ผลิตภัณฑ์ บริการและสื่อสำหรับครอบครัว

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2023 หมวด RisingStar

account_circle
event
ผลิตภัณฑ์ บริการและสื่อสำหรับครอบครัว
ผลิตภัณฑ์ บริการและสื่อสำหรับครอบครัว

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2023 

รางวัล RisingStar ผลิตภัณฑ์ดาวเด่นน่าจับตามอง

รางวัล RisingStar ประกอบด้วย  8  สาขา มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับรางวัลจาก AMARIN BABY & KIDS  AWARDS ในปีนี้  มีใครกันบ้าง

 

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก

 

RISING  STAR: KIDS DIETARY SUPPLEMENT

แบล็ค เอลเดอร์เบอรี่ กัมมี่ วิตามินจากแบรนด์ SAMBUCAL นำเข้าจากออสเตรเลีย มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่ากระตุ้นภูมิคุ้มกัน ป้องกันไวรัส วิตามินซี และซิงค์ มีส่วนช่วยในการปรับการทำงานของภูมิคุ้มกันให้ทำงานเป็นปกติ

 

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับคุณแม่

RISING  STAR: DIETARY SUPPLEMENT FOR PREGNANCY AWARD

BIOMOM Snow Probiotics อาหารเสริมเพื่อคุณแม่“ปรับสมดุลลำไส้ผิวสวยเสริมภูมิคุ้มกัน” รสบลูเบอรี่ แคลอรี่ต่ำ ไม่มีน้ำตาล อร่อย แค่ฉีกซองก็สุขภาพดีได้แบบไม่ต้องชง มีรสสัมผัสที่นุ่มละมุน พร้อมนวัตกรรมใหม่จากประเทศเกาหลีใต้ ทำให้ได้โมเลกุลขนาดเล็กช่วยการดูดซึมได้ดีกว่าที่เคย

 

ผลิตภัณฑ์ถนอมผิวจากยุงกัด

 

RISING STAR: BEST MOSQUITO SOOTHING PRODUCT

ยุงกัดลูกแม่ก็เจ็บใจแล้ว ยิ่งเห็นร่องรอย รอยดำบนแขนขายิ่งปวดใจ  Litlle Bear นำเพนพ้อยนี้มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บาล์มทาหลังยุงกัด เพื่อลดการอักเสบและไม่ทำให้เกิดรอย

คาร์ซีท

RISING STAR: BEST CAR SEAT

POLED หนึ่งในคาร์ซีทดีที่สุดในโลก การันตีรางวัลอันดับ1มากมายจากหลายสถาบันระดับโลก มีหลักฐานยืนยัน และ ยังเป็นคาร์ซีทที่ได้รางวัลจาก สมาคมผู้บริโภคจากประเทศเกาหลี ที่คุณแม่,คุณพ่อเกาหลีไว้วางใจเลือกใช้จริง

Axkid  คาร์ซีตพรีเมียมจากประเทศสวีเดน ที่เชี่ยวชาญด้านเบาะนั่งในรถยนต์แบบหันหน้าไปทางด้านหลัง นำเสนอรูปแบบการเดินทางหันหน้าไปทางด้านหลังสำหรับบุตรหลานของคุณจนถึงน้ำหนัก 25 กก. หรือประมาณ 6 ถึง 7 ขวบ

ผลิตภัณฑ์สมุนไพรบำรุงผิวสำหรับเด็ก

RISING STAR: BEST HERBAL SKINCARE FOR KIDS

ผงสมุนไพรอาบน้ำเด็ก Mamoon ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวดี ๆ จากธรรมชาติของลูกน้อยและทุกคนในครอบครัวที่ขาดไม่ได้เลย

 

ผลิตภัณฑ์ดูแลหวัดสำหรับเด็ก

RISING STAR: BEST COLD RELIEF FOR KIDS

Magic Dragon น้ำมันหอมแดง ออร์แกนิคให้ลูกรัก.. สดชื่น โล่งสบาย รู้สึกผ่อนคลาย บำรุงผิวชุ่มชื้นสูตรเฉพาะ ปลอดภัยด้วยสารสกัดออร์แกนิคที่ผ่านการรับรอง USDA Organic จากประเทฟสสหรัฐอเมริกา และ Ecocert จากยุโรป

สเปรย์ดูแลช่องปากสำหรับเด็ก

RISING STAR: BEST KIDS MOUTH SPRAY

Master Rabbit สเปรย์ดูแลช่องปากที่ออกแบบมาเพื่อเด็ก ๆ โดยเฉพาะ ผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติปลอดภัยต่อเด็ก ใช้สารความหวานแทนน้ำตาล จึงหมดห่วงเรื่องฟันผุ

ทิชชูเปียก

 

RISING STAR: BEST WIPES

 

ทิชชูเปียก Dr. Penguin สูตรน้ำเกลือ ซึ่งชุ่มน้ำกว่าทิชชูเปียกทั่วไปถึง 40 %  และเป็นOral care grade100%  ใช้สำหรับเช็ดทำความสะอาดหลากหลาย ทั้งช่องปาก ฟัน ลิ้น ลูกได้ตั้งแต่แรกเกิด เช็ดเต้านม กรวยปั๊มนม ขวดนม และจุกนม

ติดตามอ่านรางวัลหมวดอื่นตามลิงค์นี้

ผลิตภัณฑ์ บริการและสื่อสำหรับครอบครัว

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2023 หมวดผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับคุณแม่

event
ผลิตภัณฑ์ บริการและสื่อสำหรับครอบครัว
ผลิตภัณฑ์ บริการและสื่อสำหรับครอบครัว

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2023

 หมวดผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับคุณแม่

ในหมวดนี้ประกอบด้วย  4  สาขา มาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ได้รับรางวัล หมวดผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับคุณแม่ จาก AMARIN BABY & KIDS  AWARDS ในปีนี้  มีใครกันบ้าง

ผลิตภัณฑ์เสริมโภชนาการคุณแม่ตั้งครรภ์

MOMMY’S CHOICE: DIETARY SUPPLEMENT FOR PREGNANCY AWARD

ผลิตภัณฑ์เสริมโภชนาการสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ต้องการการบำรุงและใส่ใจสุขภาพเป็นพิเศษเพื่อลูกรัก DHA จากแบรนด์ Mega We Are เป็นส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ทั้งยังลดเสี่ยงต่อภาวะแท้งและการคลอดก่อนกำหนดอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์เพิ่มน้ำนม

MOMMY’S CHOICE: BEST BREASTFEEDING SUPPLEMENT

ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผลิตภัณฑ์เพิ่มน้ำนมของแบรนด์ Jessie M ที่ยังคงครองใจแม่จากทั่วประเทศ ช่วยกู้น้ำนมน้อย น้ำนมหดให้คุณแม่กลับมามีน้ำนมเพียงพอให้ลูกเหมือนเดิม สารสกัดจากธรรมชาติยังช่วยเรื่องดูแลรูปร่างของแม่อีกด้วย

EDITOR’S CHOICE: BEST BREASTFEEDING SUPPLEMENT


ความกังวลเรื่องน้ำนมน้อย น้ำนมหดยังเป็นเรื่องหลักของคุณแม่มมือใหม่ ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Jessie M เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้คุณแม่ให้นมลูกได้อย่างราบรื่น และเหมาะสมกับเวลา โดยผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติที่ส่วนช่วยในการเพิ่มน้ำนม โดยไม่เป็นอันตรายต่อทั้งแม่ลูก

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าท้องคุณแม่

MOMMY’S CHOICE: BEST PREGNANCY STRETCH MARKS PRODUCT

Palmer’s ยังคงเป็นโลชั่นบำรุงผิวหน้าท้องคุณแม่มายาวนาน ด้วยการดึงคุณสมบัติของสารธรรมชาติมาช่วยดูแลผิวท้องที่ขยายใหญ่ให้ยังเรียบเนียน สวย ไร้รอยแตกลายงา เสริมความมั่นใจให้คุณแม่ทุกช่วงของการตั้งครรภ์

EDITOR’S CHOICE: BEST PREGNANCY STRETCH MARKS PRODUCT

มาส์กบำรุงท้อง Bunne & Mamalade ผลิตภัณฑ์ของคุณแม่ลิเดียที่คิดค้นอย่างเข้าใจความต้องการของแม่ท้องทุกคน ในวันที่ท้องโตจนยากจะทาครีมได้ทั่วถึง แผ่นมาส์กรับหน้าที่ดูแลแทน เพียงแค่แปะทิ้งไว้ระหว่างนอนพักผ่อนยังได้เติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าท้องไปพร้อมกันด้วย ใช้ง่าย พกพาสะดวก ประสิทธิภาพดีไม่แพ้ครีมทาท้องลายทั่วไป

เครื่องปั๊มนมมัลติฟังก์ชั่น

MOMMY’S CHOICE: BEST MULTI FUNCTION BREAST PUMP


ยืนหนึ่งด้วยเครื่องปั๊มนมฝีมือคนไทย รุ่น NEW GALAXY ll  ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นครบครัน จัดว่าเป็นเครื่องปั๊มนมแบบสายที่ทำให้ได้ครอบคลุมทั้งกระตุ้นเต้านม ปั๊มนมในหลายจังหวะคล้ายกับการดูดนมของลูก จึงช่วยให้คุณแม่สามารถปั๊มนมได้เกลี้ยงเต้า ร่างกายพร้อมสร้างน้ำนมให้มากขึ้น รูปลักษณ์สวยงาม พกพาสะดวก

EDITOR’S CHOICE: BEST MULTI FUNCTION BREAST PUMP


เครื่องปั๊มนมไร้สาย จากแบรนด์ Imani ที่มาพร้อมพร้อม iBox แท่นชาร์จเครื่องปั๊มนมแบรนด์แรก ช่วยให้การปั๊มนมของคุณแม่ยุคใหม่สะดวกสบายยิ่งขึ้น สามารถปั๊มได้ขณะเดินทาง พกพาสะดวก หรือจะเลือกปรับเปลี่ยนไปใช้แบบเสียบสายก็ทำได้คล่องตัว
ไร้เสียงรบกวน

ติดตามอ่านรางวัลหมวดอื่นตามลิงค์นี้

Buildabrain English รร.ทางเลือก สอนเด็กๆ เรียนรู้และสนุกกับ Mindmap

event

School Visit วันนี้เรามีโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจมาฝากกัน กับโรงเรียน Buildabrain English School ที่เปิดมาแล้วกว่า 8 ปี ย่านพุทธมณฑลสาย 2 ที่นี่มีคอร์สเรียนที่หลากหลาย ตั้งแต่ระดับเด็กเล็กแบบ Preschool เด็กบ้านเรียนหรือ Homeschool ที่กำลังมองหากลุ่มเพื่อนให้ลูกๆ หรือเด็กที่ต้องการเรียนเสริมเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ก็มีด้วย ถ้าอยากรู้ว่า Buildabrain จะพิเศษและแตกต่างจากที่อื่นอย่างไรลองไปดูกันค่ะ

สนามหญ้าเทียมด้านหน้า เป็นทั้งที่เรียนและที่เล่นของเด็กๆ

เด็ก Preschool เรียนรู้เรื่องสีและคณิตศาสตร์ผ่านการเล่น

 

สอนสมองทั้งสองซีกให้เท่ากัน 

การสอนที่ Buildabrain English เน้นผึกให้เด็กได้ใช้สมองทั้ง 2 ซีก ฝึกให้คิดเป็นระบบ (IQ) และรู้จักใช้ความคิดสร้างสรรค์ ( mindmap ) โดยสอนเป็นภาษาอังกฤษในทุกวิชา ทั้งคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ IQ และ mindmap ช่วยให้เด็กสื่อสารเป็น กล้าพูดและมีความสุขกับการใช้ภาษาอังกฤษ ที่นี่จึงเป็นมากกว่าที่เรียนภาอังกฤษนั่นเอง

การฝึกสมองทั้ง 2 ซีก ทั้งซีกซ้ายและซีกขวา ซีกซ้ายคือไอคิว ตรรกะ ความเข้าใจ ส่วนสมองซีกขวาคือศิลปะ เมื่อเด็กๆเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ในสมองซีกซ้ายแล้วจะสามารถนำสิ่งเก็บออกมาใช้ได้ทันทีในซีกขวา ทางคำพูดหรือทางงานศิลปะต่างๆ ในวิชาคณิตศาสตร์ ที่นี่ไม่ได้เน้นสอนเด็กให้บวก ลบ คูณ หาร สัญลักษณ์ แต่สอนที่มาของสูตรต่างๆ สอนให้เข้าใจสูตร โดยไม่ได้มุ่งหวังแต่คำตอบแต่เข้าใจความหมายของโจทย์ สอนทุกวิชาเป็นภาษอังกฤษ เด็กจะซึมซับแบบธรรมชาติและมีความสุข ทำให้เห็นภาพและเกิดความเข้าใจ เป็นระบบการเรียนแบบ Head Heart Hand สมอง หัวใจและการลงมือทำ ถ้าสามารถประยุกต์สามสิ่งนี้เข้าด้วยกัน เด็กจะลงมือทำและเห็นภาพ เกิดความเข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องท่องจำ

   

ชั่วโมงภาษาอังกฤษ เด็กๆจะได้เรียน Phonic กับคุณครูเจ้าของภาษา

 

 

ชั่วโมงเรียน Mindmap เด็กๆจะได้หัดคิดและเชื่อมโยงกับหลายๆวิชา ทั้งศิลปะ วิทยาศาสตร์ หรือผ่านนิทานต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ โดยครูต่างชาติ

วางแผนการเรียนการสอนที่ดี

การวางแผนการเรียนการสอน ที่ Buildabrain English จะเขียนเพื่อเอื้อให้เด็กพัฒนาในแต่ละด้าน โดยทางโรงเรียนจะคิดแผนการสอนร่วมกันกับครูผู้สอนทุกเดือนเพื่อวางแผนการเรียนการสอน ประชุมทุกครั้งหลังจากที่สอนไปแล้วว่าเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ที่นี่มุ่งเน้นทำให้เด็กเดินทางถึงเป้าหมาย เช่นแผนการเรียนในวันนี้ เป้าหมายคือสอนให้เด็กรู้จักสี รู้จักการพยายาม รู้จักตัวเลข หลังจากนั้นคุณครูก็จะจัดฐานให้เด็กมาเรียนรู้ ฐานแรกวางน้ำสี่แก้วที่มีสีต่างกัน แล้วถามเด็กว่าอะไรทำให้เกิดน้ำสีนี้ เด็กๆต้องคั้นน้ำผลไม้ให้มีสีตามตัวอย่าง ฐานต่อไป มีเหยือกและวางแก้วที่มีเทปติดเพื่อให้เด็กรินน้ำให้ถึงเทปที่ติดเอาไว้ เด็กจะเกิดความพยายามทำให้ถึงเป้าหมาย ฐานต่อไป ให้เด็กนำบลอคไม้วางตามปริมาณน้ำ จำนวนบลอคเท่าไหร่จะสูงเท่าปริมาณของน้ำ เป็นการเรียนรู้คณิตศาสตร์ผ่านการเล่น ช่วยพัฒนาไอคิวและการเชื่อมโยงผสมผสานกัน โดยสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ เป็นการสอนทุกวิชาให้เชื่อมโยงกัน ช่วยลับสมองให้คมเท่ากันเพื่อพร้อมใช้งาน เมื่อเด็กๆโตขึ้นเขาจะสามารถอธิบายทุกเรื่องราวได้อย่างลื่นไหล มีไอเดียการทำพรีเซนต์ที่แตกต่าง ทันต่อโลก และแก้ไขเฉพาะหน้าเป็น

คลาสเรียนสำหรับเด็กช่วงปิดเทอม เด็กๆได้ทดลองทำพิซซ่าจากขนมปังด้วยตนเอง เรียนรู้เรื่องวัตถุดิบและขั้นตอนการทำเป็นภาษาอังกฤษ

 

Mindmap ดีอย่างไร

Mindmap เป็นกระบวนการเริ่มต้นของทุกอย่างในสมองของเด็ก ทำให้เด็กสามารถเขียนเรียงความหรือบทความได้ดีขึ้น เข้าใจการเรียนได้ดีขึ้น โดยแทบไม่ต้องอ่านหนังสือก่อนสอบ (ที่ Buildabrain ย้ำเลยว่าเป็นเรื่องจริง ) นอกจากนี้ยังทำให้เด็กๆเกิดไอเดียใหม่ๆ สามารถนำเสนองานแบบสบายๆ เป็นธรรมชาติ การลงมือทำด้วยตัวเองแล้วฝึกเขียนจะช่วยดึงเอาความคิดต่างๆออกมาเป็นสัญลักษณ์ ออกมาเป็น Mindmap การเขียน Mindmap ไม่จำเป็นต้องเขียนให้สวยงามเพื่อให้คนอื่นอ่าน แต่เด็กๆสามารถทำขึ้นเพื่อบันทึกในสมอง เพื่อให้เขาเกิดความเข้าใจและนำเสนอได้นั่นเอง

 

Project based learning ( PBL )

ทุกสิ้นเทอมทางโรงเรียนจะวัดผลเด็กๆด้วยการทำ Project based learning โดยให้เด็กๆทำกิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่ม นำเอาประสบการณ์การเรียนรู้ทั้งเทอมที่ผ่านมานำเสนอ หัดตั้งคำถามและหาคำตอบด้วยตนเอง เช่น ชวนเด็กๆมาทำ การตลาด หัดขายของ รู้จักกำไร ขาดทุน วิธีทำให้ของน่าขาย และลดต้นทุนต่างๆ รู้จักการผิดหวังเมื่อขายไม่ได้และหัดแก้ปัญหา

นอกจากจะมาเรียนแล้วเด็กๆยังได้ออกกำลัง ที่เพลย์กราวด์ด้านหลังโรงเรียน แถมยังมีสัตว์หลายชนิดไว้ให้เด็กได้เรียนรู้ด้วย

 

คลาสเรียนที่หลากหลาย

ระดับชั้นเรียนมีตั้งแต่ Preschool จนถึงชั้นมัธยม สำหรับเด็กเล็ก Preschool ที่นี่ผู้ปกครองสามารถเข้าร่วมคลาสพร้อมกับเด็กๆได้เพื่อให้เด็กๆอยู่กับพ่อแม่มากที่สุด นอกจากเด็กจะมีความสุขแล้วคุณพ่อคุณแม่จะได้เห็นพัฒนาการของลูกด้วย สำหรับเด็กเล็ก มีสอนทั้งไอคิว คณิตศาสตร์ Method of thinking , Mindmap และศิลปะ ส่วนใครยังไม่อยากส่งลูกเข้าโรงเรียนก็สามารถมาเรียนคอร์ส homeschool ต่อได้ โดยเรียนสัปดาห์ละ 2 วัน โดยผู้ปกครองสามารถแลกเปลี่ยน พูดคุย แนวทางการสอนให้กับโรงเรียนได้อีกด้วย สำหรับเด็กที่ไปโรงเรียนแล้วและอยากเรียนเสริม Buildabrain มีคอร์สวันหยุด เสาร์และอาทิตย์เพื่อเรียนเสริมไอคิวและ Mindmap และยังมี Special class อื่นๆที่ผู้ปกครองสามารถสอบถามส่วนตัวหรือจับกลุ่มมาเรียนได้อีกด้วย

 

 

อัตราค่าเล่าเรียน

1. แบบวันธรรมดา เรียน 2 วัน/สัปดาห์ วันละ 2 ชม

ค่าใช้จ่าย 28,000 บาท/เทอม (3เดือน)

2. แบบ เรียน 1 วัน/สัปดาห์ วันละ 2 ชม.

