แม่แชร์เตือน! โรคโตเกินวัย ภัยเงียบคุกคามเด็กยุคใหม่ - Amarin Baby & Kids
โรคโตเกินวัย เป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยอันควร

แม่แชร์เตือน! โรคโตเกินวัย ภัยเงียบคุกคามเด็กยุคใหม่

Alternative Textaccount_circle
event
โรคโตเกินวัย เป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยอันควร
โรคโตเกินวัย เป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยอันควร

โรคโตเกินวัย ผลกระทบจากพฤติกรรม อาหารของเด็กยุคใหม่ ภัยเงียบนี้กำลังคุกคามลูกอยู่หรือไม่ มาร่วมสังเกตและฟังเรื่องราวจริงของแม่เจ้าของเรื่องไปพร้อมกันกับเรา

แม่แชร์เตือน! โรคโตเกินวัย ภัยเงียบคุกคามเด็กยุคใหม่

วันนี้แม่จะมาแชร์เรื่อง #โรคเป็นสาวก่อนวัยอันควร ที่ได้เข้ากรับการปรึกษาจากคุณหมอค่ะ
โพสนี้ต่อเนื่องจากโพสก่อนนะคะ #โรคเป็นสาวก่อนวัยอันควร
หลังจากที่คุณหมอได้นัดอีก 3 เดือนถัดมา
เพื่อทำการตรวจร่างกาย ผลปรากฎว่า น้องน่าจะเข้าข่ายของการเป็นสาวก่อนวัยอันควร จึงได้นัดทำ LAB TEST เพื่อหาผลที่แท้จริง
วันที่นัดทำเทส น้อง อายุ 8 ขวบ 21 วันค่ะ
ไปถึง ต้องทำการเจาะเลือด 3 รอบ ห่างกัน รอบละ ครึ่งชั่วโมง (คุณพยาบาลจะคาเข็มไว้ที่มือ)
และฉีดยากระตุ้นฮอร์โมน 1 เข็ม
หลังจากครบ 3 รอบ ก็รอผล LAB ประมาณ 1.30 ชม.
สรุป น้อง #สาวก่อนวัยอันควร ผลที่ได้ ค่าเฉลี่ยร่างกายน้องอยู่ประมาณ 0.8 ซึ่งถ้าปกติจะอยู่ที่ 0.5
แม่แชร์! ผลแลปแสดงผล โรคโตเกินวัย
แม่แชร์! ผลแลปแสดงผล โรคโตเกินวัย

แนวทางการรักษา

ต้องฉีดยาระงับการเติบโตของหน้าอก เดือนละ 1 เข็ม เป็นเวลา 3 เดือน คุณหมอต้องการให้หน้าอกน้องยุบ
หลังจากเดือนที่ 3 ก็จะฉีดยายับยั้งการเติบโตของร่างกาย 1 เข็ม ทุก 3 เดือน เป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี
คุณหมอคาดว่าจะให้หยุดฉีดยา และปล่อยให้ร่างกายเติบโตปกติ ตอนอายุ 10 ปี หรือ มากกว่านิดหน่อย
หลังจากหยุดฉีดฮอร์โมน ประจำเดือนน้องจะมา ภายใน 1.5-2 ปี (แล้วแต่สภาพร่างกายแต่ละบุคคล)
ค่าฉีดยา 1 เข็ม / 3 เดือน อยู่ที่ 10,000 บาท
การรับประทานอาหาร
นม วันละ 2 กล่อง ไข่ วันละ 1 ฟอง
งดอาหารแปรรูปต่างๆ งดไม่ได้ ให้น้อยลง
สรุปค่ารักษาพยาบาลวันนี้ LAB TEST ค่าฉีดยากระตุ้น ค่ารักษา 8,231 บาท ค่ะ
แม่ๆ ท่านใดมีบุตรหลาน อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน น้องเริ่มมีฐานหน้าอก คิดว่าน้องโตไว ปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางได้นะคะ รู้ไวก็รักษาได้ไวค่ะ
ปล.วันที่น้องไปพบคุณหมอ ก็มีน้อง ๆ ไปปรึกษาเรื่องเดียวกัน 3-4 คน เด็ก ๆ สมัยนี้โตเร็วมากค่ะ
*** ไม่ดราม่า เรื่องแนวทางการรักษาของคุณหมอ คุณหมอต้องดูเป็นเคส ๆ ไป เด็กแต่คนร่างกายเติบโตไม่เท่ากัน
ทำไมไม่ปล่อยให้น้องโตตามธรรมชาติ ตอบ ไม่อยากให้ประจำเดือนน้องมาไว น้องจะหยุดสูง อยากให้ลูกตัวสูงค่ะ
ตอนฉัน ประจำเดือนมาตอน ป.2 ป.3 ตอนนี้ก็ปกตินิ ตอบ สมัยเรากับสมัยนี้ การทานอาหารต่างกัน การเลี้ยงดูต่างกัน
สรุป เพราะแม่สะดวกแบบนี้ค่ะ ☺️
ขอขอบคุณคุณแม่เจ้าของเรื่องที่แบ่งปันเรื่องราว yuicrochet
ภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย โรคโตเกินวัย ภัยเงียบคุกคามเด็ก
ภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย โรคโตเกินวัย ภัยเงียบคุกคามเด็ก

