Page 17 – AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

สร้างสมดุลชีวิต

หมอแนะ 6 กุญแจหลัก สร้างสมดุลชีวิต เพื่อลูกจิตใจดี สุขภาพแข็งแรง

แพทย์แนะนำการรักษาสมดุล สร้างสมดุลชีวิต ต้องผ่าน 6 Pillar of Lifestyle  หรือ 6 กุญแจหลักในการชีวิต คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างสมดุลนั้นกับลูกน้อยได้ตั้งแต่ยังเล็กๆ ให้เกิดขึ้นในชีวิตและทำให้จิตใจและกายเบาสบายมากขึ้น

Eat Well and Love our Body

รู้หรือไม่!ใ นปี 2565 มีจำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง* (NCDs) ในประเทศไทยกว่า 10 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 18.6% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นในทุกปี โดยอันดับหนึ่งคือ ความดันโลหิตสูง  อันดับสอง โรคเบาหวาน อันดับสาม โรคหลอดเลือดสมอง อันดับสี่ โรคหัวใจและหลอดเลือด  ข้อมูลนี้บอกอะไรกับเราบ้าง สิ่งแรกที่เข้ามาในความคิดเลยคือ อาหารและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ส่งผลอย่างมากกับร่างกายของคนยุคปัจจุบัน

เราเชื่อในการใช้ชีวิตที่พอเหมาะพอดี เพราะ Lifestyle Medicine  คือการใช้ชีวิตอย่างมีสติ ระมัดระวัง การตั้งใจใช้ชีวิต เป็นยาที่ดีให้กับสุขภาพใจและกาย ไกลจากโรคภัยทั้งหลาย ถือเป็นของขวัญที่ดีที่เราทุกคนให้กับตัวเองได้

ในการประชุมทางวิชาการ International Conference for Public Health , Environment and Education for Sustainable Development Goals and Lifelong Learning ที่จัดขึ้นที่ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขต พญาไท เมื่อวันที่ 28 -29 กันยายนที่ผ่านมา ในการประชุมหนึ่งที่ว่าด้วยเรื่อง Preventive Care Food หรือการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ผ่านการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารที่หลากหลาย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและเสริมสร้างความแข็งแรง และการเพิ่มโอเมก้า3ในเนื้อสัตว์ มีข้อสรุปไว้ว่า อาหารคือยารักษาโรค และอย่างที่เราได้ยินจนชินหู ว่า You are What you eat ฟังเหมือนไม่ยาก แต่ทว่าต้องตั้งใจและมุ่งมั่น เพราะการกินอยู่ที่ดี เกิดจากการวางแผนที่ดีควบคู่กันไป

สร้างสมดุลชีวิต

แพทย์ได้แนะนำการรักษาสมดุลของการใช้ชีวิต ผ่าน 6 Pillar of Lifestyle  หรือ 6 กุญแจหลักในการชีวิต ที่เราสามารถสร้างสมดุลชีวิต นั้นให้เกิดขึ้นและทำให้จิตใจและกายเบาสบายมากขึ้น คือ

1. อาหารที่ดี (Nutrition): อาหารคือยาอย่างที่ได้บอกไป เราเลือกสิ่งที่จะเข้าสู่ร่างกายเราได้ ของที่มีประโยชน์ มีกากใยมีไฟเบอร์สูง และอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงอย่าง ปลา อาหารทะเล หรือเนื้อสัตว์ที่ในปัจจุบันสามารถเลือกแบบที่มีโอเมก้า3 สูง สามารถรับประทานได้ทั้งครอบครัว

2. ออกกำลังกาย (Exercise): ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี วางแผนจัดการชีวิตให้มีเวลาต่อวันในการได้ออกกำลังหรือผ่านกิจกรรมในแต่ละวัน เช่น เดินแทนการขึ้นรถ ขึ้นบันได ทำสวน หรืองานบ้าน ขยับตัวสร้างเหงื่อและได้ผ่อนคลาย

3. คุณภาพการนอน (Sleep): ประสิทธิภาพในการนอนที่ดีเป็นเรื่องสำคัญมาก การนอนไม่เพียงพอ นอนน้อย หรือการนอนที่ไม่มีคุณภาพสร้างปัญหาในหลายด้าน ทั้งสุขภาพ อารมณ์และการใช้ชีวิต หากมีปัญหาหารนอนลองปรับบรรยากาศ ออกกำลังกายเบาๆ ให้ร่างกายกลับสู่สมดุล หากยังเป็นปัญหา อย่ามองเป็นเรื่องเล็กแนะนำให้พบแพทย์เพื่อช่วยเหลือ

4. การจัดการความเครียด (Stress management): การจัดการกับความเครียดเป็นเรื่องไม่เล็กเลย มีหลายวิธีในแบบของแต่ละคนที่จะช่วยลดความเครียดลงได้ ทั้งการออกกำลังกาย นั่งสมาธิ การอ่านหนังสือ วาดภาพ หรือการได้ร้องเพลงเสียงดังๆ มองหาที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เพื่อปรับอารมณ์ให้อยู่ในภาวะคงที่ได้มากที่สุด

5. ลดปัจจัยเสี่ยง (Risky Sustance): ปัจจัยเสี่ยงในที่นี้คือ แอลกอฮอลล์ ของมึนเมา บุหรี่และสารเสพติดทั้งหลาย ซึ่งเรารับรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นอันตราย ลด ละ และเลิกเพื่อสุขภาพที่ดี อ้อ แต่ในบางคนที่คิดว่าแอลกอฮอลล์ในปริมาณที่พอดีคือการผ่อนคลาย และในการศึกษาหลายชิ้นพบว่าการดื่มแอลกอฮอลล์อาจส่งผลดีต่อหัวใจ  ลดความเสี่ยงต่อหัวใจและหลอดเลือด จิบพอสบายใจ ไม่ต้องถึงกับเมามาย ก็ผ่อนคลายได้เหมือนกัน

6. ความสัมพันธ์ที่มั่นคง (Relationship): การพูดคุยคือปัจจัยที่ช่วยร่นระยะห่างต่อกันได้ดี การพูดคุยบนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันช่วยสร้างความอบอุ่นในครอบครัว การมีปฎิสัมพันธ์ต่อผู้คนอื่นแบบพอดีพอเหมาะช่วยลดความตึงเครียดในการคาดหวังต่อสังคมและคนรอบข้าง มีผลวิจัยบอกไว้ว่า การแยกตัวออกจากสังคม หรือการได้อยู่กับตัวเองบ้าง สร้างความรู้สึกมั่นคงและทำให้ร่างกายและจิตใจเราแข็งแรงยืดอายุให้ยืนยาวได้

เราได้อ่านบทความจาก CardioTabs ที่บอกไว้สั้นๆ แต่ตรงใจในทุกจุด นั่นคือ  Eat Well / Move Daily / Hydrate Often/Sleep lots / Love your body ถ้าเรารับประทานสิ่งที่ดีและรักตัวเองแล้ว เชื่อว่าเราจะมองหาแต่สิ่งที่ดีเข้าสู่ร่างกายเราและครอบครัว เพื่อให้ทุกคนแข็งแรงและสุขภาพดีไปด้วยกันค่ะ

 

เรื่อง : แม่พีท-พริม

ช่างภาพ  : นันทิยา บุษบงค์

 

สาธิตธรรมศาสตร์

ส่องหลักสูตรการเรียน สาธิตธรรมศาสตร์ โรงเรียนในฝันของเด็กมัธยม

สาธิตธรรมศาสตร์ หรือ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนในเครือสาธิต ที่หลายๆบ้านสนใจ  School Visit วันนี้เราจึงไม่พลาดที่จะพาทุกคนมาเยี่ยมชมกัน

สาธิตธรรมศาสตร์ เป็นโรงเรียนมัธยมที่ตั้งอยู่ภายใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของมหาวิทยาลัยให้เป็นหน่วยงานภายใน ภายใต้การกำกับของคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่การพัฒนาทางวิชาการและหรือการประกอบสัมมาชีพ โดยพัฒนาให้นักเรียนค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง และสามารถจัดการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองตลอดชีวิต เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6  เป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ ที่จะสร้างความสุขและการค้นหาตัวเองของเด็กๆ ในระบบนิเวศน์ที่ปลอดภัยและสนับสนุนให้เด็กๆทุกคนมีโอกาสในการเรียนที่เท่าเทียมกัน  ไม่เน้นการแข่งขันแต่เน้นการสร้างความร่วมมือในการทำงานเป็นทีม เพราะทุกคนมีศักยภาพที่จะเติบโตในแบบของตนเอง

บรรยากาศภายโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

Design your own path เลือกเองเพื่อเรียนรู้

หลักสูตรของโรงเรียนได้รับการปรับใช้และพัฒนาอยู่ตลอด พร้อมกับเด็กๆ เพื่อให้ทันสมัยตามความเปลี่ยนแปลงของโลกและความรู้ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์กับผู้เรียนรู้ ที่โรงเรียน สาธิตธรรมศาสตร์ เด็กๆ ไม่ได้เป็นเพียงผู้รับความรู้เพียงผู้เดียวเท่านั้น พวกเขายังมีส่วนร่วมในการศึกษาของตนเอง เพราะการเรียนรู้จากการลงมือทำเป็นวิธีการศึกษาที่มีประสิทธิผลสูงสุด หลักสูตรจึงได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เด็กๆมีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์จริงและลงมือปฏิบัติครอบคลุมสาขาวิชาหลักและสาขาวิชาเลือก

มัธยมต้น เน้นหลากหลาย

เรียนวิชาหลัก วิชาเลือก และวิชาบูรณาการ (ครูออกแบบวิชาโดยเชื่อมโยงศาสตร์ต่างๆเข้าด้วยกัน) ยิ่งเด็กๆได้สัมผัสความหลากหลาย เด็กๆจะค้นหาความชอบตัวเองได้ง่ายขึ้น ต่อยอดเข้าสู่ชั้นมัธยมปลาย

มัธยมปลาย เน้นลงลึก

เป็นการลงเรียนในรูปแบบที่เหมือนระดับมหาวิทยาลัย โดยลงเรียนวิชาพื้นฐาน 80 หน่วยกิต Concentration 40 หน่วยกิต (มีทั้งหมด 6 Concentrations เลือกเรียนผสมผสานได้ ไม่ต้องแยกเป็นวิทย์ หรือศิลป์แบบตายตัว)

Concentrations เหล่านั้น ได้แก่

  • วิทยาศาสตร์ สุขภาพ
  • เทคโนโลยี ฟิสิกส์ วิศวะ คอมพิวเตอร์
  • ภาษาต่างๆ (สอนโดยอาจารย์จากคณะศิลปศาสตร์)
  • สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์
  • ธุรกิจ ผู้ประกอบการ การเงิน การลงทุน
  • ศิลปะ การออกแบบ สถาปัตย์

Self – Directed Learning ทำโปรเจค 6 หน่วยกิต

รูปแบบการเลือกลงเรียนเหมือนพี่ๆมหาวิทยาลัย เป็นการบริหารจัดการการเรียนรู้ของแต่ละคนเอง ครูจะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา Customize วิชาเรียนต่างๆ ให้เหมาะกับความชอบและเส้นทางของนักเรียนแต่ละคน เด็กๆจะมีวิชาเรียนที่ลงลึกตามที่ตนเองสนใจ หากเก็บหน่วยกิตครบ เด็กๆสามารถเรียนจบได้ใน 5 เทอม

บรรยากาศการเรียนการสอนในโรงเรียน วิชาการและเลือกเสรี

All growth depends upon Activity

กิจกรรมนักเรียนเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กๆได้รู้จักสนิทสนม ปรึกษาหารือ ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือกันทางด้านวิชาการ และแสดงออกถึงความสร้างสรรค์ โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาคอยแนะนำเพื่อให้การดำเนินการจัดกิจกรรมของเด็กๆเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสม โรงเรียนส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กๆรู้จักคิดและสร้างสรรค์กิจกรรมในแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอีกด้วย

ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้รับจากการทำกิจกรรมนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตในอนาคตอย่างมาก เนื่องจากสังคมทุกวันนี้ไม่ต้องการเพียงแต่คนเก่งทางวิชาการเพียงอย่างเดียวแต่ต้องการ คนที่มีความสมบูรณ์ทั้งความรู้ทางวิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิต ซึ่งมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยเปิดโลกทัศน์ของตนเองกว้างมากขึ้น ทำให้การค้นพบและรู้จักตนเองมากขึ้น  เด็กๆสามารถจัดการและบริหารเวลาเป็นและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้

 

กิจกรรมที่เด็กๆเป็นเจ้าภาพในการจัดเอง ได้แก่

  • การจัดคอนเสิร์ต Music Festival บางปีมีการออดิชั่น บางปีระดมทุนจ้างศิลปิน
  • Hi Day หรือ ให้เดย์ พี่รับน้อง กิจกรรมต้อนรับน้องใหม่
  • วันวิทยาศาสตร์ (ครูกับเด็กร่วมกันจัด)
  • LGBT (เด็กเป็นเจ้าภาพในการจัด)
  • วันวิชาการ (เด็กๆขอให้ครูจัด)
  • การซ้อมหนีไฟ กราดยิง (โรงเรียนจัด)

สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์

กิจกรรมต่างๆภายในโรงเรียน ยิ่งมากยิ่งเสริมสร้างสมรรถนะ

 

School Democracy ประชาธิปไตยในโรงเรียน

ฝ่ายสนับสนุนนักเรียน ช่วยปรับพฤติกรรม การอยู่ร่วมกัน เด็กๆมีส่วนร่วมใน “ธรรมนูญนักเรียน” เป็นข้อตกลงร่วมกับโรงเรียน

มีการจัดตั้ง “สภานักเรียน” กรรมการนักเรียน (ตัวแทนชั้นปี) เพื่อฝึกความเป็นผู้นำอย่างธรรมชาติผ่านการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ สภานักเรียนได้งบประมาณจัดสรรจากทางโรงเรียนอีกด้วย (นำไปจัดกิจกรรม) สมาชิกสภานักเรียน จะประชุมร่วมกับคณะกรรมการโรงเรียน (ผู้ใหญ่) เด็กๆมีอิสระในการจัดตั้งคลับต่างๆ เช่น Meme Club | Club ที่ท่องเที่ยวโดยรถประจำทาง | Club มูเตลู | Club พุทธศาสนา | Club Cooking (Iron Chef)

 

ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของโรงเรียน สาธิตธรรมศาสตร์ คือการเน้นย้ำถึง ความเสมอภาคและการไม่แบ่งแยก นักเรียนทุกคนมีคุณค่าและได้รับความเคารพ โดยไม่คำนึงถึงภูมิหลัง ความสามารถ หรือความสนใจของพวกเขา

 

ยาดมสำหรับนักเรียนออกแบบและผลิตผ่านการบูรณาการศาสตร์แห่งรูป รส กลิ่น เคมี การออกแบบผลิตภัณฑ์ ฯลฯ ฝีมือนักเรียน

บอร์ดเกมส์

 

Creative Crews / Creative ครู

โรงเรียน สาธิตธรรมศาสตร์ เปิดรับคนที่อยากเป็นครูโดยไม่จำเป็นต้องจบครู แต่ต้องจบในศาสตร์ | สาขาที่จะสอน ที่สำคัญต้องเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ – สามารถคัดเลือกครูได้เองให้สอดคล้องและส่งเสริมแนวคิด รูปแบบการเรียนการสอนที่สร้างสรรค์ของโรงเรียน

หลักสูตรครูสาธิต – ที่ โรงเรียนสาธิตธรรมศาสตร์ เน้นสมรรถนะที่ครูควรมีและพัฒนาสมรรถนะที่ครูต้องเสริม

  • การจัดการชั้นเรียน
  • การออกแบบและการจัดการเรียนรู้ : สร้างการเรียนรู้ให้เด็กมีส่วนร่วม ครูต้องแปลงแก่นวิชาให้ออกมาเป็นกิจกรรมสร้างประสบการณ์
  • จิตวิทยา : จิตวิทยาเชิงบวกและการดูแลเด็ก
  • ทักษะการวัดและประเมินผล : การสังเกตเด็ก การประเมินเพื่อการเรียนรู้ การดูสมรรถนะเด็ก การเก็บร่องรอยหรือหลักฐานการเรียนรู้ของเด็ก
  • การวิจัยและทำผลงานทางวิชาการ
  • การทำงานเป็นทีม : 1 วิชาจะมีผู้สอน 2 คน (จำนวนนักเรียนต่อห้อง 25-29 คน)
  • มีทุนให้ครูไปศึกษาต่อ
  • มีทุนให้ครูทำงานวิจัย

 

ทางโรงเรียนจัด in-house training ให้ครู หรือถ้าครูมีความสนใจนอกเหนือจากที่ทางโรงเรียนเสริมให้สามารถขอทุนสนับสนุนไปเรียนได้ในหัวข้อที่ครูสนใจและเกี่ยวข้องกับหน้างานของเค้า

สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์

ร้านหนังสือสัญจรและกิจกรรมตามเทศกาลต่างๆที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น

สาธิตธรรมศาสตร์

ภาษาต่างประเทศทางโรงเรียนจะการเชิญอาจารย์จากคณะศิลปศาสตร์มาสอน เพื่อความเข้มข้นและลงลึกถึงเนื้อหา

สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์

ห้องสมุดภายใน Learning Plaza ของโรงเรียน

สาธิตธรรมศาสตร์

กิจกรรมบอร์ดเกมส์

Soft Skills

คือ ลักษณะอุปนิสัย และทักษะความสามารถเชิงสมรรถนะ ที่ช่วยให้คุณสามารถทำงานและสื่อสารกับผู้อื่น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะส่วนใหญ่ จำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้ แต่บางประเภท ก็เป็นสิ่งที่มีมาแต่กำเนิด Hard Skill คือความเชี่ยวชาญที่วัดได้ เช่น เลข ความเข้าใจในการอ่าน ความคล่องแคล่วด้านภาษา และทักษะด้านคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

โรงเรียนตระหนักดีว่าการศึกษาไม่ได้เป็นเพียงการได้รับความรู้เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะชีวิตที่จำเป็น ความฉลาดทางอารมณ์ และความรับผิดชอบต่อสังคมที่แข็งแกร่ง

 

ตัวอย่างทักษะ Soft Skills 

  • Communication การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
  • Critical Thinking and Creativity การวิเคราะห์ แก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์
  • Emotional Intelligence ความฉลาดทางอารมณ์ ความสามารถในการจัดการอารมณ์
  • Management การจัดการ บริหารเวลา และความสามารถในการตัดสินใจ
  • Collaboration การทำงานกับผู้อื่นให้มีประสิทธิภาพ
  • Adaptability ความสามารถในการปรับตัว ให้เข้ากับสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์

