gen alpha เจนอัลฟ่า

รู้ให้ลึก ลูกเจนอัลฟ่า (Gen Alpha) ทำไมมีปัญหาพฤติกรรม?

Alternative Textaccount_circle
event
gen alpha เจนอัลฟ่า
gen alpha เจนอัลฟ่า

เจเนอเรชั่นอัลฟ่า (Generation Alpha หรือ Gen Alpha) คือนิยามที่ใช้เรียกลูกน้อยที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 หรือค.ศ. 2010 จนถึงปัจจุบัน โดยเด็กเจนนี้จะเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสังคมรอบข้างที่รวดเร็ววุ่นวาย ต่างจากเจเนอเรชั่นอื่น ๆ ที่ผ่านความยากลำบาก โตมากับชุมชนสังคม และยังมีการติดต่อสื่อสารที่ไม่สะดวกสบายเหมือนเช่นในสมัยนี้ ด้วยเหตุนี้เด็กในเจเนอเรชั่นอัลฟ่าจึงมีบุคลิกนิสัย และพฤติกรรมที่แตกต่าง ที่สำคัญคือ พ่อแม่ไม่เข้าใจและเลี้ยงลูกไม่ถูกต้อง จึงพบว่าเด็กยุคใหม่มีปัญหาพฤติกรรม ความรุนแรง เพศ และอื่น ๆ อีกมากมายดังที่เห็นเป็นข่าวในปัจจุบัน

รู้สาเหตุลูกเจนอัลฟ่า (Gen Alpha) มีปัญหาพฤติกรรม

รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ไดให้ข้อมูลของเด็กเจนอัลฟ่าไว้ดังนี้ ด้วยความที่เด็กเจนอัลฟ่าอยู่ท่ามกลางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว สังคมรอบตัวก็เปลี่ยนแปลงมากมาย จนทำให้เขามีเพื่อนมีสังคมได้ผ่านเทคโนโลยี ไม่จำเป็นต้องเห็นหน้าเพื่อนก็คุยกันได้ พ่อแม่ก็มักจะมีลูกเพียงแค่คนเดียว เพราะต้องเอาเวลาไปทำมาหากินเพื่อเลี้ยงครอบครัว จึงทำให้เราเห็นพฤติกรรมของเด็ก Gen Alpha ที่ชัดเจนและสำคัญ จนเกิดเป็นบุคลิก นิสัย และก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ได้ นั่นคือ

1. มีความเป็น Individualism หรือใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องง้อคนอื่น

เพราะเด็กยุคนี้เขาจะสามารถเอาชีวิตรอดอยู่คนเดียวในบ้านได้เพียงลำพัง จากที่เราเคยให้นิยามไว้ว่ามนุษย์คือสัตว์สังคม แต่ยุคของเด็กดิจิทัลคิดส์อาจจะต้องเปลี่ยนนิยาม เพราะเขาพร้อมที่จะอยู่คนเดียวได้ตลอดเวลา เขาจะมีเพื่อนมาคุยด้วยทั้งกลางวันและกลางคืน โดยคุยบนแพลตฟอร์มของดิจิทัลได้อย่างสบายมาก หิวก็สั่งอาหารกินเองได้ อยากเล่นอยากคุยกับใครก็ติดต่อได้หมด ดังนั้นสิ่งที่จะขาดหายไปคือ Human Relationship เด็กยุคนี้จะขาดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกัน ไม่มีความเอื้ออาทร เพราะเขาจะอยู่กับเทคโนโลยี อยู่กับโลกในระบบดิจิทัล ดังนั้นความเข้าใจในเพื่อนมนุษย์และครอบครัวจะไม่มี ไม่รู้จักเห็นอกเห็นใจ หรือเข้าใจความรู้สึกผู้อื่น รวมถึงการสื่อสารกับคนอื่นในแบบที่ถูกต้อง

