“5 โอกาสทอง” พัฒนา สมองลูก ให้ถูกเวลา..ฉลาดสมวัย

event

หากอยาก พัฒนา สมองลูก ต้องทำให้ถูกช่วงเวลา ซึ่งถือเป็นโอกาสทองที่จะพัฒนาสมองลูกให้ฉลาดสมวัยเรียนรู้ได้เร็ว จะต้องพัฒนาตอนไหน อย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

ช่วงเวลาทอง พัฒนา สมองลูก ให้ถูกเวลา!!!

Windows of Opportunity ช่วงโอกาสทอง พัฒนา สมองลูก

ในช่วง 0 – 3 ขวบ เป็นโอกาสทองของการพัฒนาสมองระดับพื้นฐานเพื่อการรับรู้ ซึ่งสมองส่วนที่พัฒนาอย่างมากในเด็กวัยนี้ คือ สมองส่วนที่รับรู้สัมผัส เช่น การมอง การฟัง การสัมผัส การรับรส การดมกลิ่น การรับรู้ ตำแหน่งของร่างกาย การทรงตัว สมองส่วนที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว เช่น การใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่มัดเล็ก การใช้ตากับมือประสานกัน สมองส่วนที่เกี่ยวกับภาษา ฟังเข้าใจ พูดสื่อสารได้ และ สมองส่วนที่ทำให้สนใจจดจ่อต่อเนื่อง

 

1. โอกาสทองในการพัฒนาประสาทสัมผัส

เปลือกสมองส่วนการมองเห็น จะเริ่มสร้างไซแนปส์มากที่สุดในช่วงแรกเกิดจนถึง อายุ 3 – 6 เดือน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนลูกอายุ 1 ขวบ ก็จะมีจำนวนไซแนปส์ในเปลือกสมองส่วนการมองเห็นมากถึง 1.5 เท่าของที่พบในผู้ใหญ่ >> จากนั้นการสร้างไซแนปส์จะค่อย ๆ ชะลอลง เมื่อลูกอายุ 2 – 3 ขวบ ซึ่งไซแนปส์ในสมองส่วนนี้จะเริ่มสลายตัว จนมีจำนวนไซแนปส์ลดลงเท่ากับผู้ใหญ่เมื่อเด็กอายุ 5 ขวบ … หลังจากนั้นสมองส่วนการมองเห็นจะเปลี่ยนแปลงน้อยมาก

ช่วง 0 – 3 ขวบ ยังเป็นช่วงที่ “เปลือกสมองส่วนการฟัง” มีการพัฒนาอย่างมาก มีกาสร้างไซแนปส์เพิ่มขึ้น  รวมทั้งมีการสร้างแผนที่ในการแยกแยะเสียงอย่างละเอียด โดยในเปลือกสมองส่วนการฟัง (Auditory Map) ควรส่งเสริมให้ลูกมองและฟังอย่างตั้งใจ เช่น ให้ลูกสังเกตสิ่งต่าง ๆ ตามความสนใจ ชวนพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกสนใจ เพื่อยืดระยะความสนใจจดจ่อให้ยาวนานขึ้น ชวนอ่านนิทานให้ลูกฟัง หรือให้ลูกฟังเสียงที่หลากหลาย เช่น เสียงพูดคุยภาษาต่าง ๆ เสียงสัตว์ เสียงเพลง เสียงดนตรีคลาสสิกที่มีเครื่องดนตรีหลายชนิด การฟังที่หลากหลายจะช่วยให้ลูกน้อยแยกแยะความแตกต่างของเสียง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของภาษาและดนตรีต่อไป

พัฒนาสมองลูก

2. โอกาสทองในการ พัฒนา สมองลูก ด้านภาษา

เปลือกสมองส่วนที่เกี่ยวกับภาษา จะเริ่มสร้างไซแนปส์เพิ่มขึ้น ในขวบปีที่ 1 – 2 จำนวนไซแนปส์จะมากที่สุดในช่วงขวบปีที่2 – 3 จากนั้นจะค่อยๆ ลดลง จนมีจำนวนไซแนปส์เท่ากับผู้ใหญ่ และเมื่อเด็กอายุ 5 – 6 ขวบ ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสทองในการพัฒนาด้านภาษา ซึ่งสมองของเด็กเล็กสามารถเรียนรู้ได้หลายภาษาหากเป็นการเรียนภาษาตามธรรมชาติ คือเรียนจากเหตุการณ์จริงในชีวิตประจำวัน เด็กวัยนี้ควรเน้นการฟังให้เข้าใจและการพูดเพื่อสื่อสารความต้องการได้ มิใช่การเรียนเพื่ออ่านออกเขียนได้

นอกจากนั้นการแยกแยะเสียงที่แตกต่างหลากหลาย ยังเป็นพื้นฐานของการแยกแยะเสียงดนตรี ช่วงนี้จึงเป็นเวลาทอง ในการส่งเสริมให้เด็กมีความสนใจด้านดนตรีอีกด้วย

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

3. โอกาสทองในการ พัฒนา สมองลูก เกี่ยวกับการสร้างเครือข่ายประสาทที่ทำให้เด็กมีความสนใจจดจ่อต่อเนื่องไม่ว่อกแว่กง่าย

ความจดจ่อต่อเนื่อง มีความสำคัญต่อความจำและการเรียนรู้ของมนุษย์เราตลอดชีวิต เครือข่ายประสาทนี้ใช้เวลายาวนานในการพัฒนา ระยะความสนใจจดจ่อจะนานขึ้นเรื่อย ๆ ตามวัยของเด็กที่โตขึ้น … การเริ่มฝึกตั้งแต่เด็กเล็กจะฝึกได้ง่าย และ ที่สำคัญ “การจดจ่อของเด็กทารก” ต่อสิ่งที่สนใจแม้เพียงไม่กี่วินาที ก็มีความหมายในระยะยาว

ลูกน้อยที่มีระยะความสนใจจดจ่อยาว เมื่อโตขึ้นจะมีสมาธิดี ส่งผลดีต่อการเรียน พ่อแม่ควรสบตาพูดคุยกับลูก หมั่นอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง ชวนลูกให้จดจ่อกับเรื่องราวในหนังสือ เลือกของเล่นที่ต้องใช้การจดจ่อต่อเนื่อง เช่น ตัวต่อ จิ๊กซอว์ และอื่น ๆ จะช่วยให้ลูกยืดเวลาความจดจ่อนานขึ้นเรื่อย ๆ ตามวัย

อุปสรรคต่อการพัฒนาความสนใจจดจ่อ เช่น การใช้สื่อดิจิทัลมีเดียมากเกินไปตั้งแต่เล็ก ทำให้สมาธิสั้น ว่อกแว่กง่าย จึงไม่ควรให้เด็กเล็กใช้สื่อดิจิทัล เช่น ทีวี สมาร์ทโฟน วิดีโอเกม มากเกินไปก่อนวัยอันควร เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเครือข่ายประสาทที่เกี่ยวกับการจดจ่อของเด็ก

ในช่วง 3 – 6 ขวบ เป็นโอกาสทองในการ พัฒนา สมองลูก ของการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสหลายอย่าง เพื่อฝึกสมองส่วนที่ทำหน้าที่ระดับสูงเกี่ยวกับการคิดที่ซับซ้อน สมองส่วนที่ทำให้สนใจจดจ่อต่อเนื่อง ยังคงต้องพัฒนาต่อไปให้ระยะความจดจ่อยาวขึ้นนอกจากนั้นยังเป็นโอกาสทองของการพัฒนาเครือข่ายประสาทการบริหารจัดการและการกำกับตนเองไปสู่เป้าหมาย

พัฒนาสมองลูก

4. โอกาสทองในการ พัฒนา สมองลูก ด้านการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสหลายอย่าง (Multisensory Learning)

ลูกน้อยวัย 3 – 6 ขวบ ควรเรียนรู้ผ่านการเล่น การลงมือทำกิจกรรมที่ใช้ประสาทสัมผัสหลายอย่างร่วมกับการเคลื่อนไปพร้อมกัน เช่น ได้ดู ได้ฟัง พร้อมกับได้หยิบจับ สัมผัส ได้ลงมือทำ แบบนี้จะช่วยให้เด็กรับรู้ แยกแยะข้อมูล เรียนรู้ได้ดีกว่าการนั่งฟังครูพูดเพียงอย่างเดียว

ซึ่งกิจกรรมที่ต้องใช้ประสาทสัมผัสหลายอย่าง จะไปกระตุ้นสมองส่วนที่ทำหน้าที่รับรู้ประสาทสัมผัสหลายอย่างหลาย ๆ บริเวณให้ทำงาน เช่น Superior Temporal Sulcus (STS), Intraparietal Sulcus (IPS) และสมองส่วนหน้าสุด (Prefrontal Cortex) บริเวณเหล่านี้เป็นสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการคิดที่ซับซ้อน >> ตัวอย่างกิจกรรมที่ใช้ประสาทสัมผัสหลายอย่าง เช่น การฝึกดนตรี ที่ต้องใช้ทักษะทั้งการมอง การฟัง การสัมผัส การเคลื่อนไหว เมื่อฝึกดนตรีไประยะหนึ่งจะทำให้การฟัง การแยกแยะเสียง การมองและการอ่านโน้ต พัฒนาดีขึ้นไปด้วย นอกจากนั้นดนตรียังช่วยส่งเสริมการคิดเชิงบริหารของเด็ก ส่งผลให้การเรียนดีขึ้น วัยนี้จึงเป็นโอกาสทองในการฝึกทักษะด้านดนตรี กีฬา ภาษา ศิลปะ ให้พ่อแม่ส่งเสริมตามความสนใจของเด็ก

 

5. โอกาสทองในการ พัฒนา สมองลูก ด้านการคิดเชิงบริหารและรู้จักกำกับตนเอง

สมองส่วนหน้าสุด จะเริ่มมีการสร้างไซแนปส์ตั้งแต่ ปลายขวบปีแรก และสร้างเพิ่มขึ้นตลอดช่วงปฐมวัย สมองส่วนนี้ทำให้เด็กมีพัฒนาการด้านการคิดที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ตามวัย เช่น เด็กวัย 1 ขวบ รู้จักค้นหาของที่หายไปจากที่เดิม / เด็กวัย 2 ขวบ เริ่มตระหนักรู้ในตนเอง / เด็กวัย 4 – 5 ขวบ เริ่มคิดในมุมมองของผู้อื่น เริ่มมีพัฒนาการด้านสังคม พัฒนาด้านการคิด เหล่านี้ต้องอาศัยทักษะการคิดเชิงบริหารหรือ Executive Function (EF) เป็นพื้นฐานทั้งสิ้น

ทั้งนี้ทั้งนั้นหากคุณพ่อคุณแม่สนใจ เทคนิคการ พัฒนา สมองลูก ด้วยสองมือของตัวเอง ในเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ

  • EF ทักษะที่เด็กยุคใหม่ต้องมี…เพื่อชีวิตที่ดีในอนาคต
  • สามารถอ่านทำความรู้จักให้ลึกซึ้ง
  • ส่งเสริมให้ลูกมี EF เริ่มต้นอย่างไร
  • เคล็ดลับสร้างทักษะ EF ให้ลูกตามวัย

ซึ่งเป็นคำแนะนำดีๆ จาก นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา >> สามารถอ่านทำความรู้จักให้ลึกซึ้งต่อได้ จากหนังสือ “สุดยอดคู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่” ฉบับสมบูรณ์ โดย Amarin Baby & Kids สำหรับแม่ตั้งครรภ์จนถึงลูกน้อยวัย 3 ขวบ รวบรวมครบถ้วนทั้ง

    • เทคนิคการดูแลครรภ์คุณภาพ
    • สร้างฉลาด พัฒนาสมองลูกให้ถูกช่วงวัย
    • สารพัดเคล็ดลับวิธีเลี้ยงลูก
    • สุดยอดวิธีการเลี้ยงลูกเจนอัลฟ่า
    • Mom SOS ช่วยลูกวินาทีฉุกเฉิน

ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบจากกุมารแพทย์และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน >> สั่งซื้อได้แล้ววันนี้…*หนังสือปกแข็งอย่างดี พิมพ์ 4 สีตลอดเล่ม เพื่อเป็นสุดยอดคู่มือให้คุณแม่อ่านง่าย ในราคาเพียง 499 บาท

พิเศษ พร้อมรับฟรี! ผ้าอ้อม Cherry baby มูลค่า 269 บาท
เมื่อสั่งซื้อหนังสือที่ https://www.naiin.com/product/detail/481580
หรือ ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสั่งจองที่ http://bit.ly/2S1AACP

คู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่
คู่มือเลี้ยงลูกยุคใหม่ ฉบับสมบูรณ์

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก :

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up