7 วิธีสอนลูกให้เป็นคนดีมีคุณค่า

event

วิธีสอนลูกให้เป็นคนดี

5. สอนให้ลูกรู้จักฟังมากกว่าพูด กับทุกๆคน

การรับฟังอีกฝ่าย คือวิธีแสดงออกว่าเราใส่ใจคนคนนั้นมากแค่ไหน ซึ่งผู้ฟังที่ดีไม่ควรพูดขัดจังหวะขณะที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ หรือชิงแสดงความคิดเห็นหากเขาไม่ได้ร้องขอ คุณอาจพลาดโอกาสได้ทำความรู้จักอีกฝ่ายมากขึ้น รวมถึงทำให้อีกฝ่ายเหนื่อยหน่ายที่จะคุยด้วย ในทางตรงกันข้าม การสบตา (Eye Contact) พยักหน้ารับคำ หรือตอบรับเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังคุยไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ตาม จะทำให้ใครๆ เปิดใจกับคุณ และรู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วย

6. สอนลูกเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน

บางครั้งการให้เพราะคิดจะให้ ก็ทำให้คุณรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะคุณจะไม่ต้องมัวเสียเวลาคิดว่าเค้าจะตอบแทนเราแบบไหน คุ้มไม่คุ้ม พาลจะทำให้คุณคิดว่าตัวเองไม่มีค่าเค้าถึงไม่เห็นความดี ในทางตรงกันข้าม การให้จากใจนั่นล่ะที่มีค่าที่สุด หากไม่เดือดร้อนตัวเองก็จงให้ไปเถอะ ขอแค่สบายใจที่ได้ให้ก็พอ แล้วมันจะเป็นพลังดีๆ ที่ดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหาคุณ

7. สอนลูกให้มีความเพียรพยายามมานะอดทน

ในที่นี้ หมายถึง ความบากบั่น ความกล้าหาญ การมุ่งมั่นไปข้างหน้า การไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหาใดๆ เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกเป็นคนที่มีความเพียรพยายามมานะอดทนต่อความยากลำบาก เพราะคนที่มีความมานะอดทนจะไม่ท้อถอยแม้มีปัญหามากมายเข้ามาในชีวิต อีกทั้งรู้จักต่อสู้กับความพ่ายแพ้ในทุกรูปแบบของชีวิตด้วยความถูกต้องชอบธรรมโดยไม่ทำร้ายผู้อื่น ซึ่งคนประเภทนี้แหละที่เป็นที่ต้องการของสังคมไทยยุคปัจจุบัน

การที่พ่อแม่สอนให้ลูกเป็นคนเพียรพยายามนั้น ต้องสอนตั้งแต่เล็กๆ โดยการเริ่มต้นให้ลูกรู้จักการช่วยเหลือตัวเองในเรื่องกิจวัตรประจำวัน เช่น การอาบน้ำแต่งตัว การรับประทานอาหาร การทำการบ้าน โดยที่พ่อแม่ควรให้ลูกทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง อย่าโอ๋ลูกจนเกินไป เพื่อที่ลูกจะไม่กลายเป็นลูกแหง่หรือเด็กขี้แยไร้เหตุผลไปจนโต

เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกเติบโตขึ้นเป็นทั้งคนดีและเก่ง แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าลูกเป็นคนเก่ง มีความสามารถ แต่เป็นคนไร้ซึ่งความเมตตากรุณา ความซื่อสัตย์ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความกตัญญูและความอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะคุณค่าของความเป็นคนอยู่ที่ความดี เมื่อมีคนดี สังคมย่อมดีตาม สังคมดีในอุดมคติจะเกิดขึ้นได้เมื่อทุกคนเข้าใจและเห็นพ้องกันว่า “เป็นคนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง” นั่นเองค่ะ

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


บทความอ้างอิงโดย: ดร.แพง ชินพงศ์ www.manager.co.th , storylog.co

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up