-เสาร์หรืออาทิตย์ (เลือกเวลาเรียนได้)

-จันทร์หรือพฤหัส 16.00-18.00 น.

ค่าใช้จ่าย 13,500 บาท / เทอม (3เดือน)

วิชาที่เรียน

เด็กอายุ 1.6-5 ขวบ IQ, Mindmap, Phonics

เด็กอายุ 5-12 Math , Mindmap,Science

3. Home school

เรียน 2 วัน/สัปดาห์ อังคาร+พฤหัส

วันละ 3 ชั่วโมง (วันละ 3 วิชา จาก 5 วิชา Mindmap, Phonics , Math ,Science ,Project )

รับเด็กอายุตั้งแต่ 4- 10 ขวบ

ค่าใช้จ่าย 33,000 บาท/เทอม (3 เดือน)

 

ที่อยู่ : 334/1 ซอย พุทธมณฑลสาย 2 ซอย 7 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160

โทร.095- 547- 6231

Facebook : https://www.facebook.com/buildabrain

 

Editor : แม่เลม่อน

ภาพ : นันทิยา บุษบงค์


อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ

ยาลดไข้เด็ก แตกต่างกันยังไง แบบไหนที่เหมาะกับลูกน้อย

event

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย คุณพ่อคุณแม่อาจต้องดูแลสุขภาพลูกเป็นพิเศษ เมื่อลูกป่วย การดูแลเบื้องต้นคือเช็ดตัวลูกให้ถูกวิธี และให้ทานพาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการ โดยทั่วไปขนาดการทาน ยาลดไข้เด็ก คือ 10–15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวเด็ก (กิโลกรัม)

เมื่อไปซื้อยาคุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาเภสัชกร บอกข้อมูลเบื้องต้น เช่น อายุ น้ำหนักของลูกน้อย เพื่อให้เภสัชกรแนะนำขนาดการทานยาพาราเซตามอลที่ถูกต้อง พร้อมกับดูข้อบ่งใช้ที่แนบมาในบรรจุภัณฑ์ของยา ปัจจุบันยาลดไข้เด็กมีปริมาณตัวยาและความแรงที่ต่างกันสำหรับเด็กในแต่ละช่วงอายุ เพื่อความสะดวกในการทานยาของเด็กๆ ในปริมาณที่เหมาะสม เช่น

 

ยาลดไข้เด็ก แบบน้ำ มีหลายยี่ห้อให้คุณพ่อคุณแม่เลือก แต่ละยี่ห้อเป็นอย่างไร ทีมแม่ ABK จึงนำยาลดไข้แต่ละแบรนด์มาเปรียบเทียบให้ดูกันค่ะ โดยอิงจากข้อมูลบนกล่อง และเทยาน้ำออกมา เพื่อสังเกตความแตกต่างของแต่ละยี่ห้อค่ะ

ยาลดไข้เด็ก Tempra

เทมปร้า คิดส์

ยาพาราเซตามอลชนิดน้ำเชื่อมใส มีพาราเซตามอล 120 มก. / 5 มล. ขวดพลาสติกโปร่งแสง พร้อมถ้วยตวง

 

ยาลดไข้เด็ก ซาร่า

ซาร่า

ยาพาราเซตามอลชนิดน้ำแขวนตะกอน มีพาราเซตามอล 120 มก. / 5 มล. ขวดแก้วสีชา พร้อมช้อนตวงยา

 

ยาลดไข้เด็ก พานาดอล

พานาดอล

ยาพาราเซตามอลชนิดน้ำแขวนตะกอน มีพาราเซตามอล 120 มก. / 5 มล. ขวดพลาสติกโปร่งแสง พร้อมถ้วยตวง

 

ยาลดไข้เด็ก ไทลินอล

ไทลินอล สำหรับเด็ก

ยาพาราเซตามอลชนิดน้ำแขวนตะกอน มีพาราเซตามอล 160 มก. / 5 มล. ขวดพลาสติกสีขาวทึบ พร้อมถ้วยตวง

 

โลเทมป์

โลเทมป์ ฟอร์ท

ยาพาราเซตามอลชนิดน้ำแขวนตะกอน มีพาราเซตามอล 250 มก. / 5 มล. ขวดพลาสติกขาวโปร่งแสง พร้อมถ้วยตวง

 

ยาลดไข้เด็ก ถ้วยตวง

ยาลดไข้เด็ก แต่ละยี่ห้อ จะมีอุปกรณ์การตวงยามาด้วยในกล่อง เพื่อความสะดวกในการใช้ยาค่ะ

 

ตารางแสดงการเปรียบเทียบ ยาน้ำลดไข้เด็ก แต่ละยี่ห้อ*

ยาลดไข้เด็ก ยี่ห้อ

จากการเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่า ยาน้ำพาราเซตามอล ลดไข้สำหรับเด็ก แต่ละแบรนด์ก็มีลักษณะที่แตกต่างกัน การเลือกรูปแบบยาที่เป็นยาน้ำเชื่อมใส ไม่มีตะกอน ไม่ต้องเขย่า จะทำให้ลูกได้รับยาครบถ้วน ซึ่งหากคุณแม่เลือกยาแบบแขวนตะกอน ต้องเขย่าขวดก่อนให้ลูกทานยาทุกครั้ง เพื่อทำให้ตัวยากระจายตัวก่อน ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาเภสัชกรทุกครั้งเมื่อไปซื้อยาให้ลูกทาน ด้วยความปรารถนาดีจาก #ทีมแม่ABK ค่ะ

 

หมอแนะนำดูวิธีการเช็ดตัวลูกให้ถูกวิธี คลิก!

ABK Expert หมอแนะนำวิธีเช็ดตัวลูกให้ไข้ลง และวิธีดูแลลูกป่วยเบื้องต้น

ตรวจ มะเร็งเต้านม ด้วยเครื่องดิจิตอลแมมโมแกรมและอัลตราซาวนด์ ที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน

event

ผู้หญิงทุกคน เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อ มะเร็งเต้านม
การป้องกัน มะเร็งเต้านม ที่ดีที่สุด คือ การค้นพบให้เร็วที่สุด
.
ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ด้วยเครื่องดิจิตอลแมมโมแกรมและอัลตราซาวนด์

Digital Mammogram with Ultrasound

.
💬 แนะนำสุภาพสตรีพบแพทย์ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง
💬 สำหรับสุภาพสตรีที่ อายุ 35 ปีขึ้นไป
💬 รวมถึง สุภาพสตรีที่ อายุ 30 ปี ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม
.
หมายเหตุ : การตรวจแมมโมแกรมควรหลีกเลี่ยงตรวจในช่วง 7  วัน ก่อนและหลังมีประจำเดือน

📍 ราคาแพ็กเกจ 3,900 บาท (ปกติ 5,450 บาท) ระยะเวลา 1 – 31 ตุลาคม   2566

สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน

📌 กรุณาติดต่อแผนกเวชระเบียนก่อนเข้ารับบริการตรวจที่แผนกรังสี
📌 แผนกรังสี เปิดบริการทุกวันในเวลา 08.00-20.00 น.
☎ 026259000 ต่อ 30130-2

โทร. 02-625-9200

https://www.facebook.com/BangkokChristianHospital

 

 

ลองก่อนใคร นมผงสูตร 3 ใหม่แกะกล่อง เพื่อเด็กสมองไวในยุค AI

event

เด็กวัย 1 ขวบ จะเปลี่ยนมาทาน นมผงสูตร 3 ควรต้องเลือกสูตรไหน ยี่ห้อไหนดี เป็นอีกหนึ่งคำถามที่คุณพ่อคุณแม่ inbox ถามกันเข้ามาอยู่บ่อย ๆ วันนี้กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids จะมาแนะนำ นมผงสูตร 3 สูตรใหม่ล่าสุด ที่เหมาะกับเด็กวัยกำลังโต ให้ได้เรียนรู้เก่ง มีสมองที่ไวและฉลาดคิดกันค่ะ

โลกในยุคปัจจุบันนี้ จะเห็นได้ว่าเริ่มมีเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) เข้ามาให้บริการแทนมนุษย์มากขึ้น แต่รู้ไหมคะว่าที่ใคร ๆ ก็บอกว่า AI จะเก่งกว่ามนุษย์เรา ที่จริงก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะการสร้างระบบการทำงานของ AI ให้มีการทำงานได้คล้ายมนุษย์ ก็คือฝีมือและสมองอันชาญฉลาดของมนุษย์นี่แหละค่ะ ที่มีการคิดค้นโปรแกรมอัจฉริยะต่าง ๆ เข้าไปให้ ฉะนั้นอย่าได้รอช้าคุณพ่อคุณแม่เริ่มตั้งแต่วินาทีนี้ มาเตรียมพร้อมให้ลูก ๆ เก่งคิด เรียนรู้ไว รู้จักปรับตัวในโลกยุคดิจิตอลกันค่ะ

เด็กในช่วงวัยเริ่ม 1 ขวบจะมีพัฒนาการการเจริญเติบโต และมีพัฒนาการสมองการเรียนรู้อย่างก้าวกระโดด และเพื่อให้ลูกเติบโตดี สมองได้เรียนรู้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณพ่อคุณแม่ต้องมีตัวช่วยอย่าง นมผงสูตร3 มาช่วยเสริมพัฒนาการร่างกายและสมองให้ลูกวัยขวบกันค่ะ และที่กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids จะมารีวิวกันในครั้งนี้นั่นก็คือ นมผงสูตร 3 จากแบรนด์ดัง ได้แก่ เอส-26 โกลด์ 3 , ไฮคิว 1 พลัส ซูเปอร์โกลด์ พลัส ซี-ซินไบโอโพรเทก , ไฮคิว 1 พลัส ซูเปอร์โกลด์ ซินไบโอโพรเทก , เอนฟาแล็ค เจนเทิล แคร์ 3

และที่สำรวจดูสารอาหารระบุไว้ข้างกล่อง สะดุดตาเห็นโดดเด่นนั่นก็คือสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการสมองให้กับเด็ก ๆ อย่าง  สฟิงโกไมอีลิน , แกงกลิโอไซต์ , ดีเอชเอ , เออาร์เอ , 2’FL และ Gos lcFOS

คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังเลือกว่าจะซื้อ นมผงสูตร3 ให้ลูกวัยขวบ อยากรู้ว่าสารอาหารสำคัญที่เป็นพระเอกทั้ง 6สารอาหารนี้ มีประโยชน์อย่างไรกับเด็ก ๆ มาดูกันค่ะ

:: สฟิงโกไมอีลิน (Sphingomyelin) สฟิงโกไมอีลินเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่พบมากในนมแม่ มีส่วนสำคัญช่วยสร้างไมอีลินในสมอง ไมอีลินในสมองที่เพิ่มขึ้น  การเชื่อมโยงของสมองก็จะรวดเร็วขึ้น ยิ่งสมองมีความไวเท่าไหร่ เด็กยิ่งสามารถเรียนรู้ได้ไวมากขึ้นเท่านั้น

:: แกงกลิโอไซด์ (GA) เป็นสารอาหารที่มีอยู่ในน้ำนมแม่ เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมองบริเวณเส้นใยประสาทและจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง มีส่วนช่วยทำให้การเรียนรู้จดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

:: ดีเอชเอ (DHA) เป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการและการทำงานของสมองและจอประสาทตา

:: เออาร์เอ (ARA ) เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดสายยาว ที่ช่วยในการพัฒนาสมองและการมองเห็น และมีความจำเป็นต่อการเสริมสร้างเซลล์ประสาทและสายตา

:: 2’ เอฟแอล (2’FL) หนึ่งในสารอาหารสำคัญที่พบในนมแม่ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

:: กอส/แอลซีฟอส (Gos lcFOS) ช่วยเสริมให้เซลล์ภูมิคุ้มกันในลำไส้แข็งแรง

คุณพ่อคุณแม่มาเช็กสารอาหารของ นมผงสูตร3 ไปพร้อมกันว่ามีสารอาหารอะไรที่น่าสนใจบ้างค่ะ

เห็นสารอาหารแล้วร้องว้าวมากค่ะ โดยเฉพาะกับ นมผงสูตร 3 จาก S-26 GOLD เป็นสูตรใหม่ สูตรเฉพาะที่ดีกว่าสูตรเดิม เพิ่มสฟิงโกไมอิลีนมากขึ้น 25% เพิ่มดีเอชเอ และ แกงกลิโอไซด์ เอส-26 โกลด์ ตัวจริงมี ‘สฟิงโกไมอีลิน’  รสจืด กลิ่นวานิลลา อร่อย ดื่มง่าย

S-26 GOLD สูตร 3 ขนาด 500 กรัม

Hi-Q1 Plus SUPER GOLD C-Synbio ProteQ สูตร 3 ขนาด 600 กรัม

Hi-Q 1 Plus Super GOLD Synbio ProteQ สูตร 3 ขนาด 550 กรัม

EnfagrowA+ MIND PRO GentleCare สูตร 3 ขนาด 500 กรัม

 

เด็ก ๆ ที่เติบโตขึ้นมาในยุค AI แบบนี้ แนะนำคุณพ่อคุณแม่กระตุ้นส่งเสริมลูก ๆ ให้ได้เรียนรู้ และมีกิจกรรมที่ช่วยลูก ๆ ให้ได้ฝึกสมอง คิด วิเคราะห์ จดจำ รู้จักสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อเป็นการต่อยอดอนาคตที่สดใส สู่ความสำเร็จในแบบของเค้า ที่สำคัญต้องควบคู่ไปกับการเสริมนมที่มีโภชนาการสารอาหารสำคัญให้ลูกได้รับอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาการเจริญเติบโตที่สมวัย และมีพัฒนาการสมอง การเรียนรู้ที่ไว ในยุคเทคโนโลยีกันค่ะ

กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids แนะนำนมที่เหมาะกับเด็ก ๆ วัยเริ่มขวบปีให้แล้ว คุณพ่อคุณแม่หากเลือกนมที่จะเสริมให้ลูกได้แล้ว ก็สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ นมผงสูตร 3 ที่แนะนำให้นี้ กันได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศค่ะ

เลือกเนื้อหมูดี ต้องมีโอเมก้า 3 สร้างสมองดีให้กับลูก

event

แม่ๆ รู้หรือไม่ว่า เราสามารถเติมโอเมก้า 3 ให้กับลูกน้อยได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง และนอกจากจะพบในปลาแล้ว ตอนนี้มีนวัตกรรมทำให้ในเนื้อหมูก็มีโอเมก้า 3 เหมือนกันนะ ถือว่าเป็นทางเลือกที่รับประทานง่าย และได้ประโยชน์ มาทำความรู้จักกับโอเมก้า 3 และความพิเศษของหมูจากชีวาที่ทำให้แม่ และลูกน้อยได้รับประโยชน์จากสารอาหารเต็มที่กันค่ะ

ในการประชุมสัมมนาวิชาการด้านสุขภาพระดับนานาชาติ จัดขึ้นที่ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 28 -29 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีหัวข้อประชุมที่ว่าด้วยเรื่อง Preventive Care Food หรือการดูแลสุขภาพเชิงรุก ผ่านการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารที่หลากหลาย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและเสริมสร้างความแข็งแรง และมีการนำเสนอนวัตกรรมหมูมีโอเมก้า 3 ในงานสัมมนาครั้งนี้ด้วย  

 

โอเมก้า 3 คืออะไร

แม่ท้อง และแม่ลูกเล็ก ตั้งใจฟังกันให้ดีนะคะ เพื่อสร้างคุณภาพครรภ์ที่ดีไปด้วยกัน สามารถเติมโอเมก้า 3 ให้กับลูกน้อยได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง ผ่านอาหารการกินของแม่ โอเมก้า 3 เป็นสารอาหารเรียกได้ว่าเป็นพระเอก ในการดูแลสุขภาพเชิงรุก ซึ่งในทางโภชนาการแล้วกรดไขมันนี้ถือเป็นไขมันที่ดีและจำเป็น มีดังนี้ค่ะ

EPA – กรดไขมัน Eicosapentaenoic Acid มีความสามารถในการช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ป้องกันไขมันอุดตันในเลือด ลดความดันโลหิต ลดการเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ และที่สำคัญคือ ป้องกันการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองอุดตันนั่นเอง

DHA – กรดไขมัน โดโคซาเฮกซะอีโนอิก Docosahexaenoic Acid ส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบสมองและความจำ การเรียนรู้รวมถึงดวงตา สายตาและระบบการมองเห็นอีกด้วย

ALA – กรดไขมัน Alpha-Linolenic Acid กรดไขมันที่จำเป็นเพราะร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ได้จากการรับประทานอาหารที่ดีเท่านั้น พบมากในเมล็ดแฟลกซ์ (Flax seed) เมล็ดเจีย (Chia Seed) และถั่วเหลือง มีคุณสมบัติในการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

