ลูกไม่เชื่อฟัง พ่อแม่ต้องรีบสอน 5 อย่างนี้ สร้างให้ได้ก่อน 8 ขวบ!

event

ลูกไม่เชื่อฟัง

4. ค่านิยมทางความคิดเรื่องต่างๆ (แต่ละครอบครัวแตกต่างกัน)

ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะเป็นจุดส่งผ่านอิทธิพลทางความคิดไม่ว่าเรื่องไหน ก่อนวัยที่ลูกจะคิด เลือก ตัดสินใจและทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง ฟังพ่อแม่น้อยลง หันมาฟังสิ่งรอบตัว คนรอบตัว และตัดสินใจด้วยตัวเขาเอง

 

ยกตัวอย่าง…

= ค่านิยม การแต่งตัวให้เหมาะสมกับโอกาส สถานการณ์กาลเทศะ

= การคบเพื่อน (เริ่มโต เรื่องนี้สำคัญมาก) เราจะเป็นค่าเฉลี่ยของ 5 คนที่เราคบ นั่นคือ ลูกคบเพื่อนแบบไหน โอกาสที่ลูกจะคิด เป็น และทำสิ่งต่างๆ แบบเพื่อนมีสูงมาก พ่อแม่ต้องส่งมอบอิทธิพลในการเลือกคบเพื่อนดีๆ  เพื่อนที่นำพาลูกไปสู่ทางที่ดีให้ได้ก่อนวัยที่จะแตะเพื่อนลูกไม่ได้ เพราะเขาเลือกของเขาเองแล้ว

= การเลือกเสพสื่อ สิ่งดีๆ เข้าหัวในแต่ละวัน  สอนแนะนำตัวอย่าง สื่อดี สื่อไม่ดี ข้อพึงระวังการใช้สื่อ

= การพัฒนาตัวเอง การเรียนรู้ การฝึกฝนทักษะชีวิต

= ความสัมพันธ์กับคนรอบตัว กับครอบครัว การจัดสรรแบ่งเวลา

หมอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวมากๆ สิ่งที่หมอทำให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง และสอนลูกเสมอ คือเรามีเวลาให้ตัวเองได้ แต่ต้องให้ความสำคัญกับครอบครัวด้วย ลูกเป็นคนสำคัญในครอบครัว  ลูกหล่อเลี้ยงหัวใจ คนแก่ให้ชุ่มชื่นขึ้น จงทำหน้าที่ดีๆของลูกให้ดีที่สุด

ในขณะที่คุณยาย คุณปู่ คุณย่า ยังอยู่กับลูก เด็กอยู่กับคนแก่ ดูแลคนแก่ คือภาพที่น่ารัก น่าชื่นชม นี่คือค่านิยมของหมอที่สอนลูก ซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกครอบครัว อยากสอนเรื่องไหน รีบส่งมอบอิทธิพลทางความคิดเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เพราะถ้าเกินจากนี้ เราอาจไม่มีเวลาเหลือแล้ว !!

 

5.ทักษะการเป็นเจ้านายของเงิน

เด็กควรได้รับการสอน การเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามี เด็กที่ได้อ่าน “ความสุข ลูกเสกได้” จะเข้าใจดี ♥ เด็กควรได้รู้จักคำว่า “จำเป็น” กับ “ความต้องการ” เด็กควรได้เรียนรู้การบริหารเงิน โดยมีแม่คอยดูแล และค่อยๆให้อำนาจในการใช้เงินของเขาทีละนิด

สิ่งสำคัญที่หมอเห็นว่า ดีมากๆ จากประสบการณ์คือ เด็กควรได้เรียนรู้การหารายได้ด้วยตนเอง โดยใช้ทักษะและความสามารถของเขาที่มีในตัว เราจะได้เห็นความสามารถในตัวของเด็ก หลายเดือนก่อนไปเข้าค่าย หมอได้เห็นศักยภาพ  เด็กโฮมสคูลเยอะมาก

มีทักษะเรื่องนี้ ผลที่ตามมาคือ เด็กจะรู้คุณค่าของเงิน รู้ว่า เงินทองไม่ได้ลอยมาจากฟากฟ้า ได้บริหารความคิด ไอเดียสร้างสรรค์ รู้จักฝึกฝนทักษะ ได้พัฒนาตัวเองเพื่อนำทักษะความสามารถตัวเองออกมาใช้เขาจะเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง

(คุณหมอภาเอ่ยถึงลูกสาว) = เจ้าขามีเงินไปบริจาคให้คนขาดโอกาส เก็บเงินซื้อจักรยาน ซื้อตั๋วไปเที่ยวฮ่องกงให้ตัวเองได้ กำลังอยู่ในเป้าหมาย เก็บเงินพาพ่อแม่ น้อง คุณยายไปเที่ยวให้ได้ ด้วยเงินของตัวเองทั้งหมด ตอนนี้มาได้ครึ่งทางแล้ว ก็เพราะมีแรงผลักดันให้ได้ฝึกฝนทักษะนี้ตั้งแต่เล็กๆ

ลูกไม่เชื่อฟัง

♦ โบนัสแถมท้าย…

♥ ♥ สอนลูกให้รู้จักการตั้งเป้าหมาย ♥ ♥ คนที่มีเป้าหมาย มีฝัน จะมีพลังมหาศาลในชีวิต ชีวิตของเขาจะตื่นเช้าขึ้นมาเต็มไปด้วยแผนการว่า

วันนี้เราจะทำอะไรที่ขยับไปให้ใกล้เป้าหมายดีนะ ♥ หมอสอนลูกให้ตั้งเป้าหมายตั้งแต่เล็ก เพื่อนๆที่ติดตามกันมาจะได้อ่าน และตอนหลังมาเป็นเด็กโฮมสคูล จึงมีโอกาสในการฝึกฝนทักษะตรงนี้ค่อนข้างมาก เพราะต้องฝึกดูแลตัวเอง ทุกด้าน ทั้งรับผิดชอบเรื่องพื้นฐานตัวเอง การศึกษาตัวเอง รับผิดชอบเป้าหมายของตัวเอง ว่าเราจะเดินไปทางไหน

สอนลูกให้ตั้งเป้าหมายให้ครบทุกด้าน แต่ละวันของเด็กที่มีเป้าหมาย จะเต็มไปด้วยพลัง มีแรงขับเคลื่อน เขาจะไม่ทิ้งเวลาให้ผ่านไปวันๆ  เขาจะไม่เหลือเวลาไปติดมือถือจนไม่ได้ทำอะไร เพราะไหนจะเรียน ไหนจะพัฒนาภาษา ไหนจะฝึกฝนพัฒนาตัวเองด้านต่างๆ ไหนจะสร้างผลงานตัวเอง

ชีวิตที่มีเป้าหมาย ชีวิตที่ได้เดินตามฝัน  ชีวิตที่ได้เลือกทำสิ่งที่ตัวเองรัก ตัวเองถนัด เป็นชีวิตที่มีความสุขและมีพลังมาก 

ทั้งนี้คุณหมอภา ยังได้กล่าวจบท้ายว่า แรงบันดาลใจในการเขียนบทความยาวเหยียดนี้เพราะมี inbox ตัวอย่างปัญหาข้างบน มาหาหมอเยอะมากกกก ถามว่า หลังจากนี้แก้ได้มั้ย แก้ยากมากๆ แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ ค่อยๆแก้ไข ไปทีละเปลาะ

หมอแนะนำ ให้เริ่มจากเติมถังบรรจุรักให้เต็มก่อน อย่าเพิ่งมุ่งสอน หรือแก้ไข เพราะวัยนี้ มักไม่ได้ผลแล้ว เมื่อมีความรักความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ลูกมีความเชื่อใจเราลูกจะยอมเปิดใจรับฟังคำชี้แนะจากพ่อแม่ แล้วค่อยๆแก้ไปทีละเปลาะนะคะ 5 อย่าง สร้างให้ได้ก่อน 8 ขวบ

หลังจากนี้แล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล…

ทำให้ดี…เรามีเวลาไม่นาน

เพื่อนๆ เหลือเวลาอีกเท่าไหร่คะ ??

ด้วยความรัก

หมอภา/Jeerapa prapaspong

#30หลักคิดติดปีกลูก

#ความสุขลูกเสกได้

อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก!


ขอขอบพระคุณบทความดีๆ จาก คุณ หมอภา/Jeerapa prapaspong

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up