แท้ง

แท้ง….แล้วอยากท้องต่อต้องดูแลตัวเองอย่างไร?

Alternative Textaccount_circle
event
แท้ง
แท้ง

แท้งแล้วต้องรออีกนานแค่ไหนถึงปล่อยท้องได้?

การแท้งบุตรไม่มีผลโดยตรงต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ในครั้งต่อไป ส่วนมากแล้วผู้ที่เคยผ่านการแท้งมาก็สามารถมีบุตรที่สมบูรณ์แข็งแรงได้ การจะกลับมาตั้งครรภ์อีก ขึ้นกับสาเหตุการแท้งและการทำหัตถการ หรือการรักษา ได้แก่

  • หากแท้งครบไม่ได้มีการขูดมดลูก สามารถปล่อยให้ตั้งครรภ์ต่อไปได้เลย หรือแพทย์บางท่านอาจแนะนำให้คุมกำเนิดหรือเว้นช่วงการตั้งครรภ์ไป 1-3 เดือน
  • แต่หากมีการขูดมดลูก แนะนำให้เว้นช่วงการตั้งครรภ์ไป 1-3 เดือน
  • หากเป็นการผ่าตัดเนื้องอกมดลูกที่ต้องผ่าผ่านผนังมดลูกเข้าไป ทำให้มีแผลที่กล้าม เนื้อมดลูก แนะนำให้เว้นช่วงการตั้งครรภ์ไป 6-12 เดือน

ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยว่าควรปล่อยให้ท้องต่อไปได้เมื่อไรค่ะ

 

5 วิธีเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับท้องต่อไป

  1. ด้านจิตใจ การแท้งบุตรอาจเกิดได้จากหลายปัจจัยและส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้เป็นพ่อแม่อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ การแท้งอาจพบได้บ่อยและโดยมากเป็นความผิดปกติตั้งแต่ขั้นปฏิสนธิซึ่งคุณทำอะไรได้ไม่มากนัก สิ่งสำคัญคือไม่ควรโทษตัวเองภายหลังการแท้ง ดังนั้นควรทำจิดใจให้สบาย ไม่เครียด เพราะความเครียด เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประจำเดือนมาช้าหรือไม่ปกติ การคำนวนระยะไข่ตกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ก็ทำได้ยากตามไปด้วย ดังนั้น ควรรีบกลับมาเข้มแข็งเพื่อให้มีแรงในการดูแลร่างกายไวๆ หากมีโอกาส ควรไปเที่ยวพักผ่อนให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นค่ะ
  2. ด้านร่างกาย พักผ่อนให้เต็มที่ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ผ่อนคลายจากความตรึงเครียดและยังช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายอีกด้วย หญิงที่กำลังวางแผนมีบุตรควรนอนพักผ่อนวันละ 8 ชั่วโมง
  3. การกินอาหารที่มีประโยชน์และอุดมด้วยสารอาหารครบถ้วน โดยเน้นรับประทานวิตามินแร่ธาตุให้มากและหลากหลาย
  4. ออกกำลังกายวันละ 30 นาที ควรเริ่มออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดี ควรสำรวจดูว่าควรลดน้ำหนัก เพิ่มน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อเพิ่ม หรือควรฝึกสมรรถภาพการหายใจของปอดหรือไม่ วิธีออกกำลังกายที่แนะนำ ได้แก่ เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน แอโรบิค หรือเล่นโยคะ โดยเฉพาะการเล่นโยคะที่ถือเป็นทางเลือกที่ดีเพราะจะได้ฝึกท่าทาง การหายใจ และสมาธิไปในคราวเดียว ทั้งยังสามารถนำไปปรับใช้ขณะคลอดได้ด้วย
  5. รับประทานอาหารเสริม ควรเริ่มรับประทานกรดโฟลิค ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ 1 เดือน ไปจนถึงระยะตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ในปริมาณวันละ 400 ไมโครกรัมต่อวัน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความพิการทางสมองของทารก ซึ่งเป็นภาวะพิการแต่กำเนิดที่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อสมองและไขสันหลังของเด็ก รวมทั้งวิตามินรวมที่ประกอบด้วยวิตามินบี 6 ก่อนตั้งครรภ์จนถึงสัปดาห์แรก ๆ ของการตั้งครรภ์จะช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ ทั้งนี้การใช้ยาหรืออาหารเสริมใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจก่อนทุกครั้ง

 

สุดท้ายนี้ อยากให้พึงระลึกไว้ว่าอย่าคาดหวังมากจนเกินไป อย่าให้เวลามากดดันว่าจะต้องท้องต่อในทันทีนะคะ เพราะความเครียดอาจส่งผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น เมื่อไรที่ร่างกายและจิตใจพร้อม โอกาสก็จะเดินมาหาเราเองค่ะ ทางทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอเอาใจช่วยทุกครอบครัวนะคะ

 

ที่มา

https://www.pobpad.com/แท้ง

http://haamor.com/th/การแท้งบุตร

 

อ่านบทความที่น่าสนใจต่อได้ที่นี่

ทำอย่างไร ให้ห่างไกลจาก แท้งซ้ำ

ท้องลมคืออะไร จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นหรือไม่ คลิก!

7 สาเหตุ สำคัญ ของการแท้ง และวิธีป้องกัน

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up