Page 6 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

โรงเรียนประสานมิตร ปทุมธานีโรงเรียนแนวคิดใหม่ พัฒนาสมองและจิตใจไปพร้อมกัน

วันนี้ ABK จะพาคุณพ่อคุณแม่ทุกไปทำความรู้จักโรงเรียนเล็ก ๆ บรรยากาศอบอุ่นและปลอดภัย ที่สร้างความประทับให้บรรดาครอบครัวศิษย์เก่า – ปัจจุบันมานานกว่า 25 ปี ที่ โรงเรียนประสานมิตร จังหวัดปทุมธานี โรงเรียนแนวคิดใหม่ที่ใช้ Finger scan มาช่วยวิเคราะห์ความแตกต่างทางอัจฉริยภาพของแต่ละคนเพื่อ Customized แนวทางการสอน การดูแลให้เหมาะเป็นรายคน เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ทักษะชีวิตและฝึกพัฒนาจิตเป็นประจำเพื่อเติบโตไปเป็นพลเมือง พลโลกที่มีศักยภาพทั้งทางด้านจิตใจและสติปัญญา

รอบรั้วโรงเรียน
ธรรมชาติของเด็ก ๆ เมื่อได้ปล่อยพลังเต็มที่ เมื่อเข้าห้องเรียนจะมีสมาธิมากขึ้น
Cooking and sharing opinion
ชั่วโมงพัฒนาจิตช่วงเช้าของน้องอนุบาล
Role play! เด็ก ๆ เลือกบทบาทกันเอง จัดเต็มประมาณนี้ น่ารักมากค่ะ

Why Prasanmit?

จุดเด่นของโรงเรียน

  • เป็นโรงเรียนทางเลือก เน้นการพัฒนานักเรียนเป็นรายบุคคล โดยใช้เครื่องมือ + นวัตกรรม เพื่อการพัฒนานักเรียนแบบ one on one
  • การใช้นวัตกรรมการสแกนลายผิวเข้ามาช่วยวิเคราะห์
    1. เพื่อค้นหาศักยภาพที่ติดตัวแต่กำเนิด
    2. เพื่อประยุกต์ + ปรับใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับเด็ก ๆ แต่ละคน (Customized)
  • โรงเรียนเพิ่มกระบวนการการสอนด้วย NLP = ภาษาสมอง หรือ เทคนิคการสื่อสารด้วยพลังบวก ซึ่งเป็นการใช้ภาษาที่สอดคล้องกับการทำงานของสมอง
  • NLP ย่อมาจาก Neuro = สมอง Linguistic = ภาษา Programming เป็นการเรียนการสอนที่ใช้
    1. ข้อเท็จจริง
    2. เสนอความคิดแบบ positive
    3. ด้วยการใช้ภาษาที่เป็นมิตร ไม่ข่มขู่
  • เทคนิค NLP นี้จะทำให้บรรยากาศในการสื่อสารจะเต็มไปด้วยความสนุกและสร้างความสุขให้กับชีวิตอย่างแน่นอนค่ะ
  • ผสมผสานกระบวนการ Coaching ที่จะเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับ “ทักษะชีวิต” และ EF
  • คุณครูไม่ได้เป็นผู้ Coach อยู่ฝ่ายเดียว ที่โรงเรียนประสานมิตรนั้น คุณครูและนักเรียน เรียนรู้ไปด้วยกัน ความสัมพันธ์จึงเต็มไปด้วย การให้โอกาส และ ความสบายใจ
  • เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้การบริหารจัดการเงิน และ เวลา ที่เริ่มตั้งแต่ชั้นอนุบาล ( ค่อย ๆ เพิ่มระดับความซับซ้อนขึ้นไป ) ด้วยกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม จับต้อง และเข้าใจง่าย
  • และที่ขาดไม่ได้คือ “วิชาพัฒนาจิต” เด็ก ๆ จะได้สังเกตร่างกายและลมหายใจของตัวเอง มีสติอยู่กับปัจจุบัน เป็นวิชาที่ช่วยปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม + เรียนรู้การรักตัวเอง และ พร้อมส่งต่อความดีให้กับโลกใบนี้ค่ะ
ป.2 ห้อง Mini inter กำลังเรียนรู้เรื่องอารมณ์ คุณครูใช้อีโมจิเป็นสื่อการสอนค่ะ
เด็กโตจะใช้สีสื่อถึงอารมณ์แทนอีโมจิเพราะเด็กโตเข้าใจ concept ที่เป็นนามธรรมมากขึ้นแล้ว
คุณครูกำลังแนะนำกิจกรรมในชั่วโมง coaching amd mentoring
การตักอาหารด้วยตนเอง คือการฝึกทักษะชีวิตอย่างหนึ่ง
หลังทานอาหารกลางวัน จะมีพักสายตาและฟังเพลงบรรเลงสักครู่ หยุดเรื่องวุ่นวายเพื่อโฟกัสกับลมหายใจพักหนึ่ง

หลักสูตร

ระดับชั้นอนุบาล

  • Intensive English Program – เรียนภาษาอังกฤษกับ teacher ชาวต่างชาติ สัปดาห์ละ 5 คาบ
  • Mini International Program – มีคุณครูประจำชั้นเป็น teacher ชาวต่างชาติ + จัดการเรียนรู้เป็นภาษาอังกฤษ + สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษตลอดทั้งวัน

ที่สำคัญน้องเล็กก็จะมีทำโครงงานด้วยเช่นกันค่ะ ( โครงงานกลุ่ม ) เช่น โครงงานเรื่อง “ร้านค้าชุมชน” “เชฟ” ฯลฯ ล้วนเป็น Topic ที่ช่วยกันเลือกเอง

Daily routine น้องอนุบาล

  • เมื่อคุณพ่อคุณแม่มาส่งเด็ก ๆ ที่โรงเรียนแล้ว เด็ก ๆ จะเปลี่ยนเป็นชุดลำลองแสนสบายสไตล์เหมือนอยู่บ้าน แล้วจึงเริ่มต้นกิจกรรม
  • ทำเป้าหมาย (วางแผนกิจกรรม) ของตัวเอง (วันต่อวัน)
  • กิจกรรมพัฒนาจิต สงบนิ่ง รู้ตน ผ่อนคลาย
  • แล้วจึงต่อด้วยกิจกรรมที่การันตีความรู้คู่กับความสนุกตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น Role play (เฉพาะ Mini inter) Cooking | Math Montessori ทักษะชีวิต (การช่วยเหลือตนเองทั้งหมด) เล่นบ่อทราย ( บูรณาการวิทยาศาสตร์ + เล่นอิสระ สร้างสรรค์ สร้างจินตนาการ) และอื่น ๆ อีกมากมาย

ระดับประถมศึกษา

  • Intensive English Program – เรียนภาษาอังกฤษกับ teacher ชาวต่างชาติ + ครูไทย (จัดเต็ม พื้นฐานอย่างแน่นไปเลย)
  • Mini International Program – มีคุณครูประจำชั้นเป็น teacher ชาวต่างชาติ + จัดการเรียนรู้เป็นภาษาอังกฤษในวิชา Mathematics, Science, English, Social Study and Health Education + สื่อสารเป็นภาษาอังกฤษตลอดทั้งวัน
  • พี่ๆ ชั้นประถมจะมีการนำเสนอ personal project ปีละ 1 โปรเจค ต่อยอดความคิดและจินตนาการ บูรณาการหลายศาสตร์ จัดเป็นงานใหญ่ระดับครอบครัว จนถ่ายทอดออกมาเป็นชิ้นผลงานสุดภูมิใจ
  • ที่ขาดไม่ได้คือ วิชาพัฒนาจิต สวดมนต์ ไหว้พระ เดินจงกรม สลับกับ เรียนรู้มารยาทและความเป็นไทย
  • ทุกวันทุกคนจะพักผ่อนกลางวันสั้นๆ ฟังเพลง รู้ตนเองด้วยระฆังแห่งสติ ฝึกลมหายใจ + สังเกตการเคลื่อนไหวของตนเอง
การบริหารจัดการเงินอย่างเป็นรูปธรรม
เด็ก ๆ กำลังเรียนเรื่องปริมาตรในวิชาคณิตศาสตร์กันอยู่ค่ะ

HEAD AND HEARTตัวอย่างวิชาการ และ คุณค่าของวิชาใจ

สำหรับด้านวิชาการที่โรงเรียนประสานมิตร กิจกรรม Hands-on ถือเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ เด็ก ๆ เริ่มเรียนรู้จากสิ่งที่จับต้องได้ – มองเห็นด้วยตา และค่อย ๆ develop ความเป็นนามธรรมมากขึ้นตามวัยที่เติบโต และในส่วนของวิชาใจ ไม่ใช่วิชาใดวิชาหนึ่ง แต่แทรกซึมอยู่ในกระบวนการ reflection ที่คุณครูคอยสะท้อนคิดเด็กๆ ระหว่างชั่วโมงค่ะ

Math Montessori ของชั้นอนุบาล

  • คุณครูสร้างสื่อการเรียนรู้ให้เด็ก ๆ ลงมือทำกิจกรรมเพราะวิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่บูรณาการหลายศาสตร์เข้าด้วยกัน
  • มือประสาน ตามอง ทดลองด้วยการหยิบจับ สัมผัส การเรียนรู้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • เรียนเป็นรูปแบบกลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ (5 คน)
  • เรียน – เล่น – เก็บ ต้องเก็บของให้เรียบร้อย (สร้าง EF)

วิชา Coaching and Mentoring

ใจความของวิชานี้จะครอบคลุม ทั้งทักษะชีวิตควบคู่ไปกับ วิชาการ และการบริหารจัดการเวลาและการเงิน ( ความท้าทายและซับซ้อนแตกต่างกันไปในแต่ละระดับชั้น )

COACHING

ที่จริงแล้วไม่ใช่แค่คุณครูเป็นผู้ Coaching แต่ ทั้งนักเรียนและคุณครูผลัดกัน Coaching ซึ่งกันและกัน เรียนรู้ไปร่วมกัน จึงขอแยกเป็นใจความหลักๆ ดังนี้ค่ะ

นักเรียนจะได้ :

  • ฝึกการสื่อสารกับตัวเอง
  • สังเกตมุมมองและความรู้สึกของตนเอง สะท้อนคิดตัวเอง
  • มองเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่น
  • คิด และ ใช้วิจารณญาน ในการตัดสินใจและแก้ปัญหา

หน้าที่ของคุณครูใน part ของโค้ช :

  • listen with respect จะคอยรับฟัง – อย่างไม่ตัดสินและไม่ตีความไปเอง
  • แนะนำ – ไม่ชี้นำ และมักจะใช้คำถามปลายเปิด + กระตุ้นให้เด็ก ๆ ฝึกคิด มีโอกาสตัดสินใจและลองแก้ไขปัญหาด้วยวิธีของตนเอง ในขอบเขตที่ความเหมาะสมและปลอดภัย

การบริหารจัดการ “ด้านการเงิน”

  • สะสมเงินเพื่ออะไร? ทำสำเร็จไหม? สำเร็จหรือไม่เพราะอะไร?
  • เด็กเล็กเริ่มจากการรู้จักการใช้จ่าย – ป.3 ออมเงินอย่างจริงจัง – ป.4 นำเงินออมมาเพิ่มมูลค่า เช่น นำสินค้ามาขาย – พี่ ป.6 สมมุติการออมเงินเพื่อวางแผนเกษียน
  • คุณครูจะ reflection เดือนละ 1 ครั้ง ถึง 2 เดือนครั้ง เพราะวินัยในการออมเงินต้องฝึกอย่างต่อเนื่อง และเด็กๆต้องได้รับการ coaching เรื่องการออมเงินเช่นกันค่ะ

การบริหารจัดการ “ด้านเวลา”

Planner – Reflection & Feed Forward : เด็กๆทุกคนจะได้เรียนรู้การวางแผนการดำเนินชีวิตรายวัน รายเดือน ไปจนถึงรายปีอย่างเป็นระบบ + เขียน Future Vision

Math montessori เด็กๆจะใช้สมาธิในการทำกิจกรรม คุณครูจะเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกและคอย observe อยู่ใกล้ๆ
คุณครูกำลัง reflection กลุ่มย่อยค่ะ เด็กๆเพิ่งเสร็จจากการเต้น ที่เต้นเมื่อสักครู่หนูๆรู้สึกอย่างไรบ้างคะ? (คำถามปลายเปิดเสมอ)

Feeling acceptance + reflectionการรู้จักและยอมรับอารมณ์ของตน

  • เด็กเล็กจะใช้ “อีโมจิ” สื่อถึงอารมณ์เช่น Happy – Sad – Excited – Angry ซึ่งเด็ก ๆ สามารถมองเห็น – จดจำ – ตีความหมายได้ เหมาะสมกับวัย
  • คุณครูจะสมมุติหรือจำลองสถานการณ์ที่ทำให้เกิด feeling ต่าง ๆ แล้วให้เด็ก ๆ แชร์ไอเดียการแก้ไขปัญหา + คุณครูคอย Coachingด้วยเช่นกัน
  • เด็กโตจะใช้ “สี” บอกความรู้สึก ตัวอย่างเช่น หลังจากแนะนำกิจกรรมคุณครูจะถามความรู้สึกของนักเรียนทั้งตอนเริ่ม – ระหว่าง – และหลังกิจกรรม ( ตอนเริ่มมักเป็นสีม่วง หรือ = น่าเบื่อ ตอนท้าย ๆ อาจเปลี่ยนเป็นสีสดขึ้นเพราะนักเรียนเริ่มโอเคกับกิจกรรมแล้ว)
  • เป็นการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างคุณครูและเด็ก ๆ ว่า 1. กิจกรรมของคุณครูควรปรับปรุงหรือไม่? 2. เด็ก ๆ เปิดใจและให้โอกาสตัวเองลองเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สุดท้ายอาจจะชื่นชอบก็ได้นะ!
  • การขอบคุณ (บางคลาสใช้บัตร “LIKE”) เป็นอีกสื่อที่สำคัญ เพราะการรู้จักขอบคุณตัวเองและผู้อื่น = การเห็นคุณค่าของผู้คน คุณครูจะสอบถามหรือแจกบัตร Like ในเด็กโต (เพื่อให้เขียนชื่อเพื่อน) ว่ารู้สึกขอบคุณใคร หากได้ทำแบบนี้สม่ำเสมอเด็กๆจะกล้าและไม่เขินอายที่จะขอบคุณใครออกไปค่ะ
สระว่ายน้ำในร่มขนาดใหญ่

Mommy Love This! ถูกใจแม่

  1. โรงเรียนปลอดภัย + ลูก ๆ อยากไปโรงเรียนทุกวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจที่สุด
  2. นวัตกรรมเพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียน
    • NLP หรือ เทคนิคการสื่อสารด้วยพลังบวก ซึ่งเป็นการใช้ภาษาที่สอดคล้องกับการทำงานของสมองที่จะทำให้บรรยากาศในการสื่อสารจะเต็มไปด้วยความสนุก
    • Finger scan ศาสตร์การวิเคราะห์ความแตกต่างทางพันธุกรรมผ่านลายนิ้วมือ อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยวิเคราะห์ความแตกต่างเพื่อหาแนวทางเหมาะสมกับลูกๆ ของเรา เพื่อส่งเสริมจุดเด่นของแต่ละคน และพัฒนาทักษะที่ไม่ถนัด
  3. วิชาการก็ต้อง HANDS ON เพราะการเรียนรู้จะชัดเจนขึ้นเมื่อเป็นรูปธรรม การหยิบจับได้และลงมือทำคือการสร้างประสบการณ์ตรงที่นอกจากจะเข้าใจได้ดีขึ้นแล้ว เด็ก ๆ ยังต่อยอดความคิดได้อีกหลายเท่าตัวด้วยนะคะ
  4. ลูก ๆ เรียนรู้เพื่อเติบโตเป็นคนดีของสังคม
    • โรงเรียนสอนทักษะชีวิตเพื่อให้นักเรียนสามารถใช้ชีวิตในอนาคตได้อย่างเข้มแข็งและมั่นคง ผ่านการ Coaching and Mentoring
    • เด็กๆได้เรียนรู้ทั้งการบริหารจัดการ 1. การเงิน 2. เวลา 3. อารมณ์และพฤติกรรม
    • ทุกคนได้ฝึกการเป็นผู้พูด ผู้ฟัง มีการสะท้อนความคิดเห็น เสียงของเด็ก ๆ ได้รับการได้ยินจากผู้ใหญ่เสมอ
    • การที่ทุกคนได้ฝึกพัฒนาจิตทุกๆวัน เป็นการปลูกฝังให้เด็ก ๆ ย้อนกลับมาสำรวมกาย รักษาใจให้สงบ สร้างพลังที่ดีจากภายใน
    • เด็ก ๆ มองเห็นคุณค่าของตัวเองและผู้อื่น รู้จักขอบคุณ กิริยามารยาทอ่อนน้อมแบบไทย
  5. ห้องเรียนพ่อแม่ เพราะจุดเด่นของโรงเรียนคือการ Coaching นักเรียน แต่ที่ ๆ สำคัญที่สุดสำหรับเด็ก ๆ คือ “ครอบครัว” ดังนั้นห้องเรียนพ่อแม่จึงเกิดขึ้นมาเพื่อช่วย Coaching การดูแลลูก ๆ ตามแต่ละช่วงวัย บุคคลภายนอกที่อยากเข้าร่วมกิจกรรมสามารถติดต่อสอบถามทางโรงเรียนได้เลยนะคะ

ค่าเล่าเรียน

ราคาต่อเทอมอยู่ระหว่าง 15,000 – 35,000 บาท ( ขึ้นอยู่กับหลักสูตร ) รายละเอียดอัพเดท – กรุณาติดต่อสอบถามห้องธุรการของโรงเรียนโดยตรง

ที่อยู่

Prasanmit NLP School

โรงเรียนประสานมิตร59/573 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12130