Soft Skills และ Self-Directed Learning จึงเกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย หากได้รับการส่งเสริมที่ดีและต่อเนื่อง

 

นิเวศน์แห่งการเรียนรู้

เพราะแนวคิดหลักของทางโรงเรียน สาธิตธรรมศาสตร์ คือ การพัฒนามนุษย์คือการดูแลแบบองค์รวม กาย ใจ จิตวิญญาน พัฒนาการด้านต่างๆ นิเวศน์การเรียนรู้ที่ดีจะช่วยให้การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปได้ด้วยดีและได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ ในบริบทของโรงเรียน

  • การสร้างพื้นที่ความสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ของทุกคนที่อยู่ในนิเวศน์การเรียนรู้ของเด็กๆ

เด็ก – เด็ก | ครู – ครู | ครู – ผู้บริหาร | ผู้ปกครอง – ผู้ปกครอง | ผู้ปกครอง- ครู

  • ค่ายครอบครัวสาธิต เป็นกิจกรรมเตรียมความพร้อมก่อนเด็กๆจะเข้าสู่การเรียนรู้ (เปิดเทอม) เป็นฐานการเรียนรู้ในหัวข้อที่หลากหลาย เช่น การสำรวจจุดแข็ง จุดอ่อน | การสำรวจความชอบของตัวเอง | ฐานพลังกลุ่ม – การทำงานเป็นทีม | ฐานศิลปะ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ฐานการเข้าใจความหลากหลาย ชิมลางวิชาจากกลุ่มการเรียนรู้ต่างๆ
  • ห้องเรียนพ่อแม่ในค่ายครอบครัวสาธิต มาเรียนรู้การเลี้ยงลูกวัยรุ่น เป็นพื้นที่ที่ให้ผู้ปกครองมาทำความเข้าใจและหาแนวทางในการร่วมเลี้ยงลูกวัยรุ่น เติบโตไปพร้อมกับลูก
  • Empathy Center พื้นที่รับฟังและปรึกษาปัญหา รับดูแลเด็ก ผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ ทุกคนที่อยู่ “ระบบนิเวศน์”
  • ผู้ปกครองสัมพันธ์ (นอกเหนือจากห้องเรียนพ่อแม่ในค่ายครอบครัวสาธิต) โรงเรียนทำงานเชื่อมประสานกับผู้ปกครอง เป็นการเรียนรู้ไปกับลูกระหว่างภาคการเรียน “ห้องเรียน พลัสวัย” เป็นกิจกรรมแบ่งปันความรู้ ความถนัด จัดในกลุ่มผู้ปกครองบ้าง ทางโรงเรียนจัดบ้าง (เช่น การดูแลลูก การสื่อสารกับลูกวัยรุ่นเป็นต้น

สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์ สาธิตธรรมศาสตร์

Learning Plaza เพราะการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดแค่ในห้องเรียน พื้นที่สีเขียวจำนวนกว่าครึ่งของพื้นที่ทั้งหมดของโรงเรียน สร้างความสมดุลและสบายทางสายตา อารมณ์ พื้นที่ส่วนนี้เด็กๆโรงเรียนละแวกใกล้ๆก็สามารถเข้ามาใช้ได้ด้วยนะ

อาจารย์อธิษฐาน์ คงทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

Mommy’s Love This! ถูกใจแม่

  1. โรงเรียนนี้ จะช่วยให้เด็กๆค้นพบความชอบของตัวเอง ระบบโรงเรียนพร้อมที่จะสนับสนุนให้เด็กๆรู้ลงลึกโรงเรียนคือพื้นที่เรียนรู้ และค้นหาตัวเอง ภายใต้ระบบนิเวศน์ที่เข้าใจ
  2. ทักษะภาษาอังกฤษที่เข้มข้น – เชิญอาจารย์จากคณะศิลปศาสตร์มาสอนภาษาโดยเฉพาะ
  3. รายงานผลการเรียนเป็นกราฟ เพื่อให้เห็นถึงพัฒนาการตามระดับ
  4. มีการอบรมห้องเรียนพ่อแม่ หาแนวทางในการร่วมเลี้ยงลูกวัยรุ่น เติบโตไปพร้อมกับลูก โดยทีมวิทยากรที่เชี่ยวชาญ
  5. โรงเรียนเน้นการเปิดพื้นที่ยอมรับความแตกต่างหลากหลายของนักเรียน เน้นการทดลองค้นคว้า ความชอบ ความถนัด
  6. สภานักเรียน กระบอกเสียงของเด็กๆ ที่ผู้บริหารโรงเรียนฟังและให้ความสำคัญ
  7. เด็กและครูเรียนรู้และเติบโตกันไปพร้อมๆกัน เพราะครูคือที่ปรึกษา ทำให้เด็กกล้าพูดคุยและปรึกษาคุณครู
  8. ที่สาธิตธรรมศาสตร์ เด็กไม่ต้องใส่ชุดนักเรียนไปโรงเรียน สามารถแต่งชุดไปรเวทไปเรียนได้ทุกวัน

 

อัตราค่าเล่าเรียน

โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ค่าเทอม แบ่งได้ดังนี้

* ค่าธรรมเนียมการสมัคร 1,000 บาท

* ค่าเล่าเรียนต่อเทอม 60,000 บาท (1 ปีการศึกษามี 2 เทอม)

* ค่าธรรมเนียมอื่นๆ 5,000 บาท

* ค่าธรรมเนียมโครงการครอบครัวสาธิต 35,000 บาท (แรกเข้า ม.1)

* ค่าเข้าร่วมกิจกรรม “ค่าย คณิต วิทย์ Kids สนุก 5,000 บาท (แรกเข้า ม.1)

* สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อทางโรงเรียนโดยตรง

 

โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ที่อยู่ : 99 หมู่ 18 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12121

โทรศัพท์ : 02-564-4441-79 ต่อ 6761, 6776e-mail : [email protected]

https://satit.tu.ac.th

 

Editor : แม่พลอยผิง

ภาพ : กรานต์ชนก บุญบำรุง  ,ภูเบศ บุญเขียว


อ่านต่อบทความน่าสนใจ

โรงเรียนทับทอง

โรงเรียนทับทอง โรงเรียนเอกชนหลักสูตรไทย ใจกลางเมืองย่านจตุจักร

นอกจากความรู้ในด้านวิชาการแล้ว โรงเรียนยังเป็นที่ที่เสริมทักษะ สร้างทัศนคติ ความเข้าใจต่อการแสดงออกที่เหมาะสมในการอยู่ร่วมกันภายในสังคม โรงเรียนจึงเป็นสถานที่จำลองสังคมขนาดเล็กให้แก่เด็กได้เรียนรู้ ช่วยหล่อหลอมให้เด็กและเยาวชนรู้ถึงหน้าที่ บทบาทของตนเอง เหนือสิ่งอื่นใดความชอบของเด็กๆ นั้นสำคัญที่สุด หากโรงเรียนเป็นที่ๆ เด็กๆ อยากมาเรียนในทุกๆ วัน และกลับบ้านไปอย่างมีความสุข ที่นั่นคือโรงเรียนที่ใช่ ขอต้อนรับเข้าสู่ “โรงเรียนทับทอง” School Visit ที่วันนี้เราจะพามาเยี่ยมชม

โรงเรียนทับทอง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านจตุจักร เป็นโรงเรียนเอกชนหลักสูตรไทยที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2514 จนถึงปัจจุบัน ด้วยความรักของ “คุณแม่ที่มีต่อลูกๆ” ยึดมั่นให้โรงเรียนเป็นสถานที่อบอุ่น เสมือนบ้านหลังที่สองของเด็กๆ เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการเรียนรู้ และพัฒนาความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์อย่างมีคุณธรรม เพราะจุดหมายปลายทางของเด็กๆ ไม่ใช่แค่การสอบติดโรงเรียนมัธยมชื่อดัง แต่คือการทำให้เด็กๆจะรู้จักตัวเอง จุดอ่อน จุดแข็ง เพื่อพัฒนาตนเอง ต่อยอดไปให้ถึงเป้าหมายของแต่ละคน ได้อย่างมีความสุข

โรงเรียนทับทอง
เด็กๆ และคุณครู ปู่เสื่อ นั่งเรียนรู้กันอย่างเรียบง่ายที่สนามกีฬา
ภาพวาดบนฝาผนังบริเวณโรงอาหารพี่ประถมปลาย

Active – Learning

ทางโรงเรียนแปลงหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นภาคปฏิบัติ ใช้การเรียนการสอนแบบ Active Learning ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติที่หลากหลายรูปแบบ

  • แบบระดมสมอง (Brainstorming)
  • แบบเน้นปัญหา/โครงงาน/กรณีศึกษา (Problem/Project-based Learning/Case Study)
  • แบบแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing)
  • แบบแลกเปลี่ยนความคิด (Think – Pair – Share)
  • แบบสะท้อนความคิด (Student’s Reflection)
  • แบบตั้งคำถาม (Questioning-based Learning)
  • แบบใช้เกม (Games-based Learning)

เน้นและแทรกการพัฒนา EF ไว้ในทุกแง่มุมของประสบการณ์การเรียนรู้ ที่ได้รับการปรับปรุงให้สดใหม่ตลอดเวลา

เรียนรู้ด้วยการลงมือทำจะทำให้เด็กๆเข้าใจมากกว่าการนั่งโต๊ะและท่องจำ

 

EF, Positive Discipline and Growth Mindset

โรงเรียนทับทองให้ความสำคัญที่สุดในการสร้างและพัฒนาคุณลักษณะที่ดี 3 ประการ ให้แก่เด็กๆ เพราะหากได้รับการปลูกฝัง ฝึกฝน อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เด็กๆ คิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้เป็น แก้ปัญหาเป็น และปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข อยู่กับคนอื่นเป็น มีความสุขเป็น เด็กๆจะเติบโตได้อย่างมีคุณภาพและนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตในแบบของตนเอง EF, Positive Discipline และ Growth Mindset ของเด็กๆจะพัฒนาได้จากการเห็นแบบอย่างจากคุณครู บุคลากร จึงจะเกิดการซึมซับและปลูกฝังจนเป็นนิสัยตามกาลเวลา เมื่อเด็กๆมีคุณลักษณะ 3 ประการนี้ คุณพ่อ คุณแม่จะไม่เหนื่อยเมื่อลูกๆย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น

Angella’s Greenhouse เรือนเพาะชำในโรงเรียน

 

Mindset ที่ดีเริ่มต้นที่ครูคุณภาพ

  • โรงเรียนอบรมเพื่อพัฒนาคุณครูเป็นประจำเพื่อสร้างและคงไว้ซึ่ง Mindset ที่ดี โดยจะเป็นแบบอย่างให้เด็กๆ
  • การสร้าง Growth Mindset คือการสร้างโอกาสให้กับตนเองในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
  • เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบ ปรับปรุงเพื่อเปลี่ยนแปลง
  • ยอมรับและมองความล้มเหลว (setbacks) และการย้อนกลับ (Feeback) เป็นโอกาสในการพัฒนาทักษะ
  • สร้างโอกาสให้กับตนเอง มองหาความท้าทายใหม่ ๆ เพื่อการเรียนรู้และเปิดโลกใหม่
  • สร้างพลังบวกกับตัวเอง
  • สื่อสารกับตนเองและเด็กๆด้วยภาษา Growth Mindset เพื่อสร้างพลังบวกแก่กัน

การสร้าง Mindset ที่ดีไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากเป็นเรื่องของการปลูกฝังและย้ำเตือนการสร้างทัศนคติที่ดีให้กับเด็กๆ ให้จัดการกับความล้มเหลวของตนเอง และสร้างโอกาสเพื่อพัฒนาต่อ คุณครูและเด็กๆสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวความคิดนี้ไปพร้อม ๆ กันเพื่อสร้างสังคมห้องเรียนให้น่าอยู่

 

Urban Farming + Smart School

  • Urban Farming

เป็นโครงการที่ทำเพื่อให้นักเรียนได้เข้าใจถึง ห่วงโซ่อาหาร การผลิตอาหารที่สะอาด การปลูกผักปลอดสารพิษ โดยนำพื้นที่อันจำกัดในโรงเรียนมาสร้างให้เป็นแหล่งการเรียนรู้เพื่อการบริโภคเองหรือจำหน่ายทั้งพืชผักสดและแปรรูปผลิตภัณฑ์ เชิญชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการในกิจกรรมของนักเรียน เพื่อสอนและฝึกลักษณะของความเป็นผู้ประกอบการ โดยครูและนักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมทำโครงการ มีการวางเป้าหมาย คิดวางแผน ลงมือทำ และติดตามผล โครงการนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้การปฏิบัติการจริงในการสร้างธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เป็นการบูรณาการ STEAM, Foundational Literacy & Competencies skills เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างองค์รวม

กิจกรรมวัดและคำนวณพื้นที่ในการปลูกพืช จากพื้นที่จำกัด
บ้านไส้เดือน
  • Smart School

ทางโรงเรียนได้ร่วมมือกับหน่วยงานชั้นนำของประเทศ นำหลักสูตรพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับ วิทยาการหุ่นยนต์ ร่วมกับทักษะด้านวิทยาการคำนวณ ส่งเสริมให้นักเรียนก้าวทันนวัตกรรมแห่งอนาคต บนพื้นฐานการเรียนรู้แบบ Problem-Based Learning (PBL)

และบูรณาการ STEM Education (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์) และยังมีกระบวนการทำงานร่วมกันแบบ PDCA หรือกิจกรรมพื้นฐานการพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพของการดำเนินงาน แบบ4 ขั้นตอน คือ Plan-Do-Check-Actผสมผสานระหว่างสื่อการสอนที่เน้นปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน Active Learning และสื่อการเรียนมัลติมีเดียที่ทันสมัย (Coding, Robotics, วิทยาการคำนวณ ฯลฯ) สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม สร้างจิตสำนึกในการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกต้อง เตรียมพร้อมให้เด็กเป็นพลเมืองโลก (Global Citizenship) อย่างสร้างสรรค์ และมีความรับผิดชอบ

กิจกรรมการเขียนโปรแกรม Coding

คลาสเรียนวิทยาศาสตร์กับ Mad Science

โรงเรียนทับทอง
Food Lab ห้องเรียนทำอาหาร เด็กๆจะได้ทดลองทำด้วยตัวเองทุกคน

โรงเรียนทับทอง
ห้องเรียนดนตรี
กิจกรรมเล่นละคร เล่านิทานที่พี่ๆจัดให้น้องๆชม (พักเที่ยง)
โรงเรียนทับทอง
ดร.อัญจลา จารุมิลินท ผู้อำนวยการโรงเรียนทับทอง

Happy Lifelong Learners

ท่ามกลางความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ในทุก ๆ วัน และสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเราจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ทักษะของการเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Lifelong Learning สำคัญมาก

Active Learning และ คุณลักษณะ 3 ประการ (EF, Positive Discipline และ Growth Mindset) ที่โรงเรียนทับทองมุ่งมั่นที่จะปลูกฝังในตัวเด็กๆ จะสร้างกรอบแนวคิดและแรงจูงใจในการเรียนรู้ด้วยตนเองได้อย่างไม่รู้จบ เพราะมีแรงผลักดันในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองและเติมเต็มความรู้ส่วนที่ขาดหายไป ไม่ว่าจะเป็นความรู้รอบตัว หรือความรู้ในหน้าที่การงาน โดยที่ไม่ต้องให้ใครกระตุ้นให้เรียน ดังนั้นการกล่าวว่า Lifelong learning คือกุญแจสู่ความสำเร็จในโลกของการทำงานยุคดิจิทัล จึงไม่ใช่คำกล่าวที่โอ้อวดจนเกินไป เพราะสิ่งที่ลูกหลานของเราจะได้รับ คือการเป็นคนรุ่นใหม่ที่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

 

Mommy’s LoveThis! ถูกใจแม่

  • โรงเรียนจัดสัมนาให้ผู้ปกครองเพื่อให้ทราบถึงความสำคัญของ EF, Positive Discipline และ Growth Mindset ที่ทางโรงเรียนมุ่งเน้นปลูกฝังให้เป็นคุณลักษณะของเด็ก เด็กๆทุกคนจะ มี EF, Positive Discipline และ Growth Mindset ที่แข็งแรง)
  • เน้นการบูรณาการ เด็กๆจะมีทักษะที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทักษะในศตวรรษที่ 21
  • วิชาเฉพาะทางที่สำคัญ โรงเรียนจะเชิญบุคคลภายนอก (Outsource) ที่มีความรู้และความสามารถระดับเข้มข้นเข้ามาสอน เช่น Computer Science, วิทยาศาสตร์, ภาษาจีน, ดนตรี เป็นต้น
  • เด็กๆได้อยู่กับครูคุณภาพ การันตีโดยรางวัล “Wellness Corporate Innovation Award” ระดับ 2A ภายใต้โครงการ “การพัฒนาสุขสภาพองค์กรเพื่อการสร้างชาติ”
  • จำนวนนักเรียนต่อห้องเพียง 25 คน ทำให้คุณครูและคู่ชั้น ดูแลได้ทั่วถึง

อัตราค่าเล่าเรียน โรงเรียนทับทอง ปีการศึกษา 2567

ชั้น ป.1-ป.6 ค่าเทอมจะอยู่ที่ 42,900 บาท (โดยประมาณ แต่ละชั้นเรียนค่าเทอมแตกต่างกัน)

 

ที่อยู่

  • โรงเรียนทับทอง 104 ถนนพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม 10900
  • โทร 02-561-2004, 061-432-4545
  • อีเมลล์ : [email protected]
  • เว็บไซต์ : www.tubtong.ac.th

 

Editor : แม่พลอยผิง

ภาพ : ธนายุต วิลาทัน

 


อ่านต่อบทความน่าสนใจ

ENFANT

เปิด 4 โรงงานการผลิตโชว์ศักยภาพ Sustainability คนดี สินค้าดี สังคมดี

เครือสหพัฒน์ เปิด 4 โรงงานการผลิตโชว์ศักยภาพ Sustainability ภายใต้นโยบาย “คนดี สินค้าดี สังคมดี” หนุนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

เครือสหพัฒน์ โดย บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ทำการตลาด และจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคชั้นนำ กว่า 100 แบรนด์ ได้สร้างโปรเจ็กต์พิเศษภายใต้การดูแลของ BSC International (บีเอสซี อินเตอร์เนชั่นแนล)  นำโดย บุษบง มิ่งขวัญยืน ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ BSC International นำเสนอผลิตภัณฑ์ จาก 4 โรงงานผู้ผลิต ที่ดำเนินงานภายใต้ Sustainability เพื่อเป็นตัวแทนความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ Net Zero ไปพร้อมๆกัน

