เกมพัฒนาสมอง

9 กิจกรรม & เกมพัฒนาสมอง ของลูกวัย 6+ ให้ลูกฉลาดและอารมณ์ดี

Alternative Textaccount_circle
event
เกมพัฒนาสมอง
เกมพัฒนาสมอง

การมีพัฒนาการทางสมองที่ดีเป็นส่วนสำคัญต่อการเรียนรู้ที่จะช่วยให้เด็ก ๆ มีความเฉลียวฉลาด รู้จักคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ แก้ไขปัญหา นำไปสู่การดำเนินชีวิตที่ดีในอนาคตได้ ดังนั้นเพื่อให้ลูกได้เติบโตอย่างสมวัยไปพร้อมกับการพัฒนาสมองอย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่ ไม่เพียงแต่ส่งเสริมความฉลาดทางสติปัญญา หรือ ‘IQ’ เท่านั้น แต่ยังรวมถึง EQ และทักษะทางด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งสมองสามารถพัฒนาได้ด้วยปัจจัยหลากหลาย สำหรับเด็กในวัย 6 ปีขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่คงเริ่มเห็นว่าลูกรักมีพัฒนาการที่เติบโตชัดเจน มีความคิดอ่านเป็นตัวของตัวเองและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ในวัยนี้นอกจากการเรียนแล้วคุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกได้ทำกิจกรรม ได้เล่น เกมพัฒนาสมอง เพื่อพัฒนาการทางสมองที่ดีและสนุกควบคู่กันไป จะมีกิจกรรมอะไรบ้างที่เหมาะสมกับวัย 6-12 ปีมาดูกันค่ะ

9 กิจกรรม & เกมพัฒนาสมอง ให้ลูกฉลาดและอารมณ์ดีไปพร้อมกัน

กิจกรรมพัฒนาสมอง

1.สนุกแบบคราฟต์ๆ

เด็กในวัย 6 ขวบขึ้นไปนั้นมีโครงสร้างทางสมองที่เกี่ยวกับศิลปะ จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยกิจกรรมศิลปะสำหรับเด็กวัยเรียนหรือประถม จะเป็นการฝึกกล้ามเนื้อมือให้แข็งแรงและสัมพันธ์กับการใช้ตา ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะง่าย ๆ เช่น การวาดรูประบายสี การปั้น การพับกระดาษ เรื่อยไปจนถึงศิลปะที่ซับซ้อนขึ้นอย่างงานประดิษฐ์หรือการเย็บปักถักร้อยโดยนำวัตถุดิบมาสร้างสรรค์ผลงานในแบบต่าง ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถชวนลูกมาสร้างสรรค์ผลงานได้ เช่น การระบายสีบนผ้าหรือมัดย้อมแล้วสามารถนำชิ้นงานนั้นไปใช้ประโยชน์ได้อย่างนำมาเป็นผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดมือ หรือผ้ารองจานข้าว การประดิษฐ์ของเล่นจากกล่องกระดาษ เช่น เป็นของเล่น เป็นบ้านในจินตนาการ เป็นร้านขายของชำ เป็นต้น

การทำศิลปะนั้นนอกจากจะช่วยทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย สนุกไปกับช่วงเวลาที่ทำ ยังช่วยฝึกสมองให้เกิดความคิดสร้างสรรค์จากการออกแบบ มีจินตนาการ ช่วยฝึกสมาธิไปในตัว และได้พัฒนาการในการใช้กล้ามเนื้อมือและตาให้สอดประสานกัน ยิ่งคุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมได้อย่างถูกทางก็จะช่วยให้เกิดพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง

2.ฝึกเขียนบันทึก/ เขียนจดหมาย

กิจกรรมขีด ๆ เขียน ๆ นั้น มีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีและให้ความรู้สึกผ่อนคลาย พร้อมกับการฝึกพัฒนาการในเรื่องของการใช้ทักษะด้านภาษา การคิด และการเขียน ซึ่งลูกในวัยประถมนั้นมีชุดคำศัพท์ที่มากพอและสามารถเขียนหนังสือได้ดีขึ้นกว่าในช่วงวัยอนุบาลแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดกิจกรรมชวนลูกมาเขียนบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ลงในสมุดบันทึกด้วยการเขียนในสิ่งที่ลูกต้องการตามความสนใจ และหลังบันทึกเสร็จก็ชวนสนทนาให้ลูกได้เล่าเรื่องจากสิ่งที่บันทึกลงไปให้ฟัง วิธีการนี้จะช่วยให้ลูกได้รู้จักรวบรวมความคิด เรียงลำดับเหตุการณ์ได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ฝึกจดจำเรื่องราวต่าง ๆ ที่สะท้อนออกมาเป็นคำพูดและข้อความได้ดีในรูปแบบการจดบันทึก ซึ่งกิจกรรมนี้จะช่วยพัฒนาสมองลูกในด้านฝึกความจำ มีความคิดสร้างสรรค์ควบคุมอารมณ์ได้ดี รวมถึงได้ทักษะ EF ด้วย