นอกจากนี้เด็ก Gen Alpha จะไม่ได้เรียนรู้การร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกันกับพ่อแม่พี่น้องหรือคนในบ้าน ไม่มีน้ำใจ ไม่เคยช่วยงานบ้าน หากพ่อแม่ไม่เคยสอนหรือฝึกให้ทำ ดังนั้น การทำงานบ้าน ปัดกวาด ถูบ้าน ล้างจาน เขาจะทำไม่เป็นและไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องทำ เพราะใช้หุ่นยนต์ทำแทนได้ และคิดว่าเรื่องนี้เขาไม่มีส่วนร่วม ไม่ใช่หน้าที่เขา แต่เป็นหน้าที่แม่บ้านหรือภาระของแม่เท่านั้น ความเป็น Individualism ของเด็กยุคใหม่ที่ทำให้ขาด Human Relationship นี้ถือเป็นจุดอ่อน เป็นสิ่งที่เรียกว่าผิดความเป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์คือสัตว์สังคม ต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น แต่เด็กเจนอัลฟ่าอาจจะคิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องอาศัยคนอื่น เพราะเขาอยู่ได้อยู่ในสังคมดิจิทัลของเขา แต่สังคมที่เขาคิดนั้นเต็มไปด้วยอันตราย เพราะเป็นสังคมเสมือนที่หากไม่วิเคราะห์และทำความเข้าใจก็อาจจะเกิดปัญหากับเด็กได้ในอนาคต

2. เด็กอยู่ท่ามกลางข้อมูลที่มากมาย แต่ไม่รู้ว่าอะไรจริง

เนื่องจากในยุคดิจิทัลที่สื่อสารกันได้ง่ายและเร็ว ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ รอบตัวสามารถถาโถมเข้ามาที่ตัวเด็กได้มากมาย เด็กยุคนี้จึงกลายเป็น Robust Education หรือมีข้อมูลหลากหลาย แต่สิ่งอันตรายคือไม่รู้ว่าอะไรคือความจริง และอะไรคือเรื่องที่ไม่จริง ซึ่งเรื่องนี้น่าเป็นห่วงมาก เพราะทุกวันนี้เกิดขึ้นแล้ว เรื่องที่เด็กถูกหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดีย

ดังนั้น หากเด็กยุคใหม่เจนอัลฟ่า Gen Alphaไม่รู้จักคิด วิเคราะห์ แยกแยะ จะทำให้โดนล่อลวงได้ง่าย เพราะเด็กเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้รวดเร็วและง่ายมาก นอกจากเด็กจะต้องรู้จักวิเคราะห์ข้อมูลเป็นแล้ว การที่โลกมีข้อมูลข่าวสารและการเรียนรู้ที่หลากหลายผ่านดิจิทัลในทุกรูปแบบทุกภาษานี้ จะทำให้ เด็กเจนอัลฟ่าไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ในรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป เพราะลูกสามารถเปลี่ยนแพลตฟอร์มหรือรูปแบบการเรียนได้ไม่จำกัดอยู่แค่ในโรงเรียน แต่จะสามารถเรียนที่ต่างประเทศได้ผ่านการออนไลน์ เด็กในยุคดิจิทัลอาจจะไม่จำเป็น ต้องใส่ยูนิฟอร์ม มีระบบระเบียบเ มด และด้วยความที่ลูกใช้ชีวิตฟาสต์ไลฟ์ ติดต่อและทำอะไรได้รวดเร็ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องเชื่อครู เพราะครูมีความรู้ไม่มากพอ แต่ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในออนไลน์และเรียนหนังสือบนระบบ e-Education ได้ด้วยตนเองไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ฉะนั้น ปัญหาคือเด็กจะไม่มีความเคารพครู เคารพผู้ใหญ่ ครูหรือพ่อแม่ไม่ได้เป็นผู้รู้ดีที่สุดสำหรับเขาอีกต่อไป ในเมื่อมีแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่เขาสามารถหาข้อมูลได้ด้วยตัวของเขาเอง

นอกจากนี้ระบบการศึกษาที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจจะไม่เหมาะกับเด็กยุคใหม่ Gen Alpha การศึกษาจะต้องปรับเปลี่ยน หลักสูตรที่มีต่าง ๆ อาจจะใช้ไม่ได้ เพราะอนาคตเด็กยุคนี้อาจไม่จำเป็นต้องนำปริญญาบัตรไปสมัครงาน แต่จะใช้การเรียนเป็นคอร์สสั้นหรือทักษะสำคัญ ๆ ในงานเฉพาะด้านนั้น โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยอาจไม่จำเป็นต้องใหญ่โต แต่เด็กจะเรียนคอร์สออนไลน์ผ่านไอคลาวด์ได้ทุกที่ รวมทั้ง การที่เขาสามารถทกงานและเรียนได้หลากหลาย ทำให้ไม่มีความรักในสถาบัน ชุมชน องค์กร หรือในงานที่ทำอย่างจริงจัง

