือนครูคนที่สาม และส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning Skills) ให้ตั้งแต่วัยเยาว์ พร้อมตอบรับความต้องการสมัครเรียนของเด็กวัยอนุบาลที่เพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันในธุรกิจโรงเรียนนานาชาติที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยฝ่าย Early Years ของโรงเรียนตั้งเป้ารับนักเรียนวัยอนุบาลเพิ่มเป็น 232 คนต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 33% จากแผนเดิม ทั้งนี้การเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้รับเกียรติจาก นายชาลี โสภณพนิช ผู้ก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ร่วมเป็นเกียรติเปิดงานด้วย
อแมนดา เดนนิสัน ครูใหญ่และครูผู้บริหารรุ่นก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส กล่าวว่า “โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส ให้ความสำคัญกับการสร้างรากฐานการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งให้เด็กตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยการออกแบบหลักสูตรที่ให้เด็กเป็นผู้นำในการเรียนรู้ และสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนเชิงบวกที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของเด็กให้ครบทุกด้าน การขยายอาคารใหม่ของสาขาซิตี้แคมปัสครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนว่าเรามุ่งมั่นมอบการศึกษาระดับพรีเมียมให้เด็กได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ อีกทั้งยังเพื่อตอบรับกับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นทุกปีของผู้ปกครองที่ต้องการส่งบุตรหลานวัยอนุบาลเข้ามาเรียนที่ซิตี้แคมปัส ซึ่งปีนี้และปีต่อ ๆ ไป เราตั้งเป้าเปิดรับนักเรียนอนุบาลเพิ่มเป็น 232 คน หรือเพิ่มขึ้นราวๆ 33% จากแผนเดิมก่อนที่จะมีการขยายอาคาร”
“Environment as the Third Teacher” แนวคิดให้สภาพแวดล้อมเปรียบเสมือนครูคนที่สาม
อาคารเรียนส่วนต่อขยายสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล (Early Years) ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Environment as the Third Teacher” คือการสร้างสภาพแวดล้อมให้เป็น “ครูคนที่สาม” ที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติของเด็ก ผ่านการที่พวกเขาสามารถสำรวจทุกสิ่งรอบตัวมาเรียนรู้ ท่ามกลางบรรยากาศการเรียนที่ผ่อนคลาย มีความสุข และปลอดภัย ส่งผลให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning Skills)
อาทิ การคิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ การพึ่งพาตนเอง และการปรับตัว เป็นต้น ซึ่งการที่จะทำให้สภาพแวดล้อมเป็นเสมือนครูคนที่สาม โรงเรียนจึงได้สร้างอาคารขึ้นมาอย่างเฉพาะเจาะจง (Purpose-built Facility) เพื่อให้เด็กเล็กใช้เท่านั้น คือ ห้องเรียน เฟอร์นิเจอร์ สิ่งของต่าง ๆ รวมถึงต้นไม้และสวนรอบอาคาร ได้รับการออกแบบและจัดวางให้เหมาะสมกับเด็ก นอกจากนี้ อีกหนึ่งความโดดเด่นคือโซน “Early Years Hub” ซึ่งเป็นพื้นที่ตรงกลางเชื่อมต่อห้องเรียนทุกห้องอย่างกลมกลืน ไม่มีระเบียงทางเดินกั้นระหว่างห้องเรียนเหมือนโรงเรียนทั่วไป เพื่อให้เด็กสามารถเคลื่อนไหวอย่างอิสระทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน และมีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับเด็กและคุณครูคนอื่น ๆ นอกชั้นเรียนของตน พื้นที่ตรงกลางนี้ยังออกแบบขึ้นมาเพื่อผู้ใหญ่ด้วย คือสามารถเป็นจุดพบปะและเชื่อมสัมพันธ์กันระหว่างผู้ปกครองและครูเมื่อมาส่งหรือรอรับบุตรหลาน เกิดเป็นคอมมิวนิตี้ครอบครัวโรงเรียนโชรส์เบอรีที่อบอุ่นและเป็นมิตร
แคธเทอรีน โอคิล ผู้ช่วยครูใหญ่ฝ่ายเด็กอนุบาลและประถมต้น กล่าวว่า “การเปิดตัวส่วนต่อขยายของอาคารใหม่ของฝ่ายอนุบาลคือความภาคภูมิใจของโรงเรียน เพราะการขยายพื้นที่เพื่อรองรับจำนวนเด็กเล็กที่มาสมัครเรียนเพิ่มขึ้นจากเสียงเรียกร้องจากผู้ปกครองรายใหม่ หมายความว่าเราได้รับความไว้วางใจและเสียงตอบรับที่ดีมากจากผู้ปกครองปัจจุบัน อีกทั้งเรายังมีทีมครูผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนเด็กเล็กพร้อมด้วยวุฒิครูรับรองจากกระทรวงศึกษาของประเทศอังกฤษ (UK’s Qualified Teacher Status – QTS) ร่วมมือกันเพื่อนำหลักสูตรพัฒนาเด็กเล็กขั้นพื้นฐานของอังกฤษ Early Years Foundation Stage และแนวทางที่เน้นให้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ Reggio Emilia Approach มาใช้กับการเรียนการสอนเด็กเล็กที่นี่ ซึ่งความเชี่ยวชาญในหลักสูตรจากครูของเรา ควบคู่กับอาคารสถานที่เรียนที่สร้างขึ้นอย่างใส่ใจทุกรายละเอียด ยิ่งส่งเสริมให้เด็ก ๆ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และได้เริ่มต้นเส้นทางการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพตั้งแต่ก้าวแรกที่พวกเขาเข้ามาเรียนในโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส”
เปิดตัวมาสคอตประจำชั้นอนุบาล “Starfish”
นอกจากนี้ ภายในงานเปิดตัวส่วนขยายอาคารใหม่ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส ได้มีการเปิดตัวมาสคอตสุดน่ารักสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล ชื่อ “Starfish” หรือ “ปลาดาว” สัตว์ทะเลซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามารถในการปรับตัวและการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนเป้าหมายหลักของโรงเรียนที่ต้องการสร้างรากฐานการเรียนรู้และทักษะชีวิตที่มั่นคงให้กับเด็ก ๆ ตั้งแต่เยาว์วัย
ทั้งนี้การเปิดตัวอาคารเรียนส่วนต่อขยายสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาล (Early Years) สำหรับเด็กเล็กวัย 2-5 ปี อย่างเป็นทางการของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส ในครั้งนี้ ได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ในการเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ของเด็กเล็ก ที่มุ่งส่งมอบประสบกาณ์การเรียนที่มีคุณภาพตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นชีวิตของเด็ก ๆ เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง ปูทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ข้อมูลเกี่ยวกับ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ
โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ เป็นหนึ่งในโรงเรียนนานาชาติชั้นนำของประเทศไทยและของเอเชีย และยังเป็นสาขาแรกในเอเชียของโรงเรียนโชรส์เบอรี ประเทศอังกฤษ โดยโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ริเวอร์ไซด์ ที่ถนนเจริญกรุง ได้เปิดทำการเรียนการสอนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 รวมเวลากว่า 20 ปี ตามด้วยโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส ที่เปิดสอนในปี พ.ศ. 2561 ที่ย่านสุขุมวิท-พระราม 9 เพื่อตอบสนองต่อจำนวนนักเรียนที่เพิ่มมากขึ้น โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส เป็นโรงเรียนระดับปฐมวัยที่เชี่ยวชาญในการปูพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเรียนรู้และทักษะชีวิตต่าง ๆ เปิดรับนักเรียนอายุ 2 ถึง 11 ปี ตั้งแต่ระดับชั้นก่อนอนุบาล (Nursery) จนถึงประถมต้น Year 6 ตามหลักสูตรอังกฤษ ซึ่งนักเรียนที่จบการศึกษาจากชั้น Year 6 ที่ซิตี้แคมปัส จะสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับชั้น Year 7 ได้ทันทีที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ริเวอร์ไซด์ ไปจนถึงอายุ 18 ปี เพื่อเตรียมตัวก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ มีประวัติผลการเรียนและการสอบของนักเรียนที่ยอดเยี่ยม โดยเป็นหนึ่งในโรงเรียนอันดับต้น ๆ ที่มีสถิตินักเรียนสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และโอเชียเนีย สูงสุด
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส โปรดเยี่ยมชม
โรงเรียนแห่งแรกที่ทุกคนการตกหลุมรัก
เด็ก ๆ เรียนตั้ง 3 ภาษาหนักเกินไปไหม ?
ถ้าเปรียบเทียบสมองของเด็ก ๆ กับชิพตัวแรงในคอมพิวเตอร์ สมองของเด็ก ๆ ทรงพลังและยืดหยุ่นกว่ามาก ๆ เหมือน “ฟองน้ำ” ที่สามารถดูดซับ อุ้มน้ำได้มากและก็ใช้งานได้ดีเมื่อมีความชุ่มชื้น สมองของเด็ก ๆ ก็เช่นกันค่ะ สามารถเรียนรู้และมีความจุมาก..ความรู้จะเก็บเป็นคลัง รอคอยวันที่จะหยิบออกมาใช้ ดังนั้นการเรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ไปพร้อมกันเลยตั้งแต่เล็ก ๆ จะทำให้เด็ก ๆ จะคุ้นเคยกับบทสนทนาและมีคลังคำศัพท์ที่มากขึ้นเป็น 3 เท่าตัว และเป็นคำศัพท์ที่ทำให้เด็ก ๆ สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงในสถานการณ์ต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ
ขณะเดียวกันถ้าเรามาเรียนภาษาที่ 2 หรือ ที่ 3 เมื่อเราโตไปแล้ว จะพบได้ว่าจำยาก จำไม่ได้ ไม่ได้ใช้ก็ลืม…ใช่ไหมคะ
( DADI + Family จะร่วมหารือเตรียมความพร้อมเด็ก ๆ + วางแผนการเรียนต่อกันตั้งแต่ชั้น K2 กันเลยค่ะว่าทางครอบครัวอยากให้เด็กๆ “เข้า ป.1” ที่ไหน เพราะแต่ละโรงเรียนมีช่วงเวลาในการ admission ไม่เหมือนกัน ( โรงเรียนไทย vs. นานาชาติ )
คลาสสนุก..ลูกชอบ ผู้ปกครองก็ร้องว้าว
Abacus Class การใช้ลูกคิด
STEAM – Engineering
Art Class
Cooking Class
Chinese Wording
สิ่งแรกที่สังเกตได้คือ นักเรียน DADI ใช้ภาษาจีนได้คล่องแคล่วมาก โต้ตอบเหล่าซือได้อย่างเป็นธรรมชาติ กล้าและมั่นใจสุด ๆ บรรยากาศในห้องเรียนคึกครื้นมาก ล้วนเป็นผลมาจากความคุ้นเคยกับการใช้ภาษา + บทสนทนาตั้งแต่เล็ก ๆ
Jolly Phonics
Show and Tell
นิเวศรอบลูก
สิ่งแวดล้อมรอบเด็ก ๆ เป็นอีกข้อหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาเพราะลูก ๆ ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนเป็นบ้านหลังที่สองเลยทีเดียว ขอยกตัวอย่างมาเพียง 10 ข้อเด่นนะคะ
ทีมคุณครูผู้ทุ่มเท
โรงเรียนคือส่วนหนึ่งในชีวิตของเด็ก ๆ การมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดจะทำให้เด็ก ๆ มี mindset ที่ดีต่อการเรียนในอนาคต
อนุบาลแสนสนุกของเด็กอารมณ์ดี
โรงเรียนอนุบาลนานาชาติต้าตี้ (Dadi International Kindergarten)
รับนักเรียนอายุตั้งแต่: Nursery 1 จนถึง Kindergarten 3 (อายุ 2-6 ปี)
อัตราค่าเล่าเรียน
1 ปีการศึกษา มี 3 ภาคเรียน
ปีการศึกษาละ 270,000 – 298,500 บาท
…
DADI International Kindergarten (Naradhiwas Soi 24 / Sathupradit Soi 19)
Editor : แม่พลอยผิง
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข , ภูมิปกรณ์ ณ บางช้าง
Babybotte x Abigail แฟชั่นเซ็ทสุดสดใสกับรองเท้าคู่โปรดของ “แอบิเกล” พร้อมเปิดตัวคอลเล็กชันใหม่จากลวดลายของศิลปินระดับโลก “นาตาลี เลเต้”
เบบี้บอท (Babybotte) รองเท้าเพื่อสุขภาพสัญชาติฝรั่งเศสที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านการเดินสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 15 ขวบที่มีมายาวนานกว่า 80 ปี ด้วยกระบวนการผลิตที่มากกว่า 120 ขั้นตอนตามหลักสรีระศาสตร์อย่างถูกต้องเพื่อให้ได้รองเท้าที่ดีที่สุดสำหรับเด็กจนได้รับโอกาสให้ผลิตรองเท้าถวายแด่ราชวงศ์โมนาโกอย่างเจ้าหญิง Grace Kelly (เกรซ เคลลี) สไตล์ไอคอนแห่งยุคที่เธอเองก็เลือกเบบี้บอทให้เป็นรองเท้าคู่โปรดสำหรับลูกน้อยของเธอ ซึ่งนอกจากจะเป็นรองเท้าเด็กที่แพทย์แนะนำแล้ว ความพิถีพิถันใส่ใจในเรื่องการออกแบบให้เหมาะกับเทรนด์ในแต่ละยุค ไปจนถึงการร่วมมือศิลปินเพื่อลวดลายที่แสดงออกถึงความน่ารักสดใสของเด็กๆ ยามเมื่อสวมใส่ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ในครั้งนี้เบบี้บอทก็ยังคงนำเสนอความน่ารักแบบไร้ขีดจำกัดของเด็กๆ ผ่านตัวแทนความสดใสที่เรียกรอยยิ้มได้ตลอดเวลาอย่าง “น้องเกล แอบิเกล รังษีสิงห์พิพัฒน์”
Photo by Delphine Chanet
คอลเล็กชันนี้จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์การร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ ของ “เบบี้บอท” รองเท้าเพื่อสุขภาพเด็กจากฝรั่งเศส และศิลปินชื่อดัง นาตาลี เลเต้ โดยนาตาลีเลือกภาพเขียนของกระต่ายน้อยมากกว่า 10 ลวดลาย ที่สามารถจับคู่ได้ทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย อีกทั้งยังแสดงถึงความน่ารัก แสนซน แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของช่วงวัยเด็ก
นอกจากนี้ “เบบี้บอท” ยังมีดีไซน์ที่หลากหลายสำหรับแฟชั่นนิสต้ารุ่นจิ๋ว ด้วยวัสดุที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันและมีคุณภาพ ส่งเสริมพัฒนาการด้านการเดินสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพื่อก้าวที่สำคัญสำหรับ 5 ขวบปีแรกของหนูน้อย โดย “เบบี้บอท” ได้ออกแบบรองเท้าสำหรับเด็กมากถึง 4 รุ่น สำหรับ 4 ช่วงวัย อันได้แก่ รุ่นออล โฟร์ (All Fours) และรุ่นมูแลง โรตี้ (Moulin Roty) รองเท้าสำหรับเด็กแรกเกิดถึงช่วงเริ่มคลาน, รุ่นท็อดเลอร์ (Toddler) สำหรับน้องๆ อายุประมาณ 10 เดือน ที่เริ่มเกาะยืนและเริ่มหัดเดิน, รุ่นเฟิร์ส เสต็ป (First steps) รองเท้าสำหรับเด็กเริ่มเดินอายุตั้งแต่อายุ 1-4 ขวบ และรุ่นสุดท้าย อินเตอร์พิต (Intrepides) รองเท้าสำหรับน้องๆ ในช่วงวัย 4 ขวบขึ้นไป ภายใต้ราคาที่จับต้องได้ตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 4,500 บาทเท่านั้น