โรคโตเกินวัย ภัยเงียบคุกคามเด็กไทย!!

การเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิด หรือโรคอุบัติใหม่ เพียงแต่ว่าในปัจจุบันคนเราเริ่มหันมาตระหนัก และสนใจต่อพัฒนาการของลูกมากกว่าแต่ก่อนมาก อาจด้วยสภาพสังคมที่นิยมมีลูกน้อยคนลงจากเมื่อก่อน และความรู้ที่พ่อแม่มีเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก อีกทั้งยังด้วยพฤติกรรมของเด็ก อาหารการกินที่เปลี่ยนไป ทำให้ปัจจุบันเราจะพบว่า ปัญหาการเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย จึงมักเห็นได้มากขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะการที่พ่อแม่รู้เร็วว่าลูกอยู่ในภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย ก็จะทำการแก้ไขได้ทัน แต่จะทราบได้อย่างไรว่าลูกของคุณพ่อคุณแม่เข้าสู่ภาวะเป็นสาว หรือเป็นหนุ่มก่อนวัย แล้วมากแค่ไหนเราถึงจัดว่าเป็นโรคโตเกินวัยกันนะ

โดยทั่วไปแล้วเด็กผู้หญิงจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์และเริ่มมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่ออายุ 8 ปีขึ้นไป ขณะที่เด็กผู้ชายจะเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ช้ากว่าเล็กน้อย คือเริ่มตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป

ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในวัยเจริญพันธุ์

  เด็กผู้หญิง  

  1. มีเต้านม บางกรณีอาจพบเต้านมเจริญขึ้นเพียงข้างเดียว
  2. เริ่มมีขนบริเวณอวัยวะเพศ และรักแร้
  3. มีส่วนสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  4. เริ่มมีสิวบนใบหน้า และมีกลิ่นตัว

  เด็กผู้ชาย  

  1. มีการขยายตัวของลูกอัณฑะ และองคชาติ
  2. เริ่มมีขนขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ และรักแร้
  3. มีส่วนสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  4. เสียงเริ่มแตก
  5. ใบหน้ามีสิว มีหนวด และมีกลิ่นตัว
เด็กผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงเป็น โรคโตเกินวัย มากกว่าผู้ชาย
เด็กผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงเป็น โรคโตเกินวัย มากกว่าผู้ชาย

วิธีสังเกตเมื่อลูกมีภาวะเป็นหนุ่มสาวก่อนวัย  

ภาวะเป็นสาวก่อนวัยหมายถึง ภาวะที่เด็กหญิงเริ่มมีเต้านมก่อนอายุ 8 ปี หรือมีประจำเดือนก่อนอายุ 9 ปี โดยปกติแล้ว เมื่อเด็กหญิงเริ่มเป็นสาว จะมีฮอร์โมนเพศเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย คือ เริ่มมีเต้านม มีความสูงเพิ่มเร็วขึ้น โดยสังเกตจากอัตราการเพิ่มความสูงจะมากกว่า 5-6 ซม. ต่อปี จนเมื่อเข้าสู่การเป็นสาวเต็มที่ ก็จะมีประจำเดือน และจะหยุดสูงหลังจากมีประจำเดือนสม่ำเสมอไปแล้วประมาณ 3 ปี   สำหรับภาวะเป็นหนุ่มก่อนวัย ดูได้จากการมีหนวด เสียงแตกเร็วกว่าเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกัน

สาเหตุโรคโตเกินวัย เป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย!!

