8 วิธีเพื่อพ่อ เล่นกับลูกอย่างไรให้ฉลาด !?

event

เล่นกับลูกอย่างไรถึงจะดี เล่นกับลูกอย่างไรให้ฉลาด (ต่อ)

2. จ๊ะเอ๋ / ซ่อนหา

สำหรับลูกวัยทารก การเล่นจ๊ะเอ๋ หรือเล่นซ่อนหา ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น และสนุกสนานสำหรับพวกเขามาก เพราะ “อยู่ดีๆ หน้าของพ่อหายไปต่อหน้าต่อตา ราวกับว่ามีเวทมนตร์เสกใบหน้าให้หายไป” ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าทึ่งไม่น้อย นอกจากนั้นแล้วการกลับมาของใบหน้าพ่อ ก็ทำให้ลูกโล่งใจที่การแยกจากพ่อที่เขาคุ้นเคยสิ้นสุดลงเสียที

การเล่นจ๊ะเอ๋ในเด็กเล็ก จึงเป็นการจำลองสถานการณ์แยกจากเพียงชั่วเสี้ยววินาทีในชีวิตของพวกเขา การเล่นได้แปรเปลี่ยน “ความวิตกกังวล (Anxiety) ในเด็กให้กลายเป็นความสนุกสาน และการวางใจในสภาพแวดล้อมมากขึ้น”

เด็กๆ ที่พ่อเล่นจ๊ะเอ๋ด้วยจึงมีแนวโน้มปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้ดีขึ้น และเมื่อเล่นจ๊ะเอ๋กับเด็กเรื่อยๆ เด็กจะค่อยๆ พัฒนาการรับรู้ว่า วัตถุนั้นมีอยู่ถาวร (Object permanence) แม้ว่าเขาจะไม่เห็นสิ่งนั้น แต่วัตถุยังคงมีอยู่

นอกจากนี้ Dr. Anddyman ผู้ทำวิจัยเกี่ยวกับการหัวเราะของเด็กทารก (The Baby Laughter project) ได้กล่าวไว้ว่า “การเล่นจ๊ะเอ๋ ถือได้ว่าเป็นบทสนทนาครั้งแรกๆ ระหว่างตัวเด็กกับพ่อแม่ เพราะเราไม่สามารถอดใจไม่ให้ยิ้มและหัวเราะ เมื่อเด็กเริ่มหัวเราะกับเรา ซึ่งการตอบสนองแบบนี้เป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับเด็กในการพัฒนาความสามารถในการโต้ตอบกับคนอื่น ๆ ความจริงแล้วรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอาจเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญสำหรับทารกก่อนที่พวกเขาจะพัฒนาภาษา”

อ้างอิงข้อมูลจากเพจ ตามใจนักจิตวิทยา

เล่นกับลูกอย่างไรให้ฉลาด

3. อ่านเล่านิทาน

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ช่วงเวลาที่เหมาะต่อการอ่านนิทานกับลูกให้ฟังก่อนนอนซึ่งถือเป็นเวลาคุณภาพ (Quality Time) คือช่วง 20.30 น. ไม่เกิน 21.00 น. ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที หากเทียบกับกิจกรรมอื่น ๆ ถือว่าใช้เวลาน้อยมาก ซึ่งถ้าคุณพ่อสามารถทำได้ติดต่อกันทุกวันเป็นระยะเวลา 3 ปี จะเกิดประโยชน์มากมาย ทำให้ลูกมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว เฉลียวฉลาด รักการอ่าน เป็นเด็กดี เชื่อฟัง ที่สำคัญเป็นการกระตุ้นพัฒนาการของสมองส่วนหน้า และเป็นเหมือนข้อบังคับของบ้านว่า ไม่ว่าพ่อหรือแม่จะทำงานหรือมีกิจกรรมอะไร อย่างน้อยในหนึ่งวันจะต้องส่งลูกเข้านอนและมีเวลาคุณภาพร่วมกัน