พบกับคอลเล็กชันใหม่ของ “เบบี้บอท” (Babybotte) รองเท้าที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านการเดินที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ได้ที่ babybotte shop ชั้น 2 (ฝั่งลิฟต์แก้ว) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ไอคอนสยาม ชั้น 5, Kid’s Planet ชั้น 3 พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์ สโตร์, Central และ babybotte shop Central Village Luxury Outlet สอบถามและดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.babybotte-th.com, IG : babybotte_thailand และ Line : @babybotte_thailand
คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นคลิปของชาวต่างชาติที่สามารถกระโดดข้ามผ่านสิ่งกีดขวาง หรือปีนป่ายขึ้นไปยืนบนตึกสูง ๆ อย่างคล่องแคล่ว โดยใช้แค่เพียงร่างกายของตนเองไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ช่วยเหลือ ผู้ใหญ่หลายคนก็สนใจอยากลองทำดูบ้าง ส่วนเด็ก ๆ เห็นคลิปแล้ว น่าจะอยากเลียนแบบเช่นกัน เคยสงสัยว่ากันไหมคะว่าพวกเขาทำได้อย่างไร ดูอันตรายแบบนี้ เด็ก ๆ สามารถเรียนได้หรือเปล่า ? วันนี้ทีมแม่ ABK จะมาช่วยคลายความสงสัยและพาทุกคนมาทำความรู้จักกีฬา “Parkour” กีฬาที่ใช้เพียงร่างกายและจิตใจ แถมยังมีประโยชน์มากมายกับเด็ก ๆ ใครอยากให้ลูกเป็นนินจาตัวน้อย ต้องมาที่นี่เลยค่ะ ที่ The Movement Playground
จุดเริ่มต้น
The Movement Playground หรือ MPG ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2017 โดยคุณ Julien Vigroux , คุณฟาน ศรีไตรรัตน์ , คุณสุวิโรจน์ ลีลาประชานุกูล และคุณชาตรี ซาบาโด ศรีวิจิตร ที่นี่เป็นยิมฝึกสอนกีฬา Parkour (ปากัวร์) และ Body Movement & Dynamic ที่แรกและที่เดียวในประเทศไทยเลยก็ว่าได้
จุดเริ่มต้นมาจากประสบการณ์ในการเล่นกีฬาปากัวร์มาเนิ่นนาน กว่า 25 ปี ของคุณ Julien ผู้ร่วมก่อตั้ง หลังจากมาเที่ยวประเทศไทยกับครอบครัว ก็รู้สึกชอบประเทศไทยมากและอยากเปิดยิม เพื่อเผยแพร่ Body Movement & Body Dynamic ผ่านกีฬา Parkour (ปากัวร์) ที่เน้นการฝึกความแข็งแรง การเคลื่อนไหว และการหลบหลีกของร่างกายอย่างคล่องแคล่วว่องไว รวมถึงเผยแพร่กีฬาชนิดนี้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศไทย โดยเริ่มต้นจากการสอนในสตูดิโอเล็ก ๆ และกลายเป็น The Movement Playground บนพื้นที่กว่า 600 ตร.ม.ในปัจจุบัน
โซนต้อนรับ
Parkour (ปากัวร์) ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
Parkour (ปากัวร์) เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “ วิ่งทุกที่” คิดค้นโดย เดวิล เบลล์ ( David Belle) เป็นกีฬาที่ว่าด้วยการกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ เช่น กำแพง บนหลังคา ตึก หรือที่ต่างๆ ทั่วเมือง โดยกีฬาชนิดนี้เป็นพื้นฐานในการเล่นกีฬา Freerunning ในเวลาต่อมา
กีฬานี้เป็นกีฬาที่เซฟมาก ๆ สอนให้คนรู้จักเคลื่อนไหวด้วยความคล่องตัวให้เร็วที่สุดและเซฟตัวเองมากที่สุด
แต่หากใครที่ไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้องก็อาจเกิดอันตรายหรือบาดเจ็บได้ ผู้เรียนควรฝึกฝนร่างกายอยู่เป็นประจำ และรู้จักลิมิตของตนเอง ไม่ว่าจะเรื่องการกระโดดได้ไกล กระโดดสูง และยังต้องเรียนรู้การ Soft Landing หรือการลงบนพื้นอย่างไรให้เบาที่สุดและปลอดภัยที่สุด
มายืดกล้ามเนื้อกันก่อน
เด็ก ๆ เล่นได้ ผู้ใหญ่เล่นดี
กีฬาปากัวร์มีประโยชน์ทั้งกับจิตใจ และร่างกาย ไม่ต่างจากกีฬาอื่น ๆ ผู้เรียนต้องมีความมั่นใจ สามารถควบคุมร่างกายและการเอาชนะความกลัวของตนเอง เมื่อเห็นบางอย่างที่ดูอันตรายจะกล้าที่จะฝ่าฟันไปได้หรือไม่ ถ้าผ่านไปได้ร่างกายก็จะพัฒนาขึ้น ที่นี่จะสอนให้รู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย แถมยังเป็นกีฬาที่มีประโยชน์กับร่างกายครบทุกด้าน เหมาะทั้งกับเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ ทักษะทางร่างกาย คุณพ่อคุณแม่จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของเด็ก ๆ อย่างชัดเจน เมื่อฝึกกีฬานี้ เด็ก ๆ จะได้ กระโดด คลาน ปีน ป่าย ทรงตัว เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ได้ฝึกควบคุมร่างกาย ฝึกสมาธิและพัฒนา Skill ต่าง ๆ ส่วนทางด้านจิตใจ เด็กจะมีความมั่นใจมากขึ้น มีสมาธิ และที่สำคัญมีทักษะการเอาตัวรอดสูง หากเกิดเหตุร้ายขึ้น สำหรับฐานต่าง ๆ สำหรับเด็ก จะใช้เทคนิคการฝึกแบบนินจาเพื่อทำให้เด็กรู้สึกสนุกยิ่งขึ้น ตามธาตุต่าง ๆ ดังนี้
Fire Element เรียนรู้พื้นฐานและเทคนิคในการกระโดดและการเปลี่ยนทิศทาง = ได้ความกล้าหาญ
Wood Element เรียนรู้พื้นฐานการปีนป่ายขึ้นและลง อย่างมีประสิทธิภาพ = ได้ความพยายาม
Metal Element เรียนรู้พื้นฐานของการทรงตัว = ได้สมาธิ
Water Element เรียนรู้เทคนิคพื้นฐานการกระโดดข้ามสิ่งกีดความและอุปสรรคต่าง ๆ = ได้ความคิดสร้างสรรค์
Earth Element และทักษะที่สำคัญที่สุดของการเป็นนินจาคือ การลงบนพื้นอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด = ได้ความปลอดภัย
โค้ชสอนทุกอย่าง ปีนอย่างไร กระโดดอย่างไรจึงจะปลอดภัย
ฝึกการทรงตัว มีประโยชน์กับชีวิตประจำวันมาก ๆ
อุปกรณ์ครบครัน ได้มาตรฐาน
ทีมโค้ชมืออาชีพ
ที่ The Movement Playground มีโค้ชนักกีฬาที่มีประสบการณ์และผ่านแข่งขันเวทีนานาชาติ และผ่าน Certified หนึ่งในนั้นคือคุณ Julien Vigroux ซึ่งเป็นนักกีฬาปากัวร์ ที่มีประสบการณ์เล่นปาร์กัวร์ตั้งแต่อายุ 17 ปี และมีประสบการณ์เรื่องกีฬาปาร์กัวมากว่า 25 ปี มีความรู้ มีประสบการณ์มีความหลงใหลและรักกีฬานี้มาก จากในเมือง Lisses ประเทศฝรั่งเศส เมืองซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกีฬาปากัวร์และผู้ให้กำเนิดอย่าง David Belle ก็อยู่ที่นั่นด้วย ! คุณจูเลียนมองว่ากีฬาปากัวร์เป็นอะไรมากกว่ากีฬา แต่มันคือสิ่งที่ช่วยขัดเกลาจิตวิญญาณจนแข็งแกร่งพอที่จะให้เราก้าวผ่านความกลัวของชีวิตไปได้ นอกจากนี้ยังมีโค้ชที่ผ่าน Certified รวมถึงเป็นนักกีฬาที่มีประสบการณ์และผ่านการแข่งขันในเวทีนานาชาติมาหลายรายการ มาสอนให้กับทุกคนที่นี่ด้วย
ห้องน้ำสะอาดสะอ้าน
คลาสเรียน หลากหลาย
ปัจจุบัน The Movement Playground เปิดสอนทั้งคลาสผู้ใหญ่และเด็กตั้งแต่อายุ 4 ปีขึ้นไป
LITTLE KIDS CLASSES ( อายุ 4-5 ปี )
จะเป็นโปรแกรม Pre-Parkour ที่เน้นการฝึกการเคลื่อนไหวและการโฟกัสให้กับเด็กเล็ก โดยใช้พื้นฐานจากกีฬา Parkour
KIDS CLASS ( อายุ 6 -11 ปี )
The Movement Playground ได้ออกแบบโปรแกรมการสอนกีฬา Parkour สำหรับเด็กขึ้นมาโดยเฉพาะ ผ่าน 5 Core Elements (FIRE, WATER, WOOD, EARTH, METAL) และนำถ่วงท่าการเคลื่อนไหวแบบนินจาเข้ามาช่วยทำให้เด็กเข้าใจง่ายขึ้น รวมไปถึงทักษะที่ต่อยอดในการเล่นกีฬาอื่นๆ และการเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่คับขัน ปัจจุบันเปิดสอน 2 รูปแบบ คือ
Academy: มี 6 ระดับ เรียนตามโปรแกรมและการสอบวัดระดับทักษะ
Non-Academy: เน้นสำหรับเด็กที่ต้องการออกกำลังกายแบบฟรีสไตล์
TEENS CLASS (อายุ 12-17 ปี)
เป็นคลาส Parkour ที่สอนทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระ ผ่านรูปแบบการกระโดด การคลาน การทรงตัว การปีน เป็นต้น โดยออกแบบมาให้เหมาะกับกลุ่มวัยรุ่น รวมไปถึงเทคนิคท่าทางที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์เข้าไปด้วย
ADULTS CLASSES มี 2 คลาส
Parkour: เป็นคลาสที่สอนทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระ ผ่านรูปแบบการกระโดด การคลาน การทรงตัว การปีน เป็นต้น โดยเน้นการเคลื่อนไหวและเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกการโฟกัสและสมาธิของผู้เรียนไปด้วย
Obstacle Course Racing (OCR): เป็นคลาสที่เน้นการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและร่างกายด้วยด่านอุปสรรคที่หลากหลายรูปแบบ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไปลงแข่งขัน Obstacle Race โดยนำพื้นฐานการเคลื่อนไหวร่างกายแบบกีฬา Parkour (ปากัวร์) ออกแบบมาเป็นโปรแกรมฝึกสอนโดยเฉพาะ
Mommy Love This ! ถูกใจแม่
มีมุมนั่งพักคอย สบายๆ สำหรับผู้ปกครองและมีห้องน้ำ ขนาดใหญ่ ไว้รองรับไม่ต่างจากยิม
เด็ก ๆ ได้ฝึกทักษะการเอาตัวรอด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับยุคนี้
Studio ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางง่าย
เด็ก ๆ ได้ออกกำลังกายและปล่อยพลังเต็มที่ ห่างไกลจากจอมือถือ
ทีมโค้ชมืออาชีพ คอยดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด
ติดต่อ
The Movement Playground
36/4 สุขุมวิท 69 แขวงพระขโนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
Tel: 02-012-1557
LINE: @mvmpg
Email: [email protected]
Facebook : https://www.facebook.com/TheMovementPlayground
Editor : แม่เลม่อน
ภาพ : เนาวพจน์ โพธิเกษม
บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการคุณภาพที่ครอบคลุมบริการหลังการขายอย่างครบวงจรที่สุด เพื่อส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัย ‘Livable Living Experience’ ให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด “น่าอยู่” ล่าสุดเปิดตัวโปรแกรม #MembersGetNeighbors ที่มอบสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้า LPN เพียงชวนเพื่อนมาจองซื้อโครงการคุณภาพจาก LPN ที่ครอบคลุมโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโด พร้อมอยู่และโครงการใหม่ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด รับเลย! ค่าแนะนำมูลค่าสูงสุดถึง 1,000,000 บาท* (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด)
นายสมบัติ ชาญยุทธกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวว่า
“สำหรับ LPN ด้วยคุณภาพและความน่าเชื่อถือของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และบริการหลังการขายที่ทำให้ได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากว่า 35 ปี ปัจจุบันเรามีสมาชิกครอบครัว LPN กว่า 125,000 ครอบครัว ซึ่งได้รับการดูแลเป็นอย่างดีมาตลอด นอกเหนือจากนั้นเรายังให้ความสำคัญกับการบริหารความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาวด้วย ล่าสุด เราจึงเปิดตัวโปรแกรม #MembersGetNeighbors โปรแกรมพิเศษที่เปิดโอกาสให้ลูกค้า LPN สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นง่ายๆ ทันที เพียงแค่ชวนเพื่อนมาเป็นครอบครัว LPN ด้วยกัน ผ่านระบบที่ได้รับการพัฒนาให้มีขั้นตอนที่ง่าย ชัดเจน สามารถติดตามและตรวจสอบสถานะได้ด้วยตัวเอง ซึ่งถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ร่วมกับลูกค้าอีกรูปแบบหนึ่ง โดยในอนาคตเรายังวางแผนที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าและสมาชิกครอบครัว LPN ผ่านกิจกรรมดีดี พร้อมสิทธิประโยชน์อีกมากมาย อยากให้รอติดตามกันครับ”
สำหรับลูกค้า LPN ที่สนใจเข้าร่วมโปรแกรม #MembersGetNeighbors สามารถอ่านรายละเอียดโปรแกรม และลงทะเบียนผ่านเว็ปไซต์ www.lpn.co.th โดยทำตามขั้นตอนสมัครง่ายๆ ก็มีสิทธิ์ได้รับค่าแนะนำไปเลย รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ LPN Call Center 02-689-6888
#LPN #MembersGetNeighbors #LivableCommunity #LPNสังคมคุณภาพ #บ้านและคอนโดLPN #สารภาพว่าติดบ้าน
#ลูกค้าLPN #ลูกบ้านLPN #LPNprivilege
หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาแปรงสีฟันใหม่ที่ช่วยให้การแปรงฟันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
แปรงสีฟันไฟฟ้า คอลเกต อ๊อพติค ไวท์ ช่วยให้ฟันดูขาวขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ใช้*
ด้วยเทคโนโลยีโซนิค พร้อม 2 โหมดให้เลือก: อ่อนโยนและปกติ
ขนแปรงบิดเกลียว พร้อมยางทรงกลมช่วยขจัดคราบบนผิวฟัน
ระบบจับเวลา 2 นาที ช่วยให้แปรงฟันได้อย่างทั่วถึง
มาพร้อมที่แปรงลิ้น เพื่อขจัดแบคทีเรียและเศษอาหาร
*ช่วยขจัดคราบบนผิวฟัน ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่
https://shopee.co.th/colgatepalmolive_official
เตรียมพบกับพระเอกหนุ่มสุดฮอต “จองแฮอิน” (Jung Hae In) ที่กำลังจะกลับมาหาแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้งตามสัญญาในงานแฟนมีตติ้งที่ทุกคนรอคอย “JUNG HAE IN FAN MEETING ‘OUR TIME’ IN BANGKOK 2024” ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2567 นี้ ณ BHIRAJ Hall, BITEC บางนา
รายละเอียดงาน:
‘จองแฮอิน’ พระเอกเบอร์ต้นแห่งวงการบันเทิงเกาหลีใต้ที่นาทีนี้ความฮอตฟุ้งไปทั่วเอเชีย กลับมาครั้งนี้พร้อมมอบความประทับใจให้กับแฟนๆ ชาวไทยแบบใกล้ชิดและเป็นกันเองที่สุด ภายใต้ชื่อทัวร์ “JUNG HAE IN FAN MEETING ‘OUR TIME’ IN BANGKOK 2024” ที่จะจัดขึ้นเพียง 1 รอบการแสดงเท่านั้น แฟนๆ เตรียมพบกับเซอร์ไพรส์พิเศษมากมายและความอบอุ่นจากจองแฮอินอย่างเต็มที่
ด้วยความสำเร็จจากงานแฟนมีตติ้งปีที่ผ่านมา ‘Viu Scream Dates’ presents “JUNG HAE-IN ‘THE 10TH SEASON’ FAN MEETING IN BANGKOK 2023” ที่เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีในวงการบันเทิง จองแฮอินสร้างความทรงจำที่งดงามและอบอุ่นใจให้กับแฟนๆ ชาวไทยอย่างมากมาย การกลับมาครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ไม่ควรพลาดที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่และความใกล้ชิดกับเขาอีกครั้ง!
