ตู้ยาสามัญประจำบ้านสำหรับลูกน้อยต้องมีอะไรบ้าง?

Alternative Textaccount_circle
event

shutterstock_246303070

7. ถ้าเด็กมีอาการเป็นลมพิษ ผื่นคัน มีน้ำมูกมีอาการเป็นหวัด คัดจมูก จาม จากการแพ้อากาศหรือแพ้สารอะไรก็ได้ เช่น ขนสัตว์ ผ้าห่ม แพ้ยา ฝุ่นละออง อาหารทะเล ฯลฯ ให้ใช้ ยาแก้แพ้คลอร์เฟนิรามีน ชนิดน้ำเชื่อม ซึ่งมีตัวยาคลอร์เฟนิรามีน 2 มิลลิกรัม ต่อช้อนชา (5 ซี.ซี.)

ขนาดที่ใช้

อายุต่ำกว่า 6 เดือน ให้ครั้งละ 1/ 4 ช้อนชา

อายุ 1 ปี ให้ครั้งละ 1/ 2 ช้อนชา

อายุ 2-5 ปี ให้ครั้งละ 1 ช้อนชา

อายุ 5-9 ปี ให้ครั้งละ ช้อนชาครึ่ง

ให้กินวันละ 3 ครั้ง ทุก 6 ชั่วโมง

การให้เด็กกินยาแก้แพ้ ต้องระวังอย่าให้มากเกินไป และต้องระวังอย่าให้เด็กแอบหยิบมากินเองเพราะถ้าได้ยาเกินขนาด จะทำให้มีอาการกระวนกระวาย ในบางคนอาจมีอาการชักได้

  • ในเด็กโต อาจให้กินยา คลอร์เฟนิรามีนชนิดเม็ด (4 มิลลิกรัม) ครั้งละครึ่งเม็ดก็ได้
  • ในเด็กที่มีอาการผด ผื่นคัน ขึ้นมากตามตัว ไม่ว่าจะเป็นผื่นลมพิษ ยุงกัดแผลมีน้ำเหลือ ตุ่มคันจากอีสุกอีใส หัด ควรทายาแก้ผด ผื่นคัน หรือคาลาไมน์โลชั่น (Calamine lotion) บางทีก็เรียกว่า แป้งน้ำสีชมพู มีลักษณะคล้ายแป้งน้ำที่ใช้ทาหน้าต้องเขย่าขวดก่อน แล้วทาให้ทั่ว วันละ 2-3 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้

8. เด็กบางคน หรือในบางระยะ อาจมีอาการเบื่ออาหาร กินข้าวไม่ได้ ทำให้น้ำหนักลดไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร พ่อ แม่ หรือญาติผู้ใหญ่ ก็อาจหายาช่วยกระตุ้นให้เด็กอยากกินอาหาร โดยปกติ ถ้าเด็กกินได้ และอาหารที่ให้เด็กกินเป็นอาหารที่มีคุณค่า เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้พวกวิตามิน ยกเว้นในเด็กที่ไม่แข็งแรง หรือขาดอาหารเท่านั้น ยาที่ทำให้เด็กเจริญอาหารขึ้น ที่พอหาซื้อได้ใช้เอง

  • ยาธาตุน้ำแดงให้เด็กกินครั้งละ 1-2 ช้อนชา วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร ประมาณครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง จะช่วยกระตุ้นน้ำย่อย ทำให้เด็กเจริญอาหารได้ นอกจากนี้ยังใช้กินแก้อาการจุกเสียด แน่นท้อง ได้อย่างดีโดยให้กินเมื่อมีอาการดังกล่าว
  • ธัยโปรเฮปตาดีน หรือ เปอริแอคติน ชนิดน้ำเชื่อม จะมีตัวยา 2 มิลลิกรัม ต่อหนึ่งช้อนชา (5 ซี.ซี.) ถ้าเป็นชนิดเม็ด จะมีตัวยาเม็ดละ 4 มิลลิกรัม ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ให้ใช้ ดังนี้

เด็ก 2-6 ขวบ ให้กินชนิดน้ำเชื่อม 1-2 ช้อนชา หรือชนิดเม็ด 1/2 เม็ด ถึง 1 เม็ด

เด็ก 6 ขวบขึ้นไป ให้กินชนิดน้ำเชื่อม 2 ช้อนชา หรือชนิดเม็ด 1 เม็ด วันละครั้งก่อนนอน

ตัวยานี้นอกจากจะกระตุ้นให้อยากกินยาแล้ว ยังมีฤทธิ์เป็นยาแก้แพ้ คือ ใช้กินแก้อาการแพ้ต่างๆ ลมพิษ ผด ผื่น คัน ฯลฯ ได้ด้วย และระยะที่กินยาใหม่ๆ อาจมีอาการง่วงได้

9. ในเด็กที่เคยมีประวัติชักและไข้สูงเวลามีไข้ นอกจากจะต้องให้ยาลดไข้ เช็ดตัวบ่อยๆ ด้วยผ้าชุบน้ำ หรือแอลกอฮอล์แล้ว พ่อแม่ควรเตรียมยากันชัก ฟิโนบาร์ปิซอล ไว้ด้วย ยากันชักชนิดนี้ ความจริงเป็นยานอนหลับ แต่เราใช้ในขนาดต่ำ ซึ่งป้องกันไม่ให้เกิดอาการชัก ยานี้มีทั้งชนิดน้ำเชื่อม เช่น ฟีโนซอล อิลิคเซอร์ และ ชนิดเม็ดในเด็กให้ใช้ ยาเม็ด ฟีโนบาร์ปิทอล ขนาด 15 มิลลิกรัม หรือ 1/ 4 เกรน ให้กินกันชัก เวลามีไข้ เด็กเล็กครั้งละ 1 เม็ด เด็กโตครั้งละ 2 เม็ด ถ้าใช้ชนิดน้ำเชื่อมเด็กเล็กให้กินครั้งละ 1-2 ช้อนชา เด็กโตครั้งละ 2 ช้อนชา วันละ 2-3 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม เราต้องระมัดระวังการให้ยาตัวนี้ในเด็ก เพราะถ้าให้เกินขนาดนอกจากจะทำให้หลับ ยังอาจทำให้การหายใจหยุดได้ ซึ่งเป็นอันตรายได้

10. ถ้าเด็กมีอาการปากเปื่อยเป็นแผลเป็นฝ้าขาวในปาก ให้ใช้ยา กลีเซอรีนบอแร็กซ์ ขององค์การเภสัชกรรม หรือใช้เจนเชี่ยนไวโอเล็ต ทาแก้ปากเปื่อย เป็นแผลลิ้นแตก เป็นฝ้าขาวได้ ย้ำยาเจนเชี่ยนไวโอเล็ต มีสีม่วง เวลาทาอาจเปรอะเปื้อนเล็กน้อย แต่ก็ใช้ได้ผลดีมาก ข้อสำคัญ เวลาใช้ยาทั้ง 2 ชนิด ไม่ควรกลืนเข้าไปใช้ทาแผลข้างในปากเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีตัวยาอื่นๆ และเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับเรื่องยาของลูกน้อยที่พ่อแม่ควรซื้อติดบ้านไว้บ้าง ดังนี้ค่ะ

อ่านต่อ >> “เครื่องใช้และยาสามัญประจำบ้านสำหรับเด็ก” คลิกหน้า 4

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up