สีอุจจาระ บอกสุขภาพ ได้ เรื่องจริงที่ไม่ควรมองข้าม!

ลักษณะของอุจจาระบอกโรคอะไรบ้าง?

แบบที่ 1 และ 2 จะเป็นปัญหาในเรื่องของอาการท้องผูก

แบบที่ 6และ 7 ก็จะเป็นปัญหาในเรื่องของอาการท้องเสีย

ส่วนแบบที่ 3, 4, 5 ถือว่าเป็นอุจจาระที่อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยแบบที่ 4 เป็นแบบที่มีคุณภาพดีที่สุด

อย่างไรก็ดี การดูจากอุจจาระ ซึ่งนอกจากการสังเกตจากลักษณะแล้ว ก็ควรจะสังเกตในเรื่องของสีอุจจาระด้วย โดยคนปกติทั่วไปอุจจาระจะมีสีเหลืองบ้าง น้ำตาลบ้าง หรืออาจจะคล้ำเล็กน้อย ซึ่งสีของมันจะขึ้นอยู่กับลักษณะของอาการที่เราทานเข้าไป ดังที่กล่าวมาข้างต้น …แต่สำหรับคนที่มีอาการผิดปกติจะเห็นได้ชัดเลย ก็คือ

 

• สีเทา อุจจาระจะมีสีซีดออกเทาๆ คล้ายกับขี้เถ้า ซึ่งสีของอุจจาระเช่นนี้จะบ่งบอกว่าบุคคลคนนั้นอาจจะเกิดภาวะท่อน้ำดีอุดตันโดยส่วนใหญ่แล้วอาการเช่นนี้จะมีอาการตาเหลืองตามมาด้วยหรือที่เรียกว่า โรคดีซ่าน

 

• สีดำ ถ้าขับถ่ายออกมาแล้วอุจจาระเป็นสีดำ คล้ายกับน้ำมันดินหรือยางมะตอย ซึ่งนอกจากสีแล้ว อุจจาระชนิดนี้ก็จะมีกลิ่นที่เหม็นคาว ซึ่งมันจะเป็นกลิ่นของเลือด อุจจาระเช่นนี้ก็จะบ่งบอกว่าอาจจะมีเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนบน

 

• สีแดง ถ้าหากมีเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนล่าง อุจจาระก็จะมีสีแดงหรือสีดำปนแดง คล้ายกับสนิมเหล็ก

 

• เป็นมูกเหลืองใส ไม่เพียงเท่านั้นหากอุจจาระของใครมีมูกเหลืองๆ มันจะมีลักษณะคล้ายกับวุ้นใสใส หากมีทั้งมูกและเลือดปะปนกันอยู่ซึ่งอาการนี้เป็นอาการที่ค่อนข้างสำคัญเพราะว่ามันแสดงถึงว่าเรากำลังมีแผลหรือมีการอักเสบที่รุนแรงในทางเดินอาหาร

 

ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล

เมื่อรู้แล้วว่า สีอุจจาระ บอกสุขภาพ ได้อย่างไร คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าลืมเช็กสุขภาพร่างกายของตัวเองด้วยการสังเกตอุนจิกันทุกวันนะคะ และหากพบว่ามีสีหรือลักษณะที่ผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อไร แนะนำว่าควรรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อให้แพทย์ตรวจและวินิจฉัยอาการที่ถูกต้อง เพราะถ้ามีสาเหตุมาจากโรคต่างๆ เราก็จะสามารถรักษาหรือป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะเกิดอาการร้ายแรงไปมากจนเกินแก้

อ่านต่อบทความดีๆ น่าสนใจ คลิก : 

• สีของฉี่ บ่งบอกสุขภาพ พร้อม 10 ประโยชน์ที่รู้แล้วต้องอึ้ง!
• สีของริมฝีปาก บอกสุขภาพของเราได้จริงหรือ?
• ลิ้นบอกโรค เป็นแล้วอย่านิ่งเฉย รู้ไว รักษาได้
• ปวดท้องบอกโรค กับ 7 ตำแหน่งทั่วท้องที่ต้องระวัง!

---

ขอบคุณบทความจาก : รายการ MU โดย ผศ.ผญ. มณฑิรา มณีรัตนะพร สาขาวิชาโรคระบบทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล