8 ข้อผิดพลาดของพ่อแม่ สาเหตุลูกฟันผุ ก่อนวัยอันควร
สาเหตุลูกฟันผุ มีอยู่หลายข้อด้วยกัน คุณพ่อคุณแม่หลายคน อาจคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ ลูกอาจฟันผุได้บ้าง แต่จริงๆ ด้วยวัยเพียงเท่านี้ ลูกควรมีสุขภาพโดยรวมที่ดี ได้เล่นอย่างมีความสุข ไม่ต้องมาทุกข์ทรมานกับ อาการต่างๆ ที่เกิดจากฟันผุ ทั้งปวดฟัน เหงือกบวม ฟันล้ม ติดเชื้อจากฟันผุ ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการที่ปล่อยให้ลูกฟันผุเป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษา ซึ่งปัญหานี้สามารถป้องกันก่อนเกิดได้ ถ้าพ่อแม่หันมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุ ตลอดจนให้ความสำคัญกับกิจวัตรประจำวันที่บ้านของลูกที่อาจส่งผลให้ลูกฟันผุได้ค่ะ
8 ข้อผิดพลาดของพ่อแม่ สาเหตุลูกฟันผุ ก่อนวัยอันควร
สาเหตุที่ทำให้ลูกฟันผุนั้นไม่ได้มาจากแค่การรักษาความสะอาดทางช่องปากไม่ทั่วถึงเสมอไป แต่ยังมาจากสาเหตุเหล่านี้ อีกด้วยนะคะ ลองเช็คดูว่าเราทำแบบนี้ อยู่หรือเปล่า?
1. ให้ลูกกินวิตามินเหนียว บ่อยเกินไป
การให้ลูก ทานวิตามินเหนียวรสอร่อย หลากสีสัน บ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะมัน คือปัจจัยสำคัญที่ ทำให้ลูกฝันผุได้ ในวิตามินเหนียวแต่ละเม็ด มี น้ำตาลมากถึง 2-3 กรัม ซึ่งส่งผลให้ฟันผุได้ถ้าทานเป็นประจำและไม่ได้รับการดูแลความสะอาดช่องปากที่ดีพอ
![]()
2. ไม่จำกัด ความถี่ ในการทานขนมกรุบกรอบ
คุณพ่อคุณแม่หลายคน อาจคิดว่า ขนมกรุบกรอบ เช่น แคร๊กเกอร์ เพรทเซล ไมใช่ สาเหตุลูกฟันผุ แต่ขนมพวกนี้ล้วนเป็นคาร์โบไฮเดรต ที่สามารถย่อยสลายเป็นน้ำตาลได้ ซึ่งสามารถส่งผลเสียโดยตรงต่อปัญหาสุขภาพฟัน เพราะฉะนั้น ควร จำกัด ความถี่ ในการให้ทานขนมเหล่านี้ ของลูกค่ะ
3.ให้ลูก ดื่มน้ำผลไม้ หรือ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลจนเคยชิน
การปล่อยให้ลูกดื่มน้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มกีฬา ตลอดเวลา ส่งผลเสียได้มากกว่าที่เราคิด ส่วนใหญ่น้ำพวกนี้ใน 1 ขวด จะปริมาณน้ำตาลมากกว่า 30 กรัมขึ้นไป ซึ่งเป็นปริมาณที่มากพอต่อการ ทำให้ลูกฟันผุได้ ทางที่ดี ควรจำกัด การดื่มน้ำผลไม้ของลูก ให้เหลือเพียง 4 ออนซ์ ต่อวัน หรือน้อยกว่า และควรให้ลูกดื่มได้ ในช่วงเวลาอาหารเท่านั้น ที่สำคัญ ไม่ควรเติมน้ำตาลเพิ่มลงในจานอาหารของลูกด้วยค่ะ
4. ปล่อยให้ลูกหลับคาขวดนม
นมแม่ และนมผสม ต่างๆ นั้นมีน้ำตาลแลคโตส เป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นน้ำตาลธรรมชาติ หากสะสมอยู่ในช่องปากหรือตามซอกฟันเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ฟันผุรุนแรงได้ ทางที่ดีควรให้ลูกเลิกขวดเมื่อลูกอายุ ประมาณ 1 ขวบ (12-18 เดือน) นอกจากนี้ ควรปลูกฝัง และสอนให้ลูกดูดขวดที่ใส่น้ำเปล่าเท่านั้น เนื่องจากเด็กวัยนี้อาจยังต้องการการดูดขวดเพื่อความสบายใจหรือผ่อนคลายก่อนจะนอนหลับ
5. ใช้ยาสีฟันในปริมาณมากเกินไป
การใส่ยาสีฟันให้ลูกเยอะเกินไป ส่งผลเสียได้มากกว่าที่เราคิด ทางที่ดี ควรจำกัด ปริมาณยาสีฟันเด็กที่ใช้กับลูก สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี ให้ใส่ยาสีฟันปริมาณเท่าข้าวเม็ดเล็ก ๆ และ ประมาณเมล็ดถั่วขนาดเล็ก สำหรับเด็ก 4 ขวบขึ้นไป ซึ่งแปรงสีฟันบางชนิด มีตัวบ่งชี้สีน้ำเงินบนขนแปรง เพื่อให้รู้ปริมาณยาสีฟัน ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก

6. ปล่อยให้ลูก แปรงฟันด้วยตัวเอง