Must read : ฝึกลูกนอน (เร็วและเป็นเวลา) จำเป็นไหม? พร้อมวิธีฝึกลูกให้หลับเร็ว

Must read : รวม นิทานหมอประเสริฐแนะนำ พ่อแม่อ่านให้ฟัง เสริมพัฒนาการลูกทุกวัย

Must read : เหตุผลที่ควรเล่านิทานและเทคนิคการเล่านิทานให้ลูกน้อยเพลิดเพลินและมีความสุข

4. เล่นบทบาทสมมุติ

หนึ่งในวิธี เล่นกับลูกอย่างไรให้ฉลาด ที่คุณพ่อไม่ควรพลาด เพราะการเล่นบทบาทสมมุติ เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้จินตนาการอันบรรเจิด ได้ใช้สมองทางด้านอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งนำไปสู่ประโยชน์มากมายในการกระตุ้นและส่งเสริมศักยภาพทางสมองอย่างรอบด้าน หากคุณพ่อไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ก็ให้คิดตอนเมื่อตัวเองยังเด็ก หรือคิดพล็อตเรื่องจากละคร นิทาน โดยมีโครงเรื่องเป็นไกด์ให้ลูก จากนั้นก็เล่นเป็นเพื่อนไหลลื่นเล่นไปตามน้ำ ตามที่ลูกต้องการ ช่วยกระตุ้นความคิดของลูก รวมไปถึงคุณพ่อสามารถสอดแทรกคำศัพท์ให้ลูกได้ด้วย ทำให้ลูกมีคำคลังได้เพิ่มมากขึ้น ยิ่งถ้ามีท่าทางประกอบจะยิ่งทำให้เด็กเรียนรู้ทักษะทางด้านภาษาได้ดียิ่งขึ้น

Must read : “เล่นสมมติ” ดีต่อลูกเล็กครบทั้งกาย ใจ สมอง แถมสนุกไม่ธรรมดา!

5. เครื่องปีนป่าย

หากคุณพ่อสงสัยว่าจะ เล่นกับลูกอย่างไรให้ฉลาด นี่ก็เป็นอีกหนึ่งการเล่นง่ายๆ กับลูกที่คุณพ่อสามารถทำได้ ด้วยร่างกายที่แข็งแรงของผู้ชายที่ได้เป็นพ่อคน ถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนี้ สำหรับลูกน้อยวัย 1-2 ขวบ เป็นวัยที่เข้ากำลังอยากลอง อยากเล่น เป็นที่สุดเพราะเขาเริ่มเดินได้ ซึ่งเมื่อลูกพยายามปีนป่ายขึ้นไปบนตัวพ่อ พวกเขาจะได้เรียนรู้การทรงตัว และการควบคุมการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆให้สอดคล้องกันไปได้พร้อมๆ กัน คุณพ่อจึงควรเตรียมร่างกายตัวเองให้พร้อมเป็นเครื่องปีนป่ายให้ลูกเล่น โดยควรให้เวลาลูกได้เล่นกับคุณพ่อบ้าง อาจใช้เวลาเพียง 5 – 10 นาที ก่อนลูกเข้านอน แต่ใช้อย่างคุ้มค่า ก็กลายเป็นเวลาคุณภาพเพื่อพัฒนาสมองลูกต่อไปได้

6. เล่นดนตรี / ร้องเพลง

เพราะการร้องเพลงหรือเล่นดนตรี เสียงและการกระทำเหล่านั้นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองมากกว่า 10 ส่วนทั่วไปหมด ทั้งสมองส่วนบน ส่วนล่าง ซ้าย ขวา หน้า หลัง ให้สมองของลูกกระตุ้นจินตนาการและความคิดอย่างมีเหตุผล การคิดคำนวณ วิทยาศาสตร์และภาษาซึ่งดนตรีที่มีจังหวะช้าๆ ฟังสบายๆ มีจังหวะท่วงทำนองและความกลมกลืนของเสียงที่เหมาะสมจะทำให้สมองของลูกพัฒนา ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะลูกน้อยที่อยู่ในวัยแรกเกิดถึง 3 ขวบ เกิดการเรียนรู้ ช่วยพัฒนาทั้งทางด้านอารมณ์ สติปัญญา และความคิดสร้างสรรค์ ช่วยให้มีความสามารถที่จะจดจำสิ่งต่างๆ ที่พ่อแม่สอนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งหากคุณพ่อบ้านไหนถนัดด้านใดด้านหนึ่งก็ควรเข้าไปมีส่วนร่วมกับลูกด้วย เช่นคุณแม่ร้องเพลง คุณพ่อก็สามารถชวนลูกตีกลอง เคาะโต๊ะ หรือเล่นเครื่องดนตรีอื่นๆ ไปพร้อมกัน ก็จะช่วยสานสัมพันธ์ทั้งพ่อแม่ลูกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

