แพทย์เตือน ให้ลูกกิน น้ำแช่ทองคำ เพราะเชื่อว่าผิวสวย วาสนาดี แต่ผลอาจร้ายกว่าที่คิด

account_circle
event

แพทย์ดังโพสต์เตือน อย่าหลงเชื่อ ! หลังโซเชียลแชร์ข้อมูล แม่เอา น้ำแช่ทองคำ ใส่ขวดนมให้ทารกแรกเกิดกิน ตามความเชื่อโบราณ โตขึ้นผิวสวย วาสนาดี เสี่ยงปนเปื้อนโลหะหนัก ลำไส้ติดเชื้อ และระบบย่อยอาหารพัง

ใช่หรือมั่ว ความเชื่อโบราณ น้ำแช่ทองคำ ให้ลูกกิินโตขึ้นมีอำนาจ วาสนาดี

หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลจากเฟสบุ๊กของแม่คนหนึ่ง ที่มีภาพของขวดนมใส่น้ำและมีสร้องทองคำแช่อยู่กับภาพลูกน้อยวัยเบบี๋ พร้อมข้อความกล่าวอ้างว่า

น้ำแช่ทองคำ

“น้ำ ทอง เชื่อโบราณไม่บานบุรี-ทารกแรกเกิด ถึง 3 เดือน พึงให้กินน้ำแช่ทองคำ จะเป็นสร้อย แหวน ต่างหูก็ได้ หรือถ้าไม่มีทองคำจริงๆ ก็ใช้เหรียญสลึงหรือห้าสิบสตางค์(เหรียญสีทอง) แทน ทารกใดได้ดื่มน้ำทองนั้น โตขึ้น จะมีผิวพรรณวรรณะและสง่าราศี และมีวาสนาดีกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน (เคล็ดที่ชนชั้นสูงของจีนครั้งบุราณไม่ยอมบอกใคร นอกจากในวงศ์ตระกูล) ” สร้างความฮือฮาในโลกโซเชียลพร้อมกับตั้งคำถามว่า จริงหรือไม่ ?

เพจคุณหมอหลายคนได้ออกมาเตือนถึงความเชื่อดังกล่าว และระบุถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับลูกน้อย หากให้ดื่ม น้ำแช่ทองคำ ตามคำกล่าวอ้าง โดยคุณหมอวินเพจ “เลี้ยงตามจากใจหมอ”ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าวใจความตอนหนึ่งว่า

#หมอและนักอัญมณีเตือน

#อย่าเอาน้ำแช่ทองให้เด็กกิน

เด็กเล็กต่ำกว่า 6 เดือน #ไม่จำเป็นและไม่ควรกินน้ำใดๆ นอกจากนมแม่ หรือนมผสม (ในกรณีไม่ได้กินนมแม่) และการดื่มน้ำแช่ ‘ทองรูปพรรณ’ อาจ #ปนเปื้อนโลหะหนัก ทำให้เกิดอันตรายได้…อย่าหาทำ

สิ่งที่เด็กจะได้มีแต่อันตราย ๆ และอันตรายเท่านั้น … พ่อหมอเขียนเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วว่า ไตของเด็กเล็กยังทำงานขับน้ำและเกลือแร่ได้ไม่ดีเท่าผู้ใหญ่ และเด็กได้น้ำเพียงพอแล้วจากนมแม่หรือนมผสม การดื่มน้ำในเด็กเล็กอาจทำให้ ‘น้ำเกิน’ และเกลือแร่ในเลือดผิดปกติ ซึ่งหากรุนแรงอาจทำให้สมองบวม ซึมลงและชักได้ อย่าหาทำ

เรื่องที่สอง ‘ทองรูปพรรณ’ เนื่องจากภรรยาพ่อหมอทำงานในแวดวงอัญมณีและเป็นอดีตอาจารย์สอนด้านนี้ จึงสอบถามผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เกี่ยวกับทองรูปพรรณเพิ่มเติมได้ให้ข้อมูลมาดังนี้ ทองคำรูปพรรณ คือ การนำเอาโลหะทองคำ 96.5% และผสมโลหะอื่นลงไปเพื่อให้ทองคำไม่นิ่มเกินไปในการขึ้นรูป ได้แก่ โลหะเงิน โลหะทองแดง และอัลลอยอื่นๆ

นอกจากนั้นขั้นตอนการผลิตให้มีความสวยงามคงทน มีการชุบเคลือบผิวให้เงางาม โดยเงินหรือทองเหลือง โดยขั้นตอนการผลิตเหล่านี้อาจจะมีการปนเปื้อนของสารแคดเมียม ตะกั่ว ปรอท ดังนั้นเราจึงไม่ควรนำมาทองรูปพรรณใส่ลงไปในขวดน้ำให้ลูกทานครับร่างกายของลูกไม่น่าจะได้รับประโยชน์อะไรจากสารเหล่านี้…

เอาเป็นว่า ให้เด็กกินนมอย่างดียวเถอะครับ เด็กจะสุขภาพดี ผิวพรรณก็จะดี ส่วนราศีกับวรรณะจะเป็นอย่างไร ไม่รู้แต่หากเราเลี้ยงลูกดีพอ สอนให้ลูกปฏิบัติดี มีกิริยาดี คำพูดคำจาดี มีความรู้ดี น่ารัก และเป็นที่รักของคนอื่น … ราศีออร่าก็มาเต็มแล้วครับ ไม่ต้องกินน้ำแช่ทอง

#หมอวินเพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ

ทำไมไม่ควรให้ลูกกินน้ำก่อน 6 เดือน

พ่อแม่หลายคนเข้าใจว่าให้ลูกกินนมแล้วต้องกินน้ำตามด้วย เพราะกลัวว่านมจะทำให้ลูกฝืดหรือเหนียวคอ แต่ความจริงกลับไม่ส่งผลดีอย่างที่คิด เพราะระบบย่อยและดูดซึมอาหารของลูกน้อยวัยก่อน 6 เดือนยังพัฒนาไม่เต็มที่ การดื่มน้ำอาจทำให้มีอาการท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย และขัดขวางการดูดซึมอาหาร หากยังทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้ลูกมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารเมื่อโตขึ้นด้วย

ขณะเดียวกัน คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะได้น้ำไม่เพียงพอ เพราะในน้ำนมที่ลูกกินมีปริมาณของเหลวเพียงพอกับความต้องการของร่างกายอยู่แล้ว และช่วงแรกเกิด กระเพาะของลูกยังเล็กจึงหิวบ่อยๆ เท่ากับว่าในแต่ละวันลูกได้รับน้ำเพียงพออยู่แล้ว จึงไม่ต้องกังวลว่าลูกจะมีภาวะขาดน้ำ และไม่จำเป็นต้องน้ำหลังกินนมอีก

 

อันตรายจากโลหะหนัก ถ้าให้ลูกกิน น้ำแช่ทองคำ

เพราะทองคำไม่ได้มีเฉพาะแร่ทองบริสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังผสมโลหะหนักชนิดอื่นๆรวมถึงสารเคมีอันตรายด้วย การนำทองคำหรือเหรียญสีทองมาทำ น้ำแช่ทองคำ ให้ลูกดื่มเสี่ยงทำให้เกิดการปนเปื้อนจากสารอันตรายดังกล่าวโดยตรง

ยกตัวอย่างเช่น ทองแดงเป็นโลหะหนักที่ใช้ในกระบวนการผลิตทองคำ สามารถปนเปื้อนในน้ำดื่มได้ และดูดซึมได้ดีในกระเพาะอาหารและลำไส้ส่วนบน สามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้ราว 30 % และไปสะสมอยู่ในกระดูก ตับ และสมอง หากลูกได้รับทองแดงในปริมาณมากจะเป็นพิษกับร่างกายทันที ซึ่งทำให้มีอาการดังต่อไปนี้ คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย หัวใจทำงานผิดปกติ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดอาการเรื้อรังในกลุ่มอาการ Wilson’ Diseases ร่างกายของผู้ป่วยสั่นเทาตลอดเวลา กล้ามเนื้อแข็งแกร็ง ควบคุมการพูดลำบาก

ขณะที่สารปรอทในทองคำเป็นอันตรายอย่างมากต่อเด็กและสามารถสะสมอยู่ในร่างกายได้นาน กรณีเกิดพิษเฉียบพลัน จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปากพอง แดงอักเสบ ถ้าได้รับสารพิษทีละน้อย ปรอทจาก น้ำแช่ทองคำ จะเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายเมื่อถึงระดับหนึ่งจะมีผลเข้าไปทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้การควบคุมการเคลื่อนไหวของแขนและขาผิดปกติ การมองเห็น การได้ยินไม่สมบูรณ์ เมื่อเป็นแล้วจะไม่สามารถรักษาให้กลับมาดีเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังทำให้มีอาการเจ็บหน้าอก มีไข้ แน่นหน้าอก และปอดอักเสบ เป็นต้น

ปรอทเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปทำอันตรายต่อระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งได้แก่ สมอง และไขสันหลัง ทำให้เสียการควบคุมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของแขน ขา การพูด และยังทำให้ระบบประสาทรับความรู้สึกเสียไป เช่น การได้ยิน การมองเห็น ซึ่งอันตรายเหล่านี้ เมื่อเป็นแล้วไม่สามารถรักษาให้กลับดีดังเดิมได้ อาการที่เป็นพิษมากเกิดจากการหายใจ ปอดอักเสบ มีอาการเจ็บหน้าอก มีไข้ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออกและตายได้

ไม่ว่าพ่อแม่คนไหนก็ปรารถนาให้ลูกน้อยเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง มีชีวิตที่สุขสบายและมีความสุข แต่การจะให้เกิดขึ้นเหล่านี้ได้นั้นต้องการจากวิธีฟูกฟักเลี้ยงดูที่เหมาะสมกับพัฒนาการของลูกในแต่ละวัย แม้จะมี “ความเชื่อ” หรือ “ส่ิ่งมงคล” มากมายที่บอกว่าช่วยหนุนให้ชีวิตของลูกดีขึ้นได้ แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาให้ดีนำมาใช้กับลูก เพราะของบางอย่างอาจไม่ดีอย่างที่คิด เพราะสุดท้ายแล้ว ตัวของคุณพ่อคุณแม่เองนี่แหละจะเป็นกำหนดได้ว่าลูกจะเป็นอย่างไรเมื่อโตขึ้น


แหล่งข้อมูล http://webdb.dmsc.moph.go.th/ www. honestdoc.com /เพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ

บทความน่าสนใจอื่นๆ 

 

สัตว์ร้ายในผัก อาหารที่ซื้อให้ลูก พ่อแม่ควรระวัง!

อาหารก่อภูมิแพ้ 8 ชนิดที่พ่อแม่ควรระวัง

ระวัง! วิตามิน & อาหารเสริม… เพิ่มอันตราย

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up