17 อาหารที่คนท้องห้ามกิน ห้ามกินจริงหรือ?

อาหารที่คนท้องห้ามกิน ห้ามกินจริงหรือ?

อาหารที่แม่ท้องทานได้ แต่ควรทานแต่พอดี

อาหารที่มีรสจัด รสจัดหมายถึงอาหารที่ปรุงรสมากจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเปรี้ยวจัด เค็มจัด หรือเผ็ดจัด ซึ่งจริง ๆ แล้ว แม่ท้องสามารถกินอาหารที่มีรสจัดได้ทุกชนิด เพียงแต่ควรทานแต่พอดี ไม่มากจนเกินไป เนื่องจากการทานอาหารที่มีรสจัดบ่อย ๆ สามารถทำให้เกิดอาการท้องอืดแน่นเฟ้อขึ้นได้ (อ่านต่อ
คนท้อง ท้องอืด รับมือได้ไม่ยากอย่างที่คิด)
อาหารก่อโรคกรดไหลย้อน เช่น อาหารประเภทไขมันสูง, อาหารทอด, อาหารที่มีรสจัด, อาหารจำพวกแป้งที่ต้องอุ่นซ้ำ, ชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ชีส, หมากฝรั่ง อาหารเหล่านี้สามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคกรดไหลย้อนขณะตั้งครรภ์ได้ ัดังนั้นจึงควรทานแต่พอดี ไม่ควรทานเยอะจนเกินไป (อ่านต่อ กรดไหลย้อนในแม่ตั้งครรภ์ แก้ไขได้ด้วย 5 วิธี!)
อาหารที่กินแล้วท้องผูก โดยเฉพาะแม่ท้องที่ก่อนตั้งครรภ์ก็ท้องผูกได้ง่าย ยิ่งควรระมัดระวังในการทานอาหารกลุ่มนี้มากเป็นพิเศษ และสำหรับแม่ท้องทั่วไป สามารถทานอาหารกลุ่มนี้ได้เพียงแต่ควรทานแต่พอดี เพื่อป้องกันอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
อาหารที่กินแล้วแพ้ & อาหารเป็นพิษ สำหรับแม่ท้องที่เป็นภูมิแพ้มาก่อนแล้ว ช่วงตั้งครรภ์อาการแพ้ก็จะมากขึ้น นอกจากนี้การกินอาหารในกลุ่มเสี่ยงที่จะทำให้แพ้ในปริมาณมาก ๆ ก็อาจจะไปกระตุ้นให้ลูกในท้องมีอาการแพ้อาหารประเภทนั้นได้ (อ่านต่อ แพ้อาหาร ภัยเงียบที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น)
อาหารไขมันสูง สำหรับคุณแม่ที่มีน้ำหนักเกินอยู่แล้ว การทานอาหารที่มีไขมันสูงมาก ๆ จะทำให้น้ำหนักระหว่างตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คุณหมอกำหนดได้ นอกจากนี้ อาหารประเภทเหล่านี้ เมื่อทานแล้วจะย่อยได้ยาก ถ้าทานมากก็ทำให้ท้องอืด แน่นท้อง อึดอัด และน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ โดยแปรสภาพเป็นไขมันไปจับอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของคุณแม่ได้ (อ่านต่อ กินเผื่อลูกในท้อง ช่วง 6 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เสี่ยงแท้ง!!)
เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา โอเลี้ยง ช็อคโกแลต เป็นต้น อาหารประเภทนี้ สามารถทานขณะตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่ควรทานเครื่องดื่มที่มีปริมาณคาเฟอีนเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน การดื่มมากเกินไปก็อาจทำให้คุณแม่ใจสั่นและนอนไม่หลับได้ เกิดการพักผ่อนไม่เพียงพอตามมา ซึ่งการพักผ่อนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ (อ่านต่อ คาเฟอีนในกาแฟ และเครื่องดื่มอื่นๆ ที่แม่ท้องควรรู้)
น้ำอัดลม ส่วนใหญ่แล้วน้ำอัดลมจะประกอบไปด้วยน้ำ น้ำตาล และกาเฟอีนเหมือนที่มีอยู่ในกาแฟ สามารถให้ความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และมีน้ำตาลที่ช่วยเพิ่มพลังงาน แต่ในแง่ของคุณค่าทางอาหารนั้นไม่มีเลย ถ้าดื่มมาก ๆ ก็ทำให้คุณแม่อ้วนได้ แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงแล้วหันไปดื่มน้ำผลไม้คั้นสดหรือน้ำดื่มสะอาด ๆ ก็จะมีประโยชน์มากกว่า
อาหารที่เพิ่มน้ำหนักแต่ไม่ให้คุณค่า เช่น ขนมหวาน (เช่น ทองหยิบ ทองหยอด มันเชื่อม ขนมชั้น ไอศกรีมรสหวานจัด ฯลฯ), สารให้รสหวาน ที่นอกจากจะไม่ค่อยมีคุณค่าทางสารอาหารแล้ว ยังทำให้แม่ท้องที่กินเข้าไปมาก ๆ อ้วนได้
ผลไม้ คุณแม่อาจสงสัยว่าทำไมผลไม้ที่มีประโยชน์ถึงทานไม่ได้ จริง ๆ แล้วสามารถกินผลไม้ได้ทุกอย่าง แม้แต่มะม่วงสุกหรือทุเรียนที่มีน้ำตาลสูง ก็สามารถทานได้ เพียงแต่ควรจะทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรทานเยอะเกินไป เพราะอาจเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้
ผักเครือเถา เช่น ตำลึง ยอดมะระ ยอดฟักแม้ว ยอดฟักทอง ฯลฯ สามารถทานได้ตามปกติ ไม่ได้มีข้อห้ามอะไร แถมยังช่วยในการขับถ่ายป้องกันท้องผูกได้อีกด้วย เพียงแต่การทานผัก ควรทานให้หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินได้หลากหลายชนิด

