รวม 30 เมนูอาหารลูก โดยคุณพ่อไทยสุดครีเอท

รวม 30 เมนูอาหารลูก จบปัญหาลูกกินยาก ด้วยเทคนิคการตกแต่งจานจากคุณพ่อนิรนามท่านหนึ่ง ซึ่งคาดว่าคงเป็นเชฟแน่นอน ทั้งเทคนิคการจัดจานและถ่ายภาพขั้นโปร  เด็กคนไหนเห็นต้องยอมสยบรับประทานหมดทุกจาน (แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเราเองก็ยังอยากกิน)  นอกจากจะสวยงามน่าหม่ำแล้ว  ยังครบถ้วนทุกโภชนาการสำหรับเด็กวัยประถม  น่าอิจฉาคุณพ่อที่ลูกไม่มีปัญหาเรื่องไม่กินผัก

30 เมนูอาหารลูก สุดครีเอท

 

                เริ่มต้นด้วยเมนู ข้าวไข่เจียว ยอดฮิต ที่ใครคิดไม่ออกก็ต้องทำให้ลูกประจำ  ..มองดูแล้วอยากจะให้มาเจียวให้ลูกที่บ้านกินทุกวันๆ

ข้าวไข่เจียว

ข้าวไข่เจียว แครอท

ข้าวไข่เจียว 3

                ถ้าเวลาน้อยจริงๆ ก็มี ข้าวคลุกปลาทู เป็นตัวเลือก  นี่ขนาดขี้เกียจทำยังออกมาหน้าตาดีขนาดนี้  ลูกเห็นก็อดใจไม่ไหว

ข้าวคลุกปลาทู พร้อมผัก

ข้าวผัดผักกุ้ง ข้าวยังหน้าเป็นกุ้งเลย

กุ้งผัดดอกกะหล่ำ ไข่ต้ม แคปหมู

ข้าวกับปลาทู

                พวกเมนูต้มจืดก็มี ข้าวต้มปลาหมึกยัดไส้หมูสับ บวกกับ ไข่ต้ม  ได้รับโปรตีนครบถ้วนสมวัย

ข้าวต้มปลาหมึกยัดไส้หมูสับ และไข่ต้ม

            ข้าวผัดอเมริกัน มาพร้อมกับพี่ไก่กุ๊กๆ สองตัว และผักปูเป็นผืนหญ้า นี่จานอาหารหรือจานโชว์ สวยงามขนาดนี้!

ข้าวผัดอเมริกัน

            ข้าวหมูกรอบ เมนูสุดฮิต จะมีโรยหมูกรอบอย่างเดียวได้ยังไง มาเป็นหัวหมูเลยจ้า

ข้าวหมูกรอบ

ดูเมนู “รวม 30 เมนูอาหารเด็ก  โดยคุณพ่อไทยสุดครีเอท” คลิกหน้า 2

    คลิปทารกแรกเกิดกระดึ๊บออกจากท้องแม่เอง

    สุดมหัศจรรย์! คลิปทารกแรกเกิดกระดึ๊บออกจากท้องแม่เอง

    เว็บไซต์มิเรอร์ ได้เผยคลิปวิดีโอที่กำลังถูกแชร์ต่อกันอย่างมากในโลกโซเชียล… คลิปทารกแรกเกิดกระดึ๊บออกจากท้องแม่เอง โดยที่คุณหมอไม่ต้องช่วยดึงตัวเลย ช่างเป็นหนูน้อยที่แข็งแรงเหลือเกิน ด้านคุณหมอและทีมพยาบาลต่างก็ยืนมองชีวิตน้อย ๆ ค่อย ๆ ดันตัวเองออกมาสู่โลกใบใหม่ด้วยความอัศจรรย์ใจ และพร้อมให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลาหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น

    > จากในคลิป ทารกน้อยรายนี้โผล่หัวออกมา จากนั้นก็ดันช่วงตัวออกมา ก่อนจะค่อย ๆ ดึงแขนขวาตัวเองออกมา แล้วก็ดันส่วนตัวที่เหลือออกมาจนสุดทั้งตัวจนเห็นสายรกที่ติดอยู่ คุณหมอที่ยืนรอดูอย่างใจจดใจจ่อและตื่นเต้นก็ช่วยตัดสายสะดือให้ เป็นอันเสร็จสิ้นการคลอดอย่างสมบูรณ์

    ด้านคุณแม่ถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปริ่มสุดหัวใจ ก่อนจะรับลูกน้อยจากมือคุณหมอไปกอดแนบไว้ในอ้อมอกด้วยความรักอย่างสุดที่บรรยายได้…

    อ่านบทความน่าสนใจอื่นๆ

    คลิก >> ผ่าคลอดแบบธรรมชาติมีด้วยหรือ? จะเป็นอย่างไรต้องดู!


    ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : Belle Surattana

      ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา

      ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา คลอดลูกเวลาไหนให้เป็นมงคล?

      ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน สังคมไทยเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยความเชื่อเรื่องต่าง ๆ มากมาย อาทิ ความเชื่อเกี่ยวกับช่วงเวลาอันเป็นมงคลที่จะกระทำการใด ๆ ได้อย่างสำเร็จลุล่วง ที่เรียกว่า “ฤกษ์งามยามดี” ซึ่งฤกษ์งามยามดีนี้ก็มีเรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับ ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา เช่นกัน สำหรับคุณแม่ใกล้คลอดผู้มีความเชื่อเรื่องฤกษ์ดีในการคลอดลูก อยากทราบว่าควรคลอดลูกเวลาไหนถึงจะเป็นมงคล หรือลูกที่คลอดในช่วงเวลานั้นจะมีลักษณะนิสัยอย่างไร ไปอ่านกันเลยค่ะ

       

      ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา ลูกเกิดเวลาไหน จะนิสัยเป็นอย่างไร

       

      ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา

       

      เชื่อกันว่า ช่วงเวลาเกิดในแต่ละช่วงสามารถบ่งบอกตัวตนของแต่ละคนได้ ตามหลักพยากรณ์จะแบ่งเป็น 12 ช่วงเวลาใน 1 วัน ซึ่งมี 24 ชั่วโมง หนึ่งช่วงเวลามีประมาณ 2 ชั่วโมง เวลาในแต่ละช่วงอาจมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นพระอาทิตย์ขึ้นและลงช้าหรือเร็ว

      ช่วงเวลาเกิดจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของตัวเองเป็นหลัก ได้แก่ เรื่องทั่วไป เพื่อน การงาน การเงิน ความสนใจ ความสัมพันธ์ ความรัก การตัดสินใจ เป็นต้น แต่ละช่วงเวลาจะมีรายละเอียดคำทำนายอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ

       

      23.00-00.59 น. เวลาหนู

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้คิดถึงการปฏิบัติตัวของตัวเอง คิดถึงวิธีการปฏิบัติ และการแก้ไขปัญหา เลือกใช้วิธีการของตัวเอง วิธีที่ตัวเองได้เปรียบ หรือวิธีที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง

      เป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี นิสัยสนุกสนานร่าเริง สร้างบรรยากาศให้ครื้นเครง เป็นตัวโจ๊ก อาจทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วก็สามารถทำได้สำเร็จ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ข้อเสียคือมักถูกหลอกได้ง่าย กระตือรือร้น ปราดเปรียว สดใส มีความระแวดระวัง ฉลาดหัวไว เฉยชาแต่มีมารยาท ไหวพริบดี ตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ท่าทางดูขรึม พูดน้อย รักเพื่อน ขยัน สะสมเงินเก่ง มีเงินสำรองซ่อนไว้ ชอบวางแผนการเงิน ประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย มีระเบียบ มุ่งมั่นบากบั่น ปรับตัวเก่ง มีความรักแบบผู้ให้ รักบ้าน รักครอบครัว ชอบช่วยเหลือ มีน้ำใจ รักอิสระ เกลียดการเดินตามเส้น ไม่ยอมผูกมัดกับใครง่าย ๆ รักการท่องเที่ยว ชื่นชอบความเสี่ยง จิตใจดี

       

      01.00-02.59 น.เวลาวัว

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้จะเป็นเด็กที่คิดถึงเรื่องเงินเป็นหลัก วิธีการหาเงิน หรือฐานะทางการเงินของตัวเอง ไม่ชอบการตัดสินด้วยอารมณ์ ถ้าไม่ชอบใครจะมีอคติอย่างร้ายกาจ ชีวิตในวัยเด็กมักจะล้มลุกคลุกคลาน เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนจะมีโชคลาภ เป็นคนทำอะไรช้า ท่าทางแข็งแรง อดทน เฉื่อย ใจเย็นเหมือนเต่า ปกติจะเป็นคนร่าเริง เข้ากับคนง่าย โกรธยาก แต่ถ้าโกรธจะรุนแรง เป็นคนบากบั่น มีระเบียบ ขยันอดทน หนักแน่น ตรงไปตรงมา ไม่รู้จักปรับตัว ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ซื่อตรงจนไม่ทันใคร ขาดอารมณ์ขัน ไม่ชอบความรุนแรง และการทะเลาะวิวาท

      ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา

       

      อ่านเพิ่มเติม >> นวดกระตุ้นน้ำนม กระตุ้นให้คลอดง่าย ทำได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์