โดย ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า “วิกฤตเศรษฐกิจในช่วงเวลาหลายปีที่่ผ่านมาส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวให้พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการบริหารธุรกิจ รวมถึงกระบวนการทำงานในทุุกมิติ ให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนได้ เพื่อให้เราสามารถก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน นอกจากการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และช่องทางการจัดจำหน่ายให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (Customer Focus) บริษัทฯ ยังได้บริหารงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุุรกิจควบคู่ไปด้วย (ESG: Environmental, Social, Governance)”

และอีก 1 ผลิตภัณฑ์ในโปรเจ็กต์พิเศษภายใต้การดูแลของ BSC International (บีเอสซี อินเตอร์เนชั่นแนล) นั่นคือ ผลิตภัณฑ์ Enfant รักลูกของคุณ รักษ์โลกของเรา เคียงข้างคุณแม่ดูแลลูกน้อยสู่ศตวรรษที่ 4 เปิดโรงงานการผลิตของขวัญแห่งรัก ส่งมอบคุณค่าความใส่ใจอย่างยั่งยืน

ENFANT

โดยมี ชุติมา ประเสริฐศรี ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ Enfant และ พงษ์สันติ์ วงษ์เสริมหิรัญ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยพัฒนาและนวตกรรม บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด(มหาชน) เป็นผู้ให้ข้อมูลรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าเด็ก Enfant (อองฟองต์) และพานำเยี่ยมชมขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การตัดแพทเทิร์นด้วยเครื่องจักรแบบใหม่ ที่ทำให้เหลือชิ้นส่วนของผ้าเหลือใช้น้อยที่สุด, การเย็บด้วยความประณีต, การตรวจจับโลหะด้วยเครื่องจักรที่มีความแม่นยำ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อง ไปจนถึงระบบการคัดแยก ขนส่ง อยากเป็นระเบียบและรวดเร็ว เพื่อให้ของถึงมือคุณแม่และลูกได้ตามความต้องการ

คัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติด้วยความใส่ใจ

Enfant : Pure & Natural with Best Quality เพราะผิวของเด็กนั้นบอบบาง Enfant จึงเลือกใช้เส้นใยจากฝ้ายที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่าง COTTON Biotechnology จากอเมริกา ที่ลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการปลูก ตั้งแต่การเตรียมดินด้วยการไถพรวน การบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาปรับปรุงการใช้พลังงานในการปลูกฝ้ายที่ใช้น้อยกว่าการปลูกปกติ นอกจากนี้ การปลูกต้นฝ้ายบนพื้นที่ 1 ไร่ ในเวลา 1 ปี ยังสามารถช่วยดูดซับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 5-6 ตัน ให้ผลผลิตใยฝ้ายได้มากถึง 204 กิโลกรัม

อีกหนึ่งวัตถุดิบที่ Enfant เลือกใช้ คือ เส้นใย BAMBOO พืชที่พบได้ในทุกสภาพอากาศ และกระจายตัวเติบโตอย่างรวดเร็วตามธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งปุ๋ยหรือสารกำจัดแมลง มีอายุเก็บเกี่ยวที่ยาวนาน ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากกว่าต้นไม้ทั่วไปถึง 4 เท่า โดย ในพื้นที่ 1 ไร่ สามารถเพาะปลูกต้นไผ่พร้อมใช้งานได้ 0.6 ตัน สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 0.65 ต้น และนำมาผลิตเยื่อไผ่ได้ 30 กิโลกรัม อีกทั้งยังมีสารธรรมชาติชื่อว่า “Bamboo Kun” ทำหน้าที่คอยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและต่อต้านแมลง ลดกลิ่นอับ และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติเมื่อสิ้นวงจรชีวิต เมื่อนำ 2 วัตถุดิบมาถักทอผสานในสัดส่วน 60:40 จะให้ได้เนื้อผ้าที่นุ่มลื่น สวมใส่แล้วเย็นสบาย ระบายความชื้นได้ดีเป็นพิเศษ เหมาะกับผิวที่บอบบางของเด็ก

*ใน 1 ปี Enfant ใช้เส้นใยจาก Cotton 30,000 กิโลกรัม และBamboo 30,000 กิโลกรัม ในการผลิตเสื้อผ้า 800,000 ชิ้น เสื้อผ้าทุกชิ้นของ Enfant จึงมีส่วนช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ และรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

ENFANT

มุ่งมั่นพัฒนาเครื่องแต่งกายให้เอื้อต่อพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย

Enfant: Baby-Friendly เพื่อการสร้างสรรค์แฟชั่นที่เอื้อต่อพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย Enfant ออกแบบ “เสื้อป้ายอุ่นอกที่ไร้ตะเข็บข้าง” เพื่อลดโอกาสในการเสียดสี ที่อาจสร้างความระคายเคืองผิว และ “กางเกงก้นกว้าง” เพื่อรองรับสรีระช่วงขาที่กางออกของเด็กแรกเกิด รวมถึงรองรับการสวมใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนการออกแบบแม่แบบ (Pattern) ให้สอดคล้องกับมาตรฐานเด็กไทยอย่างสม่ำเสมอ โดยร่วมมือกับ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ทำวิจัยสรีระเด็กไทยทั่วประเทศ ทุก 5 ปี  ทำให้มั่นใจได้เลยว่าเครื่องแต่งกายเด็ก Enfant  นั้นสวมใส่ได้อย่างสบายและสอดรับกับสรีระที่สุด

Enfant: Healthy and Safe เพื่อสุขอนามัย และความปลอดภัยของลูกน้อย Enfant ใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิตทุกสีสันลวดลายผ่านการฟอกย้อมด้วยน้ำยาที่มาจากสารอินทรีย์ธรรมชาติ และสี Non AZO เพื่อให้ได้ผ้าที่นุ่ม และ ความปลอดภัยสูงสุดด้วยการทดสอบสารตกค้างในผ้า ทดสอบความคงทน ขจัดสีส่วนเกิน และการตรวจจับโลหะก่อนนำไปบรรจุลงหีบห่อ

สร้างสรรค์นวัตกรรมปลอดมลพิษด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย

Enfant: Leading Innovation เพื่อเป็นผู้ช่วยในการดูแลเด็กให้เติบโตอย่างสมวัยและมีความสุข Enfant มุ่งมั่นค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง อาทิ นวัตกรรมเส้นใย Soft Flex ผ้า C-Single ผสม Spandex สร้างความยืดหยุ่นที่มากกว่า สวมใส่ได้สบายกว่า นวัตกรรม Cotton Bamboo ใยฝ้ายเกรดพรีเมียมผสานเส้นใยไผ่ สร้างความนุ่มสบาย และปลอดภัยไร้แบคทีเรีย ภายใต้การผลิตโดย บริษัท ไทยวาโก้ (จำกัด) มหาชน โรงงานที่ประกอบกิจการอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งภายในและภายนอก ตลอดจนห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการผลิต

ENFANT

บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ได้รับรองโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4 จากกระทรวงอุตสาหกรรม และได้รับการรับรองโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ Eco Factory ปี 2560 และปี 2563 เป็นโรงงานที่มีการปล่อยของเสียเป็นศูนย์ หรือมีของเสียจากกระบวนการผลิตเกิดน้อยที่สุด

  • มีการใช้วัตถุดิบและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • มีระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้มาตรฐาน
  • มีการดำเนินการที่น่าเชื่อถือ
  • มีการเกื้อกูลกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือสังคมโดยรอบ

ทุกขั้นตอนนับตั้งแต่การผลิตตลอดจนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์ Enfant มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกมิติ ใช้ทรัพยากรที่มีอย่างคุ้มค่าและสร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ด้วยหลักการดังนี้

Reduce ลดของเสียจากขบวนการผลิต ใช้วัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ

Reuse  “เศษผ้า” ที่เหลือจากการผลิต สามารถนำไปใช้ต่อ เป็นเส้นใยบรรจุในตุ๊กตา และ ถุงบรรจุเสื้อผ้าสำเร็จรูป สามารถนำไปหมุนเวียน ซึ่งถุงอองฟองต์ มีสัญลักษณ์รีไซเคิล สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้

Recycle “กล่องกระดาษ” ที่ใช้ในการบรรจุสินค้าสำเร็จรูป ถูกนำกลับมาใช้ซ้ำอย่างคุ้มค่า ลดปริมาณขยะ

Eco-Logistic ระบบเติมเต็ม และบริหารจัดการสต๊อกสินค้า Sorter ระบบการคัดแยกที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ และรองรับความหลากหลายที่เพิ่มขึ้น

Eco-Packaging กล่องกระดาษ/ ถุงพลาสติก ใช้จากวัสดุรีไซเคิล

ด้วยวัตถุดิบคุณภาพ การตัดเย็บอย่างประณีต และทุกขั้นตอนการผลิตที่พิถีพิถัน ทำให้เสื้อผ้าเด็ก Enfant  มีอายุการใช้งานยาวนาน คงทน คุ้มค่า คงทน ส่งต่ออย่างคุ้มค่า จากรุ่นสู่รุ่น

ENFANT

ชุติมา ประเสริฐศรี ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ Enfant กล่าวทิ้งท้าย จากแนวคิด “Enfant รักลูกของคุณ รักษ์โลกของเรา” ที่ Enfant ยึดถือและดำเนินกิจการมาอย่างต่อเนื่อง ในอนาคต เรามุ่งมั่นก้าวสู่ศตวรรษที่ 4 ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด เพื่อพัฒนาการที่เหมาะสมของเด็กในแต่ละช่วงวัย และไม่หยุดที่จะพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในทุกด้าน ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อโลกที่น่าอยู่ ปลอดภัยสำหรับเด็ก และทุกคน นี่คือ สัญญาที่ Enfant จะยึดมั่นตลอดไป

ACE GOLF ACADEMY สถาบันสอนกอล์ฟสำหรับเด็กโดยมืออาชีพ ที่ดูแลเด็กๆ เหมือนคนในครอบครัว

การเรียนกีฬาทุกชนิดล้วนช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อย แต่ถ้าพูดถึงกีฬาที่ช่วยผึกสมาธิและจิตใจให้เข้มแข็ง กอล์ฟ คือหนึ่งในกีฬาที่มีจุดเด่นช่วยส่งเสริมด้านนี้ให้กับเด็กๆ

School Visit จึงอยากชวนทุกคนมาดูสถาบันACE GOLF ACADEMY ที่เปิดสอนโดยโปรยิม-จิตติ ศรีธนพล Touring Pro. อาชีพ ที่นำประสบการณ์แข่งจริงมาแลกเปลี่ยนให้กับเด็กๆ ได้โดยตรง

เปิดสอนโดยโปรมืออาชีพ

ACE GOLF ACADEMYเปิดตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 โดยโปรยิม ที่มีดีกรีเป็นแชมป์กอล์ฟอาชีพ พีจีเอ ไทยแลนด์ ชาเลนจ์ 2013 มีประสบการณ์เล่นกอล์ฟมากกว่า 25 ปี ในสถาบันยังมีโปรท่านอื่นๆ ให้เลือกเรียนด้วยอีก 8 ท่าน ซึ่งแต่ละท่านล้วนเป็นมืออาชีพระดับ Teaching Pro. และ Touring Pro. ทั้งหมด

เด็กๆ ได้เรียนรู้ร่วมกัน ฝึกดูแลตัวเอง ฝึกการเข้าสังคม และช่วยเหลือกันและกัน

 

กอล์ฟส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อยอย่างไร?

จากประสบการณ์สอนกอล์ฟมากว่า 9 ปี โปรยิมอธิบายให้เราฟังว่า การส่งเสริมให้เด็กๆ เรียนกอล์ฟ ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงเหมือนกีฬาอื่นๆ แล้ว กอล์ฟยังเป็นกีฬาที่ช่วยฝึกสมาธิได้ดีมาก เนื่องจากการเล่นกอล์ฟใช้ร่างกายทุกส่วน วงสวิงและหน้าไม้สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ทุกวัน ต้องมีสติกับตัวเอง เมื่อพัฒนาไปถึงระดับแข่งขันก็ต้องมีสมาธิระหว่างการแข่งขันอย่างมาก ทักษะการฝึกฝนต่างๆ ต้องใช้ความอดทนถึงจะพัฒนาและเห็นผล ทำให้กีฬากอล์ฟเป็นกีฬาที่ช่วยฝึกด้านสมาธิและจิตใจเป็นอย่างดี โปรยิมยังเล่าอีกว่าเมื่อเด็กๆ ได้เริ่มแข่งขัน เขาจะมีเป้าหมายและพยายามฝึกซ้อมมากขึ้นเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น

แต่ที่ACE GOLF ACADEMY กลับไม่มีบรรยากาศของความเคร่งเครียดเลย โปรทุกท่านจะใส่ใจเด็กๆ ทุกคน ดูแลเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง จนสนิทสนมเป็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้เรียนและผู้สอน เด็กๆ ในสถาบันก็กลายเป็นเพื่อนเล่นกัน ช่วยฝึกการเข้าสังคมอีกทางหนึ่ง

 

กีฬากอล์ฟต้องใช้ร่างกายทุกส่วน และยังช่วยฝึกสมาธิได้ดีมาก

 

หลักสูตร

ที่นี่เริ่มรับสอนตั้งแต่อายุประมาณ 4 ขวบครึ่ง ซึ่งสามารถมาทดลองเรียนก่อนได้ เริ่มแรกทางสถาบันจะมีอุปกรณ์ให้ยืมครบถ้วน แต่เมื่อตัดสินใจเล่นต่อเนื่องก็สามารถปรึกษาเพื่อเลือกซื้ออุปกรณ์ส่วนบุคคลได้ตามความเหมาะสมกับสรีระของแต่ละคน

ตัวสถาบันตั้งอยู่บนสนามไดร์ฟกอล์ฟ จึงสามารถสอนทั้งกับเครื่อง TRACKMAN ที่ตรวจจับด้วยเรดาห์ เพื่อดูค่าความเคลื่อนไหวของไม้กอล์ฟ และออกไปตีไดร์ฟในสนามได้ เมื่อถึงระดับต้องฝึกซ้อมลูกสั้น ทางสถาบันจะมีพาเด็กออกไปเรียนนอกสถานที่ที่สนามจริงๆ เพื่อซึมซับกับบรรยากาศ และยังส่งเสริมไปจนถึงการแข่งขันรายการทัวร์ต่างๆ จนเด็กๆ ของสถาบันเคยได้รางวัลมาแล้วหลายรายการ

โดยรายการ Tournament ในไทยจะแบ่งออกเป็นช่วงอายุ เช่น รุ่นอายุต่ำกว่า 6 ปี, รุ่นอายุต่ำกว่า 8 ปี, รุ่นอายุต่ำกว่า 10 ปี ฯลฯ

โปรยิม-จิตติ ศรีธนพล เจ้าของและ Head Pro. ของ ACE GOLF ACADEMY

บรรยากาศสนามไดร์ฟกอล์ฟ

Mommy’s Love This! แม่ๆ ถูกใจสิ่งนี้

1. สถาบันตั้งอยู่ที่สนามเสรีกอล์ฟ ตลิ่งชัน ซึ่งเป็นสนามเก่าแก่บนฝั่งธนบุรี บรรยากาศของสนามมีกลิ่นอายเรโทร อบอุ่นไปด้วยคนหลายวัย การพาลูกมาเรียนที่นี่ จึงสามารถชวนคุณตาคุณยายมาไดร์ฟกอล์ฟได้ในเลนส์ข้างๆ เป็นกิจกรรมครอบครัวในวันหยุดได้เลย

2. มีโปรให้เลือกหลายท่าน สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบและวันเวลาที่สะดวก

3. มีนัดออกรอบร่วมกับเด็กหลายๆ คน ฝึกการเข้าสังคม และได้เรียนรู้สนามจริงหลายๆ สนาม

 

ค่าเรียน

สอนแบบตัวต่อตัว

-Certified Pro. 10 ชั่วโมง / 12,000 บาท

-Head Pro. 10 ชั่วโมง / 15,000 บาท

 

ค่าลูกกอล์ฟ (ของสนาม)

ค่าลูกกอล์ฟ 3 ถาด/140 บาท (ก่อนเวลา 14:00 น.)

ค่าลูกกอล์ฟ 1 ถาด/70 บาท (หลังเวลา 14:00 น.)