ฉะนั้นคำถามสำหรับพ่อแม่คือ ได้เตรียมลูกให้พร้อมตั้งรับกับโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลมากมายหลากหลายนี้อย่างไร เราได้ฝึกให้ลูกรู้จักตัวเอง ผูกพันกับครอบครัวเพียงพอที่จะเผชิญกับโลกเสมือนจริงที่อาจเป็นอันตรายไว้หรือไม่ สอนให้เขาคิดถึงครอบครัว ชุมชน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันที่จะคอยป้องกัน และดูแลกันยามเมื่อเกิดปัญหาได้หรือเปล่า

คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเจนอัลฟ่าจึงควรเริ่มทำหน้าที่ใส่ความรู้คิดวิเคราะห์และความผูกพันกับครอบครัว ชุมชน สังคม และความเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจไว้ เพื่อให้ลูกสามารถเรียนรู้และตัดสินใจในการใช้ชีวิตในอนาคตได้ถูกต้อง

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

3. ลูกเจนอัลฟ่าเป็น Extreme Cuddle

คือได้รับความรักความห่วงใยจากพ่อแม่มากเกินไป และพ่อแม่เลี้ยงไม่ถูกต้อง เนื่องจากปัจจุบันพ่อแม่มีลูกน้อยลง แล้วก็มีลูกเพียงคนเดียว หรืออย่างมากแค่ 2 คน ทำให้พ่อแม่ทุ่มเทความรักและความหวังไว้กับลูกมากเกินไป (Over Protection) และส่วนใหญ่จะมีวิธีการเลี้ยงลูกที่ไม่ถูกต้อง จนทำให้เกิดปัญหา

ห่วงลูกมากเกินไป
พ่อแม่ห่วงลูกมากเกินไป เลี้ยงลูกไม่ถูกต้อง

ที่เราใช้คำว่า (Dysfunctional Family) หมายถึง ครอบครัวมีปัญหาภายในหรือบกพร่องในการเลี้ยงลูก ทั้ง ๆ ที่ครอบครัวมีสภาพปกติ ซึ่งพบบ่อยขึ้นมากและรุนแรง ต่างจากแต่ก่อนที่เวลาพบเด็กมีปัญหามักจะเกิดกับครอบครัวเด็กที่ขาดทุนทรัพย์ หย่าร้าง มีการศึกษาต่ำ และปล่อยปละละเลย

ปัญหาใหม่ ครอบครัวมีเงิน มีการศึกษาแต่เลี้ยงลูกไม่เป็น ทุกวันนี้สิ่งที่ท้าทายและเป็นปัญหาใหม่ในสังคมคือ กลุ่มพ่อแม่ที่มีเงิน รวย มีการศึกษาสูง แล้วก็อยู่ด้วยกัน ไม่ได้หย่าร้าง แต่กลับเลี้ยงลูกไม่เป็น เลี้ยงลูกให้มีทุนชีวิตตำ ทำให้มีพฤติกรรมเสี่ยง มีการแสดงพฤติกรรมที่มีปัญหา ทั้งเรื่องเพศ ความรุนแรง และอื่น ๆ จากการศึกษาพบว่า ประเทศไทยเริ่มเจอสภาวการณ์ครอบครัวที่ฐานะดีแต่มีปัญหาในการเลี้ยงลูกมากขึ้นจนน่าเป็นห่วง เพราะหน่วยเล็กที่สุดในสังคมที่ทรงอานุภาพต่อการสร้างคนสร้างชาติคือ “ครอบครัว” แต่วันนี้ครอบครัวเกือบครึ่งกำลังเผชิญกับปัญหานี้

4. เข้าใจและรู้จักความเป็นธรรมชาติน้อยลง

เพราะเด็กเจนอัลฟ่าในยุคดิจิทัลมีสื่อต่าง ๆ หลากหลายแพลตฟอร์มอยู่รอบตัว ให้ลูกได้ดู ได้เล่น ได้พูดคุย ได้รู้ข่าวสารต่าง ๆ โดยไม่ต้องออกนอกบ้านเลย ทำให้เด็กยุคนี้ห่างไกลจากความเป็นธรรมชาติ ห่างไกลจากความผูกพันกับคนอื่น และห่างไกลศีลธรรม หรือแม้กระทั่งการยืดหยุ่นรอคอยก็จะไม่มี เพราะความที่ลูกเคยใช้ชีวิตแบบ Fast Life และมีรูปแบบเหมือนหุ่นยนต์ มีโปรแกรมในแต่ละวันจากการที่พ่อแม่ให้ตื่นมาอาบน้ำ แปรงฟัน ไปเรียน ไปลงเรียนคอร์สเสริมทักษะและเรียนพิเศษ

