วิธีฝึกลูกน้อยสู่คนคุณภาพ

วิธีฝึกลูกน้อยสู่คนคุณภาพ ตามแบบญี่ปุ่น

Alternative Textaccount_circle
event
วิธีฝึกลูกน้อยสู่คนคุณภาพ
วิธีฝึกลูกน้อยสู่คนคุณภาพ

2.ฝึกความเข้มแข็ง แบบคุณครูฮาร์ดคอร์

วิธีฝึกลูกน้อยสู่คนคุณภาพ

การฝึกวินัย และความแข็งแกร่งอย่างเข้มข้นของญี่ปุ่น อาจจะดูรุนแรง แต่เป็นการฝึกความอดทนของลูกให้เข้มแข็ง เช่น ด้วยการสวัสดีเสียงดัง นั่งหลังตั้งตรงเป๊ะ วิ่งเต็มฝีเท้ารอบโรงเรียน ถอดเสื้อทนหนาวต่ำกว่า 10 องศา เป็นการฝึกคล้ายอยู่ค่ายทหาร ถึงแม้จะรุนแรงแต่ก็มีผู้ปกครองส่งลูกมาฝึกแล้ว 3 เจเนอเรชัน

เนอสเซอรี่นี้เปิดรับนักเรียนตั้งแต่อายุต่ำกว่า 1 – 6 ขวบ มีผู้ปกครองส่งเด็กมาเรียนที่นี่เป็นจำนวนมาก เด็กญี่ปุ่นมักจะถูกส่งมาเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน อย่างแรกคือเมื่อเข้ามาถึงตะโกนทักทายอย่างเสียงดังฟังชัด ตบรองเท้า และนำรองเท้ามาเก็บไว้ในที่จัดไว้ เด็กเล็กๆ จะมีพ่อแม่มาส่งถึงห้องเรียน คุณครูจะสอนให้สวัสดีคุณพ่อ คุณแม่ ค่อยๆ สอนให้เด็กซึมซับ และทำให้เด็กไม่ร้องไห้

ไม่ว่าเด็กจะเล็กขนาดไหน ถ้าฝึกให้ทำทุกวัน เด็กก็จะทำได้ เพียงแต่อาจใช้เวลามากหน่อย และคุณครูต้องใจเย็น ส่วนเด็กโตจะทำอะไรเองได้หลายอย่าง เช่น ขึ้นห้อง เก็บกระเป๋า

เมื่อถึงเวลาเข้าแถว เด็กๆ จะต้องใส่เสื้อแขนสั้นในหน้าหนาว และออกไปวิ่ง 2 รอบอย่างเต็มแรง รอบโรงเรียน ถ้าเป็นเด็กเล็กหน่อยจะวิ่ง 1 รอบ ถ้าเด็กหกล้มระหว่างทาง ครูจะให้เด็กลุกขึ้นเอง วิ่งร้องไห้กลับมาก็มี นี่คือการฝึกของโรงเรียนนี้ เด็กๆ วิ่ง 2 รอบ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

เมื่อวิ่งแล้วก็มาเข้าแถวออกกำลังกาย และถอดเสื้อ ซึ่งอุณหภูมิขณะนั้น 5 องศาเท่านั้น เด็กเกิดอาการตัวสั่น ขาสั่น ฝึกความเข้มแข็งของเด็กๆ ซึ่งบางคนร้องไห้ก็ต้องอดทน

เมื่อถึงเวลาเข้าห้องเรียน เช่นเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ จะฝึกให้เด็กพูด ด้วยการพูดไปเรื่อยๆ ให้เด็กฟัง เด็กอาจยังฟังอะไรไม่รู้เรื่อง แต่ด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกันทำให้เด็กให้ความสนใจ และคุณครูที่อยู่ใกล้ๆ ก็จะพยายามทำให้นั่งหลังตรง

สำหรับห้องเด็ก 2 ขวบ จะมีการนั่งสมาธิก่อนเรียน เด็กๆ เหล่านี้สามารถพูดได้แล้ว และมีการสอนให้นั่งตัวตรง และสิ่งที่สอนอาจไม่เกี่ยวกับเด็ก แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เด็กสนใจในการเรียน รวมถึงการรู้จักเก็บเก้าอี้ด้วยตัวเอง

ห้องเด็ก 2 – 3 ขวบ จะแตกต่างกันเล็กน้อย คือเริ่มด้วยการฝึกสมาธิ ฝึกให้แสดงความคิดเห็นด้วยการยกมือ และพูดด้วยความเข้มแข็ง

ห้องเด็ก 3 – 4 ขวบ เริ่มด้วยการฝึกสมาธิ และมีความซับซ้อน คือฝึกท่องและจดจำเนื้อหา เด็กๆ อ่านหนังสือกันได้แล้ว ทั้งๆ ที่ยังไม่ขึ้นชั้น ป.1 โดยปกติเด็ก 3 ขวบไม่สามารถอ่านได้ แต่ด้วยความที่คุณครูอ่านให้ฟังทุกวัน ทำให้พวกเขาจดจำได้ ให้เด็กจำจนขึ้นใจ ฝังลงไปในจิตสำนึก ฝึกมารยาท และระเบียบวินัยไปจนโต

ห้องเด็กโต มีการสอนอ่านเขียน แต่วันนี้เป็นการฝึกสอนด้านร่างกายของเด็กๆ ฝึกความแข็งแรง ซึ่งจะสังเกตได้จากเด็กๆ ป่วยเป็นหวัดน้อยมาก ทั้งๆ ที่ต้องถอดเสื้อ อยู่ในอุณหภูมิ 5 องศา

เมื่อถึงเวลากลางวันเด็ก 3 ขวบขึ้นไป ต้องเปลี่ยนเวรกันทำหน้าที่เช็ดโต๊ะ จัดโต๊ะ บริการเพื่อนในห้อง ฝึกการเป็นผู้รับ และผู้ให้ สอนให้เด็กรู้จักการรับประทานให้หมด เพื่อโภชนาการที่ดี หลังจากนั้นก็มีการเก็บจาน รู้จักหน้าที่ และทำความสะอาดห้องเรียบร้อย ทางโรงเรียนสอนว่าการช่วยเหลือคนอื่นคือฮีโร่

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เด็กเล็กจะนอนกลางวัน เด็กโตก็มีการเรียนการสอนตามปกติ ระบบที่โรงเรียนนี้ใช้เป็นหลักคือ มารยาท ความรู้ และแข็งแรง หลายคนอาจคิดว่าเป็นการดูแลที่โหดร้ายเกินไป แต่การที่ไม่ช่วยจะทำให้ให้เด็กเป็นผู้ใหญ่ได้มากกว่า ทำให้เด็กแข็งแกร่ง และเติบโตมาเป็นคนที่มีคุณภาพ

พ่อแม่อาจคิดเผื่อเด็กเกินไป ปล่อยให้เขาล้ม และลุกขึ้นมาเองนั่นคือ ความรักที่แท้จริง คุณพ่อ คุณแม่สามารถสอนลูกได้หลายวิธี และต้องมีแนวทางเดียวกันเพื่อไม่ให้ลูกสับสน เด็กๆ ที่มาเรียนที่นี่ ลูกๆ บางคนยังร้องจะมาโรงเรียน ตอนกลับบ้านก็พูดลาคุณครูด้วยเสียงดังฟังชัดเช่นกัน

ชมคลิป ดูให้รู้ : คุณครูฮาร์ดคอร์ ได้ที่นี่

อ่านต่อ ฝึกลูกอนุบาลให้เป็นอัจฉริยะ คลิกหน้า 3

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up