      อ่านเพิ่มเติม >> อาการของคนท้อง ตั้งแต่สัปดาห์แรกจนคลอด มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง

       

      03.00-04.59 น. เวลาเสือ

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้จะคิดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง มีความคิดเป็นของตัวเอง คิดถึงภาพลักษณ์ของตัวเอง

      เป็นคนที่มีบุคลิกมาดมั่น น่าเกรงขาม ไม่กลัวอะไรง่าย ๆ มีอุดมการณ์ ถ้าปักใจกับอะไรแล้วจะศรัทธาในสิ่งนั้น มีนิสัยหุนหันพลันแล่น ก้าวร้าว เข้มแข็ง ดูมีอำนาจ จิตใจกล้าหาญ มีอารมณ์สนุกสนาน ร่าเริง ขี้เล่น หลงใหลในเรื่องความรักโรแมนติก มีเสน่ห์ อาจมีปัญหาครอบครัวเพราะเผลอสนุกสนานมากเกินไป เป็นคนดวงแข็ง เชื่อมั่นในตัวเองสูง ขาดความรอบคอบ ยอมให้อารมณ์อยู่เหนือหัวใจ ใจดี ชอบเสียสละ ใจกว้าง ไม่จุกจิก มีความรับผิดชอบ ชอบฉายเดี่ยว ไม่อยู่ติดที่ มองโลกในแง่ดี อารมณ์ขัน ขี้โม้โอ้อวด ชอบความท้าทาย ใจกว้าง กล้าพูด ตกหลุมรักง่าย เมื่อรักใครจะรักจริงจัง ดื้อรั้น ทิฐิ ไม่ยอมแพ้ อาฆาต

      ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา
      ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา

      05.00-06.59 น. เวลากระต่าย

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้จะเป็นเด็กที่ยึดถือความคิดของตัวเองเป็นหลัก ยึดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง คิดถึงในเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง หรือมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่เป็นความคิดที่เก็บเอาไว้ในใจ จะนำมาใช้ก็ต่อเมื่ออยู่กับคนสนิท หรือเวลาอยู่กับตัวเองคนเดียวเท่านั้น

      เป็นคนอารมณ์อ่อนไหว ขี้อาย สงบเงียบ เรียบร้อย เป็นผู้ใหญ่ ค่อนข้างสุภาพ อ่อนโยน พูดจาอ่อนหวาน นอบน้อมถ่อมตน มีมารยาท รักสวยรักงาม ระมัดระวังตัวเสมอ ละเอียดถี่ถ้วน สะอาดสะอ้าน แต่งตัวดูดี ชอบทำตัวลึกลับ เก็บตัว ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ชอบทำตัวให้น่าคบ มีความสามารถในการพัฒนาตัวเอง เชื่อมั่นว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จในชีวิต ถึงแม้จะดูเงียบ ลึก ๆ เป็นคนมั่นใจ ทะเยอทะยานไม่น้อย มีความเข้มแข็งข้างใน รอบคอบ เป็นนักการทูต จิตวิทยาสูง เข้าอกเข้าใจคนอื่น จิตใจดี ขี้สงสาร ขี้ใจอ่อน ชอบทำบุญ ใจกว้าง ชอบช่วยเหลือคน ไม่ชอบคนจุกจิก โกรธง่ายหายเร็ว

       

      เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

       

      07.00-08.59 น. เวลางูใหญ่

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้จะเป็นคนที่คบหาเพื่อนเพื่อตัวเอง เลือกคบเพื่อนเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ต้องการเพื่อนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง มีจุดยืนในการคบเพื่อน

      เป็นคนที่ต้องการชีวิตที่ตื่นเต้นเร้าใจ มีสีสัน มีความสามารถพิเศษ รักความเป็นอิสระ ชอบยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง ถ้าไม่อับจนหนทางจะไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร เชื่อมั่นในตัวเอง ศรัทธาในตัวเอง คนอื่นอาจหมั่นไส้ในความมั่นใจในตัวเองสูง แสดงออกโดยไม่เกรงใจใคร หยิ่งทะนง ท่าทางสง่าผ่าเผย มาดดี หัวสูง ติดหรู ทะเยอทะยาน น่าเกรงขาม เข้าถึงยาก ทำให้ผู้อื่นเชื่อถือได้ง่าย เป็นผู้นำสูง ใจกว้าง เด็ดเดี่ยว รักศักดิ์ศรี โมโหร้าย มุทะลุ ตรงไปตรงมา ไม่ชอบเล่ห์เหลี่ยม รักความท้าทาย ชอบทำอะไรเสี่ยง ๆ มีความคิดสร้างสรรค์ ทำโน่นนี่ตลอดเวลา ทำงานต่าง ๆ ได้ดี มีประสิทธิภาพ มุ่งมั่น บากบั่น

      ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา

       

      09.00-10.59 น. เวลางูเล็ก

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้จะเป็นเด็กที่ทำกิจกรรม และงานต่าง ๆ งานที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง งานที่ตัวเองได้ประโยชน์ มีเป้าหมายในชีวิต เลือกทำในสิ่งต่าง ๆ เพื่อตัวเอง

      เป็นคนหน้าตาดี เนี้ยบ แต่งตัวดี รสนิยมสูง ชองของหรูหราราคาแพง รักความสะอาด ห่วงภาพลักษณ์ เป็นเพื่อนแท้ เอาใจใส่ครอบครัว ชอบถนอมน้ำใจ ถ่อมตัว มีความสามารถและพรสวรรค์ ไม่โอ้อวด เงียบขรึม เรียบร้อย สุภาพอ่อนโยน นุ่มนวล มารยาทดี พูดจาไพเราะ เข้ากับคนง่าย มีเสน่ห์ ใครเห็นก็ชอบ ค่อนข้างฉลาด เก็บความรู้สึก รักการแข่งขัน ทะเยอทะยาน ชอบทำตัวเด่น อยากมีชื่อเสียง ชอบวางแผน มีเป้าหมาย ใจแข็งไม่หวั่นไหว

      อ่านเพิ่มเติม >> สอนแม่ท้องนับ อายุครรภ์ พร้อมวิธีคำนวณกำหนดคลอด ที่ถูกต้อง!

      อ่านเพิ่มเติม >> ดวงวันเกิดลูก กับพ่อแม่ วันไหนเป็นมิตร วันไหนเป็นศัตรู

       

      11.00-12.59 น. เวลาม้า

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้จะสนใจในตัวเอง คิดถึงตัวเองเป็นหลัก เลือกแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง แสวงหาตัวตนจากสิ่งต่างๆ ภายนอกเพื่อค้นหาตัวเอง

      เป็นคนที่คบง่าย ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม เปิดเผย จริงใจ ฉลาด ดื้อรั้น ไม่ชอบให้ใครสอน เรียนรู้ได้ดี แข็งแรง อดทน ร่าเริง ชอบความสนุกสนาน เรื่องตลก มักเรียกเสียงหัวเราะให้เพื่อนๆ ชอบความอิสระ เป็นนักผจญภัย ชอบที่จะได้พบเจอสิ่งแปลกใหม่ มีความเป็นตัวของตัวเอง ชอบแหกกฏ ใจกว้าง กระตือรือร้น ไม่จู้จี้จุกจิก ไม่รอบคอบ ใจร้อน ทำก่อนคิด กล้าเสี่ยง จิตใจเข้มแข็ง มานะบากบั่น มีความจริงใจ รักเพื่อน รักครอบครัวขาดความทะเยอทะยาน ไม่ชอบดิ้นรนสร้างเนื้อสร้างตัว ปล่อยชีวิตให้ล่องลอยไป

      ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา

       

      13.00-14.59 น. เวลาแพะ

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้จะไม่คิดถึงตัวเองเป็นหลัก ไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่คิดถึงสิ่งใดๆ เพื่อตัวเอง และคิดถึงภาพลักษณ์ของตัวเองน้อย

      ชอบอยู่ตามลำพัง รักสันโดษ ถ่อมตัว ซื่อสัตย์ ใจดี สุภาพ อ่อนโยน มีมารยาท สุขุมใจเย็น ไม่มีพิษภัย ขี้อาย สงบเสงี่ยม ไม่เคยลืมตัว ชอบอยู่กับครอบครัว มีความคิดสร้างสรรค์ ช่างฝัน ถ้าถูกรังแกจะสู้ยิบตา มีความมั่นใจลึก ๆ เกลียดความรุนแรง ดื้อรั้น ไม่ชอบความสับสนวุ่นวาย ระวังตัว ไม่ชอบทะเลาะเบาะแว้ง

       

      15.00-16.59 น. เวลาลิง

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้เป็นคนที่คบหาผู้อื่นเพื่อตัวเอง เลือกคบคนเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ตัดสินใจเลือกคบผู้อื่น หรือเข้าสังคมด้วยตัวเอง ต้องการสัมพันธ์กับคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง มีจุดยืนในการเข้าสังคม