3.เล่นเกมหาสมบัติ

เกมนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เวลาว่างเล่นกับลูกที่บ้านได้ง่าย ๆ โดยการหากล่องแล้วให้ลูกนำของเล่นชิ้นโปรดมาใส่ไว้ในกล่อง แล้วผลัดกันนำไปซ่อน สำหรับเด็กโตอาจจะเพิ่มปริศนาใบคำที่ซ่อนกล่องสมบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเพิ่มความท้าทายและตื่นเต้นยิ่งขึ้น สำหรับการเล่นเกมหาสมบัตินอกจากความสนุกแล้ว เด็ก ๆ ยังได้ใช้ไหวพริบและลับสมองในการคิดแก้ปัญหา ปริศนาคำใบ้ต่าง ๆ ได้ดีทีเดียวค่ะ

กิจกรรมพัฒนาสมอง ประถม

4.เล่นเกมฝึกสมอง/ บอร์ดเกม

เกมฝึกสมองที่เหมาะกับเด็กวัยประถมที่น่าสนใจมีมากมาย อาทิเช่น จิ๊กซอว์ เกมส์ไพ่สำหรับหัดนับเลข หมากหมากรุก ครอสเวิร์ด ฯลฯ เกมฝึกสมองเหล่านี้จะช่วยให้เด็ก ๆ ได้ใช้ความคิด วิเคราะห์ในการแก้ปัญหา พร้อมทั้งต้องทำการวางแผนอย่างเป็นระบบ เป็นวิธีกระตุ้นสมองที่ดีและได้ความสนุกสนาน รวมทั้งยังช่วยพัฒนาทักษะในการใช้สายตาและกล้ามเนื้อนอกเหนือจากการฝึกสมองอีกด้วย

5.อ่านหนังสือ

หนังสือที่เหมาะกับเด็กวัยประถมควรจะเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาสั้น ๆ อ่านง่าย การปลูกฝังให้ลูกรักการอ่านหนังสือจะช่วยพัฒนาสมอง และเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน รวมถึงได้ทักษะทางด้านภาษา ช่วยให้มีสมาธิ และได้รับความเพลิดเพลินจากการอ่าน ยิ่งลูกได้อ่านหนังสือมากเท่าไหร่ก็จะช่วยพัฒนาสมองและได้รับความรู้ในทุก ๆ ด้านได้เป็นอย่างดีทีเดียวค่ะ

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

6.ทำงานบ้าน

นอกจากการให้ลูกช่วยทำงานบ้านจะเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของคุณพ่อคุณแม่ภายในบ้านได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีผลวิจัยชี้ว่า เด็กที่ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านตั้งแต่เล็กมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ปลูกฝังให้ลูกมีนิสัยที่ดี ที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบได้ การฝึกให้ลูกได้ช่วยทำงานบ้านจะช่วยให้เด็กสนุกกับการได้แสดงความสามารถใหม่ ๆ ให้พ่อแม่ชื่นชมและเป็นกำลังใจ ได้รู้จักกับการแก้ปัญหา รู้จักมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง และสามารถช่วยทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ การทำงานที่ผ่านความยากลำบกมาจะทำให้ลูกรู้จักมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ทำให้ลูกรู้สึกภูมิใจและมองเห็นคุณค่าของตัวเอง อีกทั้งการทำงานบ้านจะทำให้เด็ก ๆ รู้จักฟังคำแนะนำวิธีการอย่างตั้งใจ จับประเด็น อันเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ซึ่งในเด็กโตจะเริ่มรู้จักมีความรับผิดชอบมากขึ้นและสามารถช่วยทำงานบ้านที่ยากขึ้นอีกนิดได้ เช่น

