วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า

8 วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า COVID-19 ฉบับพ่อแม่ที่มีลูกเล็กโดยเฉพาะ!

event
วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า
วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า

อันตรายของการติดเชื้อ COVID-19 ในเด็ก

ผลกระทบของเชื้อไวรัสชนิดนี้มีความเป็นไปได้ที่คนทุกเพศทุกช่วงวัยสามารถติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้ โดยเชื้อไวรัสโควิด-19 มีระยะฟักตัวที่ 2-14 วันเป็นส่วนใหญ่ และบางรายอาจจะถึง 1 เดือน ผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อให้กับผู้อื่นได้ ส่วนเด็ก ๆ นั้น นับว่าโชคดีที่เด็กจะมีโอกาสติดเชื้อน้อยมาก ราว 1-2% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด

ทั้งนี้เด็กส่วนหนึ่งอาจติดเชื้อโดยไม่มีอาการ และส่วนหนึ่งอาจมีอาการเล็กน้อยเหมือนเป็นไข้หวัดทั่วไป เช่น มีไข้ หรืออุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศา เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก หายใจหอบเหนื่อย แต่มักจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์

สำหรับอัตราการเสียชีวิต พบว่าในเด็กที่อายุ 0-10 ปี ยังไม่มีการเสียชีวิตเลย ส่วนในเด็กที่อายุ 10-19 ปี มีอัตราการเสียชีวิตอยู่เพียง 0.1% ดังนั้นอยากให้คุณพ่อคุณแม่เบาใจก่อนว่าเด็ก ๆ ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงหลัก และเรายังสามารถป้องกันลูกน้อยจากเชื้อ COVID-19 ได้ จาก วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า ดังต่อไปนี้…

8 วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า COVID-19
ฉบับพ่อแม่ที่มี “ลูกเล็ก” โดยเฉพาะ!

วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า

1. ไม่เอาลูกไปฝากเลี้ยงไว้กับสถานรับเลี้ยงเด็ก

มีหลายครอบครัวที่นำลูกไปฝากไว้กับสถานรับเลี้ยงเด็ก เพราะด้วยข้อจำกัดหลายเรื่องของครอบครัว การฝากลูกไว้ที่สถานรับเลี้ยงจึงเป็นทางออกที่ดี แต่ช่วงนี้ วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า COVID-19 ที่ดีที่สุดเพื่อลูกน้อย คือพ่อแม่ควรเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านของตัวเองจะดีกว่า ไม่ควรเอาลูกไปไว้ที่สถานรับเลี้ยงเพราะถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่เสี่ยงซึ่งมีผู้คนหมู่มากที่อาจจะนำเชื้อโรคมาติดได้ง่ายในตอนนี้

2. เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดีสุด

ในคุณแม่บางรายอาจจะมีเหตุจำเป็นสำรับการให้นมลูก แต่อย่าลืมว่าน้ำนมที่บริสุทธิ์คือนมจากอกแม่ เพราะเต็มไปด้วยสารอาหารและภูมิต้านทานโรคที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับเด็กที่กำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโตหากเป็นไปได้ควรที่จะให้ลูกกินนมจากอกแม่จะดีกว่า

3. พาลูกไปรับวัคซีนตามกำหนด

ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในตอนนี้สำหรับเด็กทารก หากได้รับวัคซีนที่ป้องกันโรคอย่างต่อเนื่องตามกำหนดเวลาจะเป็นตัวสร้างภูมิต้านทานที่ดีให้กับตัวเด็กอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน

4. หมั่นสำรวจสุขภาพของลูกอยู่เสมอ

ถือเป็นด่านแรกที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำเป็นประจำทุกวัน นั่นคือการวัดอุณหภูมิร่างกายของลูก หากพบว่าลูกไม่สบาย ควรหยุดเรียน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แม้ว่าจะเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาก็ตาม และถ้าเป็นลูกเล็กวัยทารกหากมีไข้สูง และมีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ถ่ายเหลวท้องเสีย แน่นหน้าอก ควรรีบพาไปหาคุณหมอโดยด่วน

Must read >> รีวิว ปรอทวัดไข้ อุณหภูมิเท่าไหร่? แปลว่า ลูกมีไข้ กันแน่!

5. ดูแลควบคุมสุขลักษณะของบ้านให้ดี

ควรทำความสะอาดตัวบ้านและบริเวณโดยรอบที่ลูกอาจสัมผัสได้ เช่น พื้น ผนัง ประตู และจุดหรือบริเวณที่มีการใช้ร่วมกัน เช่น กลอนหรือลูกบิดประตู ราวจับ ราวบันได สวิตช์ไฟ เป็นต้น ด้วยน้ำยาทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และให้มีระบบการระบายอากาศและถ่ายเทอากาศภายในบ้าน

และไม่ควรให้ลูกใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจ สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ

วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า

6. ความสะอาดของพ่อแม่สำคัญ

เมื่อพ่อแม่ต้องออกไปข้างนอก (ทำงาน ทำธุระ หรือ จ่ายตลาด ซื้อของในห้าง) เมื่อกลับมาบ้าน สิ่งแรกที่ควรจะทำมากที่สุดคือการทำความสะอาดร่างกาย อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สะอาดเรียบร้อย ก่อนที่จะตรงดิ่งมาสัมผัส หอมกอดหรือฟัดลูกน้อยแสนรัก เพราะเรานั้นต้องออกไปเผชิญกับหลายสิ่งอย่างของนอกและเสี่ยงการที่จะนำเชื้อโรคเข้าภายในบ้าน ฉะนั้นแล้วจงห้ามใจซักนิดรีบตรงดิ่งไปกลับบ้านไปหาลูกทันทีด้วยนะคะ