 

**สามารถทดลองเรียนฟรีได้ 1 ครั้ง

 

ข้อมูลติดต่อ

ACE GOLF ACADEMY

ที่อยู่ : ชั้น 2 สนามเสรีกอล์ฟ ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ

โทร : 063-669-8954

เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/acegolfacademy

Line id : @acegolf

 

Editor : แม่น้องอลินดา

ภาพ : ธนายุต วิลาทัน

ผลิตภัณฑ์ดูแล น้ำนมน้อย

สต๊อกล้น! ด้วย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตัวช่วยคุณแม่ “น้ำนมน้อย”

คุณแม่ต่างทราบดีว่า น้ำนมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย และต่างก็ต้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้สำเร็จ แต่ไม่ใช่คุณแม่ทุกคนจะมีน้ำนมแม่เพียงพอตั้งแต่แรก คุณแม่จึงควรมองหาตัวช่วยดีๆที่ช่วยเรื่อง น้ำนมน้อย อย่างปลอดภัย และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยเพิ่มน้ำนมนั้นก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้ผล ที่สามารถช่วยเร่งการผลิตน้ำนม ให้น้ำนมมาเยอะขึ้น

9 สมุนไพรเพิ่มน้ำนม ที่คุณแม่หลังคลอดควรกิน

  1. ฟีนูกรีก ช่วยเร่งการผลิตน้ำนม กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนโปรแลคติน
  2. ผงผักชีล้อม ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมให้คุณแม่หลังคลอด และยังช่วยป้องกันการเกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ผงผักชีล้อมจึงดีต่อทั้งตัวคุณแม่ และช่วยลดอาการโคลิคในลูกน้อยได้
  3. ขิง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้น้ำนมไหลดีขึ้น และขิงยังอุดมไปด้วยวิตามินที่ช่วยพื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอด
  4. ขมิ้น ช่วยเพิ่มน้ำนม และช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี ลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง
  5. ใบกะเพรา ช่วยในการไหลเวียนของเลือด กระตุ้นการผลิตน้ำนม และยังช่วยขับลม ลดอาการท้องอืดของลูกน้อย
  6. หัวปลี ช่วยบำรุงเลือด บำรุงน้ำนม อุดมไปด้วยแคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี และเบตาแคโรทีน
  7. ฟักทอง ช่วยขับน้ำนม และมีสารอาหารบำรุงร่างกายหลายชนิด ช่วยให้ผิวพรรณสดใส หน้าท้องลายน้อยลง
  8. ใบแมงลัก ช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนม ช่วยขับลม ขับเหงื่อได้ดี
  9. กุยช่าย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด กระตุ้นการผลิตน้ำนม ทำให้น้ำนมไหลดี

น้ำนมน้อย

Amarin Baby & Kids คัดเลือกให้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบรนด์ Jessie Mum ได้รับรางวัล BEST BREASTFEEDING SUPPLEMENT 2023 สาขา Editor’s Choice จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2023”

 

สมุนไพรที่ช่วยบำรุงน้ำนมเหล่านี้ เป็นสมุนไพรยอดนิยม ช่วยแก้ปัญหา น้ำนมน้อย อย่างได้ผล โดยคุณแม่สามารถนำไปทำเป็นเมนูเพิ่มน้ำนมยอดฮิต อย่างเช่น แกงเลียง ผัดขิง ฟักทองผัดไข่ ผัดกระเพรา ผัดไท กินสลับไปทุกวันจนเบื่อกันไปเลยทีเดียว

แต่ปัจจุบันสำหรับคุณแม่ที่ไม่มีเวลา มีตัวช่วยที่สะดวกกว่านั้น คือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมที่มีส่วนช่วยให้เพิ่มน้ำนมอย่าง Jessie Mum ที่นำสารสกัดจากสมุนไพรถึง 4 ชนิด ได้แก่ ฟีนูกรีก ผงผักชีล้อม ขิง และขมิ้น มารวมอยู่ในเม็ดเดียว และยังผสานด้วยวิตามินอีกหลายชนิดที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอด ได้แก่

  1. ซิงค์อะมิโน แอซิด คีเลต ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
  2. กรดโฟลิค ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดแดง ซึ่งเม็ดเลือดแดงจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำนมแม่ ลดโอกาสการเกิดเม็ดเลือดจางในคุณแม่
  3. ดี-ไบโอติน ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาท ลดการหลุดร่วมของเส้นผม รอยผิวแตก ลดอาการอ่อนล้าคุณแม่หลังคลอด
  4. วิตามินบี 1 ช่วยลดความเครียด ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้อย่างสมบูรณ์
  5. วิตามินบี 6 ช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายถูกทำลาย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดอาการปวดหัว
  6. วิตามินบี 12 ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยให้ความจำดี สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

น้ำนมน้อย

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Jessie Mum ผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน อย., GHPs, HACCP, Food Safety สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย และช่วยให้คุณแม่มีน้ำนม ทำสต็อกนมได้มากขึ้น และช่วยให้น้ำนมมีคุณภาพ

ทีมบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids จึงคัดเลือกให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Jessie Mum ได้รับรางวัล BEST BREASTFEEDING SUPPLEMENT 2023 สาขา Editor’s Choice จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2023” เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคุณแม่ที่ตั้งใจมอบน้ำนมแทนความรักให้ลูกน้อย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม และโปรโมชั่นดีๆ ของผลิตภัณฑ์เพิ่มน้ำนม Jessie Mum สามารถติดตามได้ที่ https://jessiemum.com/

อ่านบทความน่าสนใจอื่นๆได้ที่ 

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2023 หมวดผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับคุณแม่

 

 

สองซูเปอร์ฮีโร่ “เลดี้บัค” – “แคทนัวร์” แท็กทีมผจญภัยพิทักษ์ปารีส ปะทะสุดยอดวายร้าย “ฮอว์กมอธ” บนโปสเตอร์คาแร็กเตอร์สุดเท่ของ

กำลังจะเข้าฉายให้ผู้ชมในไทยได้ดูกันแล้ว สำหรับแอนิเมชันเรื่องเยี่ยมครบรสต้อนรับวันเด็กอย่าง Ladybug & Cat Noir : The Movie – ฮีโร่มหัศจรรย์ เลดี้บัค และ แคทนัวร์ จากซีรีส์ยอดฮิตที่โด่งดังไปทั่วโลกสู่ภาพยนตร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ กับเรื่องราวของ “มาริเน็ต” สาวน้อยผู้ถูกให้เป็นผู้สืบทอด “อัญมณีเวทมนตร์” ที่จะเปลี่ยนมาริเน็ตให้กลายเป็นสุดยอดฮีโร่จอมพลังนามว่า “เลดี้บัค” พร้อมกับ “เอเดรียน” เด็กหนุ่มลูกชายของมหาเศรษฐี ที่ได้รับพลังจาก “อัญมณีแห่งพลัง” ที่เปลี่ยนให้เขากลายเป็นสุดยอดฮีโร่นามว่า “แคทนัวร์” ทั้งสองต้องร่วมมือกันปกป้องเมืองปารีสจากวายร้ายเจ้าพลังแห่งความมืด “ฮอว์กมอธ” ที่ต้องการทำลายล้างเมืองให้ราบ เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวคือ ครอบครองอัญมณีเวทมนตร์

ซึ่งล่าสุดปล่อยภาพยนตร์ “โปสเตอร์คาแร็กเตอร์” ออกมาเผยให้เห็น 3 ตัวละครหลักสุดเท่ทั้งจากฝ่ายซูเปอร์ฮีโร่ และ ซูเปอร์วายร้าย ที่ต้องปะทะกันด้วยพลังมหัศจรรย์ เริ่มต้นด้วย

 

เลดี้บัค ในชุดซูเปอร์ฮีโร่เต่าทองสีแดงสดใสที่ในเวลาปกติเธอคือ มาริเนตต์ เด็กสาวที่มีชีวิตสุดธรรมดา ด้วยพลังของอัญมณีมิราคูลัสเต่าทอง เปลี่ยนเธอให้กลายเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความสร้างสรรค์ มาพร้อมไอเทมคู่กายของเธอ โยโย่มหัศจรรย์

“แคทนัวร์” ซูเปอร์ฮีโร่พลังทำลายล้าง ในเวลาปกติเขาคือ “เอเดรียน” เด็กหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ และด้วยพลังแห่งอัญมณีมิราคูลัสแมวดำ เปลี่ยนเขาให้เป็นต้าวเหมียวพิฆาต มาพร้อมหน้ากากและหูแมวสุดคิ้วท์ ที่พร้อมจะมาขโมยหัวใจผู้ชมทุกคน ด้วยลุคสุดทะเล้นและบุคคลิกแสนจะขี้เล่น เขาเป็นพาร์ทเนอร์ของเลดี้บัค ทั้งสองคอยช่วยเหลือกันและกันเพื่อปกป้องปารีสจากภัยร้าย

ถ้ามีใครสักคนอยากเห็นปารีสย่อยยับ ต้องเป็นเขาผู้นี้ “ฮอว์กมอธ” ซูเปอร์วายร้ายผู้มีพลังแห่งความมืดจากอัญมณีมิราคูลัสผีเสื้อแห่งรัตติกาล สามารถเปลี่ยนจิตใจคนธรรมดา ให้กลายเป็นปีศาจร้ายที่เรียกว่า อาคุม่า พูดได้เต็มปากเลยว่า ฮอว์กมอธคือ ศัตรูตัวฉกาจของเลดี้บัคและแคทนัวร์ ที่คอยก่อความวุ่นวายเพียงเพราะต้องการอัญมณีแห่งเวทมนตร์มาไว้ในครอบครอง    ทั้งเลดี้บัคและแคทนัวร์ต้องแท็กทีมกันต่อสู้ซูเปอร์วายร้ายรายนี้ เพื่อคืนความสงบสุขให้ชาวปารีส

 

เตรียมร่วมผจญภัยและเอาใจช่วยฮีโร่มหัศจรรย์ปกป้องปารีสจากซูเปอร์วายร้าย ในภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มยักษ์ จัดเต็มความสนุกทั้งเวอร์ชับไทย และ อังกฤษกับ Ladybug & Cat Noir: The Movie – ฮีโร่มหัศจรรย์ เลดี้บัค และ แคทนัวร์” เปิดรอบพิเศษ 28 ธันวาคมเป็นต้นไป ฉายจริง 4 มกราคม 2567 ในโรงภาพยนตร์

 

ตัวอย่างซับไทย

 

สกู๊ป มิราคูลัส” อัญมณีปริศนาเกินหยั่งรู้ จุดกำเนิดพลังมหัศจรรย์เปลี่ยนโลก

 

 

ชวนลองเมนูพิเศษเฉพาะเทศกาลเฉลิมฉลองที่ Salad Factory กับธีม The Greatest Celebration

เทศกาลเฉลิมฉลองแบบนี้จะมีอะไรดีไปกว่า อาหารมื้อพิเศษกับคนที่เรารักแบบที่มีอาหารอร่อยๆวัตถุดิบดีวางเรียงยาวๆแบบเต็มๆ โต๊ะ

บ้านไหนมีภาพแบบนี้ในหัว เราเชิญชวนมาที่นี่เลยค่ะ ร้าน Salad Factory ซึ่งจับมือพาร์ทเนอร์ผู้ผลิต และนำเข้าวัตถุดิบคุณภาพ ที่การันตีได้เลยว่าดีต่อสุขภาพตั้งแต่รุ่นใหญ่ไปจนถึงรุ่นเด็กจิ๋ว โดยทางร้านคัดสรรเมนูสุดพิเศษท้ายปลายปี มาให้เลือกแบบจุใจทั้ง 22 เมนู ภายใต้แคมเปญ “The Greatest Celebration” โดยมาพร้อมกองทัพวัตถุดิบชั้นดี อย่างแบรนด์ เบทาโกร, ไทยยูเนี่ยน, จาโกต้า, ซีทีไอ ฟู๊ด ซัพพลาย,และ ไอศกรีมฮาเก้น-ดาส เป็นต้น โดยคัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ทั้งเนื้อวัว Australian Black Angus เกรดพรีเมียมแบรนด์ John Dee, เนื้อแกะคุณภาพจากออสเตรเลียที่มีมันแทรกในเกณฑ์ GLQ 5+ แบรนด์ Gundagai , เนื้อกุ้งมังกร Canadian Lobster, เนื้อวัว Grass Fed พรีเมียม แบรนด์ Josedale, หมูพอร์คช็อป และสันนอกทรัฟเฟิล แบรนด์ S-Pure, ไส้กรอกสไตล์ญี่ปุ่นจาก Itoham และไอศกรีม Limited Edition จาก Hagendaz

 

โดยทีมแม่ ABK ได้ไปลองชิม 8 เมนูที่รังสรรค์อย่างใส่ใจโดยเชฟมากฝีมือ จากทาง Salad Factory  บอกเลยว่า ถูกใจทั้งแม่และดีต่อลูกแน่นอน

คุณปิยะ ดั่นคุ้ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ จำกัด ได้เปิดบ้านต้อนรับพร้อมเล่าให้ฟังถึงที่มาของการทำแคมเปญอาหารและวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่าดี รวมถึงทีมผู้บริหารกลุ่มพาร์ทเนอร์มาร่วมงาน อาทิ ดร.โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน), คุณสืบสกุล นิ่มพูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พัฒนาธุรกิจ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน), คุณภูมินทร์ จาโกต้า ผู้บริหารฝ่ายขาย  บริษัท จาโกต้า บราเดอร์ส เทรดดิ้ง จำกัด, คุณพนิตตา มิ่งสูงเนิน ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดภายในประเทศ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ คุณวิศว ศรีรัตนประภาส ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีไอ ฟู๊ด ซัพพลาย จำกัด เป็นต้น ที่มาเล่าถึงที่มาของวัตถุดิบชั้นดีด้วยตัวเอง

มาดูกันเลยค่ะว่า แต่ละจานที่ #ทีมแม่ABK ไปชิมมาแล้วเป็นยังไงบ้าง

จานแรกอาหารเรียกน้ำย่อยเบาๆก่อน Amouse-Bouche ที่เป็นแซนวิชล๊อบเตอร์ และยูซุกัวคาโมเล่ คำที่สองเป็นไส้กรอกArabiki ย่างห่อด้วยใบโอบะ ไส้กรอกสไตล์ญี่ปุ่นจาก Ito Ham และคำสุดท้าย Bacon Rock&Roll

จานถัดมา Pistachio Lobster Salad สลัดกุ้งล๊อบเตอร์สดๆจากแคนาดา ผสมผสานความสดชื่นจากผักกรีนคอส อโวคาโด ในซอส Italian Yuzu Dressing

จานที่สาม Truffle Pork Loin Steak  สเต็กหมูทรัฟเฟิลซอสเกรวี่มัสตาร์ด มันฝรั่งผัดและผักย่าง หมูชั้นดีที่เนื้อนุ่มมากก จานนี้เด็กเลิฟแน่นอน

จานที่สี่ Australia Black Angus Grass-Fed Beef Picanha Steak สเต็กเนื้อพิคานย่า ที่เรียกว่าได้รับการดูแลอย่างดี หญ้าที่มีธาตุอาหารสูง มีความเป็นธรรมชาติปลอดสาร ทานคู่กับเครื่องเคียง อย่างสลัด และมันฝรั่งทอดก็กลมกล่อม ถูกใจแม่

จานที่ห้า Grilled Lamb Picanha Tacos  แป้งทาโก้กรอบๆซ่อนพิคานย่าแกะไว้ด้านใน กับซอสมิกเบอร์รี่และซาวครีม เปิดใจรับเนื่อแกะไว้ในอ้อมใจได้เลย เพราะมันนุ่มและพิเศษมาก

จานที่หก Australia Black Angus Grains-Fed Ribs Finger BBQ สเต็กสันนอกแบล็คแองกัสพรีเมี่ยม ที่ขุนด้วยธัญพืชมากกว่า 150 วัน เนื้อนุ่ม รสชาติเข้มข้น ราดด้วยกันซอสครีมเห็ดพริกไทยอ่อนที่กลมกล่อมกำลังดี ทานคู่กับสลัดและมันฝรั่งบด เนื้อนุ่มฟินมากก

ปิดท้ายด้วยจานของหวาน ที่มีความพิเศษของฤดูกาลนี้ จาก ฮาเก้น – ดาส ไอศกรีมบิสกิตคาราเมลกรุบกรอบ หอมถั่วพิตาชิโอ ทั้งถั่วหอมๆและไอศกรีมพิตาชิโอ ที่เป็นรสชาติใหม่ ที่เพิ่งนำเข้าใหม่ในช่วงเทศกาลนี้เท่านั้น!

ความพิเศษนี้ มีแค่เดือนนี้เท่านั้นนะคะ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด ใกล้ที่สาขาไหนแวะไปที่สาขานั้นเลย เพราะที่นี่มีถึง 38 สาขา ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2566 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 นี้เท่านั้น ที่ร้านสลัดแฟคทอรี่ทุกสาขา หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/saladfactoryofthailand

สำหรับเมนูเต็มๆ ดูได้ในแกลอรี่ด้านล่างเลยค่ะ

เรื่อง: แม่พีทพริม

ภาพ: CRG Group

Tags

คอลเกต

คอลเกต ลดยิ่งใหญ่ฉลองวันเกิด พร้อมเปิดตัวไหมขัดฟันพลังน้ำสีใหม่และของแถมสุดปัง!

คอลเกต ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่ทุกบ้านเลือกใช้ จัดโปรสุดปัง

Colgate Brand of The Day ลดยิ่งใหญ่ฉลองวันเกิด พร้อมเปิดตัวไหมขัดฟันพลังน้ำสีใหม่และของแถมสุดปัง!

ใหม่! ไหมขัดฟันพลังน้ำ Colgate Blast

ราคาพิเศษ 3,299.- จาก 1,926.-

50 ออเดอร์แรกรับฟรี! เสื้อ Maison Keeps มูลค่า 750.-

เฉพาะ 16 ธ.ค. 66 เท่านั้น

Colgate Blast Water Flosser

คอลเกตไหมขัดฟัน พลังน้ำ พกพา หรือเครื่องพ่นน้ำทำความสะอาดซอกฟัน

ประกอบไปด้วย หัวทำความสะอาด 2 อัน สายชาร์จ USB

ใช้สำหรับทำความสะอาดซอกฟัน ด้วยการใช้แรงดันน้ำ (สะดวกสำหรับพกพา, ชาร์จไฟได้ และกันน้ำ)

– ไหมขัดฟันใช้ทำความสะอาดเศษอาหารและคราบพลัคตามซอกฟัน

– ใช้งานง่ายและให้ความรู้สึกสะอาดล้ำลึก

– พลังน้ำสามารถปรับโหมดแรงดัน 3 ระดับ  (โหมดอ่อนโยน, ปกติ และแบบเป็นจังหวะ)

– ตัวเครื่องกันน้ำระดับ IPX7 หรือป้องกันน้ำเข้าภายในเมื่อแช่อุปกรณ์ลงน้ำความลึกสูงสุด 1 เมตร เป็นเวลาสูงสุด 30 นาที

– ขนาดจับพอดีมือ ง่ายสำหรับพกพาและเป็นอุปกรณ์ไร้สาย

ลดทั้งร้านสูงสุด 77% + โค้ดลดสูงสุด 2,500.-

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่:

https://shopee.co.th/colgatepalmolive_official

Tags

ซีอาร์จี

ซีอาร์จี เปิด “CRG Deaf Community พื้นที่สร้างสุข เพื่อคนไร้เสียง” ณ ร้านเคเอฟซี บ้านสีลม

บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) องค์กรที่สนับสนุนงานด้านคนพิการในระดับดีเยี่ยม ต่อเนื่องมานานกว่าทศวรรษ ตอกย้ำความเป็นองค์กรต้นแบบของการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน เดินหน้าสานต่อนโยบายการให้ความสำคัญของคุณค่าของแต่ละบุคคล ด้วยแนวคิดที่มุ่งเน้นการให้โอกาส และความเท่าเทียม เปิดตัวจุดนัดพบ “CRG Deaf Community พื้นที่สร้างสุข เพื่อคนไร้เสียง” ณ ร้าน เคเอฟซี สาขาบ้านสีลม

คุณจารุวรรณ งามพิสุทธิ์ไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคล เปิดเผยว่า ซีอาร์จีเล็งเห็นความสำคัญของคุณค่าของแต่ละบุคคล ด้วยแนวคิดที่มุ่งให้โอกาสในการเข้าทำงาน แด่เพื่อนผู้พิการให้สามารถดำรงชีพในสังคมไทย จึงได้ดำเนินงานตามนโยบายเพื่อส่งเสริมการจ้างงานคนพิการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน ซีอาร์จี มีการจ้างงานพนักงานคนพิการเกินกว่าโควต้าที่กฎหมายกำหนด ครอบคลุมทั้งในส่วนปฏิบัติงานหน้าร้าน และสำนักงานใหญ่ ซึ่งกลุ่มประเภทความพิการที่จ้างงานในปัจจุบันมี 4 ประเภท ประกอบด้วย ผู้มีความพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย, ทางการมองเห็น, ทางการเคลื่อนไหว หรือทางร่างกาย และทางสติปัญญา