โอเมก้า 3 กับระบบประสาท การพัฒนาสมอง

เมื่อรู้จักผู้คุ้มกันความแข็งแรงของร่างกาย ทั้งสามชนิดไปแล้ว มาดูการทำงานของพวกเขาที่จะช่วยให้ร่างกายของลูกน้อยแข็งแรงได้อย่างไร NIH หรือ National library of medicine ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ในกลุ่มแม่ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรควรได้รับ DHA ในปริมาณ 300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่ง DHA มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบประสาทส่วนกลาง คือ สมองและดวงตา ในนมแม่เองก็มีโอเมก้า 3  แต่จะเข้มข้นขึ้นได้อีก หากว่าได้รับสารอาหารที่มีโอเมก้า 3 เติมเข้าไปในร่างกายแม่อย่างมากเพียงพอ รวมถึง ALA เองก็จำเป็นต่อร่างกายไม่แพ้กัน เพราะร่างกายสร้างเองไม่ได้ 

ทารกแรกเกิดจะมีขนาดสมองประมาณ 25% ของผู้ใหญ่  และการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมองยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง1ปี แรกของชีวิต ดังนั้นโภชนาการจึงมีผลอย่างมากต่อการพัฒนาของสมอง  นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่าโภชนาการเป็นหนึ่งในปัจจัย

ดังนั้นการเสริมโอเมก้า 3  จึงมีความสำคัญอย่างมาก เพราะมีส่วนช่วยสำคัญและแม่เองสามารถเตรียมตัวได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์  นอกจากจะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการทางสมองที่ดีแล้ว ด้านอารมณ์ ด้านการเรียนรู้ ความจำ และสมาธิ ก็จะดีตามมา 

หมูชีวา หมูที่มีโอเมก้า 3 แล้ว

เนื้อหมู นับเป็นเนื้อสัตว์ที่คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานเพราะหาซื้อได้ง่าย และรับประทานง่าย สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายเมนู  ดังนั้นหากมีการวางแผนการรับประทานอาหารที่ดี ให้สมดุลและหลากหลาย ก็จะทำให้ทั้งครอบครัวมีสุขภาพที่ดี ซึ่งตอนนี้ เรามีทางเลือกเสริมโอเมก้า 3 จากเนื้อหมูแล้ว 

โดยเนื้อหมูชีวา เป็นหมูที่ถูกเลี้ยงด้วยวัตถุดิบอาหารที่เป็นแหล่งโอเมก้า 3 สูงให้หมูกิน เช่น เมล็ดแฟลกซ์  สาหร่ายทะเลน้ำลึก น้ำมันปลา  ผลิตภัณฑ์จากข้าว ข้าวสาลี ข้าวโพดและถั่วเหลือง เป็นต้น ทำให้หมูมีปริมาณไขมันดีในร่างกาย รวมถึงมีโอเมก้า 3  และไม่สูญเสียคุณค่าไปเมื่อถูกความร้อนหรือถูกปรุงสุกด้วย  นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงที่เป็นระบบ สะอาดและปลอดภัย และมีการวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งได้การรับรองความปลอดภัยทางอาหารจาก NSF เป็นองค์กรจากประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้นำในระดับนานาชาติด้านการรับรองผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยในอาหาร  

โดยหนึ่งในนักวิชาการที่ร่วมบรรยาย ดร. อนันวัฒน์ กุลธนเตชานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักวิชาการอาหารสัตว์ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เล่าถึงนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร ที่ส่งผลต่อการดูแลสุขภาพเชิงรุก โดยทางบริษัท มีการวิจัยที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างความยั่งยืน ภายใต้ทิศทางที่เริ่มต้นตั้งแต่สิ่งที่เราบริโภคเข้าไป และคำนึงถึงสุขภาพของสัตว์ สร้างสุขภาพ สุขอนามัยที่ดีให้กับสัตว์  ซึ่งในที่นี้คือหมู เมื่อหมูสุขภาพดีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการใช้ยาปฏิชีวนะก็ลดน้อยลง และสร้างโปรตีนที่ดีและมีโภชนาการที่ครบถ้วนให้กับเรา ก็จะสร้างโปรตีนที่ดีให้กับเรา เมื่อมนุษย์บริโภคเนื้อสัตว์เหล่านั้น จึงรับผลดีที่ส่งต่อมาด้วย เรียกได้ว่าส่งเสริมและสนับสนุน ซึ่งกันและกัน และด้วยนวัตกรรมวิทยาศาสตร์เชิงบูรณาการนี้ จึงเป็นการนำเอาองค์ความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ สัตวศาสตร์ จุลชีววิทยาและโภชนาการมามัดรวมเอาไว้ด้วยกัน เพื่อพัฒนาหมูชีวาให้มีโอเมก้า 3 และนำเสนอในรูปแบบมื้ออาหารในชีวิตประจำวันแบบที่คนที่ได้ประโยชน์ คือผู้บริโภคนั่นเอง

 

ทีมแม่ ABK บอกต่อ  

  จากการประชุมครั้งนี้ เราได้รับทราบข้อมูลที่น่าตกใจอยู่ไม่น้อยว่าในปี 2565 มีจำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง* (NCDs) ในประเทศไทยกว่า 10 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 18.6% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นในทุกปี โดยอันดับหนึ่งคือ ความดันโลหิตสูง  อันดับสอง โรคเบาหวาน อันดับสาม โรคหลอดเลือดสมอง อันดับสี่ โรคหัวใจและหลอดเลือด ข้อมูลนี้บอกอะไรกับเราบ้าง

 

รองศาสตราจารย์ ดร.พัชราณี ภวัตกุล – หัวหน้าภาควิชาโภชนวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล บอกกับเราว่าควรหันมาใส่ใจสุขภาพทั้งครอบครัวให้มากขึ้น โดยแพทย์แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยดูแลสุขภาพเชิงรุก  ทั้งจากปลาทะเล อาหารทะเล พืชตระกูลถั่ว ถั่วเปลือกแข็ง  น้ำมันคาโนล่า ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม เพราะ วัว แพะ แกะ ที่กินหญ้าหรือพันธุ์พืชที่มีสารอาหารโอเมก้า 3 สูง หรือเนื้อสัตว์ที่มีโอเมก้า 3

ปิดท้ายเราได้บทสรุปจากบทความโดย Cardio Tabs ที่บอกไว้สั้นๆแต่ตรงใจในทุกจุด นั่นคือ  Eat Well / Move Daily / Hydrate Often/Sleep lots / Love your body ถ้าเรารับประทานสิ่งที่ดีและรักตัวเองแล้ว เชื่อว่าเราจะมองหาแต่สิ่งที่ดีเข้าสู่ร่างกายเราและครอบครัว เพื่อให้ทุกคนแข็งแรงและสุขภาพดีไปด้วยกัน หากเลือกได้แนะนำให้รับประทานอาหารที่ดี ปรับเปลี่ยนรูปแบบอาหารและวิถีชีวิตประจำวันให้ดีขึ้นเพื่อสุขภาพของเราเอง แต่ทั้งหมดนี้ต้องไม่มากไม่น้อยจนเกินไปและหากใครกังวลว่าหาซื้อปลาหรืออาหารทะเลยากให้ลูกน้อยและครอบครัว   ในเนื้อสัตว์ที่ผ่านการเลี้ยงดูอย่างดี เลี้ยงด้วยอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง ก็สามารถตอบโจทย์ได้เช่นกัน เป็นแหล่งสารอาหารที่ดีแหล่งใหม่หาซื้อได้ง่าย เพื่อให้โอเมก้า 3 อยู่ในทุกมื้ออาหารของครอบครัว อย่างเช่นเนื้อหมูชีวา หมูที่มีโอเมก้า 3 นั่นเองค่ะ

บรรยากาศภายในงานประชุมทางวิชาการกับส่วนของบูธกิจกรรมจาก Cheeva pork

 

เรื่อง : แม่พีทพริม

ช่างภาพ : นันทิยา บุษบงค์

มหัศจรรย์ความสุขที่เท่าเทียม ยูนิเซฟ และกลุ่มเซ็นทรัลผนึกกำลังส่งเสริมการเลี้ยงลูกเชิงบวก

event

ค้นพบความสนุกสนานและเคล็ดลับการเลี้ยงลูกใน มหัศจรรย์ความสุขที่เท่าเทียม และนิทรรศการมูมิน

กรุงเทพฯ, 17 ตุลาคม 2566 – กลุ่มเซ็นทรัลและยูนิเซฟ จับมือสานโครงการ “Central-UNICEF Together For Every Child” เป็นปีที่ 7 โดยเปิดตัวนิทรรศการงานเอ็กซ์โปครั้งใหม่ ภายใต้แนวคิด A Fair Chance for Every Child #มหัศจรรย์ความสุขที่เท่าเทียม’ พร้อมส่งต่อเคล็ดลับการเลี้ยงลูก มุ่งส่งเสริมสังคมไทยช่วยเด็กทุกคนให้มีช่วงต้นของชีวิตที่ดีที่สุดเพื่อการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ พบกับการผนึกกำลังของคาแรกเตอร์สุดโปรด พี่หมีเท็ดดี้บลูและเหล่ามูมิน มาพร้อมพลังสร้างสรรค์ให้กับเด็ก ๆ ทุกคน

นิทรรศการงานเอ็กซ์โปครั้งนี้มี เหล่ามูมิน คาแรกเตอร์สุดโปรดของเด็กและผู้ใหญ่ทั่วโลกที่สร้างสรรค์โดยศิลปิน ตูเว ยานซอน ภายใต้ลิขสิทธิ์ของมีเดียลิงค์ แบรนด์ เมเนจเม้นท์ จะมาสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายความรู้ให้กับพ่อแม่เกี่ยวกับเคล็ดลับการเลี้ยงลูกเชิงบวก เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาทางร่างกาย อารมณ์ และสังคมให้กับเด็ก ๆ พร้อมจัดกิจกรรมสุดพิเศษสำหรับครอบครัว โดยงานเอ็กซ์โปนี้จะเวียนไปจัดในศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศเพื่อมอบความรู้และความสุขให้กับเด็ก ๆ และครอบครัว 


นายอานันท์ ปันยารชุน ทูตสันถวไมตรี องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวในงานเปิดตัวโครงการซึ่งจัดขึ้นที่เซ็นทรัลเวิลด์วันนี้ว่า “ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัลอีกครั้ง นี่เป็นความร่วมมือที่สำคัญสำหรับยูนิเซฟตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เพราะได้ให้ประโยชน์มหาศาลแก่เด็กและครอบครัวในประเทศไทย การจัดโครงการที่ให้ความรู้กับสังคมในศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ เป็นวิธีที่ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงครอบครัวได้มากขึ้น เพื่อแบ่งปันเคล็ดลับการเลี้ยงลูกเชิงบวกกับพ่อแม่ และให้เด็ก ๆ ได้เริ่มต้นชีวิตอย่างดีที่สุด”

นางคยองซอน คิม ผู้อำนวยการ องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “การเลี้ยงลูกคือการเรียนรู้และการค้นพบที่ไม่มีที่สิ้นสุด งานเอ็กซ์โปครั้งนี้นอกจากจะเป็นสนามเด็กเล่นขนาดย่อมให้กับเด็ก ๆ แล้ว ยังเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยเคล็ดลับความรู้และข้อมูลสำหรับพ่อแม่ที่จะช่วยสร้างวัยเด็กที่แข็งแรงและสดใสให้กับลูก ๆ เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมการเลี้ยงลูกเชิงบวกและให้ครอบครัวได้ใช้เวลาอย่างมีคุณภาพร่วมกันมากขึ้น”

นอกจากงานเอ็กซ์โปแล้ว ยูนิเซฟยังได้ออกโซเชียลมีเดียแคมเปญ Moomin #FridayParenting หรือ มูมิน #เลี้ยงลูกวันสุข  นำเสนอเคล็ดลับมากมายที่จะช่วยให้พ่อแม่ได้เพิ่มพูนทักษะการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร การสร้างวินัย และการใช้เวลากับลูก โดยเคล็ดลับจากมูมิน #เลี้ยงลูกวันสุข จะครอบคลุมหัวข้อสำคัญต่าง ๆ  เช่น โภชนาการ การกระตุ้นพัฒนาการ การสร้างความผูกพัน การเล่น การอ่าน และสุขภาพจิตของเด็ก

ผลสำรวจโดยยูนิเซฟและสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2565 พบว่าพ่อแม่ในประเทศไทย โดยเฉพาะพ่อ ใช้เวลาส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการกับลูกน้อยลง โดยในปี 2565 มีพ่อเพียงร้อยละ 31 เท่านั้นที่ใช้เวลาทำกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้กับลูกที่บ้าน เมื่อเทียบกับร้อยละ 34 ในปี 2563 ในขณะเดียวกัน ผลสำรวจก็พบว่าเด็ก ๆ ใช้เวลาอ่านหนังสือน้อยลงแต่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 

นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า “จากการที่กลุ่มเซ็นทรัลได้รับเกียรติให้เป็นพันธมิตรในโครงการเพื่อเด็กขององค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยอย่างเป็นทางการมากว่า 7 ปี  เราเชื่อมั่นในการทำงานของยูนิเซฟและพร้อมร่วมสร้างอนาคตให้กับเด็กไทยและช่วยเด็กทั่วโลก ซึ่งงานเอ็กซ์โปที่กลุ่มเซ็นทรัลและเซ็นทรัลพัฒนาได้สนับสนุนพื้นที่ในการจัดงานนั้นก็ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แบบ ได้ให้ทั้งความรู้กลุ่มเป้าหมายและการระดมทุนให้ยูนิเซฟ  ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ยั่งยืน เพราะในแต่ละยุคสมัย องค์ความรู้ที่จะนำมาช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในวัยเด็กนั้นก็เปลี่ยนไป และมีความท้าทายอยู่เสมอ การดูแลช่วยเหลือเด็กจึงเป็นเรื่องที่ควรทำต่อเนื่องและทันเหตุการณ์ และในปีที่ผ่านมา  กลุ่มเซ็นทรัลได้มีแคมเปญระดมทุนเพื่อเด็กทั้งในไทยและต่างประเทศหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตสินค้า Teddy Blu Collection มาเป็นปีที่ 2 โดยที่ครั้งแรกเมื่อปี 2565 ซึ่งประสบความสำเร็จและทำรายได้มากกว่า 3 ล้านบาท การระดมทุนในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ยังไม่นับรวมการการระดมทุนร่วมกับลูกค้าของ Tops ผ่านการตั้งกล่องบริจาค การแลกคะแนน T1 หรือการร่วมทำแคมเปญการบริจาคร่วมกับพันธมิตรของกลุ่มเซ็นทรัล เช่น Master Card เป็นต้น”

นายอนาวิล เผ่าดิษฐ ผู้อำนวยการมีเดียลิงค์ แบรนด์ เมเนจเม้นท์ กล่าวว่า “คาแรคเตอร์มูมิน เป็นคาแรคเตอร์ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังมีแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว สามารถเป็นแรงบันดาลใจในการไล่ตามความฝันให้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ได้ก้าวเข้ามาสู่โลกของมูมิน ทางบริษัทซึ่งได้เป็นตัวแทนดูแลลิขสิทธิ์มาอย่างยาวนานและเห็นคุณค่าในตัวละครนี้ โดยหวังว่าคาแรคเตอร์มูมินจะเป็นตัวกลางเชื่อมต่อความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว”

ในงานเปิดตัวโครงการยังมี พอลล่า เทย์เลอร์ เฟรนด์ ออฟ ยูนิเซฟ, วิกกี้ สุนิสา หิรัณยัษฐิติ, แพทริเซีย กู๊ด และ ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และเคล็ดลับในการเลี้ยงลูกและได้เชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมติดตามเคล็ดลับการเลี้ยงลูกใหม่ ๆ กับ มูมิน #เลี้ยงลูกวันสุข โดยพอลล่า เทย์เลอร์ คุณแม่ลูกสามกล่าวว่า “การใช้เวลากับลูกเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับพอลล่า พอลล่าเฝ้าดูลูก ๆ แต่ละคนเติบโตขึ้นและก็ได้เรียนรู้ความสนใจและบุคลิกของลูกแต่ละคน เราผูกพันกันมากและพอลล่าก็จะอยู่เคียงข้างลูก ๆ ไม่ว่าพวกเขาอยากจะทำอะไรและมีความฝันแบบไหน”

งานเอ็กซ์โปนี้จัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ระหว่างวันที่ 17-22 ตุลาคม 2566 และจะเวียนไปตามศูนย์การค้าเซ็นทรัลอื่น ๆ ทั่วประเทศ โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลได้ที่  www.unicef.org/thailand และ www.centralgroup.com

ในงานวันนี้ พี่หมีเท็ดดี้บลูพร้อมเหล่านักแสดงยังได้มาร่วมกันเปิดตัวสินค้า The Teddy Blu Collection ใหม่สุดพิเศษ ประกอบด้วย เสื้อยูนิเซฟเท็ดดี้บลูให้ทุกคนได้ร่วมสนับสนุน โดยรายได้จากการขายหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะนำไปสนับสนุนยูนิเซฟเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ขาดแคลนในประเทศไทยและเด็กเผชิญสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วโลก ร่วมสนับสนุน The Teddy Blu Collection ได้ที่ www.unicef.or.th/teddyblu และ www.centraltham.com/teddyblu หรือร้าน Good Goods สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ และสาขาเชียงใหม่ 

#TeddyBluCollection #มหัศจรรย์ความสุขที่เท่าเทียม #UNICEFThailand

ไข้เลือดออก

กรมควบคุมโรค ชวนคนไทย ปักหมุด หยุด ไข้เลือดออก Dengue-zero

event
ไข้เลือดออก
ไข้เลือดออก

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ทาเคดา ประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือ Dengue-zero ชวนคนไทย ปักหมุด หยุด ไข้เลือดออก

สถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกในประเทศไทยปี 2566 สถิติผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสมแล้วกว่า 110,809 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 106 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2566*) ทั้งนี้พบตัวเลขการระบาดที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี ตอกย้ำความจริงว่าไข้เลือดออกยังคงเป็นปัญหาด้านสาธารณสุข สร้างภาระทางด้านทรัพยากร ภาคเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งคุณภาพชีวิตของคนไทย

