4 วิธีฝึกลูกรักการอ่าน ช่วยพัฒนาสติปัญญาและภาษาให้ลูก

Alternative Textaccount_circle
event

4 วิธีฝึกลูกรักการอ่าน ช่วยพัฒนาสติปัญญาและภาษาให้ลูก

ล่าสุดมีผลการสำรวจที่น่าตกใจในกลุ่มเด็กไทยทั่วประเทศค่ะ เพราะพบว่าเด็กไทยมีพัฒนาการด้านสติปัญญาและภาษาต่ำ!! สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยลูกให้มีพัฒนาการทั้ง 2 ด้านนี้ดีขึ้นได้ก็ง่ายมากค่ะ เพียงชวนลูกอ่านหนังสือ หรือนิทาน โดยอ่านให้ลูกฟัง เพื่อให้ลูกรักการอ่านซึ่งจะนำไปสู่พัฒนาการที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นค่ะ วันนี้ทีมบรรณาธิการ ABK นำ 4 วิธีฝึกลูกรักการอ่าน มาฝากค่ะ

ผลสำรวจเด็กไทยพัฒนาการด้านสติปัญญาและภาษาต่ำ

ผลการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ครั้งที่ 6 (Multiple Indicator Cluster Survey 6 : MICS6) ในประเด็นพัฒนาการเด็กปฐมวัย จัดทำการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูล โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ประเทศไทย สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) และกรมอนามัยใน 4 ด้าน ได้แก่

  • พัฒนาด้านสติปัญญาและภาษา
  • พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวและกล้ามเนื้อ
  • พัฒนาการด้านสังคม
  • พัฒนาการด้านการเรียนรู้

เก็บข้อมูลใน 17 จังหวัด จาก 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ มีกลุ่มตัวอย่าง 5,787 คน พบว่า มีพัฒนาการด้านสติปัญญาและภาษาต่ำที่สุดจากทั้ง 4 ด้าน ที่ร้อยละ 61 ในเด็กผู้ชาย และร้อยละ 64 ในเด็กผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวยากจน จะมีพัฒนาการด้านสติปัญญาและภาษาต่ำไปด้วย

พ่อแม่ช่วยได้ด้วยการพาลูกอ่านหนังสือ

พ่อแม่สามารถเสริมพัฒนาการให้ดีขึ้นได้ผ่านการเล่นกับลูกให้มากขึ้น โดยเฉพาะการอ่านหนังสือ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นสมองให้เกิดวงจรการเรียนรู้ เรียนรู้การออกเสียง เพิ่มคลังคำศัพท์ และสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัว

หมอประเสริฐย้ำ การอ่านนิทานร่วมกับลูกช่วยด้านพัฒนาการ

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ได้กล่าวว่า การอ่านนิทานให้ลูกฟังเป็นกิจกรรมที่ทุกบ้านทำได้ ขอแค่มีหนังสือนิทาน มีพ่อแม่ผู้ปกรองคอยเล่าให้ฟัง เกิดประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็กอย่างมหาศาล สนับสนุนให้อ่านนิทานก่อนนอน เพราะอยากให้ผู้ปกครองใช้เวลาส่งลูกเข้านอนหากิจกรรมทำร่วมกัน ถือเป็นเวลาคุณภาพ (Quality Time) ในช่วง 20.30 น. ไม่เกิน 21.00 น. ใช้เวลาเพียงแค่ 30 นาที  หากทำติดต่อกันทุกวันเป็นระยะเวลา 3 ปี จะเกิดประโยชน์มากมาย ทั้งเด็กมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว เฉลียวฉลาด รักการอ่าน เป็นเด็กดี เชื่อฟัง ที่สำคัญเป็นการกระตุ้นพัฒนาการของสมองส่วนหน้า

วิธีฝึกลูกรักการอ่าน
4 วิธีฝึกลูกรักการอ่าน ช่วยพัฒนาสติปัญญาและภาษาให้ลูก

พัฒนาการด้านการอ่านของเด็กแต่ละช่วงวัย

เด็กแต่ละช่วงวัย ควรมีพัฒนาการหรือทักษะด้านการอ่าน ดังต่อไปนี้

เด็กแรกเกิดจนถึง 18 เดือน

  • เข้าใจประโยคง่าย ๆ
  • ตามองหนังสือ และพยายามเปิดหน้าหนังสือ
  • เลียนแบบการพูด
  • เด็กอายุประมาณ 1 ขวบ จะเริ่มพูดเป็นคำ ๆ ได้ เริ่มจำคำศัพท์ในหนังสือได้

