เทคนิคเลี้ยงลูก ให้สุขภาพจิตแข็งแรง

Alternative Textaccount_circle
event

สถิติการป่วยทางจิตของเด็ก

ประเทศไทยเราเคยสำรวจเด็กเฉพาะในโรงเรียนพบว่า เรามีเด็กป่วยเป็นโรคสมาธิสั้นอยู่ที่ประมาณ 8% โรคซึมเศร้า 1% ภาวะบกพร่องทางการเรียนเยอะหน่อย 10-15% โรควิตกกังวล 5% และโรคจิตเวชส่วนใหญ่เกิดในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 3-5 เท่าทุกโรค  ยกเว้นโรคที่มักทำร้ายตัวเอง เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคกลุ่มนี้จะเจอในผู้หญิงมากกว่า แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้หญิงเป็นก็จะอาการหนักกว่าผู้ชาย 3-5 เท่า คือรักษายากกว่า เช่น เด็กผู้หญิงที่เป็นสมาธิสั้นรักษายากกว่าเด็กผู้ชายที่เป็นสมาธิสั้น

แต่ปัญหาหลักของประเทศเราคืออัตราการเข้ารักษาก็ยังน้อยมากในทุกๆ โรค ต้องยอมรับว่ามันยังมีทัศนคติว่า โรคซนบนโลกนี้มันจะมีได้อย่างไง โรคอ่านหนังสือไม่ออกมีด้วยเหรอ อย่างโรคทางกายมันมีอาการที่เห็นชัดจับต้องได้ เป็นรูปธรรมคนก็เข้าใจ แต่ถ้าเป็นภาวะทางจิตเวช มันเป็นสิ่งที่ไม่เห็น มันเป็นพฤติกรรม เป็นความรู้สึก นี่แหละยากในการจับต้อง เพราะฉะนั้นเด็กที่มีปัญหาในเรื่องนี้ก็น่าสงสารตรงที่คนจะไม่เข้าใจ มองว่าเด็กขี้เกียจ แย่ นิสัยไม่ดี ไม่ตั้งใจ แต่ทั้งที่จริงเพราะว่าเขาทำไม่ได้ แม้บางคนจะรู้ว่าเด็กป่วย แต่ทัศนคติที่ฝังลึก ก็จะทำให้เกิดคำถามว่าจริงหรอ พ่อแม่บางคนบอกเข้าใจก็ได้ แต่ก็ยังคิดว่า ลูกโตขนาดนี้ก็น่าจะทำได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่ว่า  โรคจิตเวชก็เหมือนผู้ป่วยพิการแขนขา  แม้เวลาจะผ่านไปอีกสิบปีคนพิการก็ยังไม่สามารถทำให้แขนขางอกออกมาใหม่ได้ เด็กที่เป็นโรคจิตเวชก็เหมือนกัน มันก็เป็นความผิดปกติของสมองซึ่งเรามองไม่เห็น มันเสียจากสมองไปแล้ว มันไม่สามารถงอกใหม่ได้

และโรคพวกนี้ถึงจะรักษา อย่างสมาธิสั้น หนึ่งในสามดี หนึ่งในสามทรงๆ หนึ่งในสามก็เกเรเหมือนเดิม เพราะถึงแม้พ่อแม่จะปรับเปลี่ยนการเลี้ยงดู แต่บ่อยครั้งเราก็ไม่สามารถควบคุมความเข้มข้นของพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมนอกบ้านได้ แต่หมอและครอบครัวก็ต้องช่วยกัน แม้เขาจะยังแย่อยู่ แต่อย่างไรก็อย่าให้เขาทำผิดกฎหมาย และสุดท้ายก็ให้ทำมาหากินต่อไปได้ เท่านี้ก็ดีที่สุดแล้วค่ะ

 

 โรคจิตเวชรักษาตอนเด็กแต่โตขึ้นก็อาจจะเป็นได้อีก

โรคทั้งหมดที่หมอพูดถึงทุกโรครักษาแล้วดีขึ้น แต่บางโรคอาจรักษาแล้วไม่หายขาด คือโรคจิตเวชจริงๆเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของสมองทุกโรค แต่ที่เขาจับมาอยู่จิตเวชเพราะสมัยก่อนไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เขาก็จับมารวมๆกัน ตอนนี้พอมีความเจริญก้าวหน้า มีงานวิจัย พบว่าทุกอย่างเกิดจากกรรมพันธุ์เกิดจากความผิดปกติของยีน มันเป็นสิ่งที่แก้ไม่ได้ เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น เขาก็เลยเอามารวมกันตรงนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อพื้นฐานมันเบี้ยวมาแล้ว แนวโน้มที่มันจะเบี้ยวต่อก็มีโอกาส แต่เราจะทำให้มันตรงที่สุดได้ก็ด้วยสามสิ่งนี้ คือ ถ้าพ่อแม่ปรับได้ ชุมชนปรับได้ สังคมปรับได้ มันช่วยให้เบี้ยวน้อยลงได้อยู่แล้ว แต่จะช่วยไหมล่ะ แค่นั้นเอง

อ่านต่อ >> “โซเซียลมีเดีย ส่งผลต่อสุขภาพจิตลูก!!!” คลิกหน้า 6

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up