พ่อแม่หลายคนคิดว่าลูกอายุ 2-3 ขวบ จะสามารถแปรงฟันด้วยตัวเองได้ แต่ด้วยวัยของเขา ลูกยังไม่เข้าใจและอาจทำได้ไม่ดีพอค่ะ ถ้าลูกยังต้องการที่จะแปรงฟันเอง เราอาจบอกเด็ก ๆ ว่า “ ลูกสามารถแปรงฟันเอง ถ้าผูกเชือกรองเท้าเองได้” ทั้งนี้ ก็เพราะเมื่อ เด็กมีความชำนาญในการผูกเชือกรองเท้าของตัวเอง นั่นก็หมายถึงพวกเขามีความชำนาญ และสามารถในการแปรงฟันได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ทั้งนี้ เนื่องจากเคลือบฟันของฟันน้ำนมในเด็ก นั้นมีความหนาเพียงครึ่งหนึ่งของฟันเท่านั้น เมื่อเด็กเริ่มกินอาหารได้ เศษอาหารจะติดตามซอกฟัน หากไม่ได้รับการแปรงฟันอย่างถูกวิธี จะทำให้สิ่งสกปรกเหล่านั้นสะสมไปเรื่อย ๆ แบคทีเรียจะเติบโต กลายเป็นกรด ไปกัดชั้นเคลือบฟันจนหมดไป เมื่อเคลือบฟันหมด แบคทีเรียก็จะกัดชั้นฟันของเด็ก ๆ จนทำให้เด็กฟันผุได้ง่ายๆ เลยละค่ะ
7. ละเลยการใช้ไหมขัดฟันให้ลูก
คุณพ่อคุณแม่อาจไม่แน่ใจว่าจะใช่ไหมขัดฟันกับลูกได้หรือไม่ จริงๆ แล้ว เราสามารถใช้ไหมขัดฟันช่วยทำความสะอาดตามซอกฟันให้ลูก เมื่อลูกเริ่มมีฟันสองซี่ ที่สบกันได้ หรือ ใช้ไหมขัดฟันเมื่อแปรงสีฟันไม่สามารถทำความสะอาดระหว่างร่องฟันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฟันกรามด้านหลังเริ่มสบกัน ไหมขัดฟันจะช่วยทำความสะอาดบริเวณซอกฟันที่ขนแปรงสีฟันเข้าไม่ถึง นอกจากนี้การใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ อย่างถูกต้อง จะช่วยลดการเกิดฟันผุที่ซอกฟันได้ค่ะ ควรใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพราะคราบขี้ฟันจะพอกพูนเกาะฟันภายใน 24 ชั่วโมง โดยทั่วไปเด็กจะสามารถใช้ไหมขัดฟันได้เองอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่ออายุประมาณ 11 ปี แต่ถ้าหากต้องใช้ไหมขัดฟันในอายุที่น้อยกว่า 11 ปี ผู้ปกครองควรดูแลและแนะนำให้ใช้อย่างถูกต้อง
แปรงฟันแห้ง ช่วยป้องกัน ลูกฟันผุได้จริง (มีคลิป)
หมอฟันอึ้ง! เด็ก 3 ขวบ ฟันผุแทบหมดปาก มาดูกันว่าเป็นเพราะอะไร..
ลูกแทบไม่กินลูกอม ทำไมถึงยังฟันผุ?
![]()
8. ละเลยการพาลูกไปพบหมอฟัน
พ่อแม่หลายคนอาจคิดว่า รอจนลูกถึงอายุ 3 ขวบ ถึงจะเริ่มพาลูกไปพบทันตแพทย์ ความจริงแล้ว ควรพาลูก ไปพบทันตแพทย์ครั้งแรก เมื่อลูก อายุครบ 1 ขวบ ค่ะ เพราะจะช่วยลดโอกาสที่ทำให้ลูกฟันผุ ในวัยเด็กได้ การพาลูกไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่อายุยังน้อย จะทำให้พวกเขา เคยชิน ว่าการพบหมอฟัน นั้นไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับการการรักษาต่อไปในอนาคต มีผลการวิจัย พบว่า หากเด็กได้รับการตรวจป้องกันด้านทัตกรรม 4 ครั้ง เมื่ออายุ 3 ขวบ จะช่วยลดโอกาสเกิดเกิดโรคฟันผุในเด็กปฐมวัยได้อย่างมาก
เมื่อคุณพ่อคุณแม่ปฏิบัติตาม 8 ข้อข้างต้น มั่นใจได้เลยค่ะ ว่าปัญหาลูกฟันผุ ก่อนวัยอันควรจะไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การปลูกฝังให้ลูกได้รู้ถึง การดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขภาพช่องปากตั้งแต่ยังเล็ก ถือ เป็นการส่งเสริมให้ลูกรู้จักดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี เพื่อให้มีร่างกายที่แข็งแรง และเป็นการเสริมสร้าง ความฉลาดในการดูแลรักษาสุขภาพ(HQ) ด้วย Power BQ ให้กับลูกอีกด้วย เพื่อที่ลูกจะได้เติบโตขึ้นไปเป็นเด็กที่มีสุขภาพดี ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และยิ้มฟันขาวได้อย่างมั่นใจค่ะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.wishtv.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ระวัง! ลูกฟันผุ แน่! หากพ่อแม่ปล่อยให้ดูดนมขวดกลางดึก
เคล็ด(ไม่)ลับ..ลูกน้อยฟันแข็งแรง ไม่มีฟันผุ ตั้งแต่ฟันซี่แรก
ผลวิจัยชี้!ใช้ไหมขัดฟันก่อนแปรงฟันลดเสี่ยง เหงือกอักเสบ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่