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร และทาเคดา ประเทศไทย และพันธมิตรความร่วมมือ Dengue-zero ร่วมส่งต่อความหวังจาก “อิงมา” Dengue Virtual Influencer ที่ถูกสร้างขึ้นโดยอิงมาจากสถิติของคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อไข้เลือดออกกว่า 1.2 ล้านคนใน 15 ปีที่ผ่านมา เปรียบเสมือนสิ่งเตือนใจว่า “โรคไข้เลือดออกใกล้ตัวและน่ากลัวกว่าที่คิด” กับงาน ส่งต่อความหวังจากอิงมา ชวนคนไทย ปักหมุด หยุดไข้เลือดออก ตอกย้ำข้อความแห่งความหวังในการต่อสู้กับโรคไข้เลือดออกด้วยมาตราการการเฝ้าระวัง การควบคุมจำนวนลูกน้ำยุงลายเพื่อไม่ให้แพร่พันธุ์ และการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน อีกทั้ง ยังสามารถส่งต่อความปรารถนาดีผ่านข้อความมากมายให้แก่คนที่คุณรักเพื่อให้ปลอดภัยจากไข้เลือดออกผ่าน 5 โซนประสบการณ์อินเตอร์แอคทีฟที่ให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสและมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับโรคไข้เลือดออก ไม่ว่าจะเป็น “Message of Hope Gallery”     แกลเลอรี่ประสบการณ์จริงจากผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อของโรคไข้เลือดออก “The Last Message from Ing-Ma” บูธถ่ายภาพที่เปรียบดังแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์กับการพบกับอิงมาที่จะมาชวนทุกคนร่วมปักหมุด หยุดไข้เลือดออกไปด้วยกัน

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “ด้วยสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยมีลักษณะร้อนชื้น จึงเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสเดงกี โดยในปีนี้มีแนวโน้มผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสูงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ด้วยจำนวนผู้ป่วยสูงและต่อเนื่อง จึงต้องเพิ่มมาตรการในการควบคุมโรคให้เข้มข้นขึ้น กรมควบคุมโรคจึงแนะนำให้ประชาชนรีบกำจัดภาชนะที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำและป้องกันยุงลายกัดเป็นประจำ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการปฏิบัติตามหลัก ‘3 เก็บป้องกัน 3 โรค’ ได้แก่ 1.เก็บบ้านให้ปลอดโปร่งไม่ให้ยุงลายเกาะพัก 2.เก็บขยะ และ 3.เก็บแหล่งน้ำ ปิดภาชนะให้มิดชิดเพื่อไม่ให้ยุงลายลงไปวางไข่ ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ อีกทั้งยังสามารถปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันอื่นๆ ตามคำแนะนำของกระทรวงฯ เพื่อร่วมกันลดการระบาดของโรคไข้เลือดออกในสังคมไทยและขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมปลอดไข้เลือดออกได้ในอนาคต”

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “หนึ่งในพันธกิจหลักของกรุงเทพมหานครคือการที่ผู้คนมีความมั่นคงทางสุขภาพ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเหล่าอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต ได้ทำงานใกล้ชิดกับชุมชนในการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมมาตราการการป้องกันโรคไข้เลือดออก อีกทั้ง ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรความร่วมมือ Dengue-zero ในการสื่อสารถึงภัยของไข้เลือดออกที่มีเป้าหมายในการลดการแพร่เชื้อ ลดการระบาดของโรค ที่นำไปสู่การลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้ สำหรับการร่วมกันทำพันธกิจ ปักหมุด หยุดไข้เลือดออกและร่วมกันบอกลาไข้เลือดออกไปกับน้องอิงมาในวันนี้ คือหมุดหมายสำคัญในการให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการสร้างเกราะป้องกันและตอกย้ำว่าเราสามารถเอาชนะโรคไข้เลือดออกได้”

ทางด้าน มร. ปีเตอร์ สไตรเบิล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาเคดา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ทาเคดามุ่งมั่นในการมอบสุขภาพที่ดีกว่าและอนาคตที่สดใสให้กับผู้คนทั่วโลก ผ่านนวัตกรรมการดูแลสุขภาพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เราตระหนักดีว่าไข้เลือดออกเป็นหนึ่งในปัญหาด้านสาธารณสุขของประเทศไทย ที่มีคนจำนวนกว่า 390 ล้านคนทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้ โดยจำนวนผู้ป่วยกว่า 96 ล้านคนมีอาการป่วยอย่างรุนแรง** เรามีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการสร้างความตระหนักรู้เรื่องไข้เลือดออกที่เป็นประโยชน์แก่ชุมชน ทั้งการพัฒนาและต่อยอดระบบการป้องกันเพื่อควบคุมการระบาด การทำงานอย่างใกล้ชิดกับชุมชน และการส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันของโรคไข้เลือดออก ขอขอบคุณพันธมิตรความร่วมมือ Dengue-zero และทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแสดงถึงพลังแห่งความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับโรคไข้เลือดออกและบรรลุเป้าหมายในการให้ไข้เลือดออกในไทยเป็นศูนย์ไปด้วยกัน”

โรคไข้เลือดออก (Dengue fever) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว มักพบในประเทศเขตร้อนและจะระบาดในช่วงฤดูฝนของทุกปี ไข้เลือดออกพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่พบมากที่สุดในกลุ่มเด็กอายุ 5-14 ปี แต่พบว่าในวัยทำงานมีการเสียชีวิตสูงสุด ซึ่งกลุ่มเด็กที่ติดเชื้อไข้เลือดออกสามารถสังเกตได้จากอาการ โดยหากมีอาการไข้สูงลอย มีผื่นแดงหรือจุดเลือดออกตามตัว ให้สันนิษฐานว่าอาจติดโรคไข้เลือดออกได้ ทั้งนี้ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคโดยเร็ว เนื่องจากโรคไข้เลือดออกจะทำให้มีเกล็ดเลือดที่ต่ำและอาจนำพาไปสู่อาการช็อกและการเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชนควรหมั่นปฏิบัติตามมาตราการในการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อการป้องกันและเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออก เช่น ปิดภาชนะเก็บกักน้ำให้มิดชิด ป้องกันการเข้าไปวางไข่ของยุงลาย เปลี่ยนน้ำในภาชนะอยู่เสมอๆ เพื่อไม่ให้มีแหล่งน้ำที่ยุงสามารถไปเพาะพันธุ์ได้ ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะใส่น้ำ และปรับปรุงสิ่งแวดล้อมรอบข้างให้ปลอดโปร่งแล้ว โดยไข้เลือดออกสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยสามารถปรึกษาแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้ท่านเพื่อขอรับคำแนะนำในการฉีดวัคซีนไข้เลือดออก


*https://lookerstudio.google.com/reporting/dfa7d4e2-b7f5-48ed-b40a-54f1cd4cbdfb/page/cFWgC?s=uJijraAskGk

** https://www.who.int/en/news-room/fact-sheets/detail/dengue-and-severe-dengue

 

LITTLE STUMP

LITTLE STOVE & LITTLE STUMP บ้านตอไม้ … บ้านแห่งการเล่น สำรวจ ผจญภัย และเรียนรู้

event
LITTLE STUMP
LITTLE STUMP

เที่ยวกับลูกวันนี้ เราจะพามาเล่นสนุกและพักผ่อนกันที่ LITTLE STOVE & LITTLE STUMP คาเฟ่และ Playground ย่านพระราม 2 สถานที่ที่ทุกคนในครอบครัวจะได้มาพักผ่อนร่วมกัน ท่ามกลางธรรมชาติ มีสวนสวยมีอาหารอร่อยและมีที่เล่นสำหรับเด็กๆ มาที่เดียวได้ครบขนาดนี้บอกเลยว่าไม่ควรพลาด

LITTLE STOVE & LITTLE STUMP เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับการคิดสร้างสรรค์นิทานภาพเรื่อง “บ้านตอไม้กับสหายนักซ่อม” ที่ร่วมกับ สำนักพิมพ์สานอักษร คุณพราว พราว พุทธิธรกุล สถาปนิกผู้ออกแบบหนึ่งในพาร์ทเนอร์และเจ้าของ LITTLE STOVE & LITTLE STUMP เล่าให้ฟังว่า เธออยากสร้างสถานที่นี้ให้มีชีวิต อยากให้พื้นที่นี้เติบโตไปพร้อมกับเด็กๆ โดยมีหนังสือนิทานบ้านตอไม้กับสหายนักซ่อม เป็นสื่อเชื่อมโยงเด็กๆกับที่นี่ไว้ด้วยกัน สถานที่และตัวสถาปัตยกรรมของ LITTLE STOVE และ LITTLE STUMP จะเป็นฉากของเรื่อง  มีเหล่าสัตว์ที่น่ารักทั้งหลายมาช่วยกัน สร้าง ซ่อม ต่อเติม แก้ไข ทั้งบ้านตอไม้ (LITTLE STUMP) และ ถ้ำ ของพี่หมี (LITTLE STOVE) นั่นเอง

LITTLE STUMP

ทางเข้า LIITLE STUMP รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่

LITTLE STUMP

โซนต้อนรับ บรรยากาศอบอุ่นสบาย

LITTLE STUMP ( บ้านตอไม้ )

เป็นพื้นที่ให้เด็กๆมาเรียนรู้ผ่านการเล่น สำรวจธรรมชาติ และสังเกตสิ่งรอบตัว บ้านตอไม้หลังนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากวงปีของต้นไม้  โซนนี้มีกิจกรรมมากมายทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ ให้เด็กๆได้เรียนรู้ ทั้งใต้หลังคาและใต้ต้นไม้ บนเนินหญ้าและเนินดิน ในร่มเงาและในแสงแดด เล่นได้อย่างอิสระและเปิดกว้าง

พื้นที่ทุกส่วนของ LITTLE STUMP ถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อกัน ห้อง PLAY ROOM ถูกสร้างมาจากแรงบันดาลใจของถิ่นที่อยู่ของสัตว์ต่างๆ มีที่ให้ปีนป่ายเหมือนอยู่บนต้นไม้ มีอุโมงค์เหมือนถ้ำ หรือโพรงต้นไม้ให้มุดหรือเล่นซ่อนแอบ ภายในมีกระจกบานกว้าง ช่วยให้เด็กๆมองเห็น สวนและสนามหญ้าภายนอกอีกด้วย  ส่วนด้านนอกบริเวณคอร์ตตรงกลาง มีทั้งนิทาน มุมระบายสีและของเล่นที่กระตุ้นประสาทสัมผัส เช่น ของเล่นไม้ LOOSE PARTS  ต่างๆ

OUTDOOR LANDSCAPE โซนเอาต์ดอร์ออกแบบมาให้เล่นได้อย่างอิสระ ทั้งเนินหญ้า อุโมงค์ คูน้ำ หิน ดิน ทราย ที่ปีนป่าย เดินทรงตัว และชิงช้าให้เด็กๆวิ่งเล่นและออกกำลังได้เต็มที่ พร้อมธรรมชาติและสวนสวยๆรายล้อม หรือใครอยากทำกิจกรรม ที่นี่เขาก็มี WORKSHOP มากมายอีกด้วย เช่น

  • Little Explorer (Explore/Experiment)
  • Little Baker (Bread Baking)
  • Little Chef (Cooking)
  • Little Seed (Sensory)
  • Little Artist (Art &Craft)

นอกจากนั้นยังมี Little Helper กิจกรรมที่ทำให้เด็กๆได้มีจิตใจที่อยากช่วยเหลือผู้อื่นและทำเพื่อผู้อื่นด้วย

สำหรับเด็กเล็ก คุณพ่อคุณแม่สามารถร่วมทำกิจกรรมกับน้องได้เพื่อให้พ่อแม่ได้เห็นพัฒนาการอย่างใกล้ชิดของน้องๆและยังกระชับความสัมพันธ์ครอบครัวอีกด้วย ส่วนเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย สามารถทำกิจกรรมด้วยตนเองกับคุณครูและเพื่อนๆ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคมและการช่วยเหลือตนเอง

LITTLE STUMP 

คอร์ตกลางอาคาร เจาะช่องตรงกลางทำให้มีแสงสว่างส่องถึง และลมผ่านเย็นสบาย

ห้อง Playroom มีที่ปีนป่ายและของเล่นเสริมพัฒนาการมากมาย

   

โซน OUTDOOR LANDSCAPE

  

Workshop Little Helper ฝึกเด็กๆให้เรียนรู้อุปกรณ์ปฐมพยาบาล รู้จักแผลพุพอง รู้จักระวังน้ำร้อน และทำการ์ดให้กำลังใจมอบแด่บุคคลากรทางแพทย์ในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆกัน

 

LITTLE STOVE ( บ้านของพี่หมี )

เล่นจนเหนื่อยแล้วอย่าลืมแวะมาพักทานน้ำทานขนมกันต่อที่ LITTLE STOVE ห้องอบขนมปังของพี่หมีกับคุณผึ้ง ที่อยู่ติดกัน  กับดีไซน์ที่เรียบง่าย มีกระจกล้อมรอบทั้งสามด้าน ทำให้สามารถมองเห็นสวนภายนอกได้เต็มตา โดยเฉพาะต้นไทรขนาดใหญ่ซึ่งเป็นพระเอกของที่ดินผืนนี้ มาแล้วอย่าลืมทานเมนูขนมปัง Sourdough Homemade ที่ดีต่อสุขภาพและ Waffle รังผึ้ง นอกจากนี้ยังมีกาแฟ และเมนู Brunch อร่อยๆอีกมากมายให้เลือกอีกด้วย

บรรยากาศคาเฟ่ LITTLE STOVE และเมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาด Honeycomb Waffle และ Hot Latte ฟองนมพี่หมีแสนน่ารัก

 

ที่ตั้ง Little Stove & Little Stump
พระราม 2 ซอย 33 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ
Facebook : https://www.facebook.com/littlestumpbkk
: https://www.facebook.com/littlestovebkk

โทร.06-1626-2803

เปิดบริการ วันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์)
Little Stove เปิด 8.30-17.30 น. (Last Order 17.15 น.)
Little Stump เปิด 9.30-17.30 น.

EXPLORER: #แม่เลม่อน
PHOTOGRAPHER: #แม่เลม่อน


อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ

คัตสึยะ ผนึกกำลัง วันพีซ เอาใจสาวกลูกเรือกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ครั้งแรกในประเทศไทย

event

คัตสึยะ (KATSUYA) หนึ่งในผู้นำตลาดทงคัตสึยอดนิยมอันดับหนึ่งจากญี่ปุ่น รสชาติแท้ เจแปนนิส สไตล์ ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) นำโดย ธีรวัฒน์ เลิศถิรพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส  กลุ่ม Japanese & Korean Cuisine ผนึกกำลัง อนิเมะสุดฮิตระดับโลกจากญี่ปุ่น “วันพีซ” โดยบริษัท เดกซ์ (ดรีม เอกซ์เพรส) จำกัด  บริษัทผู้นำธุรกิจลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์วันพีซในประเทศไทย นำโดย กฤษณ์ สกุลพานิช ประธานบริหาร บริษัท เดกซ์ (ดรีม เอกซ์เพรส) จำกัด ตอกย้ำกลยุทธ์ Collaboration เพื่อขยายฐานลูกค้าระหว่างกัน จัดแคมเปญ KATSUYA l ONE PIECE ภายใต้คอนเซ็ปท์ “เมนูอาหารสุดครีเอทของลูกเรือกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง” ครั้งแรกในประเทศไทย ชวนเปิดประสบการณ์เมนูใหม่ในธีมวันพีซ กับ 2 ธีมเมนูจากตัวละครหลัก “กัปตันกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง มังกี้ ดี ลูฟี่” และ “หมอประจำกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง โทนี่ โทนี่ ชอปเปอร์” ที่ครีเอทเป็นเมนูแสนอร่อยด้วยสูตรพิเศษจากคัตสึยะ อาทิ

  • ลูฟี่ ข้าวแกงกะหรี่คัตสึ หมวกข้าวสีเหลืองสีที่ได้จากฟักทองญี่ปุ่น ทานคู่กับแกงกะหรี่รสกลมกล่อมที่ได้ความหวานจากน้ำแอปเปิ้ล เคียงผักดองสไตล์ญี่ปุ่น (พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. – 31 ต.ค. 2566 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด)
  • โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์ ไวท์ซอสครีมเห็ดคัตสึ หมวกข้าวสีชมพูสีที่ได้จากสตรอว์เบอร์รี พิเศษด้วยไวท์ครีมผัดเห็ดหอมและหอมใหญ่ รสมันเข้มข้นสไตล์ญี่ปุ่น (พร้อมเสิร์ฟ 1 – 30 พฤศจิกายน 2566 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด) คัตสึยะ เสิร์ฟความอร่อย ด้วยเตาทอดพิเศษนำเข้าจากญี่ปุ่น ที่ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้ทุกการทอดมีความสม่ำเสมอ จนได้ทงคัตสึที่กรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน เหมือนเชฟผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม สดใหม่ ให้กับทุกเมนู พร้อมแล้วให้มาเติมพลังตามล่าวันพีซ
น้องพีท วสุธร ชัยจินดา นักแสดงซีรี่ย์วายชื่อดัง ผู้ชื่นชอบและยังเคยได้รับเชิญไปงานเปิดตัว One Piece Netfilx ที่ญี่ปุ่นมาแล้ว และ น้องเป็นต่อ จีรภัทร พิมานพรหม สมาชิกวง Laz1 ปัจจุบันเป็นศิลปินเดี่ยว หนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบคาแรคเตอร์ One Piece มากๆ

สาวกตัวจริงห้ามพลาดกับพรีเมี่ยมแก้ว Tumbler Collection รุ่นพิเศษ (Limited Edition) ลิขสิทธิ์แท้! คาแรกเตอร์หลักจากวันพีซ ภาควาโนะคุนิ มาดีไซน์บนแก้ว ให้ชาวลูกเรือกลุ่มโจรสลัดได้สะสมถึง 4 แบบ  มังกี้ ดี ลูฟี่, โรโรโนอา โซโล, โทนี่ โทนี่ ช้อปเปอร์ และ ทราฟัลการ์ ลอว์

