เรื่องจริง! พ่อ ลดน้ำหนัก 30 กก. “เพื่อลูก” หลังภรรยาจากไป

Alternative Textaccount_circle
event

 

 

===== 3rd Chapter =====

ผมไม่เคยคิดว่าชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้ในวัย 36 ปี ผมรักภรรยาของผมมาก
ขนาดเราแต่งงานกันมานาน เรายังโทรหากันทุกวันตอนผมขับรถไปทำงาน
ผมอยากได้ยินเสียงเธอ ผมอยากถามไถ่ถึงลูกน้อยว่าอยู่บ้านเป็นไงบ้าง

เราวางแผนอนาคตกันตลอดเวลา เราคุยกันบ่อยมากว่าตอนแก่ลูกเรา
จะเรียนอะไร ทำงานอะไร แล้วสองตายายจะไปใช้ชีวิตตอนแก่ที่ไหน
รวมถึงคำถามที่ผมเชื่อว่าหลายๆคู่ก็คงถามกัน คือ ใครจะตายก่อนกัน

พอถามถึงคำถามนี้ที่ไร ผมมันจะต้องพาลคิดตลอดว่าคนๆนั้นจะต้องเป็นผมแน่ๆ
เพราะผมทั้งอ้วนทั้งโรคเยอะและก็ถอดใจไปกับการลดความอ้วนรอบที่ร้อย
มันทำให้ผมต้องวางแผนอนาคตอย่างรัดกุม

ผมเก็บเงินผ่อนบ้านจนหมด ผมเก็บเงินไว้ให้ลูกเรียน ผมเก็บเงินเตรียมเกษียณ
ผมมีแผนจะไปปลูกบ้านพักที่ต่างจังหวัด ผมมีความฝันว่าจะเดินทางไปในหลายๆประเทศ
ชีวิตวัยกลางคนของเราทั้งคู่กำลังเป็นรูปเป็นร่าง แต่ตอนนี้สิ่งที่คุยไว้มันหายไปทั้งหมด
คนที่ผมเคยคุยด้วยทุกวันหายไปแล้ว ผมจะคุยเรื่องหนัก ๆ กับใครดี เด็ก 3 ขวบเหรอ ???

คำบรรยาย : ห้องที่ภรรยาผมเคยนอนพักในช่วงที่ป่วยกับเครื่องผลิตออกซิเจนความสูญเสียในครั้งนี้ทำให้จิตวิญญาณของผมหายไป ผมเหงา ผมว้าเหว่ ผมเจ็บปวด
ผมทรมาน ผมไม่อยากคุยกับใคร ผมอยู่แต่ในห้อง ผมไม่ออกไปไหน ผมไม่มีแรง
ผมไม่กินข้าว ผมกับลูกกินแต่นมกับขนม ผมไม่อยากกิน ผมไม่หิว ผมคิดอะไรไม่ออก
ผมร้องไห้ ผมซึมเศร้าและผมไม่อยากมีชีวิตอยู่

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผมนึกถึงแต่ “ตัวเอง” ผมไม่ยอมนึกถึงคนรอบ ๆ ตัว

===== 4th Chapter =====

ผมหมกตัวอยู่ในห้องร่วมสองเดือน ลูกผมป่วยบ่อยเพราะไม่ได้ออกไปข้างนอก อุดอู้อยู่แต่ในห้อง
ผมรับรู้ถึงความเหงาของลูก ทำให้ผมย้อนกลับมามองตัวเอง ผมกำลังทำร้ายตัวเองและลูก
ลูกผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ผมไม่อยากให้เป็นแบบนี้

ภรรยาผมก็คงไม่อยากให้เป็นแบบนี้

ถ้าขืนใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไป ผมจะไม่เหลืออะไรอีก ที่ผมกำลังทำอยู่มันแก้ไขอะไรไม่ได้
ผมมัวแต่คิดถึงแต่สิ่งที่ผมไม่มี จนละเลยสิ่งที่ยังมีไปเสียหมด ผมเริ่มมีสติ ผมเริ่มมีปัญญา
ก่อนจะดูแลลูก ผมต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อน ผมเริ่มสำรวจตัวเองในกระจก น้ำหนักผมลดลงไปมาก
ผมทรุดโทรมมากทั้งร่ายกายและจิตใจ

“แต่ผมจะกลับมาสู้ใหม่”

ลดน้ำหนัก
คำบรรยาย : ห้องที่ภรรยาผมเคยนอนพักในช่วงที่ป่วยกับเครื่องผลิตออกซิเจน

ผมเริ่มต้นด้วยการค้นหาข้อมูลจาก google ผมเริ่มขับรถออกจากบ้านไปจ่ายตลาด ปกติหน้าที่นี้
ภรรยาผมจะทำ ผมเลือกวัตถุดิบแบบโง่ ๆ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อปลา เนื้อไก่ ข้าวกล้อง
ผมไม่มีอารมณ์กิน ผมจึงไม่ซื้อเครื่องปรุง ผมคิดแต่ว่า การกินครั้งนี้ ผมจะกินเพื่อให้อยู่รอด

ผมเริ่มทำอาหารกินเองโดยไม่ปรุง ผมไม่มีความรู้สึกว่าผมต้องมากินอะไรอร่อย ๆ ผมคิดแต่เพียงว่า
ถ้าไม่กิน ร่างกายจะขาดสารอาหาร ลูกผมจะไม่โต ไม่มีแรงสู้ต่อ ทำให้อาหารที่ผมทำ
ผมไม่จุดเตาแก๊สเลยซักมื้อ วิธีประกอบอาหารที่ผมใช้มีเพียง 2 แบบคือ

นึ่งและเวฟ  (หม้อนึ่งและไมโครเวฟ)

ผมหัดต้มโจ๊กให้ลูก ผมเริ่มนึ่งปลา ผมเริ่มเวฟเนื้อกิน ที่จริงแล้วผมเกลียดการทำอาหาร
ผมชอบกินแต่ผมไม่ชอบทำ ผมทำไม่เป็น แม้มันจะไม่อร่อยแต่ผมต้องกิน

ผมเริ่มยกเวทเพราะผมอยากมีแรง ผมเริ่มจากบาร์เปล่า ๆ แรก ๆ ผมหมดแรง ผมล้าไปทั้งแขน
ผมเริ่มเดินบนลู่ ผมปวดขา ผมเหนื่อยหอบ ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างบนนี้ ผมทำทุกวัน
ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหน ๆ เพราะในหัวผมคิดอยู่อย่างเดียว …

“ผมอยากอยู่กับลูกนาน ๆ”

อ่านต่อเรื่องราวของคุณพ่อ ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up