กิจกรรมพัฒนาสมอง ef

  • งานบ้านสำหรับลูกวัย 6-7 ขวบ เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ตากเสื้อ เก็บผ้า พับผ้า ล้างถ้วยชามของตัวเองหลังกินข้าวเสร็จ เป็นต้น
  • งานบ้านสำหรับลูกวัย 8-11 ขวบ สามารถมอบหมายงานบ้านที่ซับซ้อนมากขึ้นเพิ่มเติมจากงานบ้านเดิม ๆ เช่น ทำความสะอาดบ้าน จัดเก็บห้องนอนของตัวเอง ทำงานสวนเล็ก ๆ น้อย ตัดหญ้า รดน้ำต้นไม้ เริ่มหัดซ่อมแซมเสื้อผ้าที่ขาดเล็ก ๆ น้อยไม่ยุ่งยาก เช่น เย็บรอยขาดจุดเล็ก ๆ หรือเย็บกระดุมที่หลุด เป็นต้น
  • งานบ้านสำหรับลูกวัย 12 ปีขึ้นไป วัยนี้โตพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ดีแล้วและสามารถเริ่มทำงานบ้านได้หลายประเภท เช่น ดูแลเสื้อผ้า ซักผ้า รีดผ้า จัดห้องนอนของตัวเอง จ่ายเงินซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต หุงข้าว เตรียมอาหารเย็น ซ่อมแซมงานบ้านเล็กน้อย ๆ ช่วยล้างรถ เป็นต้น

ช่วยพ่อแม่ทํางานบ้าน

7. เป็นลูกมือช่วยคุณแม่ทำอาหาร

ชวนลูกเข้าครัวเป็นลูกมือทำอาหารด้วยกันกับคุณแม่ก็ถือเป็นกิจกรรมที่แสนสนุกและช่วยส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้และฝึกฝน มีสมาธิ การทำอาหารที่หลากหลายเมนู ส่งผลทำให้สมองตื่นตัวเพื่อให้รับรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ได้สัมผัส และนับได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นสมองและสติปัญญาได้อีกทางหนึ่ง โดยคุณแม่อาจหางานที่ลูกสามารถช่วยได้ในครัวที่เริ่มจากขั้นตอนง่าย ๆ เช่น การเด็ดผัก ล้างผัก ช่วยปอกเปลือกมันฝรั่ง แครอท หรือลงมือทำเมนูง่าย ๆ เช่น หุงข้าว ทอดไข่ ทำสลัด ทำขนม เป็นต้น

เล่นดนตรี

8.เล่นดนตรี

การเล่นดนตรีนั้นถือว่าเป็นกิจกรรมที่สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ส่งผลต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเด็ก รวมทั้งช่วยพัฒนาความสามารถทางด้านสติปัญญา ช่วยเพิ่มทักษะไอคิวได้ มีทักษะความจำที่ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยในการฝึกสมาธิ พร้อมทั้งความอดทนให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้เสียงเพลงยังช่วยให้สมองได้พัฒนาทักษะการฟัง มีงานวิจัยนำเสนอออกมามากมายว่า เสียงดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งดนตรีคลาสสิกมีส่วนช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กวัยเจริญเติบโต ช่วยกล่อมเกลาอารมณ์ ให้รู้สึกสงบ ลดอาการฉุนเฉียว ขี้โมโห และทำให้ลูกเป็นเด็กเข้าใจง่าย สอนง่าย ส่วนเสียงดนตรีที่มีจังหวะเร็วก็มีส่งผลต่ออารมณ์ให้เด็กรู้สึกตื่นตัว ร่าเริง แจ่มใส ดังนั้นหากลูกมีความสนใจในด้านนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถสนับสนุนให้ลูกหัดเล่นเครื่องดนตรีที่ลูกสนใจ เช่น เปียโน กีต้าร์ หรือเครื่องดนตรีไทยอย่างขิมหรือระนาด ซึ่งก็ถือว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ลูกฉลาดและประสบความสำเร็จในอนาคตได้

กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา

9.เล่นกีฬา ออกกำลังกาย

การได้เล่นกีฬาออกกำลังกายเป็นประจำ นอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังส่งผลดีต่อสมองและสติปัญญา ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง คลายเครียด ซึ่งก็ทำให้ลูกมีความจำที่ดี ส่งผลดีต่อการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งหมดนี้เป็นเกมและกิจกรรมที่จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านสติปัญญาและอารมณ์ ให้สำหรับลูกในวัยตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไปได้ ซึ่งความจริงแล้วยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่จะช่วยพัฒนาสมองลูกไปพร้อม ๆ กับความสนุกสนาน อย่างไรก็ตามแม้ลูกจะอยู่ในวัยที่เริ่มโตขึ้นแล้วก็ตาม แต่การได้เล่นหรือกิจกรรมแต่ละอย่างก็ควรจะได้รับการดูแลหรือคำแนะนำสั่งสอนจากคุณพ่อคุณแม่อย่างใกล้ชิด และมั่นใจว่ากิจกรรมนั้นความปลอดภัยเพียงพอสำหรับลูกนะคะ

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.lenkubluk.comwww.honestdocs.co

อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ

7 กิจกรรมเล่นกับลูก ได้จินตนาการ เสริมพัฒนาการลูกดีทุกด้าน

Apple แนะนำ 30 กิจกรรมสร้างสรรค์ ให้ลูกทำบน iPhone, iPad (ดาวน์โหลดฟรี)

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up