ล่าสุด จองแฮอิน กำลังแสดงในซีรีส์เรื่องใหม่ “Love Next Door รักอยู่ประตูถัดไป” ในบทบาท “ชเวซึงฮโย” สถาปนิกหนุ่มที่มีทั้งความสามารถและเสน่ห์ตกแฟนๆเข้าด้อมอีกล็อตใหญ่ การมีส่วนร่วมในซีรีส์ใหม่นี้ตอกย้ำความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นที่สุดในวงการบันเทิงเกาหลี พร้อมยังได้ประกาศแฮชแท็ก #정해인 #JungHaeIn #OUR_TIME ให้แฟนๆ ชาวไทยเตรียมพร้อมหวีดล่วงหน้า เรียกว่าสมมงฉายา “ไทยแลนด์แดนเมียหลวง” จริงๆ…
จองแฮอินไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงที่มีเสน่ห์และฝีมือการแสดงยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในศิลปินที่ฮอตที่สุดของเกาหลี โดยผลงานซีรีส์อย่าง ‘Something in the Rain’, ‘One Spring Night’, ‘Snowdrop’ และ ‘D.P.’ รวมถึงภาพยนตร์ ‘Tune in for Love’ ต่างได้รับคำชมจากผู้ชมทั้งในและนอกประเทศ ความสามารถที่ไม่ธรรมดาของเขาทำให้แฟนๆ ต่างหลงรักและรอติดตามผลงานใหม่ๆ อย่างตื่นเต้น
อย่าพลาดโอกาสพิเศษนี้! เตรียมล็อกวันในปฏิทินและเตรียมตัวกดบัตรให้พร้อม แล้วมาร่วมสร้างความทรงจำสุดพิเศษกับจองแฮอินได้ที่งาน “JUNG HAE IN FAN MEETING ‘OUR TIME’ IN BANGKOK 2024” รีบจองบัตรก่อนที่จะเต็ม เพราะนี่จะเป็นโอกาสเดียวที่จะได้พบกับจองแฮอินอย่างใกล้ชิดที่สุด!
เปิดจำหน่ายบัตรแล้วทาง www.thaiticketmajor.com และ Thaiticketmajor ทุกสาขา บัตรราคาเริ่มต้นที่ 2,500 บาท พร้อมสิทธิพิเศษมากมายสำหรับแฟนๆ ของจองแฮอินโดยเฉพาะ! ติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook และ X :ViuScreamDatesTH หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานได้ที่ http://m.me/viuscreamdatesth/
กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ กับงานประกาศรางวัล “ AMARIN BABY & KIDS AWARDS 2024 ” รางวัลสุดยอดแบรนด์สินค้าและไลฟ์สไตล์แม่ลูกอันดับ 1 ในใจคนไทย โดยกองบรรณาธิการเว็บไซต์ AMARIN BABY & KIDS ภายใต้ เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ ในเครืออมรินทร์กรุ๊ป โดยจัดขึ้นต่อเนื่องเป็น ปีที่ 6 ในคอนเซ็ปต์ “FAMILY WELL- BEING – การสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว” เฟ้นหาสุดยอดแบรนด์สินค้าเพื่อการเลี้ยงดูลูกรักอย่างมีคุณภาพและสร้างสรรค์ และร่วมปลูกฝังพื้นฐานความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว และสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก โดยในปีนี้มอบรางวัลให้แก่แบรนด์สินค้าและบริการที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ รวมทั้งสิ้น 96 รางวัล โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ MOMMY’S CHOICES AWARDS, EDITOR’S CHOICES AWARDS, RISING STAR CHOICES AWARDS และรางวัลใหม่ล่าสุดอย่างรางวัล HEALTHY LIVING AND ECO-FRIENDLY PRODUCT ซึ่งมอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่สร้างครอบครัวมีสุขภาพใจกายที่ดี ณ AUBE ราชพฤกษ์
ภายในงานคับคั่งไปด้วยแขกผู้มีเกียรติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร จากสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล, โบ – ธนากร ชินกูล พิธีกรชื่อดังและคุณพ่อลูกหนึ่ง และ โค้ชเลิศพร เพจสอนแม่และเด็ก รวมถึงครอบครัวศิลปินดารา โย่ง – อนุสรณ์ หรือ โย่ง อาร์มแชร์ ที่ควงภรรยาสุดสวย ก้อย – วลัยลักษณ์ และน้องอบเชย และเหล่าผู้บริหารตัวแทนจากแบรนด์ต่างๆ ที่เข้ารับรางวัล
ประภัสสร มั่งศิริ บรรณาธิการอำนวยการ AMARIN BABY & KIDS บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด ในเครืออมรินทร์กรุ๊ป กล่าวว่า “AMARIN BABY & KIDS AWARDS 2024 จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยในปีนี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “FAMILY WELL- BEING” ที่มุ่งสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับครอบครัว ดังปณิธานของ AMARIN BABY & KIDS ซึ่งพร้อมเป็นสื่อกลางที่อยู่ร่วมกับทุกช่วงเวลาของคุณ “แม่” ตั้งแต่การเตรียมความพร้อม การตั้งครรภ์ การคลอด ตลอดจนการเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง ประถมวัย ร่วมสร้างองค์ความรู้จากแม่สู่แม่ แชร์เทคนิคการดูแลลูกน้อย แนะนำผลิตภัณฑ์ใช้ดี มีประโยชน์จริง พร้อมกับสร้างประสบการณ์การเลี้ยงลูกรูปแบบใหม่ ตามแบบฉบับคุณแม่ยุคใหม่ และเป็นส่วนหนึ่งในการเฟ้นหาผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพ ที่ช่วยให้คุณแม่สะดวกสบาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ผ่านกิจกรรม AMARIN BABY & KIDS AWARDS ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี”
“และในปี 2568 ที่ AMARIN BABY & KIDS ก้าวสู่ปีที่ 9 ได้เตรียมแผนงานสำคัญเอาไว้ โดยจะมีการเพิ่มสัดส่วนเนื้อหาด้านการศึกษา และการเรียนรู้ เพื่อกลุ่มเป้าหมายวัย 5 – 12 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงวัยสำคัญที่จะมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนอนาคต ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ www.amarinbabyandkids.com และโซเชียลมีเดีย ซึ่งปัจจุบันเฟซบุ๊กของ AMARIN BABY&KIDS มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน และเพิ่มเติมช่องทางใหม่อย่างช่องทางโทรทัศน์ที่ช่วงต้นปีหน้า เราจะได้พบกับรายการเพื่อแม่และลูก ในอมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ให้ได้เต็มอิ่มกับคอนเทนต์ที่อัดแน่นเพื่อแม่และลูกอย่างแน่นอน”
อัจฉรา จีนคร้าม บรรณาธิการบริหาร AMARIN BABY & KIDS บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนที จำกัด ในเครืออมรินทร์กรุ๊ป กล่าวว่า “ปีนี้ AMARIN BABY & KIDS AWARDS ยังคงเลือกสรรแบรนด์สินค้าแม่ลูกกันอย่างเข้มข้น ซึ่งในการเลือกสรรสินค้าในใจแม่ในรอบแรกเป็นการเสนอชื่อสินค้าที่คุณแม่ถูกใจ ใช้จริงมาใช้ในการคัดกรองแบรนด์สินค้าแม่ลูก ก่อนนำให้คุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศได้ร่วมลงคะแนนโหวตแบรนด์สินค้าและบริการโดนใจมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษที่คัดสรรโดยการคัดเลือกของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมกับการคัดเลือกจากทีมบรรณาธิการ AMARIN BABY & KIDS โดยมีแบรนด์สินค้าเข้ารับรางวัลมากถึง 96 รางวัล แบ่งเป็นสาขาต่างๆ ได้แก่ รางวัล MOMMY’S CHOICE ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากคุณแม่ทีใช้สินค้าจริงทั่วประเทศ จากสินค้า 7 หมวด ได้แก่ BEST FOR BATH & CARE, BEST FOR CLEANSER, BEST FOR FEEDING, BEST FOR PREGNANCY & NEW MOM, BEST FOR TRAVEL & SAFETY, BEST FOR LEARNING และ POPULAR VOTE จำนวน 43 รางวัล, รางวัล EDITOR’S CHOICE ได้รับการคัดเลือกจากกองบรรณาธิการเว็บไซต์ AMARIN BABY & KIDS ว่าเป็นสินค้าใช้ดี มีประโยชน์จริง จำนวน 34 รางวัล, รางวัล RISING STAR มอบให้กับผลิตภัณฑ์แม่ลูกน้องใหม่น่าจับตามอง จำนวน 8 รางวัล และรางวัล HEALTHY LIVING AND ECO-FRIENDLY PRODUCT รางวัลใหม่ล่าสุด ที่มอบให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่สร้างครอบครัวให้มีสุขภาพใจกายที่ดี จำนวน 11 รางวัล ตลอดจนรางวัลพิเศษอื่นๆ ที่เพิ่มประสบการณ์การเลี้ยงดูลูกในช่วงวัยที่โตขึ้น และการสร้างความสัมพันธ์ให้ครอบครัวแข็งแรง”
สามารถติดตามภาพบรรยากาศการมอบรางวัลในหมวดต่างๆ และบทความดีๆ ได้ทาง เว็บไซต์ www.amarinbabyandkids.com , Facebook : Amarin Baby & Kids , Tiktok : Amarin Baby & Kids , Line : @amarinbabyandkids
กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงานเปิดตัวแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนภายใต้ยุทธศาสตร์ ฟ้าใส (Joint Plan of Action – CLEAR Sky Strategy) (2567-2573) และงานสัมมนาแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียน ในวันอังคารที่ 29 ตุลาคม 2567 เวลา 13.00-16.30 น. ที่ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โดยจะมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิด ร่วมกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การจัดงานเปิดตัว “แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส (2567-2573)” มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดตัวแผนปฏิบัติการร่วมฯ ซึ่งดำเนินการตามผลการประชุมระดับผู้นำสามฝ่ายระหว่าง สปป.ลาว เมียนมา และไทย ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ทั้งนี้ แผนปฏิบัติการร่วมฯ กำหนดแผนงานและแนวทาง ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนระหว่างไทย สปป.ลาว และเมียนมาอย่างเป็นรูปธรรม โดยในงานเปิดตัวแผนปฏิบัติการร่วมฯ กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของ สปป.ลาว และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเมียนมา เข้าร่วมด้วย
ในส่วนของงานสัมมนาแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียน มีวัตถุประสงค์ เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะการนำแผนปฏิบัติการร่วมฯ มาปฏิบัติใช้ให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม โดยกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญวิทยากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญจาก 8 หน่วยงาน ได้แก่
นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการความร่วมมือด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนโดยหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอาเซียน กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมควบคุมมลพิษ ADPC และ GIZ
ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมงานตามวันและเวลาดังที่ระบุข้างต้น โดยสามารถลงทะเบียนผ่าน QR Code ที่ปรากฏด้านล่างนี้
สิ่งที่เราเตรียมให้ลูกน้อยของเราได้คือการเลือกโรงเรียนที่สร้างรากฐานและทักษะชีวิตให้ลูก ๆ แข็งแกร่ง เพราะการสอบที่แท้จริง คือ การใช้ชีวิตในอนาคต วันนี้ทีมแม่ ABK ขอพาคุณพ่อคุณแม่มารู้จัก โรงเรียนแอสเพนไชน์ (Aspenshire International School) อีกหนึ่งสุดยอดโรงเรียนนานาชาติแห่งใหม่ โดยนักการศึกษารุ่นใหม่ เพื่อเด็ก Gen ใหม่อย่างแท้จริง
โรงเรียนที่ “ใช่”
แม้จะเพิ่งเปิดปีการศึกษาแรก แต่คุณพ่อคุณแม่เชื่อมั่นได้เลยว่า Aspenshire จะกลายเป็นโรงเรียนที่ลูก ๆ รัก เพราะคุณภาพ เข้มข้น ตามแบบฉบับโรงเรียนในเครือ “สาธิตปทุม” ที่มี ผศ. ดร. ประชุมพร สุวรรณตรา เป็นผู้ก่อตั้ง หลักสูตรที่ผ่านการคิดมาอย่างดี เพราะนักการศึกษาที่นี่เองก็เคยเป็น “นักเรียน” มาก่อน และ pain point หรือ อุปสรรคในการเรียนรู้ถูก “จัดการ” เรียบร้อยแล้วที่ Aspenshire
โรงเรียนแอสเพนไชน์ จัดการเรียนรู้รูปแบบบูรณาการที่ผสมผสานกันระหว่าง English National Curriculum และ American Curriculum คุณพ่อคุณแม่สามารถวางใจในชีวิต Primary school student ของลูก ๆ ได้เลยค่ะ เพราะโรงเรียนนานาชาติที่ใช้หลักสูตรอังกฤษจะมีความเข้มข้นมากใน ทั้งด้านคุณภาพของการศึกษา ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ,คุณภาพของผู้สอน โดยจะต้องผ่านการตรวจ – รับรองมาตรฐานใหม่ทุก ๆ 3 – 5 ปี จากสถาบันทั้งในและต่างประเทศที่ได้รับการยอมรับ (เท่านั้น)
ในระดับ Early Years (อนุบาล) นั้นหลักสูตรอังกฤษมุ่งเน้น การเรียนรู้ผ่านการเล่น ( ที่นิยมเรียกกันว่า Play-Based Learning ) ดังนั้นเมื่อต่อมาในระดับชั้นประถมศึกษา – เน้นการเรียนรู้ทั้งในรูปแบบ Active Learning + Self-study
ความโดดเด่นของหลักสูตร Aspenshire อยู่ตรงนี้ค่ะ นั่นคือ การไม่จำกัดการเรียนรู้อยู่แค่ภายใต้หลักสูตรอังกฤษเท่านั้นแต่ยังเสริมทัพด้วยการประยุกต์หลักสูตรอเมริกันจัดการเรียนรู้ควบคู่ไปด้วย (ที่แรกและแห่งเดียว!) หลักสูตรอังกฤษเน้นการเรียนลงลึก หลักสูตรอเมริกันเน้นการเรียนรู้ที่กว้าง ครอบคลุม ยืดหยุ่น เน้นการพัฒนาตนเอง การคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการแก้ปัญหา
ที่โรงเรียนใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และภาษาไทยและภาษาจีนกลาง นอกจากจะเป็นการ maximize ความสามารถด้านภาษาแล้ว เด็ก ๆ ยังเรียนรู้และซึมซับแนวคิด เห็นคุณค่าของความหลากหลายทางวัฒนธรรมอีกด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ อีกเรื่องของหลักสูตรอังกฤษ คือ ระบบบ้าน หรือ House System (ให้นึกถึงบ้านใน Harry Potter) ซึ่งในแต่ละบ้านจะมีการทำกิจกรรมร่วมกัน เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้และมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนนักเรียนหลายช่วงอายุผ่านการทำงานเป็นทีม develop ทักษะการเข้าสังคม รู้รับ ปรับตัว ให้เข้ากันกับสถานการณ์ที่หลากหลาย เป็นผู้นำ – ผู้ตาม และแน่นอนที่สุดคือเป็นส่วนหนึ่ง (ที่สำคัญ) ของโรงเรียน
Aspenshire ปูพื้นฐานให้เด็ก ๆ เรียนรู้ในหลากหลายวิชา ได้แก่ Languages | Math | Science | และอื่น ๆ ที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือ Eco School Program คือ “การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” มีเนื้อหาที่สำคัญที่ผนวกเข้าไปในหลักสูตร เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ และการบริโภค การผลิตที่ยั่งยืน ฯลฯ ซึ่งวัตถุประสงค์สูงสุดคือ “การเปลี่ยนแปลงในระดับสังคม”
คุณครู = จุดแข็งของโรงเรียน
คุณครูจากนานาประเทศยื่นใบสมัครจำนวนหลักร้อย – ผ่านการคัดเลือกเพียงหลักหน่วย เพราะ Aspenshire มองหาคุณครูที่ครบเครื่องจริง ๆ ไม่ได้ต้องการแค่ความรู้ที่คุณครูมี ครูต้องเป็น Humanizer มีเมตตากรุณา ช่างสังเกต มีไหวพริบ กล้าคิด-กล้าทำ และที่สำคัญคือวิจารณญานที่เหมาะสม ครูผู้นั้น = คุณครูที่ใช่!
