ฟันน้ำนมผุ

ฟันน้ำนมผุ ไม่รักษา ลูกเสี่ยงเป็นหนอง ตาบอดตั้งแต่เล็ก

account_circle
event
ฟันน้ำนมผุ
ฟันน้ำนมผุ

มาป้องกันฟันน้ำนมผุก่อนซี่แรกจะขึ้น

จากความเข้าใจผิดๆ ว่า แค่ ฟันน้ำนมผุ คงไม่เป็นไร ทำให้พ่อแม่เริ่มต้นแปรงฟันให้ลูกช้าลง ส่งผลให้อัตราของเด็กฟันผุเพิ่มขึ้น จากข้อมูลของศาสตราจารย์พิเศษ ทพญ.ชุติมา ไตรรัตน์วรกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมเด็ก ระบุว่า การแปรงฟันให้เด็กตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้นในวัย  6-7 เดือน และทำต่อเนื่องจนเด็กสามารถแปรงฟันได้เอง วันละ  2 ครั้ง เช้าและเย็นด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ จะช่วยลดโอกาสฟันผุได้มากถึง 15 – 30 %

นอกจากนี้ อาหารที่ลูกกินเป็นอีกปัจจัยสำคัญต่ออาการฟันผุของลูก โดยเฉพาะอาหารและขนมรสหวาน เพราะยิ่งเด็กกินไปมากเท่านั้น น้ำตาลบนฟันจะกลายเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรีย กลายเป็นกรดกัดกร่อนสารเคลือบฟันทีละน้อย ต้นเหตุของ ฟันน้ำนมผุ แต่ในเมื่อขนมหวานๆเป็นของโปรดของเด็กแทบทุกคน การทดแทนด้วยอาหารที่มีความหวานจากธรรมชาติ อย่างผลไม้รสหวาน เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงโม มะละกอ หรือผักรสออกหวาน อย่าง ข้าวโพดหวาน มันม่วง มันเทศ เป็นต้น

ฟันน้ำนมผุ

เมนูควรเลี่ยงถ้าไม่อยากให้ลูกฟันผุ

คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่ว่า อาหารที่เรากินอยู่ทุกวันเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกฟันผุอย่างนึกไม่ถึง โดยเฉพาะขนมชิ้นเล็กๆอย่างลูกอม หรืออมยิ้ม ทันตแพทย์หญิงปวีณา คุณนาเมือง ทันตแพทย์เฉพาะทางทันตกรรมสำหรับเด็ก โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ระบุถึง 13 เมนูควรเลี่ยงถ้าไม่อยากให้ลูกฟันผุ โดยเรียงลำดับจากสิ่งที่มีความเสี่ยงมากที่สุด ได้แก่

  • ลูกอม ยากอมลดกลิ่นปาก ยาน้ำแก้ไอ
  • แครกเกอร์
  • คุกกี้ เค้ก พาย
  • แป้งต่างๆ : ข้าว ขนมปัง พาสต้า ซีเรียลรสหวาน
  • มาร์ชแมลโล
  • ผลไม้อบแห้ง เช่น ลูกเกด
  • Pretzel ขนมมันฝรั่งกรอบ (ขนมถุงต่างๆ)
  • ไอศครีม เชอร์เบท พุดดิ้ง โยเกิร์ตรสผลไม้
  • ผลไม้กระป๋อง
  • น้ำหวานต่างๆ เช่น น้ำเก๊กฮวย น้ำมะตูม นมเปรี้ยว
  • น้ำผลไม้พร้อมดื่ม
  • ผลไม้สด โดยเฉพาะ กล้วย
  • ผักสุก

ฟันน้ำนมผุ

แต่การหลีกเลี่ยงรายการอาหารทั้งหมดนี้แบบ 100% คงเป็นไปไม่ได้ อาจใช้วิธีจำกัดปริมาณที่กินในแต่ละวันเพื่อไม่ให้มีน้ำตาลมากเกินไป และหลังมื้ออาหารควรให้เด็กบ้วนปากเพื่อไม่มีน้ำตาลเกาะตามซี่ฟัน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การแปรงฟันอย่างถูกวิธี ซึ่งป่วยป้องกัน ฟันน้ำนมผุ โดยมีลำดับดังต่อไปนี้