การที่เด็กเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยมีมาได้จากหลายสาเหตุ และมักจะเกิดกับเด็กผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ โดยเราอาจแยกสาเหตุออกเป็น 3 ข้อ ดังนี้

1.สาเหตุจากภายนอก
ในวัยเด็กผู้ป่วยอาจได้รับฮอร์โมนเพศปะปนโดยไม่ตั้งใจ เช่น การกินวิตามินบางชนิดเพื่อจุดประสงค์ที่ทำให้โตเร็ว โดยที่จริงอาจมีฮอร์โมนเพศเป็นส่วนผสมอยู่ จึงทำให้เด็กดูอ้วนขึ้นโตกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน

2.สาเหตุจากภายใน
เกิดจากการทำงานของสมองส่วนไฮโพทาลามัส และบริเวณต่อมใต้สมองทำงานผิดปกติ ทำให้มีการหลั่งฮอร์โมนเพศเร็วกว่าวัยอันควร อาจจะพบในเด็กที่ได้รับการกระทบกระเทือนบริเวณสมอง เช่น อุบัติเหตุ เคยได้รับการฉายแสง หรือมีก้อนเนื้องอกในสมอง ความผิดปกติในการทำงานของรังไข่หรืออัณฑะ หรืออาจจะไม่ทราบสาเหตุได้

3.ไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน
ปัจจุบันเด็กผู้หญิงประมาณ 90-95% และเด็กผู้ชาย มีแนวโน้มเข้าสู่วัยหนุ่มสาวเร็วขึ้นกว่าเมื่อในอดีต โดยสาเหตุอาจสัมพันธ์กับภาวะโภชนาการ ชนิดของอาหารที่มีไขมันสูง และพบว่าเด็กอ้วนมีแนวโน้มเข้าสู่วัยหนุ่มสาวเร็วกว่าเด็กผอม

โรคโตเกินวัย ส่งผลกระทบต่อลูกใช่แค่เรื่อง..สูง!!

การที่เด็กมีภาวะเป็นหนุ่มสาวก่อนวัย การเจริญเติบโตที่เร็วกว่าปกติ โรคโตเกินวัยอาจส่งผลกระทบต่อลูกหลายด้าน ไม่เพียงแค่เรื่องของความสูงเท่านั้น พ่อแม่อาจคิดไม่ถึงว่า การที่ลูกต้องเผชิญกับภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย การที่มีลักษณะแตกต่างจากเพื่อนในวัยเดียวกัน นอกจากส่งผลด้านร่างกาย แล้วยังมีผลกระทบต่อด้านจิตใจ และสังคมของลูกอีกด้วย

เป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย ส่งผลกระทบต่อลูกไม่ใช่แค่ความสูง
เป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย ส่งผลกระทบต่อลูกไม่ใช่แค่ความสูง
  1. ผลกระทบทางด้านร่างกาย แม้ว่าฮอร์โมนเพศหญิงจะทำให้เด็กโต และสูงเร็วกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดการเชื่อมปิดของกระดูกที่เร็วเกินไป ทำให้หยุดสูงเร็ว ส่งผลให้เด็กจะเตี้ยกว่าปกติเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
  2. ผลกระทบทางด้านจิตใจ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายก่อนวัย ทำให้ไม่เหมือนเพื่อนในวัยเดียวกัน และอาจถูกเพื่อนล้อทำให้อับอาย ขาดความมั่นใจในตนเอง เกิดภาวะซึมเศร้า
  3. ผลกระทบทางด้านสังคม การที่เด็กเริ่มเป็นสาวก่อนวัย จะมีแนวโน้มที่จะมีประจำเดือนเร็ว จึงอาจส่งผลต่อการดูแลตนเองที่ไม่ดีพอ เพราะยังอยู่ในวัยเด็ก ไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ อีกทั้งอาจเกิดปัญหาการถูกล่อลวงต่าง ๆ เนื่องจากพัฒนาการทางร่างกายที่โตเป็นสาว แต่จิตใจกลับโตไม่สอดคล้องกันกับร่างกาย ทำให้เป็นจุดสนใจ และเกิดการล่อลวงได้ง่าย

เมื่อลูกเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยจะทำอย่างไร??    

อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า โรคโตเกินวัย ไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ เพียงแต่ปัจจุบันเรามีข้อมูลทำให้เกิดการสังเกต และมีวิธีการรักษาที่ได้ผลดี ช่วยทำให้ลดการเกิดปัญหา และผลกระทบต่าง ๆ ลงไปได้ ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย ก็ไม่ควรจะตระหนกตกใจ ควรอธิบายให้กับลูกฟังตามความเป็นจริง ถึงลักษณะต่าง ๆ ที่เขาต้องเจอ รวมถึงวิธีการรักษา ให้กำลังใจ และให้ความเชื่อมั่นแก่ลูกว่าไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอาย หรือเศร้าใจ ดั่งคำแนะนำของคุณหมอที่ได้กรุณาให้คำแนะนำไว้ ดังนี้

     เมื่อพบว่าลูกกำลังเผชิญกับภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย  สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ คือให้ความรู้กับลูกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นโดยอธิบายตามความเป็นจริง ไม่ควรโกหกลูก และถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องรักษาก็อธิบายให้ลูกฟังว่าผลเสียของการไม่รักษามีอะไรบ้าง นอกจากนี้ การให้ความรู้เรื่องเพศแก่ลูกตามความเหมาะสมของวัยจะทำให้เด็กรับรู้สภาพของตัวเอง และไม่ตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย สำหรับการลดความเสี่ยงต่อการเป็นหนุ่มสาวก่อนวัยที่ง่ายที่สุด ก็คือการควบคุมน้ำหนักของเด็กให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยเน้นโภชนาการที่เหมาะสม และให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย ผิดปกติที่รังไข่หรือมดลูก ซึ่งหากขั้นตอนนี้ไม่พบอะไรแพทย์จะทำการรักษาด้วยยาฉีดควบคุมฮอร์โมนเพศ โดยจะฉีดหนึ่งเข็มทุก ๆ สี่สัปดาห์ จนกว่าอายุจริงจะเท่ากับอายุกระดูกหรือจนกว่าเด็กหญิงจะมีอายุพร้อมที่จะเข้าสู่วัยรุ่นคืออายุประมาณ 10-11 ปี

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก แพทย์หญิง วรพร ตันติจิตตานนท์ กุมารเวชศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อ และเมตาบอลิสม รพ.นนทเวช
พัฒนาการทางร่างกายเร็วกว่าวัยของเด็ก ส่งผลกระทบหลายด้าน
พัฒนาการทางร่างกายเร็วกว่าวัยของเด็ก ส่งผลกระทบหลายด้าน

เมื่อเข้าใจใน โรคโตเกินวัย หรือ ภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยกันดีแล้ว  คุณพ่อคุณแม่คงจะสบายใจขึ้นบ้างแล้วว่าหากลูกเกิดภาวะดังกล่าว เราควรปฎิบัติตัวกันอย่างไร เพื่อให้ลูกของเราสามารถก้าวผ่านไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเขา เหมือนดั่งที่คุณแม่เจ้าของเรื่องที่กรุณามาแชร์ประสบการณ์ให้กับครอบครัวอื่น ๆ ได้ตระหนักรู้ สังเกต และทราบวิธีปฎิบัติตัวที่ถูกต้อง เพราะลูกคือสิ่งสำคัญสำหรับพ่อแม่ทุกคน ทีมแม่ ABK รู้ดีว่า เราสามารถก้าวข้ามผ่านปัญหาไปพร้อม ๆ กันได้

ข้อมูลอ้างอิงจาก โรงพยาบาลรามคำแหง / RAMA9 Hospital

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

ลูกมีตุ่มคล้ายยุงกัด แต่ไม่คันเฝ้าระวัง โรคฮีน็อค อันตราย!

ทำความรู้จัก!! วัคซีน Pfizer ป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็ก

แม่แชร์ เมื่อลูกติดโควิด! วิธีรักษา – Home Isolation เด็ก

โรค เป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย ปล่อยไว้อาจตัวเตี้ย!

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up