คุณสมบัติในลักษณะนี้ของเจนอัลฟ่าจึงอาจจะคล้ายหุ่นยนต์ ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องนึกถึงความรู้สึกใคร ไม่จำเป็นต้องง้อ และมีทางเลือกหลากหลาย เพราะมีของเล่นดิจิทัลในมือให้พูดคุย ฉะนั้นเด็กยุคใหม่จึงไม่รู้สึกดื่มด่ำกับธรรมชาติ ขาดน้ำใจ ขาดความเอื้ออาทร และความเมตตาปรานีต่อสัตว์ รวมถึงไม่มีความอึดฮึดสู้หรือรู้จักอดทนรอคอยสิ่งต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องน่าเป็นห่วง หากจิตใจคนเราในอนาคตจะไม่มีความเอื้ออาทรต่อกัน ไม่มีความสุขในแบบที่ควรเป็น หรือมีแต่ความเห็นแก่ตัว ไม่รู้จักอดทน ไม่ยอมรับความผิดหวังหรือเศร้า ทั้งหมดนี้จะทำให้ป่วยด้วยโรคทางสุขภาพจิตกันมากขึ้น และไม่สามารถจัดการกับอารมณ์หรือปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตด้วยวิธีที่ถูกต้อง แต่ใช้วิธีที่ผิด ๆ เช่น ฆ่าตัวตาย ใช้ความรุนแรง และทำร้ายคนอื่น

5. เจนอัลฟ่าสามารถทำงานได้หลายอาชีพ

คำถามว่า “โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร” อาจจะเป็นคำถามที่เชยที่สุดของเด็กเจนนี้ เพราะความร้ที่หาได้หลากหลายในทุกที่ การศึกษาออนไลน์ทำให้เขาได้เรียนหลายอาชีพ มีวุฒิบัตรหลายสาขา ดังนั้นเมื่อเด็กเจนอัลฟ่าเติบโตขึ้น เขาจะสามารถทำงานได้หลากหลาย โดยอาจจะเป็นวิศวกร 3 วัน ทำงานขาย 2 วัน และเป็นหมออีก 2 วันก็ทำได้ โดยจะทำงานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพในทุกที่ ในขณะเดียวกันก็สามารถทำงานที่บ้านโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศได้อีกด้วย รวมถึงในอนาคตการทำงานอาจไม่จำกัดอายุ หากเด็กมีทักษะต่าง ๆ มากขึ้น เขาก็จะสามารถทำงานต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ยังไม่จบมหาวิทยาลัย

อาชีพในฝัน
อาชีพในฝันของเด็ก gen alpha สามารถมีได้หลายอาชีพ

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรทำความรู้จักลูกเจนอัลฟ่าให้ลึกซึ้ง โดยคุณหมอได้แนะนำวิธีรับมือกับพฤติกรรมลูกรักจากปัญหาดังกล่าว  อาทิ

  • รับมืออย่างไร เมื่อลูกเป็น Individualism
  • เมื่อลูกมีข้อมูลมากมาย จะทำอย่างไรให้เขาคิดเป็น
  • เมื่อเป็นลูกคนเดียว จะทำอย่างไรทักษะชีวิต ทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคม
  • เมื่อธรรมชาติห่างไกล จะพาลูกเข้าใกล้ธรรมชาติมากขึ้นได้อย่างไร
  • สอนลูกวางแผนอย่างไร เมื่อลูกทำงานหลายอาชีพในอนาคตได้
  • พ่อแม่จะเพิ่มเติมทุนชีวิตให้ลูกรักเจนอัลฟ่าได้อย่างไร

ติดตามอ่านต่อได้จากหนังสือ “สุดยอดคู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่” ฉบับสมบูรณ์ โดย Amarin Baby & Kids สำหรับแม่ตั้งครรภ์จนถึงลูกน้อยวัย 3 ขวบ รวบรวมครบถ้วนทั้ง

  • เทคนิคการดูแลครรภ์คุณภาพ
  • สร้างฉลาด พัฒนาสมองลูกให้ถูกช่วงวัย
  • สารพัดเคล็ดลับวิธีเลี้ยงลูก
  • สุดยอดวิธีการเลี้ยงลูกเจนอัลฟ่า
  • Mom SOS ช่วยลูกวินาทีฉุกเฉิน
  • ผ่านการตรวจสอบจากกุมารแพทย์และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

หนังสือปกแข็งอย่างดี พิมพ์ 4 สีตลอดเล่ม เพื่อเป็นสุดยอดคู่มือให้คุณแม่ อ่านง่าย ในราคา 499 บาท

คู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่
คู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่ ฉบับสมบูรณ์

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up