สะดือ

ทำไมห้ามแคะ “สะดือ”? สะดือลูก “เหม็น” ทำอย่างไร?

Alternative Textaccount_circle
event
สะดือ
สะดือ

สะดือ อวัยวะส่วนเล็ก ๆ ที่เด็ก ๆ หลาย ๆ คน ชอบแคะเล่น และก็มักจะถูกเตือนว่า ห้ามแคะสะดือเล่นนะ! เดี๋ยวจะปวดท้อง!! มาดูกันว่าเพราะอะไร ทำไมถึงห้ามแคะสะดือ?

ทำไมห้ามแคะ “สะดือ”? สะดือลูก “เหม็น” ทำอย่างไร?

ที่มาของสะดือ

ในขณะที่ทารกยังอยู่ในท้องแม่ สายสะดือ เป็นท่อที่เชื่อมระหว่างรกและลูกน้อยที่กำลังเจริญเติบโตในครรภ์ มีความยาวประมาณ 50-70 เซนติเมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 เซนติเมตร ประกอบด้วยเส้นเลือดดำ 1 เส้นคอยทำหน้าที่นำส่งเลือดที่อุดมไปด้วยอาหารและออกซิเจนจากรกไปสู่ทารกในครรภ์ และเส้นเลือดแดง 2 เส้นที่ทำหน้าที่ในการลำเลียงของเสียออกจากร่างกายของทารก

สายสะดือจะหยุดการทำหน้าที่ที่สำคัญในการขนส่งเลือดไปมาระหว่างแม่และลูกเมื่อถูกตัดขาดด้วยเครื่องมือแพทย์ภายหลังการคลอด โดยสายสะดือที่ถูกตัดออกนั้นจะค่อย ๆ แห้ง เปลี่ยนเป็นสีดำ ก่อนจะหลุดออกในช่วงสัปดาห์แรกและกลายเป็นสะดือที่มองเห็นได้บนร่างกาย ดังนั้น สะดือ ก็เป็นเหมือนแผลจากการตัดสายสะดือนั่นเอง สะดือ จึงถือว่าเป็นจุดที่บอบบาง เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย เป็นซอกอับชื้น เชื้อราและยีสต์เจริญเติบโตได้ดี

ทำไมถึงห้ามแคะสะดือ?

เพราะสะดือถือเป็นจุดที่บอบบางมาก และด้วยลักษณะที่เป็นซอกทำให้เกิดการอับชื้นได้ง่าย เชื้อรา ยีสต์ และเชื้อแบคทีเรีย จึงเจริญเติบโตได้ดีในสะดือ เคยมีการวิจัยว่า ในสะดือคนเรานั้นมีเชื้อแบคทีเรียทั้งหมด 2,368 ชนิดโดยเฉลี่ย ดังนั้นการไปแคะ แกะ เกา บริเวณสะดือ จึงทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้ง่าย

ลูกสะดือเหม็น..ทำอย่างไร?

สะดือเหม็น เป็นอาการที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาจากสะดือ หากมีก้อนสิ่งสกปรก ของเหลวสีขาว เหลือง น้ำตาล หรือมีเลือดปนไหลออกมาทางสะดือด้วย มักจะมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ในบางครั้งอาการสะดือเหม็นก็เกิดขึ้นร่วมกับอาการบวมแดงและสร้างความเจ็บปวดในบริเวณใกล้เคียงด้วย

สาเหตุที่สะดือมีกลิ่นเหม็น

เพราะในสะดือของคนเรามีลักษณะเป็นซอก จึงมักจะเกิดการอับชื้น เป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา ยีสต์ และแบคทีเรีย การทำความสะอาดสะดือที่ไม่ถูกวิธี การเจาะสะดือ การไม่รักษาความสะอาดบริเวณสะดือ การสะสมของเหงื่อ สบู่ หรือสิ่งตกค้างภายในสะดือ ก็เป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์มากจนสะดือเหม็น หรือสะดือเกิดการติดเชื้อได้