โทร. 02-9876601-2โทร. 093-446-6446

www.prasanmit.ac.th

    Tags

    PM 2.5 กระตุ้นภูมิแพ้ ปกป้องลูกน้อย ด้วยนมแม่ ที่มีคุณสมบัติ H.A. (Hypoallergenic)

    เด็กไทยเสี่ยงเป็นภูมิแพ้กว่าร้อยละ 50 และเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ เด็กที่มีคุณพ่อและคุณแม่เป็นโรคภูมิแพ้ จึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นภูมิแพ้เพิ่มสูงถึงร้อยละ 80 นอกจากนี้เด็กในยุคนี้ยังต้องเติบโตขึ้นมาท่ามกลางปัจจัยกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อมมากมาย เช่น มลภาวะ และฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กมาก จนสามารถเดินทางผ่านระบบการหายใจเข้าไปถึงถุงลมในปอดได้ และอาจทำให้เกิดการอักเสบบริเวณหลอดลมและถุงลม จนเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจตามมาได้ หากคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้รับฝุ่น PM 2.5 ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการกระตุ้นภูมิแพ้ให้กำเริบและรุนแรงมากขึ้น นอกจากการรักษาโรคภูมิแพ้แล้ว การป้องกันไม่ให้ลูกเป็นโรคภูมิแพ้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรต้องใส่ใจ

    คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการโรคภูมิแพ้ของลูกได้ด้วยตนเองเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล มีผื่น ลมพิษ เกิดอาการบวมแดง รู้สึกคันตามผิวหนัง รู้สึกคันหรือเคืองตา หนังตาบวม อาเจียน และหอบหืด หากพบเจออาการเหล่านี้ควรรีบป้องกันและพบแพทย์เพื่อรักษาทันที เพราะโรคภูมิแพ้ในเด็กอาจนำไปสู่การเกิด Allergic March หรือ ลูกโซ่ภูมิแพ้ ซึ่งเป็นกระบวนการที่โรคภูมิแพ้ในเด็กเกิดการพัฒนาต่อเนื่องจากภูมิแพ้ชนิดหนึ่งไปเป็นอีกชนิดหนึ่ง ต่อเนื่องตั้งแต่วัยทารกจนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

    สารอาหารในนมแม่ปกป้องลูกจากภูมิแพ้

    การป้องกันไม่ให้ลูกเป็นภูมิแพ้ตั้งแต่ขวบปีแรกเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นภูมิแพ้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันภูมิแพ้ในทารกได้ด้วยการให้ลูกได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน หรือนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะนมแม่มีสารอาหารที่หลากหลายมากกว่า 200 ชนิด

    นมแม่มีคุณสมบัติ H.A. (Hypoallergenic) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ ยิ่งไปกว่านั้น

    นมแม่ยังประกอบด้วย Partially Hydrolyzed Proteins (PHP) หรือโปรตีนบางส่วนที่ถูกย่อยให้มีขนาดเล็กลงและทำให้ง่ายต่อการดูดซึม จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อเกิดภูมิแพ้ได้ รวมไปถึงมี พรีไบโอติกโอลิโกแซคคาไรด์ (Human Milk Oligosaccharides or HMOs) ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ โดยนมแม่ประกอบด้วยใยอาหารมากกว่า 200 ชนิด ซึ่งมีใยอาหาร 5 ชนิด (5 HMO) ที่พบมากในกลุ่มนี้ ได้แก่ 2’FL, DFL, LNT, 6’SL, และ 3’SL โดยใยอาหารที่พบในนมแม่มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ยิ่งไปกว่านั้นนมแม่มี โพรไบโอติกหลากหลายสายพันธุ์ เช่น B. lactis  (บี แล็กทิส) ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงในการเกิดภูมิแพ้

    นมแม่จึงเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูก ที่จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรง ป้องกันและลดโอกาสในการเกิดภูมิแพ้ในเด็ก ที่อาจนำไปสู่ลูกโซ่ภูมิแพ้ในอนาคตได้ นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ยังควรป้องกันและหลีกเลี่ยงฝุ่น PM 2.5 ด้วยการหมั่นตรวจสอบค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index – AQI) เป็นประจำก่อนออกจากบ้าน หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านและทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่มีค่าดัชนีคุณภาพอากาศในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หากจำเป็นต้องออกจากบ้าน ควรสวมหน้ากาก N95 ที่ได้รับมาตรฐานและสามารถกรองฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเลือกใช้เครื่องกรองอากาศภายในบ้านและรถยนต์ที่มีความละเอียดสูง เพราะการป้องกันง่ายกว่าการรักษา มาเริ่มต้นปรับวิถีชีวิตเพื่อเตรียมรับมือกับฝุ่น PM 2.5 และเสริมภูมิคุ้มกันของลูกด้วยนมแม่ได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ลูกน้อยเติบโตแข็งแรงปลอดภัย

    หากคุณพ่อคุณแม่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สารอาหารที่มีประโยชน์ในนมแม่และมีบทบาทต่อสุขภาพและพัฒนาการของลูกน้อย เข้าชมได้ที่ S-Mom Club ที่เว็บไซต์ https://www.s-momclub.com/

    สามารถสมัครสมาชิกเพื่อปรึกษาทีมพยาบาลผู้เชี่ยวชาญได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

    นอกจากนี้ยังสามารถพูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพโภชนาการและพัฒนาการสำหรับคุณแม่และลูกน้อยตามช่วงวัย โดยทีมพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่

    Line: https://line.me/ti/g2/sTaGOaX-BDVbUWvjiMlyM6OHPMC5PNssEhw_Sw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

    เช็คความเสี่ยงภูมิแพ้ของเจ้าตัวน้อยได้ที่ : https://www.s-momclub.com/baby-allergies

    Reference

      Tags

      อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษมพื้นที่แห่งความสุข พื้นที่แห่งการเรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ ตั้งแต่ก้าวแรก

      คุณพ่อคุณแม่คนไหนกำลังรอคอยรีวิว โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม อยู่บ้างคะ หลายคนคงอยากรู้ว่าหลักสูตรการเรียนการสอนของที่นี่เป็นอย่างไร คุ้มค่าแค่ไหน วันนี้เราจะมาตอบทุกข้อสงสัยและเจาะลึกทั้งหลักสูตรและค่าเทอมต่าง ๆ ให้ได้ทราบกัน มาดูกันค่ะว่าอะไรทำให้โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 46 ปี

      อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม เป็นโรงเรียนเอกชนย่านฝั่งธน ที่ไม่ได้โดดเด่นแค่บรรยากาศของห้องเรียนและความเอาใจใส่ของคุณครูเท่านั้น แต่หลักสูตรก็น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ โรงเรียนก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2522 โดย อาจารย์อารย์ ปาลเดชพงศ์ เดิมทีเป็นโรงเรียนอนุบาลที่ครอบครัวตั้งใจจัดตั้งขึ้น เพื่อรองรับให้คนในครอบครัวได้เรียน ได้มีพื้นฐานการศึกษาที่ดี แต่ด้วยแนวคิดและอุดมการณ์ของโรงเรียนตอบโจทย์ผู้ปกครองในตอนนั้น ทำให้จากโรงเรียนเล็ก ๆ ที่เป็นเหมือนโฮมสคูล ได้เปิดต่อและขยายพื้นที่เพื่อรองรับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอนมาแล้ว 46 ปี และขยายโรงเรียนเพิ่มเป็น 4 โรงเรียน คือ

      • อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม
      • โรงเรียนเด่นหล้าพระราม 5
      • DLTS International School (DLTS)
      • Denla British School (DBS)

      โรงเรียนมีพื้นที่มากถึง 4-5 ไร่ แถมยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินหลักสองตรงเดอะมอลบางแคอีกด้วย ปัจจุบันเปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ระดับ Pre-Nursery ถึงชั้นอนุบาล 3 นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรเด็กก่อนวัยเรียน หรือ Kids Club ซึ่งเป็นหลักสูตรที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเข้าเรียนร่วมกันกับลูกได้ด้วยค่ะ ไปดูหลักสูตรของโรงเรียนกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

      หลักสูตรการเรียนรู้สำหรับเด็กช่วงอายุ 1 – 6 ปี

      1. หลักสูตร Kids Clubหลักสูตรออกแบบและส่งเสริมทักษะตามวัยให้กับเด็กวัย 1-3 ปี ไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านการคิด ทักษะด้านพูด ทักษะด้านภาษาการสื่อสาร ทักษะด้านการปรับตัว ทักษะด้านร่างกายกล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเหนือมัดใหญ่ และทักษะเชิงสมรรถนะ (Competency-base) นอกจากนั้นยังเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน Pre-Nursery ให้กับเด็ก จุดเด่นของหลักสูตรนี้คือ คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ปกครอง สามารถเข้าเรียนร่วมกันกับลูกในชั้นเรียนได้ เพื่อให้พ่อแม่ได้เข้าใจตัวตนและได้เห็นพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด
      2. หลักสูตรบูรณาการ : Denla Integrated Program (D.I.P)การเรียนการสอนเป็นการผสมผสานกันระหว่าง หลักสูตรปฐมวัยของกระทรวงศึกษาและหลักสูตรเฉพาะของอนุบาลเด่นหล้า โดยเปิดการเรียนการสอนในระดับชั้น Pre-Nursery ถึงระดับชั้นอนุบาล 3 ในส่วนของระดับชั้น Pre-Nursery ถึงระดับชั้นอนุบาล 1 จะเน้นจัดกระบวนการเรียนรู้ผ่านการเล่น หรือ Play-Based Learning แต่จะเป็นการเล่นโดยมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ชัดเจน เพื่อสร้างทักษะด้านการสื่อสาร ด้านสังคม ด้านความคิดสร้างสรรค์ ด้านร่างกาย ที่สำคัญเพื่อสร้างทัศนคติเชิงบวกต่อการเรียนรู้ และการมีความสุขในการมาโรงเรียน

      ในส่วนของระดับชั้นอนุบาล 2-3 เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ทักษะด้านการฟัง พูด อ่านและเขียนมากขึ้น เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ และการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน รวมถึงมีชั่วโมงเรียนเกี่ยวกับ STEM Coding และ AI ควบคู่ไปกับการส่งเสริมทักษะด้านอื่นๆ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ผ่านชั่วโมงศิลปะ การกล้าแสดงออกผ่านชั่วโมง Acting ความแข็งแรงด้านร่างกายผ่านชั่วโมงว่ายน้ำ รวมถึงพื้นฐานด้านการคิดการคำนวณ เพื่อให้เด็กมีความพร้อมที่สุดสำหรับเข้าโรงเรียนประถม ตามที่คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองวางแผนไว้

      3. หลักสูตรภาษาอังกฤษ : Denla English Program (D.E.P)การเรียนการสอนใช้หลักสูตรภาษาอังกฤษ Oxford ผสมผสานรูปแบบการเรียนการสอนของหลักสูตรปฐมวัยของกระทรวงศึกษากับหลักสูตรเฉพาะของอนุบาลเด่นหล้าเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมดุล โดยเปิดการเรียนการสอนในระดับชั้น Pre-Nursery ถึงระดับชั้น Kindergarten 3 (K3)

      การเรียนในระดับชั้น Pre-Nursery ถึงระดับชั้น K1 ใช้รูปแบบการสอนแบบ Play-based Learning เป็นหลัก เพื่อเน้นการพัฒนาทักษะและการสร้างความรู้ระยะยาว ออกแบบกิจกรรมโดยคุณครูผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กเล็ก ทั้งครูไทยและครูชาวต่างชาติ

      ในส่วนของระดับชั้น K2-K3 เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ทักษะด้านการฟัง พูด อ่านและเขียนมากขึ้น โดยเฉพาะในวิชาภาษาอังกฤษ ที่เด็กๆจะได้เรียนกับ Native speaker วันละ 120 นาที และเรียนภาษาจีนสัปดาห์ละ 2 คาบเรียบ รวมถึงมีชั่วโมงเรียนเกี่ยวกับ STEM Coding และ AI ควบคู่ไปกับการส่งเสริมทักษะด้านอื่นๆ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ผ่านชั่วโมงศิลปะ การกล้าแสดงออกผ่านชั่วโมง Acting ความแข็งแรงด้านร่างกายผ่านชั่วโมงว่ายน้ำ เพื่อให้เด็กมีความพร้อมที่สุดสำหรับเข้าโรงเรียนประถม ทั้งเครือสาธิต เครือคาทอลิคในหลักสูตรภาษาอังกฤษหลัก

      4. สูตรนานาชาติ : DLTS International School (DLTS)DLTS International School ( Phetkasem ) มีจุดเด่นตรงที่เปิดการเรียนการสอนในระดับชั้น EY1 ถึง EY3 จึงทำให้เรามีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัยโดยเฉพาะ โดยการออกแบบการเรียนการสอนของหลักสูตรใช้ความพิถีพิถัน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้รับการพัฒนาความรู้ทักษะทางวิชาการ ผสมผสานกับความสุข ความสนุกในการมาโรงเรียน การเรียนการสอนยึดตามหลักสูตรอเมริกัน (IB) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Project Approach) ผสมผสาน

      การเรียนรู้รูปแบบ Play Based Learning ผ่านแนวคิดที่เรียกว่า “PATHS” ซึ่งเป็นการผสมผสานความเป็นเลิศในทุกด้านเข้าไว้ด้วยกันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโลกที่เชื่อมโยงกัน

      • “Principled” การมีคุณธรรม ยึดมั่นในหลักการ เติบโตอย่างงดงาม
      • “Academic Excellence” ความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ
      • “Trilingual” มุ่งเน้นการพัฒนาภาษาและทักษะระดับสากล
      • “Holistic” การดูแลแบบองค์รวม ทั้งด้านจิตใจ อารมณ์ สังคม และร่างกาย
      • “Student-Centered” นักเรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน สามารถเป็นผู้นำที่ดีได้ในอนาคต

      ** PATHS ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อให้นักเรียนมีความสุขกับการมาโรงเรียน ควบคู่ไปกับการมีความพร้อมสำหรับการแข่งขันในระดับโลก ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของหลักสูตรที่ว่า “Choose Excellence Choose DLTS”

      จุดเด่นของอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม

      อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม มี MOU ที่ร่วมมือกับโรงเรียนชื่อดังมากมาย เช่น โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี โรงเรียนอัสสัมชัญกรุงเทพ และโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ เพื่อส่งนักเรียนที่มีคุณภาพเข้าสู่ชั้นประถมอย่างมีศักยภาพ นอกจากนี้ยังมีคอร์สพิเศษ หรือ Denla Academy มากถึง 36 คอร์ส ให้เด็ก ๆ ได้ทดลอง ได้เรียนรู้ เพื่อค้นหาความถนัดของตัวเองอีกด้วย เรียกได้ว่าตอบโจทย์การเรียนรู้สำหรับเด็กทุกยุค ทุกสมัยเพื่อให้พวกเขาได้ค้นพบศักยภาพในตัวเอง มีทักษะด้านภาษาที่หลากหลาย และเตรียมพร้อมที่สุดสำหรับเข้าเรียนโรงเรียนประถมชั้นนำ

      “อนุบาลเด่นหล้า บ้านหลังที่สองขอนักเรียน”

      อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม เน้นการเรียนรู้ในรูปแบบ Play-Based Learning ในทุกระดับชั้นและทุกหลักสูตร เพราะเชื่อว่า ทุก ๆ การเล่นของเด็กคือการเรียนรู้และทำความเข้าใจกับโลกในแบบของเขา หน้าที่ของคุณครูที่ออกแบบวิธีการเล่นให้กับเด็ก ๆ ได้ทั้งความสนุก ความสุข และความรู้ไปพร้อมกัน และอีกหนึ่งสิ่งที่อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม ให้ความสำคัญ คือ ‘ส่งเสริมศักยภาพที่ดีให้บุคลากร สร้างคุณครูในฝันให้จับต้องได้’ ซึ่งคุณครูของที่นี่นอกจากจะมีความเชี่ยวชาญในด้านเด็กเล็กโดยตรงแล้ว ยังเป็นคุณครูยุคใหม่ที่มีทักษะต่างๆ ที่จำเป็นต่อการอบรมสั่งสอนเด็กใน Generation นี้

      • ทักษะด้านวิชาการ
      • ทักษะด้านการพัฒนาสื่อการสอน
      • ทักษะในการยืดหยุ่นและผ่อนปรน
      • ทักษะในการแก้ไขปัญหาที่หลากหลาย
      • ทักษะความฉลาดทางอารมณ์

      สภาพแวดล้อมดีเยี่ยม

      อนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม ให้ความสำคัญกับ ‘บรรยากาศการเรียนรู้ในแบบที่สบายใจ’ เพราะโรงเรียนเชื่อว่าพื้นฐานการเรียนรู้ที่ดีของเด็ก ๆ ต้องอาศัยการสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการจุดประกายการเรียนรู้ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน น่าสนใจ ท้าทาย น่าค้นหา แต่อบอุ่นและปลอดภัย สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุผลสำคัญที่จะช่วยดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ ในการเปิดมุมมองการเรียนรู้ของเขา มีการออกแบบตกแต่งห้องเรียน ห้องกิจกรรม และพื้นที่ต่างๆ ภายในโรงเรียนด้วยโทนสีสดใส สบายตา เพื่อช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ กระตุ้นความสนใจของเด็ก ๆ มีอุปกรณ์การเรียนรู้ และเทคโนโลยีที่เข้ากับยุคสมัย เพื่อให้สอดรับกับการเรียนรู้ของโลกในปัจจุบัน และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเด็กๆ และมีการเพิ่มเติมพื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์ พื้นที่สำคัญที่จะตอบสนองทุกการเรียนรู้ของเด็ก ทั้งสระว่ายน้ำ โรงยิม ห้องสมุด ห้องศิลปะ ห้องดนตรี ห้องบัลเล่ต์ อีกด้วยค่ะ