ซีอาร์จี

ด้วยความมุ่งมั่นให้โอกาส และสร้างความเท่าเทียม สร้างอาชีพและพัฒนาศักยภาพคนพิการอย่างยั่งยืน เพราะเราเชื่อในศักยภาพของคนพิเศษ (ผู้พิการ) ว่าสามารถปฏิบัติงาน และก้าวข้ามข้อจำกัดทางร่างกายได้ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง สามารถดำรงชีพในสังคมได้อย่างมีความสุขอย่างมีเกียรติ และมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ผ่านโครงการที่จัดขึ้นตาม Employee Journey เพื่อสนับสนุนพนักงานคนพิเศษภายในองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ

  • การพัฒนาระบบการสรรหาและคัดเลือกพนักงานคนพิการโดยใช้ AI Chatbot นวัตกรรมใหม่ ในการสื่อสารกับผู้สมัคร ในชื่อของ NooYim CRG (หนูยิ้ม CRG)
  • กิจกรรมสัมพันธ์สำหรับพนักงานกลุ่มพิเศษ
  • กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงานกลุ่มพิเศษ
  • การอบรมพัฒนาศักยภาพของพนักงานคนพิการ ผ่านระบบ E-Learning Management System
  • การให้โอกาสเติบโตก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงานทุกคนอย่างเสมอภาค
  • การจัดให้มีล่ามภาษามือในการประชุมต่างๆ เพื่อให้พนักงานคนพิเศษได้มีส่วนร่วมในการประชุม และเข้าใจทิศทางธุรกิจและวัตถุประสงค์ในการทำงานมากขึ้น
  • การจัดระบบพี่เลี้ยงคอยดูแลเพื่อสอนงาน และแนะนำเรื่องการปรับตัว การอยู่ร่วมกันในสถานที่ทำงาน
  • การส่งพนักงานปกติเข้าอบรมภาษามือ และมีการคลิปวิดีโอสอนภาษามือออนไลน์ เพื่อใช้ในการสื่อสารกับพนักงานกลุ่มพิเศษ ให้เค้ามีสังคมและสามารถทำงานร่วมกับพนักงานปกติได้อย่างมีความสุข

ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ ซีอาร์จีได้รับรางวัลองค์กรที่สนับสนุนงานด้านคนพิการดีเด่น 9 ปี ติดต่อกัน ซึ่งไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น ซีอาร์จี ยังเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด ด้วยการเปิดจุดนับพบ “CRG Deaf Community พื้นที่สร้างสุข เพื่อคนไร้เสียง” ณ ร้าน เคเอฟซี สาขาบ้านสีลม ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะให้เป็นพื้นที่สร้างความสุข ความผ่อนคลายให้กับพนักงานพิเศษ ผู้บกพร่องทางการได้ยิน ทั้งที่เป็นพนักงานขององค์กรเอง และบุคคลภายนอก ได้ใช้เป็นสถานที่พบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ ของ ซีอาร์จี ต่อยอดเป็นการสร้างโอกาสในการส่งเสริมอาชีพให้กับบุคคลอื่น ให้ได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับ ซีอาร์จี ได้อีกทางหนึ่ง

ภายใน  “CRG Deaf Community พื้นที่สร้างสุข เพื่อคนไร้เสียง” จะมีมุมต่าง ๆ และกิจกรรมพิเศษที่จะจัดขึ้นในทุกเดือน เช่น  Learning Corner จุดบริการเรียนรู้ด้วยตนเอง รวมไปถึงการศึกษาค้นคว้าอื่น ๆ บนอินเทอร์เน็ต, Plearn Corner กิจกรรมกลุ่มที่จะทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ ฝึกสมอง และสนุกกับบอร์ดเกมส์ต่าง ๆ, CRG Fine Day กิจกรรมพิเศษในการส่งเสริมการสร้างอาชีพให้กับทุกคน  สลับสับเปลี่ยนมาตลอด เช่น การสอนทำคัพเค้ก การทำวุ้น การทำลูกชุบ และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึง Career @ CRG ที่จะรวบรวมตำแหน่งงานว่าง ภายใน CRG และบริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล ที่ผู้พิการสามารถสมัครงานง่าย ๆ เพียงแอดไลน์ เท่านั้น

โดยในช่วงแรกจะเปิดให้บริการทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 21.00 น. สำหรับผู้พิการทางการได้ยินที่เข้ามาใช้บริการ เพียงแสดงบัตรผู้พิการ และลงทะเบียน จะได้รับส่วนลด 15% ในการซื้อสินค้าทันที

“ซีอาร์จี พร้อมให้โอกาสกับบุคคลทุกกลุ่ม ด้วยเราเล็งเห็นถึงความสำคัญของความเท่าเทียมของทุกคน เพราะนี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การดูแลพนักงานในองค์กรของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นการร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้แก่สังคม เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข ซึ่งจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมาย พร้อมกับสามารถสร้างประโยชน์ต่อสังคมได้ต่อไป” คุณจารุวรรณ กล่าวในตอนท้าย

Tags

โรงเรียนนวพัฒน์วิทยา โรงเรียนพื้นที่เล็กๆ แต่คุณภาพล้นแก้ว

“Education is one thing no one can take away from you.”

การศึกษาเป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครนำไปจากคุณได้

โรงเรียนที่มีพื้นที่ไม่มาก แต่คุณภาพนั้นแน่นจนล้นออกมาจากแก้ว… โรงเรียนนวพัฒน์วิทยา โรงเรียนดีๆที่วันนี้ School Visit จะเราอยากพาทุกคนมาเยี่ยมชม โรงเรียนนวพัฒน์วิทยาเปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยยึดหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย และหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีนโยบายที่มุ่งเน้นให้นักเรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ตามศักยภาพเพื่อมีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ด้วยมาตรฐานใหม่ระดับสากล การจัดการเรียนรู้เน้นการจัดการเรียนการสอนตามสภาพจริง ด้วยการเรียนรู้ด้วยตนเองร่วมกัน และการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง โดยมีการบูรณาการคุณธรรมควบคู่กันในวิธีการเรียนการสอน

บรรยากาศยามเช้าของโรงเรียน

ชั้นเรียน English Program กับคุณครูชาวต่างชาติรุ่นใหม่

พื้นที่ของโรงเรียนที่มีไม่มาก แต่ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า

สนามใจกลางโรงเรียนเชื่อมระหว่างอาคารอนุบาล โรงอาหาร และอาคารประถม

 

A very good curriculum หลักสูตรทันสมัยโดยผู้บริหารรุ่นใหม่

สิ่งที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของโรงเรียนนวพัฒน์วิทยา คือคุณภาพของครูผู้สอน หลักสูตร English Program ของทางโรงเรียนได้รับการออกแบบโดย อาจารย์ Bradley Welsh – Executive Head of School ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้าน Education with Special and Inclusive Needs (เกียรตินิยม) จาก Liverpool John Moore University วิชาหลักที่สอนโดยครูเจ้าของภาษา ได้แก่ วิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปะ Science Project วิชาวรรณกรรม และพลศึกษา คุณครูที่เป็น Native Speaker จะมีความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษา และสามารถมอบประสบการณ์ทั้งการเรียนรู้ด้านภาษา วัฒนธรรมทักษะการสื่อสาร และสร้างปฏิสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพให้กับนักเรียน

ชั้นเรียนคุณครูต่างชาติ เมื่อคุณครูมีความเป็นกันเอง ความสบายใจจะทำให้เด็กๆมีความกล้าที่จะสื่อสาร

 

Mathematics and Science เรียนทั้งภาษาไทยและอังกฤษ

โรงเรียนสอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เด็กๆ จะได้เรียนทั้งตำราไทยเพื่อให้ “รู้ลึก” ถึงเนื้อหาและคำศัพท์ทางเทคนิค ในขณะที่ตำราต่างประเทศจะทำให้เด็กๆ “เข้าใจ” ถึง Concept เป็นประโยชน์ต่อการไปเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาทั้งหลักสูตรปกติ หลักสูตรสองภาษา หรือแม้กระทั่งการศึกษาต่อต่างประเทศ ซึ่งการมีรากฐานในด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่งจะป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาทักษะการคิดและการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ

คณิตศาสตร์ คลาสที่เรียนกับ Teacher จะใช้การเรียนการสอนแบบประเทศอังกฤษ Teacher ใช้ Play-Based Teaching Materials ได้แก่ Numicon เป็นสื่อที่ทำให้ตัวเลขเป็นสิ่งที่จับต้องได้ สร้างความเข้าใจให้เป็นรูปธรรม การมองเห็นได้ด้วยตาดีกว่าการท่องจำตัวเลข เพราะการจดจำของมนุษย์ 85% มักมาจากการมองเห็นและสัมผัสได้

วิทยาศาสตร์ เด็กๆ จะเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่สถานการณ์สมมุติ เป็นการทำให้เด็กๆเข้าใจ ที่มา-ที่ไป ของสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ (Understanding of the World)

สื่อการเรียนจาก OXFORD “NUMICON” การสร้างให้คณิตศาสตร์สนุก สัมผัส เหมือนการเล่นเกมส์ พร้อมหนังสือเรียนจากต่างประเทศ

วิทยาศาสตร์ภาคภาษาไทย ยิ่งลงมือทำ ยิ่งเข้าใจถ่องแท้

 

EAL ภาษาอังกฤษคือจุดขาย!

English as an Additional Language หรือ EAL คือ การเรียนอังกฤษเป็นภาษาเพิ่มเติม (สำหรับเด็กๆ ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่) ใช้หลักสูตรเดียวกันกับโรงเรียนนานาชาติ เด็กๆจะเรียนรู้ภายใต้บรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่สนุกสนานที่ใช้เพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น เรียนแบบโฟนิคส์ (Phonics) ซึ่งการเรียนภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติ ทำให้เด็กๆสื่อสารภาษาอังกฤษได้ชัดเจนและสามารถอ่าน เขียน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสะกดคำศัพท์ต่างๆได้ด้วยตัวเองจากการรู้จักเสียงของตัวอักษรและเข้าใจหลักการผสมเสียง หนังสือเรียนและแบบฝึกหัดนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อให้เด็กๆได้ความรู้นอกเหนือจากหัวข้อของกระทรวงศึกษาธิการกำหนดและสอดคล้องกับหลักสูตรของประเทศอังกฤษ กิจกรรม วิชาการ ความสนุก ความสุข ครบครัน

ชั้นเรียนภาษาอังกฤษของน้อง ป.1 แบ่งกลุ่มทำกิจกรรมหลากหลาย คุณครูดีไซน์กิจกรรมให้เหมาะสมสำหรับแต่ละชั้น เพราะคุณครูเป็นกันเองเมื่อสงสัยเด็กๆจึงไม่กลัวที่จะถาม

 

STEM

โรงเรียนนวพัฒน์วิทยา ใช้การศึกษาแบบองค์รวมบูรณาการ 4 ศาสตร์ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์เข้าด้วยกัน สร้างทักษะการคิด วิเคราะห์และความเป็นเหตุเป็นผล ยิ่งกว่าความรู้คือการส่งเสริม School Community พี่สอนน้อง น้องเรียนรู้จากพี่

สัปดาห์นี้ คุณครูให้เด็กมองลึกเข้าไปในดอกกล้วยไม้แล้วสร้างสรรค์ผลงาน เด็กๆจะต้องใช้สมาธิ สังเกต จดจำ ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพตามแบบฉบับของตัวเอง เด็กๆจะได้คำศัพท์ รูปประโยค บทสนทนาใหม่ๆในแนวศิลปะ

รายวิชาที่เรียนเป็นภาษาไทย

 

School Safeguarding การคุ้มครองและปกป้องเด็กในโรงเรียน

โรงเรียนนวพัฒน์วิทยาใช้นโยบายการปกป้องคุ้มครองของนักเรียนแบบที่ใช้ในประเทศอังกฤษ คุณครูในแต่ละโรงเรียนจะต้องเข้าอบรมกับตำรวจ เป็นข้อกำหนดที่ทางโรงเรียนต้องให้ความสำคัญ School Safegurading มีหน้าที่ทำการคุ้มครอง และสนับสนุนสวัสดิภาพของเด็กนักเรียน

ปกป้องเด็กจากการถูกทำร้าย ทางร่างกาย หรือ จิตใจ ทั้งจากที่บ้านและโรงเรียน

ป้องกันการเสียสุขภาพหรือพัฒนาการของเด็ก ผ่านสังเกต ประเมิน และการรายงานสุขภาพ-ร่างกาย

รับรองว่าเด็กๆได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยภายใต้การดูแลของโรงเรียนที่มีประสิทธิภาพ

เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนทำหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองเด็ก พิจารณาแยกแยะในระบบตั้งแต่เริ่มต้น และป้องกันเพื่อไม่ให้มีปัญหาบานปลาย

เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องได้รับการฝึกอบรมเรื่องการคุ้มครองและปกป้องเด็กในโรงเรียน มีการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ทุกๆ 6 สัปดาห์ หรือที่เรียกว่า Continuing Professional Development (CDP)

 

นอกจากนี้ทางโรงเรียนนวพัฒน์วิทยาให้ความสำคัญในการจัดสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้โดยรวม เพื่อยกระดับประสบการณ์การเรียนรู้ในทุกวิชา สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เหมาะสมมีส่วนช่วยอย่างมากต่อการพัฒนาการด้านวิชาการ และสุขภาพกายสุขภาพใจ

 

Evaluation การวัดผล

โรงเรียนวัดผลโดยผ่านการเก็บคะแนนตามที่คุณครูกำหนด (ยกเลิกการสอบมิดเทอม) และมีสอบปลายภาคแค่ครั้งเดียว เด็กๆจะได้ไปสอบวัดผล National Test (NT) เพื่อประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการสอบ Ordinary National Education Test (O-NET) เพราะช่วง ประถม4-6 เด็กๆจะต้องไปต่อชั้นมัธยม ซึ่งเด็กๆนวพัฒน์สามารถสอบเข้ามัธยมโรงเรียนรัฐบาลที่มีชื่อเสียงได้เป็นจำนวนมาก

Mr. Bradley Welsh – Executive Head of School Education with Special and Inclusive Needs (Honor)

Liverpool John Moore University U.K.

 

Mommy’s Love This ถูกใจแม่

พื้นฐานวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โดดเด่น เน้น 2 ภาษา 2 ตำรา ความรู้และ concept จัดแน่น แม่ๆไม่ต้องกังวลเมื่อลูกๆต้องไปสอบเข้าชั้นมัธยมศึกษา

กิจกรรมหลังเลิกเรียน ทั้งเสริมทักษะ สร้างความสามารถ เลือกลงเรียนได้ระหว่างรอผู้ปกครองมารับกลับบ้าน

คลาสเรียนที่ใช่ คุณครูแต่ละท่านจะออกแบบกิจกรรมเองโดยสังเกตจากความชอบของเด็กๆในชั้นที่แต่ละท่านดูแล

วิชาอะไรก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะทางโรงเรียนพยายามทำให้เป็นรูปธรรม จับต้องได้ เด็กๆเรียนรู้อย่างเข้าใจถ่องแท้

ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ไม่เคยมีใครถูกละทิ้ง เพราะโรงเรียนมี Safeguarding

Strong School Community ชั้นเรียนไม่หนาแน่น โรงเรียนมีขนาดพอดี ดังนั้นเด็กๆแต่ละชั้นปีจะพบเจอ คุ้นชินกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน รู้จักกัน สร้างสัมพันธ์กันได้อย่างดี

อัตราค่าเล่าเรียน ระดับชั้น

ประถมศึกษาปีที่ 1-6 (โดยประมาณการ)

English Program

ค่าแรกเข้า 3,000 บาท

ค่าธรรมเนียมการศึกษา 42,000 บาท /เทอม

ค่าหนังสือ 10,000 บาท /ปี

ค่าเครื่องแบบนักเรียน 2,500 บาท

ค่าเรียนคอมพิวเตอร์ 3,200 บาท /ปี

 

ที่อยู่

โรงเรียนนวพัฒน์วิทยา

82/849 หมู่บ้านซีเมนต์ไทย ซอย 7 ถนนประชาชื่น

แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

ติดต่อ

โทรศัพท์ : 02-587-3243 / 097-289-0670 Fax. 0-2587-3243

E-mail : [email protected]

Facebook : โรงเรียนนวพัฒน์วิทยา

Line : nawaphat_school

 

Editor : แม่พลอยผิง

ภาพ : ธนายุต วิลาทัน ,ภาณุ พิมพิลา

คิซโทเปีย (Kiztopia) ต้อนรับความสนุกและจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดกับสวนสนุกในร่มชื่อดังส่งตรงจากสิงคโปร์ เปิดให้บริการครั้งแรกในไทยแล้ว

คิซโทเปีย (Kiztopia) ต้อนรับความสนุกและจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดกับสวนสนุกในร่มชื่อดังส่งตรงจากสิงคโปร์ พร้อมเปิดให้บริการครั้งแรกในไทยแล้ว

 คิซโทเปีย (Kiztopia) ศูนย์รวมความบันเทิงสำหรับเด็กขนาดใหญ่ระดับพรีเมียมจากสิงคโปร์ เพื่อการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ พร้อมให้บริการแล้ววันนี้กับสาขาแฟล็กชิปแห่งแรกในเมืองไทยที่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ (Central Westville) ใจกลางย่านราชพฤกษ์ การเปิดตัวในประเทศไทยครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของคิซโทเปียที่ขยายพื้นที่พิเศษให้เด็ก ๆ ได้ปลดปล่อยพลังแห่งความสร้างสรรค์ และฝึกทักษะทางสังคม อารมณ์ และการเคลื่อนไหวผ่านการเล่นอย่างมีจุดมุ่งหมายในปัจจุบัน พร้อมมอบประสบการณ์ครบวงจรที่ทั้งครอบครัวสามารถใช้เวลาร่วมกันได้อย่างไม่รู้จบ ผสานทั้งการเล่น การเรียนรู้ สร้างความผูกพัน และอิ่มอร่อยไปกับร้านอาหารที่รวมไว้ในที่เดียวกัน เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของเวลาอันมีค่าและความสัมพันธ์อันอบอุ่น

ด้วยพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตร และอีก 16 โซนพร้อมเครื่องเล่นที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับพัฒนาการแบบองค์รวมของเด็ก ๆ ผ่านการนำเสนอการเรียนรู้และความสนุกที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นสไลเดอร์สูง 2 ชั้นอันน่าตื่นเต้นที่พร้อมสูบฉีดอะดรีนาลีน, บ้านบอลขนาดใหญ่, สนามกีดขวางและโซนเอ็กซ์ตรีมสุดท้าทาย, กระโดดเพลินกันบนแทรมโพลีนที่สนุกเกินห้ามใจ รวมไปถึงโซน interactive ที่มีบทบาทสมมติให้เด็ก ๆ ได้ลองเล่น และอื่น ๆ อีกมากมาย

