วิธีคุมกำเนิด

วิธีคุมกำเนิด แบบไหนมีสิทธิภาพและปลอดภัย ถ้าแม่ยังไม่พร้อมมีลูกคนที่ 2

Alternative Textaccount_circle
event
วิธีคุมกำเนิด
วิธีคุมกำเนิด

วิธีคุมกำเนิด แบบไหนมีสิทธิภาพ และปลอดภัย

นอกจากคุณแม่หลังคลอดจะถามว่า จะคุมกำเนิดยังไงดี ก็ยังถามมาอีกว่า วิธีการคุ้มกำเนิดมีหลายแบบ ไม่รู้จะเลือกวิธีไหนดี กลัวเจ็บบ้าง ไม่อยากกินยาคุมกำเนิดบ้าง และอีกหลายความกังวลของการคุมกำเนิด เอาเป็นว่าเพื่อให้คุณแม่ และผู้หญิงทุกคนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องของวิธีคุมกำเนิด ผู้เขียนมีข้อมูลของการคุมกำเนิดจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา[2] ที่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคไว้อย่างชัดเจน ดังนี้ค่ะ

สำหรับรูปแบบการคุมกำเนิดนั้นจะมีหลายวิธี ที่สามารถคุมกำเนิดด้วยตัวเอง กับการคุมกำเนิดที่ต้องมีสูติแพทย์เป็นผู้ดูแลวิธีการคุมกำเนิดให้ค่ะ

4 วิธีการคุมกำเนิดที่สามารถทำได้เอง

การทานยาเม็ดคุมกำเนิด    

เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนใช้วิธีการทานยาคุมกำเนิดกันมาก อาจเป็นเพราะง่าย และสะดวกที่สามารถหาซื้อยาเม็ดคุมกำเนิดได้   ตามร้านขายยาทั่วไป ซึ่งจะมีเภสัชกรค่อยให้คำแนะนำในการใช้ยา การทานยาคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพในการป้องกันที่สูง   มาก เพราะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 1-9 % เท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าการกินยาคุมจะได้ผลดี แต่ก็แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ เภสัช   กรผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งศึกษาหาข้อมูลให้มากพอจนแน่ใจก่อนใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดกันด้วยนะคะ

ถุงยางอนามัย  

จะเห็นตามสื่อโฆษณาต่างๆ ที่มีการรณรงค์ให้ใช้ถุงยางอนามัยก่อนมีเพศสัมพันธ์ จุดประสงค์แรกคือ เพื่อลดความเสี่ยงของ การติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์  และสองเพื่อเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยจะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง  2-18 %  และไม่มีผลข้างเคียงหลังการใช้ด้วยค่ะ

 ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน

หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมีปริมาณตัวยาที่สูงกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดแบบปกติ จึงไม่ค่อยแนะนำให้นำมาใช้กันบ่อยๆ เนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้

Good to know… รับประทานยาคุมฉุกเฉินอย่างไร?

ผลิตภัณฑ์ยาคุมฉุกเฉินที่จำหน่ายในประเทศไทย จำหน่ายเป็นกล่อง มียากล่องละ 1 แผง และแต่ละแผงมียาคุมฉุกเฉิน 2 เม็ด แต่ละเม็ดประกอบด้วยตัวยาที่เป็นฮอร์โมนขนาดสูง คือ ลีโวนอร์เจสเตรล (levonorgestrel) เม็ดละ 750 ไมโครกรัม การรับประทานยาที่ถูกต้องคือ รับประทานยาเม็ดแรกให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน โดยไม่ควรเกิน 72  ชั่วโมง และจะต้องรับประทานยาเม็ดที่สองหลังจากรับประทานยาเม็ดแรกไม่เกิน 12 ชั่วโมง หากมีการอาเจียนภายใน  2  ชั่วโมงหลังรับประทานยาแต่ละเม็ด  ต้องรับประทานยาใหม่  และไม่แนะนำให้รับประทานยาเกิน  4  เม็ด หรือ 2กล่อง ต่อเดือน

การรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าวตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการ ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาภายใน 24ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการ ตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด[1]

แผ่นแปะคุมกำเนิด และวงแหวนคุมกำเนิด  

วิธีเหล่านี้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 1-9 %  แต่ต้องเปลี่ยนแผ่นแปะคุมกำเนิด และวงแหวนคุมกำเนิดตามระยะเวลาหรือประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด ดังนั้น ก่อนใช้ควรปรึกษาแพทย์และศึกษาข้อมูลให้ละเอียด[2]

อ่านต่อ รูปแบบวิธีการคุมกำเนิด ที่ต้องให้คุณหมอช่วย คลิกหน้า 3

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up