      Mommy Love This ! ถูกใจแม่

      1. เด็กนักเรียนทุกคนจะได้รับการส่งเสริมและผลักดันอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีพร้อมด้วยทักษะรอบด้าน ทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ซึ่งจำเป็นอย่างมาต่อการเติบโตในอนาคต
      2. เด็ก ๆ ที่เรียนที่นี่ไม่ต้องห่วงเรื่องการเรียนต่อเพื่อเข้าเรียนชั้นป.1 เลยค่ะ เพราะโรงเรียนเตรียมพร้อมให้กับเด็ก ๆเต็มที่และยังมี MOU ที่ร่วมมือกับโรงเรียนชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนเครือสาธิต อย่างสาธิตจุฬา สาธิตเกษตร หรือโรงเรียนชั้นนำอย่าง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ คุณพ่อคุณแม่หมดห่วงได้เลย
      3. Facilities ครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ โรงยิม ห้องสมุด และยังมีคอร์สพิเศษ หรือ Denla Academy มากถึง 36 คอร์ส ไม่ต้องเรียนพิเศษเพิ่มเติมที่ไหนเลยค่ะ

      รายละเอียดค่าเทอมและการสมัครเรียนของแต่ละหลักสูตรหลักสูตร

      • Kids Club ครั้งละ 1,000 บาท
      • หลักสูตรบูรณาการ ( DIP ) ค่าเทอม 80,000 บาทต่อเทอม : จำนวนนักเรียน 22-25 คนต่อห้อง
      • หลักสูตรภาษาอังกฤษ ( DEP ) ค่าเทอม 116,000 บาทต่อเทอม : จำนวนนักเรียน 11-19 คนต่อห้อง
      • หลักสูตรนานาชาติ ( DLTS ) ค่าเทอม 210,000 บาทต่อเทอม : จำนวนนักเรียน 16 คนต่อห้อง

      ช่องทางการติดต่อ

      ลงทะเบียนเยี่ยมชมโรงเรียนได้ที่ :: https://forms.gle/BdV2ajkzH29U3Xc68

      Line : @denla1979 หรือลิงค์ https://lin.ee/lZ8nfMY

      Facebook : https://www.facebook.com/denlaschool

      Website : www.denlaschool.ac.th

      เบอร์โทร. 02-809-1793

        สบู่เหลวเด็ก น่ารัก

        เผยเคล็ดลับผิวสวยนุ่มของลูกน้อย ด้วย สบู่เหลวเด็ก น่ารักออร์แกนิก

        คุณแม่หลายท่านคงทราบกันดีว่า ผิวของเด็กนั้นบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง Amarin Baby & Kids มีเคล็ดลับดีๆ มาฝากคุณแม่ทุกท่าน นั่นก็คือการเลือกใช้ สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิก ที่จะช่วยให้ผิวของลูกน้อยเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และสุขภาพดีค่ะ 

        เคล็ดลับในการเลือกสบู่เหลวสำหรับเด็ก

        การเลือกสบู่เหลวที่เหมาะสมสำหรับลูกน้อยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะผิวของเด็กมีความบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้ลูกน้อยของคุณแม่มีผิวที่สุขภาพดีและไม่ระคาย มีเคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกสบู่เหลวเด็กมาฝากดังนี้ค่ะ

        1. เลือกสูตรที่ pH เป็นกลาง

        ค่า pH เป็นตัวบ่งชี้ความเป็นกรด-ด่างของผลิตภัณฑ์ การเลือกสบู่เหลวที่มีค่า pH เป็นกลาง จะช่วยรักษาสมดุลของผิวตามธรรมชาติของลูกน้อย ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหรือเสียสมดุล

        2. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง

        ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังจะได้รับการรับรองว่าปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองต่อผิวของลูกน้อย คุณจึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นอ่อนโยนและเหมาะสำหรับผิวบอบบางของลูกน้อย

        3. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย

        ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์มีความอ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ปราศจากสารเคมีอันตราย อาทิเช่น พาราเบน ซิลิโคน และ SLS เป็นต้น  

        4. อ่านฉลากอย่างละเอียด

        ก่อนตัดสินใจซื้อควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบส่วนผสมและวันหมดอายุ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อผิวของลูกน้อย และตรวจสอบวันหมดอายุเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ยังคงมีคุณภาพและปลอดภัยในการใช้

        ทำไมผิวเด็กต้องดูแลด้วย สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิก

        ผิวของเด็กมีความบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ใส่ใจสุขภาพผิวของลูกน้อย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและส่วนผสมจากธรรมชาติที่อ่อนโยน ทำให้สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิกเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัวค่ะ

        คุณสมบัติที่โดดเด่นของ สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิก

        • อ่อนโยนเป็นพิเศษ: สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิกได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผิวที่บอบบางของเด็กและทุกคนในครอบครัว ด้วยสูตรที่อ่อนโยนเป็นพิเศษ ทำให้ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
        • ส่วนผสมจากธรรมชาติ: สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิกมีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติจากพืช อาร์แกนออยล์ ออร์แกนิก 100% (Certified Organic by ECOCERT) ซึ่งช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น
        • กลิ่นหอมสดชื่น: สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิกมีกลิ่นหอมสดชื่นจากสตรอเบอร์รี่ ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายขณะอาบน้ำ
        • ลดการอุดตันของรูขุมขน: สูตรผสมสตรอเบอร์รี่ในสบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิกช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ทำให้ผิวของลูกน้อยสะอาดและมีสุขภาพดี
        • ผ่านการทดสอบการแพ้: สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิกผ่านการทดสอบการแพ้โดยแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะ จากสถาบันทดสอบประเทศญี่ปุ่น ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อผิวของลูกน้อย
        • ปราศจากสารเคมีอันตราย: สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิกปราศจากสารเคมีอันตราย 12 ชนิด ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวและเส้นผม อาทิ SLS, พาราเบน, Soap และซิลิโคน
        • สูตร pH เป็นกลาง: เหมาะกับผิวที่บอบบางของเด็ก ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหรือระคายเคือง
        • อุดมด้วยวิตามิน อี และ บี5: ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
        • ส่งเสริมการดูดซึมวิตามิน: ช่วยให้วิตามินอื่นๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผิวของลูกน้อยแข็งแรงและมีสุขภาพดี
        • ลดการสะสมของเชื้อโรค: ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย ทำให้ผิวของลูกน้อยสะอาดและปลอดภัย

        สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิก คว้ารางวัล BEST BABY WASH จาก Amarin Baby & Kids Awards 2024

        สบู่เหลวเด็กน่ารัก ใช้ดีจนได้รับการการันตีรางวัล Editor’s Choice สาขา BEST BABY WASH จากการประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2024 ซึ่งจัดขึ้นเพื่อยกย่องผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับเด็กยอดเยี่ยมแห่งปี

        รางวัลนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพและความโดดเด่นของสบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิกในการดูแลและทำความสะอาดผิวของลูกน้อยอย่างอ่อนโยน ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นพิเศษ ทำให้สบู่อ่อนโยนต่อผิวบอบบางของเด็ก ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น

        การอาบน้ำเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของลูกน้อย แต่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิวของลูกก็เป็นสิ่งสำคัญ “สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิก” เป็นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปลอดภัยสำหรับผิวของลูกน้อย ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันและคุณสมบัติที่โดดเด่น ทำให้สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิกเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการดูแลผิวของลูกน้อยให้มีสุขภาพดีค่ะ

        สำหรับพ่อแม่ที่กำลังมองหาสบู่เหลวสำหรับลูกน้อย สบู่เหลวเด็กน่ารักออร์แกนิก เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่น่าสนใจ ด้วยคุณภาพที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค สบู่เหลวเด็ก Narak Organic Baby Bath มีทั้งหมด 4 สูตร ขนาด 300 มล. สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่นะคะ

        สบู่เหลวเด็ก น่ารัก ผสมสตรอเบอร์รี่ คลิก https://narak-tiara.com/product/สบู่เหลวอาบ-น่ารัก-ออร์-2/ 

        สบู่เหลวเด็ก น่ารัก ผสมลาเวนเดอร์ คลิก https://narak-tiara.com/product/สบู่เหลวอาบ-narak-ออร์แกนิก-ล/ 

        สบู่เหลวเด็ก น่ารัก ผสมน้ำมันผิวส้ม คลิก https://narak-tiara.com/product/สบู่เหลวอาบ-narak-ออร์แกนิก-เ/ 

        สบู่เหลวเด็ก น่ารัก ผสมน้ำผึ้ง คลิก https://narak-tiara.com/product/สบู่เหลวอาบ-น่ารัก-ออร์แ/ 

          Tags

          แชมพูเด็ก น่ารัก มายด์ ตัวช่วยผมสวย อ่อนโยนสำหรับลูกวัยเยาว์

          ในขณะที่ลูกน้อยเติบโตขึ้น ความต้องการในการดูแลเส้นผมของพวกเขาก็เปลี่ยนไปด้วย แชมพูเด็กสูตรที่เคยใช้ตอนเป็นเด็กทารกอาจไม่เหมาะอีกต่อไป เมื่อลูกน้อยเริ่มเข้าสู่วัยเยาว์ เริ่มมีกิจกรรมมากขึ้นและเส้นผมของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนแปลง คุณแม่อาจต้องพิจารณาเปลี่ยนแชมพูสระผมให้ลูก Amarin Baby & Kids  ขอแนะนำ แชมพูเด็ก น่ารัก มายด์ สูตรอ่อนใส ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับเส้นผมที่บอบบางของเด็กวัยเยาว์

          เมื่อลูกเริ่มโต กิจกรรมเยอะ หนังศีรษะและเส้นผมต้องการการดูแลมากขึ้น

          เมื่อลูกน้อยเติบโตขึ้นและเริ่มมีกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น การดูแลสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผมก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้หนังศีรษะและเส้นผมของลูกต้องเผชิญกับสิ่งสกปรก เหงื่อไคล และมลภาวะต่างๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเส้นผม

          ความสำคัญของการดูแลหนังศีรษะและเส้นผม

          1. ป้องกันปัญหาหนังศีรษะ: การดูแลหนังศีรษะที่ไม่ดีอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น รังแค หนังศีรษะแห้ง หรือหนังศีรษะมัน ซึ่งอาจทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายและส่งผลต่อความมั่นใจ
          2. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม: การดูแลเส้นผมอย่างเหมาะสมจะช่วยให้เส้นผมของลูกแข็งแรง เงางาม และมีสุขภาพดี ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมในระยะยาว
          3. สร้างความมั่นใจ: การมีเส้นผมที่สุขภาพดีจะช่วยให้ลูกรู้สึกมั่นใจในตัวเองและกล้าที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

          วิธีการดูแลหนังศีรษะและเส้นผมสำหรับเด็กที่เริ่มมีกิจกรรมมากขึ้น

          • ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ: สระผมให้ลูกอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือเมื่อลูกมีเหงื่อออกมากหลังทำกิจกรรม เลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพเส้นผมของลูก
          • บำรุงเส้นผม: ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและชุ่มชื้น 
          • ปกป้องเส้นผมจากความร้อนและแสงแดด: หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผมของลูกโดยไม่จำเป็น และสวมหมวกหรือกางร่มเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง
          • ดูแลเรื่องอาหาร: ให้ลูกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเส้นผม เช่น โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ

          การดูแลหนังศีรษะและเส้นผมของลูกน้อยเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรใส่ใจ เพื่อให้ลูกมีสุขภาพเส้นผมที่ดีและมีความมั่นใจในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันนะคะ

          แชมพูเด็ก น่ารัก มายด์ ตัวเลือกที่อ่อนโยนสำหรับลูกน้อยวัยเยาว์

          การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมสำหรับลูกน้อยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กวัยเยาว์ที่ต้องการความอ่อนโยนเป็นพิเศษ แชมพูเด็กน่ารัก มายด์ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปลอดภัยสำหรับลูกน้อย

          แชมพูเด็ก น่ารัก สำหรับลูกน้อยวัยเยาว์

          ทำไมต้อง แชมพูเด็ก น่ารัก มายด์

          1. สูตรอ่อนใส แชมพูเด็กNARAK มายด์ มีสูตรอ่อนใสที่ช่วยทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะของลูกน้อยได้อย่างอ่อนละมุน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวบอบบาง
          2. อุดมไปด้วยวิตามินอี ส่วนผสมของวิตามินอีจากน้ำมันดอกทานตะวันช่วยบำรุงเส้นผมของลูกน้อยให้แข็งแรง นุ่มสลวย และมีสุขภาพดี
          3. pH Neutral ค่า pH ที่เป็นกลางของแชมพูเด็ก NARAK มายด์ มีความอ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผมของลูกน้อย ไม่ทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง
          4. ปราศจากสารเคมีอันตราย แชมพูเด็กNARAK มายด์ ปราศจากสารเคมีอันตรายที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อย ทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการใช้งาน

          แชมพูเด็ก น่ารัก มายด์ สระผมให้ลูกน้อยอย่างมีความสุข ปลอดภัย และอ่อนโยน

          การเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับลูกน้อยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับผิวและเส้นผมของลูกน้อยโดยตรง แชมพูเด็กNARAK มายด์ เข้าใจถึงความกังวลของคุณพ่อคุณแม่ จึงได้คิดค้นแชมพูสูตรพิเศษที่อ่อนโยน ปลอดภัย และช่วยให้ลูกน้อยมีความสุขกับการสระผม

          คุณสมบัติที่โดดเด่น

          • SLS Free: ปราศจากสาร SLS (Sodium Lauryl Sulfate) ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวและหนังศีรษะบอบบางของลูกน้อย ทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าแชมพูจะไม่ทำให้ผิวของลูกน้อยแห้งตึงหรือเกิดอาการแพ้
          • Paraben Free: ปราศจากสารกันเสียกลุ่มพาราเบน ซึ่งเป็นสารเคมีที่อาจส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนของลูกน้อยในระยะยาว
          • Silicone Free: ปราศจากซิลิโคน ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันบนหนังศีรษะ ทำให้ผมของลูกน้อยไม่นุ่มลื่นอย่างเป็นธรรมชาติ
          • อ่อนโยนต่อผิวและเส้นผม: สูตรอ่อนโยนพิเศษ ไม่ทำให้แสบตา และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวและหนังศีรษะ
          • กลิ่นหอมสดชื่น: กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่จะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกผ่อนคลายและสนุกกับการสระผม
          • ผมนุ่มลื่น สุขภาพดี: ช่วยให้ผมของลูกน้อยนุ่มลื่น จัดทรงง่าย ไม่พันกัน

          วิธีการใช้ แชมพูเด็ก น่ารัก มายด์ 

          1. ชโลมแชมพูเด็ก น่ารัก มายด์ ในปริมาณที่พอเหมาะลงบนผมที่เปียกของลูกน้อย
          2. สระผม นวดเบาๆ ให้ทั่วศีรษะและเส้นผม
          3. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

          แชมพูเด็ก น่ารัก มายด์ สูตรอ่อนใส ผมนุ่มสลวย กลิ่นหอมติดผม

          ผลิตภัณฑ์แชมพูเด็กที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผมของลูกน้อย ด้วยสูตรอ่อนใสที่ช่วยทำความสะอาดอย่างละมุน พร้อมกลิ่นหอมที่ติดผมยาวนาน ให้ลูกน้อยรู้สึกสดชื่นและสบายตัวตลอดวัน และต้องขอแสดงความยินดีกับ แชมพูเด็กน่ารัก มายด์ สูตรอ่อนใส ได้รับการการันตีคุณภาพด้วยรางวัล Editor’s Choice สาขา BEST BABY SHAMPOO จากงานประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2024 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและความอ่อนโยนของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจากทีมงานกองบรรณาธิการ และคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญจากเว็บไซต์ Amarin Baby & Kids ค่ะ

          แชมพูเด็กน่ารัก มายด์ ไม่เพียงแต่ช่วยทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะของลูกน้อยอย่างอ่อนโยน แต่ยังช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง สุขภาพดี และเงางาม ที่สำคัญยังช่วยให้ลูกน้อยมีความสุขกับการสระผม ด้วยกลิ่นหอมสดชื่นและฟองนุ่มละมุน ที่จะช่วยให้การสระผมเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของลูกน้อยค่ะ ดังนั้นการเลือกแชมพูสระผมที่เหมาะสมสำหรับลูกน้อยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แชมพูเด็กน่ารัก มายด์ เป็นตัวเลือกที่อ่อนโยนและปลอดภัยสำหรับลูกน้อยวัยเยาว์ ด้วยสูตรที่อ่อนใสและปราศจากสารเคมีอันตราย คุณจึงมั่นใจได้ว่าหนังศีรษะและเส้นผมของลูกน้อยจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดค่ะ

          แชมพูเด็ก NARAK มายด์ มีวางจำหน่ายสามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลิก https://narak-tiara.com/product/แชมพูเด็กน่ารัก-มายด์/ 

            Tags

            ลดหย่อนภาษี

            ลูกได้ของดี พ่อแม่ได้ลดหย่อนภาษี กับ NexGen Commerce

            📣ชวนช้อปของใช้ลูก >> ลูกได้ของดี พ่อแม่ได้ลดหย่อน!