เริ่มจากแปรงฟันรอบนอก (ด้านในสุดติดกับแก้ม) —- แปรงจากฟันซี่ในสุด ถูไปมาเล่ื่อนผ่านฟันหน้าบนไปจนสุดฟันอีกด้าน จากนั้นค่อยแปลงฟันล่างโดยเริ่มจากด้านเดียวกัน

 

ฟันน้ำนมผุ

แปรงฟันด้านรอบใน (ด้านที่ติดกับลิ้น) —- อ้าปากกว้าง เริ่มแปรงจากฟันบนซี่ในสุด ลากผ่านมาถึงฟันหน้า แล้วสะบัดขนแปรงบริเวณคอฟัน 10 ครั้งเพื่อเอาเศษอาหารหรือนมออก จากนั้นแปรงไปจนถึงฟันซี่สุดท้ายอีกด้าน เสร็จแล้วทำแบบเดียวกันกับฟันล่างทั้งหมด
แปรงบนส่วนบดเคี้ยว (ด้านบนของฟันทุกซี่) —- คว่ำแปรงสีฟันให้ขนแปรงตั้งฉากกับด้านบดเคี้ยว แล้วเริ่มจากฟันรอบนอก ถูกไปมาสั้นๆ ราว 4-5 ครั้ง ทำเช่นนี้ทุกซี่แล้วสลับไปแปรงฟันรอบใน เสร็จแล้วแปรงลิ้นเบาๆ 4-5 ครั้ง

ชมคลิปวิธีแปรงฟันอย่างถูกต้องที่นี่

ในกรณีที่คุณแม่ป้องกันทุกทางแล้ว แต่เจ้าตัวน้อยยังฟันผุอยู่ดี เมื่อเห็นว่าฟันลูกเริ่มมีรอยดำ หรือเป็นรอยกร่อน ควรพาไปพบทันตแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมก่อนฟันผุจะลุมลามเป็นโรคอื่นๆที่คาดไม่ถึงตามมา ก่อนลงมือรักษาฟันผุ พ่อแม่ควรทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้ก่อน

  •  ก่อนแพทย์ตัดสินใจรักษาจะต้องตรวจดูลักษณะฟันที่ผุ อาการปวด บวม รวมถึงโรคประจำตัวของเด็ก เพื่อประเมินแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
  • สังเกตพฤติกรรมเด็กก่อนว่า ยอมรับการรักษาหรือไม่ (แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอายุและพื้นฐานอารมณ์เด็ก)
  • พิจารณาพฤติกรรมของพ่อแม่ต่อลูก บางคนมีท่าทีปกป้องลูกมากเกินไป หรือสนใจน้อยเกินไปหรือไม่
  • ตรวจความพร้อมบุคลากร แพทย์ และอุปกรณ์ว่าพร้อมให้การรักษาหรือไม่

แม้ว่าฟันน้ำนมจะอยู่กับเด็กๆแค่ 5-10 ปี แต่ฟันชุดนี้คือพื้นฐานสำคัญที่มีผลต่อพัฒนาการหลายๆด้าน ทั้งทักษะการกิน การพูด รวมถึงควมมั่นใจของหนูน้อย ฉะนั้นความเข้าใจที่ว่าถ้าฟันน้ำนมผุแล้วไม่จำเป็นต้องดูแลจึงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะเมื่อฟันผุรุนแรงจนถึงรากฟัน จะส่งผลให้เกิดการอักเสบบริเวณโพรงไซนัส จนเสี่ยงที่ลูกน้อยจะตาบอดได้

บทความน่าสนใจอื่นๆ 

ไม่อยากให้ “ลูกฟันผุ ต้องแปรงฟัน” และดูแลให้ถูกต้อง

ลูกฟันผุ ทำยังไงดี ปัญหาสุขภาพฟันลูกที่แม่กลุ้มใจ

เตือนลูกฟันผุ พัฒนาการล่าช้า-เตี้ยแคระแกร็น


ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaich8.com  https://www.facebook.com/tnamcot/สำนักข่าวไทยอสมท.

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up