คุณไฮดี้ เธียน, ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, คิซโทเปีย กล่าวว่า “ที่คิซโทเปีย เราเชื่อว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการเรียนรู้ผ่านการเล่น เราจึงออกแบบและสนับสนุนกิจกรรมรวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและต่อเด็ก ๆ เราต้องการให้ทุกครอบครัวในเอเชียแปซิฟิกรู้จักและเข้าถึงแบรนด์ของเรา โดยประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งในแผนขยายธุรกิจของเราตั้งแต่เริ่มแรก ด้วยวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของครอบครัวไทย ที่มีความผูกพันแน่นแฟ้นและมักใช้เวลาร่วมกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งตรงกับเป้าหมายหลักของเราที่ต้องการเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความบันเทิงที่สนุกได้ทั้งครอบครัว” พร้อมกล่าวเสริม “ในยุคที่ทุกอย่างพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เด็ก ๆ จะต้องเตรียมทักษะให้พร้อมสำหรับอนาคต ที่ความรู้ใหม่ ๆ และการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา คิซโทเปียมุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางที่จะช่วยสร้างสรรค์ความบันเทิงของการเล่นแบบครบวงจร พร้อมยกระดับประสบการณ์แห่งการเรียนรู้ให้มาบรรจบกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยฝึกฝนพัฒนาการในทุก ๆ ด้านของเด็ก ๆ แล้ว ยังช่วยสร้างความผูกพันและช่วงเวลาอันน่าจดจำในครอบครัวอีกด้วย”

คิซโทเปีย ก่อตั้งขึ้นที่สิงคโปร์ ตั้งแต่ปี 2019 และมีชื่อเสียงในฐานะแบรนด์เพื่อความบันเทิงในครอบครัว ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศการเล่นที่สนุกสนานและเปี่ยมไปด้วยความหมาย ภายใต้คอนเซปต์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์คือ “เล่นเพื่อเรียนรู้ เรียนรู้ผ่านการเล่น” โดยมีเครื่องหมายการันตีมาตรฐานด้วยรางวัล “ประสบการณ์สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด (Best Attraction Experience)” จาก Singapore Tourism Awards ประจำปี 2021

สวรรค์แห่งความบันเทิงเพื่อคุณหนู ๆ แห่งนี้มีคาแรคเตอร์หลักเป็นสัตว์ทั้งหมด 8 ชนิด ที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ของแบรนด์คิซโทเปีย โดยตัวละครทั้ง 8 จะคอยสร้างสีสันและเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็น เชฟหมี Bell, Tiger นักกีฬาจอมพลัง, Happy ฮิปโปสาวนักเต้น, Eli วิศวกรช้างมือหนึ่ง, คุณครูกระต่ายสาว Raby, Mark เจ้าจ๋อนักวิทยาศาสตร์, Honey ผึ้งน้อยเสียงหวาน และ Drago พี่มังกรนักข่าวแสนฉลาด

ผองเพื่อนรักทั้ง 8 จะพาเด็ก ๆ เดินทางไปสู่ดินแดนยูโทเปีย ซึ่งดีไซน์มาเพื่อตอบโจทย์การเล่นด้วยทักษะต่าง ๆ ทั้งการเคลื่อนไหว การสื่อสาร และการเข้าสังคม ให้เด็ก ๆ ได้ใช้จินตนาการและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ผ่านสิ่งแวดล้อมรอบตัว พร้อมกำหนดนิยามใหม่ของสนามเด็กเล่นในร่มในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร กับพื้นที่เล่นทั้งหมด 16 โซน ดังนี้

ดินแดนของพี่มังกร Drago: สนุกสุดเหวี่ยงกันอย่างเต็มที่ไปกับปราสาทเด้งดึ๋งแห่งใหม่ของพี่มังกร Drago

สถานีรถไฟสุดหรรษาของ Eli: กระโดดขึ้นรถไฟของ Eli พร้อมออกเดินทางสู่การผจญภัยที่รออยู่ข้างหน้า อย่ารอช้าที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก!

สนามแข่งรถ อารีน่าของ Tiger: ให้เหล่านักซิ่งตัวน้อยขี่รถมินิไบค์คันโปรดที่ Tiger’s Arena และเพลิดเพลินไปกับการขับรถบน”ถนน” อย่าลืมแวะเติมน้ำมันที่ “ปั๊มน้ำมัน” ตรงมุมถนนนะ!

โซนนักรบนินจา: กับหลักสูตรพิเศษและอุปสรรคสิ่งกีดขวาง ที่ช่วยให้เด็ก ๆ พัฒนาความมั่นใจ ความมุ่งมั่น ความคล่องตัว และความแข็งแกร่ง! เหมาะสำหรับนักผจญภัยรุ่นเยาว์และเหล่านินจาตัวจิ่ว!

Tiger’s Mojo Zone: ค้นหาความสนุกไม่รู้จบกับพื้นที่เล่นที่เอ็กซ์ตรีมที่สุดในสวนสนุกแห่งนี้ ซึ่งมี การเล่นทั้งหมด 4 ระดับและยังรวมกิจกรรมอันแสนตื่นเต้นเร้าใจที่จะทำให้อะดรีนาลีนสูบฉีด! ไม่ว่าจะเป็นสไลเดอร์ขนาดยักษ์ รวมพลสิ่งกีดขวาง การปีนหน้าผา แทรมโพลีนเด้งดึ๋ง โซนดนตรี ชิงช้า และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยแต่ละระดับจะให้น้อง ๆ หนู ๆ ได้เปิดประสบการณ์ความสนุกไร้ขีดจำกัดในสนามเด็กเล่นสุดมันส์ของ Tiger!

กระโดดไปบนแทรมโพลีน ของ Mark: ตามเจ้าจ๋อนักวิทยาศาสตร์ไปเปิดประสบการณ์ความสนุกเหนือแรงโน้มถ่วงบนแทรมโพลีนสุดเพลิดเพลิน โดยเด็ก ๆ จะได้ปลดปล่อยพลังผ่านการกระโดด พร้อมกับทดสอบความคล่องตัว (น้ำหนักของผู้เล่นไม่ควรเกิน 40 กิโลกรัม)

โซนบ่อทรายแสนสนุก ของ Eli: ปล่อยให้จินตนาการและความสร้างสรรค์ของคุณหนู ๆ โลดแล่นออกมาบนบ่อทรายของ Eli พี่ช้างตัวเบิ้ม ที่พวกเขาจะสามารถขุด ปั้น เล่น สร้างปราสาท”ทราย” ของตัวเอง หรือแม้แต่กลิ้งไปมาบนพื้นทรายได้แม้ยามฝนจะตกหรือแดดออกก็ตาม!

Raby’s Mart: ซูเปอร์มาร์เก็ตที่จำลองสำหรับเด็ก ให้คุณหนู ๆ ได้ปลดปล่อยจินตนาการไปกับการเล่นบทบาทสมมติ ที่จะช่วยพัฒนาทักษะทางสังคมและการเรียนรู้คณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานไปกับคุณครูกระต่ายสาว Raby! เด็ก ๆ สามารถเล่นเป็นนักช้อปตัวจิ๋วที่กำลังเดินเล่นซื้อของในซูเปอร์มาเก็ตที่มีสินค้าครบครัน หรือจะเป็นพนักงานแคชเชียร์ที่เคาน์เตอร์ชำระเงินก็ได้เช่นกัน!

Raby’s Clinic: ช่วยคุณครูกระต่ายสาวกอบกู้โลกไปพร้อม ๆ กัน ที่คลินิคของ Raby คุณหนู ๆ จะได้ฝึกทักษะเป็นแพทย์ตัวน้อย ผ่านการช่วยรักษาและปลอบโยนเหล่า “ผู้ป่วยสัตว์น้อยใหญ่” รวมไปถึงการทดลองวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยด้วยใช้รังสีเอกซ์และกราฟระบุโรค

ฟาร์มของ Honey: สวมบทบาทเจ้าของฟาร์มแบบเต็มขั้นไปกับผึ้งน้อย Honey ที่ซึ่งเด็ก ๆ จะได้ลองเรียนรู้ทั้งการรีดนมวัว การเก็บพืชผล และการปลูกเมล็ดพันธุ์ รวมทั้งผูกมิตรกับผืนดิน ธรรมชาติ และเพลิดเพลินไปกับการเฝ้าดูสิ่งต่าง ๆ เจริญเติบโต!

ร้านอาหารของเชฟ Bell: คลาสเข้าครัวกับเชฟหมี Bell และเรียนรู้วิธีการทำอาหารแบบง่าย ๆ เสริมทักษะการสื่อสาร และร่วมมือกันทำงาน! หนู ๆ จะได้เรียนรู้ตั้งแต่อุปกรณ์ทำครัว เตาอบ ไปจนถึงเครื่องทำขนมปัง หรือแม้แต่ส่วนผสมในจานเด็ดของเชฟหมี Bell ในโซนนี้มีทุกสิ่งครบครันพร้อมสำหรับเชฟตัวจิ๋ว!

โซนต่อบล็อกของ Mark: ยกระดับความคิดสร้างสรรค์ไปกับเจ้าจ๋อนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่นชอบการคิดค้นสิ่งใหม่เป็นที่สุด ผ่านการทดลองประดิษฐ์ต่อบล็อคให้เป็นสิ่งต่าง ๆ ไปด้วยกัน

Happy’s Studio: สำหรับคุณหนู ๆ ที่รักสวยรักงามและชื่นชอบการแต่งหน้าทำผม บอกเลยว่าไม่ควรพลาดกับ Happy’s Studio! เพราะในโซนนี้ทุกคนจะได้เล่นแต่งตัวกับเสื้อผ้าสุดน่ารักหลากหลายสไตล์ กับ Happy ฮิปโปสาวนักเต้นบัลเลต์ ให้เด็ก ๆ สำรวจความงามจากภายในและสร้างความมั่นใจในตัวเองไปพร้อมกัน

คราฟท์โซนของพี่มังกร Drago: ปลดปล่อยพลังแห่งจินตนาการที่คราฟท์โซนส่วนตัวที่พี่ Drago จัดกิจกรรมศิลปะและงานฝีมือไว้อย่างเต็มเปี่ยมสำหรับน้อง ๆ โดยเฉพาะ นอกจากนี้ทั้งครอบครัวยังจะได้กระชับสายสัมพันธ์ระหว่างกันเพื่อเตรียมพร้อมลงมือและครีเอทผลงานอันยอดเยี่ยม!

Bell’s Café: เหนื่อยกันแล้วหรือยัง? มาแวะพักเติมพลังที่ คาเฟ่เชฟหมี Bell ที่พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มเมนูพิเศษ และของว่างแสนอร่อยให้ทุกคน ก่อนที่จะกลับไปสนุกกันต่อ!

Hero Square: ชมการแสดงและพบปะเหล่าคาแรคเตอร์สุดน่ารักจากคิซโทเปีย และเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้สุดพิเศษได้ที่ Hero Square! ห้ามพลาดกับเซอร์ไพรส์จาก เบล ที่จะมาทักทายแฟน ๆ และมอบเสียงหัวเราะให้กับทุกคน

รายละเอียดชั่วโมงแห่งความสนุก มีดังนี้

บัตรผ่านแบบรายครั้ง ชั่วโมงแห่งความสนุก
1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง
นักผจญภัยตัวจิ๋ว (เด็กเล็กที่มีส่วนสูงระหว่าง 65-80 ซ.ม.) ฟรี 120 บาท 140 บาท
นักผจญภัยรุ่นจูเนียร์(เด็กที่มีส่วนสูงมากกว่า 81 ซ.ม. ขึ้นไป) 360 บาท 420 บาท 470 บาท
ผู้ปกครอง/ ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป 160 บาท 160 บาท 180 บาท
หมายเหตุ

–       เด็กที่อายุต่ำกว่า 7 ปี จำเป็นต้องมีผู้ใหญ่ดูแลอย่างน้อย 1 คน

–       ผู้สูงอายุ (ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี) สามารถเข้าฟรี หากมากับผู้เล่นที่ซื้อบัตรจำนวน 1 ท่าน

 

บัตรผ่านแบบ Multi pass ชั่วโมงแห่งความสนุก สิทธิประโยชน์
2 ชั่วโมง
บัตรผ่านสำหรับ 10 ครั้ง

(สำหรับนักผจญภัยรุ่นจูเนียร์ 1 ท่าน กับ ผู้ปกครอง 1 ท่าน)

5,200 บาท – รับฟรี ถุงเท้าสุดน่ารักจำนวน 2 คู่ ทันที

– รับส่วนลด 10 % เมื่อใช้บริการที่คิซโท
เปียคาเฟ่

– รับส่วนลด 10 % เมื่อใช้บริการที่ร้านขาย
ของที่ระลึกคิซโทเปีย

บัตรผ่านรายปี

(สำหรับนักผจญภัยรุ่นจูเนียร์ 1 ท่าน กับ ผู้ปกครอง 1 ท่าน)

9,300 บาท – รับฟรีเซตของขวัญสุดน่ารัก ทันที

– รับส่วนลด 10 % เมื่อใช้บริการที่คิซโท
เปียคาเฟ่

– รับส่วนลด 10 % เมื่อใช้บริการที่ร้านขาย-
ของที่ระลึกคิซโทเปีย

– รับส่วนลด 10 % เมื่อซื้อแพคเกจปาร์ตี้วัน
เกิด

หมายเหตุ:

ผู้เล่นทุกคนจำเป็นต้องสวมถุงเท้าเมื่อเข้าไปภายในสวนสนุก โดยราคาบัตรผ่านประตูจะไม่รวมค่าถุงเท้า

 

สถานที่:             เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ ชั้น 3

เวลาเปิดบริการ:   วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 – 20.00 น

วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 21.00 น.

Website:               https://www.kiztopia.co.th

Facebook:            https://www.facebook.com/kiztopiath/

Instagram:           @kiztopiath

LINE Official:       @kiztopiath

Official Hashtags: #KiztopiaTH และ #KiztopiaCentralWestville

 

# # #

 

เกี่ยวกับ Kiztopia

คิซโทเปีย (Kiztopia) ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 โดยตั้งอยู่ที่ Marina Square เป็นสนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ ที่ได้รับรางวัล “Best Attraction Experience” จาก Singapore Tourism Awards ในปี 2021 โดยได้รับอนุญาตการจดทะเบียนสัญลักษณ์ตัวการ์ตูนคาแรคเตอร์ทั้ง 8 อย่างเป็นทางการเพื่อพื้นที่เล่นคิซโทเปียโดยเฉพาะ สวนสนุกในร่มแห่งนี้เปรียบเหมือนสวรรค์สำหรับการเล่นของเด็ก ๆ ผ่านการนำเสนอทั้งโปรแกรมและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ปรับแต่งเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กแบบองค์รวม พร้อมมอบสภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมตลอดการ “เล่นเพื่อเรียนรู้ เรียนรู้ผ่านการเล่น” ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kiztopia.com

วิชัยเวชฯอ้อมน้อย

มหกรรมสุขภาพ แพ็กเกจตรวจสุขภาพลดกว่า 75% ที่ รพ.วิชัยเวชฯอ้อมน้อย ตรวจสุขภาพเบื้องต้นฟรี!

รพ. วิชัยเวชฯอ้อมน้อย ฉลองครบรอบ 30 ปี รพ.พบกับมหกรรมสุขภาพ แพ็กเกจตรวจสุขภาพลดกว่า 75% ตรวจสุขภาพเบื้องต้นฟรี

-ตรวจสุขภาพทั่วไป
-ตรวจสุขภาพหลอดเลือด
-ตรวจวิเคราะห์​ DNA
-ตรวจความสมดุลของร่างกาย ผลิตภัณฑ์ดีดีพลัส

-บูทผลิตภัณฑ์แอนลีน

และร่วมฟังเสวนาเพื่อสุขภาพ ฟรีทุกวัน ร่วมช้อปสินค้าราคาพิเศษ

วิชัยเวชฯ​อ้อมน้อย

พบกันวันที่ 15-17 ธันวาคม 2566
ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น.
ณ ศูนย์อายุรกรรม รพ. วิชัยเวชฯอ้อมน้อย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 02-441-7899 หรือ 1792

ข้อมูลเพิ่มเติม https://vichaivej-omnoi.com/

Tags

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

พาทัวร์! โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนสตรีประจำและโรงเรียนอนุบาลแห่งแรกของประเทศไทย

School Visit ครั้งนี้ จะพามาเยี่ยมชม โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนสตรีประจำและโรงเรียนอนุบาลแห่งแรกของประเทศไทย แรกเริ่มมีชื่อว่า โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง มีจุดมุ่งหมายการเรียนการสอนด้านการอ่านเขียน การศึกษาคริสตจริยธรรม และวิชาเย็บปักถักร้อย ซึ่งเป็นวิชาสำหรับกุลสตรีสมัยนั้น  จนกระทั่งปี พ.ศ. 2464 (ค.ศ. 1921) กิจการของโรงเรียนเจริญเติบโตขึ้นมากทำให้สถานที่ตั้งโรงเรียนเดิมไม่สามารถรองรับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นได้ มิสเอ็ดน่า เซร่ะ โคล์ ครูใหญ่ในขณะนั้นได้ย้ายโรงเรียนมาอยู่ในสถานที่ปัจจุบันและเปลี่ยนชื่อเป็น “วัฒนาวิทยาลัย” ณ “ทุ่งบางกะปิ” ในขณะนั้น (ซึ่งในปัจจุบันคือ เขตวัฒนา)

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

อาคารภายในโรงเรียนผสมผสานสถาปัตยกรรมและภูมิปัญญาแบบไทย

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

ปัจจุบันโรงเรียนวัฒนา เปิดรับนักเรียนชาย เฉพาะชั้นอนุบาล แต่ระดับชั้นประถม-ชั้นมัธยมศึกษา ยังคงเป็นหญิงล้วน

 

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย เป็นโรงเรียนสตรีภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เปิดสอนระดับปฐมวัยถึงระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน รับนักเรียนไป-กลับ ในระดับปฐมวัยถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 และนักเรียนประจำในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6  และปัจจุบันทางโรงเรียนเปิดรับนักเรียนชายเฉพาะชั้นอนุบาลเท่านั้น

 