            🤱คุณพ่อ คุณแม่ คุณอา คุณน้า คุณลุง ท่านไหนกำลังมองหาสินค้าสำหรับเด็ก เพื่อนำไปบำรุงทั้งตัวคุณแม่เอง หรือคุณลูก หรือคุณหลาน ของท่าน อย่าพลาด ! โพสต์นี้จะมาบอกพิกัดสินค้าร้านไหน แบรนด์ไหนบ้าง ที่จะทำให้คุณลูกได้ของดี มีคุณภาพ แถมยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีในช่วงโครงการ Easy e-Receipt 2.0 ได้อีกด้วย

            >> ช้อปได้ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2568

            ลดหย่อนภาษี

            📱ช้อปสะดวก รับใบเสร็จสบาย ใช้ลดหย่อนภาษีได้ ที่ Nex Gen !
            ดาวน์โหลดได้แล้ว ทั้ง iOS และ Android
            https://nexgencommerce.one.th/link/qrcode-app

            #nexgencommerce #แพลตฟอร์มไทยส่งเสริมธุรกิจไทย #nexgen

              “มุ่งพัฒนา” จัดงาน “Based on Mom’s Stories” สร้างพื้นที่ปลอดภัยเพื่อแบ่งปันเรื่องราวของแม่แห่งยุคสมัยพร้อมเปิดตัวหนังสือ  “The Book for All Moms” ส่งต่อความรู้ เพื่อแม่ทุกคน

                        ในยุคที่คำว่า “แม่” กว้างและหลากหลายกว่าที่เคย บริษัท มุ่งพัฒนา  อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ มุ่งพัฒนา ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก จัดงาน “Based on Mom’s Stories” สร้างพื้นที่ปลอดภัยเพื่อแบ่งปันเรื่องราว จากชีวิตจริงของแม่แห่งยุคสมัย ที่จะช่วยให้แม่ทุกคนเข้าใจว่าความยาก หรือ ความท้าทายในการเป็นแม่นั้นเป็นเรื่องปกติ
              สร้างคุณค่า และความประทับใจในคำว่าแม่ พร้อมเปิดตัวหนังสือ “The Book for All Moms” หนังสือที่เป็นคลังความรู้ และส่งเสริม ความเท่าเทียมสำหรับแม่ทุกคนในยุค Diversity & Inclusion ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองที่ประเทศไทยได้ประกาศ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมเป็นประเทศแรกในอาเซียน

                      นายเมธิน  เลอสุมิตรกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบัน นิยามความเป็นแม่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแม่โดยบทบาท แม่โดยสถานะ แม่โดยกฎหมาย หรือ แม่โดยหัวใจ ซึ่งทุกคนล้วนมีความเป็นแม่เหมือนกัน และมีจุดร่วมเดียวกันคือพร้อมที่จะดูแลและส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับลูก อีกทั้งการที่ประเทศไทยเพิ่งประกาศ พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม ชี้ให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ ให้ความสำคัญกับ Diversity & Inclusion มากขึ้น ดังนั้นมุ่งพัฒนาจึงอยากสร้างโอกาสในการเข้าถึงความรู้ของแม่ทุกคน จึงได้จัดงาน “Based on Mom’s Stories” เพื่อเล่าเรื่องราว บทเรียนและความรู้จากแม่สู่แม่ในยุคที่ขอบเขตความเป็นแม่นั้นกว้างและหลากหลาย ผ่านแม่ 4 คนที่มีเรื่องราว และมีชีวิต แตกต่างกัน เป็นความรู้จากแม่ส่งถึงแม่ รวมถึงได้มีการสร้าง “คลังความรู้” ผ่านหนังสือ “The Book for All Moms” เพื่อเพิ่มโอกาส การเข้าถึงความรู้ให้กับแม่ทุกแบบ สะท้อนความมุ่งมั่นในแนวคิดว่าเราไม่ได้เป็นแค่บริษัท Health&Wellness แต่เรายึดมั่นในแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยหัวใจแบบ HEART-MADE WELL-BEING COMPANY หรือการทำทุกอย่างที่ไม่ใช่เพียงเพื่อผลกำไร แต่เรามุ่งจะเป็นผู้นำที่ขับเคลื่อนคุณภาพที่ดีของทุกครอบครัว

              หลากหลายเรื่องราวจากแม่สู่แม่   

                        งาน “Base on Mom’s Stories” นำเสนอเรื่องราวจาก 4 ตัวแทนคุณแม่ที่สะท้อนความหลากหลายของบทบาทและความรู้สึก ตั้งแต่คุณแม่มือใหม่จนถึงแม่ที่ทลายทุกขอบเขตของทุกบทบาท

              1.แม่แพรว เพชรแพรว พรพิพัทวัฒนกุล  แม่เลี้ยงเดี่ยวกับบทบาทเสาหลักของครอบครัว ผ่านการพูดคุย ในหัวข้อ Dear mom, ผู้เป็นนักสู้ของลูก
              “แม่ที่ไม่มีความสุขไม่สามารถส่งต่อให้ลูกมีความสุขได้ ดังนั้นต้องสื่อสารให้ลูกเข้าใจว่า การหย่าร้าง ไม่ใช่การแยกย้าย แต่เป็นการเว้นระยะห่างและสร้างพื้นที่ส่วนกลางเพื่อลูก เพราะฉะนั้นการหักดิบจึงไม่ใช่ทางออก แต่ต้องทำ ‘การทดลอง’ ว่าทำอย่างไรจึงจะบอบช้ำน้อยที่สุด”

              2. แม่ฟ้า อาภาณี มิตรทอง แม่พิการที่ตัดสินใจมีลูกแม้ต้องเลี้ยงบนรถเข็น ในหัวข้อ Dear mom, ผู้เอาชนะทุกข้อจำกัด

              “คนชอบพูดว่ามีลูกเมื่อพร้อม แต่ต้องพร้อมแค่ไหนถึงจะสามารถมีลูกได้ มีผู้พิการอีกหลายๆ คนที่อยากมีลูก แต่ไม่กล้าเพราะประโยคนี้ เมื่อโลกคนพิการในภาพฝัน ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด สังคมรอบข้างไม่ได้รู้จักเรา 100% ถึงจะยังมีพลังงานลบ แต่การจัดการความรู้สึกเราดีขึ้น เราเลยมีทางออกที่ดี และพยายามเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ข้อบกพร่องต่าง ๆ ไม่ได้เป็นข้อจำกัด ต่อสถานะแม่”

              3. แม่แบล็ค โสมนัส และ แม่จอย รจนีย์ หนุ่มสวย สาวหล่อ ที่ตั้งใจส่งต่อความรักให้ลูกน้อยอย่างไร้กำแพงทางเพศ ผ่านหัวข้อDear mom, ผู้ข้ามผ่านมาตรฐานแบบเก่า

              “เพศ บทบาท และวิถี เป็นองค์ประกอบที่แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิงในความเป็นพ่อและแม่ เราไม่ได้ใช้เพศในการเลี้ยงลูก เราต้องใช้หัวใจในการเลี้ยงลูกแล้วลูกจะมีภูมิต้านทานในการใช้ชีวิต มองคนทุกคนเท่ากัน โดยไม่มีปัญหาเรื่องเพศมาวุ่นวาย”

              4.แม่แพท วงเคลียร์ รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย ศิลปินสาวกับครั้งแรกของประสบการณ์การเป็นแม่ ผ่านการพูดคุยในหัวข้อ
              Dear mom, ผู้กำลังเผชิญกับการเรียนรู้

              “การเลี้ยงลูกไม่ได้มีแค่มาตรฐานเดียว ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เหมาะสมกับตัวแม่และแต่ละครอบครัว รวมถึงแม่ไม่จำเป็นต้อง สวมหมวกแค่ใบเดียว ยังมีหมวกของการเป็นภรรยา การเป็นเพื่อน คนที่มีความฝัน หรือคนทำงาน”

              ดำเนินรายการโดยพิธีกรที่เข้าใจหัวอกความเป็นแม่ อย่าง แม่ปุ้ย ภัทร จินตนะกุล บรรณาธิการข่าวต่างประเทศ TNN

              “ในทุกๆ ประสบการณ์ชีวิต เราสามารถแบ่งปันให้คุณแม่ท่านอื่นได้ด้วยเพราะทุกๆเรื่องคือการเรียนรู้
              และการเป็นแม่ไม่มีสูตรตายตัว ไม่มีใครเลี้ยงลูกตามทฤษฎีได้ 100% จึงอยากชวนคุณแม่ทุกๆท่านมาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ความเป็นแม่”

              HEART-MADE” ที่ไม่ใช่การทำแค่เพื่อผลกำไร  

              หัวใจของงานนี้คือการแบ่งปันความรู้และความรักจากแม่สู่แม่ พร้อมเปิดตัว “The Book for All Moms” หนังสือที่รวบรวมองค์ความรู้จากประสบการณ์กว่า 40 ปีของมุ่งพัฒนาถ่ายทอดผ่านบทเรียน ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับแม่ และลูกตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงวัย 3 ปี พร้อมช่องทางการการเข้าถึงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะในรูปแบบของ หนังสือเล่ม หนังสือเสียง อักษรเบรลล์ และ E-Book เพื่อให้แม่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ นำไปสู่คุณภาพที่ดีของทุกครอบครัว

              สำหรับผู้ที่สนใจหนังสือ “The Book for All Moms” สามารถอ่านออนไลน์ได้ที่
              เวอร์ชั่น หนังสืออนไลน์ https://online.fliphtml5.com/lzpeo/tgbr/
              เวอร์ชั่นหนังสือเสียง https://bit.ly/thebookforallmomsvoice

              สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของ มุ่งพัฒนาฯ สามารถติดตามข่าวสาร ได้ที่ https://www.moongpattana.com/th

              #มุ่งพัฒนา #moongpattana #TheBookForAllMoms #BaseOnMomsStories

                Tags

                โรงเรียนปลาดาว

                โรงเรียนปลาดาว Top 3 ด้านนวัตกรรมโลก มุ่งสร้างนวัตกรน้อย เพราะการเรียนรู้ ต้องเริ่มจากความสนุก

                เมื่อผมนั่งดูกำหนดการที่ได้วางแผนเอาไว้ โรงเรียนปลาดาว จะเป็นโรงเรียนถัดไปที่ผมได้รับโอกาสให้เข้าไปเยี่ยมชมและทำคอลัมน์ School Visit  ชื่อ “ปลาดาว” ผมนึกคลับคล้ายคลับคลา เมื่อย้อนกลับไปในความทรงจำสมัยวัยรุ่น
                (และยังไม่มีลูก ฮ่า) โรงเรียนปลาดาวปรากฏตามหน้านิตยสารที่เคยหยิบจับมาอ่าน เค้าลางคือ เป็นโรงเรียนใน จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอแม่แตง ที่อยู่ห่างออกไปไกลจากตัวเมือง และเป็นโรงเรียนที่เปิดโอกาสสำหรับเด็กใน พื้นที่ห่างไกล ให้ได้เข้ารับการศึกษาในแบบเรียนฟรี ! และไม่มีค่าใช้จ่าย

                หนังสือ  The Star Thrower ของ Loren Eiseley  

                ความสงสัยในคำว่าปลาดาวของผมนั้นเอง นำพาไปพบซึ่งคำตอบกับ หนังสือ ” The Star Thrower ” ของ Loren Eiseley เป็นเรื่องราวของชายผู้หนึ่งที่ เดินไปตามฝั่งของชายหาด แล้วบังเอิญเจอเข้ากับเด็กชายที่กำลังช่วยชีวิตปลาดาว ที่มาเกยฝั่ง โดยการพาปลาดาวกลับลงสู่ทะเลทีละตัว ๆ  ชายผู้นั้นรู้สึกว่าช่างเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ แต่เด็กชายตอบกลับมาเพียงว่า“อย่างน้อยก็ช่วยตัวนี้ได้” หนังสือเล่มนี้เองเป็นเสมือนที่มาและแรงบันดาลใจให้ เกิดการมูลนิธิโรงเรียนสตาร์ฟิชคันทรีโฮม โดย ดร.ริชาร์ด พี ฮ็อกแลนด์ (Dr. Richard P. Haugland)  นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ที่ปลุกปั้นมูลนิธิขึ้นในปี พ.ศ. 2548 และเปิดเป็นโรงเรียนอนุบาลในปีถัดมา จัดเป็นประเภทเอกชนศึกษาสงเคราะห์ โดยเกณฑ์ของโรงเรียนคือ เด็ก ๆ ในกลุ่มชาติพันธุ์ , รายได้น้อย, ขาดโอกาสทางการศึกษา, ขาดพ่อหรือแม่ในการดูแล ในอัตราส่วน 80% ต่อ เด็ก ๆ ในพื้นที่ใกล้โรงเรียน 20%

                คุณโยโกะ เตรูย่า รองประธานมูลนิธิสตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่น

                           “เด็กทุกคนทำได้ดีถ้าเขาได้รับโอกาส และหัวใจสำหรับของโรงเรียนคือครูที่มีหัวใจของการเป็นครู ” คุณโยโกะ เตรูย่า รองประธานมูลนิธิสตาร์ฟิชเอ็ดดูเคชั่นเล่าให้เราฟังถึงแกนหลักของโรงเรียน เพราะนอกจากเป็นองค์กรที่ ไม่แสวงหาผลกำไร พยายามลดช่องว่างทางการศึกษาแล้ว ช่วยเหลือเด็ก ๆ ในกลุ่มเปราะบางแล้ว โรงเรียนปลาดาวยังคงเป็นโรงเรียนต้นแบบที่โดดเด่น ด้านนวัตกรรมการศึกษา ได้รับคัดเลือกให้ติด 1 ใน 3 โรงเรียนที่ดีที่สุดในโลก ประเภทนวัตกรรม World’s Best School Prize for Innovation และมีการเรียนการสอนผ่านรูปแบบโครงงาน (Project-Based Learning – PBL) โดยรับเด็ก ๆ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีเด็ก ๆ ที่กำลังศึกษาทั้งหมดประมาณ 200 คนเลยทีเดียว

                นวัตกรรมทางการศึกษาติดอันดับ  1 ใน 3 World’s Best School Prize for Innovation ในปี 2024

                ช่วงเวลาที่ผมได้เข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศภายในอาคารเรียนที่แบ่งเป็นห้อง Maker Space ต่าง ๆ มีกลุ่มศึกษาดูงานเดินอย่างขวักไขว่หลากหลาย คุณโยโกะเล่าว่าต่อปี มีหน่วยงานขอเข้าชมมากถึง 2,000 แห่ง ซึ่งทางโรงเรียนพยายามผลักดัน ส่งต่อ ถ่ายทอดนวัตกรรมที่มีอย่างสามารถเข้าถึงได้ง่ายและทำได้จริง นวัตกรรมของโรงเรียนปลาดาวแบ่งหลัก ๆ ได้เป็น 2 สิ่งคือ

                1. นวัตกรรม 3R อ่าน, เขียน และคณิตศาสตร์

                ดร.ริชาร์ด เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรม 3R ด้วยเป็นแนวคิดที่เน้นพัฒนาทักษะพื้นฐานให้เด็ก ๆ อ่านออก เขียนได้ และคิดเลขเป็น โดยปรับปรุงวิธีการสอนให้เหมาะสมกับตัวนักเรียน ยกตัวอย่างเช่นพยัญชนะภาษาไทย ที่เริ่มต้นเรียนค่อนข้างยาก และใช้การจดจำค่อนข้างเยอะ สำหรับเด็ก ๆ ที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ โดยใช้ชุดพยัญชนะต้น 12 ตัว ที่เกี่ยวกับสัตว์เพราะจดจำง่าย สนุก สามารถเชื่อมโยงผ่านประสบการณ์ของเด็ก ๆ มาผสมกับสระ ทำให้เกิดคำที่ง่ายต่อการอ่านออกเสียง

                2.Maker Space พื้นที่สำหรับการสร้างสรรค์และนวัตกรตัวจิ๋ว

                Maker Space เป็นนวัตกรรมที่ ดร.แพร นรรธพร จันทร์เฉลี่ย เสริบุตร ประธานมูลนิธิฯ คิดค้นและต่อยอดมาจากแนวทาง Design Thinking เพื่อเปิดพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ ทดลอง และพัฒนาไอเดีย ตามความสนใจของตัวเองในหมวดต่าง ๆ นั่นคือ ห้องสตูดิโอ, ห้องศิลปะ, ห้องช่าง, ห้องอาหาร, ห้องผ้า, ห้องเกษตร และห้องทดลอง โดยใช้แนวคิด STEAM ปรับมาใช้ให้สอดคล้องกับ Project-Based Learning

                ในห้องอาหารเด็ก ๆ ทดลองทำบัวลอยจากกลีบดอกกุหลาบ
                ห้องปฎิบัติการเทคโนโลยี เด็ก ๆ กำลังโต้ตอบกับไดโนเสาร์ที่เป็นAI
                ห้องช่างที่นักประดิษฐตัวน้อยกำลังสร้างสรรค์รถจากกระดาษลัง

                “ตั้งคำถาม—จินตนาการ—วางแผน—สร้างสรรค์—สะท้อนผลลัพธ์และออกแบบใหม่”
                ทั้งหมดนี้คือกระบวนการตามขั้นต่าง ๆ ของทักษะ STEAM  เป็นแนวคิด การศึกษาที่เน้นบูรณาการ 5 วิชาหลักเข้าด้วยกัน เพื่อทักษะที่จำเป็นในการเรียนรู้ ภายใต้ศตวรรษที่ 21 และผนวกเข้ากับการทำ Maker Space หมวดที่เด็กแต่ละคนสนใจ
                โดย STEAM จะเน้นการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกัน พร้อมส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ในโลกจริง

                S-T-E-A-M คือหัวใจของการเรียนรู้ จาก 5 วิชาหลัก

                1.S = Science (วิทยาศาสตร์)
                ส่งเสริมความเข้าใจในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การสังเกต การทดลอง และการค้นคว้า

                เครื่องฟักไข่ภายในห้องทดลอง เด็กๆเคยฟักลูกเจี้ยบน้อยออกมาเป็นตัวกันแล้ว

                2.T = Technology (เทคโนโลยี)
                พัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยี ความเข้าใจในเครื่องมือดิจิทัลเพื่อใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน

                โครงการปั้นดินที่เด็ก ๆ นำดินจากพื้นที่แถวบ้านของแต่ละคน  มาสร้างสรรค์และศึกษาชนิดของดินที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่

                3.E = Engineering (วิศวกรรมศาสตร์)
                สอนการคิดเชิงออกแบบ Design Thinking และการแก้ปัญหาโดยใช้หลักการทางวิศวกรรม

                4.A = Arts (ศิลปะ)
                เพิ่มความคิดสร้างสรรค์และการแสดงออกผ่านศิลปะ เช่น ดนตรี ภาพวาด การแสดง หรือการออกแบบ

                5. M = Mathematics ( คณิตศาสตร์ )
                พัฒนาทักษะการคิดเชิงตรรกะ การแก้ปัญหาทางตัวเลข และการวิเคราะห์ข้อมูล

                กระดานวางแผนสำหรับเตรียมอุปกรณ์ ก่อนลงมือสร้างสรรค์และทดลอง

                โรงเรียนที่เป็นทั้งพื้นที่ปลอดภัย สนุกสนาน และเป็นมิตร สำหรับเด็ก ครู และผู้ปกครอง

                ตึกเรียนหลักตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในบรรยากาศช่วงพักกลางวัน

                คุณโยโกะเล่าให้เราฟังว่า “ พื้นที่ที่คนไม่ค่อยพูดถึงนั้นคือพื้นที่ทางจิตวิทยาหรือพื้นที่ที่ทุกคน
                อยู่ร่วมกัน สิ่งหนึ่งที่เด็กได้รับคือพื้นที่ปลอดภัย เราให้อิสระกับเด็ก ๆ ในการคิด การพูด การทำงาน และการออกแบบการเรียนรู้สำหรับตัวเอง เขาจะรู้สึกมั่นใจ ปลอดภัย เป็นอิสระ  และสองคือโรงเรียนมีหลักการคือใช้สิทธิเด็กคุ้มครองเด็ก เจ้าหน้าที่หรือครูทุกคนต้องเซ็นต์นโยบายคุ้มครองเด็ก ส่วนพื้นที่สำหรับใช้งาน โรงเรียนออกแบบให้ดูเป็นมิตร ปลอดภัย ให้อิสระกับเด็ก ๆ มากที่สุดค่ะ

                และนอกจากพื้นที่ทางใจ พื้นที่ในโรงเรียนสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว โรงเรียนยังสร้างชุมชนปลาดาวให้แข็งแรงมากขึ้นด้วย การเข้าถึงกันแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น https://www.starfishlabz.com/ หรือ Starfish Labz Channel ผ่านช่องทาง Youtube ที่จะมีคอร์สวิชาต่าง ๆ ข่าว บทความ ด้านนวัตกรรมและการศึกษาเพื่อเด็ก ผู้ปกครองและคุณครู และชุมชนออนไลน์ไว้ติดต่อสื่อสารกันได้ และไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถเข้าไปศึกษาได้ฟรีพร้อมรับใบเกียรติบัตรเมื่อทำเวิร์กช้อปจนจบคอร์ส
                นอกจากนี้ยังมี Starfish Learning Hub  ที่พร้อมรับเด็ก ๆ และผู้ปกครองที่สนใจมาเรียนรู้ไปด้วยกันโดยไม่จำเป็นต้องเป็นนักเรียนของโรงเรียนปลาดาว 

                Dad Thumbs up ! พ่อยกนิ้วให้

                1.บรรยากาศในโรงเรียนเป็นมิตรและสนุกสนาน
                2.ต่อยอดและสร้างแรงบันดาลใจ สำหรับการเลี้ยงลูกที่บ้านชวนกันมาเป็นMaker
                3.อาคาร สถานที่โอบรับและใกล้ชิดธรรมชาติ ร่มรื่น อบอุ่น
                4.เด็ก ๆ สามารถเลือกและออกแบบกำหนดการเรียนรู้และลงมือทำในสิ่งที่สนใจได้เอง
                5.มีพื้นที่ออนไลน์  Starfish Labz เพื่อให้แต่ละบุคคลได้พัฒนาตนเอง
                6. อาหารกลางวันสำหรับเด็ก ๆ น่ารับประทานมากครับ


                ที่อยู่ : 278 หมู่10 ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง เชียงใหม่ 50150
                โทร : 053-857-635, 053-857-457
                E-mail : [email protected]
                เว็บไซต์ : https://www.starfishedu.org/school
                https://www.facebook.com/StarfishSchool/
                https://www.starfishlabz.com/


                  รายการใหม่ห้ามพลาด! “หนูทดลอง Little Explorers” วันอาทิตย์ที่ 2 มี.ค.68 เวลา 9.00 – 9.30 น. ช่อง Amarin TV 34

                  เตรียมพบกับ! ความสนุกของนักทดลองรุ่นจิ๋ว รายการใหม่ห้ามพลาด! “หนูทดลอง Little Explorers”

                  เมื่อความสัมพันธ์ของจินตนาการและการลงมือทำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็ก การทดลองเล่น ทดลองเรียน ทดลองเป็น ทดลองไป เป็นประสบการณ์ใหม่ที่จะทำให้เด็กมีแรงบันดาลใจ มีพลัง และกล้าที่จะก้าวข้ามผ่านความกลัว พร้อมเตรียมตัวสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพในอนาคต

                  รายการนี้จะช่วยจุดประกายจินตนาการ และการเรียนรู้ใหม่ๆ สถานที่ใหม่ ผ่านมุมมองของเด็ก โดยมีครอบครัวเป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกัน และเติมเต็มความคิดสร้างสรรค์ให้กับน้องๆ ทุกคน! 💡✨📺 เตรียมตัวเฝ้าหน้าจอกันเลย!

                  วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2568 เวลา 9.00 – 9.30 น. ช่อง Amarin TV 34 📌

                  พบกับ 2 ช่วงสนุกที่ต้องติดตาม!

                  ⭐️ ช่วง เด็กฝึกงานมาดูน้องชาบู พิธีกรสุดน่ารัก 🤩 พาเพื่อนๆ ไปสัมผัสอาชีพในฝันแบบใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ช่างไม้ เจ้าของร้าน หรือศิลปิน!มาลองเล่น ลองเรียน แล้วมาดูกันว่าอาชีพไหนจะเป็น “อาชีพในฝัน” ของน้องๆ กัน!

                  ⭐️ ช่วง เด็กพาเที่ยวเปิดโลกไปกับน้องชาบู ที่จะพาไปเที่ยวสนุกนอกสถานที่แบบที่ทุกคนในครอบครัวต้องชอบ! 🌍พบกับมุมมองใหม่ๆ ของเด็กๆ พร้อมแนะนำที่เที่ยวสุดว้าว ✨ และกิจกรรมน่าสนใจ ที่ทั้งเด็กๆ และคุณพ่อคุณแม่ต้องอยากออกเดินทางไปด้วยกัน!

                  📺 อย่าลืมติดตามชม “หนูทดลอง Little Explorers”พบกันทุกวันอาทิตย์ เวลา 9.00-9.30ออนแอร์ครั้งแรก! วันที่ 2 มีนาคม 2568ทาง Amarin TV ช่อง 34 แล้วเจอกันนะคะ!

                  #หนูทดลองLittleExplorers #หนูทดลอง #LittleExplorers #AmarinTV #AmarinBabyAndKids

                    Nex Gen Commerce

                    ช้อปสะดวก รับใบเสร็จสบาย ใช้ลดหย่อนภาษีได้ที่ Nex Gen Commerce !

                    คุณพ่อคุณแม่สายช้อปเชิญทางนี้…บอกเลยต้องห้ามพลาด!!

                    แหล่งรวมสินค้า & วิสาหกิจชุมชน มาแล้วววววว
                    ใครที่กำลังตามหาสินค้าไปลดหย่อนภาษีในช่วงโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ปี (16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568)
                    รวมไว้ให้แล้วววว
                    .
                    * ❝สะดวกกว่า❞ รวมสินค้า และวิสาหกิจชุมชนไว้ในที่เดียว
                    * ❝สบายกว่า❞ ไม่ต้องติดตาม e-tax & e-Receipt เพราะได้รับทันที
                    * ❝คุ้มค่ากว่า❞ ด้วยโค้ดส่วนลดค่าส่งในช่วงโครงการกว่า , โค้ด
                    —>กดเลย : EASY2025

                    Nex Gen Commerce

                    ใน มีทั้ง
                    * ร้านค้าที่จด VAT ออก e-Tax Invoice ได้ ใช้ลดหย่อนได้สูงสุด , บาท
                    * ร้านค้า OTOP, วิสาหกิจชุมชน และวิสาหกิจเพื่อสังคม ออก e-Receipt ใช้ลดหย่อนได้สูงสุด , บาท

                    * พบกับสินค้า , วิสาหกิจชุมชน และวิสาหกิจเพื่อสังคม กว่า 300 รายการ ได้แล้ววันนี้ที่ https://nexgencommerce.one.th/link/qrcode-app

                    * สำหรับผู้สนใจเปิดร้านใน Nex Gen Commerce พร้อมขึ้นทะเบียน E-Tax Invoice (จด VAT) หรือ E-Recipt (ไม่จด VAT) สามารถลงทะเบียนได้ที่ : https://forms.gle/aCoazfLE6qaTY1Fq8

                    * ช้อปสะดวก รับใบเสร็จสบาย ใช้ลดหย่อนภาษีได้ที่ !

                    #NexGenCommerce #แพลตฟอร์มไทยส่งเสริมธุรกิจไทย #EasyeReceipt #eTaxInvoice #eReceipt #ลดหย่อนภาษี #ใบกำกับภาษี #OTOP #สินค้าOTOP #โอทอป #วิสาหกิจชุมชน #ช้อปลดหย่อนภาษี68

                      โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ

                      โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ โรงเรียนอนุบาลแห่งแรกของรัฐ และต้นแบบแห่งการเรียนรู้

                      ถ้าจะเอ่ยชื่อโรงเรียนในประเทศที่โดดเด่นเรื่องการเรียนสอนของเด็กปฐมวัย “ โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ” น่าจะเป็นโรงเรียนอันดับต้น ๆ ที่หลาย ๆ คนนึกถึง เพราะเป็นโรงเรียนที่มีประวัติและชื่อเสียงมาอย่างยาวนานกว่า 80 ปี วันนี้ School Visit จะพาทุกคนมาเจาะลึกถึงแนวทางการเรียนการสอนของที่นี่กันค่ะ ว่าอะไรที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไว้วางใจและเชื่อมั่นในโรงเรียนนี้กันมาตลอด  วันนี้เรามาหาคำตอบกันค่ะ

                      โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ตั้งอยู่ย่านเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นโรงเรียนที่มีประวัติและชื่อเสียงมายาวนาน  คุณพ่อคุณแม่ทราบกันไหมคะว่า โรงเรียนสาธิตละอออุทิศยังถือเป็นโรงเรียนอนุบาลแห่งแรกของรัฐอีกด้วย จัดตั้งโรงเรียนอนุบาลเต็มรูปแบบด้วยเงินบริจาคของ นางสาวละออ หลิมเซ่งไถ่ เมื่อปี พ.ศ. 2483  โดยยึดแนวปรัชญาวิถีดำเนินการเรียนการสอน ตามวิถีทางแห่งการพัฒนาเด็กปฐมวัยและมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมและส่งเสริมการพัฒนาการเด็กเป็นสำคัญ เป็นโรงเรียนแบบบูรณาการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียน เรียนรู้ตามศักยภาพอย่างมีความสุขและยังคงพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนให้เข้ากับสภาพสังคม เพื่อวางรากฐานให้กับเด็ก ๆ ได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ปัจจุบันสาธิตละอออุทิศเปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาลจนถึงประถมศึกษาและมีนักเรียนรวมกันมากกว่า 1,000 คน

                      อัตลักษณ์หนึ่งของ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

                      โรงเรียนสาธิตละอออุทิศเป็นเสมือนแหล่งทดลอง ค้นคว้า วิจัยและพัฒนาความรู้ทางด้านการศึกษาปฐมวัย โรงเรียนไม่เคยหยุดนิ่งและพัฒนาตลอดมาโดยตลอด  จนเป็นต้นแบบของการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัยและเป็นอัตลักษณ์หนึ่งของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่สำคัญโรงเรียนยังเป็นแหล่งฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูให้แก่นักศึกษาหลักสูตรศึกษาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยและยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มาสังเกต มีส่วนร่วมในการสอนและฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเต็มรูป ทั้งนักศึกษาหลักสูตรศึกษาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัยของ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และหน่วยงานอื่น ๆ หรือบุคลากรที่ทำงานกับเด็กปฐมวัย ทั้งจากมูลนิธิ โรงเรียนอนุบาลเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ รวมทั้งเป็นแหล่งให้ความร่วมมือสนับสนุนการวิจัยของ ต่าง ๆ ทั้งของรัฐบาลและเอกชนค่ะ

                      เรียนแบบไหน ใน ละอออุทิศ

                      • บ้านหนูน้อยและบ้านสาธิต ( Nursery )

                      บ้านหนูน้อย รับเด็กอายุตั้งแต่ 1.3 ปี  , บ้านสาธิต รับเด็กอายุ 2 ปี

                      วัยนี้เป็นวัยเตรียมความพร้อม โรงเรียนจะพัฒนาเด็กรอบด้านทั้ง ร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา โดยนำแนวคิดการพัฒนาเด็กเล็กจากประเทศอังกฤษ Early Years Foundation Stage Statutory Framework ( EYFS ) เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ ค้นพบและสำรวจสิ่งต่าง ๆ ในสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นและความคิดสร้างสรรค์ ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อเด็กเล็ก โดยมีครูที่มีความเชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ  ผ่านทฤษฎีบริบท ( Contextualism) บูรณาการศาสตร์ต่าง ๆ ร่วมกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการและยังเสริมทักษะทางด้านภาษาอังกฤษให้กับเด็ก ๆ ตั้งแต่เล็ก  รวมไปถึงฝึกให้เด็ก ๆ ได้รู้จักดูแลตนเองแบบง่ายๆ เช่น หัดใส่เสื้อผ้าเอง ดูแลของ ๆ ตนเอง  ติดกระดุม เลิกแพมเพิส เป็นต้น 

                      นอกจากนี้ เด็ก ๆ วัยเนอสเซอรี่หรือบ้านสาธิตจะได้เรียนในห้องเรียนมอนเตสเซอรี่อีกด้วย เพื่อฝึกความมีระเบียบ สามารถทำงานจนจบครบวงจร ตามขั้นตอนและกระบวนการ โดยใช้สื่ออุปกรณ์มอนเตสเซอรี่เป็นตัวช่วย เด็ก ๆ มีโอกาสเลือกเล่นของเล่นที่ตนเองสนใจ แม้ว่าจะหยิบของเล่นเดิมมาเล่นซ้ำ แต่กระบวนการจัดการและความคิดของเด็กจะเปลี่ยนไป และละเอียดมากขึ้น คุณครูจะมีเกณฑ์และเป้าหมายตั้งเอาไว้และทำสื่อการสอนต่างๆ ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาตามมาตรฐานที่ควรได้

                      • อนุบาล 1-3  

                              เพราะโรงเรียนคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลของเด็ก เด็กแต่ละคนมีความต้องการและความสนใจเฉพาะของตนเอง ซึ่งครูต้องพยายาม จัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความสนใจดังกล่าว กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กให้เหมาะสมวัยพัฒนาการของเด็ก สำหรับระดับปฐมวัย ได้นำแนวคิดกรอบโครงสร้างการพัฒนาเด็กเล็กของประเทศอังกฤษ Early Years Foundation Stage (EYFS) statutory framework  ร่วมกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ผ่านทฤษฎีบริบท ( Contextualism ) เช่นเดียวกับน้อง ๆ เนอสเซอรี่ โดยมีหลักคิดว่า การเรียนรู้ ประกอบไปด้วยหลายส่วนทั้งบริบทภายในและภายนอก สภาพแวดล้อม และการเรียนรู้เกิดขึ้นได้ต่อเมื่อผู้เรียนนำความรู้ที่ได้มาใหม่ผนวกกับความรู้เดิม  เชื่อมโยงและประกอบกันเป็นองค์ความรู้ และเกิดความเข้าใจ

                       น้อง ๆ วัยอนุบาล ยังได้เรียนรู้แบบโครงการ (Project Approach) และมอนเตสเซอรี่ (Montessori) ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ โดยครูประจำชั้นจะเป็นผู้ออกแบบการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ของเด็ก เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด กระตุ้นให้เด็กเกิดกระบวนการคิด เพื่อให้เด็กมีความรู้ความสามารถ คิดเป็นแก้ปัญหาเป็น และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

                      • ประถมศึกษา

                      ระดับประถมศึกษา จัดการเรียนการสอนในรูปแบบบูรณาการเช่นกัน  เพื่อให้หลักสูตรในระดับชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษามีความเชื่อมโยงและต่อเนื่องกัน โดยบูรณาการศาสตร์ต่าง ๆ ร่วมกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานและมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ  หลักสูตรต่าง ๆ จะเชื่อมโยงสาระสำคัญของวิชาที่สัมพันธ์กันมาผสมผสาน จนเกิดเป็นเนื้อหาใหม่ที่เป็นองค์รวมและสอดคล้องกับสภาพจริง  กิจกรรมต่าง ๆ ในการเรียนการสอนจะครอบคลุมเนื้อหาครบถ้วน และสัมพันธ์กับการดำเนินชีวิต ช่วยให้นักเรียนมีประสบการณ์ที่ต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการศึกษาต่อในระดับชั้นมัถยม เด็ก ๆ จะได้รับการส่งเสริมให้เรียนรู้เต็มศักยภาพของตนเอง ในทักษะด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน การเขียน การฟัง การพูด การได้ลงมือปฏิบัติในวิชาต่าง ๆ หัดค้นคว้าและหาคำตอบด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่ยั่งยืน

