จองวัคซีนเข็ม3

รู้ก่อน จองวัคซีนเข็ม3 แนวทางฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นเด็กเล็ก

Alternative Textaccount_circle
event
จองวัคซีนเข็ม3
จองวัคซีนเข็ม3

จองวัคซีนเข็ม3 ให้ลูกอายุ 5-11 ปี ต้องรู้อะไรบ้างก่อนจองคิว วัคซีนเข็มกระตุ้น จำเป็นไหม มีแนวทางการฉีดอย่างไร หากลูกติดเชื้อโควิด 19 ยังต้องฉีดเข็ม3 อีกไหม

รู้ก่อน จองวัคซีนเข็ม3 !! แนวทางฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นเด็กเล็ก

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยมติที่ประชุมอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเห็นชอบทุกคนฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น อย่างน้อยเข็ม 3 โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง แนะนำให้รับเข็มกระตุ้น เพื่อลดความเสี่ยงที่หากติดเชื้อ จะมีอาการหนักและเสียชีวิตได้

วัคซีนเข็มกระตุ้นจำเป็น!!

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า มติที่ประชุมอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2565 แนะนำให้ประชาชนทุกคนได้ควรได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อย่างน้อยเข็มที่ 3 เป็นพื้นฐาน เพราะเมื่อเวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันจะลดลงตามธรรมชาติ จึงแนะนำให้ฉีดเข็มกระตุ้นหลังได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายมาแล้ว 4 เดือนขึ้นไป โดยให้เป็นไปตามความสมัครใจและความจำเป็นอื่นๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้มีความเสี่ยงอื่นๆ และโดยเฉพาะกลุ่ม 608 (ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน) ซึ่งหากติดเชื้อจะเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรงหนักและเสียชีวิตได้

แนะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้เด็กเล็ก จองวัคซีนเข็ม3 เลย
แนะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้เด็กเล็ก จองวัคซีนเข็ม3 เลย

ทั้งนี้ จากการระบาดที่ผ่านมา พบว่าการได้รับวัคซีนสามารถลดการป่วยหนักและเสียชีวิตของประชาชนได้ จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคนที่ยังไม่ได้รับเข็มกระตุ้น หรือยังไม่ได้รับวัคซีน ให้ไปรับวัคซีนตามกำหนด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กระจายวัคซีนไปยังหน่วยบริการที่ใกล้บ้านที่สุด และให้บริการแบบ walk in ทุกจุดฉีด เพื่อให้เกิดความสะดวกกับประชาชน เป็นการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งหากได้รับเชื้อจะสามารถลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ที่มา : กองโรคติดต่อทั่วไป/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

สาธารณสุขเตือน กลุ่มเด็กติดโควิดสูงขึ้น ย้ำฉีดวัคซีน เว้นระยะห่างในครอบครัว ป้องกันแพร่เชื้อให้ผู้สูงอายุ

นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบกลุ่มเด็ก 0-9 ปี และวัยรุ่น 10-19 ปี มีการติดเชื้อสูงขึ้น โดยกลุ่มอายุ 0-4 ปี และ 5-9 ปี ส่วนใหญ่ติดเชื้อในครอบครัว กลุ่มอายุ 10-14 ปี และ 15-19 ปี เป็นการติดเชื้อในโรงเรียน ส่วนการสัมผัสผู้ติดเชื้อนอกบ้านและในชุมชน เป็นกลุ่ม 15-19 ปี ทั้งนี้ หากมีการติดเชื้อในบ้าน โดยเฉพาะเด็กเล็ก ขอให้เว้นระยะห่างจากผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว เพราะอาจติดเชื้อและเกิดอาการรุนแรงได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป จะมีอัตราติดเชื้อเสียชีวิตสูงกว่าเด็กเล็กถึง 200 เท่า จึงต้องรณรงค์ให้มารับวัคซีนทั้งในเด็กและผู้สูงอายุ เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต

ด้าน นายแพทย์วิชาญ กล่าวว่า การระบาดในระลอกนี้พบผู้ป่วยเด็กกลุ่มอายุ 5-11 ปี สูงขึ้น แม้ส่วนใหญ่จะอาการค่อนข้างน้อย แต่ต้องเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในครอบครัว และไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย โดยแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในกลุ่มเด็ก ของกระทรวงสาธารณสุข มีผู้เชี่ยวชาญทั้งในคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ภายใต้คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ และคณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาผลการขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา พิจารณาอย่างรอบคอบ บนพื้นฐานข้อมูลวิชาการทั้งมาตรฐานและความปลอดภัย ผลการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประสิทธิผลด้านการป้องกันการติดเชื้อ การป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต

ลูกเคยติดเชื้อ โควิด 19 ต้องเว้นระยะห่าง จองวัคซีนเข็ม3 อย่างไร
ลูกเคยติดเชื้อ โควิด 19 ต้องเว้นระยะห่าง จองวัคซีนเข็ม3 อย่างไร

ปัจจุบันมีวัคซีนที่ผ่านการพิจารณาให้ฉีดในกลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปี ได้แก่

  • ไฟเซอร์ (ฝาสีส้ม) สำหรับอายุ 5-11 ปี
  • ไฟเซอร์ (ฝาสีม่วง) สำหรับอายุ 12-17 ปี
  • ซิโนแวค/ซิโนฟาร์ม สำหรับอายุ 6-17 ปีขึ้นไป
  • สูตรไขว้ ซิโนแวคและไฟเซอร์ สำหรับอายุ 12-17 ปี

ย้ำ!! อย่ากังวลกับการฉีดวัคซีนเด็กเล็ก

โดยตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนเด็กอายุ 5-11 ปี ไปแล้ว 66,165 คน จากทั้งหมด 5.1 ล้านคน ยังไม่มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากการได้รับวัคซีน

อาการข้างเคียงพบได้บ่อย แต่ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง เช่น ปวดบวมแดงบริเวณที่ฉีด  คลื่นไส้ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ มีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย ปวดข้อ มีผื่น เป็นต้น

ที่มา : ศูนย์ข้อมูล COVID 19 กรมประชาสัมพันธ์

รู้ก่อน จองวัคซีนเข็ม3 กับแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด19 เข็มกระตุ้น สำหรับผู้ที่มีอายุ 5-11 ปี

ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ได้มีมติแนวทางคำแนะนำในการฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้แก่เด็กที่มีอายุระหว่าง 5-11 ปี เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครองได้ทำความเข้าใจ และทราบถึงหลักการการได้รับวัคซีนให้แก่บุตรหลาน ก่อน จองวัคซีนเข็ม3 โดยมีคำแนะนำครอบคลุมทั้งกับเด็กที่เคยได้รับวัคซีนเข็ม 1 และ 2 มาแล้ว และเด็กที่เคยติดเชี้อโควิด 19 ขณะที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนแล้ว 1 เข็ม และได้รับวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม จะต้องเว้นระยะห่างระหว่างเข็มอย่างไร เคยติดเชื้อแล้วยังจำเป็นต้องได้รับวัคซีนหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบมาฝากก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะทำการ จองวัคซีนเข็ม3 ให้แก่ลูกน้อย

 

กรณียังไม่เคยได้รับเชื้อโควิด 19 มาก่อน

กลุ่มเด็กที่มีอายุ 5-6 ปี 

  • ได้รับวัคซีน Pfizer ฝาสีส้ม ในเข็มที่ 1 และ 2 โดยเว้นระยะห่างระหว่างเข็ม 8 สัปดาห์ ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปหลังจากได้รับวัคซีนเข็ม 2 ควรไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็น Pfizer ฝาสีส้ม (เต็มโดส) ในเข็มที่ 3

กลุ่มเด็กอายุ 6-11 ปี

  • ได้รับวัคซีน Pfizer ฝาสีส้มมาทั้งสองเข็ม โดยเว้นระยะห่างระหว่างเข็ม 8 สัปดาห์ ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปหลังจากได้รับวัคซีนเข็ม 2 แล้ว ควรไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เลือกได้ทั้ง Sinovac และ Pfizer ฝาสีส้ม(เต็มโดส) เลือกตามสมัครใจ

