อุทาหรณ์ ลูกนิ้วเข้าไปติดคารู แฮนด์ สปินเนอร์ ของเล่นฝึกสมาธิสุดฮิต…แต่แฝงอันตรายเพียบ (มีคลิป)
![]()
Hand Spinner สมควรถูกแบนในไทยด้วยหรือไม่?
กระแสของแฮนด์ สปินเนอร์ ในบ้านเราอาจยังไม่ฮิตในวงกว้างนัก แต่ก็มีคำถามว่ามันควรจะถูกแบนเหมือนที่หลายประเทศทำมาแล้วหรือไม่ ด้วยเหตุผลเหล่านี้
- อันตรายที่คาดไม่ถึง ไม่น่าเชื่อว่าของเล่นชิ้นเล็กๆจะทำอันตรายได้ใช่มั้ย ลองเปิด youtube หาคลิปฝรั่งที่ทดลองให้เห็นกันจะๆ ว่า แฮนด์ สปินเนอร์ หมุนด้วยความเร็วถึงขั้นที่ทำให้แก้วแตกได้เพียงสัมผัสนิดเดียวเท่านั้น บางคนที่กล้ารับคำท้าเอาสปินเนอร์ที่กำลังหมุนไปสัมผัสหน้าเพื่อพิสูจน์ความแรงของมัน ผลลัพธ์ก็คือสปินเนอร์บาดแก้มจนเลือดสาด! หรือแม้แต่อุบัติเหตุโดนสปินเนอร์บาดนิ้วเหวอะขณะเล่นก็มีมาแล้ว เพราะฉะนั้นใครที่กำลังคิดว่ามันคือของเล่นสำหรับเด็กที่ไม่มีอันตรายอาจจะต้องคิดใหม่
- รบกวนสมาธิคนรอบข้าง เช่นเดียวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในอเมริกา เมื่อมันทำให้เด็กๆที่เล่นมีสมาธิจดจ่อกับ แฮนด์ สปินเนอร์ ‘มากเกินไป’ จนไม่สนใจสิ่งรอบข้างหรือครูที่กำลังสอนในห้องเรียน แถมคนรอบข้างยังถูกรบกวนสมาธิได้ง่ายๆ เพราะถึงแม้มันจะไม่มีเสียงแต่มนุษย์มักถูกดึงดูดความสนใจด้วยสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหว กลายเป็นว่าคนเล่นมีสมาธิแต่คนที่อยู่รอบๆกลับเสียสมาธิแทน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือในห้องเรียนจน แฮนด์ สปินเนอร์ กลายเป็นของเล่นต้องห้ามที่ถูกแบนไปเรียบร้อยแล้ว
- การเล่นที่ผิดวัตถุประสงค์ เนื่องจากตัวของเล่น แฮนด์ สปินเนอร์ ไม่ได้มีกลไกการทำงานที่ซับซ้อน ทำให้หลายๆคนเกิดไอเดียประกอบ Hand Spinner DIY ในแบบของตัวเองขึ้นมา ในบ้านเราอาจยังไม่เห็นมากนัก แต่ทางฝรั่งมีการสอนทำสปินเนอร์เวอร์ชั่นพิเศษพิสดารมากมายมาแข่งกันว่าของใครจะหมุนได้เร็ว แรง และแปลกกว่ากัน โดยเพิ่มออปชั่นพิเรนทร์ๆ อย่างใบมีดคัตเตอร์, เฟือง, ไม้ขีดไฟ, ประทัด ฯลฯ ออปชั่นที่ฮิตที่สุดก็คือ ใบมีดโกนที่มีการดีไซน์ออกมาหลายแบบ แต่ละแบบก็ดูอันตรายไม่ต่างกัน และที่สำคัญมันใช้เป็นอาวุธได้จริง!
![]()
อย่างไรก็ตามทางด้านจิตวิทยา ดร.วัลลภ แนะว่าการเล่นของเด็ก คือ การลองทำให้มันเป็นจริง เรามีอุปนิสัยอย่างไรก็จะเล่นอย่างนั้น เช่น ตอนเด็กชอบเล่นเป็นหมอ โตมาก็ได้ทำงานเป็นหมอ พยาบาล ทางจิตบำบัด จึงคิดบำบัดจิตเด็กด้วยการเล่นให้มีสาระ และมีเหตุผล หรือสมาธิมากขึ้น เรียกว่า play therapy
ถ้าเด็กเล่นตามกระแสนิยมไปเรื่อยๆ โตขึ้นจะเป็นคนที่ถูกชักจูงจากสังคมได้ง่าย แต่ถ้าเด็กรู้จักเลือกจะเล่นตามความรู้สึกของตัวเอง โตขึ้นจะเป็นคนสร้างสรรค์ และคิดเชิงรุก (Proactive) ไม่เป็นเด็กไทยอย่างในทุกวันนี้ที่ตามกระทั่งวัฒนธรรมเกาหลี
ทั้งนี้ “การเล่นของเล่นนาน หรือไม่ว่าจะอะไรก็ตามที่นานไป มันคือการหมกมุ่น ย่อมมีผลเสียแน่ แต่คนไทยเรารับกระแสอะไรเร็ว เลยมักลืมง่าย การมีของเล่นชิ้นใหม่มาแทน ไม่เกิดผลเสียเป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ แต่กลับกลายเป็นคนใจง่าย เช่น รักง่ายเบื่อเร็ว หรือเอาแต่ใจ ถ้าสุดขั้ว รับอะไรใหม่ๆ ก็ตื่นเต้นมากอาจสร้างนิสัยให้กลายเป็นพวกอารมณ์สองขั้ว (Bipolar) ซึ่งคนไทยกำลังเป็นโรคนี่กันมาก” ดร.วัลลภ กล่าวทิ้งท้าย
ปัจจุบันประเทศไทย ได้มีการผลิตของเล่นที่ชื่อว่า “Hand Spinner” รวมไปถึงการนำเข้าของเล่นชนิดนี้อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าจะมีผู้เล่นเพิ่มขึ้นมากในประเทศไทย เพราะฉะนั้นผู้ปกครองท่านใดที่คิดจะซื้อของเล่นดังกล่าวให้เด็กๆ ควรให้คำแนะนำเรื่องวิธีเล่นที่ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ ด้วย
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!
- ของเล่น เสี่ยงอันตราย 9 ประเภท ที่ไม่เหมาะให้ลูกเล่น
- ของเล่นเสริมทักษะ หรืออุปกรณ์ไอทีต่างๆ จำเป็นสำหรับลูกแค่ไหน? อะไรคุ้มค่าเงินจริงๆ?
- ของเล่นอัตโนมัติทำลายสมองลูกจริงหรือ!?
ขอบคุณข้อมูลจาก : issue247.com , www.tnews.co.th , www.amarintv.com , www.thairath.co.th