ในเมื่อ สะดือ เป็นจุดบอบบาง ไม่ควรแคะสะดือบ่อย ๆ หรือปลิ้นสะดือออกมาด้านนอกเพื่อทำความสะอาด แต่การไม่ทำความสะอาดสะดือเลย ก็อาจทำให้ลูกสะดือเหม็นได้ แล้วจะทำอย่างไรให้สะดือสะอาด โดยไม่ต้องแคะสะดือ? ทีมแม่ ABK มีวิธีการทำความสะอาดสะดือลูกอย่างถูกวิธีมาฝากค่ะ

ทำความสะอาดสะดือลูก..อย่างถูกวิธีกันเถอะ

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ : คอตตอตบัด, น้ำอุ่น ขี้ผึ้ง หรือ เบบี้ออยล์

วิธีการทำความสะอาดสะดือ

  1. ใช้มือข้างหนึ่งถ่างสะดือให้ขยายออกเล็กน้อย เพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้สะดวก ใช้คอตตอนบัดจุ่มน้ำอุ่น (แนะนำให้เป็นน้ำต้มสุกที่ทิ้งไว้จนอุ่น) ขี้ผึ้ง หรือเบบี้ออยล์ (สำหรับเด็กแรกเกิดเสร็จแล้ว ให้เช็ดสะดือด้วยแอลกอฮอล์ 70% ตามที่โรงพยาบาลจัดให้ใช้เท่านั้น) เช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว ให้ทำอย่างใจเย็น และไม่รุนแรง
  2. เปลี่ยนคอตตอนบัดอันใหม่เมื่อชิ้นเก่าสกปรก (สำหรับทารกไม่ควรใช้คอตตอนบัดที่สกปรกแล้วเช็ดซ้ำโดยเด็ดขาด) เช็ดทำความสะอาดด้วยวิธีเดิมให้ครบทุกซอกทุกมุม ทำเช่นนี้และเปลี่ยนคอตตอนบัดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเช็ดแล้วคอตตอนบัดไม่มีคราบสกปรกอีก หรือจนกว่าจะเช็ดออกมาแล้วคอตตอนบัดไม่มีกลิ่นเหม็น (ในรายที่มีปัญหาสะดือเหม็น)
  3. เมื่อสะอาดดีและหมดกลิ่นเหม็นแล้ว หากเป็นการเช็ดด้วยน้ำอุ่น ใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดสะดือให้แห้งดีอีกครั้ง และทาผิวบริเวณรอบ ๆ สะดือด้วยโลชั่นเล็กน้อย เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น

5 สิ่งที่ห้ามทำกับสะดือลูก

  1. ห้ามทามหาหิงค์บนสะดือ

สำหรับเด็กเล็กนั้นบางครั้งอาจมีอาการแน่นอึดอัดท้อง คุณแม่จึงมักไล่ลมในท้องลูกด้วยมหาหิงค์ โดยการใช้มหาหิงค์ทาลงบนท้องลูกเพื่อให้ท้องอุ่น ซึ่งข้อควรระวัง คือ ห้ามทาลงบนสะดือเด็กเด็ดขาด เพราะจะทำให้บริเวณสะดือเกิดความชื้น อักเสบขึ้นได้ หากคุณแม่ต้องการทางมหาหิงค์เพื่อไล่ลม สามารถทาได้บริเวณรอบ ๆ สะดือเท่านั้น

2. ห้ามโรยแป้งบนสะดือ

แป้งคือสิ่งที่ห้ามใช้กับสะดือเด็ก เพราะแป้งจะไปอุดตันในสะดือ จนเกิดการอักเสบขึ้นได้ โดยเฉพาะในทารกบางรายเมื่อสะดือแห้งใกล้จะหลุดอาจมีน้ำเหลืองซึม ๆ ออกมา ซึ่งไม่ควรโรยแป้งลงบนสะดือเด็ดขาด เพราะแป้งที่โรยปนไปกับน้ำเหลืองอาจเป็นตัวกระตุ้นให้สะดือเกิดการอักเสบอย่างรุนแรงขึ้นได้