                      ภาษาอังกฤษเด่น ไม่เป็นรองใคร

                      โรงเรียนเน้นพัฒนาให้เด็กเกิดกระบวนการคิดและใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร โดยจัดสภาพแวดล้อมให้เด็กได้เรียนรู้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติ ส่งเสริมให้เด็กกล้าแสดงออกและฝึกใช้ภาษาอังกฤษ เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ผ่านการเล่น ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย โดยมี Teacher ทั้งฟิลิปปินส์และครู Native  มาสอนร่วมกับครูไทย เพื่อให้เด็กฝึกใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันและคุ้นเคย กล้าพูดคุยกับ Teacher ปูรากฐานกันตั้งแต่เล็ก ๆ เมื่อก้าวขึ้นสู่ชั้นประถมเด็ก ๆ จะสามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่วเลยทีเดียวค่ะ และนอกจากพัฒนาเด็ก ๆ แล้ว โรงเรียนยังพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษอีกด้วย

                      สภาพแวดล้อมส่งเสริมการเรียนรู้

                      เพราะเด็กจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดในสิ่งแวดล้อมที่เน้นเด็กเป็นสำคัญและมีความปลอดภัยสูง โรงเรียนจัดบรรยากาศห้องเรียนเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เด็ก ๆ เกิดการเรียนรู้ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อการสอน เช่น  iPad และ Apple TV  เทคโนโลยีต่าง ๆ  ที่นี่มีห้องเรียนคอมพิวเตอร์ IMAC และ IPAD แบบ 1ต่อ 1 เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ได้เต็มที่ รวมไปถึงห้องวิทยาศาสตร์ ห้องเรียนทำอาหารที่มีอุปกรณ์ครบครัน ห้องเรียนมอนเตสเซอรี่ และห้องเรียนภาษาจีนด้วยค่ะ

                      นอกจากนี้ยังมี Learning Space มากมาย และศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ ต่าง ๆ อีกด้วย  เพื่อให้นักเรียนสามารถแสดงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่  โรงเรียนพยายามออกแบบกิจกรรมที่ไม่ใช่นั่งฟังเพียงอย่างเดียว แต่อยากให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม  ร้อง เล่น เต้น ทำให้เด็ก ๆ ไม่เบื่อและมีความสุขในการเรียนทุก ๆ วัน

                      สนามกีฬาเอาต์ดอร์
                      ห้องอัดเสียง
                      ห้องเรียนทำอาหาร
                      ดร.สิทธิพร เอี่ยมเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ

                      Mommy Love This! ถูกใจแม่

                      1. อาหารของเด็ก ๆ จะมีนักโภชนาการและนักการอาหารคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ให้ความสำคัญกับรสชาติอาหารและความสะอาด บริหารจัดการโดยโครงการอาหาร กลางวัน ๑ หรือครัวสวนดุสิต อร่อยและถูกหลักอนามัยแน่นอน
                      2. กิจกรรมหลังเลิกเรียน หรือ After School ที่นี่ มีทั้งแบบฟรี และเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และในส่วนที่โรงเรียนจัดเพิ่มเติมให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่ Kid’s Club ,Kid’s Dance, Cooking Class, Ballet, IT for Kids, English Playtime และอื่น ๆ อีกมากมาย
                      3. ทุก ๆ กิจกรรมของสาธิตละอออุทิศ สามารถร่วมกับมหาวิทยาลัยสวนดุสิตได้ ทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ อาคารสถานที่ จะมีการช่วยเหลือจากนักศึกษาและอาจาร์ยในมหาวิทยาลัย
                      4. ที่โรงเรียนมีศูนย์การศึกษาพิเศษ สำหรับเด็กพิเศษ สามารถประเมินพัฒนาการและให้คำปรึกษา สำหรับเด็กที่มีภาวะเสี่ยงและเด็กที่มีความต้องการพิเศษ รวมไปถึงนักเรียนที่สามารถเรียนร่วมได้ในระดับระดับชั้นอนุบาล และชั้นประถมศึกษา เพื่อพัฒนาเด็กทุกกลุ่มให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างมีความสุขใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้
                      5. มหาวิทยาลัยสวนดุสิต คือแหล่งเรียนรู้ของเด็ก ๆ ชั้นดี เด็ก ๆ ได้เดินสำรวจต้นไม้ และใช้สถานที่เพื่อทำกิจกรรมมากมายโดยไม่ต้องออกนอกโรงเรียน
                      6. มีเครื่องฟอกกอากาศทุกห้อง และเครื่องอบโอโซนเมื่อห้องเรียนถูกใช้งาน

                      ค่าเทอม
                      • ระดับบ้านหนูน้อยและบ้านสาธิต
                      มีค่าธรรมเนียมเป็นรายปี จำนวน 89,000-
                      • ระดับอนุบาล 1-3
                      มีค่าธรรมเนียมแบ่งเป็น 2 ภาคเรียน
                      ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 43,500-
                      ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 35,000-
                      • ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-3
                      มีค่าธรรมเนียมแบ่งเป็น 2 ภาคเรียน
                      ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 41,900-
                      ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 36,500-
                      • ระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6
                      มีค่าธรรมเนียมแบ่งเป็น 2 ภาคเรียน
                      ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 42,800-
                      ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 37,500-

                      โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ
                      295 ถ. ราชสีมา แขวงวชิระ เขตดุสิต กทม. 10300
                      โทรศัพท์ 0-2241-4656, 0-2244-5590
                      E-mail Address : [email protected]
                      เว็บไซต์ : www.la-orutis.dusit.ac.th

                      Editor : แม่เลม่อน
                      ภาพ :  ฤทธิรงค์ จันทองสุข

                        Pop Up Booth! English Corner เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า สอนอังกฤษ โฟนิกส์ คณิต ศิลปะ ทักษะจำเป็น

                        น้องๆ บ้านใกล้เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ใครพร้อมไปสู่อนาคตอันสดใสกับพี่ทิโม่ยกมือขึ้น🙋‍♀️🙋🙋‍♂️

                        📢พบกันวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 English Corner เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า สอนอังกฤษ โฟนิกส์ คณิต ศิลปะ ทักษะจำเป็น 🥳 ที่เซ็นทรัล ปิ่นเกล้าชั้น 5 ทางเข้าอาคาร B


                        Pop Up Booth!
                        🎉 ลุ้นรับ Gift Voucher กับพี่ทิโม่!
                        🎉 รับสิทธิ์ทดลองเรียนฟรี! กับเจ้าของภาษา
                        กิจกรรมสนุก ๆ และเซอร์ไพรส์มากมายรอคุณอยู่!
                        มาเจอกันนะ แล้วเราจะสนุกไปด้วยกัน


                        โทร📱 081 549 9552
                        ไลน์ @ecpinklao
                        โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ คณิต ศิลปะ และทักษะจำเป็นสำหรับเด็ก


                        🔸 english corner 🔸 phonics corner 🔸 math corner 🔸 art corner


                        อยากให้ลูกเก่งอังกฤษตลอดชีวิต มาหาเราได้ที่ English Corner 🏫 📚


                        🌟 หลักสูตร English ครบทุกทักษะ สื่อสาร อ่านออกเขียนได้ โดยไม่ต้องท่องจำ ใช้ได้จริงตลอดชีวิต!
                        🌟 หลักสูตร Phonics พูดชัด อ่านออกเสียงชัด เหมือนเจ้าของภาษา
                        🌟 หลักสูตร Math คิดเห็นภาพ พัฒนาตรรกะ การคิดวิเคราะห์ เปลี่ยนคณิตศาสตร์ให้เป็นเรื่องง่าย แก้โจทย์ได้ทุกปัญหา!
                        🌟 หลักสูตร Art ส่งเสริมการเรียนรู้แบบ STEAM ปั้น วาด ระบาย พัฒนาทักษะทั้งสมองและกล้ามเนื้อมือให้แข็งแรง

                          Tags

                          Earl Montessori จัดงาน Townhall ประจำปี พร้อมประกาศเป้าหมายในปี 2025

                          เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา Earl Montessori ได้จัดงาน Townhall ประจำปี เพื่อสื่อสารถึงความสำเร็จที่สำคัญในปีที่ผ่านมา และประกาศทิศทาง รวมถึงเป้าหมายหลักขององค์กรในปี 2025 

                          ในงานนี้ เรามีการประกาศรางวัลเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ 🔥
                          🏆 รางวัล Exemplary Teacher Award 2024 : สาขาสุขุมวิท 26
                          🏆 รางวัล Branch of theYear 2024 : สาขาหัวหมาก
                          🏆 รางวัล Top Sale Award 2024 : สาขาพระราม 2

                          ผู้บริหารระดับสูงได้กล่าวถึงความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือของทุกฝ่าย และได้แชร์วิสัยทัศน์ ทิศทางการเติบโต รวมถึงเป้าหมายด้านผลประกอบการขององค์กรในปี 2025 

                          งาน Townhall ครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ Earl Montessori ในการเป็น แบรนด์อันดับ 1 ด้านการศึกษา พร้อมสร้างอนาคตที่ดีกว่าร่วมกัน!

                            พิพิธภัณฑ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

                            นิทรรศการ Beauty and the Beast เรียนรู้เรื่องผีเสื้อและแมลงสาบ ที่ Chula Museum

                            มาดูผีเสื้อที่บ้านเราไหม? ถ้าชวนแบบนี้ใคร ๆ ก็อยากไปใช่ไหมคะ แล้วถ้าเปลี่ยนเป็น มาดูแมลงสาบที่บ้านเราไหม? จะมีใครอยากดูบ้างหรือเปล่านะ  พูดถึงแมลงสาบหลาย ๆ คน คงอยากจะวิ่งหนีไปไกล ๆ แต่รู้ไหมคะแมลงสาบก็น่าสนใจไม่แพ้ผีเสื้อเลยทีเดียว School Visit วันนี้จึงอยากจะพาเด็ก ๆ และทุกคนมาเรียนรู้เรื่องผีเสื้อและแมลงสาบกันแบบฟรี ๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลค่ะ ที่ Chula Museum จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

                            Chula Museum หรือ พิพิธภัณฑ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดมา 9 ปี แล้วค่ะ ช่วงแรก ๆ ที่นี่จะเปิดให้นักศึกษาและคณาจาร์ยใช้งานเป็นหลักและปรับเพื่อให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาและช่วงนี้มีนิทรรศการดี ๆ คือ “ Beauty and the Beast ” ทูตแห่งการปรับตัวกับผู้รอดที่แข็งแกร่ง จัดโดย สำนักบริหารศิลปวัฒนธรรม ร่วมกับ พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาฯ คณะวิทยาศาสตร์ และสาขาวิชานิทรรศการศิลป์ ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์

                            นิทรรศการนี้ เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างของรูปลักษณ์ที่มักถูกตัดสินว่า ผีเสื้อสวยงาม ในขณะที่ แมลงสาบนั้นน่าเกลียด และแม้ว่าจะเป็นแมลงเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันหลาย ๆ ด้าน  และทั้งคู่ก็เป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลังความสมดุลของโลกและมีความสำคัญในระบบนิเวศน์ เท่า ๆ กันเลยนะ

                            Beauty : Butterflies

                            ภายในนิทรรศการ เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผีเสื้อ ครอบคลุมหลากหลายหัวข้อเลยค่ะ  เช่น ลักษณะพิเศษทางกายภาพของผีเสื้อ อายุขัย วิวัฒนาการ วงจรชีวิตและการขยายพันธุ์ และบทบาทในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ  ต่าง ๆ ของผีเสื้อ ที่สำคัญความสวยงามของผีเสื้อและลวดลายต่าง ๆ บนปีกของมัน ก็ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานศิลปะให้กับศิลปินหลาย ๆ คน อีกด้วย นอกจากข้อมูลทางวิชาการที่น่าสนใจแล้วยังมี โปรเจกชันแมปปิง ผลงานจาก อ.จนัธ เที่ยงสุรินทร์,ศป .ด. อาจารย์ประจำภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้เด็ก ๆ ได้ถ่ายรูปเล่นอีกด้วย หรือใครอยากวาดลวดลายปีกของผีเสื้อ ก็มีมุมระบายสีให้แสดงผลงานกันด้วย

                            The Beast : Cockroaches

                            แค่พูดชื่อแมลงสาบหลายคนก็ต้องร้องอี๋ แต่รู้ไหมคะว่าแมลงสาบคือนักเอาตัวรอดที่แข็งแกร่ง แถมยังเป็นฟอสซิลเดินได้ เพราะแมลงสาบมีการปรับเปลี่ยนร่างกายน้อยมาก ๆ ตลอดหลายล้านปีที่ผ่านมา ภายในนิทรรศการเด็ก ๆ ก็จะได้เรียนรู้ความเหมือนและแตกต่างระหว่างผีเสื้อและแมลงสาบ ระบบการหายใจและคุณสมบัติของแมลงสาบหลาย ๆ อย่าง ที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น แมลงสาบสามารถกลั้นหายใจได้นาน ถึง 40 นาที หรือการขยายพันธ์อันรวดเร็วที่น่าขนลุก วงจรชีวิต และเรื่องน่ารู้ต่าง ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงได้เห็นแมลงสาบสตัฟฟ์ตัวจริงและงานศิลปะแมลงสาบยักษ์ที่เหมือนจริงมาก ๆ ให้ถ่ายรูปเล่นอีกด้วยนะ

                            คุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากพาเด็ก ๆ มาเยี่ยมชมต้องรีบหน่อยน้า เพราะนิทรรศการนี้เปิดให้ชมถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 นี้เท่านั้นค่ะ

                            มีแมลงสาบสตัฟฟ์ไว้ให้เด็ก ๆ ดูด้วยนะ
                            เกมส์ Cockroach Simulator  มาสวมบทบาทเป็นแมลงสาบกันเด็ก ๆ ดูซิเราจะเอาตัวรอดได้ไหม
                             
                            วีดีโอแสดงความสามารถของแมลงสาบ ที่ไม่ว่าจะเหลือพื้นที่น้อยแค่ไหน เจ้าแมลงสาบก็สามารถทำตัวแบนลีบลอดผ่านไปได้ สุดยอดมาก

                            Mommy Loves This ถูกใจแม่!

                            1. นิทรรศการออกแบบมาเพื่อให้คนทั่วไป เข้าใจง่าย คุณพ่อคุณแม่สามารถอธิบายให้เด็ก ๆ ฟังได้ไม่ยากเลยค่ะ
                            2. ที่นี่เน้นนำเอาศิลปะมาผสมสานกับข้อมูลความรู้ เมื่อมีงานศิลปะที่ทำให้เด็ก ๆ จับต้องได้ ก็ยิ่งทำให้เด็ก ๆ สนุกในการเรียนรู้
                            3. มีมุมเกมส์ มุมศิลปะให้ทดลองเล่นทดลองทำ นอกจากได้ความรู้ยังสนุกอีกด้วย
                            4. หากมาเป็นหมู่คณะ สามารถมาชมนิทรรศการวันเสาร์และอาทิตย์ได้ค่ะ แค่โทรแจ้งพิพิธภัณฑ์ล่วงหน้า

                            ที่อยู่ พิพิธภัณฑ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                            254 ถ.พญาไท แขวงวังใหม่ กรุงเทพฯ
                            โทร.02 218 3645
                            เวลา: 9.00 -16.30 น.
                            (สามารถเข้าชมงานได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09:00 น. ถึง 16:30 น. ****ปิด วันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
                            Facebook : https://www.facebook.com/chulamuseum

                            Editor : แม่เลม่อน
                            ภาพ :  ฤทธิรงค์ จันทองสุข

                              Kensington International School โรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษ ที่เน้นการเรียนรู้อย่างมีความสุข

                              หากให้ตามหาโรงเรียนนานาชาติเปี่ยมคุณภาพย่านราชพฤกษ์สักแห่ง Kensington International School น่าจะติดอันดับต้นๆ มาตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา หลายๆ คนอาจจะติดภาพจำความเป็น Kindergarten ของเด็กปฐมวัยที่เน้น Play-based learning กับพื้นที่เอ้าท์ดอร์ดีไซน์สวยของโรงเรียน แต่ปัจจุบัน Kensington International School ได้เปิดการเรียนการสอนระดับ Primary พร้อมอาคารรูปทรงอิสระ ที่พิถีพิถันทุกการออกแบบเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กในช่วงวัยประถมศึกษาในทุกๆ ด้าน

                              ชวนเยี่ยมชมอาคาร Primary Building ที่เปิดใหม่ล่าสุดของ Kensington International School

                              แม้เราจะทราบมาก่อนแล้วว่า Kensington โดดเด่นเรื่องการออกแบบพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่สวยงามและใช้งานได้จริง แต่พอ School Visit ได้มาเยี่ยมชมอาคารใหม่ของโรงเรียน ก็ยังอดประทับใจไม่ได้ เมื่อผู้บริหารของโรงเรียนพาเยี่ยมชมและชี้ให้เห็นถึงความตั้งใจในการออกแบบ ตั้งแต่แสงไฟ ทางเดิน ห้องเรียน เฟอร์นิเจอร์ ร่วมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ล้วนออกแบบมาเพื่อเด็กๆ โดยแท้จริง เช่น ห้องสมุดแบบ Open Space ที่เชิญชวนให้เด็ก ๆ เดินเข้าหาหนังสืออย่างเป็นธรรมชาติ, ห้องประชุมที่กลายเป็นโถงกลางเปิดโล่งที่ใช้งานได้ตั้งแต่เรื่องจริงจังไปจนถึงเป็นที่นั่งคุยนอนคุยของเด็กๆ, ทางเดินกว้างขวางที่พร้อมปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมหลากหลาย, และยังใส่ใจในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการใช้โต๊ะปรับระดับความสูงได้เพื่อให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละชั้นเรียน

