นอนแยกห้อง แบบฝรั่ง VS นอนรวมกับพ่อแม่แบบไทย อย่างไหนดีกับลูกมากกว่ากัน!

event

แยกห้องนอนกับลูก

เมื่อเริ่มต้นที่จะแยกห้องนอนกับลูก พ่อแม่ต้องทำใจไว้ก่อนว่าต้องใช้เวลากว่าจะเข้าที่เข้าทาง วิธีการคือ พ่อแม่อาจจะแยกเตียงแต่ไม่แยกห้องก่อนจนเด็กเริ่มปรับตัวได้จึงเปลี่ยนห้อง ห้องที่จะให้เด็กนอนก็ควรมีบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย เช่น มีไฟทางเดิน หรือ มีตุ๊กตาของเล่นที่เด็กชอบไว้ข้างเตียง เปิดประตูทิ้งไว้ เป็นต้น หรือเวลาที่สะดุ้งตื่นจากฝันร้ายหรือเกิดกลัวความมืดขึ้นมาในตอนกลางดึก เด็กๆ ส่วนใหญ่จะมุ่งตรงสู่ห้องนอนของพ่อแม่ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องลองมาจับเข่าคุยกับลูกแบบเป็นขั้นเป็นตอนดูดีกว่า ดังนี้

1. เลือกคืนที่เหมาะสม

เริ่มต้นจากคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ยืดหยุ่นสำหรับทุกฝ่าย (หนูๆ ไม่ต้องรีบตื่นไปโรงเรียน พ่อแม่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการงาน) บอกลูกตั้งแต่ช่วงกลางวันว่า คืนนี้คุณอยากให้เขานอนในห้องของตัวเอง อธิบายว่า เด็กๆ อายุเท่าเขานอนในห้องของตัวเองกันหมดแล้ว อาจหาวิธีกระตุ้นด้วยการเอาแผ่นป้ายมาแขวนไว้หน้าห้องนอน แล้วติดสติ๊กเกอร์ให้ในคืนที่เขานอนเองได้โดยไม่ต้องวิ่งเข้าห้องพ่อแม่

2. มีตารางที่แน่นอน

ถ้าทุกคืนคุณเริ่มต้นด้วยการพาเขาไปอาบน้ำ ประแป้ง แต่งตัวหอมๆ เอนหลังนอนพร้อมกับอ่านนิทานให้ฟังหนึ่งเรื่อง หลังจากนั้นจึงถึงเวลาปิดไฟนอน ก็ทำให้เป็นกิจวัตร เพราะนั่นจะทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย

3. ให้ของดูต่างหน้า

อะไรบางอย่างที่เป็นของประจำตัวของแม่ เช่น หมอน หรือเสื้อตัวนุ่มๆ เขาจะได้อุ่นใจว่าคุณอยู่ใกล้ๆ

4. ยืนกราน

ถ้าลูกบุกเข้ามาในห้องนอนของคุณกลางดึกอีก (ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะทำ) พาเขากลับไปนอนอย่างใจเย็น และหากหนูน้อยยังผวาอยู่ ลองยืนอยู่หน้าประตูห้องของเขาสักสองสามนาที แล้วจึงค่อยกลับไปนอน?? ทำใจหน่อย เพราะว่าคุณอาจต้องทำอย่างนี้อีกหลายๆ คืน จนกว่าลูกจะชิน

5. ชื่นชม

ในตอนเช้า หลังจากที่ลูกฝ่าฟันคืนอันแสนเงียบเหงามาได้ด้วยตัวเองแล้ว อย่าลืมชมเชยเขาด้วยล่ะ

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นการ นอนแยกห้อง หรือนอนรวมกันกับลูกน้อย ขอเพียงความพร้อมของแต่ละครอบครัวรวมถึงความสมัครใจของทุกคน การนอนที่ไหนๆก็นอนหลับดี มีความสุข และปลอดภัยได้ทุกครอบครัวนะคะ

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.babytrick.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up