ทำอย่างไรให้ “บ้านนี้อยู่แล้วสุข”

Alternative Textaccount_circle
event

คุณแม่สุขสันต์ :  ทำไมบางบ้านเขาอยู่กันอย่างมีความสุข     แต่บางบ้านมีแต่ปัญหาคะ

อ.วรากรณ์     :   มีหนังสือคลาสสิคอยู่เล่มหนึ่ง ชื่อ Anna Karenina (1873) เขียนโดย Leo Tolstoy บรรทัด

แรกกล่าวว่าทุกครอบครัวที่มีความสุข   มีอะไรคล้ายกัน     ส่วนแต่ละครอบครัวที่ไม่มีความสุข     ก็ไม่มีความสุขในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป     พูดง่าย ๆ ก็คือครอบครัวที่มีความสุขมีปัจจัยบางอย่างร่วมกันในเรื่องนี้บ้านที่มีความสุขมีสามประเด็นที่ควรกล่าวถึง คือ

(1) เงินทอง มิได้มีบทบาทสำคัญมากในการทำให้ครอบครัวใดมีสุขหรือทุกข์       ครอบครัวที่มีเงินทองมากมิได้มีความสุขเสมอไป     ในทางตรงกันข้ามครอบครัวที่มีเงินน้อยแต่มีความสุขก็เห็นถมไป

(2) การมุ่งมั่น ตั้งแต่เริ่มชีวิตคู่ของพ่อแม่ที่จะมีความสุขร่วมกันเป็นปัจจัยสำคัญ     ครอบครัวที่ทั้งพ่อและแม่มีหลักคิดร่วมกันในการที่จะสร้างบ้านแห่งความสุขให้             สมาชิกก็จะเกิด “บ้านนี้อยู่แล้วสุข” ขึ้นได้

(3) ความขยันหมั่นเพียร ทำงานหนักของครอบครัว   ช่วยให้มีฐานะทางเศรษฐกิจที่มั่นคงซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งแห่งการมี “บ้านนี้อยู่แล้วสุข”     แต่เรื่องฐานะมิใช่ปัจจัยเดียวดังกล่าวแล้ว

คุณแม่สุขสันต์ :  โชคลาภ     ดวงชะตา     มีบทบาทหรือไม่คะ     ในการที่จะมี “บ้านที่เป็นสุข”  

อ.วรากรณ์       :   แล้วแต่จะคิดกันไปครับ         หลายคนเชื่อว่าสองมือของสองคนรวมกันเป็นสี่มือคือหัวใจสำคัญที่สุด     ตัวเองกำหนดโชคชะตามิใช่ฟ้าดิน หรือฮวงจุ้ย หรือการดูฤกษ์วันแต่งงาน หรือฤกษ์ย้ายเข้าบ้าน       คนเหล่านี้เชื่อว่าหากจะมีเคราะห์ร้ายเกิดขึ้น   เช่น   อุบัติเหตุ       ความเจ็บป่วย     ฯลฯ     ก็เป็นเรื่องของสถิติที่จะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วในคนจำนวนมากเป็นธรรมดา คนอีกจำนวนหนึ่งเชื่อตรงกันข้าม     พยายามหาป้ายเสกมนต์และเขียนว่า “บ้านนี้อยู่แล้วรวย”       “บ้านนี้อยู่แล้วสุข” มาติด     มียันต์ลงประตูบ้านมีหมอมาดูฮวงจุ้ยหน้าต่างทิศทางลม เป็นไปตามหลักโหราศาสตร์     เราก็ไม่ว่ากันเพื่อความสบายใจของแต่ละครอบครัว สำหรับส่วนตัวแล้วคิดว่าต่อให้กระทำในย่อหน้าข้างบนครบถ้วน   แต่ถ้าทั้งพ่อแม่ไม่อยู่ในศีลในธรรม     ไม่ได้นึกถึงหน้าที่ในการสร้างครอบครัวที่เป็นสุขเพื่อให้ลูกมีพื้นฐานทางจิตใจที่มั่นคง และมีความทรงจำที่ดีแล้ว     สิ่งเหล่านี้จะไม่มีความหมายเลย

 

คุณแม่สุขสันต์ :  แล้วความสุขจริง ๆ ในบ้านคืออะไรคะ                  

อ.วรากรณ์     :   ท่านติช นัท ฮันห์ (Thích Nhất Hạnh) ได้กล่าวว่าความเป็นปกติคือยอดแห่งความสุข   เช่น เวลาที่ไม่มีใครเจ็บป่วยในบ้าน   ไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ  ไม่มีปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล   ไม่มีปัญหาเรื่องเงินทอง     ฯลฯ     อยู่กันอย่างเป็นปกติ     เรามักลืมไปว่าสิ่งเหล่านี้มีคุณค่า  แต่เมื่อปัญหาเหล่านี้ประดังเข้ามาในชีวิตแล้ว     เราจึงรู้ว่า “ความเป็นปกติ” นั้นเป็น ความสุขสงบที่มีค่าอย่างยิ่งองค์ประกอบของความสุขในบ้านได้แก่

ประการแรก “ความเป็นปกติของบ้าน” เป็นความสุขแรกที่สำคัญอย่างยิ่ง

ประการที่สอง   ความสุขสงบจิตใจ เมื่อเหยียบเข้าไปในบ้าน     ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะเบาะแว้งและเสียงบ่นก่นว่า     ได้ยินแต่เสียงดนตรีในหู       พบแต่เสียงหัวเราะสนุกสนาน   และรู้สึกว่าไม่อยากออกจากบ้าน

ประการที่สาม     ความรักความอ่อนโยน และความห่วงหาอาทรระหว่างกันของคนในบ้านรวมไปหมดแม้แต่ผู้ช่วยแม่บ้านด้วย     ทำให้มีความสุขสงบ และแต่ละคนรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า     มีความหวัง

ทั้งสามประการนี้พ่อแม่เป็นผู้นำและทุกคนในบ้านต้องร่วมกันรับผิดชอบในการสร้างสิ่งแวดล้อมเหล่านี้       สำหรับสิ่งที่ควบคุมไมได้เช่นความเจ็บป่วย       อุบัติเหตุ         การสูญเสีย       ฯลฯ     ก็ต้องยอมรับ และปรับตนเองให้สอดคล้องกับสิ่งไม่เป็นปกติที่เกิดขึ้นนั้น

ตราบที่เราคิดว่าความไม่เป็นปกติที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ใคร ๆ ก็ ประสบด้วยกันทั้งสิ้น จิตใจก็จะสงบยอมรับความจริง     โดยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตของมนุษย์ที่มีมานับแสนปี

                “บ้านนี้อยู่แล้วสุข”       เพราะพ่อแม่และทุกคนมุ่งมั่นร่วมกันสร้างขึ้น       มิได้เกิดขึ้นเพราะโชคชะตา                     ทุกครอบครัวสามารถสร้างบ้านที่เป็นสุขได้หากมีหลักคิดและปฏิบัติตามอย่างมุ่งมั่น

“บ้านนี้อยู่แล้วสุข” เกิดขึ้นได้โดยน้ำมือมนุษย์       มิได้เกิดขึ้นเพราะโชคชะตา       หรือความโชคดี     ทุกบ้านสามารถทำให้เกิดขึ้นได้เพราะมีปัจจัยหลักร่วมกันในทุกชาติ       ทุกภาษา     ตลอดมาในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

 

เรื่อง : รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ผู้เท่าทันเงินทองและคุณปู่ของหลานสองคน

ภาพ : ชาญศิลป์ กิตติโชติพาณิชย์

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up