      เป็นคนอยู่เฉย ๆ ไม่เป็น สนิทกับคนง่าย กระตือรือร้น มีชีวิตชีวา มีความสุขกับการได้พูด เป็นคนเปิดเผย ใจร้อน ทำอะไรไม่ทันคิด ฉลาด ไหวพริบดี เอาตัวรอดเก่ง กล้าพูดกล้าทำ เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว จิตใจดี ซุ่มซ่าม นิสัยเหมือนเด็ก ๆ ชอบเล่นพิสดาร มีเสน่ห์ เป็นนักวางแผน มีเล่ห์กลแต่ไม่ทำร้ายใครลับหลัง มีความสามารถรอบตัว ปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ทุกระดับ ทุ่มเทกับการทำงาน เบื่อง่าย จับจด ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง

      ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา

       

      17.00-18.59 น. เวลาไก่

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้ปฏิบัติต่อผู้อื่นเพื่อตัวเอง ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เลือกปฏิบัติกับคนที่เป็นประโยชน์ หรือตัวเองได้ประโยชน์ ร่วมงานกับผู้อื่นเพื่อตัวเอง เลือกร่วมงานกับคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง

      เป็นคนที่ต้องการความหรูหรา ใช้แต่ของดีมีราคา ขี้อวด มีเสน่ห์ หัวโบราณ เข้มแข็ง หยิ่งยโส หัวรุนแรง ขวางโลก มักจะโกรธถ้ามีใครมาเรียกว่าเป็นคนโง่ มีความทะเยอทะยาน ยากที่ใครจะจูงจมูก มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ยอมฟังใคร อนุรักษ์นิยม เจ้าระเบียบ จู้จี้ขี้บ่น หงุดหงิดง่าย ไม่ยอมเสียเงินแบบไร้ค่า มีหัวในการบริการ ชอบควบคุม เด็ดขาด ละเอียดถี่ถ้วน ต่อสู้อุปสรรคไม่ท้อถอย ไว้ตัว เชื่อมั่นในตัวเองสูง ทำตามระเบียบเป๊ะ ๆ เกลียดการทำอะไรนอกกรอบ จริงจังกับการทำงาน มาตรฐานสูง

       

      19.00-20.59 น. เวลาสุนัข

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้จะคิดถึงเรื่องของความรัก มีความรักเพื่อตัวเอง เลือกคนรักที่มีความคิดเป็นของตัวเอง มีจุดยืนทางความรักเป็นของตัวเอง

      เป็นคนซื่อ จริงใจ เงียบ ๆ เรียบ ๆ หนักแน่นมั่นคง น่าเชื่อถือ ขยัน ทำงานไม่รู้จักเหนื่อย อดทนสูง มีความเพียรพยายาม ใจกว้าง พร้อมช่วยเหลือผู้อื่น รักคุณธรรมความถูกต้อง ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา กล้าพูด กล้าทำ กระตือรือร้น ไม่เพ้อฝัน ไม่ยืดหยุ่น คิดและทำอะไรตรง ๆ ไม่กล้าแหกกฏระเบียบ ชีวิตไม่ค่อยแปลกใหม่ บางครั้งดูน่าเบื่อ ฉลาด แต่ไม่เฉลียว พลิกแพลงไม่เป็น เอาตัวไม่ค่อยรอด ขาดความโรแมนติก เป็นคนตลก จี้เส้น มองโลกในแง่ดี

      ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา

      21.00-22.59 น. เวลาหมู

      เด็กที่เกิดในช่วงเวลานี้จะคิดถึงการตัดสินใจของตัวเองเป็นหลัก ตัดสินใจเลือกในสิ่งที่เป็นประโยชน์ สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง มีอุดมการณ์ และแนวทางชีวิตที่เป็นประโยชน์ในชีวิตของตัวเอง

      มีอารมณ์เยือกเย็น ไม่ตื่นเต้นหรือกังวลกับสถานการณ์รอบข้าง ไม่สนใจเรียนรู้ วิสัยทัศน์ไม่กว้างไกล ไม่ค่อยชอบสนิทสนมกับใคร เป็นคนอบอุ่น ไม่คิดอาฆาตมาดร้าย ขี้เกียจ เฉื่อย สุภาพ พูดจาดี เงียบ ไม่ช่างพูด คิดและทำค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบร้อน รอบคอบใจเย็น รักความเรียบง่าย ไม่เรื่องมาก จิตใจดี รักดนตรี ศิลปะ ของสวยงาม โรแมนติก ชอบเอาอกเอาใจ แต่งตัวมีรสนิยม รักครอบครัว ชอบทำอาหาร ชอบกิน ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ใจกว้าง ชอบให้อภัย ถ้าถูกทำร้ายจะสู้สุดชีวิต

       

      อย่างไรก็ตาม ฤกษ์คลอดตามช่วงเวลา เป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล หากทางครอบครัวยึดถือเรื่องฤกษ์มงคล แล้วไม่ขัดกับคำแนะนำของแพทย์ผู้ดูแล ทำตามฤกษ์แล้วสบายใจ ก็ทำได้ค่ะ แต่หากยึดถือกับฤกษ์คลอดมากเกินไป จนทำให้เกิดอันตรายขึ้นกับแม่และเด็ก แบบนี้ก็คงไม่ดีนัก เพราะอย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของคนในครอบครัว รวมไปถึงเจ้าตัวน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลก ก็เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าฤกษ์ยามมงคลใด ๆ จริงไหมคะ?


      ขอบคุณที่มาจาก horoworld , poweroffortune

      บทความน่าสนใจเพิ่มเติม

      [เรื่องจริงจากหมอสูติฯ] เชื่อฤกษ์คลอด..จนลูกเสียชีวิตในครรภ์

      ฤกษ์คลอดบุตร 2563 วันไหนฤกษ์ดี ผ่าคลอดได้ เช็กเลย!

      ฤกษ์คลอดเดือนพฤศจิกายน 2563 จัดเต็ม 9 วันดี..ดูเลย!

      ฤกษ์คลอดเดือนธันวาคม 2563 วันไหนเหมาะสุด แม่ห้ามพลาด!

      Save

        ประกาศผลผู้โชคดี Lucky Draw

        ประกาศผลผู้โชคดี Lucky Draw
        ช็อปครบทุกๆ 2,000 บาท ในงาน Amarin Baby & Kids Fair ครั้งที่ 8

        • ตุ๊กตาม้าโยก 3 in 1 รุ่น Belgie best friend มูลค่า 2,790 บาท
        คุณนงลักษณ์  ทองคำพันธุ์  Tel. 082 – 633 – 22XX

        • คอกกั้นเด็กเกาหลี เฮนิม รุ่น Playgameมูลค่า 4,500 บาท
        คุณอรพินท์  ลิ้มสถารัตน์  Tel. 081 – 942 – 91XX

        • เป้อุ้มเด็กเกาหลี Todbiมูลค่า 6,450 บาท
        คุณชยณัฐ  ศาสพิทักษ์กุล  Tel.080 – 440 – 24XX

        • บ้านเด็ก Haenim Kids House มูลค่า 9,900 บาท
        คุณศาสนีย์  วงศ์สุรไกร  Tel.081 – 889 – 33XX

        • รถเข็น Recaroรุ่น Easylife Limited Edition มูลค่า 17,500 บาท
        คุณอำนวย  กาญจนเพ็ญ  Tel.081 – 694 – 92XX

        • Car Seat Daiichi รุ่น Dualwell Season 2 Black มูลค่า 20,500 บาท
        คุณนัคธร  สัตถาผล  Tel.089 – 715 – 16XX

         

        เงื่อนไขการรับรางวัล

        ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัล

        • ตุ๊กตาม้าโยก 3 in 1 รุ่น Belgie best friend มูลค่า 2,790 บาท
        • คอกกั้นเด็กเกาหลี เฮนิม รุ่น Playgameมูลค่า 4,500 บาท
        • เป้อุ้มเด็กเกาหลี Todbiมูลค่า 6,450 บาท
        • บ้านเด็ก Haenim Kids House มูลค่า 9,900 บาท
        • รถเข็น Recaroรุ่น Easylife Limited Edition มูลค่า 17,500 บาท
        • Car Seat Daiichi รุ่น Dualwell Season 2 Black มูลค่า 20,500 บาท

        ทีมงานจะติดต่อและแจ้งให้ผู้โชคดีทุกท่านทราบผ่านทาง โทรศัพท์ หรือ SMS หรือ Email เพื่อนัดหมายการมารับรางวัลภายในวันที่  15 สิงหาคม 2559  บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  สำนักงานใหญ่  เลขที่ 378 ถนนชัยพฤกษ์  แขวงตลิ่งชัน  เขตตลิ่งชั่น กรุงเทพฯ   

             เฉพาะวัน จ.-ศ. ได้ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น.