เด็กอายุ 18 เดือนถึง 3 ปี

  • ชอบให้อ่านหนังสือเล่มเดิมให้ฟังบ่อย ๆ
  • พยายามพูดคำ หรือประโยคจากหนังสือเล่มโปรด
  • เลียนแบบการออกเสียงของผู้ใหญ่
  • มักขอให้ผู้ใหญ่อ่านหนังสือให้ฟัง
  • เด็กอายุประมาณ 2 ขวบ จะพูดได้ประมาณ 250-350 คำ หรือพูด 2 คำติดกันได้
  • เด็กอายุประมาณ 3 ขวบ จะพูดได้ประมาณ 800-1,000 คำ หรือเริ่มพูดเป็นวลีหรือประโยค

เด็กอายุ 3-5 ปี

  • จับหนังสือเป็น จับหนังสือถูกด้าน และเปิดหน้าหนังสือเองได้
  • ออกเสียงวรรณยุกต์ได้ถูกต้องมากขึ้น
  • พูดเป็นประโยคได้คล่องขึ้น
  • พยายามจดจำ และเขียนตัวอักษรต่าง ๆ

4 วิธีฝึกลูกรักการอ่าน

เริ่มให้เร็วที่สุด

เด็ก ๆ เรียนรู้ทักษะการอ่านได้ตั้งแต่ยังเป็นทารก คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มอ่านหนังสือให้ลูกฟังด้วยเสียงดังฟังชัด และอ่านซ้ำหลาย ๆ รอบ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้คำศัพท์และวิธีออกเสียงคำศัพท์นั้น ๆ หนังสือที่เหมาะสำหรับเด็กทารก อายุ 1-12 เดือน ไปจนถึงอายุ 1-3 ขวบ อาจเป็นหนังสือนิทานภาพ ที่มีรูปภาพสีสันสดใส ข้อความไม่ยาว

ในระหว่างอ่านหนังสือกับลูก ควรใช้โทนเสียงที่หลากหลาย พร้อมกับชี้ให้ลูกดูตัวละครหรือสิ่งของต่าง ๆ ในหนังสือไปด้วย อาจลองทำเสียงเลียนแบบสัตว์ให้ลูกฟัง หรือหากเป็นคำกิริยา ก็แสดงท่าทางให้เห็นเพื่อดึงดูดความสนใจ และทำให้ได้พัฒนาทักษะหลาย ๆ ด้านไปพร้อมกัน ทั้งการฟัง การมองเห็น การจดจำ เป็นต้น

เตรียมหนังสือไว้รอบบ้าน

การมีสื่อสิ่งพิมพ์วางไว้รอบบ้าน อาจช่วยให้ลูกคุ้นชินกับหนังสือมากขึ้น แต่ต้องเลือกหนังสือที่มีภาพและเนื้อหาเหมาะสมกับเด็กแต่ละวัยด้วย

สำหรับเด็กเล็กอาจเลือกหนังสือที่ทำจากผ้า หรือพลาสติก เพราะทนแรงดึงของเด็กได้ดี อาจทำชั้นหนังสือเล็ก ๆ ที่มีลวดลายสีสันสดใสช่วยดึงดูดสายตาลูกให้หยิบจับหนังสือในชั้นไปเปิดดูหรือเปิดอ่านมากขึ้น

สลับกันอ่านหนังสือบ้าง

หากลูกเริ่มอ่านออกเสียงได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจลองให้ลูกอ่านหนังสือให้ฟังบ้าง สำหรับเด็กเล็กอาจให้ชี้และอ่านออกเสียงเป็นคำ ๆ และค่อย ๆ ให้อ่านเป็นประโยคยาวขึ้น ชวนลูกพูดคุยหรือถามคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาในหนังสือ เช่น  “คิดว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น” เพื่อให้ลูกได้ฝึกทักษะในการคิดวิเคราะห์ และฝึกจินตนาการ

ให้ลูกฝึกอ่านจนเป็นกิจวัตร

คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกอ่านหนังสือหรืออ่านให้ลูกฟังสัก 15 นาทีก่อนนอน หรือชวนลูกอ่านหนังสือตอนนั่งรถ จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มช่วงเวลาและระยะเวลาในการอ่านให้มากขึ้น และควรปิดทีวี ไม่เล่นมือถือระหว่างอ่านหนังสือ เพื่อให้ลูกมีสมาธิและจดจ่อกับการอ่านหนังสือที่สุด

หากคุณพ่อคุณแม่ได้ลองทำตาม 4 วิธีง่าย ๆ นี้แล้ว วันละเล็กละน้อยสะสมไปทุก ๆ วัน ก็มั่นใจได้ค่ะว่าพัฒนาการด้านสติปัญญาและการอ่านของลูกเรานั้นจะดีขึ้นแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก
Helloคุณหมอ, ThaiPBS,สสส.

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

3 วิธีเลือก หนังสือนิทาน ตามวัยให้ลูกอยากฟังได้ประโยชน์

วันนี้คุณ เล่านิทาน ให้ลูกฟังถูกวิธีแล้วหรือยัง?

10 นิทานอีสปสั้นๆ เล่าให้ลูกฟังก่อนนอน พร้อมคติสอนใจ

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up