ติดตั้งคาร์ซีท

เลือกซื้อ ติดตั้งคาร์ซีท อย่างไรให้เหมาะกับวัย ปลอดภัยกับลูกน้อย?

Alternative Textaccount_circle
event
ติดตั้งคาร์ซีท
ติดตั้งคาร์ซีท

คาร์ซีทถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับสรีระของเด็กในแต่ละวัย ดังนั้นจึงมีหลายรุ่นและหลายชนิดให้เลือกใช้ แต่จะเลือกซื้อ และ ติดตั้งคาร์ซีท อย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกน้อยที่สุด?

เลือกซื้อ ติดตั้งคาร์ซีท อย่างไรให้เหมาะกับวัย ปลอดภัยกับลูกน้อย?

คาร์ซีท เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างหนึ่งที่ควรจะใช้ระหว่างการเดินทางโดยรถยนต์ เพราะจะช่วยให้ลูกน้อยเดินทางได้อย่างสบาย มีที่นั่งที่สามารถรองรับกับสรีระเล็ก ๆ ของลูกได้ นอกจากนี้ยังทำให้ลูกน้อยปลอดภัยตลอดการเดินทางอีกด้วย ในบางประเทศ มีกฎหมายบังคับให้มีการ ติดตั้งคาร์ซีท ไว้บนรถ หากมีเด็กร่วมเดินทางด้วย เด็กคนนั้นจะต้องนั่งอยู่บนคาร์ซีทตลอดการเดินทาง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเด็กเองหากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นมา แม้ว่าในเมืองไทยจะยังไม่มีกฎหมายบังคับนี้ แต่ในหลาย ๆ ครอบครัว ก็เลือกที่จะ ติดตั้งคาร์ซีท ไว้บนรถเพื่อให้ลูกน้อยได้นั่งในเวลาเดินทาง คาร์ซีทจึงเป็นไอเท็มที่ครอบครัวที่มีลูกเล็กจะต้องมี สำหรับคุณแม่มือใหม่ ที่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกซื้อคาร์ซีทอย่างไรให้เหมาะกับวัย และปลอดภัยกับลูกน้อยนั้น เรามีข้อมูลดี ๆ มาประกอบการตัดสินใจค่ะ

คาร์ซีท มีกี่ประเภท?

ประเภทของคาร์ซีทมักจะออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับช่วงอายุ ส่วนสูง และขนาดตัวของเด็ก เราจึงสามารถแยกประเภทของคาร์ซีทได้ ดังนี้

คาร์ซีทแบบกระเช้า
คาร์ซีทแบบกระเช้า
  • คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (คาร์ซีทแบบกระเช้า) มักมีด้ามจับอยู่ด้านบน สามารถถอดออกจากฐานที่ยึดกับเบาะรถได้ และต้องติดตั้งโดยหันหน้าเข้าหาเบาะหลังเท่านั้น ข้อดีของคาร์ซีทประเภทนี้คือสามารถถอดออกจากฐานที่ยึดกับเบาะรถได้ หากลูกหลับขณะอยู่บนรถ เมื่อถึงที่หมายแล้ว คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องปลุกลูกหรืออุ้มลูกออกจากคาร์ซีท เพราะสามารถยกกระเช้าออกจากฐานได้เลย โดยมากคาร์ซีทประเภทนี้มักจะจำหน่ายเป็นเซ็ต คือ กระเช้านี้สามารถนำไปติดกับฐานบนรถเพื่อเป็นคาร์ซีท เมื่อถึงที่หมายก็นำกระเช้าไปติดกับรถเข็นได้เลย
คาร์ซีท
คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ
  • คาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rear-Facing Convertible Car Seat) คาร์ซีทประเภทนี้จะไม่มีด้ามจับอยู่ด้านบน จึงไม่สามารถถอดออกจากฐานได้ คุณพ่อคุณแม่จะต้องอุ้มลูกออกมาจากคาร์ซีทเมื่อถึงที่หมายเท่านั้น แต่ข้อดีของคาร์ซีทประเภทนี้คือ เมื่ออายุและน้ำหนักของลูกสามารถนั่งคาร์ซีทแบบหันไปข้างหน้ารถได้แล้ว คาร์ซีทประเภทนี้จะสามารถแปลงไปเป็นคาร์ซีทแบบหันไปข้างหน้ารถได้
คาร์ซีทเด็ก
คาร์ซีทแบบหันไปข้างหน้ารถ
  • คาร์ซีทแบบหันไปข้างหน้ารถ (Forward Facing Car Seat) ติดตั้งโดยยึดติดกับเบาะหลัง และหันไปข้างหน้ารถเหมือนเบาะรถปกติ คาร์ซีทประเภทนี้จะออกแบบมาสำหรับเด็กโต ในบางยี่ห้อ จะสามารถปรับเปลี่ยนเป็นคาร์ซีทแบบที่นั่งเสริม (Booster Seat) ได้ ทำให้สามารถยืดการใช้งานคาร์ซีทประเภทนี้ได้ตั้งแต่เด็กจนโต
Booster Seat
Booster Seat
  • คาร์ซีทแบบที่นั่งเสริม (Booster Seat) ติดตั้งโดยยึดกับเบาะหลัง และหันไปข้างหน้ารถเหมือนเบาะรถปกติ ใช้สำหรับเด็กที่โตเกินกว่าจะนั่งคาร์ซีทแบบหันไปข้างหน้ารถได้ ข้อดีของคาร์ซีทประเภทนี้คือมีน้ำหนักเบากว่าคาร์ซีทประเภทอื่น ๆ พกพาสะดวก