คัตสึยะ ยังจัดโปรโมชันสุดพิเศษ ทุกเมนูเพียงเมนูละ 229 บาท (จากปกติ 259 บาท) หรือเป็นเซ็ตพร้อมแก้วน้ำ ลิขสิทธิ์แท้! เพียง 348 บาท (จากปกติ 448 บาท) และสำหรับนักสะสมที่อยากได้เฉพาะแก้วสามารถซื้อแยกได้ในราคา 150 บาท (จากปกติ 219 บาท) พิเศษยิ่งกว่าแลกซื้อแก้วได้ในราคา 119 บาท เมื่อรับประทานอาหารครบ 350 บาท ขึ้นไปต่อใบเสร็จ ลิมิเต็ดเฉพาะที่คัตสึยะ

มาร่วมเติมพลังให้อิ่มท้องก่อนออกเดินทางผจญภัยไปกับคัตสึยะ และลูกเรือกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2566 นี้ ที่คัตสึยะ 45 สาขาทั่วประเทศ  ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว ได้ที่ https://www.facebook.com/KatsuyaThailand

 

เปิดโลก โคอะลา มาร์ช กับนิทรรศการครั้งแรกในไทย สัมผัส 10 โซนฮีลใจกับคาแรกเตอร์สุดน่ารักเวรี่มาร์ช

event

บริษัท ไทยลอตเต้ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมปังกรอบสอดไส้ ภายใต้แบรนด์ “ โคอะลา มาร์ช (Koala’s March)” จัดนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวขนมหมีโคอะลาสุดน่ารักครั้งแรกในไทย  12 ต.ค. – 12 พ.ย.นี้  ภายใต้ธีม “โคอะลามาร์ช เวิลด์ เปิดใจให้โลกน่ารักเวรี่มาร์ช” เอาใจแฟนพันธุ์แท้ด้วย 10 โซนสุดปัง  ตระการตากับโรงงานจำลองที่ทำให้เห็นจุดกำเนิดขนมรูปหมีแสนอร่อย ตะลึงกับการรวบรวม  คาแรกเตอร์ถึง 214 ลวดลาย สุดฮีลใจกับการเป็นพยานในการสารภาพรักของ มาร์ชคุงกับวอลล์จัง ท่ามกลางสวนดอกไม้

นายซาดาฟูมิ มัตซึชิตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย99ลอตเต้ จำกัด กล่าวว่า “โคอะลามาร์ช หรือขนมโคอะลา เป็นขนมปังกรอบสอดไส้พอดีคำที่มีคาแรกเตอร์น่ารัก เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่เองก็ประทับใจในความอร่อยและความขี้เล่นของ มาร์ชคุงและวอลซ์จัง คาแรกเตอร์หมี  โคอะลาบนขนมที่สร้างเซอร์ไพร์สให้กับทุกคนในทุกครั้งที่เปิดซองรับประทาน เพราะได้ลุ้นไปกับลวดลายถึง 214 ลวดลาย จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและความอร่อยที่ทุกคนนึกถึง ล่าสุดได้จัดนิทรรศการ ‘โคอะลามาร์ช เวิลด์ เปิดใจให้โลกน่ารักเวรี่มาร์ช’ ขึ้น เพื่อเชิญชวนทุกคนมาสัมผัสกับเรื่องราวสุดประทับใจและเปิดโลกของ โคอะลา มาร์ช เป็นครั้งแรกในไทย ผ่านคาแรกเตอร์หลัก วิธีการผลิต รวมไปถึงจุดกำเนิดและความเป็นมาของเหล่าโคอะลา มาร์ช คาแรกเตอร์ต่างๆ ระหว่างวันที่ 12 ตุลาคม – 12 พฤศจิกายนนี้  ณ ริเวอร์ ซิตี้ พร้อมทั้งมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกเพื่อลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษอีกมากมาย”

นิทรรศการในครั้งนี้ จะพาทุกคนไปรู้จักกับโลกของ โคอะลามาร์ช ผ่านการเดินทางใน 10 โซนห้องแห่งการเรียนรู้ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การออกเดินทางใน ห้องเฮกซากอน มิเรอร์ (Hexagon Mirror) ที่สามารถเซลฟี่กับ โคอะลา มาร์ช แบบอันลิมิต ในห้องกระจกหกเหลี่ยม ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากกล่องขนมอันเป็นเอกลักษณ์ ได้มุมมองสุดว้าว! รับรองว่าถูกใจแฟนพันธุ์แท้อย่างแน่นอน

ถัดมาเป็น ห้องแห่งแสงไฟ (Lighting Room) ที่เนรมิตให้เป็นอุโมงค์แสงไฟที่มีโคอะลา มาร์ช ร้องเพลงต้อนรับทุกคน ห้องแบล็กแอนด์ไวท์ (Black & White Zone) ที่จะพาทุกคนตื่นตาตื่นใจไปกับโมเดล “โคอะลา แองเจิล” และ “โคอะลา เดวิล” ที่กำลังนั่งจิบน้ำชาเพลิดเพลินไปกับวัตถุดิบของขนมโคอะลามาร์ช ทั้งช็อคโกแลต นมและชีส สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มข้นของรสบิทเทอร์ช็อคโกแ9ลต และรสไวท์มิลก์ อันแสนอร่อย

ห้องโคอะลา โปรไฟล์ (Koala’s Profile) บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของมาร์ชคุง และวอลซ์จัง สองคาแรกเตอร์หลักของแบรนด์ ซึ่งห้องนี้จะทำให้รู้จักพวกเขามากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงลวดลายของ โคอะลามาร์ช ในประเทศไทยที่มี 214 คาแรกเตอร์ ลายพิเศษที่ให้แต่ละจังหวัดในประเทศไทยโดยเฉพาะ ตลอดจนสมาชิกใหม่สุดน่ารักลายล่าสุดชื่อ โดเรมี และอีกหนึ่งปริศนาที่ชวนให้ลุ้นไปด้วยกัน

ถัดจากนั้นจะเป็นสิ่งที่หลายคนอยากรู้ นั่นคือ ห้องโคอะลาแฟ็คทอรี่ (Koala’s Factory) จำลองโรงงานขนมสุดอลังการแสดงให้เห็นถึงวิธีการผลิต ความใส่ใจและพิถีพิถันในทุกขั้นตอน จากแผ่นแป้งสู่บิสกิตหอมกรุ่นสอดไส้ครีมรสชาติต่างๆ ที่ทำให้ทุกคนหลงรักและติดใจในความอร่อย ห้องความเป็นมา (Koala’s Timeline) ที่มาเล่าจุดกำเนิดของโคอะลามาร์ช ตั้งแต่ปี 1984 จนถึงปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง จากนั้นจะเป็นการเดินทางเข้าสู่ สวนดอกไม้ของโคอะลามาร์ช (Flower Zone) อบอวลไปด้วยมวลดอกไม้นานาพรรณ ที่รังสรรค์ขึ้นจากฝีมือการออกแบบของศิลปินชาวไทย โดยให้ผู้เข้าชมร่วมสนุกด้วยการเป็นพยานในการสารภาพรักของมาร์ชคุงและวอลซ์จัง ท่ามกลางสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ด้วย

“ที่ผ่านมาโคอะลามาร์ช เป็นแบรนด์ขนมที่เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคชาวไทยในหลายกลุ่มวัย ไม่ว่าจะเป็น เด็ก วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ หรือผู้ใหญ่ ซึ่งหลงรักในคาแรกเตอร์ของหมีโคอะลาและความอร่อยของขนมปังกรอบสอดไส้ครีมของเรา การจัดนิทรรศการในครั้งนี้หวังว่า จะทำให้ทุกคนรู้จักและหลงรัก โคอะลา มาร์ช ในคาแรกเตอร์ต่างๆ ยิ่งกว่าเดิม” นายซาดาฟูมิ มัตซึชิตะ กล่าวทิ้งท้าย

12 ตุลาคม – 12 พฤศจิกายน 2566 นี้ อย่าพลาด! นิทรรศการ ‘โคอะลา มาร์ช เวิลด์ เปิดใจให้โลกน่ารักเวรี่มาร์ช’ ที่จะทำให้คุณมูฟออนจากความน่ารักของพี่มาร์ช คุง ไม่ได้เลย มาเติมความสดใสในโลกของคุณ ได้ที่ ริเวอร์ ซิตี้ (River city) ชั้น 2 ห้อง RCB Galleria 2

หรือ Add Line : Koalas-march หรือ http://bit.ly/3MASbQg  เพื่อร่วมสนุกและแลกของรางวัลสุดเอ็กซ์คลูซีฟหน้างาน พร้อมให้ความน่ารักของโคอะลา มาร์ช ได้กลายเป็นอีกส่วนหนึ่งของความสดใสในโลกของคุณ! และติดตามข่าวสารได้ที่เพจ https://www.facebook.com/ilovekoalamarch

ชวนดูหลักสูตร โรงเรียนฐานปัญญา โรงเรียนที่หวังปูรากฐานแห่งปัญญาให้กับเด็กในศตวรรษที่ 21

event

โรงเรียนฐานปัญญา โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งบนถนนกัลปพฤกษ์ กรุงเทพฯ ที่มีหลักสูตรครบพร้อมตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 บริหารงานด้วยปณิธานว่าต้องการบ่มเพาะเยาวชนให้มีจริยธรรมที่ดีและทักษะที่จำเป็นเพื่อก้าวสู่โลกแห่งอนาคตในศตวรรษที่ 21

ชวนดูหลักสูตร โรงเรียนฐานปัญญา โรงเรียนที่หวังปูรากฐานแห่งปัญญาให้กับเด็กในศตวรรษที่ 21

เสียงเพลงแอโรบิคตอนเช้าตรู่จากกิจกรรมหน้าเสาธง ทำให้เรารู้สึกคึกคักไปพร้อมๆ กับเด็กๆ ในโรงเรียนฐานปัญญา โรงเรียนที่ School Visit อยากชวนไปเยี่ยมชมหลักสูตรแบบบูรณาการเพื่อการเรียนรู้ที่ทั้งสนุกและมีเนื้อหาเข้มข้นในเวลาเดียวกัน

โรงเรียนฐานปัญญา คือ โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งบนถนนกัลปพฤกษ์ กรุงเทพฯ ที่มีหลักสูตรครบพร้อมตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 บริหารงานด้วยปณิธานว่าต้องการบ่นเพาะเยาวชนให้มีจริยธรรมที่ดีและทักษะที่จำเป็นเพื่อก้าวสู่โลกแห่งอนาคตในศตวรรษที่ 21

ผู้ปกครองบางท่านอาจจะคิดว่า ถ้าอยากให้ลูกเก่งวิชาการ แน่นภาษา ลูกน้อยของเราคงจะต้องคร่ำเคร่งนั่งเรียนอยู่กับโต๊ะ ไม่สนุก ไม่มีสังคม แต่ที่โรงเรียนฐานปัญญา เขายืนยันว่าสามารถส่งเสริมเด็กๆ ทั้งด้านวิชาการ กิจกรรมเด่น และเรียนสนุก ไปพร้อมๆ กันได้ จนเป็นที่นิยมของคนในพื้นที่มากว่า 33 ปี 

เด็กๆ ชั้นอนุบาลทำกิจกรรมหน้าเสาธงรวมกันทุกเช้า ซึ่งแต่ละวันจะมีกิจกรรมสนุกๆ เพื่อเริ่มต้นวันแต่งต่างกันไป เช่น แนะนำคำศัพท์ เต้นประกอบเพลง

 

เน้นกิจกรรมสนุก ปลุกพัฒนาการปฐมวัย

สำหรับเหล่าหนูน้อยชั้นอนุบาล ที่โรงเรียนฐานปัญญาเน้นส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ผ่านกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม มีเรียนภาษาต่างประเทศด้วยหลักสูตร Intensive English Program ได้สัมผัสภาษาอังกฤษเกือบทุกวัน และเสริมภาษาจีนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งการเรียนภาษาจะเรียนผ่านการสนทนาและการแสดงบทบาทสมมติทำให้เด็กๆ สนุกและอยากเรียนรู้ อีกทั้งยังส่งเสริมการเรียนเสียงดนตรีผ่านคีย์บอร์ด ซึ่งเด็กๆ จะได้ฝึกเล่นด้วยตัวเองทุกคน

ห้องเรียนดนตรีที่เด็กๆ จะมีคีย์บอร์ดสำหรับฝึกฝนทุกคน

 

กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการ 6 กิจกรรม

สำหรับชั้นอนุบาลที่ได้เล่นไม่เคยขาดทุกสัปดาห์ คือ

1 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ เพื่อพัฒนาการด้านร่างกายและกล้ามเนื้อผ่านเสียงเพลง

2 กิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาการทางด้านอารมณ์ ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ที่หลากหลาย เช่น วาดภาพ พับกระดาษ ร้อยหลอด

3 กิจกรรมเสรี ที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เล่นมุมต่างๆ ตามความสนใจของตัวเอง

4 กิจกรรมเสริมประสบการณ์ผ่านการเรียนรู้แบบ STEAM และโครงงาน การเรียนรู้ผ่านกระบวนการทดลอง สังเกต เปรียบเทียบ ฯลฯ ผ่านโครงงานต่างๆ

5 กิจกรรมกลางแจ้ง ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อและประสาทสัมผัสของอวัยวะต่างๆ

6 เกมการศึกษา เพื่อพัฒนากระบวนการคิดผ่านการเล่น เช่น การจับคู่เปรียบเทียบ การแยกหมวดหมู่

เรียนผ่านกิจกรรมต่างๆ

 

STEAM Education ศาสตร์เพื่อก้าวสู่ศตวรรษที่ 21

หนึ่งในสิ่งพิเศษที่ทำให้หลักสูตรของโรงเรียนฐานปัญญาน่าสนใจคือ การนำ STEAM Education มาใช้ในระดับชั้นอนุบาล-ประถม 6 ผ่านโครงงานต่างๆ ซึ่งเหมาะสมกับเนื้อหาหลัก โดยมีห้องปฏิบัติการ STEAM ที่มีพื้นที่กว้างขวาง สำหรับทดลองโครงงานที่ต้องใช้ทั้งการค้นกว้า การสังเกตุ และการทดลอง

ส่วน STEAM Education นั้น คือ เรียนรู้แบบบูรณาการข้ามองค์ความรู้ ประกอบไปด้วย วิทยาศาสตร์ (Science), เทคโนโลยี (Technology), วิศวกรรม (Engineering), ศิลปะ (Arts) และ คณิตศาสตร์ (Math) ซึ่งการเรียนแบบองค์รวมนี้จำทำให้เด็กๆ ได้ฝึกทักษะคิดวิเคราะห์อย่างรอบด้าน ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่จะทำให้เขาไปยืนบนเวทีโลกในศตวรรษที่ 21 ได้

 

นักเรียนชั้น ป.5 กำลังทำโครงงานเครื่องร่อนพลังลม ผ่านการเรียนรู้แบบ STEAM โดยเด็กๆ จะได้เรียนรู้การออกแบบ การวัด คำนวณขนาด และน้ำหนัก ตั้งแต่เริมต้นจนสำเร็จ โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคุณครูและเพื่อนตลอดเวลา

 ผลงานจากโครงการ STEAM ของเด็กๆ

ENGLISH PROGRAM

ระดับชั้นประถมของโรงเรียนฐานปัญญามีหลักสูตรให้เลือกถึง 3 หลักสูตร คือ สามัญ, BILINGUAL, และ ENGLISH PROGRAM ตามความถนัดทางด้านภาษาของเด็กๆ ซึ่งในหลักสูตร ENGLISH PROGRAM เด็กๆ จะได้ใช้ภาษาอังกฤษแบบเข้มข้นผ่านการเรียนกับคุณครูที่เป็น Native Speaker ใน 5 รายวิชาหลัก คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาตร์ ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ และพละศึกษา

สอนวิชาหลักเป็นภาษาอังกฤษโดยครู Native Speaker

ส่งเสริมความถนัดเฉพาะด้าน

ในวันที่เราได้ไปเยี่ยมชมหลักสูตรมัธยมของโรงเรียนฐานปัญญา ทางโรงเรียนได้เปิดห้องซ้อมดนตรีที่มีการรวมแบรนด์นักเรียนมัธยมปลายแผนกศิลป์-ดนตรีให้เราได้ฟัง ก่อนจะแนะนำว่าทางโรงเรียนมีแผนกของนักเรียน ม.ปลาย ให้เลือกถึง 5 สาย คือ วิทย์คณิต ศิลป์คำนวณ ศิลป์ภาษาญี่ปุ่น ศิลป์ภาษาจีน ศิลป์ดนตรี ซึ่งเป็นแนวทางของหลักสูตรที่ต้องการส่งเสริมความสามารถเฉพาะด้านของนักเรียนไปจนถึงที่สุด

อย่างแผนกศิลป์-ดนตรี จะมีการเรียนการสอนเกี่ยวกับดนตรีโดยเฉาะ 9 คาบเรียนต่อสัปดาห์ เช่น ประวัติศาสตร์ดนตรีตะวันตก ทฤษฎีดนตรี ทักษะการฟัง การปฏิบัติรวมวง ฯลฯ นักเรียนจะได้สัมผัสเครื่องดนตรีทุกวัน และสามารเลือกเอกได้หลายประเภท ทั้งเครื่องเป่า ไวโอลิน เปียโน ดนตรีไทย และกีต้าร์ ทำให้นักเรียนได้ทดลองและค้นหาตัวตนได้ว่า เขาชอบเส้นทางสายนี้จริงๆ หรือไม่ ก่อนที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย

อาคารกรอสโซ่มิวสิค คือ ศูนย์ดนตรีของโรงเรียนฐานปัญญา ที่ประกอบไปด้วยห้องอัด ห้องซ้อม อุปกรณ์และเครื่องดนตรีครบครัน สำหรับการเรียนรู้เฉพาะทางของนักเรียน และเปิดสอนสำหรับบุคคลภายนอกด้วย

