ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด

พบ! 10 ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด

event
ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด
ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด

สารเคมีตกค้างในผัก ส่งผลต่อสติปัญญาของลูกน้อยอย่างไร

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่า สารเคมีที่ตกค้างในอาหารหลายตัวนั้น มีความสัมพันธ์กับพัฒนาการทางสมองของเด็ก เช่นสารเคมีที่ชื่อ ‘คลอร์ไพริฟอส’ (Chlorpyrifos) ซึ่งมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียชี้ให้เห็นว่า… สารดังกล่าวมีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก นำไปสู่การมีระดับสติปัญญาที่ต่ำจากการที่สารเข้าไปสะสมในร่างกาย ส่งผลต่อโครงสร้างสมอง

จากการสำรวจของ ‘เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช’ (Thailand Pesticide Alert Network หรือ Thai-PAN) ในปี 2559 ชี้ว่าคลอร์ไพริฟอส เป็นสารที่พบตกค้างในผักและผลไม้มากที่สุดอันดับ 2 ในไทย ทำให้หลายคนมองว่าปัญหาสารเคมีตกค้างในอาหารนั้นมีความเกี่ยวโยงกับปัญหาสติปัญญาของเด็ก

 

คลอร์ไพริฟอส (chlorpyrifos) : เป็นวัตถุมีพิษทางการเกษตร (pesticides) เป็นสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช ในกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต (organophosphate compound) รูปแบบส่วนใหญ่ของสารในกลุ่มนี้ เป็นสารอินทรีย์ที่มีฟอสฟอรัสเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ โคลีนเอสเทอเรสแบบถาวร เป็นพิษตกค้างของคลอร์ไพริฟอส

 

โดยนายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (BIOTHAI) เห็นว่าภาครัฐมองเรื่องปัญหาทางสถิติสติปัญญาเด็ก เน้นไปที่เพียง 3 ประเด็นคือ โภชนาการ พฤติกรรม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งในความเป็นจริงนั้นมีปัจจัยอื่นอีกหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย

ซึ่งนายวิฑูรย์ ยังได้กล่าวอีกว่า…มีสารตัวอื่น ๆ อีกที่ส่งผลต่อสมองของเด็ก อย่างที่เป็นประเด็นกันอยู่ คือ “พาราควอต” สารตัวนี้สามารถเข้าไปสู่สมองได้แล้วทำลายระบบประสาทได้ งานวิจัยจากหลาย ๆ แหล่งก็พบ เป็นเรื่องน่ากังวล เพราะพบว่าสารเหล่านี้ตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมทั้งอาหารและผักผลไม้

อีกทั้งในต่างประเทศได้ตั้งข้อสงสัยที่เชื่อมโยงกันระหว่างสารเคมีในอาหารกับโรคที่เกี่ยวกับพัฒนาการในเด็ก มีปัจจัยเรื่องสารเคมีแน่ ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ในหลายประเทศเช่นสหรัฐฯ ก็มีการพบข้อสงสัยเช่นกันว่า… สารเคมีที่พบตกค้างในอาหารบางตัว เกี่ยวข้องกับ โรคออทิสติก ในเด็ก

ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงจาก ผักที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด เมื่อคุณแม่ซื้อมากจากตลาดสดทุกครั้งก็อย่าลืมล้างทำความสะอาดตามวิธีที่กล่าวมาข้างต้นด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย

อ่านต่อบทความน่าสนใจ คลิก :


ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.anamai.moph.go.th

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

 

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up