        1. ผู้โชคดีท่านใดไม่สามารถเดินทางมาในวัน เวลา และ สถานที่ที่กำหนดไว้ ถือว่าท่านสละสิทธิ

        2. สิทธิรับรางวัลและของรางวัล ไม่รวม ค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายใดๆของผู้โชคดีในการเข้าร่วมกิจกรรมและในการรับรางวัลที่ผู้โชคดีต้องรับผิดชอบเอง

        3. พนักงานและลูกจ้างของ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และคณะกรรมการดำเนินรายการ และคนในครอบครัว ไม่มีสิทธิเข้าร่วมรายการและไม่มีสิทธิได้รับรางวัล

        4. ผู้โชคดีตกลงยินยอมให้บริษัทฯบันทึกภาพและเสียงของท่าน และ เผยแพร่ภาพและเสียงของท่านผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลเพื่อการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆของบริษัทฯได้ทุกประการ โดยจะไม่มีการเรียกร้องค่าใช้จ่ายหรือค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น

        5. ในกรณีที่ไม่สามารถติดต่อผู้โชคดีได้ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิในการมอบรางวัลให้แก่ผู้โชคดีสำรองท่านถัดไป

        6. ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลตกลงและรับทราบว่า บริษัทฯไม่ได้เป็นผู้ผลิตหรือจัดจำหน่ายสินค้าหรือให้บริการที่ใช้เป็นรางวัล ดังนั้น บริษัทฯสงวนสิทธิที่จะไม่รับผิดชอบใดๆเกี่ยวกับตัวสินค้าหรือบริการนั้นทุกกรณี

        7. ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลตกลงและรับทราบว่า รางวัลไม่สามารถเปลี่ยนคืนและ/หรือ เปลี่ยนเป็นเงินสดในทุกกรณี และ ไม่อาจโอนสิทธิให้ผู้อื่นได้

        8. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และ บริษัทฯไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย การเปลี่ยนแปลงหรือเหตุต่างๆที่เกิดจากเจ้าของสินค้า หรือ ผู้ให้บริการ หรือ เหตุใดๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ

        9. หากผู้โชคดีไม่ทำตาม หรือ ผิดข้อตกลงหรือเงื่อนไขการรับรางวัลข้อใดข้อหนึ่ง ถือว่าสละสิทธิ

        10. การตัดสินและดุลพินิจใดๆของบริษัทฯ ถือเป็นที่เด็ดขาดและสิ้นสุด

          Tags

          บขส. จัดโครงการ “ส่งความรักจากอ้อมอกแม่สู่ลูก” ให้บริการรับส่งนมแม่แช่แข็งในบรรจุภัณฑ์ทุกขนาดฟรี ขยายเวลาถึงสิ้นปี 59

          เนื่องด้วยในเดือนสิงหาคมนี้ มีช่วงสัปดาห์ที่สำคัญของแม่กับลูกก่อนที่จะถึงวันแม่ กับสัปดาห์นมแม่โลก 1-7 สิงหาคม 2559 “การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ กุญแจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จึงจัดทำโครงการ บขส.ส่งความรักจากอ้อมอกแม่สู่ลูกอย่างต่อเนื่อง Continue reading “บขส. จัดโครงการ “ส่งความรักจากอ้อมอกแม่สู่ลูก” ให้บริการรับส่งนมแม่แช่แข็งในบรรจุภัณฑ์ทุกขนาดฟรี ขยายเวลาถึงสิ้นปี 59”

            อ่านหนังสือให้ลูกฟัง

            อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกคืน ดีอย่างไร? และทำได้อย่างไร?

            อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกคืน และเล่นดินเล่นทรายกับลูกบ่อยๆ สองอย่างนี้เป็นยาวิเศษหรือผงมหัศจรรย์สำหรับการเตรียมความพร้อมที่ดี ง่าย ประหยัด และได้ผล เตรียมความพร้อมอะไร คำตอบคือเตรียมจิตใจที่มั่นคง เซลล์สมองที่ดี และกล้ามเนื้อเล็กนิ้วมือทั้งสิบนิ้วอย่างเสรีและแข็งแรงมากที่สุด เพื่อส่งต่อเขาให้แก่โรงเรียนในภายหน้า

             

            อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกคืน ทำให้เกิดอะไรบ้าง และจะเป็นไปได้อย่างไร

            1.การอ่านหนังสือให้ลูกฟังก่อนนอนทุกคืนสามารถทำได้ตั้งแต่แรกเกิด อย่างไรก็ตามหลังกลับจากโรงพยาบาลทั้งคุณแม่และคุณพ่อต้องปรับตัวมากมายเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็มิได้แปลว่าต้องอ่านตั้งแต่วันแรกจริงๆ พร้อมเมื่อไรก็เริ่มเมื่อนั้น

            2.ประโยชน์ข้อแรกคือการอ่านหนังสือให้ลูกฟังก่อนนอนทุกคืนจะดึงเวลาพ่อแม่ลูก รวมทั้งพี่ตัวเล็กของน้องที่เกิดใหม่ ให้ใช้เวลาร่วมกันอย่างสงบ อย่างน้อยก็วันละครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง นี่คือช่วงเวลาที่ทุกคนจะมีความสุขมากที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิต ใครพลาดไปจะน่าเสียดาย (กรุณาปิดมือถือเสียด้วย)

            อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกคืน

            3.ลูกเห็นและได้ยินเสียงพ่อแม่ทุกคืน จะทำให้พ่อแม่กลายเป็นวัตถุที่มีจริงและมั่นคง เรียกว่า object constancy กระบวนการนี้เริ่มจากแรกเกิดไปจนเสร็จสมบูรณ์เมื่อลูกอายุ 3 ปี

            4.ลูกเห็นและได้ยินเสียงพ่อแม่ทุกคืน จะทำให้เกิดความผูกพันและสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เรียกว่า attachment กระบวนการนี้เริ่มจากแรกเกิดไปจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์เมื่อลูกอายุ 3 ปี จากนั้นสายสัมพันธ์นี้จะอยู่เหนือสถานที่และกาลเวลา จะเป็นเครื่องมือสำคัญของมนุษย์ในการเหนี่ยวรั้งให้ไม่ออกนอกลู่นอกทางในอนาคต

            5.ลูกเห็นและได้ยินเสียงพ่อแม่ทุกคืน จะทำให้เกิดการสร้างตัวตนของลูกเองที่แข็งแรง มั่นคง ชัดเจน รู้ว่าตนเองเป็นใคร มาจากไหน จะไปไหน ทำให้เด็กๆ มีตัวตนให้รัก ให้ห่วง ให้ดูแล เรียกว่า self เมื่อเติบใหญ่จะทำอะไร นอกจากจะเหลียวหลังดูพ่อแม่ซึ่งเด่นชัดในใจตนเอง ยังรักตัวเองมากพอที่จะถนอมไว้ให้ดี กระบวนการนี้เริ่มจากแรกเกิดไปจนถึงสองขวบครึ่งก่อนที่จะเริ่มกระบวนการแยกตัวเป็นบุคคลอิสระเมื่ออายุ 3 ปี

             

            อ่านเรื่อง “อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกคืนดีอย่างไร และทำได้อย่างไร” คลิกหน้า 2

              พี่ภู น้องเภา หอมแก้มกันก่อนนอน และประโยชน์เมื่อจัดเวลานอนให้ลูกๆ

              พี่ภู น้องเภา สองพี่น้องสะกิดใจ หนุ่มน้อยของพ่อป๋อและแม่เอ๋ มักมีรูปจุ๊บกันน่ารักมาฝากแฟนคลับอยู่เสมอ วันนี้ AMARIN Baby & Kids รวบรวมโมเม้นท์น่ารักของน้องภู และน้องเภา มาให้ทุกท่านได้ชมกัน  พร้อมกับเทคนิค พาลูกเข้านอนพร้อมกัน โดยที่คุณพ่อคุณแม่อาจไม่เคยทราบมาก่อน

              พี่ภู น้องเภา สองพี่น้องสุดน่ารัก หอมแก้มกันก่อนนอน

              พี่ภู น้องเภา

              ประโยชน์ของการ พาลูกเข้านอนพร้อมกัน

              1. ประหยัดขั้นตอนให้คุณพ่อคุณแม่

              การอาบน้ำ ใส่ชุดนอน กินของว่างหรือดื่มนมก่อนนอน เสร็จแล้วแปรงฟัน อ่านนิทาน ฯลฯ ค่อยเข้านอน แม้ว่าขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้จะใช้เวลาทวีคูณขึ้นเมื่อต้องทำพร้อมกันสำหรับบ้านที่มีลูกสองคน (โดยเฉพาะเมื่อลูกไม่ได้อาบน้ำด้วยกัน หรือชอบนิทานกันคนละเรื่อง) แต่ก็ยังเสียเวลาน้อยกว่าการเอาลูกแต่ละคนเข้านอนในเวลาต่างกันอยู่ดี

              พี่ภู น้องเภา

              1. ป้องกันลูกเข้าใจผิด

              เพราะการให้พี่คนโตเข้านอนดึกกว่าทำให้ดูเหมือนว่าพี่ได้รับรางวัลเป็นสิทธิพิเศษ และอาจทำให้น้องคิดว่าการที่เขาต้องเข้านอนก่อนคือรูปแบบการลงโทษอย่างหนึ่ง เช่น น้องอาจคิดว่า ทำไมพี่ถึงนอนดึกกว่าได้ ทำไมพี่ได้อยู่กับพ่อแม่นานกว่าล่ะคะ หรือคุณพ่อคุณแม่รักพี่มากกว่าหนูใช่ไหม เลยอยากให้ไปนอนเร็วๆ เป็นต้น

              พี่ภู น้องเภา

              1. เพิ่มเวลาส่วนตัว

              ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาแบบผู้ใหญ่ ด้วยกันมากขึ้น

              พี่ภู น้องเภา

              1. เด็กโตก็ต้องนอนให้เต็มอิ่มนะ

              เด็กวัยเรียนมักตื่นตัวและมีกิจกรรมที่ต้องทำตลอด โดยไม่ได้งีบหลับระหว่างวันเหมือนเมื่อตอนอยู่อนุบาล แต่พ่อแม่ต้องไม่ลืมว่าเด็กๆ เหล่านี้ก็ต้องการการพักผ่อนนานเหมือนๆ กับน้องตัวเล็กนั่นแหละ เพราะฉะนั้นให้เข้านอนแต่หัวค่ำย่อมดีที่สุด

              พี่ภู น้องเภา

              อย่างไรก็ตาม เรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรลืมหากให้ลูกเข้านอนพร้อมๆ กัน คือ ลูกแต่ละคนควรมีช่วงเวลาส่วนตัวกับพ่อแม่ทุกๆ วันโดยไม่มีพี่หรือน้องมาเกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาสายสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูก สร้างความรู้สึกมั่นคงให้ลูก แถมยังช่วยลดความขัดแย้งและการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างพี่น้องเพื่อแย่งความสนใจจากพ่อแม่ด้วย ที่สำคัญ การที่ลูกเข้านอนด้วยกันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต้องทำอะไรด้วยกันทุกอย่างนี่นะ

              ถ้าหากพี่คนโตดูเหมือนยังไม่อยากเข้านอนในเวลาที่น้องเริ่มง่วงแล้ว คุณควรฝึกให้ลูกขึ้นเตียงพร้อมๆ กัน แต่อนุญาตให้พี่อ่านหนังสือหรือเล่นอะไรเงียบๆ บนเตียงตามลำพังได้สักระยะเวลาหนึ่ง (โดยอย่าลืมหรี่ไฟในห้องไม่ให้สว่างจ้าเกินไป) จนกระทั่งลูกพร้อมจะนอนค่ะ


              ภาพ : aey_pornthip

                ลูกกระดูกหัก กระดูกหักในเด็ก ขาบวม

                ระวัง! “ลูกกระดูกหัก” ไม่รู้ตัว สังเกตสัญญาณ ขาโก่ง-บวม-ไม่ขยับ

                “ลูกกระดูกหัก” หรือไม่? คุณพ่อคุณแม่ช่วยสังเกตอาการของลูกได้ จะได้รักษาได้ทันท่วงที

                โรคกระดูกหักในเด็กนับเป็นภาวะที่พบได้บ่อย เนื่องจากวัยเด็กเป็นวัยที่กำลังซุกซนและมีกิจกรรมมากทำให้มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย แม้เด็กมีโอกาสกระดูกหักได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามภาวะกระดูกหักในเด็กมีความแตกต่างจากกระดูกหักในผู้ใหญ่ค่อนข้างมากด้วยเหตุผลหลายประการด้วยกัน เช่น

                ลูกกระดูกหัก กระดูกหักในเด็ก ขาบวม

                1. คุณสมบัติของกระดูกเด็ก

                กระดูกเด็กมีความแตกต่างจากผู้ใหญ่ ดังอาจเคยได้ยินว่า “เด็กกระดูกยังอ่อน” คำกล่าวนี้นับว่าถูกต้อง กระดูกเด็กหักค่อนข้างง่ายและมีลักษณะการหักบางอย่างที่เป็นลักษณะเฉพาะที่ไม่พบในผู้ใหญ่เช่น การบิดงอผิดรูปของกระดูก (plastic deformity) การย่นของกระดูก หรือการหักลักษณะคล้ายกิ่งไม้สด (green stick) ที่มีการหักที่ด้านหนึ่งและอีกด้านที่งอผิดรูปแต่ไม่แตกออก

                อ่านต่อ “เด็กกระดูกหัก ต่างจากผู้ใหญ่อย่างไร?” คลิกหน้า 2

                banner300x250-1

                  ผักดิบ ที่ไม่ควรกิน

                  เตือน!! ผักดิบ 9 อย่าง กินมากไปอาจได้โทษ

                  เตือน!! ผักดิบ 9 ชนิดดังต่อไปนี้ที่หากกินดิบบ่อย ๆ อาจเป็นการสะสมสารอันตรายต่อร่างกายโดยที่ไม่รู้ตัว

                  “ผัก” ถือเป็นอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะทำไปปรุงอาหารหรือถ้าสามารถกินผักสดได้ด้วยแล้วจะยิ่งได้รับวิตามินและแร่ธาตุ รวมทั้งใยอาหาร สารพฤกเคมี (ประโยชน์ของผักหลากสี) และมีผักบางชนิดที่สามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย

                  หากพูดถึงอาหารสุขภาพ แน่นอนว่าจะต้องมีอาหารจำพวกผักอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งคุณประโยชน์ของผัก โดยรวมก็ช่วยเสริมสร้าง ควบคุมการทำงาน และช่วยควบคุมการไหลเวียนของของเหลวในร่างกาย  ช่วยป้องกันและบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ แถมยังช่วยบำรุงผิวพรรณ … “ผัก” นั้นมีประโยชน์มากมายจริงๆ แต่หากว่าเรากินผักไม่ถูกวิธี ผักที่ว่าเป็นประโยชน์นั้นก็อาจจะกลายเป็นโทษไปก็ได้

                  ซึ่งการทานผักสดในบางครั้งก็ไม่ได้ให้ประโยชน์กับร่างกายเสมอไปนะคะ โดยเฉพาะคุณแม่ท้องที่มีอาการท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ ที่ใครๆ ก็แนะนำว่าให้เน้นทานผักเยอะๆ จะช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น หรือเด็กที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย ใยอาหารในผักก็จะช่วยให้เรื่องระบบขับถ่ายของเด็กให้ดีขึ้น >> แต่ก็มีผักอยู่บางชนิด ที่ไม่ควรบริโภคแบบดิบๆ ซึ่งผักที่ห้ามกินดิบ จริง ๆ แล้วอาจไม่ถึงกับเป็นผักต้องห้าม ทว่าควรบริโภคแต่น้อยเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ หากกินดิบ ๆ ในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดโทษมากกว่าประโยชน์ได้ 

                  cabbage-natural-cure-for-stomach-ulcer
                  ผักดิบ กระหล่ำปลีดิบ

                  1. กะหล่ำปลีดิบ

                  กะหล่ำปลีมีวิตามินซีสูง กินแล้วมีประโยชน์แน่ ๆ แต่ต้องปรุงให้สุกก่อนรับประทาน เนื่องจากหากกินกะหล่ำปลีดิบในปริมาณมาก สารออกซาเลต (Oxalate) ในกะหล่ำปลีจะไปจับกับแคลเซียมที่กรวยไต จนกลายเป็นสารแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งหากมีสารตัวนี้ที่กรวยไตมาก ๆ ก็เสี่ยงต่อโรคนิ่วในไตได้ อีกทั้งในกะหล่ำปลีดิบยังมีน้ำตาลชนิดหนึ่ง ซึ่งคนที่มีปัญหาในระบบย่อยอาหารอาจย่อยน้ำตาลชนิดนี้ไม่ได้ และอาจนำไปสู่อาการท้องอืด แน่นท้อง แต่หากนำกะหล่ำปลีไปปรุงสุก น้ำตาลที่ว่าก็จะเปลี่ยนโมเลกุลเป็นสารที่ย่อยได้ง่าย ไร้ปัญหาท้องอืดแน่นอน

                  นอกจากนี้ในกะหล่ำปลีดิบยังมีสารกอยโตรเจน (Goitrogen) สารที่ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ทำให้ร่างกายดึงไอโอดีนจากเลือดไปใช้ได้น้อยกว่าปกติ จนอาจก่อให้เกิดโรคคอหอยพอกได้ แต่กอยโตรเจนจะสลายได้อย่างรวดเร็วเมื่อโดนความร้อน ฉะนั้นจึงควรบริโภคกะหล่ำปลีแบบปรุงสุกจะดีกว่า ส่วนคนปกติทานเป็นผักแกล้มกับน้ำพริก หรือลาบก็คงไม่มากเท่าไหร่ ยกเว้นทานเป็นกิโลๆ

                  cauliflower florets

                  2. ดอกกะหล่ำดิบ

                  พืชชนิดหัวอีกอย่างที่ต้องระวังหากจะกินดิบ ๆ เพราะดอกกะหล่ำก็มีน้ำตาลชนิดเดียวกันกับกะหล่ำปลีด้วย ดังนั้นหากไม่อยากเกิดอาการท้องอืด ก็ควรนำดอกกะหล่ำไปปรุงให้สุกก่อนรับประทานนะคะ

                  broccoli

                  3. บรอกโคลีดิบ

                  มาตระกูลเดียวกันกับกะหล่ำปลีและดอกกะหล่ำเลย บรอกโคลีมีน้ำตาลที่ควรต้องถูกย่อยด้วยความร้อนก่อนจึงจะไม่ก่อให้เกิดอาการท้องอืด และในบรอกโคลีดิบยังมีฮอร์โมนบางชนิดที่เป็นตัวกระตุ้นความเสี่ยงโรคไทรอยด์ แต่เจ้าฮอร์โมนที่ว่าจะถูกย่อยสลายไปเมื่อโดนความร้อน ดังนั้นบรอกโคลีจึงจัดเป็นผักอีกชนิดที่กินดิบมาก ๆ อาจก่อให้เกิดโทษได้

                  white-bowl-with-fresh-spinach-leaves

                  4. ผักโขมดิบ

                  ผักใบเขียวขจีอย่างผักโขมดิบ ๆ มีกรดออกซาลิก (Oxalic) ที่มีฤทธิ์ทำให้ลำไส้ระคายเคือง แถมยังเป็นตัวขัดขวางไม่ให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคนิ่วในไตอีกทางหนึ่งได้ด้วย ทว่าเจ้ากรดออกซาลิกตัวนี้จะหมดฤทธิ์ทันทีเมื่อเจอความร้อน ซึ่งก็หมายความว่าเราควรปรุงผักโขมให้สุกก่อนนำมารับประทานนั่นเองนะคะ