สิ่งที่คุณครู follow ตามหลักสูตรก็คือ “จุดมุ่งหมายของการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ” เด็ก ๆ ต้องเรียนรู้เรื่องอะไร เป็นไปตามวัยและข้อกำหนดของหลักสูตร
แต่อิสระที่แตกต่างกันออกไปคือ คุณครูสามารถ design การสอน Material ประกอบการสอน กิจกรรมและ worksheet ได้ตามพัฒนาการและความแตกต่างของเด็ก ๆ แต่ละคน การให้อิสระคุณครู สามารถแสดงศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่
แน่นอนว่า เรียนเกินหลักสูตรได้ แต่น้อยกว่าหลักสูตรไม่ได้! ( เกินได้ – ขาดไม่ได้ ) นักเรียน Aspenshire จึงมี item ลับมากมายที่เด็ก ๆ โรงเรียนอื่นไม่มีค่ะ
ตอบโจทย์เรื่อง “ความช่างสังเกต” เพราะคุณครูที่ Aspenshire จะจัดกลุ่มเด็ก ๆ แบ่งออกตามความสามารถในการเรียนรู้ (Differentiate) ได้แก่ Low | Middle | High ability ที่เรียนร่วมกัน แต่ปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กๆนั่นเอง
Always here and there สำหรับเด็กโตแล้ว คุณครูมักเป็น “พื้นที่สบายใจ” ของเด็ก ๆ คุณครู Aspenshire จึงเป็นทั้ง teacher และ counselor
ทางตรง – อุปมาอุปมัย
Aspenshire ตั้งอยู่ในชุมชนที่เหมาะสมต่อ “ระบบนิเวศของการเรียนรู้” ของเด็ก ๆ
โดยจัดสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก ๆ ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ ภายใต้ความเชื่อที่ว่า การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของผู้เรียนย่อมมีพลังและความหมายมากกว่าการเรียนรู้จากตำราหรือในห้องเรียน
3 ขั้นตอนหลักของการเรียนรู้ ได้แก่
ทุกการปลูกฝังไม่ว่าจะเป็นนิสัยหรือพืชพันธุ์นั้นก็ย่อมใช้เวลา Aspenshire จึง “ ให้เวลา” เด็ก ๆ ได้เรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมก่อน
Eco cycle, planting คือ growing life การเพาะปลูก เรียนรู้วงจรชีวิตของพืชในระบบชีววิทยา เด็ก ๆ ไม่ได้แค่รดน้ำ พรวน ดินแต่เริ่มจากการ discuss – วางแผน – เตรียมแปลง – เพาะปลูก เด็ก ๆ จะเผชิญกับตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ เช่น สภาพแวดล้อม แมลงศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์ที่ไม่สมบูรณ์ สถานการณ์เหล่านี้ เท่ากับประสบการณ์ จะค่อย ๆ พัฒนาให้เด็ก ๆ ช่างสังเกต ช่างคิด ( หาทางจัดการกับปัญหา ) รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สุดท้ายจะก่อเกิดเป็นนิสัยที่ “ รักและใส่ใจในผู้คน ชีวิต และโลกใบนี้ ”
เมื่อเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ก็จะต่อยอดมาเป็น concept : Sustainability ว่าด้วยเรื่องความยั่งยืน ที่ไม่ใช่แค่ Reduce Reuse Recycle แต่เป็น “การคิดเพื่อการเปลี่ยนแปลงในระดับสังคม” โดยนำแนวคิดมาปรับใช้ได้ตามนี้เลยค่ะ
People (คน)
เด็ก ๆ ต้องค้นหาแนวทางการเรียนรู้ที่เหมาะกับตนเอง = รู้จักตัวเอง ส่วนคุณครูสามารถช่วยเหลือนักเรียนได้ โดยการทำแบบประเมินตนเอง ระบุความต้องการการเรียนรู้ และช่วยเหลือในการจัดหา material หรือ สื่อการเรียนรู้
Content ( เนื้อหา )
จากในบทเรียน แต่สิ่งสำคัญที่จะสร้างผู้เรียนให้เป็น Lifelong Learner ได้คือการเรียนรู้นอกห้องเรียนตามความสนใจที่ไม่จำกัดรูปแบบการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้จากสื่อดูวิดีโอ อ่านบทความ หรือฟัง podcast โดยให้นักเรียนระบุเป้าหมายสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ให้ชัดเจน
Technology (เทคโนโลยี)
ระบบที่สนับสนุนให้เด็ก ๆ พัฒนาทักษะของตนนอกเหนือไปจากการเรียนในวิชาบังคับ
Data (ข้อมูล)
ส่วนสำคัญต่อการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็น ต้องการเรียนรู้เรื่องใด เนื้อหาอะไร หรือถนัดในการเรียนรู้แพลตฟอร์มไหน พฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็ก ๆ เป็นข้อมูลที่ช่วยให้เห็นภาพกว้างและภาพเชิงลึกในการเรียนรู้ของแต่ละคนที่ชัดขึ้น นำมาสู่การพัฒนาและออกแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียนในที่สุด
Governance (การกำกับดูแล)
คือ การร่วมกันปรับปรุงองค์ประกอบต่าง ๆ ของระบบนิเวศการเรียนรู้ โดยคุณครูและนักเรียนต้อง Feedback เกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ทั้งเรื่อง คน เนื้อหา เทคโนโลยี และข้อมูล เพื่อการพัฒนารอบด้านอย่างแท้จริง
ระบบนิเวศการเรียนรู้ คือ Lifelong learning จากการเรียนรู้ – สู่การทำงาน – ผ่านการใช้ชีวิต practical life
ครอบครัว คือ ส่วนหนึ่งของระบบนิเวศของการเรียนรู้ของเด็กๆเช่นกัน โดยสรุปแล้วครอบครัว แหล่งเรียนรู้ สื่อหรือทรัพยากรการเรียนรู้ เทคโนโลยี นโยบายต่างๆ ฯลฯ ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็น Lifelong learner คนสำคัญของคุณพ่อคุณแม่นั่นเองค่ะ
เครื่องมือแห่งอนาคต – มีไว้เพื่ออะไร?
คอมพิวเตอร์ไม่ได้มีแค่ใช้พิมพ์แต่คืออุปกรณ์แสดงความคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นอิสระ ดังนั้นที่ Aspenshire มีเครื่องมือ + นวัตกรรมที่สามารถ support การเรียนรู้ของนักเรียนและการสอนของคุณครูได้อย่างลงตัว ถ้าเด็ก ๆ เติบโตและเรียนรู้ถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมผ่านสถานการณ์จริงก็จะเกิดความชำนาญ นอกเหนือจากความคล่องแคล่วในโลกดิจิตัลแล้ว นักเรียน Aspenshire ยังได้รับการปลูกฝังให้มีความรับผิดชอบและรู้ถึงกาละเทศะ และความปลอดภัยในการใช้งาน
โรงเรียนวัยรุ่น กล้าคิด ไม่ได้ฉีกกรอบ แต่ตอบโจทย์ Lifelong learning – หลักสูตรของ Aspenshire ผ่านการมอง คิด วิเคราะห์การใช้และดำรงชีวิตในอนาคตของผู้เรียน
หลักสูตรผสมผสาน (UK + Ame.) เพื่อประโยชน์สูงสุดทางด้านการเรียนรู้ + พัฒนาการ + ทักษะชีวิต + เน้นการพัฒนาความฉลาดทั้ง 7 ประการ (สติปัญญา อารมณ์ คุณธรรม การแก้ไขปัญหา-เผชิญอุปสรรค พัฒนาการด้านจิตใจ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ พลานามัย) เพราะเด็ก ๆ ไม่ได้เรียนไปเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่การใช้ชีวิตคือห้องเรียนที่ใหญ่ที่สุด การเติบโตอย่างมีคุณภาพจึงสำคัญ
Happy teachers – Aspenshire ไม่ได้ต้องการแค่ “ ความรู้ของคุณครู ” แต่ต้องการคุณครูที่มี Energy เดียวกัน และมีแก่นเดียวกันคือ การศึกษา และ การให้ เพราะสิ่งที่นักเรียนต้องการคือ คุณครูที่เอาใจใส่ เข้าใจ คอย Cheer up เป็นที่ปรึกษา ถ้าคุณครู Happy เด็ก ๆ ก็ Happy
นักเรียนไม่ใช้มือถือ (โดยไม่ได้นัดหมาย)
Eco school – ให้มากกว่าการรักษ์โลก แต่สร้างการเรียนรู้ที่ยั่งยืน ผ่านการเรียนที่เป็นรูปธรรม
ชุมชนดี อากาศและสภาพแวดล้อมดี หลากหลาย ปลอดภัย
Aspenshire International School นิชดาธานี
บรรยายภาพ 28 – ( ซ้าย ) Head of School, Thomas McBrearty (ขวา) Siriwat Tonthong, the School’s Director
…
ต่อปี (1 ปีมี 2 เทอม แบ่งชำระเป็น 4 งวด)
ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อสอบถามโรงเรียนโดยตรง
…
Aspenshire International School
ที่อยู่: 39, 932-933 ถ.นิชดาธานี ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120
เบอร์โทรศัพท์ :095 229 1616
Line : @aspenshire
เวลาทำการ : 07.30 – 15.30 น.
Editor : แม่พลอยผิง
ภาพ : เนาวพจน์ โพธิเกษม
ปิดเทอมนี้ เราอยากจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปทำความรู้จักกับสตูดิโอสอนปั้นสำหรับเด็ก ที่รมรื่นและเหมาะแก่การพักผ่อน ที่ Joon Studio จังหวัดนครปฐมกันค่ะ ชวนเด็ก ๆ มาผ่อนคลายและปลดปล่อยจินตนาการกันเต็มที่พร้อมเรียนรู้การปั้นดิน การทำเซรามิคและศิลปะต่าง ๆ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะหลาย ๆ ด้าน ใครสนใจรีบมาอ่านกันได้เลย
บรรยากาศ ของ Joon Studio
จุดเริ่มต้นของ Joon Studio
Joon Studio เป็นสตูอิโอสอนปั้น ที่ก่อตั้งมาแล้วกว่า 10 ปี โดย คุณจูน-อรวรรณ ระวังภัย หลังจากเรียนจบด้านประติมากรรมจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ก็เกิดความคิดที่อยากกลับมาทำงานที่บ้านเกิดของตัวเอง คือ จังหวัดนครปฐม เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว และเห็นว่างานเซรามิกเป็นงานที่สามารถต่อยอดจากการเรียนประติมากรรมที่คุณจูนเรียนมาได้ เธอจึงไปฝึกการทำงานเซรามิค กับคุณติ้ว – วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ที่ เถ้า ฮง ไถ่ และได้ไปฝึกงานต่อที่สตูดิโอเซรามิก เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 เดือน
หลังจากเรียนรู้เรื่องเซรามิกจนเชี่ยวชาญ คุณจูนได้ไปออกงานครั้งแรกที่ Little Tree Market การออกบูทครั้งนั้น จุดประกายให้เธออยากสอนศิลปะให้กับเด็ก ๆ เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และบำบัดผู้คนด้วยศิลปะ จึงเกิดเป็นสตูดิโอเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า “Joon Studio” ที่สอนทั้งงานปั้นดิน งานปั้นเซรามิก และศิลปะตั้งแต่นั้นมา
บาลานซ์สมดุลของเด็ก ๆ
การปั้นดินเป็นศิลปะที่จะช่วยเชื่อมโยงและทำให้เด็กมีความสมดุลที่ดี คลาสเรียนต่าง ๆ คุณจูนพัฒนามาตั้งแต่ช่วงโควิท และคิดจากความสัมพันธ์ของผู้คนที่จะมาเรียน จะมาคนเดียวก็ปั้นได้ จะมาเป็นคู่หรือมาเป็นครอบครัวก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยปกติเด็กหรือผู้ใหญ่บางคนอาจจะคิดว่าตนเองไม่มีทักษะทางด้านศิลปะ จึงเกิดความกลัวว่าจะทำไม่ได้ ไม่มั่นใจ แต่คลาสเรียนที่นี่ จะเปิดให้เด็ก ๆ ได้ทดลองทำ กล้าที่จะทำ เพิ่มความมั่นใจ โดยผู้ปกครองก็สามารถเรียนรู้ไปพร้อมกับเด็ก ๆ ได้
เด็ก ๆ จะได้ลงมือนวดดินด้วยตนเอง การลงสีต่าง ๆ เรียนรู้เรื่องดิน รู้จักคุณค่าของดินและใช้อย่างคุ้มค่า ได้บาลานซ์สมดุลของชีวิตและเรียนรู้ระบบการจัดการต่าง ๆ ดินนิ่มไปหรือแข็งไปทำอย่างไร ตรงไหนดินแตกก็ฝึกแก้ปัญหา ได้ฝึก สมาธิการสังเกตุ ความคิดสร้างสรรค์ และช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กอีกด้วย
คลาสปั้นดินกรุ๊ปเล็ก ๆ ดูแลอย่างทั่วถึง
เด็ก ๆ ได้หัดนวดดิน รีดดิน ขึ้นรูปแบบง่าย ๆ และเรียนรู้เรื่องดินไปในตัว
ถึงเวลาลงสีกันแล้ว
ผลงานของเด็ก ๆ วันนี้
บรรยากาศสุดชิลล์
คุณจูนอยากให้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ศิลปะ ของจังหวัดนครปฐม ที่เข้าถึงง่ายเพื่อใช้บำบัดและเป็นที่พักผ่อนของคนย่านนี้ บรรยากาศรอบ ๆ สตูดิโอจึงจัดวางต้นไม้มากมาย ช่วยให้บรรยากาศดูร่มรื่นสบายตา นอกจากจะเดินเล่นชิลล์ ๆ รอบ ๆสตูอิโอแล้ว ที่นี่ยังมีคาเฟ่ จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าเซรามิคน่ารัก ๆ รวมไปถึง Workshop ศิลปะ สำหรับคนมีเวลาน้อย เช่น เพนท์สีจาน เพนท์รูป ร้อยสร้อยลูกปัด ทำของขวัญพร้อมการ์ด และอื่น ๆ อีกมากมาย
รอบ ๆ สตูดิโอ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ เด็ก ๆ สนุก ผู้ปกครองก็ผ่อนคลาย
โซนคาเฟ่ มีอาหาร เครื่องดื่มไว้ต้อนรับทุกคน
โซน Workshop ศิลปะง่าย ๆ
โซนจำหน่ายสินค้าเซรามิค น่ารัก ๆ ที่สามารถซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน
คุณจูน – อรวรรณ แสงแก้ว ผู้ก่อตั้ง Joon Studio
รายละเอียดคลาสต่าง ๆ
คอร์ส “ ทดลองปั้นดิน “
เหมาะสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ที่มีเวลาน้อยและอยากทดลองปั้น ใช้เวลาสั้น ๆ เพียง 1.30 ชม. ปั้นงานได้ 1 ชิ้น (จาน ชาม หรือแก้ว ) ดินประมาณ 500 กรัม รวมลงสีและเผาเคลือบ ราคา 890 บาท / คน ( ราคารวมส่งไปรษณีย์ )
คอร์ส “ ปั้นคาแรคเตอร์ ”
คลาสนี้เหมาะกับคนที่อยากปั้นดิน และพร้อมเรียนรู้เทคนิคพื้นฐานของการปั้นดิน ปั้นจาน ชาม แก้ว กระถาง
ระยะเวลาเรียน ตั้งแต่ 10:00 – 16:00 น. ปั้นงาน 4 ชิ้นใหญ่ 5 ชิ้นเล็ก ดินประมาณ 2 กิโลกรัม
รวมลงสีและเผาเคลือบ ราคา 2,000 บาท / คน ( ราคารวมอาหารกลางวัน )
คลาสปั้น แป้นหมุนไฟฟ้า
การขึ้นรูปด้วยวิธีนี้ต้องค่อนข้างใช้การฝึกฝนและชำนาญ เป็นการทำงาน ประสานกันระหว่างสมาธิ อารมณ์ ดิน และมือ ซึ่งผู้ปั้นต้องรู้จักดินพอสมควร รู้จักพลิกแพลง ให้น้ำหนักผ่อนเบาตามลักษณะของดินที่นำมาปั้น ซึ่งงานที่ได้จากแป้นหมุนไฟฟ้านี้ จะออกมาในรูปทรงสมมาตร เหมาะกับงานลักษณะ จาน ถ้วย ชาม ( เรียนรอบละ 1 คน )
เวลาเรียน 10.00-12.00 น. / 13.00 – 15.00 น.
