น้ำมันเมล็ดชา

เชิญชวนร่วมงาน “เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา” เพื่อสุขภาพคนไทย และป่าไม้ที่ยั่งยืน

Alternative Textaccount_circle
event
น้ำมันเมล็ดชา
น้ำมันเมล็ดชา

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์การค้าสยามพารากอน ในวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม เวลา 14.30 น. เพื่อทรงเปิดงาน “เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา” ของมูลนิธิชัยพัฒนา ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสูตรอาหารที่มีน้ำมันเมล็ดชาเป็นส่วนประกอบ ทรงสาธิตการปรุงอาหาร จำหน่าย และทรงเป็นพรีเซ็นเตอร์กิตติมศักดิ์ให้แก่น้ำมันเมล็ดชาด้วยพระองค์เอง

“เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2558 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการน้ำมันเมล็ดชา ซึ่งเป็นหนึ่งในพระราชดำริที่พระราชทานให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา นำเมล็ดพันธุ์ต้นชาน้ำมันจากประเทศจีนมาศึกษา ทดลองปลูกในประเทศไทย เพื่อสร้างองค์ความรู้ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ กระตุ้นให้คนไทยใส่ใจสุขภาพ และยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าและรักษาระบบนิเวศป่าไม้ในภาคเหนืออีกด้วยค่ะ

ผู้สนใจสามารถซื้อน้ำมันเมล็ดชาได้ภายในงาน “เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา” ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2558 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน รวมถึงร้านภัทรพัฒน์ทั้ง 5 สาขา คือ สาขาสนามเสือป่า สาขาพระราม 8 สาขาพระราม 9 (ตึก อสมท.) สาขาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และสาขาพาซิโอทาวน์ รามคำแหง นอกจากนี้ได้วางจำหน่ายภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ โกลเด้นเพลส ร้านภูฟ้า ร้านดอยคำ S&P (สาขาในโรงพยาบาล) และร้านวีรสุ

น้ำมันเมล็ดชา ผลผลิตจากแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริในปี พ.ศ. 2547 ให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการศึกษาและทดลองปลูกต้นชาน้ำมัน สายพันธุ์ Camellia oleifera จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จากนั้นมีพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน เพื่อเป็นโรงงานผลิตน้ำมันจากเมล็ดชาและพืชน้ำมัน ซึ่งโรงงานนี้จะผลิตน้ำมันคุณภาพสูงสำหรับการบริโภคและทำผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่นๆ เช่น เครื่องสำอาง เป็นต้น

การศึกษาและทดลองปลูกต้นชาน้ำมัน เริ่มในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงเป็นแห่งแรก และขยายไปในพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 3,600 ไร่ คิดเป็นต้นชาน้ำมันกว่า 950,000 ต้น ถือเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม ทดแทนป่าไม้ที่ถูกทำลาย รวมถึงสร้างรายได้ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ และสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของการดูและรักษาป่า และการอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเข้าใจและพึ่งพิงกัน เป็นไปตามพระราชดำริ “คนอยู่ร่วมกับป่า” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำไปสู่วิถีแห่งความสุข ความสมดุล และความยั่งยืนในที่สุด

น้ำมันเมล็ดชานั้นเป็นที่รู้จักในประเทศจีนมากว่า 1,000 ปี มีประโยชน์มากมายจนได้ชื่อว่าเป็นน้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออก เพราะมีองค์ประกอบของไขมันที่ดีต่อร่างกายไม่ด้อยไปกว่าน้ำมันมะกอก และไม่มีกรดไขมันทรานส์ ซึ่งทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเอ ดี อี เค ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดตีบตัน โรคอัมพาต โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และสารคาเทชิน ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของน้ำมัน

นอกจากนี้น้ำมันเมล็ดชายังมีจุดเดือดสูงมากกว่า 250 องศาเซลเซียส จึงนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายวิธี ไม่จะเป็นการทอด การผัด การหมัก หรือใช้เป็นส่วนผสมของน้ำสลัด จึงเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพของคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงผู้ที่น้ำหนักเกิน สตรีมีครรภ์ และผู้สูงอายุ

ปัจจุบันน้ำมันเมล็ดชาได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา (อย.) และมูลนิธิโรคหัวใจอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ” ในสินค้าน้ำมันเมล็ดชา ภายใต้ตราสินค้าภัทรพัฒน์

นอกจากน้ำมันเมล็ดชาจะดีต่อสุขภาพแล้ว ทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายออกไปยังกลับคืนสู่คนไทย และผืนป่าของไทยด้วย คุ้มค่าอย่างแท้จริงเลยทีเดียวค่ะ

ติดตามข่าวสารของศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน มูลนิธิชัยพัฒนาได้ที่เว็บไซต์ www.teaoilcenter.org และแฟนเพจเฟสบุ๊ค TeaOilCenter

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up