นิทานกล่อมนอน

นิทานกล่อมนอน ลงทุนน้อย แต่ลูกได้รับประโยชน์มากมาย

Alternative Textaccount_circle
event
นิทานกล่อมนอน
นิทานกล่อมนอน

นิทานกล่อมนอน กิจกรรมในครอบครัวก่อนนอนที่ ช่วยสร้างความรัก ความอบอุ่น และสัมพันธ์อันดีในครอบครัว ทำให้ลูกนอนหลับอย่างมีความสุข

นิทานกล่อมนอน ลงทุนน้อย แต่ลูกได้รับประโยชน์มากมาย

เมื่อถึงเวลานอนลูกจะไม่ปฏิเสธเพราะมี นิทานกล่อมนอน ที่ลูกรอฟังอยู่ทุกคืน นอกจากความสนุกสนานเพลิดเพลินที่ลูกได้รับแล้ว ยังมีประโยชน์อีกมากมายจากการอ่านนิทานให้ลูกฟัง ทีมกองบรรณาธิการ ABK จึงรวบรวมข้อมูลดี ๆ ที่จะพาไปรู้จักและเข้าใจประโยชน์ของการอ่านนิทาน ว่าทำไมบางครอบครัวถึงให้ความสำคัญกับการอ่านนิทานให้ลูกฟังกันเป็นพิเศษ

นิทานกล่อมนอน
นิทานกล่อมนอน

นิทานกล่อมนอน ลงทุนน้อย แต่ลูกได้รับประโยชน์มากมาย

การที่จะเลี้ยงดูให้เด็กเจริญเติบโตขึ้นมาเป็น คนดี คนเก่ง ได้นั้น มีปัจจัยหลายอย่าง และสิ่งหนึ่งที่บางครอบครัวลืมนึกไปนั่นก็คือ “การอ่านนิทานให้ลูกฟัง”

เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่หยิบ นิทานกล่อมนอน มาเล่า อ่าน เปล่งเสียง ให้ลูกฟัง หรือหยิบหนังสือภาพมาให้เด็กดูตาม ก็จะเกิดผลดีมากมาย ไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกรู้ภาษาก่อน สามารถทำได้เลย ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่ลูกอยู่ในครรภ์คุณแม่เลยทีเดียว

“การอ่านนิทานให้ลูกฟัง” เป็นช่วงเวลาทองที่ควรค่าแก่การปลูกฝังในทุก ๆ ครอบครัว เพราะในช่วงปฐมวัย เป็นวัยแห่งการเริ่มต้นเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นช่วงที่มนุษย์เรามีความสามารถในการพัฒนาสมอง และทักษะทุกด้านกว่า 80% ของชีวิต 

ประโยชน์จากการ อ่านนิทาน ให้ลูกฟัง

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์ และนักเขียน ได้กล่าวว่า การอ่านนิทานให้ลูกฟังเป็นกิจกรรมที่ทุกบ้านสามารถทำได้ ขอแค่มีหนังสือนิทาน มีผู้ปกครองคอยเล่าให้ฟัง แม้จะไม่ได้อ่านสนุกหรือตลกมาก ก็เกิดประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็กอย่างมหาศาล ความจริงแล้วผู้ปกครองจะเลือกอ่านให้เด็กฟังในช่วงเวลาไหน ตอนไหนก็ได้ แต่โดยส่วนตัวตนจะสนับสนุนให้อ่าน นิทานก่อนนอน เพราะอยากให้ผู้ปกครองใช้เวลาส่งลูกเข้านอน หากิจกรรมทำร่วมกัน ถือเป็นเวลาคุณภาพ (Quality Time) ในช่วง 20.30 น. ไม่เกิน 21.00 น. ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที หากเทียบกับกิจกรรมอื่น ๆ ถือว่าใช้เวลาน้อยมาก หากทำติดต่อกันทุกวันเป็นระยะเวลา 3 ปี จะเกิดประโยชน์มากมาย เด็กจะมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว เฉลียวฉลาด รักการอ่าน เป็นเด็กดี เชื่อฟัง ที่สำคัญเป็นการกระตุ้นพัฒนาการของสมองส่วนหน้า และเป็นเหมือนข้อบังคับของบ้านว่า ไม่ว่าผู้ปกครองจะทำงานหรือมีกิจกรรมอะไร อย่างน้อยในหนึ่งวันจะต้องส่งลูกเข้านอน และมีเวลาคุณภาพร่วมกัน