ราคา 1,090 บาท / คน ( หลังเรียนเสร็จ รอชิ้นงาน 1 เดือน สามารถมารับเองได้ที่สตูดิโอ )
Mommy Love This! ถูกใจแม่
ที่ “ฟาร์มจดจำ” สามารถติดตามรายละเอียดได้จากหน้าเพจ Joon Studio ค่ะ
ที่อยู่
444, 24 ตำบล หนองดินแดง อำเภอเมืองนครปฐม นครปฐม 73000
โทร : 099 142 9461
www.facebook.com/joonclaycraftstudio
Line : @joonstudio
https://www.joonceramicstudio.com/
Editor : แม่เลม่อน
ภาพ : ภูมิปกรณ์ ณ บางช้าง , กรานต์ชนก บุญบำรุง
วันนี้ทีมแม่ ABK ขอพาคุณพ่อคุณแม่มาเยือน โรงเรียนแสนสุขสม ถนนเพชรเกษม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร โรงเรียนอนุบาลอันแสนอบอุ่นที่จะดูแลและพัฒนาเด็กๆรอบด้านให้เติบโต สดใส สมวัย
คุณพ่อคุณแม่จะทราบถึง 1. การจัดการเรียนรู้ “2 ภาษา” สุดสนุก 2. พหุปัญญาคืออะไร 3. Building up their characters 4. ครอบครัวที่เติบโตไปพร้อมกัน เพราะทุกคนเคยเป็นเด็กมาก่อน – โรงเรียนแสนสุขสมจึงเน้น “การจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีความสุข” เป็นหลักค่ะ ดังนั้นนักเรียนที่นี่จึงร่าเริงแจ่มใสในทุกๆวันที่มาโรงเรียน
นักเรียนโรงเรียนแสนสุขสมในวันกีฬาสี
การจัดการเรียนรู้ “ 2 ภาษา ” สุดสนุก
คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ต้องกังวลในตอนที่ลูกๆต้องจะไปเข้าชั้น ป.1 ( ไม่ว่าจะสอบ หรือไม่สอบก็ตาม ) โรงเรียนแสนสุขสมใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยของกระทรวงศึกษาธิการค่ะ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ครบถ้วนและเหมาะกับวัยนี้อยู่แล้ว โดยแบ่งออกเป็น 4 หัวข้อใหญ่ ๆ
Note : หลักสูตรของโรงเรียนไทยส่วนใหญ่มักจะอิงกับหลักสูตรแกนกลาง
classroom rules
DIY A-Z
ส่วนหนึ่งของโครงงานตามความสนใจค่ะ
กิจกรรมร้อยลูกปัด ช่วยเรื่องการหยิบจับ – ตาประสาน และสร้างสมาธิ
Reduce Reuse Recycle ปลูกฝังการรักษ์และดูแลสิ่งแวดล้อม
โรงเรียนแสนสุขสม เป็นโรงเรียนไทยที่ จัดการเรียนรู้ 2 ภาษา (ไทย – อังกฤษ) ก็ฟุดฟิตฟอไฟกันไปเลยตั้งแต่อนุบาล
เด็ก ๆ จะได้สนุกให้สมกับเป็นเด็กไปกับ Active Learning ที่บูรณาการศาสตร์ต่าง ๆ และใช้กิจกรรมเป็นสื่อและเครื่องมือในการเรียนรู้เป็นหลัก ได้พัฒนาทักษะหลายด้านในคราวเดียวกัน และเกิดเป็นความรู้และความเข้าใจอย่างเป็นธรรมชาติที่ไม่ใช่การท่องจำ!
ช่วงปลายของแต่ละเทอม เด็ก ๆ จะเลือกหน่วยการเรียนรู้ที่ชอบ หรือ สนใจ มาทำเป็นโครงงาน คราวนี้คือการบูรณาการความรู้ทุกกระบวนท่าตั้งแต่ ค้นคว้า – ปรึกษา – สอบถาม – เรียบเรียงความคิด – วางแผน – ลงมือประดิษฐ์ออกมาเป็นชิ้นงาน + เตรียมตัวนำเสนอ ไปจนถึงฝึกพูด ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ ถ้าคุณพ่อคุณแม่สังเกตดี ลูก ๆ จะเติบโตขึ้นอีกขั้นแล้วนะคะ
โรงเรียนเชื่อว่า ทักษะสมองสร้างได้ (Executive Functions) โดยผ่านกิจกรรมต่าง ๆ การทำงานบ้าน การพึ่งพาตนเองในชีวิตประจำวันโดยการนำกิจกรรมมอนเตสซอรี่มาเป็นแนวทางในการจัดประสบการณ์ค่ะ และมีชั่วโมงมอนเตสซอรี่สัปดาห์ละ 1 คาบด้วยนะคะ ส่วนการประเมินผล ที่นี่จะเน้นเพื่อการเติมเต็ม เพื่อเสริม หรือสามารถพัฒนาตรงไหนเพิ่มได้อีกบ้าง
บรรยากาศ public area สะอาด อากาศถ่ายเท เด็กๆสามารถได้รับวิตามินดีตามธรรมชาติได้ด้วย
บรรยากาศในห้องเรียน ห้องกว้างขวาง learning center จัดอยู่ตามมุมต่างๆ โต๊ะ-เก้าอี้ เคลื่อนย้ายสะดวก คุณครูสามารถ design กิจกรรมได้หลากหลายเลย
After school classes มีดังนี้ค่ะ
เมื่อถึงเวลาดื่มนม เด็กน้อยก็สามารถจัดการด้วยตนเองได้เลย
การร้องและเต้นประกอบท่าทางให้ประโยชน์มากกว่าความบันเทิง เพราะคือการฝึกการจำ – นำมาใช้งานค่ะ
คุณครูเฮี้ยง คุณกนกพร แสนสุขสม ผู้อำนวยการโรงเรียนกำลังให้เด็กช่วยเขียน score board เป็นการบูรณาการคณิตศาสตร์ (คำนวณ) – ภาษาอังกฤษ – ภาษาไทย ไปในตัว
ความสัมพันธ์ของคุณครูกับนักเรียนจะเป็นประมาณนี้ค่ะ
เสริมสร้างคุณลักษณะ
ภาวะผู้นำ – เด็ก ๆ จะเรียนรู้ทั้งการเป็นผู้นำและผู้ตามในการทำงานร่วมกัน (Teamwork make dream work นะเด็ก ๆ )
ริเริ่มสร้างสรรค์ – การสร้าง character นี้ทำได้หลายวิธี ตัวอย่างเช่น ผ่านกระบวนการทำงานที่จะต้องแก้ปัญหาต่าง ๆ ผ่านการ brainstorm เลือกหัวข้อทำโครงงาน คุณครูเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เด็ก ๆ คิดและแสดงความคิดเห็นออกมาค่ะ (และบ่อยครั้งที่ ว้าว ด้วย) ยิ่งบ่อย ก็ยิ่งกลายเป็นคนช่างคิด
อยากเรียนรู้ – เพราะเด็กแต่ละคนมี learning style ที่แตกต่างกัน โรงเรียนแสนสุขสมจึงเน้นการจัดการเรียนรู้แบบ “Active Learning” เพื่อให้เด็ก ๆ ทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรม มาลงมือปฏิบัติกัน คุณครูจะคอย “ยิงคำถาม” เพื่อกระตุ้นการคิด – โต้ตอบ สลับสับเปลี่ยน เผลอแป๊บเดียวก็จบคลาสแล้ว ซึ่งจะให้เด็ก ๆ รู้สึกสนุกไปกับการเรียน และมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ค่ะ
ปรับตัวเท่าทันสถานการณ์ – แม้อาจจะฟังดูเป็นนามธรรม แต่มั่นใจได้เลยว่าโตไปแล้วเด็ก ๆ จะเข้าใจได้โดยอัตโนมัติ เราสามารถเริ่มต้นฝึกเด็ก ๆ ได้ทีละนิด เพื่อให้เข้าใจความหมายของความเปลี่ยนแปลง หรือพูดถึงความเปลี่ยนแปลงจากสิ่งรอบตัว และการปรับตัวเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
อดทนและพยายาม – เบื้องหลังทุกความสำเร็จ คือความอดทนและความพยายาม ทั้งในชีวิตประจำวันและกิจกรรมต่าง ๆ เมื่อฝึกเป็นประจำ สุดท้ายก็จะกลายเป็นลักษณะนิสัย (ที่ดี) ติดตัวไปค่ะ
ใส่ใจสังคมและวัฒนธรรม – สร้างเสริมได้โดยการสอดแทรกกิจกรรมเชิงสังคมและวัฒนธรรมให้กับเด็ก ๆ ไม่ใช่แค่วัฒนธรรมไทยเท่านั้น แต่รวมถึงการยอมรับในความหลากหลายของวัฒนธรรม เพราะที่โรงเรียนเองก็มีคุณครูชาวต่างชาติ เชื้อชาติ และศาสนาอื่นค่ะ
เด็กๆจะมาทำกิจกรรมมอนเตสซอรี่สัปดาห์ละ 1 คาบที่ห้องมอนเตสซอรี่
ผาจำลองและศูนย์เล่นทราย all time favorite play station ของเด็ก ๆ
ฝึกการเดินทรงตัวบนตอไม้แบบนินจา
เครื่องเล่นนั้นสามารถฝึกเรื่องการอดทนรอคอยให้เด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี
เด็ก ๆ จะเติบโตท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม สายลม แสงแดด ต้นไม้ และใบหญ้า
(ครอบครัวที่เติบโตไปพร้อมกัน)
โรงเรียนอยากให้วันที่เด็กๆสนุกและมีความสุข – มีคุณพ่อคุณแม่ร่วมอยู่ในความทรงจำ
อัตราค่าเล่าเรียน
ค่าเล่าเรียนเทอมละ 35,000 บาท ( เตรียมอนุบาล – อนุบาล3 )
1 ปีการศึกษามี 2 เทอม
ที่อยู่
โรงเรียนแสนสุขสม
12/2 ซอยเพชรเกษม 77 ตำบลหนองค้างพลู
เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร 10160
โทร. 085- 937- 4451
facebook : Sansuksom.school
instagram : sansuksom_school
Editor : แม่พลอยผิง
ภาพ : ณัฐวุฒิ เพ็งคำภู
ถ้าหากนึกถึงโรงเรียนนานาชาติอันดับต้น ๆ ที่น่าสนใจใน จ.เชียงใหม่ คงหนีไม่พ้น โรงเรียนนานาชาติปัญญาเด่น โรงเรียนนานาชาติวิธีพุทธ ในโซนหางดง ที่มีอาคารและห้องเรียนสร้างจากดินและปกคลุมด้วยไม้ไผ่ที่โอบรับธรรมชาติกับผู้คนเอาไว้ด้วยกัน คุณพ่อลูกหนึ่งอย่างผม อยากพาทุกคนไปเดินชมโรงเรียนนานาชาติปัญญาเด่นดูสักครั้ง เพราะเมื่อได้สัมผัสโรงเรียนแห่งนี้อาจจะเป็นโรงเรียนในฝันของใครหลาย ๆ คนรวมถึงตัวผมด้วยครับ
บรรยากาศภายในโรงเรียน
โรงเรียนนานาชาติปัญญาเด่นดำเนินการเรียนการสอนตามหลักสูตรจากสหราชอาณาจักร อังกฤษและเวลส์ ในฐานะที่โรงเรียนตั้งอยู่ในประเทศไทย จึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมวัฒนธรรมและทักษะภาษาไทยอย่างเข้มข้น โดยในแต่ระดับชั้นการเรียนการสอนจะค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นทางวิชาการขึ้นแบบไต่ระดับ เน้นการเรียนแบบ Value-based Learning ผสมผสานกับหลักคำสอนของพุทธ คุณธรรม 12 ประการ เพื่อการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน โดยโรงเรียนนานาชาติปัญญาเด่นมีตั้งแต่ระดับชั้น Early year ไปจนถึง Year13 (เทียบเท่าชั้นมัธยมปลาย)
เด็ก ๆ K2 กำลังเรียน Mathematics กันอย่างสนุกสนาน
Early year (Nursery,Kindergarten 1,Kindergarten 2)
ใช้หลักสูตรงปฐมวัยของอังกฤษ EYFS ( Early Years Foundation Stage ) ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนพัฒนาการของเด็ก ๆ ทั้ง 7 ด้านคือ การสื่อสารและภาษา, การพัฒนาส่วนบุคคล สังคม และอารมณ์, การพัฒนาร่างกาย, การรู้หนังสือ, คณิตศาสตร์, ความเข้าใจเกี่ยวกับโลก, ศิลปะและการออกแบบ และมีหลักสูตรแกนของไทยเสริมเข้ามาผสมผสานกันเพื่อมุ่งเน้น 3 ด้าน
– Playing and exploring เล่นและเรียนรู้สิ่งใหม่
– Active learning เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ
– Creating and thinking critically รู้จักคิดวิเคาะห์ด้วยตนเอง
เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ
Primary year 1- 6 (ประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6)
ใช้หลักสูตรของสหราชอาณาจักรควบคู่กับ IPC (International Primary Curriculum) และหลักสูตรภาษาไทยและวัฒนธรรมไทย ส่งผลให้เกิดหลักสูตรที่มีความแข็งแกร่งทางวิชาการ และยังคงเน้นการเรียนรู้ที่มีนักเรียนเป็นศูนย์กลาง
(*IPC คือหลักสูตรการศึกษาระดับประถมศึกษาที่ได้รับความนิยมในทั่วโลก ออกแบบมาเพื่อเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางและพัฒนาทักษะอย่างครอบคลุมทุกด้านโดยไม่ทิ้งการเรียนรู้อย่างสนุกสนานเพื่อให้การเรียนมีประสิทธิภาพสูงสุด ลักษณะเด่น IPC คือ เน้นการเรียนรู้แบบบูรณาการ, การเรียนรู้ตามเป้าหมาย กำหนดเป้าหมายชัด, ส่งเสริมทักษะการคิดและการแก้ปัญหา และประเมินพัฒนาการของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง )
Class ของเด็ก ๆ ที่เรียนรู้หัวข้อเรื่อง Metamorphosis ของสัตว์ชนิดต่าง ๆ
Drama Class เด็ก ๆ กำลังยืดเส้นยืดสาย และเรียนรู้ท่าทางการสื่อสารต่าง ๆ
ช่วงพักกลางวันในห้องสมุด ที่มีกิจกรรมต่างๆให้เด็กๆ เลือกได้ตามความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น อ่านหนังสือ เลโก้ ต่อวงจร หมากรุก และบอร์ดเกมส์
Middle School Year 7-9 ( มัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 3 )
ในช่วงชั้นนี้ จะนำหลักสูตร IMYC เป็นใช้เป็นแกนหลัก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการวิเคราะห์และสังเคราะห์ที่จำเป็นในระดับมัธยมปลาย โปรแกรม IMYC จะช่วยพัฒนาเด็ก ๆ ให้เป็นคนที่ยืดหยุ่น รอบคอบ และเอาใจใส่ ผ่านการศึกษาที่เน้นคุณค่า เพื่อให้พวกเขากลายเป็นพลเมืองโลกที่มีความสามารถ อีกทั้งยังช่วยด้านการสำรวจความคิดสร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบ และการแก้ปัญหา โดยเน้นความเป็นปัจเจก การค้นหาตนเองเพราะพวกเขาได้ก้าวสู่วัยรุ่นที่ต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงทั้งทางกายและจิตใจ การเคารพทุกวัฒนธรรม และการพัฒนาชุมชนโรงเรียนและชุมชนท้องถิ่นก็ถือเป็นหัวใจสำคัญของโรงเรียนนานาชาติปัญญาเด่น
(*IMYC (International Middle Years Curriculum) ออกแบบมาเพื่อเน้นการเรียนรู้แบบบูรณาการผ่านหัวข้อหรือธีมต่างๆ ที่เชื่อมโยงวิชาหลายๆ วิชาเข้าด้วยกัน เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ศิลปะ และภาษาจุดเด่นของ IMYC คือการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์ และการทำงานร่วมกัน เน้นการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริงและทักษะในศตวรรษที่ 21 นักเรียนจะได้ทำโครงงานและกิจกรรมที่ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาเป็นหลัก )
Pre-IB Year 10 –11 (มัธยมศึกษาตอนปลาย Pre-IB : ปีที่ 10 -11)
หลักสูตร Pre-IB ปี 10 -11 มุ่งเน้นเตรียมความพร้อมสำหรับ IBDP (ปี 12-13) โดยผสมผสานวิชาหลัก เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และศิลปะ เข้ากับการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งดนตรี การละคร และทักษะชีวิต การสอนเน้นการเรียนรู้ผ่านการตั้งคำถาม และมีแบบประเมินผลแบบเกณฑ์อ้างอิงเพื่อพัฒนาศักยภาพเด็ก ๆ แต่ละคน
IBDP Year 12-13 (มัธยมศึกษาตอนปลาย IBDP: ปีที่ 12 -13)
หลักสูตร IB ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็นหลีกสูตรที่เตรียมพร้อมสำหรับการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยอย่างดีเลิศ นอกจากจุดแข็งทางวิชาการแล้ว โรงเรียนยังเน้นการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีในด้านร่างกาย สังคม อารมณ์ และสติปัญญา ในรายวิชาต่างๆ จะมี กิจกรรมเพื่อสังคม, การคิดวิเคราะห์ และการทำวิทยานิพนธ์หลักอีกด้วย