กรณีเคยติดเชื้อโควิด 19 

เด็กที่มีอายุ 5-11 ปี 

  • ไม่เคยได้รับวัคซีน หลังจากหายจากการติดเชื้อโควิด 19 ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น Pfizer ฝาสีส้ม (เต็มโดส) ในเด็กอายุ 6-11 ปี สามารถเลือกรับวัคซีน Sinovac ได้ตามความสมัครใจ
  • ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แล้วติดเชื้อ ให้เว้นระยะห่างหลังจากหมดเชื้อแล้ว ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป ค่อยรับวัคซีนเข็มกระตุ้น Pfizer ฝาสีส้ม (เต็มโดส) หรือในเด็กอายุ 6-11 ปี สามารถเลือกเป็น Sinovac ได้
  • ได้รับวัคซีน 2 เข็ม แล้วติดเชื้อ ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพราะได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อโควิด 19 แล้ว

หมายเหตุ คำแนะนำระบุเฉพาะวัคซีนภาครัฐในขณะนี้ อย่างไรก็ตามสามารถพิจารณาวัคซีนได้ทุกชนิด และขนาดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในประเทศไทยตามช่วงอายุ

วัคซีนเข็ม 3 เด็กเล็ก จำเป็นแค่ไหน
วัคซีนเข็ม 3 เด็กเล็ก จำเป็นแค่ไหน

คำแนะนำฉีดไฟเซอร์เด็ก 5-11 ขวบ

  • ให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ฝาสีส้มสูตรสำหรับเด็ก ขนาด 10 ไมโครกรัม ปริมาณ 0.2 มิลลิลิตร เข้ากล้ามเนื้อ 2 ครั้ง เว้นระยะห่าง 3-12 สัปดาห์
  • หากเด็กอายุ 5-11 ขวบ ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ สูตรสำหรับเด็กอายุ 5-11 ขวบ (ขนาด 10 ไมโครกรัม ฝาสีส้ม) และมีอายุครบ 12 ปี หลังได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ด้วยไฟเซอร์ สูตรสำหรับผู้ใหญ่ อายุมากว่าหรือเท่ากับ 12 ปี (ขนาด 30 ไมโครกรัม ฝาสีม่วง) อย่างไรก็ตาม หากได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ขนาด 10 ไมโครกรัม ก็ให้ถือว่าผู้นั้นรับวัคซีนครบถ้วน และไม่จำเป็นต้องฉีดซ้ำ
  • กรณีเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์สำหรับผู้ใหญ่ฝาสีม่วงตามแนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด-19 (ไฟเซอร์) สำหรับนักเรียน/นักศึกษา อายุ 12 ปีขึ้นไปที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า

ส่วนข้อควรระวังในการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กมีอยู่ 2 ข้อ ซึ่งหากมีอาการดังต่อไปนี้ “ยังไม่ควรฉีดวัคซีน”

  • เด็กอยู่ในช่วงกำลังป่วย มีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย ควรรักษาอาการให้หายดี และเลื่อนการฉีดออกไปจนกว่าร่างกายจะกลับมาปกติ
  • เด็กผู้มีโรคประจำตัวรุนแรงที่อาจมีอันตรายถึงชีวิตที่อาการของโรคยังไม่คงที่ ห้ามฉีด นอกจากแพทย์ประเมินว่าฉีดได้เท่านั้น
ที่มา: กระทรวงสาธารณสุข, ศูนย์ข้อมูล COVID–19, องค์กรอนามัยโลก (WHO) ,www.paolohospital.com

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

เปิด 5 สูตร ฉีดวัคซีนโควิด19 ในเด็ก อายุต่ำกว่า 18 ปี

จองวัคซีน เข็ม 3เด็กเล็กพรุ่งนี้!(10ส.ค.)ไฟเซอร์เข็มกระตุ้น

จุดฉีด วัคซีนเข็มกระตุ้น วอล์คอิน จองคิวผ่านแอปฯ ล่าสุด

มือเท้าปากเปื่อย ระบาดอีกแล้วเตือนพ่อแม่ระวังเชื้อแรงขึ้น

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up