                  อ่านต่อ >> ผักที่ไม่ควรกินแบบดิบๆ อีก 5 อย่าง” คลิกหน้า 2

                   

                  เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

                   

                    เคล็ดลับพัฒนาสมอง

                    เคล็ดลับพัฒนาสมอง ด้วยการกอด กิน เล่น อ่าน

                    คุณหมอประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ได้เขียนหนังสือชื่อ “ป่วยทางจิตผิดตรงไหน” ในบทที่ชื่อ “ลูกไอคิวต่ำ” คุณหมอแนะนำ เคล็ดลับพัฒนาสมองลูกน้อย โดยเขียนเอาไว้ว่า จากงานวิจัยพบว่าครึ่งหนึ่งของเด็กไทยในวัยเรียน และวัยรุ่นมีระดับสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ

                    Continue reading “เคล็ดลับพัฒนาสมอง ด้วยการกอด กิน เล่น อ่าน”

                      แก้วน้ำอันตราย เลือกใช้แก้วน้ำให้ปลอดภัย 6 ชนิด

                      แก้วน้ำคือสิ่งที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน มีให้เลือกใช้หลากหลายแบบ ซึ่งออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น เพื่อเก็บความร้อน ความเย็น มีน้ำหนัก และความสวยงามแตกต่างกัน แต่รู้หรือไม่ว่าวัสดุที่นำมาผลิต แก้วน้ำอันตราย เพราะแก้วน้ำบางชนิดถูกผลิตออกมาไม่ได้มาตรฐาน

                      Continue reading “แก้วน้ำอันตราย เลือกใช้แก้วน้ำให้ปลอดภัย 6 ชนิด”

                        โฉมหน้า 15 โรคแทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์

                        สำหรับคนที่กำลังกำลังตั้งครรภ์นั้นเวลา จำเป็นที่ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิด โรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อแม่และลูกได้
                        Continue reading “โฉมหน้า 15 โรคแทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์”

                          7 สิ่งที่พ่อแม่ควรลบออกจากเฟซบุ๊ก

                          วันนี้  AMARIN Baby & Kids ขอนำสาระประโยชน์ดีๆ สำหรับคุณแม่ที่มีลูกวัยโตและพวกเขามีโซเชี่ยลมีเดียเป็นชื่อของตัวเองแล้ว หรือเป็นคนที่ใช้โซเชียลมีเดียเอง  ต่อไปนี้คือคำเตือน สิ่งที่พ่อแม่ควรลบออกจากเฟซบุ๊ก เพื่อไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของลูกและคุณต้องรั่วไหลไปสู่ผู้ไม่หวังดีทุกกรณี

                          7 สิ่งที่พ่อแม่ควรลบออกจากเฟซบุ๊ก

                          วันเกิด

                          เพราะข้อมูลวัน เดือน ปี เกิด จะถูกนำไปใช้ยืนยันเพื่อเข้าถึงธนาคารต่างๆ ได้  ดังนั้นคุณไม่ควรโพสต์วันเดือนปีเกิด

                          เบอร์โทรศัพท์

                          เป็นสิ่งที่คนแปลกหน้าจะเข้าถึงตัวลูกได้ง่ายที่สุด  หากผู้ไม่หวังดีกำลังติดตามลูกอยู่

                          ลบเพื่อนที่ไม่รู้จักออก

                          เราไม่ควรมีเพื่อนที่เราไม่รู้จักอยู่ในเฟซบุ๊กจำนวนมากๆ เพราะบางทีก็อาจจะมีผู้ไม่หวังดีแฝงตัวอยู่ในนั้นด้วยก็ได้

                          สถานที่ที่ลูกๆ ไปโรงเรียน

                          ยกตัวอย่างพบว่าปี 2014-2014 เกิดคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กมากถึง 36,429  ราย ในอังกฤษ ซึ่งควรป้องกันไม่เช็คอินสถานที่ตั้งของลูก

                          สิ่งที่พ่อแม่ควรลบออกจากเฟซบุ๊ก

                          ไม่เช็คอินสถานที่อื่นๆ รวมถึงที่บ้าน

                          นอกจากโรงเรียนแล้วก็มีสถานที่อื่นๆ ที่เป็นอันตรายได้ เช่น ร้านอาหาร ฯลฯ  บางคนตั้งค่าไว้อัตโนมัติ ควรลบออก  เพื่อไม่ให้มิจฉาชีพรู้ที่ตั้งของเรา

                          เวลาและสถานที่พักผ่อน

                          เคยมีกรณีที่นักท่องเที่ยวถูกปล้นระหว่างเดินทางเพราะโพสต์แผนการท่องเที่ยวผ่านโซเชี่ยลมีเดีย  ซึ่งบริษัทประกันปฏิเสธการจ่ายชดเชยเพราะถือว่าผู้เอาประกันไม่ป้องกันตัวเอง

                          ข้อมูลทางการเงิน

                          ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม  ไม่ควรโพสต์ลงโซเชี่ยลมีเดียเพราะง่ายต่อการโจรกรรมข้อมูลชองผู้ไม่หวังดี  ข้อนี้ห้ามเด็ดขาด และต้องปลูกฝังให้เป็นนิสัย

                          ในคำแนะนำสากลระบุว่าเด็กไม่ควรมีโซเชี่ยลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 13 ปี แต่เด็กบางคนมีตั้งแต่ ป.1 แล้ว  ต้องดูแลควบคุมการใช้โซเชียลมีเดียของลูกอย่างเคร่งครัด  และตัวคุณแม่เองก็อย่าเผลอเช็คอินเรื่องลูกของเรามากเกินไป เพราะย่อมมีผู้ไม่หวังดีติดตามนำรูปไปใช้หรือนำไปติดตามเข้าถึงลูกเราได้อย่างไม่รู้ตัว

                          อ่านต่อ บทความน่าสนใจ

                          4 สิ่งที่คุณแม่ต้องทำก่อนลูกโตออนไลน์

                          หยุดเด็กตื่นมาดูมือถือกลางดึก ภัยเงียบส่งผลอ่อนเพลียที่โรงเรียน


                          ที่มาจากเว็บไซต์ indy100.indepent.co.uk

                            แม่เตือนแม่!! ลูกชายตัวน้อยเกือบเสียกล่องดวงใจ เพียงเพราะกางเกงว่ายน้ำตัวเดียว

                            เป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์สอนใจพ่อแม่เวลาเลือกกางเกงว่ายน้ำให้ลูกๆ ใส่ ไม่อย่างนั้นอาจได้ลงเอยแบบหนุ่มน้อย คนนี้ที่ไปเที่ยววันหยุดกับครอบครัวพร้อมกางเกงว่ายน้ำตัวเก่งที่เพิ่งซื้อมาใหม่ แต่กลายเป็นเรื่องสยองในชีวิตของหนูน้อยไปอีกนาน

                            เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หาดแห่งหนึ่งในสเปน ขณะที่ทุกคนกำลังเล่นน้ำอย่างสนุก จู่ๆ เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น “แจ๊ค” เด็กชายวัย 5 ขวบ ได้ร้องลั่นขึ้นมา พร้อมกับลงไปนอนด้วยใบหน้าที่เจ็บปวด

                            sad-jack

                            เมื่อผู้เป็นแม่ได้ยินเสียงจึงรีบเข้าไปดู…ก็พบว่าเกิดความผิดปกติบางอย่างกับกางเกงว่ายน้ำของลูก เมื่อตาข่ายชั้นในกางเกงว่ายน้ำนั้นได้พันกับกล่องดวงใจของหนูน้อยเอาไว้ซะแน่น จนผู้เป็นแม่ไม่กล้าเอากรรไกรมาตัดเพราะกลัวจะโดนของสงวนของเด็กน้อยไปด้วย จึงต้องรีบนำตัวส่งคุณหมอทันที

                            mesh-suit (1)