อาหารที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง

อาหารสำเร็จรูป & อาหารกระป๋อง เพื่อให้อาหารเก็บได้นาน จึงต้องใช้กรรมวิธีต่าง ๆ ในการรักษาสภาพอาหาร รวมถึงการใช้สารเคมีด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการนำสารเคมีเข้าร่างกาย แม่ท้องจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้ (อ่านต่อ โจ๊ก-บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กินทุกวันเสี่ยงอันตราย)
อาหารที่เก็บรักษาได้นาน (อาหารตากแห้ง, อาหารหมักดอง) เช่น ปลาเค็ม กุนเชียง ไส้กรอก เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้จะมีส่วนประกอบของไนเตรตค่อนข้างมาก ซึ่งจะไปทำปฏิกิริยากับสารฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ทำให้การนำออกซิเจนจากเลือดไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้น้อยลง ทำให้ทารกในครรภ์มีความเสี่ยงที่จะได้รับออกซิเจนน้อยลงตามไปด้วย
ผงชูรส วัตถุดิบที่ใช้ผลิตผงชูรสในปัจจุบันคือมันสำปะหลังและกากน้ำตาล โดยนำมาผ่านกระบวนการทางเคมีหลายอย่างจนออกมาเป็นผงชูรส สำหรับแม่ท้องที่แพ้ผงชูรสก็ควรระวังไว้ด้วย
แป้งกรอบหรือผงกรอบ หรือที่คนจีนเรียกว่า “เพ่งเซ” จัดเป็นสารเคมีจำพวกบอแรกซ์ที่นำมาใช้ในการปรุงอาหารเพื่อให้อาหารมีความเหนียวและกรุบกรอบ อย่างเช่น ลูกชิ้น อาหารที่ผสมสารบอแรกซ์จะทำให้ระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้เป็นแผล เกิดอาการอาเจียน ท้องเดิน ในรายที่กินเข้าไปมาก ๆ ก็อาจทำให้ถึงตายได้เลย
ยาจีนหรือยาหม้อ เนื่องจากตำรับหรือส่วนผสมไม่แน่นอน และคุณแม่จะไม่สามารถทราบได้เลยว่ามีส่วนผสมอะไรในยาหม้อนั้นบ้าง และยาประเภทนี้ไม่ได้รับการรับรองจากอย. ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้

สรุปแล้วการเลือกทานอาหารในช่วงตั้งครรภ์ ก็จะคล้าย ๆ กับการเลือกทานอาหารเพื่อดูแลสุขภาพทั่วไป คือควรทานอาหารที่มีประโยชน์ หลากหลาย และครบ 5 หมู่ นั่นเองค่ะ ดูเหมือนการทานอาหารในช่วงตั้งครรภ์จะยากนะคะ แต่จริง ๆ แล้วก็เหมือนการดูแลตนเองทั่วไปในช่วงที่ไม่ตั้งครรภ์เลยค่ะ