วัฒนาวิทยาลัย ในศตวรรษที่ 21

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย เอาใจใส่เด็กๆ ทั้ง 3 ระดับ ตามช่วงวัย (อนุบาล, ประถม และมัธยม) ผ่านการปลูกฝัง Wattana Characters ทั้ง 7 ประการ ให้เข้มแข็ง  ดูแลด้านอารมณ์และจิตใจ (Soft Skills) ผ่านหลักสูตรคริสตจริยธรรมและนำมาปรับให้เข้ากับการสอนในห้องเรียน ฝึกให้เด็กๆเป็นผู้นำให้เด็กๆวางแผนจัดกิจกรรมต่างๆด้วยตัวเอง เน้นกระบวนการการคิด และกระบวนพัฒนาการคิดชั้นสูง (ปรับมาจากระบบของประเทศญี่ปุ่น) เพื่อพัฒนากระบวนการการคิดของเด็กๆ โดยฝึกให้เด็กลงมือปฏิบัติ อย่างต่อเนื่อง จนเกิดสมรรถนะ และนำสู่บทเรียนด้วยการใช้คลิปวิดีโอ การตั้งคำถาม ชักชวนให้เด็กๆคิด ทางโรงเรียนมีสื่อการสอนและเทคโนโลยีครบครัน และยังใส่ใจในการหล่อหลอมการหยั่งรู้  รู้คิด การตัดสินใจ ให้แก่เด็กๆ เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยยังพัฒนาครูในชุมชนการเรียนรู้ เป็นการระดมความคิดเพื่อช่วยพัฒนาและเติมเต็มประสิทธิภาพให้การสอนให้แก่คุณครูที่เข้าร่วมโครงการ Professional Learning Community (PLC) ด้วยการนิเทศการสอน การเยี่ยมชั้นเรียนของผู้บริหาร ให้เกิดกระบวนการสะท้อนกลับความคิด เพื่อสร้างให้เกิดชั้นเรียนที่มีประสิทธิภาพ นำไปสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ

 

7 Wattana Characters : Bible – Based

อัตลักษณ์ 7 ประการ ที่เด็กๆทุกคนในโรงเรียนจะได้รับการปลูกฝัง ทุกยุคทุกสมัย ลูกสาวทุกรุ่นของวัฒนาฯ ต่างก็ประพฤติตนได้อย่างเหมาะสม ด้วยบุคลิกแบบ ”วัฒนา” สร้างความประทับใจจากรุ่นสู่รุ่น ส่งต่อกันมา อัตลักษณ์อันดีงามทั้ง 7 ประการนี้ คือ สิ่งที่นำวิชาการอย่างแท้จริง

  1. ความรักและการให้ – รักคนอื่นเหมือนกับที่รักตนเอง เหล่านี้จะถูกปลูกฝังตั้งแต่ชั้นอนุบาลเพื่อให้ “ลูกสาว” มีน้ำใจ รู้จักเสียสละ และรู้จักการให้อภัย โดยบูรณาการเข้าไปในการจัดกิจกรรม การเรียนการสอน
  2. ความซื่อสัตย์ – สัตย์ซื่อทั้งคำพูด ความคิด การปฏิสัมพันธ์
  3. ความมีวินัย – เพราะไม่ว่า “ลูกสาว” จะเติบโตไปอยู่ที่สังคมไหน ความมีวินัยจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ ทั้งทางด้านการเรียนรู้ การดูแลตัวเอง วินัยในการให้ วินัยในความรัก
  4. ความรับผิดชอบ – ต่อตัวเอง ผู้อื่น และสังคม
  5. ความเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี – ผ่านการทำกิจกรรม
  6. ตระหนักรู้คุณค่าแห่งตนเองและผู้อื่น – เราต้องให้เกียรติผู้อื่น เราต้องรู้คุณค่าของคนอื่น ไม่เหยียดคน จากหลักคำสอนที่ว่า “พระเจ้าสร้างให้ทุกคนเท่าเทียมกัน”
  7. ความมีกาละเทศะ – ทำอะไร อยู่ที่ไหน ต้องทำตัวอย่างไรเพื่อให้เกียรติบุคคล สถานที่

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

ห้องสมุดใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “เรือโนอาห์”

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

กิจกรรมของพี่ประถม

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

กิจกรรมของเด็กอนุบาล

หลักสูตรวิชาการ ปูทางสู่ความชอบ

ระดับปฐมวัย (อนุบาล) : เรียนรู้จากการเล่นและกิจกรรม

  • หลักสูตร Recgular English Course (REC) -จัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย กิจกรรมบูรณาการผ่านการเล่นเน้น การลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง จนเกิดความรู้ ทักษะ คุณธรรมจริยธรรม ดำเนินการจัดประสบการณ์โดยครูไทย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านปฐมวัย
  • หลักสูตร Mini English Program (Mini EP) – จัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย กิจกรรมบูรณาการผ่านการเล่นเน้น การลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง จนเกิดความรู้ ทักษะ คุณธรรมจริยธรรม มีลักษณะกุลสตรีวัฒนา จัดการสอนแบบเสริมภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และกิจกรรม Project Approach ดำเนินการจัดประสบการณ์โดยครูผู้สอนชาวต่างชาติที่มีประสบการณ์ เน้นการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ให้เด็กมีทักษะในการฟังและพูดภาษาอังกฤษ สามารถสื่อสารได้

ระดับประถมศึกษา : เริ่มค้นหาความชอบ

  • หลักสูตร PEC (Premium English Course) -เป็นหลักสูตรที่มีการจัด การเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษที่เน้นทักษะการสื่อสาร และการพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษาในแต่ละทักษะของผู้เรียน เช่น ทักษะการพูด ฟัง อ่านและเขียน โดยให้มีการบูรณาการหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษไว้ในกิจกรรมการเรียนการสอน ซึ่งดำเนินการสอนโดยครูผู้สอนชาวต่างชาติที่มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอน
  • หลักสูตร English Program -เป็นหลักสูตร ที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ด้วยกระบวนการที่หลากหลาย เช่น แบบสืบสอบ (Inquiry-based Learning) ให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง (Action Learning) โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางในการเรียนรู้ สื่อสารได้อย่างถูกต้อง นักเรียนได้เรียนรายวิชาหลักเป็นภาษาอังกฤษจากครูชาวต่างชาติเจ้าของภาษา ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชาสุขศึกษาและวิชาพลศึกษา

 

เด็กๆมีโอกาสได้ทำโครงงานวิทยาศาตร์ (Project Approach) และทำกิจกรรมด้วยกัน  ผู้ปกครองมีส่วนในการสนับสนุนจินตนาการของลูก ชั้นประถมศึกษาตอนปลาย (ป.4-6) ลูกๆจะสามารถเลือกเรียน SCIENCE, TECHNOLOGY, ENGLISH, MATHEMATICS (หลักสูตร STEM) เพื่อปูทางสู่ระดับที่สูงขึ้นในชั้นมัธยมศึกษา

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

เด็กๆ ลงมือทำกิจกรรม  และ Wattana Characters จะฝึกให้เด็กๆ มีวินัยและรู้จักหน้าที่ของตนเอง

 

ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น : ก้าวสู่ความชอบที่ใช่

  • หลักสูตรห้องเรียนพิเศษวิทยาศาตร์และคณิตศาสตร์ (STAMP : SCIENCE TECHNOLOGY and MATHEMATICS PROGRAM) คือ หลักสูตร สสวท. ซึ่งต้องมีการสอบวัดระดับ
  • หลักสูตร Enrichment English Program (EEP) เด็กๆ ลูกๆ สามารถไปได้ทุกสาย หรือเรียนรู้ข้ามสายก็ยังได้

ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย : ไปตามที่ใจใฝ่ฝัน

ไม่ว่าจะเด็กๆ ลูกๆ จะเรียนสายไหนมา ทุกคนจะมาต่อที่ Learning Blocks ซึ่งเป็นการเรียนรู้รูปแบบใหม่ตามยุคสมัย และเป็นการเรียนรู้ที่หลากหลาย เด็กๆจะเรียนรู้ด้วยตัวเองมากขึ้นซึ่งเป็นการสร้างศักยภาพและเสริมสมรรถนะ

  • LB 1 : วิศวกรรมศาสตร์ นวัตกรรมและเทคโนโลยี IET
  • LB 2 : อักษรศาสตร์ (ไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส) LCS
  • LB 3 : วิทยาศาสตร์และสุขภาพ HBS
  • LB 4 : เศรษฐศาสตร์ บัญชี และการบริหารธุรกิจ EAB
  • LB 5 : นวัตกรรมคหกรรม IHE
  • LB 6 : สังคมศาสตร์ HPS
  • LB 7 : ศิลปกรรมศาสตร์ FAA

 

ในแต่ละ LB ทางโรงเรียนจะพาเด็กๆ ลูกๆ ออกไปทำกิจกรรมทั้งภายในและข้างนอกโรงเรียน เพื่อให้เด็กๆศึกษาและตรวจสอบความชอบของตัวเอง หากใช่ก็ไปต่อ หากไม่ใช่เด็กๆก็สามารถเปลี่ยนสายได้ การเรียนรู้รูปแบบใหม่ก็ยังสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางของชาติ แต่มุ่งเน้นให้เด็กๆพัฒนาตนเอง ค้นพบเส้นทางของตัวเอง ผ่านการบูรณาการทุกศาสตร์ ทุก LB

 

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

ชั้นเรียนดนตรีไทย

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

สายลม แสงแดด สร้างพัฒนาการ เสริมประสบการณ์

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

ทุกชั้นเรียนมี Projector, Active Boards

สื่อเพื่อเสริมประสบการณ์

เด็กๆในยุคปัจจุบันเติบโตมากับเทคโนโลยีและอุปกรณ์การสื่อสารต่างๆ โรงเรียนได้นำมาปรับใช้อย่างเหมาะสมกับวัย โดยจัดพื้นที่ให้เหมาะกับการเรียนรู้ ดูแลเด็กๆอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เด็กๆ เรียนรู้ที่จะอยู่กับเทคโนโลยีได้อย่าง “ปลอดภัยและสมวัย”

  • อุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ เช่น Active Board
  • ห้องคอมพิวเตอร์สนับสนุนกิจกรรม เช่น การเรียนรู้ผ่าน Coding หรือ เรียนรู้ตัวเลขผ่าน Application
  • ระบบ Firewall ป้องกันสื่อที่ไม่เหมาะสม

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

ผศ.ดร.พัชราภรณ์ ดวงชื่น ผู้จัดการโรงเรียน

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

อาจารย์สุภลักษณ์ ไชยสถาน ผู้อำนวยการโรงเรียน

MOMMY LOVE THIS!

1.ที่โรงเรียนมีโปรแกรมการฝึกเป็นนักบินอวกาศ ตามความสมัครใจ และต้องผ่านการคัดเลือกเพื่อไปเข้าร่วมที่ NASA

2.การส่งนักเรียนออกไปแข่งขันด้านต่างๆ ทุกคนในห้องและในชั้นจะได้เข้าร่วมซ้อมเพื่อหาตัวแทนของห้อง จะเข้าคัดเลือกเพื่อเป็นตัวแทนของชั้น มาสู่การคัดเลือกในระดับโรงเรียน  ดังนั้นทุกคนจึงมีโอกาสเท่าเทียมกัน และไม่เคยมีใครถูกละเลยไว้เบื้องหลัง

3.หลักสูตรขับร้องประสานเสียงโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย เป็นหลักสูตรที่คัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถ  สอนโดยครูผู้ชำนาญการพิเศษด้านขับร้องประสานเสียงและด้านดนตรี จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงระดับชั้นมัธยมศึกษา

 

อัตราค่าเล่าเรียน

หลักสูตรปกติ เทอม 1 ประมาณ 66,000 บาท

เทอม 2 ประมาณ 45,000 บาท

หรือเฉลี่ย 111,000 บาท/ปี

 

หลักสูตร English Program (EP) เทอม 1 ประมาณ 158,000 บาท

เทอม 2 ประมาณ 85,000 บาท

เฉลี่ย 243,000 บาท/ปี

 

ที่อยู่

โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย
67 ถ.สุขุมวิท 19 แขวง คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทร.0-2254-7991-5 หรือ 0-2254-4990-4

website : www.wattana.ac.th

 

Editor : แม่พลอยผิง

ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข

 


อ่านต่อบทความน่าสนใจ

โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บริจาคของเล่นเสริมพัฒนาการเด็ก

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. (โดยผู้แทนจำหน่าย บจก.พูนพงษ์พัฒนา2013 , บจก.ดีเอ็นเอส รุ่งโรจน์) จัดกิจกรรม “บางปะกอกบอกรัก ปันรักสู่สังคม” ณ โรงเรียนวัดสรรเพชญ(ทวีวิทยาคม) จังหวัดนครปฐม

ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทำต่อเนื่องจากงาน Heart of Care Health Fair 2023 มหกรรมคนรักสุขภาพ ซึ่งโรงพยาบาลฯนำรายได้ส่วนหนึ่งภายในงานมาทำกิจกรรมเพื่อสังคมตอบแทนทุกความเชื่อมั่นและความไว้วางใจที่มีให้ตลอด 20 ปี ที่ผ่านมา

โดยมี คุณณัฐชยา อัศวชัยราชันย์ (รองผู้อำนวยการการตลาด) ตัวแทนผู้บริหารโรงพยาบาลฯ, กัปตันกิ๊ฟ วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ (อดีตกัปตันทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย) เป็นตัวแทนมอบของเล่นเสริมพัฒนาการเด็ก และมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน พร้อมด้วย บจก.พูนพงษ์พัฒนา2013 , บจก.ดีเอ็นเอส รุ่งโรจน์ ร่วมสนับสนุนชุดเครื่องนอนให้กับนักเรียน โดยมี คุณเปรมวดี เพิ่มทรัพย์มงคล (รองผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสรรเพชญ) เป็นผู้รับมอบ พร้อมถ่ายภาพร่วมกัน

อีกทั้งยังอบรมให้ความรู้ พร้อมสาธิตการกระตุ้นเสริมพัฒนาการเด็กให้กับคุณครูและนักเรียนระดับชั้นอนุบาล โดย พว.ระวีวรรณ ภู่วรวรรณ (ผจก.ศูนย์พัฒนาการเด็กและคลินิกนมแม่)

 

Heart of Care ดูแลด้วยหัวใจ ขอขอบคุณที่ให้เราดูแลคุณ

โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล

 

Tags

ลูกป่วยง่าย ไม่แข็งแรง ภูมิคุ้มกันต่ำ แก้ได้ด้วยการเสริม “วิตามินซี”

ลูกป่วยง่าย เกิดได้จากหลายสาเหตุ

ลูกป่วยทีไรคุณพ่อคุณแม่ก็ใจไม่ดีทุกครั้ง เพราะอดเป็นห่วงเจ้าตัวน้อยไม่ได้ แถมบางครั้งก็มาครบทั้งอาการไอ จาม น้ำมูกไหล ตัวร้อน หนาวสั่น และมีไข้เกิน 37.5 องศาเซลเซียสจนลูกงอแงมากกว่าปกติ และถ้ายิ่งบ้านไหน “ลูกป่วยง่าย” ไม่แข็งแรง ก็ยิ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่อยากจะป่วยแทนลูกไปเสียทุกที

ลูกป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ วิตามินซี Vita-C Jelly

ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยป่วยก็มีมากมายหลายด้านเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็น

  • อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนและฤดูหน้าหนาว ที่มีความชื้นและลมแรงก็จะส่งผลให้เชื้อแพร่กระจายได้ง่ายกว่าปกติ
  • โรคประจำตัวของเด็ก อย่างเช่น โรคภูมิแพ้ ที่อาการอาจกำเริบขึ้นมาได้ในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดู
  • การสัมผัส ที่เกิดจากการที่ลูกของเรานั้นจะต้องไปโรงเรียนและเข้าสังคมกับเพื่อน ๆ ก็จะมีโอกาสในการสัมผัสกันจึงมีโอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายถึงกันได้นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม มีอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ลูกป่วย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงนั่นก็คือเรื่อง ภูมิคุ้มกันต่ำ เนื่องจากภูมิคุ้มกันนั้นเป็นกลไกที่สำคัญ ที่จะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายและต่อต้านไม่ให้ร่างกายติดเชื้อ หากมีภูมิคุ้มกันที่ดีก็จะสามารถลดโอกาสในการติดเชื้อและป่วยได้ กลับกันถ้าภูมิคุ้มกันน้อยหรือมีความผิดปกติก็จะทำให้เด็กไม่แข็งแรง ป่วยง่าย จนมีผลต่อการใช้ชีวิจประจำวันเลยทีเดียว

ลูกป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ วิตามินซี Vita-C Jelly

เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับลูกได้ ด้วยการทานสิ่งที่มีประโยชน์ เคลื่อนไหวร่างกาย และพักผ่อนอย่างเหมาะสม

            “ภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง” คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างให้กับลูกได้ โดยเริ่มตั้งแต่แรกนั่นก็คือ การดื่มนมแม่ เพราะนมแม่ เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรกที่มีคุณประโยชน์และภูมิคุ้มกันเชื้อโรคมากมาย พร้อม ๆ กับการสอนให้ลูกรู้จักการรักษาความสะอาด การเลือกอาหารที่มีประโยชน์ให้เหมาะสมกับวัย และให้ลูกได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างเหมาะสม และการให้ลูกได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ในแต่ละวัน

วิตามินซีอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ การเพิ่มภูมิคุ้มกัน และป้องกันหวัด

            นอกจาก 5 วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อยตามที่ว่าไว้ในข้างต้นแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่นักโภชนาการแนะนำ นั่นก็คือ การเสริมวิตามินซี ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง ป้องกันโรคหวัด ภูมิแพ้ ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน แถมยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟัน ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนบำรุงผิวพรรณ และต่อต้านอนุมูลอิสระ

แต่ปัญหาสำคัญก็คือ ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างวิตามินซีขึ้นเองได้ ทางเดียวที่จะได้รับวิตามินชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายก็คือ การรับประทาน แต่ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะชอบทานผักและผลไม้ ทำให้เรื่องวิตามินซีกลายเป็นเรื่องยากสำหรับบางบ้าน วิธีการให้ลูกทานวิตามินซีเสริม จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี

ลูกป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ วิตามินซี Vita-C Jelly

วิตามินซีเลือกแบบไหน ทานอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

            สำหรับปริมาณวิตามินซี ที่ควรเสริมให้กับลูกน้อย ก็จะมีปริมาณที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงวัย โดยแบ่งเป็น