                            หลังจากได้รับยาชาและหมอได้อาศัยความชำนาญและค่อย ๆ ตัดตาข่ายออกทีละนิด จนมันหลุดออกจากตาข่าย ซึ่งคุณหมอเจ้าของไข้บอกว่าอาการภายนอกนั้นไม่น่าห่วงเท่าภายใน เพราะดูเหมือนกล่องดวงใจของเด็กน้อยจะถูกพันเอาไว้นานพอดู หมอจึงกลัวว่าเขาอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับท่อปัสสาวะ แต่หลังจากได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็ Jack ก็สามารถใช้งานน้องชายตัวเองได้อย่างเป็นปกติ และไม่ต้องห่วงว่าจะมีผลกระทบต่อการใช้งานในอนาคตด้วย

                            jack-hospital

                            ซึ่งหมอยังบอกอีกว่า โชคดีที่แม่ส่งเจ้าหนูแจ๊คนั้นมารักษาได้ทันท่วงที เขาจึงไม่เป็นอะไรมาก ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยสำหรับบ้านไหนที่มีลูกชาย อย่าลืมตรวจสอบกางเกงว่ายน้ำของลูกก่อนสวมใส่ทุกครั้งนะคะ และต้องมั่นใจว่า กางเกงว่ายน้ำของลูกแบบที่มีตาข่ายนั้น มีขนาดพอดี ไม่คับและไม่หลวมสำหรับลูกมากจนเกินไป


                            ขอบคุณภาพจาก : Facebook / Laura Collins

                            ขอบคุณข้อมูลจาก : www.hotmomsclub.comwww.spokedark.tv

                              13 วิธี ว่าที่คุณแม่เตรียมร่างกายให้พร้อมมีลูก

                              สำหรับคู่รักที่พร้อมจะสร้างคำว่า “ครอบครัว” ให้สมบูรณ์ด้วยการมี “ลูก” เป็นโซ่ทองคล้องใจ อันดับแรกก็ต้องเริ่มเตรียมตัวเตรียมร่างกายและจิตใจให้ดี เพราะใคร ๆ ก็อยากให้การถือกำเนิดของเจ้าตัวน้อยนั้นออกมาราบรื่นไร้ปัญหาใช่ไหมล่ะคะ…โดยเฉพาะคนที่กำลังจะเป็นคุณแม่ยิ่งต้องเตรียมตัวมากเป็นพิเศษ ลองมาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้างที่ว่าที่คุณแม่ควรจะได้ทำ เพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะมีเจ้าตัวน้อยบ้าง

                              วิธีที่ 1 เล่นโยคะ

                              ความเครียดมักเป็นตัวแปรที่ผกผันสวนทางกับระดับฮอร์โมนสืบพันธุ์ การเล่นโยคะจะทำให้คุณสมาธิจดจ่ออยู่ที่ลมหายใจเข้าออกระหว่างที่ทำท่าต่างๆ จึงช่วยลดความเครียดจากชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้ ขณะที่ยืดหยุ่นร่างกาย ผู้ฝึกโยคะยังต้องสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ ซึ่งจะช่วยให้หัวใจเต้นช้าลง แต่เพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือดมากขึ้น นายแพทย์โรเบิร์ต เอ กรีน ผู้เขียน Perfect Hormone Balance for Fertility แนะนำว่า การเล่นโยคะครั้งละ 45 นาที 2 ครั้ง/สัปดาห์ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้

                              วิธีที่ 2 บอกลาผลิตภัณฑ์ที่มีสารพทาเลต

                              สารพทาเลตเป็นสารเคมีซึ่งใช้เติมลงไปในพลาสติกเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น มีรายงานถึงความเป็นพิษของสารชนิดนี้ว่า อาจทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ในเด็ก และอาจทำให้หญิงตั้งครรภ์เกิดภาวะตั้งครรภ์เกินกำหนด*

                              สารในตระกูลพทาเลตที่คุณสาวๆ อาจต้องสัมผัสในชีวิตประจำวัน คือ บิวทิลเบนซิลพทาเลท (butylbenzyl phthalate, BBP) ซึ่งเป็นสารที่สร้างลอกเลียนฮอร์โมนเอสโตรเจน เป็นส่วนผสมที่ทำให้เกิดความมันเงาในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เช่น สีทาเล็บ ลิปสติก หรือน้ำหอมบางยี่ห้อ ฯลฯ มีรายงานว่า สารเคมีชนิดนี้อาจส่งผลให้เกิดมะเร็งเต้านม และภาวะมีบุตรยากได้

                              *แหล่งข้อมูลอ้างอิง : เอกสารของกลุ่มวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ

                              วิธีที่ 3 กินผักผลไม้ปลอดสารพิษ

                              สารเคมีในยาปราบศัตรูพืชยับยั้งการเจริญเติบโตของวัชพืช แมลง และสัตว์อื่นๆ อย่างไร ก็ส่งผลกับร่างกายคุณอย่างนั้น เพียงแต่อาจจะส่งผลน้อยกว่าหรือเห็นผลช้ากว่า ดังนั้นพยายามเลือกกินผักที่แน่ใจว่า ปลอดสารพิษ หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทาน

                              วิธีที่ 4 ไปตามนัดสูติแพทย์

                              การไปพบสูติแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการมีบุตร เป็นสิ่งที่ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ในอนาคตควรปฏิบัติ เพราะสาเหตุของการมีบุตรยากหลายประการ เช่น รังไข่ทำงานผิดปกติ โรคต่อมไทรอยด์ โรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ หรือภาวะความผิดปกติของสเปิร์มในฝ่ายชาย ฯลฯ ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า จะต้องให้สูติแพทย์ตรวจวินิจฉัยและหาวิธีรักษา

                              นอกจากนี้ สูติแพทย์ยังช่วยให้คุณคำนวณวันไข่ตกได้แม่นยำขึ้น วางแผนการฉีดวัคซีนต่างๆ เช่น วัคซีนป้องกันหัดเยอรมัน (ซึ่งต้องฉีดก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน) และตรวจหาความเสี่ยงของโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมียได้ด้วย

                              อ่านต่อ >> วิธีเตรียมร่างกายคุณผู้หญิงให้พร้อมมีลูก” คลิกหน้า 2

                                โรคฮาชิโมโตะ ไทรอยด์ เสี่ยงแท้ง

                                โรคไทรอยด์อักเสบเรื้อรังฮาชิโมโตะ ภัยเงียบเพิ่มความเสี่ยงแท้งลูก

                                หลายท่านอาจไม่เคยคุ้นกับคำว่า “โรคฮาชิโมโตะ” หากพูดง่ายๆ ก็คือเป็นโรคไทรอยด์อักเสบเรื้อรังแบบหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายลดลง ซึ่งเป็นอันตรายต่อแม่ท้อง เพราะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการแท้งลูกในครรภ์ได้ค่ะ

                                ในปี พ.ศ. 2533 มีรายงานการค้นพบว่าภูมิคุ้มกันต่อต้านต่อมไทรอยด์ที่อยู่ในระดับสูงมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงในการแท้งที่สูงขึ้น แต่แม้จะมีการวิจัยในประเด็นนี้มากมาย สูตินรีแพทย์ส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้ให้คุณแม่ตั้งครรภ์ตรวจระดับภูมิคุ้มกันต่อต้านต่อมไทรอยด์ และคนส่วนใหญ่ก็ไม่ทราบว่าควรจะต้องขอตรวจอะไร

                                shutterstock_190732466

                                โรคไทรอยด์อักเสบเรื้อรังฮาชิโมโตะ (Hashimoto Thyroiditis) หรือเรียกสั้นๆ ว่า โรคฮาชิโมโตะ เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีต่อมไทรอยด์เพราะนึกว่าต่อมไทรอยด์เป็นผู้คุกคามเสียเอง แทนที่จะโจมตีเพียงผู้บุกรุกตัวจริงอย่างเช่นเชื้อโรคต่างๆ เท่านั้น และยังเป็นสาเหตุที่พบมากที่สุดของการพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ด้วย โรคนี้ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ นพ. ฮาคารุ ฮาชิโมโตะ ซึ่งเป็นผู้อธิบายลักษณะอาการของโรคนี้ได้อย่างถ่องแท้ ทำให้เป็นประโยชน์อย่างมากต่อการรักษาผู้ป่วย

                                อาการที่สังเกตได้ง่ายของโรคฮาชิโมโตะคือ รู้สึกหนาวง่าย น้ำหนักขึ้นเล็กน้อย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ท้องผูกคอโตเนื่องจากต่อมไทรอยด์โต ผิวหนังแห้ง ผมร่วง ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ สมาธิสั้น หน้าบวม

                                อ่านต่อ “ทำไมโรคฮาชิโมโตะจึงอันตรายต่อแม่ท้อง” คลิกหน้า 2

                                banner300x250-1

                                  ความรู้เกี่ยวกับสเปิร์ม

                                  ความรู้เกี่ยวกับสเปิร์ม ที่พ่อแม่ควรรู้ 10 เรื่อง

                                  มีเกร็ด ความรู้เกี่ยวกับสเปิร์ม มากมายที่คุณพ่อ คุณแม่ยังไม่รู้ สำหรับบทความนี้ Amarin Baby & Kids ขอยกตัวอย่างเรื่องน่ารู้มาให้คุณพ่อ คุณแม่ได้ทราบกัน 10 ข้อ เพื่อให้เข้าใจสเปิร์ม หรืออสุจิมากขึ้นด้วย