นพ.ประเสริฐ สรุปภาพรวมการอ่านนิทานไว้ดังนี้

1. การอ่านนิทานเป็นการผจญภัยไปกับพ่อแม่ : เป็นช่วงเวลาคุณภาพที่ผู้ปกครองจะจดจ่ออยู่กับการอ่านและลูก สร้างความคิดที่ว่าแม่มีอยู่จริง การอ่านนิทานก่อนนอนในช่วงเวลาเดียวกันในทุก ๆ วัน จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกฝังวินัยการตรงต่อเวลา เช่นเดียวกับการกำหนดเวลาตื่นนอน กินอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น เมื่อเด็กมีความตรงต่อเวลาเหล่านี้อย่างแม่นยำ ก็มีแนวโน้มว่าเรื่องอื่น ๆ ก็จะทำได้ตรงเวลาเช่นกัน

2. การอ่านนิทานเป็นการผจญภัยไปในสมอง : ทุกครั้งที่เด็กได้ฟังนิทานหรือได้อ่านด้วยตัวเอง เซลล์ประสาทจะแตกแขนงออกมาเป็นร่างแหของเส้นประสาท ดังนั้นใน 2 ขวบปีแรก สมองของเด็กจึงเปลี่ยนแปลงทุกวัน ที่สำคัญอย่าเป็นกังวลหากเด็ก ๆ จะชอบฟัง หรืออ่านนิทานเล่มเดิม เพราะถึงแม้ว่าหนังสือจะเป็นเล่มเดิม เรื่องราวเดิม แต่การคิด การตีความ หรือการวาดภาพในสมองของเด็กจะต่างกันออกไป

3. การอ่านนิทานเป็นการผจญภัยไปในจิตใต้สำนึก : เพราะหนังสือนิทานมีหลากหลายเรื่องราว มีทั้งด้านดี สมหวัง สนุกสนาน สดชื่น แจ่มใส และบางเรื่องก็อาจแฝงด้านมืดมาเป็นข้อคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ผู้ปกครองต้องอย่ากลัวที่จะหยิบยื่นเรื่องราวที่หลากหลาย เพราะร้อยละ 99 ของนิทานประกอบหนังสือภาพ ศิลปินนั้นสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้ศิลปะเป็นสื่อ การที่เด็กได้ฟังหรืออ่านนิทานเหล่านี้ ก็เหมือนกับการระบายความรู้สึกในใจออกมา และหนังสือเหล่านี้ยังให้แง่คิดในเรื่องของการพลัดพราก ผี ปีศาจ และความตาย ที่จะเป็นส่วนหนึ่งให้เด็กซึมซับและเรียนรู้

ช่วงอายุ 3 – 7 ปี ปีทองของพัฒนาการด้านภาษา

1. เด็กมีแรงจูงใจในตนเองที่จะใช้ภาษา เพื่อสื่อสารกับบุคคลรอบข้างตลอดเวลา เพราะต้องการหาความหมาย

2. สมรรถภาพทางความคิดดีขึ้น ยิ่งคิดได้ ยิ่งถาม ยิ่งพูด ยิ่งเชื่อมโยงความหมายเดิม เข้ากับความหมายใหม่ ยิ่งทำให้เกิดจินตนาการ

3. เด็กพร้อมทำความเข้าใจเรื่องนามธรรม อย่างเรื่อง ความคิด อารมณ์ นิสัย เป็นเรื่องท้าทายให้เด็กเริ่มค้นหาความหมาย ช่วยกระตุ้นให้เด็กช่างถามมากขึ้น ช่างพูดมากขึ้น

4. มีสมรรถภาพทางกล้ามเนื้อและประสาทสัมผัสดีมากขึ้น ยิ่งได้ออกไปประสบกับสิ่งใหม่ ๆ ยิ่งเพิ่มความอยากรู้อยากเห็น ความสงสัย ทำให้ช่างถาม ช่างพูด

อ่านนิทานก่อนนอน
อ่านนิทานก่อนนอน

การอ่านกับการพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า (EF)

“EF (Executive Function) หรือ ทักษะการพัฒนาสมองส่วนหน้า” เป็นกระบวนการที่ใช้กำกับความคิด ความรู้สึก และการกระทำ อีกทั้งยังเป็นทักษะที่สำคัญต่อความสำเร็จในการเรียน การงาน การอยู่ร่วมกับเพื่อน การคิดสร้างสรรค์ และการจัดการทุกด้านตลอดชีวิต เรียกได้ว่า EF เป็นการพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้าที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาความฉลาดทางเชาว์ปัญญา (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตนเองตั้งไว้

นพ.ประเสริฐ ได้อธิบายการ อ่านนิทาน กับการพัฒนา EF ว่า เนื้อหาในหนังสือนิทานไม่ได้เป็นส่วนสร้าง EF ไปเสียทั้งหมด แต่เกิดจากการที่พ่อแม่อ่านให้ลูกฟัง หรือเกิดจากลูกสามารถอ่านได้ด้วยตัวเอง EF จะต่อยอดได้ต้องเกิดจากการใช้การอ่านเป็นสื่อกลางในการพัฒนา เช่น การถามตอบ การชื่นชมเมื่อลูกตอบถูก ให้ลูกมีส่วนร่วมในการอ่าน ลำดับเรื่องราว ชวนคิด ชวนตั้งคำถาม เป็นต้น

สิ่งที่ได้จากการอ่าน จาก นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

– การอ่านหนังสือที่เป็นกระดาษ จะทำให้สมองรับสัญญาณจากนิ้วมือที่ข้างซ้ายคอยทำหน้าที่จับรวบเล่มหนังสือ ส่วนนิ้วมือข้างขวาจะคอยทำหน้าที่แตะกระดาษเพื่อรอเปลี่ยนหน้าถัดไป การอ่านหนังสือที่เป็น Book Print จะทำให้นิ้วมือผู้อ่านได้สัมผัสกระดาษตลอด ซึ่งตรงนี้จะทำให้สมองจับสัญญาณ และจดจำได้ว่าเนื้อหาที่อ่านมาแล้วอยู่ช่วงใด อยู่บทใด หน้าใด ย่อหน้าใด

– หนังสือนิทาน เมื่อซื้อมาแล้วไม่ว่าจะมีราคาเท่าใด จะเกิดความคุ้มค่าในตัวก็ต่อเมื่อ เด็กได้ฟังหรืออ่านในทุก ๆ วัน