  • อายุ 1-3 ปี ปริมาณวิตามินซีสูงสุดที่ร่างกายควรได้รับต่อวันคือ 400 มิลลิกรัม
  • อายุ 4-8 ปี ปริมาณวิตามินซีสูงสุดที่ร่างกายควรได้รับต่อวันคือ 650 มิลลิกรัม
  • อายุ 9-13 ปี ปริมาณวิตามินซีสูงสุดที่ร่างกายควรได้รับต่อวันคือ 1200 มิลลิกรัม
  • อายุ 14-18 ปี ปริมาณวิตามินซีสูงสุดที่ร่างกายควรได้รับต่อวันคือ 1800 มิลลิกรัม

และถ้าอยากให้การเสริมวิตามินซีได้ประโยชน์สูงสุด ก็ควรให้ลูกทานพร้อมมื้ออาหารเช้าและมื้ออาหารเย็นหรือแบ่งทาน 2-3 ครั้งต่อวัน ซึ่งจะทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ดี และที่ควรระวังก็คือ ไม่ควรให้ทานตอนท้องว่าง เนื่องจากวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรดอาจทำให้ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร รวมถึงไม่ควรให้ทานในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะอาจเกิดอาการท้องเสียได้

โดยในปัจจุบันวิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริมมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นแบบอัดเม็ด แบบเม็ดอม แบบเคี้ยว หรือแบบเยลลี่ ซึ่งมันเยอะมากจนทำให้คุณพ่อคุณแม่เลือกไม่ถูกว่าจะหาแบบไหนมาเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกดี วันนี้เราเลยขอมาแนะนำ 5 วิตามินซี ที่จะช่วยให้ลูกน้อยร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นหวัดง่าย มาดูกันเถอะว่ามีอะไรบ้าง

ลูกป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ วิตามินซี Vita-C Jelly

1.Vita-C Jelly Strip

วิตามินซีรสส้มสำหรับเด็ก ที่มาในรูปแบบเจลลี่ทำให้ทานง่าย มีวิตามินซี 50 มิลลิกรัม ซึ่งมากเท่ากับการทานส้ม 1 ผล ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันหวัด ภูมิแพ้ ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน และเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและข้อต่อ เนื่องจากมี DHA แบบ Microencapsulate nutritional oils จากอเมริกา ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีกว่า DHA แบบเดิมถึง 60% ช่วยในการเสริมสร้างระบบประสาทและสมอง และยังมีแคลเซียมสูงถึง 304.5 มิลลิกรัม เท่ากับการดื่มนม 1 แก้ว ที่ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ได้ประโยชน์ครบใน 1 ซอง (สูงสูดไม่ควรเกิน 6 ซอง/วัน) เหมาะกับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 1 ขวบขึ้นไป

ลูกป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ วิตามินซี

2.Biopharm vitamin C gummy

กัมมี่วิตามินซีรสส้มและรสสตรอว์เบอร์รี่  มีวิตามินซี 30 มิลลิกรัม เหมาะสำหรับเด็กที่ไม่ชอบทานอาหารเสริมชนิดเม็ด เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและป้องกันหวัด สามารถทานทดแทนขนมได้ แต่ไม่ควรทานมากเกินไปเพราะมีน้ำตาลเป็นส่วนผสม แนะนำให้ทานครั้งละ 1 เม็ด (วันละไม่เกิน 8 เม็ด)

ลูกป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ วิตามินซี

 3.NATURE CARE Bio C

วิตามินซีที่มาในรูปแบบเม็ดเคี้ยวรสส้ม มีสารสกัดจากตระกูลเบอร์รี่ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการภูมิแพ้และหวัด รวมถึงมีส่วนผสมของ Citrus Bioflavonoid พืชตระกูลส้ม ที่เสริมประสิทธิภาพการไหลเวียนโลหิต แนะนำให้รับประทานวันละ 1-4 เม็ด

ลูกป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ วิตามินซี

4.PATAR Ascorbic Acid

วิตามินซีชนิดเม็ด  ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานและป้องกันโรคกระดูกพรุน  1 เม็ดมีวิตามินซี 50 มิลลิกรัม สามารถทานได้ทั้งแบบเคี้ยวและอมโดยไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำตาม ทำให้สามารถทานได้เรื่อย ๆ ตามปริมาณที่เหมาะสม

ลูกป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ วิตามินซี

5.Mamarine Kids Bio C Plus Multivitamin

วิตามินซีชนิดน้ำ มี Beta-Glucan ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ป้องกันไข้หวัดและภูมิแพ้ ช่วยต้านไข้หวัดและเสริมภูมิคุ้มกันในเด็ก วิธีรับประทานแบ่งตามน้ำหนักของเด็กคือ น้ำหนัก 7-9 กก. รับประทานครั้งละ 1 ช้อนชา วันละ 1 ครั้ง, 10-14 กก. ครั้งละ 2 ช้อนชา วันละ 1 ครั้ง 15 กก. ขึ้นไป รับประทานครั้งละ 3 ช้อนชา วันละ 1 ครั้ง


ติดตามข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับแม่และเด็กได้ที่ Facebook Amarin Baby & Kids

DHA ยี่ห้อไหนดี

DHA ยี่ห้อไหนดี บำรุงสายตาและสมอง เสริมพัฒนาการเรียนรู้จดจำ

ลูกน้อยที่อยู่ในวัยเรียนต้องใช้สายตาและสมองกันเยอะมาก คุณแม่จึงต้องการตัวช่วยอย่าง DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นในกลุ่มโอเมก้า 3 ที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการของสมองและสายตา เสริมพัฒนาการเรียนรู้จดจำให้กับลูกน้อย แต่จะเลือกอย่างไรให้ได้ประโยชน์เต็มๆ เม็ด

ทีมบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids ขอรีวิว DHA แบรนด์ NBL DHA Algae Oil ซึ่งได้รับรางวัล Editor’s Choice จาก  Amarin Baby & Kids Awards ถึง 3  ปีซ้อน โดยในปีนี้ได้รับรางวัลในสาขา KIDS PELLETS DIETARY SUPPLEMENT ,มาดูกันหน่อยว่ามีดีอย่างไร

NBL DHA Algae Oil (เอ็นบีแเอล ดีเอชเอ อัลเก้ ออยล์) คือ น้ำมันสกัดจากสาหร่าย ในรูปแบบแคปซูลซอฟท์เจลสีเหลืองใสรูปปลา ช่วยในเรื่อง บำรุงสมอง บำรุงสายตา ช่วยให้เจริญอาหาร ระบบโลหิตไหลเวียนได้ดี บำรุงเซลล์ประสาท ช่วยเพิ่มจุดต่อเซลล์สมอง เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ที่ดี เสริมการเรียนรู้จดจำ

DHA ยี่ห้อไหนดี

น้ำมันสาหร่ายดียังไง?

คุณแม่สมัยก่อนนิยมให้ลูกทานน้ำมันตับปลา และเชื่อว่าน้ำมันตับปลาดีที่สุด แต่ในปัจจุบันพบว่า ปลามีปรอทและโลหะ ส่วนสาหร่ายโตในน้ำจากแสงและน้ำ จึงมีความบริสุทธิ์มากกว่า ดังนั้น DHA จากน้ำมันสาหร่ายจึงเป็นทางเลือกใหม่ของคุณแม่ยุคใหม่ โดย NBL DHA Algae Oil เป็นดีเอชเอจากสาหร่ายเข้มข้น 470 mg ที่มี DHA มากถึง 188 มก.

Amarin Baby & Kids ยกให้  NBL DHA Algae Oil เป็นผลิตภัณฑ์เสริมโภชนาการเด็กชนิดเม็ด ที่ได้รับรางวัล EDITOR’S CHOICE สาขา KIDS PELLETS DIETARY SUPPLEMENT AWARD จาก Amarin Baby & Kids Awards 2023

NBL DHA Algae Oil เป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองมาตรฐาน CPP มาตรฐานการผลิตจากประเทศออสเตรเลีย ทั้งยังได้รับการจดทะเบียนจาก 3 หน่วยงาน มีทั้งอย.ไทย และออสเตรเลีย อีกทั้งยังเป็นเจ้าแรกที่ได้การรับรองจาก WHO

  •  องค์การอนามัยโลก 21/0240
  •  รัฐบาลออสเตรเลีย 384828
  • เลขที่ อย. 10-3-36959-5-0112

DHA ยี่ห้อไหนดี

กินง่าย ไม่เหม็นคาว

จุดเด่นที่ทำให้ NBL ครองตลาด และได้รับความนิยมจากคุณแม่เลือกซื้อให้ลูกน้อย อยู่ที่เม็ดซอฟท์เจลสีเหลืองใสรูปปลาน่ารัก ดึงดูดใจเด็กๆ และที่สำคัญ กินง่าย กลิ่นเลมอน ไม่เหม็นคาว ถูกใจเด็กๆ ซึ่งแนะนำสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปค่ะ

และไม่ใช่แค่เด็กๆ เท่านั้นที่ชอบ จากที่ทีมบรรณาธิการ Amarin Baby & Kids ได้คัดสรรและทดลองชิมก็มีความเห็นว่า กินง่าย มีกลิ่นเลมอนอ่อนๆ ไม่คาวค่ะ

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทางเว็บไซต์ Amarin Baby & จึงคัดเลือกให้ NBL DHA Algae Oil ได้รับรางวัล KIDS PELLETS DIETARY SUPPLEMENT AWARD  สาขา Editor’s Choice จาก “Amarin Baby & Kids Awards 2023” ซึ่งมอบให้กับสินค้าแม่ลูก “สินค้าคุณภาพดี มีประโยชน์ ใช้งานได้จริง”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม และโปรโมชั่นดีๆ ของ NBL DHA Algae Oil  สามารถติดตามได้ที่

Facebook  NBL Kids 

Facebook  Nubolic

Instagram Nubolic 

TIKTOK    Nubolic 

อ่านบทความน่าสนใจอื่น ๆ ที่

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2023

ประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2023 หมวดผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสำหรับเด็ก

 

Propolizkid_โพรโพลิซคิด_เด็กเจ็บคอ_เด็กไอ_ลูกป่วย_สเปรย์พ่นคอเด็ก

อากาศเปลี่ยนแปลง เด็กเจ็บคอ เด็กไอ พ่อแม่ต้องดูแลอย่างไรให้ถูกวิธี

“อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย” สาเหตุสำคัญที่ทำให้ เด็กเจ็บคอ เด็กไอ มีเสมหะ

คุณพ่อคุณแม่สังเกตกันไหมว่าในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูจากหน้าฝนเป็นหน้าหนาวแบบนี้ ลูกของเราจะเริ่มเปลี่ยนจากเด็กที่ร่าเริงสดใส ช่างพูด ช่างเจรจา กลายเป็น เด็กเจ็บคอ เด็กไอ มีเสมหะ บางคนมีอาการมากกว่านั้นก็คือ ทั้งจาม  และเป็นไข้ ซึ่งอาการต่าง ๆ เหล่านี้เกิดจากการที่อากาศนั้นเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ประกอบกับอากาศที่เย็นขึ้นและมีลมแรงนั้นก็ยังเอื้ออำนวยให้เชื้อไวรัสอยู่รอดได้ดีและแพร่กระจายได้ไกลกว่าเดิมมากอีกด้วย

Propolizkid โพรโพลิซคิด เด็กเจ็บคอ เด็กไอ ลูกป่วย สเปรย์พ่นคอเด็ก

เด็กเจ็บคอ เด็กไอ และมีเสมหะเรื้อรัง ส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด

            ถ้าลูกบ้านไหนเป็นเด็กที่มีภูมิต้านทานต่ำหรือป่วยง่าย มีภาวะที่เกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ หรือหอบหืดอยู่แล้ว ก็จะยิ่งได้รับผลกระทบจากอากาศเปลี่ยนแปลงเข้าไปกันใหญ่ เพราะว่าจะมีโอกาสทำให้ลูกของเรามีอาการไอ เจ็บคอ และมีเสมหะเรื้อรัง ซึ่งอาการ “ไอเรื้อรังในเด็ก” ถือว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตโดยตรง ทั้งเรื่องการเจ็บป่วย เรื่องการไอในช่วงกลางคืนที่จะเบียดเบียนการพักผ่อนทั้งตัวเด็กเองและคุณพ่อคุณแม่ ที่มีความวิตกกังวลเพราะเป็นห่วงลูกว่าร่างกายมีความผิดปกติหรือไม่

Propolizkid โพรโพลิซคิด เด็กเจ็บคอ เด็กไอ ลูกป่วย สเปรย์พ่นคอเด็ก

วิธีดูแลและป้องกันไม่ให้ลูกป่วย ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

สำหรับวิธีดูแลเด็ก ๆ ในภาวะที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเพื่อไม่ให้เกิดอาการเจ็บป่วย ไอ จาม
หรือมีเสมหะเรื้อรังในเบื้องต้น สามารถทำได้หลายวิธี โดยเริ่มจาก

  • หลีกเลี่ยงไม่ให้เจอกับอากาศเย็น เช่น การนอนเปิดพัดลมจ่อโดยตรง
  • หากนอนในห้องแอร์ควรปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ที่ประมาณ 25-27 องศาเซลเซียส
  • เลี่ยงการดื่มน้ำเย็นและทดแทนด้วยการดื่มน้ำอุณหภูมิปกติ หรือน้ำอุ่น
  • งดอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการไอ เช่น เครื่องดื่มเย็น อาหารมัน อาหารที่มีความกรอบและแห้ง
  • งดกิจกรรมที่จะส่งผลให้เกิดการไอ เช่น การพูดเสียงดัง การตะโกน
  • กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย และพักผ่อนอย่างเหมาะสม
  • ดูแลความสะอาดและสภาพแวดล้อมของบ้าน ให้บ้านสะอาดและอากาศถ่ายเทได้สะดวก

Propolizkid โพรโพลิซคิด เด็กเจ็บคอ เด็กไอ ลูกป่วย สเปรย์พ่นคอเด็ก

 

วิธีเบาทรรอาการ ไอ เจ็บคอ และมีเสมหะ เมื่อลูกป่วย

            แม้ว่าเราจะพยายามดูแลและหาวิธีป้องกันไม่ให้ลูกป่วยในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงได้ดีแค่ไหน แต่ลูกของเราก็มีโอกาสป่วยได้เช่นกัน เพราะว่ายังมีบางช่วงเวลาที่เราไม่สามารถดูแลลูกได้ด้วยตัวเอง เช่นในช่วงที่ลูกไปโรงเรียน และอาจจะได้รับเชื้อไวรัสมาจากการเล่น การสัมผัสตัวกับเพื่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคยอดฮิตอย่างไข้หวัด หรือโรคที่มีความอันตรายอย่างมือเท้าปาก ดังนั้นเราลองมาดูวิธีบรรเทาอาการเมื่อลูกไอ เจ็บ คอ และมีเสมหะกันเถอะ

  •  เพิ่มปริมาณการดื่มน้ำหรือนมอุ่น ๆ เพื่อลดการระคายคอ
  • ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อช่วยในการขับน้ำมูก เสมหะออกมา และลดอาการบวมบริเวณทางเดินหายใจ
    (ในกรณีที่เป็นเด็กเล็กอาจใช้วิธีดูดน้ำมูก ด้วยลูกยางดูดน้ำมูกสำหรับเด็ก)
  • รักษาระดับความชื้นในบ้านให้เหมาะสม
  • ปรับระดับหมอนให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยบรรเทาอาการไอ และหายใจได้สะดวกยิ่งขึ้น
  • ให้ทานยาแก้ไอ ละลายเสมหะ โดยต้องปรึกษาแพทย์และเภสัชกร

Propolizkid โพรโพลิซคิด เด็กเจ็บคอ เด็กไอ ลูกป่วย สเปรย์พ่นคอเด็ก

สเปรย์พ่นคอสำหรับเด็ก อีกหนึ่งวิธีบรรเทาอาการเจ็บคอที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

นอกจากวิธีต่าง ๆ ในข้างต้นแล้ว ในปัจจุบันก็ยังมีการใช้สเปรย์พ่นคอสำหรับเด็กเพื่อช่วยบรรเทาอาการไอ เจ็บคอ ช่วยฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในช่องปากและลำคออีกด้วย ลองมาดูกันเถอะว่ามีตัวไหนที่่น่าสนใจบ้าง

Propolizkid โพรโพลิซคิด เด็กเจ็บคอ เด็กไอ ลูกป่วย สเปรย์พ่นคอเด็ก

1. Propoliz Kid Mouth Spray

สเปรย์พ่นคอเด็ก ที่ช่วยให้ชุ่มคอ บรรเทาอาการเจ็บคอ ระคายคอ บรรเทาแผนร้อนในและแผลจากโรคมือเท้าปาก มีสารสกัดจากสแตนดาร์ดไดซ์โพรโพลิส ที่คิดค้นมาเพื่อเด็ก และสารสกัดจากลิโคไรซ์ ซึ่งช่วยฆ่าเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียในช่องปากและลำคอ ผสมซิงค์ แลคเตท ที่ช่วยสมานแผลในช่องปาก ปราศจากน้ำตาลและแอลกอฮอล์ แต่ก็มีความหอมหวานและทานง่าย เนื่องจากผสมน้ำผึ้ง ผ่านการตรวจสอบโลหะหนัก ปราศจากยาฆ่าแมลงและเชื้อปนเปือน เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ไม่เพียงบรรเทาอาการเจ็บคอ ไอ แผลในปาก แต่ยังช่วยสร้างภูมิกันให้เด็ก ๆ อีกด้วย จึงสามารถพ่นได้บ่อยตามต้องการ แม้ไม่มีอาการ

เด็กเจ็บคอ เด็กไอ ลูกป่วย สเปรย์พ่นคอเด็ก2. I-Kids Mouthspray for Kids

สเปรย์เพื่อช่องปากและลำคอสำหรับเด็ก รสส้ม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและสดชื่นในช่องปาก ลดการสะสมของแบคทีเรีย ลดการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการไอและเจ็บคอ ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำตาล เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป

เด็กเจ็บคอ เด็กไอ ลูกป่วย สเปรย์พ่นคอเด็ก3. Mckrime Mouth Spray for kids

สเปรย์พ่นช่องปากและลำคอสำหรับเด็ก รสส้ม ที่สามารถช่วยเบาทรรอาการไอและเจ็บคอ สารสกัดจากดอกคาร์โมมายด์และเปปเปอร์มินท์ ที่ช่วยลดอาการอักเสบ ใช้สำหรับพ่นใส่ช่องปากรอบละ 1-2 ครั้ง วันละ 3 รอบ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป

สำหรับวิธีบรรเทาอาการไอ เจ็บคอ และมีเสมหะของเด็ก ขอแนะนำว่าคุณพ่อคุณแม่สามารถทำตามวิธีดังกล่าวในเบื้องต้นเท่านั้น แต่ถ้าหากมีอาการไอเรื้อรังเกิน 3 สัปดาห์ ทางที่ดีควรพาลูกไปหาหมอเพื่อเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดและตรงจุด