คำพูดของพ่อแม่

12 คำพูดของพ่อแม่ ที่มักหลุดปาก ทำลูกเสียใจ!!

event
คำพูดของพ่อแม่
คำพูดของพ่อแม่

12 คำพูดของพ่อแม่ ที่มักหลุดปากทำลูกเสียใจ

เพราะ คำพูดของพ่อแม่ มีอิทธิพลต่ออนาคตของลูกน้อยเป็นอย่างมากจริงๆ ซึ่งบางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็อาจมีคำพูดติดปากที่พูดไปเรื่อยเปื่อย หรือบางทีคิดว่า คำพูดของพ่อแม่ เหล่านั้น “ดี”​ ต่อลูก เลยพูดออกมาเตือนลูก สอนลูก บอกให้ลูกฟัง แต่ความจริงแล้ว “ไม่เกิดประโยชน์” และบางครั้ง “เกิดโทษ” เสียด้วยซ้ำ

1. ตกลงมั้ย = เมื่อพ่อแม่พูดว่า “เรากำลังจะไปหาคุณหมอกันนะ ตกลงมั้ยลูก” จะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกตอบว่า “ไม่” ได้ ทางที่ดีควรบอกสิ่งที่ลูกควรรู้ไปเลย “เรากำลังจะไปหาคุณหมอกันใน 5 นาทีนี้นะคะ ลูกเตรียมตัวขึ้นรถได้เลย”

2. ไม่น่ารักเลย = ลูกวัยนี้ยังไม่รู้ว่า “น่ารัก” ที่คุณพูดนั้นคุณต้องการบอกอะไร ลองคำอื่นที่ให้ความหมายชัดเจนมากขึ้นดีกว่า เช่น “แม่ไม่ให้ลูกตีน้องเขานะ” เขาจะเข้าใจและไม่ทำอีก

3. ไม่เห็นหรือไง? = ซึ่งความจริงแล้วลูกก็อาจไม่เห็นสิ่งที่ถามจริงๆ ว่าคุณพ่อคุณแม่กำลังวุ่นอยู่กับอะไร และเป็นเรื่องปกติที่เจ้าตัวเล็กค่อนข้างจะมองตัวเองเป็นศูนย์กลาง จึงไม่ได้มองว่าคนรอบตัวทำอะไรอยู่ ดังนั้นจึงควรบอกให้ลูกรู้ “เดี๋ยวก่อนนะ แม่กำลังคุยกับคุณพ่ออยู่จ้ะ” หรือ “รอให้แม่คุยเสร็จก่อนนะ”

4. เด็กโง่! / ทำไมโง่อย่างนี้ = สำหรับลูกน้อยวัยเตาะแตะการทดลองและผิดพลาดในเรื่องเดิมๆ ก็เพื่อต้องการทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่ได้หมายความว่า “เขาโง่”  ให้ลองเปลี่ยนประโยคใหม่ เป็น “แม่ว่าถ้าลูกทำแบบนี้จะดีกว่านะ เราลองมาทำด้วยกันไหม” กำลังใจ-การทำให้ดู-ทำด้วยกัน จะช่วยพัฒนาทักษะของลูกให้ก้าวหน้าได้ดีกว่าด้วย

5. หยุดร้องนะ ถ้าไม่หยุด เดี๋ยวแม่จะ… = บางครั้งลูกน้อยอาจจะยังมีทักษะด้านการสื่อสารยังไม่ดีมากนัก การร้องไห้จึงเป็นวิธีแรกและสำหรับหลายๆ คนก็เป็นวิธีเดียวที่เขาใช้สื่อสาร ดังนั้นถ้าคุณมองข้าม และบังคับให้ลูกทำตามความต้องการของคุณ (ทำให้ลูกหยุดร้องไห้ให้ได้) ด้วยการตะคอก ตวาด หรือสั่งให้หยุดจึงไม่มีผลต่อความเข้าใจของลูกเลย

6. รอให้พ่อแกกลับบ้านก่อนเถอะ = การขู่ จัดอยู่ในกลุ่มวิธีที่ไม่ค่อยได้ผลกับเด็กๆ วิธีที่ได้ผลในการสอนลูกเล็กคือ ทำดีก็ชมทันที ทำไม่ดีก็ทำโทษหรือสอนกันเดี๋ยวนั้น โดยคนที่อยู่ในสถานการณ์นั้น ไม่ต้องรอให้เป็นหน้าที่ของคนอื่น เพราะไม่มีใครเข้าใจเรื่องราวหรือสถานการณ์ได้มากเท่าพ่อแม่

7. เร็วเข้า..อืดอาดจริง = สิ่งที่พ่อแม่คาดหวังอยากให้ลูกทำได้ ทำเป็นเร็วๆ สามารทำได้แต่ไม่ใช่ภายในระยะเวลาจำกัดหรือชั่วโมงเร่งด่วนของคุณ ดังนั้นเรื่องที่พ่อแม่ควรเข้าใจใหม่ คือ สนามฝึกกับสนามรบต้องแยกกัน ถ้าคุณต้องการฝึกก็ไม่ควรทำในเวลาเร่งรีบ แต่ถ้าจะฝึกในสถานการณ์จริงก็ต้องเผื่อเวลาให้ลูกด้วย

8. เยี่ยมไปเลย สุดยอด = การชมเชยเป็นเรื่องดี แต่คำชมที่ทรงพลัง คือ ไม่ชมพร่ำเพรื่อ ชมจากใจ สิ่งที่ควรทำคือบอกความรู้สึกลงไปด้วย ชมที่พฤติกรรมเฉพาะเจาะจง

9. ออกไปไกลๆ เลย … แม่กำลังยุ่ง = พูดอย่างนี้อันตรายอย่างไร?? ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ยิ่งลูกได้ยินประโยคนี้มากเท่าไหร่ เท่ากับรู้กำลังรู้สึกว่าถูกผลักไสไปจากคุณมากเท่านั้น เพราะเขาจะคิดว่าแม่ไม่อยากคุยด้วย เมื่อไม่ได้คุยกันบ่อยๆ เรื่องที่จะคุยก็น้อยลง ยิ่งโตขึ้นจะยิ่งห่างกันออกไป ทีนี้เวลามีเรื่องอะไรเขาก็จะไม่คิดจะปรึกษาหรือขอความเห็นจากคุณแน่นอน

10. เด็กอย่างแกมันช่าง… = แม้จะพูดเพราะอารมณ์ ไม่ได้ตั้งใจ แต่คำต่อท้ายในทางลบ เช่น “ร้าย โง่ ไม่เอาไหน หรือขี้เกียจ” ล้วนเป็นคำที่ทำร้ายจิตใจเจ้าตัวเล็กอย่างร้ายกาจ วิธีที่ดีกว่าคือพูดคุยกับลูกถึงพฤติกรรมของเขาจะดีกว่า

11. อย่าร้องนะ! = คำว่า “อย่า” ไม่ได้มีผลใดๆ กับเด็ก กลับเป็นยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยเตาะแตะที่ยังไม่สามารถบอกอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองได้ดี เพราะยังมีคำพูดน้อย การร้องไห้จึงเป็นวิธีช่วยป้องกันตัวจากความรู้สึกต่างๆได้ เปลี่ยนมานั่งลงข้างๆ หรือโอบกอดเขาเมื่อลูกและคุณผ่อนคลายลงแล้ว ค่อยไถ่ถามสาเหตุร้องไห้กัน การแสดงความเห็นอกเห็นใจจะทำให้ลูกรู้สึกดีขึ้น

12. ทำตัวให้เหมือนพี่เธอบ้างไม่ได้รึไง = เด็กแต่ละคนล้วนมีความแตกต่างกัน แม้จะเป็นพี่น้องกัน … การพูดเปรียบเทียบจึงไม่ได้มีผลดีต่อการปรับพฤติกรรมของเด็กเลยแต่ผู้เชี่ยวชาญก็เห็นว่า “การเปรียบเทียบเพื่อดูพัฒนาการของลูกๆ ก็เป็นเรื่องปกติและทำได้ แต่ไม่ใช่การทำให้น้องเหมือนพี่เพราะจะกลายเป็นความกดดันและเป็นไปไม่ได้ เพราะเด็กคนละวัยกัน เปลี่ยนคำพูดเปรียบเทียบเป็นการให้กำลังใจกับสิ่งที่ลูกกำลังทำอยู่ดีกว่า

รู้อย่างนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องพยายามข่มใจตัวเองไม่ให้เผลอพูด ประโยคไม่ดีต่างๆ เหล่านี้ ที่อาจทำร้ายลูก จนลูกเสียความรู้สึก และร้องไห้เสียใจกับ คำพูดของพ่อแม่ ที่บางครั้งอาจตั้งใจ หรือเผลอพูดไปโดยไม่รู้ตัว เพราะนั่นอาจถึงขั้นทำลายอนาคตลูกได้นะคะ

 

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก !

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up