7 เคล็ดลับในการ อ่านนิทานกล่อมนอน

  1. เริ่มอ่าน…ยิ่งไว ยิ่งดี คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกพูดได้ หรือเข้าใจภาษาก่อน จึงเริ่มอ่านหนังสือให้ลูกฟัง แต่สามารถเริ่มอ่านให้ลูกฟังได้ตั้งแต่แรกเกิด หรืออาจเริ่มตั้งแต่ตั้งครรภ์ได้เลย ถึงแม้ลูกจะยังไม่เข้าใจความหมาย แต่สมองของลูกจะเริ่มเรียนรู้ และพัฒนาผ่านน้ำเสียงของคุณพ่อคุณแม่ จากเสียงสูงต่ำของคำต่างๆ รวมไปถึงสัมผัส หรืออ้อมกอดของคุณพ่อคุณแม่ในขณะที่ เล่านิทาน ให้ลูกฟัง
  2. อ่านอย่างสม่ำเสมอ วิธีที่ได้ผลดีที่สุดคือการ อ่านนิทาน อย่างสม่ำเสมอ โดยอาจใช้วิธีกำหนดเวลาเดิมๆในทุกๆวัน เช่น หลังอาหารมื้อเช้า หลังจากนอนกลางวัน หรือก่อนนอนในเวลากลางคืน โดยอาจเริ่มจากการ อ่านนิทานสั้นๆ แล้วค่อยๆเพิ่มความยาวไปตามวัยและความสนใจของลูก ทำทุกวันจนเป็นกิจกรรมประจำของครอบครัว ทั้งนี้ในขณะอ่านนิทานให้ลูกฟัง ควรปิดสื่อต่างๆที่อาจรบกวนสมาธิ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หรือโทรศัพท์
  3. ใส่น้ำเสียงไปตามเรื่องราวของนิทาน การใช้เสียงไปตามตัวละครจะช่วยทำให้ลูกมีความสนใจและสนุกสนานไปกับเนื้อเรื่องของนิทาน โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังไม่เข้าใจภาษามากนัก การใช้น้ำเสียงจะช่วยดึงดูดความสนใจของลูกได้เป็นอย่างดี
  4. เลือกนิทานที่เหมาะสม หานิทานที่เหมาะกับวัย พัฒนาการ พื้นนิสัย และประสบการณ์ชีวิตของลูก คุณพ่อคุณแม่จะเป็นผู้ที่รู้จักลูกดีที่สุด ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องหานิทานที่เหมาะสมกับลูกของเราให้พบ
  5. กระตุ้นให้ติดตาม ในระหว่างอ่านนิทานหรือเมื่ออ่านจบแล้ว ชวนลูกถามตอบ เช่น “หมูอยู่ไหนน้า?” “นี่ตัวอะไร?” “อันไหนสีชมพู?” “ถ้าเป็นหนู จะทำอย่างไร?” อาจให้ลูกเป็นฝ่ายตั้งคำถามกับเราบ้าง หรืออาจเชื่อมโยงนิทานกับเรื่องราวในชีวิตประจำวัน นิทานบางเรื่องสอดแทรกบทเรียนที่เป็นประโยชน์ เช่น การไปโรงเรียน การแปรงฟัน ซึ่งบางครั้งลูกเชื่อหนังสือมากกกว่าเชื่อคุณพ่อคุณแม่เสียอีก ดังนั้นการเลือกหนังสือที่จะอ่านให้ลูกฟังจึงเป็นสิ่งสำคัญ
  6. จำนวนไม่ใช่ปัญหา การอ่านนิทานให้ลูกฟังเยอะๆ บ่อยๆ เป็นเรื่องที่ดี แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องซื้อหนังสือจำนวนมากๆ เพราะสิ่งนี้ไม่ได้บ่งบอกถึงความสำเร็จของลูก แต่เป็น “เวลาคุณภาพ” ที่คุณพ่อคุณแม่นั่งอ่านหนังสือกับลูกต่างหาก คุณพ่อคุณแม่สามารถหยิบหนังสือนิทานเล่มเดิมๆมาอ่านซ้ำๆได้ ตราบใดที่ลูกยังมีความสุขกับการได้ฟังนิทานเรื่องเดิมๆที่เล่าโดยคุณพ่อคุณแม่ที่มอบอ้อมกอดอันอบอุ่นให้กับลูกในขณะอ่านนิทาน
  7. อ่านได้ทุกที่ นอกจากหนังสือนิทานแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจชวนลูกอ่านหรือสังเกตคำต่างๆรอบตัว เช่น ป้ายชื่อร้าน ป้ายบอกทาง สลากสินค้า ตามระดับความสามารถของลูก โดยอาจเชื่อมโยงกับเรื่องราวหรือคำที่เหมือนในหนังสือนิทานที่ได้อ่านให้ลูกฟัง

เมื่อคุณพ่อคุณแม่รู้ถึงประโยชน์ต่างๆจากการอ่าน นิทานกล่อมนอน ที่ ทีมกองบรรณาธิการ ABK ได้รวบรวมข้อมูลมาฝากนี้แล้ว รีบไปหาหนังสือนิทานที่เหมาะกับลูกน้อยมาอ่านให้เค้าฟังคืนนี้กันนะคะ

 

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

นิทานเจ้าหญิง นิทานเสริมสร้างจินตนาการสำหรับลูกสาว

10 นิทานอีสปสั้นๆ เล่าให้ลูกฟังก่อนนอน พร้อมคติสอนใจ

5 นิทานพื้นบ้าน ซึมซับความเป็นไทย พร้อมคติสอนใจ!!

นิทานกระต่ายกับเต่า สอนลูกผ่านนิทานอีสปสนุกๆ!!

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.thaihealth.or.th, https://www.matichon.co.th

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up