พัฒนา MOU เพื่ออนาคตเด็กไทย

สำหรับแผนกภาษาของที่นี่ ทั้งศิลป์ญี่ปุ่นและศิลป์จีน ทางโรงเรียนจะมี MOU แลกเปลี่ยนนักเรียนกับประเทศเจ้าของภาษาโดยตรง เพื่อแลกเปลี่ยนนักเรียนให้ได้ประสบการณ์ทางด้านภาษาจริงๆ ซึ่งทางโรงเรียนไม่ได้มองว่าเป็นผลดีกับตัวนักเรียนเท่านั้น แต่ละเป็นโอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทยในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้อีกด้วย จึงมีการพัฒนาความสัมพันธ์เพิ่ม MOU ใหม่ตลอด ล่าสุดทางโรงเรียนที่การลงนามความร่วมมือทางการศึกษา (MOU) กับ Guangxi University of Science and Technology ประเทศจีน เพื่อเพิ่มห้องเรียนโดยใช้รายวิชาจากทางจีนโดยเฉพาะ เพื่อฝึกทักษะสำหรับส่งนักเรียนไปเรียนต่อกับ Guangxi University ได้โดยตรง

บรรยากาศสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง

คุณฐิตาภรณ์ ฐานปัญญา ผู้บริหารโรงเรียนรุ่นที่ 3 ผู้ที่คอยดูแลหลักสูตรและปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยเหมาะกับโลกปัจจุบันเสมอ

 

5 เหตุผลที่ทำให้เด็กอยากมาโรงเรียนฐานปัญญาทุกวัน

1 เน้น Play based learning สร้างบรรยาการการเรียนรู้แสนสนุก ที่ทำให้เด็กๆ อยากเข้าร่วมกิจกรรม ได้ลงมือทำจริงทุกคน

2 คุณครูผู้เข้าใจธรรมชาติและตัวตนของเด็กแต่ละคน ทำให้เด็กได้โชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่

3 ส่งเสริมการเรียนอย่างมีส่วนร่วมและเปิดพื้นที่การเรียนในสิ่งตัวเองสนใจอย่างมีอิสระ

4 เน้น Project-Based Learning และ STEAM กระตุ้นความเป็นนักสำรวจของเด็กๆ ทำให้มีมุมมองที่ดีต่อการทำงานเป็นทีม

5 ห้องเรียนและอุปกรณ์ ครบครัน นำสมัย มีแรงจูงใจเชิงบวกที่ทำให้อยากเรียนรู้ เช่น ห้องดนตรี, ห้องปฏิบัติการ STEAM, ห้องภาษา, ห้อง IMAC สำหรับเรียน Media Arts

บรรยากาศในห้องเรียน

 

Mommy Loves This! เรื่องพิเศษของโรงเรียนนี้ ที่แม่รักมาก

-มีสอนภาษาจีนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล สัปดาห์ละ 2 คาบ

-คุณครูผู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนส่วนใหญ่เป็น Native Speaker ทำให้คุ้นเคยกับสำเนียงที่ถูกต้อง

-หลักสูตรศิลป์คำนวนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายคือการเรียนรู้เน้นผลิต Artist and Designer

-มีชมรมโขนเยาวชนเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมไทย มีการฝึกสอนสม่ำเสมอและส่งเสริมให้ทำการแสดงจริง

-มี English Camp ช่วงปิดเทอมให้เด็กมาทำกิจกรรมประมาณ 1 สัปดาห์ กิจกรรมจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น ทำหุ่นยนต์ ทำอาหาร ฯลฯ

ชมรมโขนเยาวชน กิจกรรมหลังเลิกเรียนที่นักเรียนทุกระดับชั้นสามารถสมัครเข้าร่วมได้

 

หลักสูตร

อนุบาล 1-3 : Intensive English Program

ประถม 1-6 : สามัญ, BILINGUAL, ENGLISH PROGRAM

มัธยม 1-3 : สามัญ, BILINGUAL

มัธยม 4-6 : วิทย์คณิต ศิลป์คำนวณ ศิลป์ภาษาญี่ปุ่น ศิลป์ภาษาจีน ศิลป์ดนตรี

 

ระดับที่เปิดสอน : อนุบาล 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 6

อัตราค่าเล่าเรียน : 15,000-50,000 บาท (แล้วแต่หลักสูตร)

 

โรงเรียนฐานปัญญา

ที่อยู่ : 45/597 ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร 10160

เว็บไซต์ : https://www.tharnpanya.ac.th/

เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/tharnpanya

 

Editor : แม่น้องอลินดา

ภาพ : สุวิจักขณ์ ศรีภา

 


อ่านต่อบทความน่าสนใจ

Balcony Seaside Sriracha

สองพี่น้องพีท-พริม พาเที่ยวศรีราชา กับที่พักสุดฟิน Balcony Seaside Sriracha Hotel

event
Balcony Seaside Sriracha
Balcony Seaside Sriracha

เด็กๆ บ้านไหนใฝ่ฝันอยากมี เตียงสองชั้นที่นอน แล้วมองออกหน้าต่างไปเห็นวิวทะเล ต้องห้ามพลาด!! Balcony Seaside Sriracha

 

แม่ขา หนูอยากไปทะเลค่ะ แม่จ๋าพ่อจ๋าบ้านไหน ทนเสียงน้อยๆที่เรียกร้องหาทะเลได้บ้างคะ บ้านนี้ทนไม่ค่อยไหวค่ะ เพราะแม่เองก็เลือกทะเลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นหยิบกุญแจรถส่งให้พ่อ แล้วสตาร์ทรถกันเลยค่ะ

ที่ฟังดูเหมือนง่ายขนาดนั้นเพราะทะเลที่เราพูดถึงนี้อยู่ใกล้มาก คือ อำเภอ ศรีราชา จังหวัด ชลบุรี ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็ได้กลิ่นอายทะเลกันแล้ว และโรงแรมที่เราพาเด็กๆมาสนุกในวันนี้คือ Balcony Seaside Sriracha ซึ่งโรงแรมนี้มี 2 สาขาไม่ไกลกัน เด็กๆเลือกมาที่นี่เพราะภาพๆเดียว นั่นคือ เตียงสองชั้นที่มองเห็นวิวทะเล!

 ไปค่ะ ไปเช็กอินกัน @ Balcony Seaside Sriracha

ระหว่างที่นั่งรอแม่ไปเชคอิน เด็กๆนั่งจิบเวลคัมดริ๊งก์ไปพลางๆ ล็อบบี้ส่วนกลางนี้เปิดโล่ง โปร่ง รับบรรยากาศกลิ่นไอทะเลได้อย่างสบายใจมาก จากนั้นพี่ๆในส่วนต้อนรับจะแจกเหรียญกาซาปองให้เด็กๆไว้หยอดตู้กาซาปองที่อยู่ไม่ไกลกัน ครั้งนี้เราได้มา 8 เหรียญเลย หยอดกันสนุกแน่ๆ จบกิจกรรมแรก ยังมีคูปองสำหรับแลกขนมได้อีกเลือกขนมติดไปรับประทานกันในห้องได้เลย

ที่นี่ตกแต่งในสไตล์ Modern Cozy ที่มีกลิ่นอายของความเรียบหรูในแบบญี่ปุ่น ภายใต้คอนเซปต์ The Luxury Family Escape เรียกได้ว่าหลบหนีความวุ่นวายมาสู่ความเรียบง่าย ผ่อนคลายกับเสียงคลื่นทะเลนั่นเอง

Balcony Seaside SrirachaBalcony Seaside Sriracha

ในส่วนต้อนรับนี้มีมุมหนังสือและห้องทำงาน ที่บอกว่าเด็กแทบจะพุ่งตัวเข้าไปหาหนังสือตัวละครสุดโปรดกันเลยทีเดียว มีหนังสือให้นั่งอ่านเพลินๆเยอะมาก และหากอยากนั่งทำงานก็มีห้องให้ใช้ประชุมได้แบบส่วนตัวกันเลย ถัดไปไม่ไกลกันมีมินิมาร์ทเล็กๆให้ซื้อของใช้และขนม เครื่องดื่ม ของจุกจิก ได้ด้วย

Balcony Seaside Sriracha

ไฮไลท์ของ Balcony Seaside Sriracha เด็ดๆ ที่เด็กๆไม่ควรพลาด!

วางแผนการพักให้ดีๆเพราะบางทีเราจะเพลิดเพลินจนลืมไปว่ายังมีกิจกรรมรออยู่อีกเพียบเลย อย่างบ้านเราหยิบลิสต์มานั่งดูก่อนเลย ว่ามีอะไรให้สนุกบ้าง วางแผนคร่าวๆแล้วไปจองคิวไว้ ทำเป็นเกมเก็บฐานสนุกๆกับลูกๆก็ได้ อันไหนไปแล้วขีดออก อันไหนอยากเล่นอีกลงตารางเพิ่ม จะได้ไม่พลาดสักกิจกรรมค่ะ

mini HarborLand : Indoor Playground

ไฮไชท์ที่เด็กๆเรียกร้องที่สุดคือ การได้มาเล่นเครื่องเล่นในฮาร์เบอร์แลนด์กันได้ทั้งวัน แบบจุใจ เพราะทั้งได้ออกกำลังกาย วาดภาพ ต่อบล็อกอันโตๆ สนุกจนไม่อยากกลับห้องเลย

สระว่ายน้ำ สำหรับผู้ใหญ่ และเด็ก มีเครื่องเล่นสวนน้ำเป่าลมขนาดใหญ่

Water Adventure ตะลุยด่านกลางน้ำสุดหรรษา บ้านไหนสายชอบเล่นน้ำ  ได้ปีนป่าย ว่ายน้ำกันเต็มที่ กิจกรรมนี้เล่นได้ทั้งบ้าน เตรียมชุดมาให้พร้อมนะ

  • Laser Wars เกมยิงปืนเลเซอร์ (Laser Tag) ปืนเลเซอร์ที่สร้างจินตนาการแสนสนุก ถูกใจทั้งบ้าน

(มีข้อจำกัดนิดนึง ในการเข้าเล่น รองเท้าต้องหุ้มส้น และ ส่วนสูง 100 cm ขึ้นไป)

 

  • สนามเด็กเล่นกลางแจ้ง

สายปีนป่าย และตักทราย เขามีอุปกรณ์เตรียมไว้พร้อม สไลด์เดอร์แข่งกับพระอาทิตย์ตกดินกันไปเลย

  • Ofuro บ่อน้ำร้อน + ห้องซาวน่า +ห้องอบไอน้ำ แยกชาย-หญิง อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของที่นี่ แม่ที่เหนื่อยล้าต้องได้รับการฮีลใจ ด้วยการขัดผิว ซาวน่า สร้างระบบเลือดหมุนเวียนที่ดี เที่ยวทั้งทีต้องสวยกลับไป
  • Fitness สุขภาพก็สำคัญใครที่เสพติดการออกกำลังกาย ช่วงเช้าก่อนลูกตื่น หรือจะช่วงลูกหลับ ลงมาออกกำลังกายเบาๆก่อนนอนได้ เพราะเปิดทั้งวัน 24 ชม.
  • บุฟเฟต์อาหารเช้า ไลน์อาหารเช้าแบบจุกๆทั้งอาหารไทย ญี่ปุ่น และอาหารเช้าแบบฝรั่ง เลือกตักกันไม่ถูกเลย
  • ที่จอดรถกว่า 200 คัน มีหลังคาทุกจุดไม่ต้องกลัวรถร้อน มีบริการ EV Station จุดชาร์ตรถไฟฟ้า EV

คิดค่าบริการตามยูนิต (ยูนิตละ 10 บาท)

 

ลืมบอกไปว่าที่นี่มีสองตึก ส่วนของตึกเดิมจะเป็นส่วน Service Apartment  ซึ่งตอนที่เรามาส่วนกลางของตึกนี้กำลังอยู่ระหว่างปิดปรับปรุง แต่ก็สามารถเดินมาชมวิวทะเลได้ในวันเสาร์-อาทิตย์ ก่อนกลับเราพากันเดินลอดอุโมงค์ต้นไม้ ไปหาทะเล แวะไปเล่นทรายบนหาดทรายเทียมที่ออกแบบให้กลมกลืนไปกับทะเลเบื้องหน้า มีของเล่นและอุปกรณ์เล่นทรายเตรียมไว้ให้เด็กๆได้เล่นสนุกกันด้วย เรียกได้ว่าประทับใจตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายทีเดียว

และแน่นอนว่า เมื่อขึ้นรถกลับเสียงน้อยๆแว่วมาว่า “หนูไม่อยากกลับเลย พาหนูมาอีกนะ”  เป็นเด็กดีแล้วแม่สัญญาว่าจะพามาอีกแน่นอนจ้ะ

 

Mommy loves this: สิ่งเล็กๆที่แม่ปลื้ม

ขอลิสต์สิ่งที่ครอบครัวเราประทับใจในการมาเที่ยวที่นี่ ที่เราเองก็มั่นใจว่าเด็กๆเองก็จะจดจำและนึกถึงช่วงเวลาดีๆนี้ในวันข้างหน้าหรืออยากจะมาที่นี่ซ้ำๆอีกเช่นกัน

A: แผนกปฐมพยาบาลที่พร้อมรอช่วยเหลือ ด้วยความสนุกอาจทำให้เด็กๆได้รับบาดเจ็บเล็กๆน้อยได้ บ้านนี้ก็ไม่พลาดการสร้างรอยถลอก ได้มาหนึ่งแผล แต่พี่ๆใจดีมาก พีทไม่กลัวเลย ยอมทำแผลและปิดพลาสเตอร์ยาแบบสบายๆเลย

Balcony Seaside Sriracha

B: มินิมาร์ทเล็กๆที่อยู่ใกล้กับล๊อบบี้ หากเด็กๆหิวตอนดึกหรือพ่อแม่อยากทานอะไรเล่นกรุบกริบ หรือเครื่อมดื่มเย็นๆแวะซื้อขึ้นไปรับประทานบนห้อง จิบน้ำเย็นๆมองวิวทะเล เท่านี้ก็ชื่นใจแล้ว

Balcony Seaside Sriracha Balcony Seaside Sriracha

C: แปรงสีฟันของเจ้าตัวน้อย ความใส่ใจที่เตรียมแปรงสีฟันและยาสีฟันไว้ให้เด็กๆ ที่ทำให้เด็กๆเองก็สนุก และเป็นความตื่นเต้นเล็กๆที่ทำให้เด็กๆร้องว้าวได้

Balcony Seaside Sriracha

D: ไลน์อาหารเช้าแบบอัดแน่นจุกๆ อาหารหลากหลายมาก ทั้งอาหารไทยและอาหารญี่ปุ่น แม่ถูกใจนัตโตะมากๆใครชอบนัตโตะเหมือนเราต้องถูกใจแน่ รวมถึงมีความพิเศษเตรียมไว้ให้เด็กๆ ทั้งซูชิคำเล็กๆ ไอศกรีมซอฟเสิรฟ ไว้ให้เด็กๆได้ตกแต่งท๊อปปิ้งกันเองอีกด้วย

Balcony Seaside Sriracha

Balcony Seaside Sriracha

E: พื้นที่ส่วนกลางที่คิดถึงการใช้งานของเด็กๆ มีเก้าอี้สูงสำหรับให้เด็กปีนไปล้างมือเอง ได้สนุก มีความภูมิใจที่สามารถช่วยเหลือและพึ่งพาตัวเองได้

Balcony Seaside Sriracha

BalconySeaside Sriracha & Serviced Apartments

ที่อยู่: 51 44 ตำบล บางพระ อำเภอศรีราชา ชลบุรี 20110

โทร: 038-312-777

www.balconythailand.com

https://www.facebook.com/BalconyThailand/

Map : https://goo.gl/maps/FxKRpewJh6PieFZq6

 

EXPLORER: #แม่พีทพริม

PHOTOGRAPHER: #แม่พีทพริม #พ่อพีทพริม

#BALCONY #เที่ยวกับลูก #ExplorersClub #AmarinBabyAndKids


อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ

นิทรรศการ Studio Ghibli โซนใหม่ เติมแรงบันดาลใจ ให้เด็กๆ ช่วงปิดเทอม

นิทรรศการ Studio Ghibli โซนใหม่ เติมแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ช่วงปิดเทอม

event
นิทรรศการ Studio Ghibli โซนใหม่ เติมแรงบันดาลใจ ให้เด็กๆ ช่วงปิดเทอม
นิทรรศการ Studio Ghibli โซนใหม่ เติมแรงบันดาลใจ ให้เด็กๆ ช่วงปิดเทอม

ข่าวดี! สำหรับใครที่ยังไม่ได้ไปชมนิทรรศการของ Studio Ghibli ตอนนี้เค้าฉลองยอดขายกว่าแสนใบ! ขยายเวลาให้เข้าชมได้จนถึง 2 มกราคม 2567 ปีหน้าไปเลยจ้า

‘THE WORLD OF STUDIOGHIBLI ANIMATION EXHIBITION BANGKOK 2023’ มีโซนใหม่ให้เด็กๆ ไปตามหาแรงบันดาลใจกัน เป็นโซนพิเศษที่รวบรวมเรื่องราวกว่าจะเป็นแอนิเมชั่น Studio Ghibli คราวนี้แม่ไข่มุกชวนพี่บอมเบย์ และน้องน่านฟ้า แฟนพันธุ์แท้ของ จิบลิ ที่ดูมาแล้วเกือบทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่มีในนิทรรศการ บางเรื่องที่ยังไม่ได้ดู น้องก็เล่าให้ฟังได้อย่างน่าสนใจ จนอยากกลับไปดูที่บ้านบ้าง บอกเลยว่าน้องน่านฟ้านี่แหละ ตัวจริง! 

ถ้าพร้อมแล้วไปดูนิทรรศการ StudioGhibli  พร้อมๆ กับน้องน่านฟ้า และพี่บอมเบย์กันเลย!