                              โถงประชุมที่ตั้งอยู่กลางอาคารเชื่อมต่อระหว่างชั้น 1-2 กลายเป็นพื้นที่เชื่อมโยงที่ทำให้ คุณครู ผู้ปกครอง และเด็กๆ ได้มาเจอกัน
                              การออกแบบแสงจากธรรมชาติและไฟส่องสว่างที่กลมกลืนช่วงส่งเสริมอารมณ์ความรู้สึกอบอุ่นให้กับเด็กๆ

                              จาก Early Years สู่ Primary การเติบโตที่เข้มแข็ง

                              ก่อนหน้านี้ Kensington International School เปิดเฉพาะระดับ Early Years โดยใช้หลักสูตร Early Years Foundation Stage (EYFS) ส่งเสริมให้ที่มีการเรียนรู้อย่างอิสระผ่านการเล่น (play-based curriculum) เมื่อเริ่มเติบโตขึ้น จึงได้มีการเปิดสอนระดับชั้น Key Stage 1 (Year 1-2) มาตั้งแต่ปี 2558 จนเปิดอาคารใหม่เพื่อรองรับระดับ Primary เต็มรูปแบบในปีที่ผ่านมา โดยใช้หลักสูตร British National Curriculum มีวิธีการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการผ่าน Project-Based Learning ซึ่งเป็นหลักสูตรการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงการเรียนรู้ของเด็กแต่ละช่วงวัยให้เขายังคงสนุกกับกระบวนการค้นหาความถนัดของตัวเองอย่างอิสระ การใช้วิธีการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการผ่าน Project-Based Learning จะช่วยให้เด็ก ๆ ไม่สูญเสียทักษะที่เขาได้รับจากช่วงปฐมวัยที่เรียน Play-Based มา เช่น ลักษณะของเด็กที่รักการเรียนรู้ ชอบสำรวจ มีความกระตือรือร้น มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นอิสระ แต่ทำงานเป็นทีมได้ ทักษะพวกนี้จะยังคงนำมาใช้ในการเรียนในระดับที่โตขึ้นและพัฒนาไปสู่การสังเกต คิดวิเคราะห์ ทดลอง และการประเมิน ผ่าน Project-Based

                              KLS : Learning Space ที่ช่วยส่งเสริมทักษะเฉพาะทาง

                              สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Kensington International School ไม่เหมือนใครคือการที่มี Learning Space เป็นของตัวเอง (สถาบันสอนพิเศษรายวิชา ตั้งอยู่ในพื้นที่ติดกัน ) ซึ่งทำให้มีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาพร้อมดูแลเด็กๆ เช่น ชั้นเรียน Forest School ที่นักเรียนของโรงเรียนจะได้เรียนด้วย ซึ่งจะเรียนในพื้นที่ที่เป็นธรรมชาติจริง ๆ โดยครูที่จบมาทางด้านนี้โดยตรง คุณครูจะสอนเกี่ยวกับธรรมชาติ ใบไม้ ต้นไม้ สัตว์ การก่อไฟ การใช้อุปกรณ์ที่ปลอดภัย การใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอย่างปลอดภัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมและการดูแลโลก

                              เด็ก ๆ ชั้น Preschool ออกเดินสำรวจพื้นที่ธรรมชาติซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับ Forest School

                              5 ข้อที่ทำให้เด็กๆ ของ Kensington International School อยากมาโรงเรียนทุกวัน

                              1. Space and Environment พื้นที่และสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ไม่มีขอบจำกัด ทำให้เด็กๆ รู้สึกปลอดภัยและกล้าที่จะสำรวจสิ่งใหม่ๆ
                              2. Teachers คุณครูที่มีความเป็นมืออาชีพ และทุกคนมี Qualifica-ons ในการสอน โดยตรงทุกระดับชั้นตั้งแต่ EY – Primary อีกทั้งยังใส่ใจและดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด เข้าใจเด็กๆ ทุกคน มีจิตวิทยาที่ดีในการเข้าหาเด็ก
                              3. Community ด้วยขนาดของโรงเรียนที่ไม่ใหญ่เกินไปทำให้โรงเรียนกลายเป็นสังคมที่ใกล้ชิดและดูแลทั่วถึง ตั้งแต่ผู้บริหาร ทีมงาน คุณครู ผู้ปกครองและเด็ก สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เสมอ
                              4. Food อาหารเพื่อสุขภาพที่แสนอร่อย ทำจากวัตถุดิบที่ปลอดภัย มีให้เลือกหลากหลาย หน้าตาน่ารับประทาน เด็กๆ สามารถเรียนรู้แม้แต่ตอนที่กำลังทานอาหารอย่างมีความสุข
                              5. Fun การเรียนรู้ที่สนุก ทำให้เด็กมีความสุข ได้ลงมือทำในสิ่งที่อยากทำ โรงเรียนเปรียบเสมือนพื้นที่ของเขา เป็นพื้นที่ที่เขาอยู่แล้วมีความสุขตลอดทั้งวัน
                              ผู้บริหารโรงเรียน Miss Tracey Thurlby, คุณนิติพันธ์ พันธุ์วิโรจน์, คุณวราภรณ์ กาญจนวัฒน์ พันธุ์วิโรจน์

                              Mommy’s Love This! ถูกใจแม่

                              • มี Parents Workshop สม่ำเสมอ อย่างตอนที่ทีมงานไปเยี่ยมชม เป็นวันที่มี Workshop ช่วยเด็กๆ จากอาหารติดหลอดลม การ Workshop นี้ นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังช่วยให้ผู้ปกครองได้พบปะกันด้วย
                              • ทางโรงเรียนมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของเด็กๆ และผู้ปกครองอย่างสม่ำเสมอ
                              • แบ่งเสื้อตามระบบบ้านต่าง ๆ ในโรงเรียน (House System) ซึ่งตั้งชื่อตามธาตุทั้ง 4 ออกมาได้น่ารักมาก สีเหลือง = EARTH สีแดง = FIRE สีฟ้า = WATER สีเขียว = AIR
                              • มีเรียนวิชาภาษาไทยซึ่งจะสอนวัฒนธรรมไทยและประวัติศาสตร์ไทยควบคู่ไปด้วย
                              • Theme ของ Project-Based Learning แต่ละภาคเรียน คุณครูจะมีการเทรนนิ่งกันก่อน มีการประชุมระหว่างแผนร่วมกันโดยมีหลักสูตรเป็นแกนกลาง แล้วเลือกหัวข้อที่มีความหลากหลายน่าสนใจสำหรับเด็ก ๆ

                              อัตราค่าเล่าเรียน

                              ค่าแรกเข้า 100,000 บาท

                              PreSchool – Creche 465,300 บาท/ปี

                              Toddlers 504,000 บาท/ปี

                              Nursery 555,800 บาท/ปี

                              Reception 562,500 บาท/ปี

                              Year 1-2 618,500 บาท/ปี

                              Year 3 – Year 4 624,700 บาท/ปี

                              ข้อมูลติดต่อ Kensington International School

                              88 Bangprom 16, Ratchapruek Rd., Talingchan Bangkok 10170

                              TEL: +66 (02) 864 – 9977 , +66 (080) 533 – 9977

                              EMAIL: [email protected]

                              Facebook: https://www.facebook.com/kensingtonschoolbangkok/

                              Web: https://kensington.ac.th/

                              Editor : แม่น้องอลินดา

                              ภาพ : กรานต์ชนก บุญบำรุง ,จันทิมา ชื่นคุ้ม

                                ผ้าหอมสะอาด นุ่มละมุน ไม่ทำร้ายผิวลูก ด้วยน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน

                                ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสำหรับเด็กคือหนึ่งในไอเท็มชิ้นสำคัญที่คุณแม่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะลูกยังเล็ก ผิวจึงบอบบาง ระคายเคืองง่าย จึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เสื้อผ้าต่าง ๆ จะต้องสัมผัสกับผิวของลูกโดยตรง บางครั้งลูกก็อาจจะหยิบผ้าเข้าปาก ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดผ้าของลูกจึงต้องมั่นใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัยสำหรับลูกจริง ๆ ทีมแม่ ABK ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ซักผ้าสำหรับเด็ก “ Kodomo Baby Liquid Detergent ” ที่ลองใช้ดูแล้วดีจริง จนอยากให้คุณแม่ได้ลองใช้

                                Amarin Baby & Kids ยกให้  “Kodomo Baby Liquid Detergent” เป็นผลิตภัณฑ์ซักผ้าสำหรับเด็ก ที่ได้รับรางวัล Editor’s Choice BEST NATURAL & ORGANIC BABY LAUNDRY DETERGENT จาก Amarin Baby & Kids Awards 2024

                                แค่ได้ยินชื่อแบรนด์โคโดโม ก็มั่นใจในคุณภาพได้แล้ว เพราะโคโดโมเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่อยู่คู่เมืองไทยมานาน เชื่อว่าที่บ้านของหลายคนต้องเติบโตมากับผลิตภัณฑ์ของโคโดโม และมีผลิตภัณฑ์ของโคโดโมติดบ้านอยู่เสมอ การันตีคุณภาพด้วยรางวัลและผลงานวิจัยมากมาย จนกลายเป็นแบรนด์ในดวงใจของคุณแม่หลาย ๆ คน

                                ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก โคโดโม ออร์แกนิค เป็นน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนที่มีสารสกัดจาก Natural Essential Oil จึงเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดอายุ 0 ปีขึ้นไป มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือน้ำยาซักผ้าเด็ก ออร์แกนิค โอลีฟ ออยล์ (สูตรสีฟ้า) ที่มี Organic Olive Oil มีคุณสมบัติลดการระคายเคือง และน้ำยาซักผ้าเด็ก นิวบอร์น สูตรลดกลิ่นอับ (สูตรสีชมพู) ที่มี Organic Argan Oil มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วยค่ะ

                                แค่เปิดฝาออกมาเราก็จะได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ละมุน เหมาะสำหรับเด็ก ซึ่งกลิ่นหอมนี้สามารถติดผ้าได้ยาวนานสูงสุดถึง 30 วันเลย และสามารถลดกลิ่นอับแม้ซักตอนกลางคืน หรือตากในที่ร่มได้อีกด้วย

                                ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก โคโดโม ออร์แกนิคประกอบด้วยสารทำความสะอาดและเอนไซม์ธรรมชาติ เมื่อลองนำไปซักเสื้อผ้าและเครื่องนอนของลูก พบว่าสามารถขจัดคราบฝังลึก เช่น คราบน้ำนม น้ำผลไม้ และซอสต่าง ๆ ได้ดีเลยค่ะ แถมยังล้างฟองออกง่าย ไม่ต้องขยี้ให้เมื่อยมือ และไม่ทิ้งคราบผลิตภัณฑ์บนเสื้อผ้าของลูก จึงช่วยประหยัดเวลา ประหยัดแรง สะดวก ปลอดภัยตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ที่อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก

                                สำหรับคุณแม่ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าเด็ก โคโดโม ออร์แกนิค ผ่านการทดสอบว่าไม่ระคายเคืองต่อผิว (Dermatology Test) และปราศจากสารเติมแต่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น SLS, Paraben, Formaldehyde, Triclosan, Fluorescent, Bleaching, Colourant คุณแม่จึงนำมาซักผ้าของลูกได้อย่างมั่นใจ 

                                ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทีมบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids จึงคัดเลือกให้ Kodomo Baby Liquid Detergent ได้รับรางวัล Editor’s Choice สาขา BEST NATURAL & ORGANIC BABY LAUNDRY DETERGENT จาก Amarin Baby & Kids Awards 2024

                                และนอกจากนี้ Kodomo ยังมียังมีผลิตภัณฑ์ซักผ้า 2 สูตรใหม่ล่าสุด!! ที่น่าสนใจมาแนะนำอีกด้วยค่ะ

                                Kodomo Premium Organic Aloe vera
                                ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตร Nature Clean สารทำความสะอาดที่มีต้นกำเนิดจากธรรมชาติ พร้อมพลังความหอมที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติ 100% อ่อนโยนต่อผิวสัมผัสที่บอบบางของลูกน้อย และยังมี Organic Aloe vera ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว

                                Kodomo Natural Micellar
                                ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรเข้มข้นด้วย Double Nature Clean Technology และสารทำความสะอาดที่มาจากธรรมชาติ ลดกลิ่นอับ ขจัดคราบติดแน่นที่ทิ้งไว้นาน เช่น คราบซอส คราบน้ำหวาน คราบแยม และคราบชีส ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนผสมจากธรรมชาติของ Organic Jojoba Oil ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว มีผลทดสอบว่า ไม่ระคายเคืองต่อผิวแพ้ง่าย

                                สำหรับคุณแม่ที่สนใจ สามารถติดตามได้ในช่องทางของ KODOMO ดังนี้
                                Facebook : Kodomo Club 
                                Line https://bit.ly/2VmJM6W
                                Website https://bit.ly/3eiW5d6
                                Shopee https://shorturl.asia/Ayr0c
                                Lazada https://bit.ly/3fdPZj8

                                  Tags

                                  Spectra Dual Compact ไอเทมคู่ใจแม่ยุคใหม่ ปั๊มนุ่ม ดูดลึก เกลี้ยงเต้า ถนอมหัวนม

                                  ในปัจจุบัน เครื่องปั๊มนมกลายเป็นตัวช่วยสำคัญของคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายในท้องตลาด การเลือกเครื่องปั๊มนมที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ Amarin Baby & Kids ขอแนะนำ Spectra Dual Compact เครื่องปั๊มนมระบบ 2 มอเตอร์ที่ได้รับความนิยม ด้วยคุณสมบัติเด่นที่ปั๊มนุ่ม ดูดลึก เกลี้ยงเต้า และถนอมหัวนมคุณแม่ พร้อมรายละเอียดต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจเลือกเครื่องปั๊มนมได้อย่างมั่นใจกันค่ะ

                                  การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด เพราะในน้ำนมแม่มีสารอาหารครบถ้วนและภูมิคุ้มกันที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูก ซึ่งเคล็ดลับสำคัญในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้สำเร็จ

                                  1. ให้ลูกดูดนมเร็วที่สุดหลังคลอด การให้ลูกดูดนมหลังคลอดได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนมของคุณแม่ และยังช่วยให้ลูกได้รับน้ำนมเหลือง (Colostrum) ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
                                  2. ให้ลูกดูดนมบ่อยๆ การให้ลูกดูดนมบ่อยจะช่วยกระตุ้นร่างกายของคุณแม่ให้ผลิตน้ำนมอย่างต่อเนื่อง ควรให้ลูกดูดนมทุก 2-3 ชั่วโมง หรือเมื่อลูกแสดงอาการหิว เช่น เอามือเข้าปาก หรือหันหน้าหาเต้านม
                                  3. ให้ลูกดูดนมอย่างถูกวิธี การให้ลูกดูดนมอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ลูกได้รับน้ำนมอย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันปัญหาหัวนมแตกเจ็บ ควรให้ลูกอมหัวนมให้ลึกถึงลานนม โดยให้ปากลูกแนบสนิทกับเต้านม
                                  4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ที่ให้นมบุตร เพราะอาหารที่คุณแม่รับประทานในทุกมื้อจะส่งผลต่อคุณภาพและปริมาณของน้ำนม ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำคัญให้กับลูกน้อย
                                  5. ปั๊มนมสม่ำเสมอ การปั๊มนมจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้ผลิตน้ำนมอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำนมเพียงพอสำหรับลูกน้อย และยังช่วยให้คุณแม่มีความยืดหยุ่นในการให้นมลูกมากขึ้น สามารถเก็บสต๊อกสำรองน้ำนมไว้ ในกรณีที่คุณแม่ต้องกลับไปทำงาน
                                  Spectra Dual Compact เครื่องปั๊มนมระบบ 2 มอเตอร์

                                  Spectra Dual Compact เป็นเครื่องปั๊มนมไฟฟ้าแบบคู่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ได้รับรางวัล Editor’s Choice สาขา BEST MULTI FUNCTION BREAST PUMP จาก Amarin Baby & Kids Awards 2024 ซึ่งเป็นการการันตีถึงคุณภาพและฟังก์ชันที่หลากหลาย เหมาะสำหรับคุณแม่นักปั๊มยุคใหม่

                                  คุณสมบัติเด่นของ Spectra Dual Compact

                                  Spectra Dual Compact เป็นเครื่องปั๊มนมไฟฟ้าแบบปั๊มคู่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและตอบโจทย์การใช้งาน ทำให้คุณแม่หลายท่านประทับใจและบอกต่อกันถึงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม

                                  1. ระบบ 2 มอเตอร์ หัวใจสำคัญของ Spectra Dual Compact คือระบบมอเตอร์คู่ที่แยกการทำงานของเต้านมแต่ละข้างอย่างอิสระ ทำให้สามารถปรับแรงดูดและจังหวะการปั๊มแยกกันได้ตามความเหมาะสมและความรู้สึกสบายของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากเมื่อเทียบกับเครื่องปั๊มนมแบบมอเตอร์เดียว
                                  2. ขนาดเล็กและพกพาสะดวก ด้วยน้ำหนักเพียง 670 กรัม ทำให้ Spectra Dual Compact มีขนาดกะทัดรัดและพกพาได้ง่าย เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องเดินทางหรือต้องการปั๊มนมนอกบ้าน
                                  3. กระตุ้นน้ำนมอย่างมีประสิทธิภาพ รอบดูดที่มากกว่า 100 ครั้งต่อนาที ช่วยกระตุ้นการไหลของน้ำนมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอสำหรับลูกน้อย
                                  4. ปรับแรงดูดได้หลากหลาย สามารถปรับแรงดูดได้ถึง 12 ระดับ และยังแยกปรับแรงดูดซ้ายขวาได้อีกด้วย ทำให้คุณแม่สามารถเลือกแรงดูดที่เหมาะสมกับตัวเองได้อย่างละเอียดและแม่นยำ
                                  5. โหมดเคลียร์เต้า โหมดพิเศษนี้ช่วยดูดน้ำนมที่ค้างอยู่ในเต้าได้อย่างล้ำลึก ทำให้เต้านมเกลี้ยงและลดโอกาสการเกิดท่อน้ำนมอุดตัน
                                  6. ดีไซน์สวยงามและมีแบตเตอรี่ในตัว ตัวเครื่องออกแบบมาอย่างเรียบหรูทันสมัย พร้อมแบตเตอรี่ในตัว ทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องหาปลั๊กไฟ

