ชมคลิป จำลองเหตุการณ์ “ภาวะตกเลือดหลังคลอด”

Alternative Textaccount_circle
event

คลิปจำลองเหตุการณ์ “ภาวะตกเลือกหลังคลอด”

รักษาภาวะตกเลือดหลังคลอดอย่างไร?

ภาวะตกเลือดหลังคลอดเฉียบพลัน เป็นระยะวิกฤต ที่แพทย์ต้องให้ความช่วยเหลือด่วน ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดอยู่ในห้องคลอด การรักษาขึ้นกับสาเหตุ เช่น

  • หากมีการฉีกขาดของช่องทางคลอดแพทย์จะทำการเย็บซ่อม
  • หากมีเศษรกหรือเยื่อหุ้มเด็กค้างในโพรงมดลูก ก็ต้องทำการขูดมดลูก
  • หากเสียเลือดมากจากกระบวนการช่วยในการแข็งตัวของเลือดเสียไป ต้องทำการให้เลือดให้สารช่วยในการแข็งตัวของเลือด

สาเหตุที่เกิดจากมดลูกหดรัดตัวไม่ดี ที่พบบ่อยที่สุด การรักษาประกอบ ต้องด้วย…

  • การนวดคลึงมดลูก
  • การให้ยาช่วยการหดรัดตัวของมดลูก
  • การให้น้ำเกลือ
  • การให้เลือด

หากให้การรักษาด้วยยาหลายขนานแล้วมดลูกยังหดรัดตัวไม่ดี แพทย์ต้องพิจารณาผ่า ตัดเพื่อทำการเย็บผูกหลอดเลือดแดง หรือเย็บมัดมดลูก และท้ายที่สุดหากยังไม่สามารถหยุดเลือดได้อีก ก็จำเป็นต้องตัดมดลูกเพื่อรักษาชีวิตแม่ไว้

ส่วนการตกเลือดหลังจากออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นอยู่บ้านแล้ว หรือการตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง มักเกิดจากมีการติดเชื้อ หรือมีเศษรกค้างในโพรงมดลูกไม่มาก เลือดที่ออกมักไม่มากเหมือนระยะหลังคลอดใหม่ๆ แพทย์จะทำการตรวจภายในประเมินสภาพมดลูกก่อน จากนั้นจะทำการตรวจมดลูกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (อัลตราซาวด์) เพื่อดูว่ามีเศษรกค้างอยู่หรือไม่ หากมีค้างจะพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะก่อน แล้วพิจารณาขูดมดลูกต่อไป หากไม่มีเศษรกค้างก็จะให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งอาจให้ยากลับมารับประทานที่บ้าน หรือหากเลือด ออกมาก อาจให้นอนโรงพยาบาล เพื่อพิจารณาให้น้ำเกลือและให้เลือดร่วมด้วย

มีผลแทรกซ้อนจากภาวะตกเลือดหลังคลอดต่อมารดาอย่างไร?

ผลแทรกซ้อน หรือ ผลข้างเคียงจากภาวะตกเลือดหลังคลอดต่อมารดา ขึ้นกับปริมาณของเลือดที่เสียไป ได้แก

  • ซีดอ่อนเพลีย
  • ไม่มีน้ำนมเลี้ยงดูบุตร เนื่องจากตอนเสียเลือดมาก อาจมีความดันโลหิตต่ำมีเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนที่ควบคุมการสร้างน้ำนมไม่เพียงพอ
  • ไตวาย
  • เลือดไม่แข็งตัว
  • เสียชีวิต

ป้องกันภาวะตกเลือดหลังคลอดได้อย่างไร?

ตามปกติ ในทุกโรงพยาบาลจะมีการฉีดยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก เพื่อป้องกันการตกเลือดหลังคลอดให้สตรีหลังคลอดทุกรายอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การตกเลือดหลังคลอดก็ยังพบได้บ่อยๆ เป็นเหตุการณ์ที่ยากที่จะป้องกันได้ทั้งหมด สตรีตั้งครรภ์ทุกคนมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นนี้ได้ เพียงแต่มากน้อยต่างกัน

สตรีที่เคยเกิดการตกเลือดหลังคลอดในครรภ์แรก มีโอกาสที่จะเป็นซ้ำในครรภ์ต่อๆไปสูงกว่าคนทั่วไป ดังนั้นสตรีตั้งครรภ์จึงต้องแจ้งแพทย์ที่ดูแลตอนฝากครรภ์ว่า เคยประสบปัญหาเหล่านี้ในครรภ์ก่อน เพื่อที่แพทย์จะได้เตรียมตัว เฝ้าระวัง หรือ รีบให้ยารักษาแต่เนิ่นๆ และ

ในระหว่างการฝากครรภ์ต้องรับประทานยาบำรุงครรภ์ให้สม่ำเสมอ เพราะในยาบำรุงครรภ์จะมีธาตุเหล็ก ที่ใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดงไว้สำรองในยามที่ต้องเสียเลือดหลังคลอด อาการข้างเคียงจากการตกเลือดจะได้ไม่มาก หากมีต้นทุนสูง คือมีปริมาณความเข้มข้นของเลือดสูงอยู่เดิม


ขอบคุณข้อมูลจาก : http://haamor.com/th

ขอบคุณภาพจาก www.cast-pharma.com

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up