ไวรัส RSV ระบาด เสียลูก 5 เดือน เพราะเสมหะอุดหลอดลม

เชื้อไวรัส  RSV คืออะไร ติดง่ายเหมือนหวัด แต่ดุกว่า อย่าประมาท

ชื่อแปลก ๆ ของไวรัส  RSV ระบาด ในทารกและเด็กเล็ก ทำให้หลายครอบครัวรู้สึกว่าเป็นโรคไกลตัว ลูกหลานในบ้านไม่น่าจะติดง่าย ความจริงแล้ว  RSV  หรือ  Respiratory  Syncytial  Virus  เป็นเชื้อไวรัสที่เข้าไปติดเชื้อทางเดินหายใจ ส่วนบนและส่วนล่าง เช่นเดียวกับโรคในระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ได้แก่ หวัด ไข้หวัดใหญ่ คออักเสบ หลอดลมอักเสบ และปอดอักเสบ ส่วนใหญ่มักระบาดในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ

หลังติดเชื้อ RSV ระบาด ในระยะแรก ผู้ป่วยจะมีบางอาการคล้ายกับ ไข้หวัดธรรมดา คือ มีไข้ ไอ จาม น้ำมูก และเสมหะ ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่าลูกน้อยคงเจ็บป่วยไม่กี่วันก็คงหาย…

 

 

รู้ไหมคะว่า เชื้อไวรัส RSV เป็นวายร้ายตัวจริงที่ทำลายสุขภาพของลูกน้อยอย่างมาก โดยเฉพาะในวัยทารก ที่ยังสื่อสารกับคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ว่า รู้สึกอย่างไร เจ็บคอ หรือหายใจไม่ออกหรือเปล่า ฉะนั้นลูก ๆ จึงควรต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าสังเกตอาการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วช่วงข้ามคืน ซึ่งมองข้ามไม่ได้เลย

เมื่อลูกได้รับ ไวรัส RSV ระบาดเข้าสู่ร่างกายจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 5 วัน โดยในช่วง 2 – 4 วันแรกจะมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดาแล้ว ไวรัส RSV จะเข้าไปทำให้ระบบหายใจส่วนล่างเกิดการอักเสบ เด็กๆ จะมีอาการของโรคหลอดลมอักเสบ กล่องเสียอักเสบ และโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบได้

MUST READ : 7 ข้อ รู้ให้เท่าทัน กัน ลูกป่วย โรคRSV บ่อย!

 

อาการที่เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ลูกน้อยอาจได้รับเชื้อไวรัส RSV มีดังต่อไปนี้

• เหนื่อยหอบ
• หายใจเร็วแรง
• หายใจครืดคราด
• เสียงหวีดในปอด
• มีเสมหะมาก
• ไอโขลก

หากลูกมีอาการหนักขึ้น เช่น มีไข้สูง (มากกว่า 39 องศาเซลเซียส) ไอมากและถี่จนทำให้อาเจียน หายใจเร็วจนชายโครงหรืออกบุ๋ม หายใจลำบากจนมีอาการตัวเขียวเพราะน้ำมูกข้นเหนียวจนไปขวางทางเดินหายใจ กินอาหารหรือนมได้น้อย ซึม และปากซีดเขียวจากภาวะขาดออกซิเจน ควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาการเหล่านี้แสดงว่าระบบทางเดินหายใจล้มเหลวและมีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก

อ่านต่อ “วิธีป้องกัน ไวรัส RSV ให้อยู่หมัด” คลิกหน้า 3