(** IB International Baccalaureate Diploma Programme เป็นโปรแกรมการศึกษา 2 ปีที่เข้มข้น มุ่งเน้นการคิดเชิงวิพากษ์ การเข้าใจวัฒนธรรมต่างๆ และการพัฒนาทักษะการสื่อสาร ทำให้นักเรียนมีคุณสมบัติที่ดีสำหรับการศึกษาต่อและการทำงานในระดับสากล)
12 Wise habits คุณธรรม 12 ประการ
แนวทางหลักในการจัดการเรียนการสอน ร่างกาย สังคม อารมณ์ ปัญญา
เมื่อได้พูดคุยสนทนากับคุณนุชชี่ ผู้อำนวยการและผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียน จึงได้ทราบว่าแรกเริ่มเดิมที คุณติ๊ก – ยอดเพชร สุดสวาท ผู้ก่อตั้งบริหารที่ษริษัทฟีโนมีนา จำกัด ษริษัทผลิตโฆษณาระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่มีผลงานและคว้ารางวัลระดับโลกมามากมาย เธอมีความคิดที่อยากจะเปิดโรงเรียนสอนการทำโฆษณา ต่อมาเมื่อคุณติ๊กย้ายมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่และมองหาโรงเรียนให้ลูก จึงจับผลัดจับผลูมาสร้างโรงเรียนสำหรับเด็ก ๆ ร่วมกัน ปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติปัญญาเด่น เปิดทำการเรียนการสอนมา 15 ปี มีนักเรียนจบชั้นมัธยมปลายไปแล้วจำนวน 2 รุ่น และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นที่ อยากสร้างภูมิคุ้มกันทางใจที่เข้มแข็งให้แก่เด็ก ๆ ทุกคน โดยนำคุณธรรม 12 ประการ ผสมผสานเข้าไปกับการเรียนการสอน และมีคุณครูเป็นต้นแบบ เช่น ฉันทะ ( ความกระตือรือร้น ), จาคะ ( การเอื้อเฟื้อ ), วิริยะ ( ความเพียรพยายาม ) หรือแม้กระทั่ง เมตตา ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ผ่านการฝึกสะท้อนความคิด, ความรู้สึก และการกระทำ ( เจริญสติ) เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ใช้ทักษะเหล่านี้ในชีวิตจริง
โรงยิมออกแบบโดย บริษัท Chiangmai Life Architects & Construction CLA & CLC ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงดอกบัว สัญลักษณ์ที่สำคัญในพุทธศาสนา โครงสร้างด้านบนเป็นไม้ไผ่สานทั้งหมด
บรรยากาศบริเวณโถงทางเดินนอกห้องเรียน เป็นพื้นที่ให้เด็กๆได้แสดงผลงานศิลปะ
งานประดิษฐ์ เรียงความ หรือโต๊ะปิงปองที่สามารถเล่นตามอัธยาศัยในช่วงพัก
มีมุม โรงละคร ตรงโถงทางเดินที่เด็กๆสามารถใช้พื้นที่นี้ได้ ในช่วงนอกเวลาเข้าเรียนเช่นกัน
มุมอ่านหนังสือในห้องสมุดเด็กโต ที่น่ารักและดูอบอุ่น ผ่อนคลาย
ภายในห้องสมุดเด็กมัธยม ที่นอกจากหนังสือแล้ว ยังมีกล่องกิจกรรมสำหรับเด็กๆเยอะมาก
ไม่ว่าจะเป็นกล่องผ้าโครเชต์พร้อมอุปกรณ์แบบครบครัน จักรเย็บผ้า จิ๊กซอว์ บอร์ดเกมส์ หรือ หนังสือเฉพาะทางทั้งศาตร์และศิลป์
SKILLS FOR LIFE ทักษะชีวิต
ทักษะต่าง ๆ ในชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ โดยเด็ก ๆ จะได้รับจากถ่ายทอดจากคุณครูผู้มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ อีกทั้งการได้ลองเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ ผลพลอยได้ นั้นคือเด็ก ๆจะได้พัฒนาด้านต่าง ๆ ทั้งความยืดหยุ่น การทำงานเป็นทีม การก้าวผ่านความผิดพลาด หัดแก้ปัญหา ต้องใช้ทั้งความพยายาม และความกล้า
ในคลาส Skills for life มีทั้ง Session ที่จะได้ลองปลูกผักออร์แกนิก ปลูกข้าว ก่อไฟ ทำอาหารจากธรรมชาติ ทำของเล่นจากวัสดุรีไซเคิล ทอผ้าฝ้าย เย็บปักถักร้อย หรือการซ่อมแซมบ้าน
Skills for life เด็ก ๆ กำลังหัดการใช้เครื่องมือช่าง และตอกตะปูครับ เก่งกันมากจริง ๆ เห็นตัวจิ๋ว ๆ แบบนี้
พื้นที่ปลอดภัยที่ทุกคนช่วยกันสร้าง เพราะทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของ Community
ช่วงพักกลางวันในโซนโรงอาหารของโรงเรียน มีกฏร่วมกันว่าเด็ก ๆ จะต้องรอจนกว่าเสียงระฆังดังขึ้น ถึงสามารถออกนอกโซนอาหารเพื่อเล่นหรือทำกิจกรรมได้ เป็นภาพที่น่าแปลกใจสำหรับผมอย่างไม่น่าเชื่อ เด็ก ๆ อดทนรอกันมาก ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ฝ่าออกไป เด็ก ๆ เคารพกติกานี้ เมื่อผมสอบถามจากครูแอริน ครูใหญ่ของโรงเรียน เธอกล่าวว่า นอกจากการมีคุณครูเป็นต้นแบบ และสร้างกติกาในชีวิตประจำวันให้เด็ก ๆ แล้ว สังคมของปัญญาเด่นคือการเคารพซึ่งกันและกันนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และไม่ว่าจะเป็นเด็ก ๆ คุณครู บุคลากรด้านต่าง ๆ ของโรงเรียน หรือผู้ปกครอง เมื่อกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนของโรงเรียนนานาชาติปัญญาเด่นแล้ว ทุกคนจะหลอมรวมไปในทางเดียวกันนั้นเอง ผู้ปกครองมีกิจกรรรมที่สามารถเข้าร่วมกับโรงเรียนได้มากกว่า 30 กิจกรรมต่อปี ซึ่งที่นี้เรียกว่า PEP TALK ไม่ว่าจะเป็น Workshop การดูแลเด็ก ๆ เป็นอาสาสมัครให้ความรู้ในสาขาที่ตัวเองประกอบอาชีพ มีสมาคมผู้ปกครองอย่างเข้มแข็ง หรือการจัดตลาดนัดประจำปีของโรงเรียนนานาชาติปัญญาเด่นเองก็ตาม ทำให้เกิดการเรียนรู้ทั้งตัวเด็ก ผู้ปกครองและโรงเรียนได้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน
โรงเรียนสีเขียว (พร้อมตั้งรับกับ PM 2.5)
เมื่อถึงหน้าฝุ่นของเชียงใหม่ ถือเป็นความกังวลใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่ทุกบ้าน เมื่อปัญหาฝุ่นอาจ
ส่งผลกระทบระยะยาวต่อลูก ๆ โรงเรียนนานาชาติปัญญาเด่นเป็นโรงเรียนแรกในจังหวัดเชียงใหม่ ที่นำระบบ Fresh Air System ติดตั้งในทุกห้องเรียน โดยเป็นการหมุนเวียนอากาศ ที่ช่วยนำอากาศบริสุทธิ์จากภายนอก เข้าสู่ภายในอาคาร โดยมีการกรองอากาศเพื่อลดสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และสารก่อภูมิแพ้ก่อนนำเข้ามาในอาคาร ระบบนี้ช่วยลดความอับชื้น ช่วยให้เด็ก ๆ สบายตัวมากขึ้น เรียกว่าแก้ปัญหาได้ตรงจุด ทำถึง โดนใจพ่อ อีกทั้งโรงเรียนนานาชาติปัญญาเด่นดูแลเรื่องระบบรีไซเคิล มีการทำไบโอแก็ส และอาหารกลางวันถ้าเหลือทิ้งก็จะนำไปทำเป็นปุ๋ย การผลิตขยะพลาสติกก็อยู่ในระดับที่ต่ำมาก ๆ เพราะทุกคนใช้กระบอกน้ำส่วนตัว แทบไม่เห็นขวดพลาสติกในเขตโรงเรียนเลยครับ
ระบบ Fresh Air System และหน้าจอบ่งบอกคุณภาพอากาศตามจุดต่างๆ
Dad Thumbs up พ่อยกนิ้วให้
โซนโรงอาหารของโรงเรียน
ค่าธรรมเนียมการศึกษา
ต่อ 1 ปีการศึกษา แบ่งออกเป็น 2 เทอมการศึกษา
ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ค่าแรกเข้า เครื่องแบบนักเรียน และค่าเรียนภาษาเพิ่มเติม)
Nursery,K1,K 2 289,000
Year 1,Year 2 315,000
Year 3,Year 4 352,000
Year 5,Year 6 362,000
Year 7,Year 8,Year 9 426,000
Year 10,Year 11 448,000
Year 12,Year 13 549,000
ข้อมูลเพิ่มเติม – กรุณาติดต่อสอบถามโรงเรียนโดยตรง
ที่อยู่
โรงเรียนนานาชาติปัญญาเด่น
218 หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ 50230
โทร : +66 53 441 460
E-mail : [email protected]
เว็บไซต์ : https://www.panyaden.ac.th/
Editor : คุณป๊าหุ่นหมี
ภาพ : Chontigift
ในหมวดนี้ประกอบด้วย 12 สาขา มาดูกันเลยค่ะ ว่าสินค้าที่ได้รับรางวัล หมวด Best for Bath & Care สำหรับลูกน้อย จาก AMARIN BABY & KIDS AWARDS ในปีนี้ จะมีอะไร ยี่ห้อใดบ้าง
MAMYPOKO Mamypoko Super Premium Organic ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบเทป ระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยมเบอร์หนึ่งที่ครองใจคุณแม่ทั่วประเทศติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยเด่นด้วยความนุ่มและอ่อนโยนที่สุด* ด้วยเทคโนโลยี “ออร์แกนิค สปีด ชีท” แผ่นซึมซับบางเบาเพียง 0.4 เซนติเมตร จึงสวมใส่สบายและยังซึมซับได้ดีเยี่ยม เหมาะเป็นผ้าอ้อมสำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ (*เมื่อเทียบกับสินค้าผ้าอ้อมมามี่โพโคแบบเทป)
ENFANT อยากให้ลูกมีผิวสวย สุขภาพผิวดีไปจนโต คุณแม่ต้องดูแลบำรุงผิวลูกน้อยตั้งแต่เล็ก ๆ Enfant Organic Plus Double Moisture โลชั่นบำรุงผิวสูตรจากธรรมชาติ ปกป้องบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน ไม่เหนอะหนะ ซึมซาบสู่ผิวรวดเร็วทะนุถนอมผิวอ่อนบางด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 2 ชนิด และ ECOCERT CERTIFIED ARGAN OIL ช่วยให้ผิวนุ่มนวล มีสุขภาพดี คงความชุ่มชื้นยาวนาน
และอีก 1 สูตรจากธรรมชาติ Enfant Organic Extra Mild Moisture Lotion โลชั่นออแกนิคบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน ใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด เนื้อโลชั่นบางเบาซึมซาบสู่ผิวรวดเร็ว ทะนุถนอมผิวอ่อนบางด้วย Ceramide 3, น้ำมันมะกอก, น้ำมันสกัดจากรำข้าว และ ECOCERT CERTIFIED ARGAN OIL ช่วยให้ผิวนุ่มนวล มีสุขภาพดี คงความชุ่มชื้นยาวนาน
ENFANT
บริเวณหนังศีรษะของลูกน้อยเป็นอีกหนึ่งจุดที่บอบบาง คุณแม่จึงต้องดูแลเป็นพิเศษ Enfant Organic Plus Shampoo & Body Wash Foam Mousse เป็นผลิตภัณฑ์อาบน้ำและสระผมเนื้อมูสในขวดเดียวกัน เหมาะกับผิวของลูกน้อยโดยเฉพาะ ไม่มีส่วนผสมของ Sulfate จึงช่วยให้ผิวและผมไม่แห้ง เนื้อมูสที่ให้ฟองนุ่มลื่น จึงไม่ให้ผมพันกันในขณะสระ พร้อมด้วยส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ
และอีก 1 ขวด ที่น่าใช้คือ Enfant Organic Plus Ultra Care Shampoo & Body Wash ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและผิวกาย สำหรับเด็ก 2 ปีขึ้นไป พัฒนาเป็นพิเศษเพื่อผิวลูกรักอย่างอ่อนโยน โดยเลือกใช้ OAT AMINO BUBBLE สารทำความสะอาดจากธรรมชาติ ช่วยบำรุงให้ผิวและผมลูกน้อยนุ่มชุ่มชื้นดูสุขภาพดีผสาน Tea Tree Oil คุณค่าในธรรมชาติที่มีส่วนช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
D-NEE
เรียกได้ว่าเป็นสบู่เหลวเด็กที่ครองใจแม่ๆ และได้รางวัลมาอย่างต่อเนื่อง กับ D-nee สำหรับสูตร Baby Milk Bath Organic Happy Baby เป็นครีมอาบน้ำสูตรน้ำนม กลิ่นซากุระ อุดม ORGANIC ARGAN OIL ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นด้วยคุณค่าจากน้ำนมและโยเกิร์ต ทำให้การอาบน้ำพร้อมบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นเป็นพิเศษ เพื่อดูแลผิวที่บอบบาง แพ้ง่าย มีสารสกัดจากอัลลันโทอิน พร้อมค่า pH Balance ช่วยคงสมดุลตามธรรมชาติของผิว ล้างออกง่าย ผิวไม่แห้งตึง กลิ่นหอมอ่อนโยน ติดทนนาน เพื่อบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ปราศจาก 6 สารเคมีอันตราย กลูเตน, พาราเบน, SLS, ซิลิโคน, แอลกอฮอล์ และสี ผ่านการทดสอบ HYPOALLERGENIC TESTED
JOHNSON’S
แชมพูสำหรับเด็กวัยซน 3 ขวบขึ้นไป ที่มีกิจกรรมระหว่างวันมากขึ้นและเริ่มไว้ผมยาวสวย จึงต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผมโดยเฉพาะ จอห์นสัน แอคทีฟ คิดส์ ชายน์นี่ ดร็อปส์ แชมพู ช่วยให้ผมเงางามเป็นธรรมชาติ นุ่มลื่นหวีง่าย เอาใจหนูๆ ด้วยลายเจ้าหญิงน่ารัก ออกแบบเป็นพิเศษให้อ่อนโยนกว่าแชมพูของผู้ใหญ่
KODOMO
สำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากสำหรับเด็ก KODOMO ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟันหรือยาสีฟัน แบรนด์นี้คุณแม่ยกนิ้วให้มายาวนาน ซึ่งสูตรนี้ผสมอัลตร้า แอคทีฟ ฟลูออไรด์ในปริมาณที่เหมาะสำหรับเด็ก ไม่มีน้ำตาลแต่ยังมีรสหวานจากไซลิทอล ส่วนเนื้อเจลเป็นสีสดใส มีกลิ่นผลไม้ทำให้เด็กๆ สนุกกับการแปรงฟันด้วย
BEPENTHEN
Bepanthen Ointment ไอเทมที่คุณแม่ต้องพกติดตัว มีติดบ้าน เป็นครีมดูแลผิวใต้ผ้าอ้อม สำหรับลูกน้อย นำเข้าจากเยอรมนี รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากว่า 70 ปี ด้วย 2 คุณประโยชน์ที่ช่วยปกป้องและดูแลผิวผื่นผ้าอ้อม ผิวอักเสบโดยเฉพาะบริเวณก้นของลูกน้อย จากความเปียกชื้นสะสมยาวนานตลอดวัน โดยจะเป็นการช่วยเคลือบผิวแบบ Semi-Occlusive เมื่อทาแล้วจะไม่ได้ปิดกั้นชั้นผิวทั้งหมด แต่จะช่วยระบายอากาศให้ผิว และรักษาสมดุลเพื่อคงความชุ่มชื้นในชั้นผิว พร้อมโปรวิตามิน บี5 (Dexpanthenol) ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวอย่างอ่อนโยนและกระตุ้นให้เกิดกลไกการฟื้นฟูของผิวตามธรรมชาติ สามารถทาได้อย่างต่อเนื่อง เป็นอ่อนโยน ปราศจากสารกันเสีย สี น้ำหอมและยาฆ่าเชื้อ
MAGIC DRAGON
ไอเทมยอดฮิตตอนนี้ที่แม่ๆ หลายบ้านพกติดตัว สำหรับดูแลลูกน้อยช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย คงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก Magic Dragon น้ำมันหอมแดง ขวดชนิดลูกกลิ้งใช้งานง่าย พกพาสะดวก สูตรเฉพาะ ปลอดภัยด้วยสารสกัดออร์แกนิค ที่ผ่านการรับรอง USDA Organic จากประเทศสหรัฐอเมริกา และ Ecocert จากยุโรป ช่วยให้ความหอมสดชื่น 1 ขวดนี้ อุดมไปด้วยสารสกัดจากสมุนไพรหลายชนิด อาทิเช่น หอมแดง เลมอน มะนาว โรสแมรี่ กานพลู เปปเปอร์มินต์ และยูคาลิปตัส ทำให้ลูกน้อยหายใจโล่งสะดวก หลับได้ยาวนานขึ้นถึง 12 ชั่วโมง สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด ใช้ได้บ่อยครั้งตามต้องการ อีกทั้งเด็กที่เป็น G6PD ก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย
HOMHOM
อีกหนึ่งตัวช่วยง่ายๆ ที่แม่เลือกใช้เพื่อให้ลูกน้อยหายใจโล่ง ต้อง homHOM สติ๊กเกอร์หอมแดง เลยค่ะ ซึ่งสติ๊กเกอร์หอมแดงนี้เป็นแบบแผ่นแปะ ออร์แกนิก 100% สามารถช่วยแก้หวัดคัดจมูก หอมนานถึง 8 ชั่วโมง มีส่วนประกอบสำคัญ คือ สารสกัดหอมแดง มีเคอร์ซิตินให้ฤทธิ์ในการป้องกันการอักเสบ, เปปเปอร์มินท์ออยล์ ลดอาการวิงเวียน สูดดมทำให้รู้สึกโล่งจมูก, ยูคาลิปตัสออยล์ มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียที่ทำให้เกิด โรคในทางเดินหายใจส่วนบน, ลาเวนเดอร์ออยล์ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และ คาโมมายล์ออยล์ ช่วยให้หลับสบาย คลายกังวล ผ่อนคลาย หลับได้ลึกและเร็วขึ้น ผ่านการรับรองจากมาตราฐานสากล NON TOXIC, PARABEN FREE และ SLESI / SLS FREE
D-NEE
เรียกได้ว่า เป็นทิชชู่เปียกที่ครองใจคุณแม่ในยุคนี้เลยก็ว่าได้ กับ D-nee ดีนี่ เพียว เบบี้ไวพ์ สูตรออร์แกนิก อ่อนโยนจากธรรมชาติ ผ่านการทดสอบความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ เนื้อผ้า Premium Care หนาเหนียวนุ่ม ไม่ขาดง่าย สัมผัสอ่อนโยนต่อผิวบอบบางของเด็กแรกเกิด มีส่วนผสมของน้ำบริสุทธิ์ 99% คงสมดุลด้วยค่า pH Balance ช่วยปลอบประโลมให้ผิวชุ่มชื้น และยังช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ด้วยสาร Benzalkonium Chloride 0.1% อ้างอิงจากศูนย์โรคอุบัติใหม่ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ มีสารสกัดออร์แกนิคจากธรรมชาติ 7 ชนิด ได้รับตรารับรองจาก ECOCERT จากประเทศฝรั่งเศส ปราศจากสารพาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำหอม และสี
OXY BABY
สมมง สมรางวัล สมใจที่แม่เลือกใช้ ฝากลูกน้อยให้หลับสบายอย่างปลอดภัย ฝากไว้ในอ้อมกอด OXY Baby ชุดเครื่องนอนเด็กหายใจผ่านได้ด้วย 2 นวัตกรรม กับนวัตกรรมเส้นใย Tencel เส้นใยเซลลูโลสที่มาจากเปลือกไม้ธรรมชาติ ให้ผิวสัมผัสที่นุ่มสบายมีความละเอียดสูง เย็นสบายนุ่มเนียน และละมุนเป็นพิเศษ ผ่านถักทอด้วย 3D Air Mesh Technology ทำให้หายใจผ่านได้ ป้องกันโรคไหลตายระหว่างนอนหลับ ระบายเหงื่อและความร้อนได้ดี แม้นอนเหงื่อออกก็ยังแห้งสบายตัว หลับสบายกว่าด้วยโครงสร้าง X-Structure กระจายแรงกดทับ และรองรับน้ำหนักได้สม่ำเสมอกว่าเบาะนอน หายใจผ่าน ได้ทั่วไป ถูกใจคุณแม่เพราะซักทำความสะอาดได้ทุกชิ้นส่วน ซักได้บ่อยเท่าที่ ต้องการโดยไม่เสียรูปทรง
MAMOON
แม่เห็นปุ๊บ ลองใช้ปั๊บ ถูกใจไปตลอด กับ Mamoon ผงสมุนไพรอาบน้ำเด็ก สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ทุกเพศทุกวัย *เพราะเป็นสัดส่วนของสมุนไพรเป็นสูตรเฉพาะที่ทารกใช้ได้ ปลอดภัย ผงสมุนไพรนี้ช่วยลดผดผื่น ปรับผิวให้เรียบเนียน สว่างใส ลดการอักเสบจากยุงและแมลงกัดลดการคันของผิวหนัง แถมสำหรับคุณแม่ก็สามารถใช้มาร์คหน้าหรือพอกผิวได้ ช่วยลดสิว ชะลอริ้วรอยก่อนวัย เพื่อผิวแข็งแรงและสุขภาพดี
BABYLOVE
Baby Love ยังยืนหนึ่งเรื่องเทคโนโลยีผ้าอ้อมสำเร็จรูป โดยเฉพาะ BabyLove PlayPants ผ้าอ้อมแบบกางเกงแบบพรีเมียม ตามมาตรฐานญี่ปุ่น เน้นจุดขายให้ตรงกับความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ ด้วยเทคโนโลยีล็อคการรั่วซึมยาวนานถึง 10 เท่า กระชับ ยืดหยุ่น แถมยังนุ่มสบายและผ่านมาตรฐานการทดลอง hypoallergenic ว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ช่วยให้เจ้าตัวเล็กเรียนรู้ได้อย่างไม่จำกัด
SEBAMED
Baby Sebamed Body Lotion โลชั่นถนอมผิวเด็ก ลดผื่นแพ้และการระคายเคืองผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นเรียบเนียน ด้วยส่วนประกอบน้ำมัน 7% และ อัลลันโทอิน พร้อมด้วยสารสกัดคาโมไมล์ ปกป้องผิวจากการระคายเคือง ดูดซึมเร็วหลังการทา ไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะ ควรใช้ทุกครั้งหลังอาบน้ำเป็นประจำ
DMP
DMP Baby Bath Head To Toe Wash Organic pH5.5 สบู่เหลวอาบน้ำ และสระผมสำหรับเด็ก ช่วยปกป้องผิวอย่างอ่อนโยนด้วยสูตรออร์แกนิค อ่อนโยนด้วย pH Balanced 5.5 ช่วยรักษาสมดุลและปกป้องน้ำหล่อเลี้ยงตามธรรมชาติของผิวทารกเหมาะสำหรับผิวเด็กและผิวแพ้ง่าย ปราศจาก 7 สารระคายเคืองผิว พร้อมทั้งผ่านการทดสอบว่าไม่ทำให้แพ้ระคายเคืองโดยแพทย์ผิวหนัง จัดเต็มให้เลือกใช้ได้ถึง 6 สูตร 6 สี เพื่อดูแลผิวที่บอบบางของลูกน้อย
NARAK
Narak สบู่เหลวเด็ก น่ารัก สูตรออร์แกนิก 100% มี 4 สูตรให้เลือก ให้เด็กๆ อาบสนุก ผิวหอมสดชื่น ให้ทุกการอาบน้ำมีแต่ความสุข อุดมไปด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังอาบ ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียน สุขภาพดี ไร้สภาพกรดด่าง อ่อนโยนแม้ผิวแพ้ง่าย ได้รับการรับรองออร์แกนิก จาก ECOCERT มั่นใจได้ว่าปลอยภัยต่อผิวลูก และยังมีวิตามิน E วิตามิน B5 ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวนุ่มน่ากอด ใช้ง่าย ใช้ดี ใช้ได้ทั้งครอบครัว
NARAK
แชมพูเด็ก Narak MILD สูตรอ่อนใส ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างอ่อนละมุน อุดมไปด้วยวิตามินอีจากน้ำมันดอกทานตะวัน อ่อนโยนต่อเส้นผมของวัยเยาว์ ช่วยเพิ่มการบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดี พร้อม pH Neutral ค่า pH ที่เป็นกลางจึงอ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผม ทำให้ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง แม้ผิวบอบบาง หรือแพ้ง่าย ปราศจากสารกันเสียกลุ่มพาราเบนและปราศจาก SLS สารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวและหนังศีรษะ แถมผมนุ่มลื่นสวยได้ โดยไม่ใช้ซิลิโคน ลดการอุดตันบนหนังศีรษะ สระแล้วลูกน้อยแฮปปี้ สนุกสนานเบ่งบานเหมือนดอกทานตะวัน
JORDAN
บอกเลยว่า Jordan เป็นแบรนด์อันดับ 1 จากนอร์เวย์ และยังเป็นแบรนด์ที่คุณแม่และน้องหนูเลือกใช้กันทั่วโลก ด้วยการออกแบบที่เข้าใจการใช้งานของเด็กๆทุกช่วงวัยและเป็นตัวช่วยคุณแม่ในการดูแลสุขภาพฟันของเจ้าตัวน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ แปรงสีฟันถูกดีไซน์ให้เหมาะกับเด็กๆ มีขนแปรงที่ทั้งนุ่มและอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองเหงือกและซอกซอนทั่วถึง มีด้ามจับที่ช่วยให้ทั้งเจ้าตัวเล็กและแม่ จับแปรงได้อย่างถนัดมือสามารถเลือกใช้งานได้ตามช่วงวัย ในส่วนของยาสีฟันของ Jordan ก็ออกแบบมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ เพราะมีส่วนผสมจากธรรมชาติถึง 97% ไม่มีพาราเบน ไม่มีน้ำตาล และไม่ทำลายสารเคลือบฟัน ไร้กังวลเรื่องสารตกค้างในช่องปาก มั่นใจได้ว่าไม่เป็นอันตรายต่อเด็กอย่างแน่นอน
MUSTELA
Mustela Baby 1 2 3 Vitamin Barrier Cream ครีมวิตามินผิว มีส่วนผสมธรรมชาติ 98% ช่วยลดการระคายเคืองและรอยแดงบริเวณที่ใส่ผ้าอ้อม ทาป้องกันผื่น และเพื่อเสริมเกราะป้องกันผิว มีส่วนประกอบ จาก Organic Avocado เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยรักษาสมดุลผิวของเซลล์ผิวลูกน้อย มีสารสกัด Oxeoline จาก Alcacea เพื่อช่วยผ่อนคลายผิวมี Zinc Oxide เคลือบป้องกันผิวจากการเปียกชื้น ปราศจาก SLE, SLES สารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ ไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีซิลิโคน ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวเด็ก ใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดเป็นต้นไป
VIDHYASOM
Baby aroma oil น้ำมันหอมแดง ของวิทยาศรม บรรเทาอาหารหวัดที่มีส่วนผสมมากกว่าหอมแดง ลดการหายใจครืดคราด คัดจมูก นํ้ามูกไหล อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติจาก ได้แก่ น้ำมันหอมแดง น้ำมันยูคาลิปตัส ส้มยูสุ ลาเวนเดอร์ ไม่มีส่วนผสมของการบูร ปลอดภัยต่อเด็ก G6PD
LITTLE HEART
Little Nose Patch แผ่นหอมบรรเทาหวัด สติ๊กเกอร์หัวหอม แก้หวัด คัดจมูก ปลอดภัยในเด็กเล็ก และใช้ได้ทั้งเด็กที่เป็นภูมิแพ้และผู้สูงอายุ กลิ่นหอมสดชื่น ไม่มีกลิ่นฉุน ช่วยให้ผ่อนคลาย หลับสบายเวลาที่ติด เก็บกลิ่นได้นาน หอมนาน 12 ชั่วโมง ลอกออกง่าย ไม่ทิ้งคราบกาว
PUREEN
ทิชชู่เปียก Pureen สูตรเซนส์ซิทีฟ เหมาะสำหรับทารกแรกเกิดและผิวบอบบางแพ้ง่าย มีส่วนผสมของคาโมมายด์ ป้องกันการระคายเคืองผิง ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอมและปราศจากพาราเบน สามารถจับสิ่งสกปรกออกได้ง่ายแม้แต่ซอกเล็ก หรือในจุดซ่อนเร้นที่บอบบาง จึงทำให้ไม่ระคายเคือง หลังใช้ให้ความรู้สึก ชุ่มชื่น อ่อนโยน แห้งเร็ว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงปลอดภัยต่อผิวลูกน้อย แม้แต่ผิวเด็กแรกเกิด ผ่านการทดสอบ Microbiologically Tested มั่นใจในความปลอดภัย
OXY BABY
ผลิตภัณฑ์ของ OXY Baby ไม่ว่าจะเป็นเบาะนอน ชุดนอน หรือชุดเครื่องนอนทุกชิ้น ได้รับการตรวจสอบแล้วว่า ปราศจาก SVHC สารเคมีอันตรายและสารก่อมะเร็งมากกว่า 240 ชนิด ตามกฎหมายของสหภาพยุโรป (REACH) ที่สำคัญคือเบาะ OXY Baby เป็นเบาะนอนที่ทารกสามารถหายใจผ่านได้ ด้วย 3D Air Mesh ระบายอากาศรอบทิศทาง ลดความเสี่ยง SIDS โครงสร้างคล้ายสปริง รองรับสรีระทุกสัดส่วน ไม่ทำร้ายกระดูกสันหลัง นุ่มแน่นแต่ยืดหยุ่น พลิกตัวง่าย ไม่กลัวติด นอนคว่ำก็ชิล สบายใจทั้งลูก ทั้งพ่อแม่
MOMCO
Momco เบาะนอนหายใจผ่านได้สำหรับทารก ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ นอนหลับอย่างสบายด้วยวัสดุที่ระบายอากาศได้แบบ 3 มิติ เพื่อการนอนหลับที่สบายที่สุดสำหรับลูกน้อยของคุณ พร้อมประสิทธิภาพป้องกันไรฝุ่น แบคทีเรียและเชื้อรา ระบายอากาศได้ดี มั่นใจได้ว่าไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ไส้เบาะทำจากใยวัสดุ POE (Polyolefin Elastomer) ไม่มีสารฟอร์มาลดีไฮด์ ไม่มีส่วนผสมของกาว เนื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ 100% ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและทางเดินหายใจ ดูแลง่าย สามารถถอดออกได้ ทำความสะอาดง่าย เนื่องจากไม่ใช้เส้นใยไม่ซับของเหลว
MAMOON
Mamoon ผงสมุนไพรอาบน้ำเด็ก ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สูตรคุณยาย เด็กทารกก็ใช้ได้ ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด สรรพคุณ ช่วยให้ผิวสว่างใส ผิวเนียน ลดผดผื่น ลดผิวอักเสบจากรอยแมลงกัด ลดริ้วรอยก่อนวัย ถ้าใช้ตั้งแต่เด็ก จะผิวดีจนโต
Best for Bath & Care |
Best for Pregnancy & New Mom |
Best for Cleanser |
Best for Learning |
Best for Travel & Safety |
Best for Feeding |
Popular Vote |
|
ในหมวดนี้ประกอบด้วย 10 สาขา มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับรางวัลหมวด Best for Travel & Safety จาก AMARIN BABY & KIDS AWARDS ในปีนี้ มีใครกันบ้าง
SILVER CROSS DUNE รถเข็นที่ตอบโจทย์แม่ทั่วประเทศจนต้องเทใจให้ ด้วยคุณสมบัติที่ครบครัน สามารถเข็นได้ 2 ทิศทาง โดยการสลับเบาะนั่งให้หันเข้าหรือออก จะให้ลูกน้อยมองวิว หรือจะหันหน้าเข้าหาคุณแม่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้สบาย เนื้อผ้านุ่มน่าสัมผัส เพิ่มความสบายให้ลูกน้อย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และผ้าส่วนด้านนอกผ่านกระบวนการผลิตจากวัสดุ recycled คุณภาพสูง (sustainable materials)
CHICCO แบรนด์คุณภาพมาตรฐานระดับโลก ช่วยให้ลูกนั่งสบายและปลอดภัยในทุกการเดินทาง คาร์ซีทเด็กที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการเติบโตของลูกน้อยตั้งแต่วัยหัดเดินไปจนถึงวัยเด็กโต ปรับเอนได้ถึง 4 ระดับ ช่วยให้ลูกน้อยอยู่ในท่าที่สบาย ปลอดภัยไร้กังวลด้วยโครงเบาะที่แข็งแรงและโฟม EPS ดูดซับแรงกระแทกช่วยปกป้องศีรษะและลำตัวของลูกน้อย โครงสร้างเบาะยังเสริมด้วยเหล็ก เพื่อความแข็งแรงสูงสุดยามเกิดเหตุไม่คาดฝัน ติดตั้งง่าย ใช้งานง่าย ระบายอากาศได้ดี
HOYO คอกกั้นเด็กที่ไม่ใช่แค่ไอเท็มความปลอดภัย แต่ผลิตภัณฑ์ของ HOYO ยังเป็นตัวแทนความรักของแม่ที่มอบให้ลูกทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วง นอน นั่ง ยืน หัดเดิน หรือเล่นซน ด้วยนวัตกรรมความแข็งแรงและปลอดภัยสั่งผลิตพิเศษจากประเทศเกาหลี เนียนนุ่ม ไร้กลิ่น และปรับเปลี่ยนเป็นอิสระตามวัยของลูก
BEBEPLAY เป็นแบรนด์คอกกั้นสุดเลิฟของคุณแม่ยุคใหม่ที่ใส่ใจพัฒนาการและความปลอดภัยของลูกน้อยวัยเรียนรู้ ด้วยวัสดุและสีที่ปลอดภัย ไม่มีสารพิษอันตรายระดับ Food Gradec แบบเดียวกับที่ใช้ผลิตขวดนม ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามใจ
ความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยต้องมาเป็นอันดับ 1 ปีนี้แม่เลือกให้ BONBEBE เก้าอี้กินข้าวที่ใส่ใจในวัสดุและการประกอบที่คงทน แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นโครง อลูมิเนียมที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 25 kg. ถาดอาหารที่ทำจากวัสดุ Food Grade ปลอด BPA สามารถสัมผัสอาหารได้โดยไม่มีสารปนเปื้อน ปรับระดับได้ตามต้องการ และสามารถพับเก็บได้ง่าย ประหยัดพื้นที่ภายในบ้าน
Editor’s Choice
BABYSTYLE รถเข็นคุณภาพสูง ที่นอกจากจะอำนวยความสะดวกสบาย และเน้นความปลอดภัยแล้ว ยังมีดีไซน์สวยหรู ด้วยวัสดุโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ที่ผสานกับการออกแบบเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของแม่ยุคใหม่ มีน้ำหนักเบา พับเก็บสะดวก ใช้งานง่าย
CAMERA คาร์ซีทมาตรฐานยุโรป ที่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 12 ปี ดีไซน์สวย สามารถปรับได้หลายระดับ เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่าง และการนั่งที่สะดวกสบายมาพร้อมความปลอดภัยสำหรับลูกน้อย มี LEG SUPPORT กันพลิกคว่ำ สำหรับเด็กเล็ก และสามารถพับเก็บได้เมื่อลูกโตขึ้น ช่วยลดแรงเหวี่ยง และแรงชนได้ดีขึ้น SUPPORT ช่วงหลังคอของเด็กแรกเกิดที่ปรับเป็นพิเศษเพื่อลดปัญหาเด็กคอพับ ทำให้หายใจสะดวกขึ้น
คอกกันเด็กแบรนด์ HOYO ที่เน้นความใส่ใจต่อทั้งสุขภาพของลูกน้อย และการใช้งานที่อำนวยสะดวกแม่เพื่อการดูแลลูกเล็กในบ้าน ให้เป็นพื้นที่ที่ส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อย ด้วยมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งวัสดุที่เหมาะกับเด็ก และฟังก์ชั่นถอดประกอบได้ช่วยคุณแม่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์ของบ้านได้อย่างง่ายดาย ทำความสะอาดง่าย จึงใช้งานได้ต่อเนื่อง ลงทุนครั้งเดียวคุ้ม
BUGABOO เก้าอี้ทานข้าวสำหรับเด็กดีไซน์สวย ที่วางมุมไหนของบ้านก็โดดเด่น ออกแบบมาเพื่อให้ลูกน้อยเติบโตได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายร่วมกันที่โต๊ะอาหารของครอบครัว ติดตั้งง่าย และปรับได้หลายระดับ การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็ให้อิสระในการเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่แก่เด็ก ดังนั้นลูกน้อยจึงสามารถนั่งด้วยท่าทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกช่วงของการเติบโต
การวางแผนอนาคตให้กับลูก ที่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องพัฒนาการ การเลี้ยงดูที่เอาใจใส่ แต่ยังต้องรวมถึงความปลอดภัย และสุขภาพของลูกน้อยที่ไม่สามารถคาดเดาได้ในอนาคต กรุงเทพประกันชีวิตช่วยให้คุณพ่อคุณแม่วางแผนเพื่อเบาใจในเรื่องของค่าใช้จ่ายเมื่อลูกเจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล เป็ยประกันสำหรับเด็กที่มาพร้อมทางเลือกในการวางแผนความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการ
Best for Bath & Care |
Best for Pregnancy & New Mom |
Best for Cleanser |
Best for Learning |
Best for Travel & Safety |
Best for Feeding |
Popular Vote |
|
ประกาศผลแล้วจ้า… Amarin Baby & Kids Awards 2024 รางวัลสุดยอดแบรนด์สินค้าและไลฟ์สไตล์แม่ลูกอันดับ 1 ในใจคนไทย จากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศกว่า 30,000 คน ผ่านการโหวตทาง www.amarinbabyandkids.com และการคัดเลือกสินค้าคุณภาพดี ใช้ได้จริงสำหรับคุณแม่ จากกองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids ด้วยมุ่งหวังให้เกิดการส่งต่อประสบการณ์และความรู้จากแม่สู่แม่ เพื่อให้เกิดเป็นสังคมของคุณแม่ที่มีความสุขและมีคุณภาพ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงามและจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6
ในคอนเซ็ปต์ การสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว หรือ FAMILY Well- Being ที่หมายรวมถึงการปลูกฝังพื้นฐาน “ความเป็นอยู่ที่ดี” ของทั้งครอบครัว สายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก ช่วยสร้างความเข้มแข็งภายในใจ ส่งผลต่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขลักษณะที่ดี กินอาหารถูกโภชนาการ มีบ้านที่ปลอดภัยและสภาพแวดล้อมดี หรือส่งเสริมการเรียนรู้และทักษะชีวิตให้กับเด็ก โดยในปีนี้มอบรางวัลให้แก่แบรนด์สินค้าและบริการที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์รวมทั้งสิ้น 95 รางวัล โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
สำหรับรางวัล Mommy’s Choice และ รางวัล Editor’s Choice ทั้งหมด 7 หมวด ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
Best for Bath & Care | Best for Cleanser |
Best for Feeding | Best for Pregnancy & New Mom |
Best for Travel & Safety | Best for Learning |
Popular Vote |
รางวัล Rising Star
รางวัล Rising Star มอบให้กับผลิตภัณฑ์แม่ลูก น้องใหม่น่าจับตามองประจำปี 2024 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดาวรุ่ง คุณภาพดีเหมาะกับลูกน้อย ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการในแต่ละหมวด เพื่อเป็นทางเลือกของคุณแม่ยุคใหม่ในการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ให้กับลูกน้อย
คลิกอ่านประกาศรางวัลที่นี่ Rising Star
รางวัล Healthy Living and Eco-Friendly product
มอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่สร้างครอบครัวมีสุขภาพใจกายที่ดี ในธีม FAMILY Well- Being ซึ่งเป็นการสร้างพื้นฐาน “ความเป็นอยู่ที่ดี” ของทั้งครอบครัว สายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก ช่วยสร้างความเข้มแข็งภายในใจ ส่งผลต่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขลักษณะที่ดี เช่น การรับประทานอาหารที่ถูกโภชนาการ มีบ้านที่ปลอดภัยและสภาพแวดล้อมดี หรือส่งเสริมการเรียนรู้และทักษะชีวิตให้กับเด็ก รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของโลกใบนี้
คลิกอ่านประกาศรางวัลที่นี่ Health Living and Eco-Friendly product
มอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่สร้างครอบครัวมีสุขภาพใจกายที่ดี ในธีม FAMILY Well- Being ซึ่งเป็นการสร้างพื้นฐาน “ความเป็นอยู่ที่ดี” ของทั้งครอบครัว สายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก ช่วยสร้างความเข้มแข็งภายในใจ ส่งผลต่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขลักษณะที่ดี เช่น การรับประทานอาหารที่ถูกโภชนาการ มีบ้านที่ปลอดภัยและสภาพแวดล้อมดี หรือส่งเสริมการเรียนรู้และทักษะชีวิตให้กับเด็ก รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของโลกใบนี้
ซึ่งในปีนี้รางวัล Health Living and Eco-Friendly product ประกอบด้วย 10 รางวัล มาดูกันเลยค่ะว่า สินค้าที่ได้รับรางวัลจาก AMARIN BABY & KIDS AWARDS จะมีอะไรบ้าง
A PIECES OF PAPER แพลนเนอร์วางแผนเกี่ยวกับลูกล่วงหน้าถึง 3 ปี ใช้บันทึกข้อมูลต่างๆของลูก ทั้งปัญหาต่างๆ ที่เรากังวล และช่องจดจิปาถะ จดบันทึกโมเมนต์ประทับใจ เก็บช่วงเวลาดีดีและเรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์ และข้อมูลพัฒนาการที่อาจจะมีประโยชน์ในอนาคต
PIPPER STANDARD ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิวแข็งอเนกประสงค์ สูตรฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ใช้ได้หลากหลาย ไม่ทำลายพื้นผิว ฉีดลงบนผ้า แล้วค่อยนำไปเช็ดทำความสะอาด โดยไม่ต้องเช็ดน้ำซ้ำ สะอาดหมดจด พร้อมกลิ่นหอมสดขื่น สามารถทำความสะอาดสิ่งของทั่วไป เช่น โทรศัพท์ เฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ กระจก ฯลฯ ใช้ได้กับพื้นผิวแข็งทั่วไป เช่น ไม้ ลามิเนต เซรามิค พลาสูติก กระเบื้อง กระจก ฯลฯ
BAABAA SHEEPZ หมอนคู่ใจที่นุ่มที่สุด ให้ความรู้สึกเย็นและอบอุ่น ด้วยคุณสมบัติของผ้าใยไผ่ Plus ปลอดภัยจากสารเคมีและสารกำจัดศัตรูพืชช่วยลดความเสี่ยงเกิดอาการแพ้ ป้องกันแบคทีเรีย ทุกครั้งที่กอดจะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทั้งยังปกป้องผิวของลูกน้อยโดยเฉพาะ ลดการระคายเคือง อาการคันจากผิวสัมผัส เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% (biodegradable)
MOTHERLY หมอนกันหัวแบนหายใจผ่านได้ ปลอดภัยจาก SIDS ระบายอากาศได้อย่างดี ไม่อับชื้น กระจายน้ำหนักและแรงกดทับได้ดี ไม่กระทบหลังศีรษะ ความสูงพอดี เหมาะสำหรับเด็ก 6+ เดือนขึ้นไป แผ่นเรียบไม่มีหลุม สามารถซักทำความสะอาดได้ และยังลดการสะสมของแบคทีเรียอีกด้วย
ENFANT สำลีก้านที่ผลิตจากฝ้าย 100% ไม่ทำให้เกิดขุย และผ่านการสเตอริไรซ์ปลอดภัยสะอาด ปราศจากสารเรืองแสง ผ่านการฆ่าเชื้อถึง 2 ครั้ง และบรรจุมาในบรรจุภัณฑ์หยิบใช้งานง่ายสะดวก ปิดแน่นสนิท ก้านกระดาษ แข็งแรง ไม่งอหักง่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
PLANTOYS ของเล่นที่ตั้งใจจุดประกายจินตนาการและส่งเสริมพัฒนาการ เพื่อสร้างพื้นฐานชีวิตที่ดี การเล่นที่ยั่งยืนไม่เพียงสร้างความสุขให้กับเด็ก ๆ เท่านั้น ด้วยความใส่ใจในการเลือกวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับวิธีการผลิตที่ปลอดภัยจึงช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ และปลูกฝังจิตสำนึกด้านสังคม สิ่งแวดล้อมด้วย
MELLOW FOR KIDS ผ้ารองกันน้ำ100% ผลิตจากผ้าคอตต้อนพอลิเอสเตอร์ ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมจากญี่ปุ่น ใช้งานได้ยาวนาน สำหรับปูรองนอนบนเตียงได้เลย สัมผัสนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี สำหรับเด็กแรกเกิด เด็กวัยเลิกเพิส มีหลากหลายขนาดให้เลือก ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
ENGLISH CONNER สถาบันสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอนุบาล ประถมและมัธยม (อายุ 2.5 – 15 ปี) สร้างรากฐานภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง โฟนิกส์ ฟัง พูด อ่าน เขียน ตามหลักเจ้าของภาษา ด้วยหลักสูตรสำหรับ ESL ผู้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 โดยเฉพาะเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ Experience based
และพัฒนาทักษะจำเป็น เพื่ออัจฉริยภาพทางสังคม Social Intellegence เช่น 4Cs
-creativity
-critical thinking
-communication
-collaboration
-logical
-problem solving
ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง (EGAT Learning Center , Lam Takong) โครงการที่ กฟผ. มุ่งทำขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานไฟฟ้า การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ ทั้งจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงนำนวัตกรรมที่ทันสมัยด้วยระบบ Wind Hydrogen Hybrid ซึ่งเป็นเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานไฟฟ้าจากกังหันลมในรูปของก๊าซไฮโดรเจน ที่ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญในเรื่อง “สมดุลพลังงาน” ซึ่งมีภูมิปัญญาท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ มั่งคั่งด้วยทรัพยากรธรรมชาติ โดยความร่วมมือกันระหว่าง กฟผ. และชุมชน เพื่อสร้างความสุขและยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
GREENDAY ขนมสุขภาพที่ตอบโจทย์เด็กน้อย กรีนเดย์ผักผลไม้ 5 สี อร่อย กรอบ เคี้ยวเพลิน มีคุณค่าสารอาหารเหมือน ผักผลไม้สด ผักและผลไม้กรอบอบแห้งเพื่อสุขภาพ ภายใต้คอนเซปท์ “Healthy Tasty Greenday ที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ จากผักและผลไม้แท้ 100%
LITTLE MONSTER หนังสือภาพคำศัพท์แรกของเด็ก First 100 Words เติมคลังคำศัพท์ให้ลูก จะช่วยให้เด็กๆคุ้นชินกับภาษาอังกฤษมากขึ้น และเมื่อลูกเริ่มเข้าใจความหมายของศัพท์ต่างๆ รอบตัว ช่วยให้เด็กๆได้มีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันกับพ่อแม่ด้วย
Best for Bath & Care |
Best for Pregnancy & New Mom |
Best for Cleanser |
Best for Learning |
Best for Travel & Safety |
Best for Feeding |
Popular Vote |
|