                                  Continue reading “ความรู้เกี่ยวกับสเปิร์ม ที่พ่อแม่ควรรู้ 10 เรื่อง”

                                    วิธีเลี้ยงลูกให้ “ฉลาด” และ “ดี” ในแบบฉบับของ “พ่อติ๊ก&แม่โบว์”

                                    สวัสดีแฟนๆ AMARIN Baby & Kids ทุกท่านค่ะ  หลายท่านที่กำลังรอประกาศผลรางวัลสุดยอดองค์กรสนับสนุนเด็กและครอบครัวแห่งปีจากการโหวตผ่านนิตยสาร  AMARIN Baby & Kids  ก่อนอื่นเรามาย้อนดูเรื่องราวแห่งปีของสุดยอดคุณพ่อคุณแม่แห่งปี จากครอบครัว “ผลดี” และ “สหวงษ์”

                                     

                                    พ่อติ๊ก – แม่พีช – น้องเต๊นท์  ครอบครัวผลดี

                                    tik-bow (1)

                                              ไม่เคยเปิดตัวออกสื่อเลย  แต่เมื่อใส่เสื้อทีมออกงานครั้งแรกก็ดังเป็นพลุ  เพราะเป็นควันหลงจากละครเรื่องเจ้าบ้านเจ้าเรือน ซึ่ง พ่อติ๊ก เจษฎาภรณ์  ผลดี  รับบทเป็นคุณไรวินทร์  เจ้าบ้านเจ้าเรือนผู้สวมสูทมีออร่าขาวผ่อง  (แสดงคู่กับนางเอกสุดฮอตสวยระดับนางฟ้าอย่างศรีริต้า เจนเซ่น)  ในบทพ่อ ไม่แตกต่างจากชีวิตจริงที่คุณติ๊ก  เป็นคุณพ่อเต็มตัวแล้วเช่นกัน

                                    ผู้หญิงที่โชคดีผู้ได้หัวใจ “พี่ติ๊ก” ไปครอง คือ คุณพีช สิตมน ซึ่งปีนี้ทั้งครอบครัวผลดี ก็ได้รับรางวัลสุดยอดครอบครัวแห่งปีอีกด้วย  ผู้อ่าน  AMARIN Baby & Kids  โหวตให้สุดแรงมาตั้งแต่เริ่มต้นเปิดโหวต

                                    • จุดเริ่มต้นความรักของคุณพีชกับพี่ติ๊กเกิดขึ้นได้อย่างไรคะ

                                    พีชกับพี่ติ๊กมีโอกาสได้รู้จักกันค่ะ พอได้คุยกัน มันค่อนข้างคลิก เพราะเรามีแนวคิดอะไรบางอย่างที่ไปในทิศทางเดียวกัน ก็เป็นเพื่อนกันก่อน แล้วคบกันมาเรื่อยๆ 6-7 ปีได้ค่ะ เลยตัดสินใจแต่งงานกัน

                                    • ดูไลฟ์สไตล์ของทั้งคู่ค่อนข้างแตกต่างกัน เราหาจุดลงตัวที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างไรบ้างคะ

                                    พีชคิดว่าทุกคนต้องมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง และเราควรจะรักษาพื้นที่ตรงนี้ไว้ แต่เราก็ต้องมีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่ใช้ร่วมกันได้ พีชคิดว่าอย่างนี้มันจะทำให้ชีวิตคู่มีความสุข เป็นวงจรที่แข็งแรงกว่า คือถ้าเราต้องดึงเขามาอยู่กับเราตลอดหรือเขาดึงเราไปอยู่กับเขาตลอด ในสิ่งที่เขาหรือเราไม่ได้เป็นมันจะอึดอัด เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำให้กันได้ คือสนับสนุนกันไปมา เท่าที่เราจะทำได้ พีชว่าแค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว

                                    • รวมเวลาที่คุณพีชกับพี่ติ๊กคบกันและแต่งงานกันก็เกินสิบปีแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังหวานกันเหมือนเดิม มีเคล็ดลับการใช้ชีวิตคู่อย่างไรคะ

                                    ความเข้าใจกันเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดค่ะ เราต้องเข้าใจในตัวเขา และเข้าใจตัวเองด้วย ส่วนเรื่องความรู้สึกก็สำคัญเหมือนกัน พอเราอยู่ด้วยกันมานานเราจะรู้แล้วว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร เพราะฉะนั้นอะไรที่มันเกินขอบเขต เป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบเราก็จะไม่ทำ และพีชไม่ชอบการปะทะ ไม่ชอบความเครียด เลี่ยงได้ก็จะไม่ทะเลาะกับใครเลย อะไรยอมได้เราจะยอม และพีชก็คิดว่าพี่ติ๊กก็คงคิดเหมือนกัน เพราะเราถึงได้อยู่กันมาได้ เขาก็ยอม เราเลยไม่ค่อยทะเลาะกัน อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้างเราก็จะคุยกันมากกว่า

                                     

                                    tik-bow (4)

                                    • มีวิธีรับมือกับวัย Terrible Twos อย่างไรบ้างคะ

                                    ถ้าเรื่องไหนที่ไม่ได้จริงๆ พีชใช้วิธีพูดกับเขาค่ะ เน้นน้ำเสียงจริงจังหนักแน่น เพราะพีชสังเกตดู คือถ้าสมมติเราเสียงเข้มกับเขา เขาก็จะรู้สึกว่าแม่กำลังโกรธ แม่ไม่พอใจแล้วนะ เขาก็จะเข้ามาหาเข้ามาอ้อน เขาอาจจะไม่ได้เข้าใจประโยคที่เราอธิบายทั้งหมด แต่เขาเข้าใจจากน้ำเสียง

                                    • เริ่มวางแผนอนาคตให้น้องเต็นท์หรือยังคะ

                                    ยังไม่ได้คิดไปไกลมากค่ะ เริ่มคิดเรื่องโรงเรียนก่อน ตอนนี้ก็ให้เขาไปเตรียมความพร้อมโรงเรียนใกล้ๆบ้าน ไปแค่ 3 ชั่วโมงไปเล่น ไปฝึกเจอเพื่อน เจอคนแปลกหน้า ส่วนโรงเรียนอนุบาลก็ค่อยๆดู ช่วงนี้เป็นช่วงหาข้อมูล เก็บข้อมูลค่ะ สิ่งที่พีชคำนึงมากที่สุดคืออยากให้เขามีความสุข ดังนั้นจะเลี้ยงอย่างไงก็ได้ขอให้ลูกมีความสุข โดยยังเป็นคนที่มีระเบียบวินัย และมีขอบเขตในการประพฤติตัวที่ไม่สุดโต่งจนเกินไปค่ะ

                                    • มีเรื่องน่ารักของลูกชายที่คุณแม่ปลื้มสุดๆไหมคะ

                                    เรานอนด้วยกันตลอด เขาก็จะกอดเรา พีชว่าการที่เราได้กอดกันทุกวัน มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะรู้ว่าอีกไม่นานเขาคงไม่กอดเราแล้ว

                                    • แล้วโมเมนต์น่ารักๆของพ่อลูกที่คุณพีชประทับใจล่ะคะ

                                    พี่ติ๊กเป็นคนที่อยู่กับเด็กแล้วน่ารัก เขาเป็นคนที่เล่นกับเด็กเก่งอยู่แล้ว แล้วเวลาที่เขาเล่นกับลูกเราจะแอบเห็นเขาทำเสียงเล็กเสียงน้อย หาอะไรมาเล่นกันเยอะมาก เวลาเล่นกันก็จะสนุกเต็มที่มอมแมมไปทั้งคู่เลย เหมือนเด็กโตกับเด็กเล็กเล่นกัน (หัวเราะ) นอกจากเรื่องเล่นแล้วก็จะมีเรื่องที่เขาดูแลลูก อาบน้ำให้ลูกทุกวัน แล้วพี่ติ๊กเขาทำคล่อง ทำคนเดียวได้ เพราะถ้าพีชอาบให้ลูกจะต้องมีคนช่วย เพราะถ้าหันหลังปุ๊บเต็นท์วิ่งไปแล้ว มันจะวุ่นวายมาก

                                    • วางแผนมีน้องให้น้องเต็นท์อีกคนไหมคะ

                                    อยากมีนะคะ ตอนนี้ก็พยายามดูแลสุขภาพตัวเองไปเรื่อยๆ เพราะพีชกับพี่ติ๊กเราเห็นตรงกันว่าการมีพี่น้องมันสนุก เราทั้งคู่ต่างคนก็มีพี่น้อง สมมติในอนาคตที่เราไม่อยู่แล้ว เขาจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว เขาจะได้มีคู่หูมีคู่คิดค่ะ  (จากสัมภาษณ์นิตยสารอมรินทร์เบบี้แอนด์คิดส์ : คอลัมน์ Our Story ฉบับสิงหาคม 2559)

                                     

                                    อ่านเรื่อง “วิธีเลี้ยงลูกให้ “ฉลาด” และ “ดี” ในแบบฉบับของ “พ่อติ๊ก&แม่โบว์” ” คลิกหน้า 2