7. ดูแลความสะอาดในบ้านและคนรอบข้างอย่างเข้มงวด

และเพราะลูกน้อยวัยทารกมักจะเป็นขวัญใจของหลายคนในบ้าน ซึ่งทุกคนก็ล้วนแล้วแต่อยากที่จะกอด จะหอม ฉะนั้นแล้วควรที่จะเข้มงวดกับ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือญาติทั้งหลายเรื่องความสะอาดไม่ฉะนั้นแล้วความเสี่ยงที่จะโดนเชื้อโรคอาจจะมาจากคนใกล้ตัวก็ได้

8. ไม่พาลูกออกนอกบ้านหรือไปในที่ชุมชนแออัด

อีกหนึ่ง วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า ที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั่นคือพยายามเลี่ยงการพาลูกไปห้าง หรือสถานที่ที่มีคนอยู่รวมตัวกันเยอะ ๆ อากาศถ่ายเทไม่สะดวกไปก่อน หากต้องการจะพาลูกออกไปเที่ยว ควรเลือกสถานที่โปร่ง ๆ อากาศดี ๆ เช่น สวนสาธารณะ ทะเล นอกจากจะช่วยเพิ่มความสดชื่นแล้ว ยังเป็นการพาลูกไปเปิดหูเปิดตากับธรรมชาติสวย ๆ ด้วย

ทั้งนี้หากจำเป็นจริงๆ (ไปฉีดวัคซีน) ควรป้องกันโดยให้ลูกใส่หน้ากากอนามัย พกทิชชู่เปียกเจลหรือสบู่ล้างมือติดไปด้วย ที่สำคัญระวังห้ามให้คนอื่นสัมผัสหรือแตะต้องตัวลูกน้อยเป็นอันขาด (ยกเว้นคุณหมอหรือพยาบาล)

>> ทำประกันโรคโควิด-19 ช่วยอุ่นใจ!

สุดท้ายขอแถม แม้จะไม่ใช่วิธีป้องกัน หรือ วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า แต่การ ทำประกันโรคโควิด-19 ให้อุ่นใจไว้ก่อน ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำทั้งเพื่อตัวเองและลูกน้อย ซึ่งช่วงนี้บริษัทประกันหลายแห่งมีแผนประกันโคโรนาไวรัสออกมา ซึ่งมีค่าเบี้ยประกันไม่แรง แถมให้ความคุ้มครองเป็นหลักแสนบาทขึ้นไปก็มี คุณพ่อคุณแม่จึงควรลองศึกษาข้อมูลและเลือกทำให้ลูกน้อย เพื่อความอุ่นใจและเผื่อฉุกเฉินนะคะ

Must read >> ชี้เป้า! 10 ประกัน ไวรัสโคโรน่า เบี้ยขั้นต่ำแค่ 99 บาท ที่ไหนคุ้มสุดดูเลย!

Must read >> รวมประกันโควิด 2021 เทียบเบี้ยประกันไวรัสโคโรน่า COVID-19

หากสงสัยว่าลูกมีอาการของโรคโควิด-19

คุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์ ซึ่งอาการของโรคโควิด-19 เช่น ไอหรือมีไข้นั้น คล้ายคลึงกับอาการของโรคไข้หวัดธรรมดาหรือโรคไข้หวัดใหญ่ซึ่งพบบ่อยกว่ามาก เมื่อคุณหรือลูกมีอาการเหล่านี้ (เคยไปในพื้นที่เสี่ยง) ควรรีบไปพบแพทย์ และหลีกเลี่ยงการไปยังสถานที่สาธารณะเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น

อย่างไรก้ตาม ถึงจะป้องกันทุกวิถีทาง ตาม วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า ที่แนะนำเบื้องต้นแล้ว แต่หากสังเกตได้ว่าลูกเริ่มไอ มีไข้ หรือหายใจติดขัด อย่ารอช้า ควรปรึกษาแพทย์ทันที และให้ลูกอยู่ในห้องที่เตรียมไว้แยกจากสมาชิกครอบครัวคนอื่น ๆ หรือถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทรสายด่วน กรมควบคุมโรค 1422 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับเรื่อง 8 วิธีรับมือไวรัสโคโรน่า COVID-19 ฉบับพ่อแม่ที่มีลูกเล็กโดยเฉพาะนี้ ถือเป็นหนึ่งในเรื่องของ HQ : Health Quotient  คือ ความฉลาดในการดูแลรักษาสุขภาพ ซึ่งคนที่มี HQ ดี จะรู้จักดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เช่น กินอาหารที่ดี ครบ 5 หมู่ ขับถ่ายดี ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลรักษาความสะอาดร่างกายของตัวเอง ฯลฯ สำหรับเด็กเล็กเราอาจจะยังไม่เห็นพัฒนาการด้านนี้ชัดเจน แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มปลูกฝังและใส่ใจเรื่องสุขภาพ การดูแลร่างกายในการทำกิจวัตรประจำวันได้ทุกวัน เพื่อให้ลูกซึมซับและดูแลใส่ใจสุขภาพตัวเอง ซึ่งก็จะเป็นการสร้าง HQ ที่ดีในตัวลูกได้ ยิ่งในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บมีเยอะขึ้น โรคใหม่ๆ แปลกๆ เชื้อโรคที่พัฒนาขึ้นจาก สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และมลภาวะต่างๆ เราจึงต้องสอนให้ลูกของเราฉลาดใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันต่อโรคภัยต่างๆ รอบตัว เพราะการไม่มีโรค คือลาภอันประเสริฐนั่นเองค่ะ

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :


ขอบคุณข้อมูลจาก : เทพ สุวรรณ cities.trueid.netwww.unicef.orgbaby.kapook.com

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up