3. ห้ามใส่ผ้าอ้อมปิดสะดือเด็กแรกเกิด

เมื่อใส่ผ้าอ้อมให้เด็กแรกเกิด ควรใส่ให้ขอบบนของผ้าอ้อมอยู่ต่ำกว่าตอสายสะดือ เพื่อป้องกันการถูกกดทับเป็นเวลานานจากผ้าอ้อมจนทำให้เกิดการอับชื้นขึ้นได้

4. ห้ามทาโลชั่นบนสะดือ

คุณพ่อคุณแม่สามารถทาโลชั่นเพื่อบำรุงผิวได้ แต่ห้ามทาโลชั่นลงบนสะดือ เพราะจะทำให้เกิดความอับชื้นเกิดเชื้อราขึ้นได้

5. ห้ามแคะ หรือแกะสะดือ

สำหรับเด็กแรกเกิด จะยังมีสายสะดือติดอยู่กับบริเวณสะดืออยู่ ซึ่งหลังจากผ่านไปได้ 7-10 วัน สะดือลูกจะค่อย ๆ แห้ง คุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้สะดือหลุดออกเองตามธรรมชาติ ห้ามใช้คอตตอนบัดแคะ หรือแกะสะดือเด็กแรกเกิดเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้เลือดไหลออกมา เกิดการอักเสบขึ้นได้

สะดือทารก
สะดือทารก

วิธีดูแลรักษาสะดือ

  1. เช็ดทำความสะอาดสะดือให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำ
  2. ระหว่างการอาบน้ำอย่ามัวแต่ทำความสะอาดเพียงแค่อวัยวะด้านนอกเท่านั้น แต่ต้องอย่าลืมที่จะใส่ใจในการล้างสบู่หรือเจลอาบน้ำที่ไหลลงมาติดค้างที่บริเวณสะดือด้วย จะได้ไม่เป็นการสะสมสิ่งสกปรกและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
  3. ไม่ทาครีม แป้ง มหาหิงค์ หรือสารเพิ่มความชุ่มชื้นใด ๆ ในสะดือ เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันจนเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราในภายหลังได้
  4. ไม่สวมเสื้อผ้ารัดรูปจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการเสียดสีระคายเคืองบริเวณสะดือ โดยควรหลีกเลี่ยงไปสวมเสื้อผ้าที่สบายตัว ซึ่งทำจากเส้นใยธรรมชาติแทน เช่น ผ้าฝ้าย
  5. ไม่จำเป็นต้องพยายามแคะ หรือปลิ้นสะดือออกมาด้านนอกเพื่อทำความสะอาด เพราะอาจทำให้สะดืออักเสบได้
  6. ห้ามใช้วัตถุที่มีปลายแหลมคมทำความสะอาดสะดือเป็นอันขาด
  7. หากเกิดบาดแผล หรืออาการเจ็บ คัน ผิดปกติที่สะดือ ต้องไปพบแพทย์

สำหรับเด็กที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากลอง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ สะดือจึงเป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่ลูก ๆ มักจะสนใจที่จะไปแคะ แกะสะดือจนเสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้ ดังนั้น จึงขอแนะนำว่า ให้คอยเบี่ยงเบนความสนใจให้ลูกไปสนใจสิ่งอื่น ๆ แทนการแคะสะดือนะคะ

อ่านต่อบทความดี ๆ คลิก

สะดือหลุด กี่วันแห้ง? พร้อมวิธีดูแลหลังลูกสะดือหลุด

ภาวะปกติ VS ไม่ปกติของ สะดือเด็กแรกเกิด

after birth 8 อาการลูกแรกเกิด แม่ (ไม่ต้อง) กังวล

16 ความลับของทารก แม่อาจไม่เคยรู้ หนูทำได้ตั้งแต่เกิด!!

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.scimath.org, www.สุขภาพน่ารู้.com, health.kapook.com, www.pobpad.com, www.thairath.co.th

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up