หากเด็กโตขึ้นจนสามารถคาดเข็มขัดนิรภัยได้ถูกต้องพอดีตัว โดยสามารถคาดเข็มขัดผ่านต้นขาด้านบนและผ่านหน้าอกได้ ไม่ใช่ผ่านบริเวณท้องและคอ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้คาร์ซีทอีกต่อไป

6 สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนซื้อคาร์ซีท

เนื่องจากคาร์ซีทถูกออกแบบมาให้เหมาะกับเด็กตั้งแต่วัยแรกเกิดจนถึงอายุ 12 ขวบ ดังนั้น จึงมีคาร์ซีทหลากหลายประเภทดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะซื้อคาร์ซีทให้ลูก ควรใช้ 6 หลักการนี้ประกอบการตัดสินใจ

  1. อายุของลูก เนื่องจากคาร์ซีทบางประเภทก็ออกแบบมาเพื่อเด็กทารกโดยเฉพาะ และในบางประเภทก็ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับเด็กโตอย่างเดียว ดังนั้น อายุจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อคาร์ซีท
  2. น้ำหนักและส่วนสูงของลูก คาร์ซีทแต่ละประเภทจะกำหนดน้ำหนักที่คาร์ซีทนั้น ๆ สามารถรองรับได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรสอบถามผู้ขายถึงข้อมูลนี้ก่อนตัดสินใจซื้อ
  3. เข็มขัดนิรภัย เข็มขัดนิรภัยของคาร์ซีทควรผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และควรเป็นเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด  เพราะจะปลอดภัยกว่าแบบ 3 จุด
  4. มาตรฐานความปลอดภัย เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐใด ๆ ที่รับรองมาตรฐานของคาร์ซีทซึ่งถูกผลิตและนำเข้ามาในประเทศไทยโดยเฉพาะ ดังนั้น ผู้ใช้ควรเลือกคาร์ซีทที่ผ่านมาตรฐานจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น Federal Motor Vehicle Safety Standard 213 ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
  5. ความใหม่ของผลิตภัณฑ์ การซื้อคาร์ซีทมือหนึ่งซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ย่อมดีกว่า เพราะเพิ่งถูกผลิตและยังไม่ผ่านการใช้งาน เสี่ยงต่อการชำรุดเสียหายน้อยกว่า แต่หากจำเป็นต้องซื้อสินค้ามือสอง ควรสังเกตว่าผลิตภัณฑ์นั้นไม่มีชิ้นส่วนใดขาดหายไป ไม่มีรอยแตก หรือรอยร้าว และไม่เคยผ่านอุบัติเหตุทางรถยนต์มาก่อน เพราะอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบนิรภัยได้
  6. ราคา อย่าตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากราคาเพียงอย่างเดียว เพราะคาร์ซีทที่มีราคาสูง ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่าจะใช้งานได้ดีกว่า หรือปลอดภัยกว่าเสมอไป

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

อ่านต่อ ช่วงอายุที่เหมาะกับคาร์ซีทแต่ละประเภท และวิธี ติดตั้งคาร์ซีท ที่ปลอดภัย

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up