น้องน่านฟ้า กับพี่บอมเบย์ จะพาพวกเราไปชมนิทรรศการกันค่ะ

ตรงทางเดินเข้านิทรรศการ พวกเราได้ถูกอุ่นเครื่องกันด้วยโปสเตอร์ภาพยนต์แอนิเมชั่นของจิบลิเรื่องต่างๆ และลอดเครื่องบินของนาชิกา จาก เรื่อง มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม  รับพาสปอร์ตกันไปคนละ 1 ชุด เพื่อไปตามล่าหาจุดปั๊มกันให้ครบ

คลิปวิดิโอ สัมภาษณ์คุณ ฮายาโอะ มิยาซากิ และ อิซาโอะ ทากาฮาตะ ผู้ร่วมก่อตั้ง Studio Ghibli

ถัดมาจะมีห้องที่ฉายวิดิโอสั้นๆ เล่าถึงที่มาที่ไปของ StudioGhibli กัน ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดที่เราได้ทำความรู้จักกับสตูดิโอ และแนวคิดที่จะทำแอนิเมชั่นอันแสนละมุนละไมทั้งภาพ และอารมณ์ของตัวละคร รวมถึงเนื้อเรื่องที่น่าประทับใจจนอยู่ในความทรงจำของพวกเราด้วย

หลังจากนั้นนิทรรศการก็ต้อนรับพวกเราด้วยปราสาทเดินได้ในเรื่อง Howl’s Moving Castle ซึ่งแม่ไข่มุกเองถึงจะมาครั้งที่ 2 แล้ว ก็ยังประทับใจกับการเคลื่อนไหวที่เหมือนกับในแอนิเมชัน มาทั้งภาพและเสียงแบบ 4 มิติเลย เดินไปอีกนิดเป็นโซนจำลองภายในปราสาทของพ่อมดฮาวล์ รายละเอียดสมจริงจนเหมือนตัวละครมายืนอยู่ตรงนั้น

พวกเราเดินตามทางจนมาเจอกับฉากทุ่งดอกไม้ในเรื่อง Howl’s Moving Castle  วิธีชมจุดนี้คือ ต้องมุดเข้ายืนดูค่ะ เมื่อไปอยู่ตรงกลางวงแล้ว จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในทุ่งจริงๆ แบบ 360 องศา ไหนๆ ก็มากันเป็นแก๊งแล้ว มาถ่ายภาพด้วยกันหน่อยนะ ^^

มาถึงนิทรรศการ Studio Ghibli ทั้งที ต้องถ่ายรูปด้วยกันหน่อย ^^

ถัดมาจากปราสาทของพ่อมดฮาวล์ จะเป็นร้านขายขนมปังจากเรื่อง แม่มดน้อยกิกิ ที่แม่มดกิกิกำลังนั่งรอลูกค้าอยู่กับน้องแมวจิจิล่ะ ภายในร้านจะเป็นตัวละครในเรื่องแบบ 3 มิติ ที่มองจากมุมไหนก็เหมือนเราเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องนี้ด้วย พอเราไปถ่ายกับฉากนี้แล้วยิ่งน่ารักสุดๆ ดูอย่างพี่บอมเบย์สิ

ในส่วนของเรื่องแม่มดน้อยกิกิ จะมีจุดให้ถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ ซึ่งทางผู้จัดมีการกั้นแถวเพื่อต่อคิวเข้าไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พนักงานที่เฝ้าในแต่ละจุดก็น่ารักมากๆ  ให้คำแนะนำในการเล็งมุมถ่ายภาพให้ใกล้เคียงกับฉากในหนังได้เป็นอย่างดีเลย

ถัดมาเป็นทางเดินที่จะพาไปพบกับบ้านต้นไม้จากเรื่อง โตโตโร่เพื่อนรัก ซุ้มทางเดินที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้ จำลองให้เหมือนเรากำลังเดินเข้าในป่า ถ้าเงยหน้ามองดีๆ จะเห็นเจ้าก้อนฝุ่นที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ เหนือหัวของเราด้วยค่ะ

เมื่อเดินมาจนสุดทาง จะเจอกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ มีช่องเล็กๆ ให้ส่องเข้าไป ด้านในเป็นอะไรน้า

แต่ละช่องจะเป็นมุมมองที่ต่างกันออกไป ตรงนี้น่ารักมากๆ ถ้าส่องดูสักพัก จะสังเกตเห็นว่าพุงโตโตโร่ขยับขึ้นลง เหมือนกำลังหลับอยู่ค่ะ

เดินไปตามทางอีกนิดก็จะเจอกับมุมถ่ายรูปกับโตโตโร่ บอกเลยว่าเป็นมุมที่ห้ามพลาดค่ะ ตรงนี้เค้าจัดระเบียบคิวได้ดีมากๆ มีพร็อพเป็นร่มสีแดง และฉายโปรเจ็คเตอร์จำลองฝนตก ให้เหมือนกับเรายืนรอฝนเป็นเพื่อนโตโตโร่และสองพี่น้องที่ป้ายรถเมล์

ทางเดินที่พาเราไปในการ์ตูนแต่ละเรื่องก็ไม่เคยว่าง มีภาพฉากในเรื่องให้เราได้ตื่นเต้นไปตลอดทาง ถัดมาจะเป็นบ้านของเหล่าทานุกิ จากเรื่อง ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก ซึ่งจำลองให้เราเดินลอดประตูเข้าไป เหมือนได้ไปเยี่ยมชมบ้านจริงๆ ของตกแต่งในบ้านก็ดูเหมือนจะใช้งานได้จริงด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องโปรดของน้องน่านฟ้าเลย

มาต่อกันที่ฉากจากเรื่อง Spirit Away ประเดิมกันด้วยฉากทางเข้าโรงอาบน้ำ เป็นฉากที่มองได้จากทุกมุม ตัวอาคารขนาดย่อ รายละเอียดเหมือนยกเอามาจากในหนัง และยังมีสะพานข้ามแม่น้ำจำลอง ถ้าเราถ่ายรูปด้วยการหันหลังแบบนี้ เหมือนกำลังจะตามน้องชิฮิโระนางเอกของเรื่องเข้าไปด้วยเลยค่ะ

ยกเอาห้องทำงานของแม่มดยูบาบามาให้ดูเต็มๆ ตา ขนาดโต๊ะ ขนาดของในห้องดูสมจริงมากๆ กระดาษที่ปลิวว่อนภายในห้องก็ทำรูปร่างออกมาได้ใกล้เคียงกับในการ์ตูน ใส่ใจสิ่งเล็กๆ น้อยๆ สมกับเป็นจิบลิจริงๆ ค่ะ

ฉากที่น่าสนใจและมีเรื่องราวซ่อนอยู่คือฉากที่ผีไร้หน้ากำลังกินทุกอย่างตรงหน้าอย่างตะกละตะกลาม ที่น่ารักคือเมื่อมาแสดงนิทรรศการที่ไทย เค้าได้ใส่อาหารไทยลงไปในฉากนี้ด้วย เช่น ส้มตำ ต้มยำกุ้ง ทุเรียน และน้ำแดงเซ่นไหว้ผีแบบไทยๆ

และนี่คือฉากไฮไลต์ที่หลายๆ คนเฝ้ารอค่ะ ทางสิ้นสุดแต่ไม่ใช่สุดท้ายของนิทรรศการ ฉากบนรถไฟโดยสารในเรื่อง Spirit Away มีม้านั่งยาวสีแดง หน้าต่างที่มองออกไปเห็นพื้นน้ำภายนอก และคุณผีไร้หน้านั่งอยู่ รอให้เราไปถ่ายรูปด้วย

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เมื่อออกมาจากโซนนิทรรศการแล้ว ยังมีโซนพิเศษเปิดใหม่ที่นำเอาภาพสเก็ตช์ และสต็อปโมชั่นให้แฟนจิบลิชาวไทยได้เห็นส่วนหนึ่งกระบวนการทำงานก่อนที่ภาพยนตร์ของจิบลิซึ่งปกติเรื่องราวเหล่านี้จะสงวนไว้เฉพาะผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่โตเกียว ทำให้เห็นความมหัศจรรย์ของความคิดสร้างสรรค์ จากกระดาษสีขาวเรียบๆ เมื่อถูกเติมแต่งจินตนาการลงไปด้วยฝีมือมนุษย์ ก็สามารถต่อยอดเป็นแอนิเมชั่นเคลื่อนไหวที่น่าประทับใจได้

ภาพสเก็ตช์สีน้ำจากเรื่องโตโตโร่ การลงสีน้ำคร่าวๆ จะทำให้ทราบว่าในหนังจะใช้สีอะไรลงไปในจุดไหนบ้าง ชุดของตัวละครแต่ละตัวจะเป็นสีอะไร เพื่อสร้างความเข้าใจและนำไปสู่การทำงานร่วมกันภายในทีม

ภาพเบื้องหลังทีมงานที่กำลังทำงานในสตูดิโอจิบลิ และภาพสเก็ตช์จริงๆ แบ่งช่องเล่าเรื่อง รวมถึงดินสอสีที่ใช้ ก็ถูกเอามาจัดแสดง ทำให้เรารู้ที่มาที่ไปว่า กว่าจะมาเป็นแอนิเมชั่น 1 เรื่อง จะต้องมีขั้นตอน และรายละเอียดที่ต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก

ภาพสเก็ตช์เรื่อง Spirit Away ถูกขยายให้เห็นรายละเอียด รับรองว่าเด็กๆ ที่ชอบวาดภาพ เห็นแล้วจะเกิดแรงบันดาลใจแน่นอนค่ะ

ตรงนี้ส่วนตัวแม่ไข่มุกถือเป็นจุดที่น่าประทับใจมากๆ เพราะเป็นเสก็ตช์ตัวจริงของเรื่อง Spirit Away ค่ะ เห็นถึงร่อยรอยการใช้งานกระดาษแต่ละแผ่น ร่องรอยการลงดินสอ การลงสี การลงรายละเอียดในแต่ละภาพ เป็นงานศิลปะที่ดูจากกระดาษเสก็ตช์ก็ทรงพลังมากๆ แล้ว เมื่อนำไปทำแอนิเมชั่นจึงไม่แปลกใจเลยที่ได้รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมปี 2546 และรางวัลระดับโลกอีกมากมาย

นอกจากภายในนิทรรศการที่เซ็นทรัลเวิลดิ์ไลฟ์ชั้น 7 แล้ว ยังมีน้องโปเนียว ตั้งอยู่ด้านนอก ฝั่งถนนพระราม 1 ด้วย ห้ามพลาดจุดนี้เด็ดขาดน้า

สำหรับแม่ไข่มุก พี่บอมเบย์ และน้องน่านฟ้าที่ได้ไปดูนิทรรศการครั้งนี้ ได้รับทั้งแรงบันดาลใจ และความสนุกจากประสบการณ์ในโลกของจิบลิไปเต็มๆ เพราะนอกจากจะเป็นฉากในหนังที่ยกเอามาตั้งให้พวกเราดูแล้ว ยังมีฉากที่ทำให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมได้อีกเยอะเลย เหมาะกับทั้งครอบครัว ถึงแม้ว่าบางเรื่องอาจจะยังไม่ได้ดู ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์ในหนังได้ไม่แพ้กัน ยิ่งถ้าได้กลับบ้านไปดูเรื่องนั้นแล้ว อาจยิ่งฟินกว่าเดิมก็ได้นะ ^^

รายชื่อฉากจากภาพยนตร์ที่จัดแสดงในนิทรรศการ

1.     เครื่องบินของนาชิกา จาก Nausicaä of the Valley of the Wind
2.     ปราสาทกลับหัว หรือ ลาปูต้า (Laputa) จาก Castle in the Sky
3.     ป้ายรถเมล์และบ้านต้นไม้ จาก My Neighbor Totoro
4.     จักรยานลอยฟ้าและร้านขนมปัง จาก Kiki’s Delivery Service
5.     ชายหาดพักผ่อน จาก Porco Rosso
6.     บ้านของเหล่าทานุกิ จาก Pom Poko
7.     ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ จาก Princess Mononoke
8.     คาโอนาชิและรถไฟแห่งวิญญาณ จาก Spirited Away
9.     ปราสาทเวทมนตร์ จาก Howl’s Moving Castle


จำหน่ายบัตรที่ Link bit.ly/WOGBKK2023 

หรือ หน้างานที่เซ็นทรัลเวิลด์ไลฟ์ ชั้น 8

ราคาบัตร – 650 บาท

บัตร VIP – 1,290 บาท

ตั้งแต่วันนี้ – 2 มกราคม 2567

นิทรรศการเปิดให้ซื้อบัตร 3 ช่วงเวลา ได้แก่ 10.00 – 14.00 น. / 14.00 – 18.00 น. / 18.00 – 21.00 น.

สำหรับผู้ซื้อบัตรรอบ 10.00 – 14.00 น. สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ 10.00 – 13.30 น. (ปิดรับคิวเข้าชมงานสุดท้ายเวลา 13.30 น.)

สำหรับผู้ซื้อบัตรรอบ 14.00 – 18.00 น. สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ 14.00 – 17.30 น. (ปิดรับคิวเข้าชมงานสุดท้ายเวลา 17.30 น.)

สำหรับผู้ซื้อบัตรรอบ 18.00 – 21.00 น. สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ 18.00 – 20.30 น. (ปิดรับคิวเข้าชมงานสุดท้ายเวลา 20.30 น.)

น่ารู้ก่อนเข้างาน

  • เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 80 ซม. สามารถเข้าชมกับผู้ปกครองได้โดยไม่ต้องซื้อบัตร เด็ก 1 คน ต่อผู้ปกครอง 1 ท่าน
  • สามารถนำกล้องเข้าและถ่ายรูปภายในงานได้ งดการใช้แฟลช ขาตั้งกล้อง และไม้เซลฟี่
  • สำหรับห้องน้ำ ก่อนจะพาเด็กๆ เข้าชมนิทรรศการ ใช้ห้องน้ำเซ็นทรัลเวิลด์ชั้น 7 ก่อนขึ้นบันไดเลื่อนมาให้เรียบร้อย เพราะเมื่อออกจากนิทรรศการแล้ว จะไม่สามารถกลับเข้าไปได้อีกรอบค่ะ

อ่านรายละเอียด และคำถามที่พบบ่อยเพิ่มเติมได้ที่

คลิก >> https://www.thaiticketmajor.com/the-world-of-studio-ghiblis/?utm_source=lnth&utm_medium=socialmedia&utm_campaign=WOGBKK2023

เรื่อง / ภาพ : แม่ไข่มุก

นายแบบ / นางแบบ : น้องน่านฟ้า / พี่บอมเบย์

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง โรงเรียนวัดอินเตอร์ ภาษาอังกฤษแน่นๆ ค่าเทอมเบาๆ เด็กไทยทุกคนเอื้อมถึง

event
โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง
โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

หลาย ๆ คนคงอยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ เพื่อจะได้สื่อสารและทำงานดี ๆ ในอนาคต แต่โรงเรียนดี ๆ ที่มีโครงการภาคภาษาอังกฤษก็มักจะมาพร้อมกับค่าเทอมที่สูงลิ่ว จนทำให้เด็กหลาย ๆ คนพลาดโอกาส School Visit วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนมาเยี่ยมชม โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง โรงเรียนวัดอินเตอร์ที่เด็กไทยทุกคนเอื้อมถึง โครงการภาคภาษาอังกฤษแน่น ในราคาเบา ๆ ที่นี่จะน่าสนใจอย่างไรมาดูไปพร้อม ๆ กันค่ะ

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

ทางเข้าโรงเรียน

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

ช่วงเช้าจะมีรถตู้รับส่งนักเรียน จาก The Sense ปิ่นเกล้า และจะมีคุณครูยืนต้อนรับนักเรียนทุกวัน

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

จุดแสกนบัตรเข้าออกของนักเรียนเพื่อรักษาความปลอดภัย

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

ก่อนเข้าอาคารเรียน มีจุดล้างมือสำหรับนักเรียนเพื่อสุขอนามัยที่ดี

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

รูปปั้น “เจ้ากรับ” ผู้บริจาคที่ดินให้กับวัดนายโรง

สื่อสารภาษาแบบ Multi Language

ในยุคนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาษาอังกฤษมีความสำคัญมากทั้งในปัจจุบันและอนาคต โรงเรียนจึงต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ที่ โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง ก็เป็นอีกโรงเรียนหนึ่งที่เห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษและเทคโนโลยี จนเกิดหลักสูตรภาษาอังกฤษมากมาย  ทั้ง EP, MEP และ IEP และยังมี ภาษาต่างประเทศที่ 2 เป็นวิชาเลือกเสรีที่นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจ ทั้งภาษาจีน ญี่ปุ่น เยอรมัน และฝรั่งเศส ที่โรงเรียนมัธยมวัดนายโรงสอนภาษาอังกฤษแบบการบูรณาการ โดยนำไปรวมในการจัดการเรียนการสอนและกิจกรรมต่าง ๆ เน้นการปฏิบัติและเรียนผ่านการลงมือทำ (Active Learning) ทำให้นักเรียนได้ใช้ภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติ 

โครงการต่าง ๆ ของโรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

EP (English Program) เรียนเป็นภาษาอังกฤษทุกรายวิชา ยกเว้นวิชาภาษาไทยและวิชาที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย 

MEP (Mini English Program) เรียนภาษาอังกฤษ เฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ (รวมแล้วไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) แต่ เสน่ห์ของที่นี่คือวิชาอื่น ๆ คุณครูคนไทยที่รับผิดชอบ หลาย ๆ ท่านจะสอนเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเสริมให้เด็ก ๆ ด้วย

IEP (Integrated English Program) สอนเป็นภาษาอังกฤษเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษโดยครูต่างชาติ ส่วนวิชาอื่น ๆ ครูไทยจะสอนเป็นภาษาอังกฤษกับภาษาไทยผสมผสานกัน ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ใช้ภาษาอังกฤษตลอดเวลา

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

ทีมคุณครูต่างชาติ สอนภาษาต่างๆ

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

บรรยากาศภายในห้องเรียน

 

เครือข่ายต่างประเทศ

ทางโรงเรียนสร้างเครือข่ายในต่างประเทศเพื่อให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนความรู้ช่วยเสริมสร้างทักษะหลาย ๆ ด้านให้กับนักเรียน ทั้งการฝึกใช้ภาษาต่างประเทศ การช่วยเหลือตนเอง การติดต่อประสานงานต่าง ๆ โดยมีโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนกับหลายประเทศทั่วโลก เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมัน ไต้หวัน ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฯลฯ

สำหรับเด็กมัธยมปลาย จะมี โครงการ NISC (Nairong International Students’ Conference) ที่จัดขึ้นทุกปี ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม เป็นโครงการสัมมนานักเรียนนานาชาติ เชิญนักเรียนจากหลาย ๆ ประเทศมาทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งสัมมนา และแข่งขันวิชาการ นักเรียนจะได้แสดงออก และได้ใช้ภาษาอังกฤษเต็มที่ ได้ฝึกความเป็นผู้นำ ประสานงานกับต่างประเทศด้วยตนเอง วางแผนกิจกรรมและเตรียมสถานที่และบริหารงานทั้งหมดเองได้ โดยมีครูอาจารย์คอยให้คำปรึกษา

สำหรับเด็กมัธยมต้นจะมีโครงการ NR-SST ร่วมกับ School of Science and Technology ประเทศสิงคโปร์ โดยทางโรงเรียนจะส่งนักเรียนไปร่วมทำกิจกรรมกับนักเรียนต่างชาติที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อฝึกเด็กให้สามารถร่วมงานกับผู้อื่นได้และรู้จักการเอาตัวรอดและใช้ชีวิตได้จริงในต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการฝึกการใช้ภาษาอังกฤษ รวมถึงมีโอกาสต้อนรับและจัดกิจกรรมให้กับนักเรียนจากสิงคโปร์ที่มาประเทศไทยอีกด้วย

สนามกีฬาในร่ม มีทั้งในและนอกอาคาร และห้องเรียนวิชายืดหยุ่น

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

 ห้องเรียนดนตรีสากลและโยธวาทิต

 

ล้ำหน้าเทคโนโลยี

โรงเรียนมีนโยบายสนับสนุนการสอนทั้ง On Site และ Online ผ่าน Google Classroom มาเป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว ทำให้ช่วงสถานการณ์โควิดระบาดจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะนักเรียนและคุณครูคุ้นเคยกับการเรียนแบบ

Online มาก่อน คุณครูจะ Post การจัดการเรียนการสอนพร้อมแนบสื่อการสอน หรือใบงานต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ก่อนที่จะเข้าเรียน เมื่อเรียนเสร็จก็สามารถส่งงาน Online ได้เลย ช่วยลดการใช้กระดาษได้อีกด้วย สำหรับนักเรียนคนไหนที่คอมพิวเตอร์ตนเองใช้งานไม่ได้ ก็สามารถ ลงทะเบียนเพื่อยืมโน้ตบุ๊คได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมอบรมให้ครูสอบวัดความรู้ด้านเทคโนโลยี และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันยุคทันสมัยตลอดเวลา

 โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

ห้องเรียน iMac นักเรียนใช้คอมพิวเตอร์แบบ 1:1

  โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

ห้องเรียนศิลปะ

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ที่มีเครื่องมือเพรียบพร้อม

 

มีจิตสาธารณะ

โรงเรียนฝึกให้เด็กนักเรียนมีจิตสาธารณะอยู่เสมอ เช่น นักเรียนชั้นมัธยมปลายจะได้ออกไปทำจิตอาสา สอนน้อง ๆ ชั้นประถม ตามโรงเรียนต่าง ๆ เผื่อฝึกให้นักเรียนประยุกต์องค์ความไปใช้จริง และรู้จักการเสียสละ การช่วยเหลือผู้อื่นและการแบ่งปัน เช่น โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ส่วนทางโรงเรียนเองก็ส่งคุณครูไปให้ความรู้กับโรงเรียนอื่น ๆ ที่ขาดแคลนครูโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย เช่น โรงเรียนวิมุตยารามพิทยากร และโรงเรียนมัธยมวัดดุสิตาราม เป็นต้น

 

ห้องเรียนภาษา ห้องเรียนแห่งความสุข

ที่โรงเรียนจะออกแบบห้องเรียนภาษาต่างประเทศให้มีบรรยากาศแตกต่างกันไปตามแบบของแต่ละชาติภาษานั้น ๆ บรรยากาศเหมือนบ้านดูอบอุ่นสบาย โดยใช้โต๊ะเก้าอี้ที่นั่งสบายมากขึ้น เช่นโซฟานุ่ม ๆ หรือ โต๊ะญี่ปุ่น เพื่อให้เด็ก ๆ มีความสุขและสนุกกับการเรียนภาษา แถมยังสามารถดื่มน้ำ ทานขนมในห้องนี้ได้ด้วย (แต่ต้องนำไปทิ้งให้เรียบร้อย และช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยนะ) เมื่อนักเรียนไม่เครียดก็สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

 

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

ห้องเรียนภาษาต่างๆ ที่แสนสบายและมีความสุข

Mommy’s Love This! ถูกใจแม่

1.มีรถตู้โรงเรียน คอยรับส่งนักเรียนตอนเช้า จาก The Sense ปิ่นเกล้า ทุกวัน

2.กฎระเบียบต่าง ๆ เช่นทรงผมและการแต่งกาย ทางโรงเรียนจะทำประชาพิจารณ์ ร่วมกับสมาคมผู้ปกครองและครู ร่วมกับนักเรียน ร่วมกับครู จนได้บทสรุปร่วมกัน โดย พ.ร.บ ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2518 มาเป็นตัวประกอบด้วย นักเรียนที่มีเพศสภาพเป็นชายแต่จิตใจเป็นผู้หญิง สามารถไว้ผมยาวได้แต่ต้องมัดผมให้เรียบร้อย โรงเรียนให้ความเคารพในเรื่องเพศสภาพมาก ๆ

3.คุณครูเข้าถึงง่าย เป็นเหมือนเพื่อน ครอบครัวของนักเรียน เข้าใจและช่วยพัฒนานักเรียน ไม่เข้มงวดจนเกินไป เด็ก ๆสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ได้เต็มที่

4.โรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่ทันสมัย ผู้ปกครองจะได้รับการแจ้งเตือนผ่าน Application ว่านักเรียนมาถึงและออกจากโรงเรียนเวลาไหน

5.โรงเรียนเปิดกว้างเรื่องภาษามาก เด็ก ๆ อยากเรียนภาษาอะไรก็สามารถมาคุยกันได้ เพื่อเปิดห้องเรียนเพิ่มเติม แม้จะมีนักเรียนสนใจเพียงคนเดียวโรงเรียนก็เปิดสอนให้

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง 

นายกิตติศักดิ์ ศรีปทุมานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดนายโรง

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

ห้องเรียนจริยธรรม สอนวิชาพระพุทธศาสนาเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทย

โรงเรียนมัธยมวัดนายโรงโรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

ห้องเรียนนาฏศิลป์ไทย  สอนละครนอก ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของโรงเรียน เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้เรื่องบทละคร การเขียนฉาก และการประชาสัมพันธ์ ครบถ้วนทุกอย่าง และเรียนรู้ประวัติท่านเจ้ากรับด้วย

    โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

คาเฟ่ในโรงเรียนจะให้นักเรียนผลัดกันมาฝึกขายของ เพื่อฝึกอาชีพบาริสต้าและการเป็นผู้ประกอบการ

 

อัตราค่าเล่าเรียน ปี 2566

EP (English Program)

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ค่าบำรุงการศึกษา ภาคเรียนละ 35,000 บาท

ค่าสมาชิกสมาคมผู้ปกครองและครู ปีการศึกษาละ 500 บาท

ค่าหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ (ราคาตามจริง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โรงเรียน)

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ค่าบำรุงการศึกษา ภาคเรียนละ 37,000 บาท

ค่าสมาชิกสมาคมผู้ปกครองและครู ปีการศึกษาละ 500 บาท

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนโครงการพิเศษ Math Science Advance Program (MSAP) ภาคเรียนละ 7,000 บาท

ค่าหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ (ราคาตามจริง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โรงเรียน)

MEP (Mini English Program)

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ค่าบำรุงการศึกษา ภาคเรียนละ 17,500 บาท

ค่าสมาชิกสมาคมผู้ปกครองและครู ปีการศึกษาละ 500 บาท

ค่าหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ (ราคาตามจริง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โรงเรียน)

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ค่าบำรุงการศึกษา ภาคเรียนละ 18,500 บาท

ค่าสมาชิกสมาคมผู้ปกครองและครู ปีการศึกษาละ 500 บาท

ค่าหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ (ราคาตามจริง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โรงเรียน)

IEP (Integrated English Program)

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ค่าบำรุงการศึกษา ภาคเรียนละ 6,600 บาท

ค่าสมาชิกสมาคมผู้ปกครองและครู ปีการศึกษาละ 500 บาท

ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ค่าบำรุงการศึกษา ภาคเรียนละ 10,000 บาท

ค่าสมาชิกสมาคมผู้ปกครองและครู ปีการศึกษาละ 500 บาท

 

ติดต่อสอบถาม โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง

658/2 ถนนบรมราชชนนี ซอยบรมราชชนนี 15 แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700

โทรศัพท์ : 0-2424-1826 ต่อ 2117

เว็บไซต์ : http://www.nairong.ac.th

Editor : แม่เลม่อน

ภาพ :  สุวิจักขณ์ ศรีภา


อ่านต่อบทความน่าสนใจ

ประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศ MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3

event

เย้ๆ ผลปะกาศออกมาแล้ว กับ รายชื่อ ผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ MOM INFLUENCER CONTEST SEASON 3 การประกวดคุณแม่นักรีวิวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มาเป็นหนึ่งในทีมคุณแม่ Influencer มืออาชีพกับ Amarin Baby & Kids และชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท พร้อมโอกาสเป็น Influencer มืออาชีพ กับ Amarin Baby & Kids

 

ใครจะมีสิทธิ์ เข้ารอบชิงชนะเลิศ กันบ้าง…เช็กรายชื่อได้ที่นี่เลย

• กนกวรรณ แต่งอักษร

• กัณตินันท์ เกินขุนทด

• กัลยานิษฐ์ สิริธีรนนท์

• ดวงนภา สมสุขเจริญ

• ธนวรรณ เดชชุษณะนาถ

• ผกามาศ ไชยวิสุทธิกุล

• พัทธนันท์ เรือนสุภา

• มชณต วงศา​โรจน์​

• เมย์ วังพัฒนมงคล

• รัชภร สิทธิเดช

• วรันธร สุวัตถิกุล

• ศิวิมล พานิชย์วิไล

• สรารัตน์ ศรีชาลี

• สุกัญญา สารเศวก

• สุภัทรา จักร์แก้ว

• สุวรรณี สมศรี

• อมรรัตน์ ชุมภู

• อังศุลิน ตั้งใจ

• อัญชศา ทองแกมแก้ว

• พิมพ์ขวัญ บุญจิตต์พิมล

• นิภาวรรณ นามวงศ์

• สุภัสสรา โพธิ์เปี่ยม

• พรภัส เพชรตระกูลเจริญ

• มณีรัตน์ ศิริสวัสดิ์พิพัฒน์

• ศศิวิมล รัตนนรเศรษฐ

 

🚨 สำหรับผู้ที่ผ่าน เข้ารอบชิงชนะเลิศ 25 คนสุดท้าย จะมีการรีวิวรอบ “คะแนนพิเศษ” ก่อนไฟนอลอีก 1 ครั้ง 🚨

 

⊕ รายละเอียดการรีวิวรอบ “คะแนนพิเศษ” ⊕

• รอบคะแนนพิเศษ 25 คะแนน ทำคลิป เชิญชวนมางาน Amarin Baby & Kids Fair ครั้งที่ 26 ผ่านช่องทาง Tiktok  ตั้งเป็น “สาธารณะ” พร้อมใส่

#ABK26

#AmarinBabyAndKidsFair26

#MomInfluencerContestSS3 #AmarinBabyAndKids

 

⊕ รายละเอียดการรีวิวสดๆ รอบชิงชนะเลิศบนเวที ⊕

ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศขึ้นเวทีประกวดเพื่อแสดงความสามารถต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อค้นหาผู้ชนะ 5 รางวัล และรางวัล ขวัญใจกรรมการ 1 รางวัล ใน วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ณ ไบเทค บางนา

 

• ผู้เข้ารอบต้องทำตามกติกาที่ได้รับครบถ้วน  และขึ้นเวทีประกวดเพื่อแสดงความสามารถ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งถือว่าสละสิทธิ์ ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศสามารถชวนแฟนคลับหรือครอบครัวมาร่วมเป็นกำลังใจหน้างานได้

 

*หมายเหตุ : วันและเวลาของกำหนดการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ผู้เข้าร่วมประกวดต้องยินยอมปฏิบัติตามกติกาที่บริษัทฯ กำหนดทุกประการ การดำเนินงาน และการตัดสินอยู่ในดุลยพินิจจากคณะกรรมการ และการตัดสินจากคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

 

⊕ เกณฑ์การตัดสินรอบชิงชนะเลิศ ⊕

คะแนนจากคณะกรรมการ จำนวน 4 ท่าน ท่านละ 100 คะแนน รวม 400 คะแนน

 

• คาแรคเตอร์น่าสนใจ วิธีการพูดนำเสนอลีลาท่าทางน้ำเสียง ความรู้ แรงบัลดาลใจ วิธีการเลี้ยงลูก เต็ม 45 คะแนน

 

• Key message ของสินค้าตรงตามโจทย์ที่กำหนด  เต็ม 35 คะแนน

 

• การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เต็ม 20 คะแนน

 

*รางวัลขวัญใจ กองบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids*

 

• คัดเลือกจากคลิปจากรอบคะแนนพิเศษ ทำคลิป เชิญชวนมางาน Amarin Baby & Kids Fair ครั้งที่ 26 ผ่านช่องทาง Tiktok แนบลิ้งค์มาที่ Google Form https://bit.ly/SubmitMICSS3 ที่โดนใจกองบรรณาธิการ ABK มากที่สุด

 

รางวัลสำหรับผู้ชนะการประกวด

• รางวัลชนะเลิศกรุงเทพมหานคร รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศกรุงเทพมหานครฯ

 

• รางวัลชนะเลิศภาคเหนือ รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคเหนือ

 

• รางวัลชนะเลิศภาคกลาง รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท  และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคกลาง

 

• รางวัลชนะเลิศภาคอีสาน รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคอีสาน

 

• รางวัลชนะเลิศภาคใต้ รับเงินสดจำนวน 50,000 บาท และโล่พร้อมป้ายรางวัลชนะเลิศภาคใต้

 

• รางวัล ขวัญใจกองบรรณาธิการ Amarin Baby & kids รับเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท และ พร้อมป้ายรางวัล

 

หมายเหตุ : ผู้รับเงินรางวัลต้องชำระภาษี ณ ที่จ่าย ตามที่กฎหมายกำหนด

 

สิทธิประโยชน์ของผู้ชนะการประกวด

• ผู้รับรางวัลชนะเลิศของแต่ละภาค จะได้รวมงานเป็น “INFLUENCER” ของแบรนด์ Amarin Baby & Kids ภายใต้บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 1 ปี เพื่อก้าวสู่เส้นทางการเป็นคุณแม่ INFLUENCER มืออาชีพ และร่วมงานกับ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต (เงื่อนไขเป็นไปตามสัญญาที่บริษัทกำหนด)

 

• ผู้เข้ารอบ 25 คนสุดท้าย มีสิทธิ์ร่วมงานกับแบรนด์ Amarin Baby & Kids ภายใต้บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)  และบริษัทในเครือ, พันธมิตร และคู่ค้ารวมถึงสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนกิจกรรมในอนาคต ในฐานะ INFLUENCER มืออาชีพ (เงื่อนไขเป็นไปตามสัญญาที่บริษัทกำหนด

ใบงานอนุบาล

แจกฟรี! ใบงานอนุบาล 20 แบบไม่เหมือนที่ไหน เน้นๆ เหลาสมอง ฝึก EF เสริมทักษะให้ลูก

event
ใบงานอนุบาล
ใบงานอนุบาล

แจกฟรี!! ใบงานอนุบาล แบบฝึดหัดอนุบาล สำหรับลูกน้อย ใช้ทำยามว่างสนุกๆ ออกแบบโจทย์มาโดยเฉพาะ ไม่เหมือนที่ไหน เน้นเสริมทักษะสมอง ฝึก EF  ให้ลูกได้ตั้งแต่ยังเล็กๆ ดาวน์โหลดฟรี ได้ที่นี่เลย

แจกฟรี! ใบงานอนุบาล ฝึก EF เสริมทักษะให้ลูกตั้งแต่เล็กๆ

ในยุคปัจจุบันนี้ การเลี้ยงดูลูกน้อยให้เก่งอย่างเดียวคงไม่ใช่คำตอบของความอยู่รอด เพราะเด็กจะมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จได้นั่น ต้องเป็นผู้ที่มี “EF” ดี คือ คิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้เป็น แก้ปัญหาเป็น อยู่กับคนอื่นเป็น และมีความสุขเป็นEF ช่วยให้เด็กเติบโตได้อย่างมีคุณภาพและนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะเด็กที่มีปัญหาทางด้านสมาธิ หากไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้องอาจทำให้มีปัญหาด้านพฤติกรรมการใช้ชีวิต การเรียน และการเข้าสังคมในอนาคต การฝึกทักษะสมองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย

ทั้งนี้ การฝึก EF ให้ลูก โดยการทำแบบฝึกหัด ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการเลี้ยงลูก เพื่อเตรียมความพร้อมและพัฒนาความคิด และการสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว การหาความสัมพันธ์ของภาพ การจับคู่ภาพเหมือน สนุกสนานเพลิดเพลิน เตรียมความพร้อมให้น้อง ๆ หนู ๆ เพื่อเรียนรู้ในขั้นตอนต่อไป

ทีมแม่ ABK มองเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ จึงออกแบบใบงานฝึก EF ให้คุณพ่อคุณแม่ดาวน์โหลดฟรี 20 ภาพ เพื่อช่วยเสริมพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก ทั้งเรื่องการขีดเขียน ระบายสี ลากเส้นจับคู่ รอบรู้ทั้งเรื่องตัวเด็ก บุคคลและสถานที่รอบตัวเด็ก ธรรมชาติรอบตัว และสิ่งต่าง ๆ รอบตัว

เซฟภาพ ใบงานอนุบาล แล้วปริ้นใหแด็กๆ ฝึกทำได้เลยค่ะ

ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล ใบงานอนุบาล

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใ

keyboard_arrow_up