7. ออกกำลังกาย / เล่นกีฬา

อีกหนึ่งความถนัดของคุณผู้ชายหลายๆคน ที่เมื่อกลายเป็นพ่อแล้วการมีสกิลนี้ติดตัวมาก็สามารถใช้กับลูก เพราะการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา จะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน ลดความตึงเครียด กระตุ้นเซลล์ให้ทำงานอย่างยืดหยุ่นและสมดุล เพราะการให้สมองทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน คร่ำเคร่งกับการเรียนตลอดเวลาจะทำให้สมองเหนื่อยล้า และยากที่จะรับสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจจะไม่ได้ทำให้ลูกฉลาดขึ้นได้โดยตรง แต่ก็ช่วยให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยิ่งถ้าคุณพ่อ รวมถึงคุณแม่พาลูกออกกำลังกาย เล่นกีฬาด้วยกัน ความสัมพันธ์ในครอบครัวยิ่งแน่นแฟ้น เด็กก็จะแข็งแรงทั้งกายและใจแน่นอน

เล่นกับลูกอย่างไรให้ฉลาด

8. “รักนะ (ต้อง) แสดงออกด้วย”

เล่นกับลูกอย่างไรให้ฉลาด ข้อสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยไหนลูกก็ยังอยากให้พ่อแม่โอบกอด บอกรัก หรือสัมผัสที่ช่วยให้เกิดความใกล้ชิดผูกผันโดยเฉพาะลูกวัยทารก พอเข้าสู่วัยเด็กเล็ก คุณพ่อควรเป็นคนช่วยเปิดโลกกว้างให้ลูก เช่น พาออกไปเดินเล่นนอกบ้าน และชี้ชวนให้ลูกรู้จักสิ่งต่างๆ เมื่อลูกเข้าสู่วัยเรียน ควรพาออกไปเรียนรู้ประสบการณ์ที่ดีที่คุณพ่อเคยสัมผัส เพื่อความทรงจำที่ดีไปจนโต และถ้าลูกเข้าสู่วัยรุ่น เป็นวัยที่ลูกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น คุณพ่อควรฝึกถามความเห็น แต่ไม่ควรทิ้งการโอบกอด สัมผัส ลูบศีรษะ เพราะจะช่วยให้ลูกรู้สึกผูกพันไม่เสื่อมคลาย

Must read : เลี้ยงลูกให้ “อัจฉริยะ” ด้วยความรักจากพ่อแม่

สุดท้ายไม่ว่าคุณพ่อหรือคุณแม่จะทำอะไร ดูแล สอนลูกอย่างไร หรือ เล่นกับลูกอย่างไรให้ฉลาด ก็ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ควรรู้ คือ คุณพ่อต้องทำสิ่งเหล่านั้นกับลูกอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ เพราะการเลี้ยงดูด้วยความรัก มอบความสุข หรือการเล่นกับลูกบ่อยๆ ลูกของเราก็จะโตขึ้นเป็นเด็กที่อารมณ์ดี ฉลาดกว่า และมีพัฒนาการในทุกๆ ด้านที่ดีกว่าเด็กทั่วๆ ไปได้นั่นเองค่ะ

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก : 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

Summary
Review Date
Reviewed Item
เล่นกับลูกอย่างไรให้ฉลาด
Author Rating
51star1star1star1star1star

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up