                                  ทำไมแม่ยุคใหม่ต้องเลือก Spectra Dual Compact? สุดยอดเครื่องปั๊มนมเพื่อชีวิตที่ลงตัว

                                  ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ คุณแม่ยุคใหม่ต้องการตัวช่วยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง และ Spectra Dual Compact คือคำตอบนั้น ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู ฟังก์ชันครบครัน และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การปั๊มนมเป็นเรื่องง่าย สะดวก และมีประสิทธิภาพ

                                  • ปั๊มนุ่ม ดูดลึก: ลักษณะการดูดที่นุ่มนวลแต่มีประสิทธิภาพ รีดน้ำนมได้หมดจด เกลี้ยงเต้า
                                  • Battery (แบตเตอรี่ทนทาน): ใช้งานได้ยาวนานถึง 3 ชั่วโมง ให้คุณแม่ปั๊มนมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่
                                  • Easy to Operate (ใช้งานง่าย): โหมดการทำงานที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย แม้จะเป็นคุณแม่มือใหม่
                                  • Massage Mode (โหมดนวดกระตุ้นน้ำนม): รอบดูดมากกว่า 100 ครั้ง/นาที ช่วยกระตุ้นน้ำนมให้มาเร็วและไหลออกได้ดียิ่งขึ้น
                                  • Expression Mode (โหมดปั๊ม): ปรับระดับความแรงได้มากถึง 12 ระดับ/ข้าง ให้คุณแม่เลือกความแรงที่เหมาะสมกับตัวเอง
                                  • ถนอมหัวนม: เลียนแบบการดูดของทารกตามธรรมชาติ (ดูด ปล่อย และพัก) จึงอ่อนโยนต่อหัวนม
                                  • Mute Function (ระบบปิดเสียง): ปิดเสียงปุ่มกดเพื่อความเงียบ ไม่รบกวนลูกน้อย
                                  • LCD Display (หน้าจอ LCD): แสดงโหมดการทำงานและระยะเวลาในการปั๊มนม
                                  • Memory Function (ระบบจดจำ): ตัดอัตโนมัติเมื่อใช้งานครบ 30 นาที และจดจำการทำงานครั้งสุดท้าย
                                  • มาตรฐานระดับโลก: ได้รับการรับรองจากสถาบันชั้นนำ เช่น CE, FDA, ISO13485 และ GMP
                                  • ปลอดภัยสำหรับคุณแม่และลูกน้อย: ได้รับการตรวจสอบและรับรองจาก อย. ไทย
                                  • รับประกันศูนย์ไทย: รับประกันตัวเครื่อง 1 ปี รับประกันหลังคลอด
                                  • อุปกรณ์น้อยชิ้น: ใช้งานง่าย สะดวกสบาย
                                  • เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะ: Patented Technology “Spectra BackFlow Protection” เพื่อความนุ่มนวลและความสะอาดปลอดภัยสูงสุด

                                  Spectra Dual Compact จึงเป็นมากกว่าเครื่องปั๊มนม แต่เป็นเพื่อนคู่คิดของคุณแม่ยุคใหม่ ที่ช่วยให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเรื่องง่ายและมีความสุขยิ่งขึ้น Spectra Dual Compact เป็นเครื่องปั๊มนมที่มีคุณภาพและฟังก์ชันที่หลากหลาย เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องการเครื่องปั๊มนมที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย และพกพาสะดวก การได้รับรางวัลจาก Amarin Baby & Kids Awards 2024 ยิ่งเป็นการยืนยันถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดีค่ะ

                                  คุณแม่ที่กำลังมองหาเครื่องปั๊มนมคุณภาพเยี่ยมสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
                                  คลิก https://spectrathailand.com/dual-compact/

                                  Facebook: https://www.facebook.com/spectrababythailand  

                                  IG: https://www.instagram.com/spectrathailand/

                                  Tik Tok: https://www.tiktok.com/@spectrathailand

                                  LINE@: https://bit.ly/2UgDG9o

                                  สอบถามข้อมูลและสั่งซื้อเครื่องปั๊มนม Spectra Dual Compact  https://linktr.ee/spectrathailand

                                    Tags

                                    Earl Montessori

                                    Earl Montessori and Creativity Centre เรียนรู้ผ่านการเล่น เน้นพัฒนาการรอบด้าน ในรูปแบบมอนเตสซอรี่

                                    เพราะธรรมชาติของเด็กคือการได้เล่น และเรียนรู้ ยิ่งได้ลงมือทำ ก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนรู้มากขึ้น School Visit วันนี้ เราจะพาทุกคนเยี่ยมชมโรงเรียนที่เด็ก ๆ จะได้ลงมือทำด้วยตนเอง ที่นี่คือ Earl Montessori and Creativity Centre โรงเรียนที่มุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ให้กับเด็ก ๆ  กับหลักสูตรมอนเตสซอรี เพื่อให้เด็ก ๆ เติบโตอย่าง สมบูรณ์ทั้งในด้านการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะชีวิต

                                    Earl Montessori and Creativity Centre ริเริ่มโดยคุณออย – รฐิติ โตโพธิ์ไทย นักธุรกิจและนักลงทุน ที่ผันตัว มาเป็นคุณแม่ มีความต้องการที่จะหาสิ่งดี ๆ และสิ่งที่สามารถเสริมสร้างการเจริญเติบโตที่เหมาะสมให้กับลูก ๆ  จึงได้ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลการเรียนรู้และการสอนลูกฉบับคุณแม่จากหลากหลายแห่ง คุณออยเริ่มสนใจหลักสูตร Montessori และได้เกิดแรงบันดาลใจที่จะต้องการนำเสนอสิ่งดี ๆ และสิ่งที่คุณแม่ต้องการมอบให้แก่บุตร จึงหันมาริเริ่มก่อตั้งสถาบันเสริมสร้างพัฒนาการการเรียนรู้ Montessori ที่มีชื่อว่า “EarlMontessori Creativity Centre” โดยเปิดให้บริการสาขาแรก ในซอยทองหล่อ ใจกลางกรุงเทพ ฯ และได้รับผลตอบรับที่ดีจากคุณพ่อและคุณแม่มากมาย ปัจจุบัน EarlMontessori Creativity Centre มีมากกว่า 9 สาขา แล้วค่ะ

                                    ทำไมต้องเป็น มอนเตสซอรี่ ?

                                     การศึกษาในรูปแบบ มอนเตสซอรี่ ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ครบถ้วนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เด็กจะมีอิสระในการเลือกเรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองสนใจ  ผ่านการสัมผัสและการทำกิจกรรมจริง เน้นการช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด  กล้าคิด กล้าแสดงออก นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างทักษะในการแก้ปัญหา การคิดเชิงวิพากษ์ ความรับผิดชอบ และการทำงานร่วมกับผู้อื่น  และเพราะเด็กแต่ละคนมีวิธีการเรียนรู้และพัฒนาที่ไม่เหมือนกัน การเร่งหรือบังคับให้เด็กเรียนรู้ตามแบบที่กำหนด อาจทำให้พวกเขาเครียด หรือไม่ได้เข้าใจเรื่องนั้นอย่างแท้จริง ในระบบมอนเตสเซอรีเด็กจะได้เรียนรู้ตามจังหวะของตัวเอง ผ่านการทำสิ่งที่สนใจและมีแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกทักษะพื้นฐาน การหาคำตอบ หรือการลองทำสิ่งใหม่ ๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นในแบบที่เหมาะสมกับตัวเด็กเอง

                                    เรียนอย่างไรใน  Earl Montessori and Creativity Centre

                                    โรงเรียนมีความมุ่งหวังที่จะเลี้ยงดูเด็กเล็กให้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความมั่นใจ มีอิสระทางความคิดและมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และมุ่งมั่นที่จะมอบการศึกษา ที่ส่งเสริมความรักที่จะเรียนรู้ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการคิดอย่างมี ผ่านการเรียนรู้ ที่ลงมือทำ ด้วยตนเอง  และเรียนรู้เป็นภาษาอังกฤษกับครูต่างชาติที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน  เพื่อเสริมสร้างทักษะด้านภาษาอังกฤษให้กับเด็กตั้งแต่เล็ก ๆ และเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเด็ก ๆ ด้วยค่ะ

                                    โดยหลักสูตร จะเน้นการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ที่จับต้องได้ ( Hands-on Learning ) เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ เช่น ภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ทักษะชีวิตประจำวัน และศิลปะ ผ่านกิจกรรมที่เสริมสร้างพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจในทุก ๆ ด้าน การดรียนรู้ในรูปแบบนี้จะทำให้เกิดประสบการณ์การเรียนรู้ และการสะท้อนคิด ว่าชอบหรือไม่ชอบทำอะไร เพราะอะไร โดยการเรียนรู้จะเกิดขึ้นตามจังหวะที่เหมาะสมของเด็กแต่ละคน

                                    โรงเรียนไม่เพียงมุ่งหวังที่จะเลี้ยงดูเด็กเล็กให้เติบโตอย่างมั่นใจและอิสระทางความคิด แต่ยังเสริมสร้างความเห็นอกเห็นใจและการเข้าใจอารมณ์ของตนเองด้วยหลักสูตรพิเศษที่ผสมผสานแนวคิด Mindfulness and Meditation ซึ่งเหมาะสมสำหรับเด็กในทุกช่วงวัย

                                    กิจกรรม Mindfulness and Meditation ที่นี่มีความพิเศษอย่างไร?

                                    • ฝึกสมาธิผ่านเกมและการเล่านิทาน
                                      เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ผ่านเกมที่ช่วยกระตุ้นการจดจ่อ เช่น การฟังเสียงนาฬิกาเดิน การเรียงลูกปัดตามลำดับ หรือการตอบคำถามหลังการเล่านิทานเรื่องสั้น ซึ่งช่วยให้พวกเขาเรียนรู้การโฟกัสในสิ่งที่ทำตรงหน้า
                                    • การหายใจเพื่อผ่อนคลาย
                                      คุณครูจะสอนเด็ก ๆ ให้หัดหายใจเข้าลึก ๆ และหายใจออกช้า ๆ พร้อมกับการใช้ของเล่น เช่น บอลลูนสีสันสดใส หรือขนนกที่เด็ก ๆ สามารถเป่าให้เคลื่อนไหว เพื่อฝึกการควบคุมลมหายใจและจะช่วยทำให้เด็กผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น
                                    • โยคะสำหรับเด็ก
                                      การเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ผ่านโยคะง่าย ๆ เช่น ท่าแมว-วัว หรือท่าต้นไม้ ไม่เพียงช่วยพัฒนากล้ามเนื้อและการทรงตัว แต่ยังฝึกให้เด็กเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างร่างกายและจิตใจ
                                    เด็ก ๆ ฝึกโยคะและหายใจในห้องเรียนที่ตกแต่งอย่างอบอุ่น

                                    จุดเด่นของ Earl Montessori and Creativity Centre

                                    จุดเด่นของโรงเรียนคือการเรียนรู้ที่เน้นความเป็นอิสระของเด็ก ๆ โดยให้เด็กมีบทบาทในการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ และทำกิจกรรมตามความสนใจและความสามารถของตัวเอง นอกจากนี้การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและวัสดุการเรียนรู้ที่ออกแบบมาเฉพาะยังช่วยให้เด็กพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนให้เด็ก ๆ สามารถที่จะเข้าถึงศักยภาพของตนเอง และต้องการที่จะมอบประสบการณ์การศึกษาที่เสริมสร้างและเสริมศักยภาพให้กับเด็กเล็ก เรามุ่งมั่นที่จะนำหลักสูตรมอนเตสเตอรีไปใช้และชี้แนะเด็ก ๆ ในการเรียนรู้ของแต่ละคน มีคุณครูและเจ้าหน้าที่ที่ทุ่มเทเอาใจใส่เด็ก ๆ และ มุ่งมั่นที่จะปลูกฝังความรักในการเรียนรู้  ปลูกฝังความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคมที่แข็งแกร่ง ส่งเสริมการเติบโตแบบองค์รวมเตรียมเด็ก ๆ ให้พร้อมกลายเป็นบุคคลที่มีความมั่นใจและรอบรู้ ในโลกปัจจุบันและอนาคต

                                    หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้โรงเรียนแตกต่าง คือการผสมผสาน Mindfulness and Meditation ในกิจกรรมประจำวันของเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเริ่มต้นวันใหม่ ช่วงพักกลางวัน หรือช่วงปิดท้ายวัน เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ มีสมาธิพร้อมเรียนรู้และผ่อนคลายความตึงเครียด

                                    ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน:

                                    • เด็ก ๆ มีความสงบมากขึ้น และพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีสติ
                                    • เสริมสร้างความสามารถในการควบคุมอารมณ์ เช่น การจัดการกับความหงุดหงิด ความโกรธ หรือความไม่พอใจ
                                    • พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา ซึ่งช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ในด้านวิชาการ

                                    สภาพแวดล้อมแบบมอนเตสซอรี่

                                    การออกแบบสถานที่ ใน Earl Montessori and Creativity Centre ทุก ๆ สาขาจะคำนึงถึงความสะดวกสบายและความปลอดภัยของเด็ก โดยจะจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นที่ที่เด็กสามารถสำรวจและเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เช่น ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับขนาดตัวเด็ก ใช้วัสดุการเรียนรู้ที่ทนทานและปลอดภัย รวมถึงมีพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเพียงพอ  มีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเล่นและเรียนรู้อย่างแท้จริง ทำให้เด็ก ๆ ผ่อนคลายและสนุกในการเรียนรู้มาก ๆ ค่ะ

                                    โรงเรียนทำงานร่วมกับผู้ปกครอง

                                    โรงเรียนเชื่อในการสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างครูและผู้ปกครองเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีที่สุดให้กับเด็ก

                                    ๆ โดยมีการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอหลังจบคลาส และมีการประเมินพัฒนาการ (Denver II) เพื่อติดตามความก้าวหน้าของเด็กในแต่ละสัปดาห์ซึ่งช่วยให้ทั้งครูและผู้ปกครองสามารถร่วมมือกันในการสนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็กอย่างมีประสิทธิภาพ และยังพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากผู้ปกครองเพื่อพัฒนา ปรับปรุงและแก้ไขให้ดีขึ้น

                                    Mommy Loves This ถูกใจแม่ !

                                    1. เรียนที่ Earl Montessori จะทำให้เด็กเข้าสังคมเก่งขึ้น มั่นใจมากขึ้น  เพราะการเรียนรู้ที่ดีเริ่มจากการพัฒนาทักษะชีวิตและอารมณ์ ซึ่งที่นี่เน้นมาก ๆ เลยค่ะ
                                    2. จัดเตรียมอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสมดุล จากวัตถุดิบธรรมชาติ เพื่อเสริมสร้างร่างกายที่แข็งแรงพร้อมทั้งให้เด็กมีโอกาสเรียนรู้การเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การเรียนรู้เหล่านี้ไม่เพียงช่วยพัฒนาร่างกาย แต่ยังส่งเสริมทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่นและการดูแลตัวเองอย่างมีความรับผิดชอบด้วยค่ะ
                                    3. สาขาเยอะมาก คุณพ่อคุณแม่สะดวกที่ไหน พาลูกไปเรียนที่นั่นได้เลย

                                    ที่อยู่ Earl Montessori
                                    สาขา สุขุมวิท 26

                                    เลขที่ 59/70 สุขุมวิท 26 ซ.ท่านหญิงพวงรัตน์ประไพ ถนนสุขุมวิท คลองเตย กรุงเทพมหานคร เบอร์ติดต่อสาขา 096-896-9936

                                    สาขาหัวหมาก

                                    เลขที่ 64 หัวหมาก ซ.8, ถนนรามคำแหง บางกะปิ กรุงเทพมหานคร เบอร์ติดต่อสาขา 063-662-6562

                                    สาขาราชพฤกษ์The Crystal SB Ratchapruek นนทบุรี เบอร์ติดต่อสาขา 065-226-2549

                                    สาขาพระราม 2

                                    Hong Tower ชั้น 3 ถนนเทียนทะเล บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เบอร์ติดต่อสาขา 062-534-9246

                                    สาขาสุขุมวิท 68

                                    70, 4 ซ.สุขุมวิท 68 บางนาเหนือ บางนา กรุงเทพมหานคร เบอร์ติดต่อสาขา 080-069-2390

                                    สาขาหาดใหญ่

                                    538 Kanjanavanich Rd, Kho Hong, Hat Yai District, Songkhla เบอร์ติดต่อสาขา 065-238-3854

                                    สาขาบางนา

                                    1 ซ.แบริ่ง11 บางนาใต้ บางนา กรุงเทพมหานคร เบอร์ติดต่อสาขา 065-441-6399

                                    สาขา นครปฐม

                                    เลขที่ 62/47 หมู่บ้านนิรติ ถ.เพชรเกษม ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม เบอร์ติดต่อสาขา 081-224-5656

                                    สาขาเชียงใหม่

                                    353 ยางเนิ้ง อำเภอสารภี เชียงใหม่ เบอร์ติดต่อสาขา 082-256-2636

                                    สาขาติวานนท์ และ สาขาภูเก็ต ( เร็ว ๆ นี้ )

                                    Editor : แม่เลม่อน
                                    ภาพ : ภาพข่าวประชาสัมพันธ์